ฝากเนื้อฝากตัวค่ะและขอน้อมรับคำวิจารณ์จากทุกคนนะคะ
***********
ในห้องสีครีมอันเงียบสงัด มีโต๊ะตัวเขื่องตั้งเด่นอยู่กลางห้อง บนนั้นมีพิมพ์ดีดขนาดย่อมวางอยู่เคียงข้างด้วยปากกาหมึกซึมที่เสียบอยู่ในกระป๋อง มันดูเก่าคร่ำคร่าบ่งบอกถึงอายุการใช้งานที่นานปี มีเพียงเวลาที่กระชากความสดใหม่ออกไปแต่สภาพทั่วไปถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
นานมาแล้วทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิไหนที่เจ้านายไปจะต้องมีมันทั้งคู่ติดตัวไปตลอด เจ้าปากกาโชคดีหน่อยเพราะมันสามารถอยู่ได้ติดตัวเจ้านายลุยไหนลุยนั่น บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ลงในสมุดตามแต่ใจเจ้านายจะพามันไปแล้วแต่เหตุการณ์สำคัญมากน้อยคละเคล้ากันในแต่ละวัน พอตกเย็นเป็นเวลาที่เจ้าพิมพ์ดีดรอคอยการกลับมาของนายกับเจ้าปากกา มีการทักทายโอภาปราศรัยแค่พอเป็นพิธี ใจจริงเจ้าพิมพ์ดีดนั้นอดจะหมั่นไส้เจ้าปากกาไม่ได้ เพราะดูเหมือนมันเป็นคนโปรดของเจ้านาย แต่ตัวมันเองก็ยังผยองอยู่ในใจที่ไม่ว่าเจ้านายจะจดอะไรมามากแค่ไหน มันก็จะได้รับหน้าที่เป็นตัวทำต้นฉบับส่งทุกครั้งไป เมื่อกลับมานายจะใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อประมวลเรื่องราวอยู่กับเจ้าพิมพ์ดีด บางครั้งอาจถึงเช้า
ฝ่ายเจ้าปากกาเองก็แอบอิจฉาอยู่ไม่น้อยที่เห็นเจ้านายขลุกอยู่กับเจ้าพิมพ์ดีดเป็นนานสองนาน โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ มันถูกลดบทบาทลงเมื่อมีเครื่องบันทึกเสียงเข้ามาแทรกแซงทำให้งานของมันน้อยลง บ่อยครั้งที่มันถูกทิ้งไว้ในกระป๋องข้าง ๆ พิมพ์ดีดในเวลาที่นายออกไปหาข่าวกับเครื่องบันทึกเสียง มันจึงมีโอกาสปรับทุกข์กับเจ้าพิมพ์ดีด เพิ่มความสนิทสนมให้กันและกันมากยิ่งขึ้น
เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยน สองสหายได้เห็นเพื่อนหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ต่อจากเครื่องบันทึกเสียง ปากกาหน้าตาประหลาดก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นด้วยความสะดวกใช้เพราะหมึกแห้งในตัวและราคาที่แสนถูก ส่วนเจ้าพิมพ์ดีดก็ยังรักษาความสำคัญไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ไม่นานนักเมื่อนายของมันทั้งสองเข้าสู่วัยเกษียณลูกของนายก็หันไปใช้พิมพ์ดีดไฟฟ้าแทนทำให้มันถูกผลักไสไปอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ นาน ๆ ครั้งจึงจะถูกใช้งาน
มันทั้งสองยังคงรำลึกถึงความหลัง ต่างฝ่ายต่างเห็นอกเห็นใจกัน ความสนิทสนมเพิ่มพูนขึ้นมากมายจนกลายเป็นเพื่อนรักกันในที่สุด แต่พวกมันก็ไม่ได้ถูกทอดทิ้งเลยทีเดียวเพราะทุกอาทิตย์ นายแสนรักของพวกมันจะมาทำความสะอาดเครื่องเคราดูแลสภาพให้ใช้งานได้เสมอเป็นที่ชุ่มชื่นหัวใจของสองสหายยิ่งนัก เจ้าปากกาไม่ค่อยเท่าไหร่แต่เจ้าพิมพ์ดีดนั้น ชิ้นส่วนของมันหลายชิ้นเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ไม่เป็นไร ยังใช้ได้อยู่ นั่นเป็นประโยคที่นายพูดเหมือนปลอบโยนหัวใจที่อ่อนล้า แต่แล้วสิ่งที่พวกมันไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็บังเกิดขึ้นเมื่อนายแสนรักได้จากโลกนี้ไปตามอายุขัยทิ้งไว้เพียงพินัยกรรมฉบับหนึ่งที่กำหนดชะตาชีวิตของสองเกลอ
ในนั้นระบุไว้ว่าให้นำทั้งสองสหายไปมอบให้กับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของใช้โบราณ ด้วยเหตุที่ว่าถ้าเก็บไว้บ้านก็มีแต่จะผุพังไป นำไปรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ศึกษาจะดีกว่า
และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่สองสหายจะต้องเดินทางไกลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของมันทั้งสอง เป็นการเดินทางไปสู่ที่ใหม่ที่มันจะได้รับหน้าที่ใหม่ เป็นเครื่องบันทึกอดีตกาลให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมความเป็นมาในอดีต มีการล่ำลากันยกใหญ่และท้ายสุดทั้งสองส่งใจถึงนายที่ล่วงลับไป มองห้อง ๆ นี้เป็นครั้งสุดท้าย ภาพในอดีตยังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำของทั้งคู่ ไม่มีอีกแล้วนาย ไม่มีอีกแล้ว.....
*********************
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 00:55:17
จากคุณ :
ยู่ อยากลี้
- [
24 พ.ย. 48 12:51:11
]