CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


              พหุจุฬา          

    หนึ่ง…สอง…สาม…สี่…ห้า…หก…แปด…หนึ่ง…สอง…สาม…สี่…ห้า…เก้า…หนึ่ง…สอง….สี่…หนึ่ง…สอง…


    เธอนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วไม่มีใครรู้ได้ แสงอาทิตย์ยามเช้าทอประกายอยู่ที่ขอบฟ้า เรืองรองสว่างไสว ปลุกให้ผู้คนตื่นมารับอากาศสดชื่น ไม่ช้าจิตใจจะแจ่มใส เมื่อเราตื่นขึ้นมาครั้งแรกอาจจะมีอาการสะลึมสะลือบ้าง ทุกคนก็เป็นเช่นนั้น เพียงน้ำเย็นสัมผัสร่างก็จะสะบัดความง่วงหาวทิ้งไปสิ้น


    แต่สำหรับเธอ ชีวิตที่อยู่กับความพร่าเลือน เหมือนหมอกหนาที่ไม่มีวันจาง ครอบครองเต็มพื้นที่ของห้วงความคิด ยิ่งพยายามก็ยิ่งถลำเข้าสู่ม่านหมอก มืดหม่น ไร้หนทาง เดียวดาย ไร้คนเข้าใจ แต่เธอไม่เคยย่อท้อ ทุกวันทุกเวลา เธอจะนับ นับตัวเลข เรียงกันไปเรื่อยๆ เมื่อผิด ก็จะเริ่มนับใหม่ เด็กสาวผู้หลงเดินสะเปะสะปะ เธอหลีกหนีมันไม่ได้ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ อะไรกันเล่า ที่ทำให้เธอไม่ละความพยายามนี้


    หนึ่ง…สอง…สาม…สี่…ห้า…เก้า…หนึ่ง…สอง….สี่…หนึ่ง…สอง


    เขายืนเฝ้ามองเธออยู่นานแล้ว เด็กสาวผมยาวสลวย หน้าตาหมดจด รูปร่างสมส่วนตามวัยสิบสี่ปี อีกเพียงไม่นานเธอจะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ


    แล้วนี่มันเป็นเคราะห์กรรมอันใด เขามองดูเธอด้วยความรู้สึกสับสนปนเป ใจหนึ่งก็นึกสงสาร อีกใจหนึ่งก็นึกกลัว จากจุดที่เขายืนอยู่กับตรงระเบียงของห้องพักที่เธอนั่งห่างกันเพียงไม่กี่ก้าวกลับเป็นเพียงภาพลวงตา สำหรับเด็กสาวแล้ว เขาเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในโลกของเธอ ร่างที่นั่งงองุ้มชันเขาโยกตัวไปมา ไม่สนใจสิ่งอื่นใดรอบข้าง เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นในโลกนี้ที่เธอสนใจ “ตัวเลข”


    ตั้งแต่เขาเจอกับเธอครั้งแรก เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา หากเป็นคนผิดธรรมดา พิการทางสมอง นั่นเป็นคำเรียกที่ฟังดูบาดหู หรือจะกล่าวให้สุภาพขึ้น บกพร่องทางสติปัญญา ร่างกายของเด็กสาวอายุสิบสี่ แต่สมองเท่ากับเด็กห้าขวบ


    สำหรับเด็กสาวแล้วสิ่งเดียวที่พอจะเติมเต็มความเป็นมนุษย์เช่นคนทั่วไปได้ คงมีเพียงความรักเท่านั้น


    ความกลัวฝังลึกอยู่ในใจของเขา บางทีอาจจะเป็นเพราะเขายังหนุ่มแน่นอายุเพียงยี่สิบหกปี ชีวิตมุ่งมั่นกับงานที่ได้รับหมอบหมาย ทำอย่างเต็มที่สุดกำลัง โดดเดียวกลางผู้คน เปลี่ยวเหงาไร้ผูกพันธ์ และกลายเป็นน้ำที่พร่องแก้วโดยไม่รู้ตัว

    แรกเดิมทีนั้นเพียงเป็นแค่คนอาศัยที่อยู่ใกล้กัน เพียงไม่นานก็ก่อเกิดความรักขึ้น หล่อนเป็นสาวทรงเสน่ห์ ดูลึกลับและวาบหวาม เปรียบดั่งคนกระหายน้ำ เขาเปลี่ยวเหงา หล่อนอ้างว้าง ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัว เพียงแต่หล่อนพวงพันธะมาด้วยเท่านั้น


         “วารี ไปทานข้าวกันเถอะ” เขาเอ่ยบอกเด็กสาวซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเขา และออกแรงดึงให้เธอลุกขึ้น จูงมือเดินเข้าบ้านเพื่อรับประทานอาหารเช้า เด็กสาวก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ขณะที่เดินอยู่ก็ยังไม่วายก้มหน้านับเลขไปเรื่อยๆ

    ++++++++++++++++++++

    อาหารเช้าง่ายๆ ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะ จานข้าวสามใบและช้อนส้อมสามคู่ เสียงเดินและเสียงร้องนับเลขดังแว่วมาจากหน้าบ้าน ดวงตาของหล่อนกลับไร้ความรู้สึก สำหรับชายหนุ่ม เขาเป็นเพียงส่วนเติมเต็มบางประการเท่านั้น ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันรอยยิ้ม และสีหน้า ล้วนถูกปรุงแต่งขึ้นมา ความจริงกลับถูกซ่อนไว้เบื้องหลัง ความจริงที่ต้องปกปิด


    และสำหรับเธอ เด็กสาวที่ถูกพรากมา มีหลายครั้งที่หล่อนทั้งกลัวทั้งสับสน ไม่กล้าแม้แต่จะมองสบตาคู่นั้น หล่อนรู้ว่าเด็กสาวรู้ แต่นั่นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร หล่อนกักขังเธอเอาไว้ด้วยปราการอันแน่นหนา ไร้ทางออก จมในห้วงเหวลึก นั่นมันก็เพื่อตัวของเธอเอง หล่อนหวังว่าเธอจะเข้าใจ หรืออย่างน้อยก็ควรมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับหล่อนบ้าง


         “นักคณิตศาสตร์มาแล้ว” เสียงร้องสดใสดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มพาเด็กสาวเดินเข้ามาในห้องอาหาร


    ครู่หนึ่งคนทั้งสามก็นั่งลงทานข้าว หากมีหมอผู้เชี่ยวชาญการดูแลเด็กพิเศษ มาเห็นสภาพนี้คงต้องร้องอุทานออกมา เพราะด้วยสภาพอาการของเด็กสาวแล้ว เธอไม่ควรจะถือช้อนส้อมของมีคมทุกชนิด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้


         “แพรว เย็นนี้ผมกลับดึกหน่อยนะ ที่ทำงานมีประชุมประจำเดือน” ชายหนุ่มบอกภรรยา ขณะที่เหลียวมองเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง เธอนั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ เหมือนเช่นคนปกติทั่วไป แต่นั่นเขาก็รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาที่ไม่ใช่ความจริง


         “ค่ะ” หล่อนตอบรับยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน นั่นเพราะรู้ว่าเขาไม่ได้โกหก เพียงน้ำเสียงและแววตาที่ผิดปกติไปหล่อนก็จับสังเกตได้


         “คุณจะเอาอะไรบ้างหรือเปล่า ตอนขากลับ ผมจะได้แวะซื้อมาให้” เขาถามแสดงน้ำใจเอื้ออาทร และหล่อนก็หวังจะให้เขาเป็นเช่นนี้ตลอดไป แม้ว่าหล่อนจะไม่อยู่แล้ว อีกไม่ช้าเวลานั้นก็ต้องมาถึง ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

    +++++++++++++++++++++++++++++

    ชายหนุ่มเดินออกไปรถประจำทาง หล่อนลอบมองเขาผ่านบานเกร็ดจนเห็นเขาลับสายตาไป เมื่อเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร เด็กสาวทานข้าวเสร็จแล้ว และก็ยังคงทำกิจวัตรประจำวันตามเดิม เธอนั่งนับเลขไปเรื่อยๆ เมื่อผิดก็เริ่มนับใหม่


    ครั้งหนึ่งชายหนุ่มคู่ชีวิตของหล่อนมีเวลาว่างมากพอที่จะสอนเด็กสาวนับเลข โชคดีที่หล่อนมาพบเสียก่อน เด็กสาวนับเลขเรียงกันถึงสี่สิบกว่าๆ หล่อนร้องเอ็ดตะโรโวยวายขึ้น เขาจึงหยุดสอนเธอ และอ้างเหตุผลที่ว่าไม่ควรสอนเด็กสาวนับเลข เพราะจะทำให้สมองสับสนเกินไป สำหรับเด็กสาวแล้ว การนับเลขเรียงลำดับใกล้ถึงเลขสิบก็น่าตกตะลึงพอแล้ว


         “วารี หยุดนับเถอะ มันไม่มีประโยชน์” หล่อนเอ่ยบอกเธอ ขณะที่ลงมือเก็บจานอาหารบนโต๊ะ เมื่อหล่อนกลับมาจากในครัวเด็กสาวก็ยังนั่งนับเลขอยู่บนโต๊ะอาหาร


         “หยุดได้แล้ว!” คราวนี้หล่อนขึ้นเสียง เด็กสาวไม่มีทีท่าจะสนใจ เสียงนับตัวเลขยังดังขึ้นมาเรื่อยๆ หล่อนเดินเข้าไป ฉับพลันนั้น ปลายเท้าของหล่อนตวัดขึ้นอย่างรวดเร็วเสยเข้าปลายคางของเด็กสาว ร่างกระทบด้วยจังหวะแง่มุมที่พอดี ทำให้เด็กสาวกลิ้งลุ่นๆ ติดข้างฝาอย่างแรง


         “ฉันบอกให้หยุด” หลังจากเด็กสาวทรงตัวขึ้นนั่งข้างฝาด้วยผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง เลือดไหลซึมออกมาที่มุมริมผิวปาก แต่เธอก็ยังคงนับตัวเลขอีกเช่นเดิม หล่อนย่างเดินเข้าไปใกล้เงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดซ้ำเข้าที่ใบหน้าของเธอ แต่ก็หยุดชะงักลงเมื่อสบตาของเด็กสาว ดวงตาที่ฉายความมุ่งมั่น ไม่แสดงทีท่าเกรงกลัว ดวงตาที่เหมือนบึงลึกไร้สิ้นสุด ไม่มีวี่แววของความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาว เธอไม่โกรธหล่อน และเธอก็ไม่เชื่อฟังหล่อนเช่นกัน


         “หยุดเถอะวารี ฉันขอร้อง เธอก็รู้มันไม่มีทางสำเร็จ” หล่อนนั่งคุกเข่าลงเบื้องหน้าเด็กสาว พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอ่อนแรง เหมือนจะยอมรับความพ่ายแพ้ของตนเองที่มีต่อความมุ่งมั่นของเด็กสาว แล้วก็เข้ากอดเด็กสาวร้องสะอื้นไห้


    เด็กสาวกอดเธอตอบ แต่ก็ยังนั่งนับตัวเลขเรียงกันไปเรื่อยๆ อยู่เช่นเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ หากมองด้วยสายตาของคนภายนอก ย่อมไม่เข้าใจพฤติกรรมของคนทั้งคู่ หนึ่งหญิงสาวพราวเสน่ห์ หนึ่งเด็กสาวพิการทางสมอง คนทั้งคู่กุมถือความลับอันใดไว้ หรือแม้แต่ทั้งสองก็อาจไม่รู้ว่ามีความสำคัญซ่อนอยู่ ความลับที่มนุษย์ทุกผู้นาม ทุกชนชั้นในโลกนี้ยอมแลกทุกสิ่งเพื่อจะได้มันมา

    <<มีต่อด้านล่างครับ>>

    จากคุณ : egotech - [ 11 ธ.ค. 48 03:31:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป