CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ..........ที่มีวันนี้ เพราะมีเธอ..........

    ที่มีวันนี้ เพราะมีเธอ
    โดย “สายลมอิสระ”

    แดดยามเช้ากระทบผิวน้ำสีครามเป็นประกายระยิบระยับทั่วท้องทะเล แต่ภาพเบื้องหน้าก็ยังสวยน้อยกว่าที่หน้าบ้าน ณ   นอกหน้าต่างบานที่ ‘ลม’ ชายหนุ่มเจ้าของบ้านหลังเล็กอยู่ริมทะเลแห่งนี้ เด็กสาวผมยาวถึงกลางแผ่นหลัง ใส่เสื้อลูกไม้สีขาวแขนกุดอวดเรียวแขนสวยดูรับกับผ้าโสร่งบาติกเขียนลายเกี่ยวกับทะเลและสีของทะเลยามเช้า เธอกำลังเด็ดดอกไม้รั้วเตี้ย ๆ อยู่ที่หน้าบ้านอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ครั้งแรกที่ลมได้เจอกับเด็กสาวคนนี้ สิ่งเดียวที่เขาอ้อนวอนเธออยู่ในใจว่าโปรดอย่ายิ้มเมื่อเจอตัวเขา

    เพราะรอยยิ้มทำให้หัวใจอ่อนไหวของเขาเอนลู่และนอบน้อมยอมสยบต่อเธอคนนี้  ลมนึกขันตนเองที่หลงรักเด็กสาวคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยแสดงอาการทางสายตาต่อหน้าเธอ ต่อเมื่อเธอเดินหันหลังให้เขาไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ลมมารับรู้ทีหลังว่าเขาคนนั้นเป็น “คนรัก” ของเธอ ลมก็ไม่เคยตัดเอาเธอออกจากหัวใจ แต่กลับเอาทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเธอเข้ามาอยู่ในห้วงแห่งความคิดคะนึงและความฝันของเขา เขาพยายามรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของเธออย่างห่วงใย จนวันหนึ่งเพื่อนที่มหาวิทยาลัยก็ได้แนะนำให้เขาได้รู้จักกับเธอ

    “ชื่อหลินค่ะ เรียนอักษร ปีหนึ่งค่ะ” เธอแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงสดใส และแววตาใสซื่อ ที่ลมสาบานได้ว่าจะไม่มีวันลืม
    “พี่เปลบอกว่าพี่ลมวาดรูปเก่ง โดยเฉพาะแนว...แนว เอ...เรียกว่า...แนวอะไรนะ”
    “อิมเพรสชั่นนิสม์” ลมตอบแทน เด็กสาวยิ้มเขินเมื่อรู้ตัวว่าคนที่กำลังสนทนานั้นรู้ว่าตนเองเอ่ยไม่ถูก

    หลังจากวันนั้น หลินเด็กสาวแสนซื่อที่ลมเก็บเธอไว้ในใจ ก็ได้พกพารอยยิ้มให้ลมได้วูบไหวเล่นอยู่เสมอ เนื่องจากเปลญาติสนิทของเธอเป็นคนแนะนำให้เขาได้รู้จัก บ่อยครั้งที่ลมแวะเวียนไปคลุกอยู่ที่บ้านของเปล พูดคุยเรื่องงานจิตกรรมที่ตนกำลังร่ำเรียนอยู่ปีสามในขณะนั้น และเด็กสาวที่กำหัวใจของลมก็แวะมาเที่ยวหาเปลอยู่บ่อยครั้ง

    อาจะเป็นเพราะบ้านอยู่ติดกันหรือไม่ก็เพราะเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านที่ตระกูลใหญ่โต และก็ไม่แปลกเลยที่ลมจะเห็นคนรักของเธอเที่ยวมาคอยวนเวียนอยู่ไม่ห่าง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนตนเองให้เธอชอบหรือให้คล้ายกับคนรักของเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตามไม่เคยมีผู้หญิงคนใดทำให้หัวใจของลมต้องเปลี่ยนไป

    สายลมและกาลเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง เวลานี้ลมก็เรียนจบมาได้เกือบปีแล้ว เขาได้งานในสาขาที่เรียนมาถึงระนอง แต่เขาก็ยังติดตามข่าวคราวของเธออยู่เสมอ และเขาก็ได้รับรู้มาว่าหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอกำลังจะแตกสลายไปกับเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับเด็กสาวคนนี้...

    เปลโทรศัพท์มาคุยกับเขาในเย็นวันหนึ่งพร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวของหลินกับชายคนรักว่ากำลังย่ำแย่ลง และในนาทีนั้นเขาก็ตัดสินใจไปกรุงเทพฯ โดยหาขออ้างบอกกับเปลว่าต้องไปติดต่อเรื่องงานและขอค้างที่บ้านของเปล ซึ่งเปลก็ไม่เคยขัดเรื่องที่พักสำหรับลม
    เด็กสาวที่เคยสดใสแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนลมแทบจะจำไม่ว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับเด็กสาวที่เขาเคยหลงรัก

    “ไม่เจอพี่ลมตั้งนานผมยาวขึ้นมากเลยนะค่ะ” หลินเอ่ยทัก แม้ว่าเธอจะมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นบ้าง ทว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่หม่นเศร้า ลมพยักหน้าพลางยิ้มรับ เขายังมีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอเสมอ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเขาแอบซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในใจ

    “พี่เปล...พี่เปล เปิดประตูให้หลินด้วย”
    ลมได้ยินเสียงอันคุ้นหูดังขึ้นที่หน้าบ้าน ซึ่งในเวลานั้นคนที่เธอเรียกไม่อยู่ ลมจึงเดินไปเปิดประตูให้เธอ ทว่าเมื่อประตูไม้บานสวยเปิดออก ร่างเล็ก ๆ ก็โผเข้าสวมกอดกับอกอุ่นของเขาทันที  จนร่างของลมเซถอยหลังเล็กน้อย แต่มืออันแข็งแรงของเขาก็จับที่ขอบประตูไว้ได้อย่างมั่นคง

    เสียงสะอื้นไห้จากเด็กสาวทำให้ลมตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะปล่อยมือที่ยึดจับขอบประตู แล้วโอบร่างที่สั่นราวลูกนกหลงทางอย่างช้า ๆ ดั่งจะปลอบโยน ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของชายหนุ่ม คงมีแต่เพียงเสียงร้องละล่ำละลักบอกเล่าเรื่องราวที่แสนจะเจ็บปวดดังออกมาจากเด็กสาวเท่านั้น โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่กำลังฟังอยู่ไม่ใช่คนที่เธอเรียกหา แต่ในเวลานั้นเด็กสาวเองก็ไม่แน่ใจว่า เธอต้องการคนที่เรียกหาในครั้งแรกหรือเพียงแต่ต้องการใครสักคนที่รับฟังเรื่องราวของเธอ

    เปลกลับมาในรุ่งเช้าเห็นร่างเล็ก ๆ ของน้องสาวนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาในสตูดิโอของตน ในขณะที่ลมเดินออกมาจากในครัวพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน ๆ อีกหนึ่งใบ ลมเข้าใจในสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามของเพื่อนสนิท และโดยเฉพาะกับท่าทางที่เหมือนจะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวว่าคนนอนจะตื่น

    “ไม่น่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหลินเลย” เปลเอ่ยขึ้นเมื่อฟังเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากปากของเพื่อน
    “ก็ไม่แปลสำหรับสังคมปัจจุบัน เมื่อมีแล้วในระดับหนึ่งก็ต้องการมีมากขึ้นในระดับหนึ่ง เขาเรียกว่าคนไม่รู้จักพอไง” ลมออกความเห็น ก่อนจะเสยเส้นผมที่ยาวลงมาปรกหน้าพลางหันไปมองทางประตูที่เห็นเด็กสาวนอนหลับใหลอยู่กับกลิ่นสีภายในห้องนั้น

    “นั้นสิ คุณพ่อคุณแม่ของหลินเมื่อก่อนก็เคยเห็นรักกันดี เวลานี้กลับมาทะเลาะกันเรื่องยกลูกสาวให้คนโน้นเลี้ยงคนนี้เลี้ยง ทั้ง ๆ ที่เหลือเวลาอีกปีกว่าที่หลินจะเรียนจน ทางพ่อก็อยากให้หมั่นกับพันโทอะไรนั้นก็ไม่รู้ ทางแม่ก็อยากจะให้แต่งงานกับลูกคุณนายค้าเพชรค้าพลอย แล้วคนรักของหลินก็ดันไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านเข้ามา คนที่น่าสงสารเลยตกเป็นหลินคนเดียว”

    เปลเอ่ยขึ้นพลางเบนสายตากลับมามองที่แก้วกาแฟตรงหน้าคล้ายมองเห็นใบหน้าสดใสของญาติผู้น้องอยู่บนผิวน้ำในแก้วกาแฟของตน ลมถอนหายใจเบา ๆ  เขาคิดว่าตนเองเสมือนเป็นคนนอกของเรื่องราวเล่านี้ ทว่าในใจของลมแล้ว มันเป็นดั่งลมหายใจของเขาเลยทีเดียว

    “สวัสดีค่ะพี่ลม” เสียงใส ๆ ของหลินทักลมในเย็นวันหนึ่งที่ลมกำลังนั่งหน้าเครียด อ่านหนังสือเล่มหนาในมือ ลมหันกลับไปมองทางต้นเสียงเห็นเธออยู่ในชุดนักศึกษา เขาจึงรู้ว่าเธอยังไม่เข้าบ้าน
    “มาหาเปลหรือ...เขาไม่อยู่ออกไปข้างนอกเดี๋ยวก็คงมาแล้วหละ” ลมเอ่ยแล้ววางหนังสือตรงหน้า
    เด็กสาวยิ้มให้ก่อนที่จะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามชายหนุ่ม เธอชะเง้อมองปกหนังสือเล่มที่ลมเพิ่มวางอย่างสนใจ
    “พี่ลมอ่านประวัติของอองซานซูจิด้วยหรือค่ะ”  เด็กสาวถามด้วยสีหน้าไม่เชื่อจนอีกฝ่ายถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
    “พี่อ่านเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรือ”
    “เปล่าค่ะ” เด็กสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นการใหญ่ “คือหลินคิดว่าติสเนี่ยเขาคงไม่สนใจเรื่องกฏเกณฑ์อะไรพวกนี้เสียอีก”
    “พี่ชอบเพราะมีการเรียกร้องเสรีภาพประชาธิปไตย”
    “เสรีภาพเหรอ” น้ำเสียงของหลินเปลี่ยนไปจนลมรู้สึกถึงความหม่นเศร้า
    เด็กสาวถอนหายใจเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นยืน
    “รบกวนพี่อ่านหนังสือ หลินกลับบ้านก่อนนะค่ะ” ลมลุกขึ้นเดินตาหลินไปส่งที่หน้าบ้าน
    “หลิน…” ลมเรียกชื่อเด็กสาวเบา ๆ
    ผู้ถูกเรียกหันกลับตามเสียงเรียก “อะไรค่ะ”
    “เอ้อ...ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้พี่ช่วยก็บอกนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวพลางยิ้มให้
    “เจ้าค่ะ” หลินกล่าวตอบแบบล้ออีกฝ่าย จนลมเผลอยื่นมือไปขยุ้มเส้นผมของเธอที่ตนเองอยากจะสัมผัสมานานเล่นอย่างลืมตัว หลินบัดมือออกแต่ก็เหมือนหยอกเย้าเสียมากกว่า
    “ไม่เอาแล้ว...พี่ลมทำผมหลินยุ่งหมดแล้ว หลินเข้าบ้านดีกว่า”

    สิ้นเสียงของเด็กสาวร่างบอบบางก็รีบวิ่งเข้าบ้านไป แต่ก่อนหันหลังเข้าบ้านยังหันหน้ากลับมายิ้มทะเล้นให้ชายหนุ่ม ลมเกือบลืมภาพของหลินที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่เมื่อสายตามองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งในรถเก๋งสีขาวหรูกับสายตาไม่พอใจ เรื่องราวที่ผ่านไปเมื่อครู่ระหว่างเขากับหลิน ก็ช่างดูคล้ายกับความฝันทีเขาบังเอิญหลับตาฝันไป เป็นฝันที่สวยงามแม้ว่ามันจะผ่านไปไม่กี่นาที ทว่ามันกลับมีค่ายิ่งนักสำหรับผู้ชายชื่อลม และบางทีเขารู้สึกว่าถึงเวลาที่ควรห่างหลินได้แล้ว


    อ่านต่อ...

    จากคุณ : สายลมอิสระ - [ 3 ธ.ค. 48 18:24:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป