ผมเป็นสมันน้อย ตัวจ้อยกว่าใครในฝูง พ่อผมตายขณะผมเกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ในตอนที่กำลังวิ่งหนีนายพรานนั่นเอง แผงเขาหรูสง่าเกิดไปติดอยู่กับเถาวัลย์ พรานจึงฆ่าชีวิตโดยง่าย
ผมฝันอยากมีเขางามสง่าแบบพ่อ
ผมลืมตาตื่น แดดอุ่นละมุนลูบไล้ร่าง เดินเล็มหญ้าและขบลูกไม้ในพุ่มเตี้ยๆอย่างสบายอารมณ์ ผมมักอารมณ์ดีในยามเช้า แต่ทุกๆเช้าเมื่อลืมตาตื่น ต้องมีพวกพ้องสูญหายทุกวัน ตัวแล้วตัวเล่า
ชีวิตพวกเราชาวสมัน หมดลงๆ ด้วยน้ำมือคนบ้านป่า ผู้ซึ่งอาศัยร่วมกันกับผืนป่า หาสิ่งปะทังชีวิตมาเนิ่นนาน ลูกปืนหรือลูกดอกมอบความตายให้โดยเท่าเทียมกัน
ผมเป็นเพียงสมันน้อยไร้เรี่ยวแรง อ่อนประสบการณ์จะต่อกรกับโลก พวกพ้องล้มตาย เผ่าพันธุ์จึงสูญพันธุ์ ชีวิตผมจบลงก่อนเขาจะพึงออกเสียอีก
ก่อนตายผมหลับตา หวังฝันจะได้เกิดเป็นคนบ้านป่าที่มาล่าพวกผมบ้าง
แล้วผมก็เกิดเป็นชายหนุ่มชาวบ้านป่าที่ใช้ชีวิตร่วมกับผืนป่าจริงๆ ผิดคาดตรงที่ไม่ใช่ป่าที่ผมเคยรู้จักอีกต่อไป ผมปารถนาใช้ชีวิตเยี่ยงผู้ล่า แต่กลับไม่มีสิ่งใดให้ผมไล่ล่ามากนัก ป่ากำลังเปลี่ยนรูปรอยเป็นอะไรสักอย่าง ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างฝันไว้เลย หญิงสาวที่ผมหลงรักถูกบางสิ่งกลืนหายไปจากหมู่บ้าน ผู้เฒ่าคนแก่สิ้นอายุขัย เด็กๆร้องไห้เพราะท้องหิว ผู้ใหญ่นิ่วหน้าเนื่องไม่มีอะไรยังชีพเพียงพอแก่สมาชิกในครัว
กลางวันร้อนระอุ กลางคืนเหน็บหนาว
ผมนอนขดกายกอดตัวเองสั่นงันงก ผมอยากเป่าขลุ่ยให้ไพเราะกว่าเสียงจิ้งหรีด แต่ค่ำคืนมืดสนิทเกินไป เกินกว่าเสียงขลุ่ยจะเดินทางผ่านอากาศ ไม่มีความหมายใดอีกต่อไป ผู้คนแปลกหน้าย่างเข้ามาทุกๆวัน มาวันหนึ่งแย่งชิงสิ่งหนึ่งไปจากพวกเรา เขาเอามันไปที่ใดกัน ชาวบ้านป่าที่ใกล้ชิดติดป่าอย่างพวกเรา ยังชีพได้ด้วยป่า แต่ป่าไม่ใช่ของพวกเราอีกต่อไป
ทุกคนตายลง ตายลง ตายลง ตายลง ตายลง ตายลง ตายลง บางครั้งมองหน้าสบตากันอยู่ดีๆ ก็ตายลงต่อหน้า เสียอย่างงั้น ไม่เว้นแม้แต่ผม ชีวิตนักล่าที่ผมเคยฝันจบสิ้นลงแล้ว
ทุกคนสูญพันธุ์ เราเป็นเพียงคนชายขอบที่ถูกลืม ผมไม่คิดว่าหมู่บ้านผมจะเป็นหมู่บ้านสุดท้าย ก่อนตายผมอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ผมอยากเป็นผู้บริโภคกับเขาบ้าง ผมอยากเป็นผู้บริโภคที่ดี ไม่ต้องอดอยากก่อนตายเยี่ยงชีวิตนี้
ผมฝันบ้าอะไรกัน ?
ผมตื่น เหงื่อท่วมตัว ผมนอนคว่ำอยู่บนเตียง พยายามชันกายลุกขึ้นแต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย ลมหายใจเร่งแรงขึ้น สายตาผมมองไปยังประตูห้อง มีใครยืนอยู่ที่นั่น ผู้ชายโลว์คีย์รูปร่างเป็นเงาดำครึ้ม ปากเขาไม่ได้ขยับ แต่ผมรู้ว่าเขากำลังพูดอยู่กับผม
ตื่นได้แล้ว ลุกขึ้นมาใช้ชีวิต ตื่นได้แล้ว ลุกขึ้นมาใช้ชีวิต เขาพูดประโยคเดียวซ้ำๆ ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คน แต่ผมไม่อยากคิดว่าเขาเป็นผี ผมกลัว ผมอยากร้องแหกปากออกมา แต่เหมือนเสียงหายไป ร่างผมขยับไม่ได้ ผมอยากหลับตาลง แต่กลับต้องจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น เขายังยืนทะมึนอยู่ที่เดิมมองมายังผม
แล้วผมก็ตื่นขึ้นมาจริงๆ เหงื่อออกเต็มตัว เช้าแล้วผมต้องรีบไปทำงาน เหมือนเช่นเช้าเดิมๆ ผมเบียดตัวเข้าไปในรถไฟฟ้า ยืนเกาะราว รอคอยให้ถึงสถานีที่ต้องลง
ผมยืนเฉยไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ผ่านไปได้สองสถานี รู้สึกมีเหงื่อซึมตรงหน้าผาก ผมใช้หลังมือเช็ด จังหวะทิ้งมือลงแนบตัว ผมพบว่ามีมีด เงินวาว เสียบทะลุออกมาตรงพุง ตาผมลุกโพลง เหงื่อที่เพิ่งเช็ดกลับผุดขึ้นมาใหม่ ผมมองดูมีดคมกริบที่ทิ่มออกมาตาไม่กะพริบ เลือดแดงเริ่มซึมออกมาตามเชิ้ตขาวเป็นวงใหญ่ ผมเอี้ยวคอมองข้างหลังไม่ถนัดนัก แต่ก็พยายาม ผมอยากรู้ว่าใครแทงผม แม้เห็นเพียงหางตารางๆผมก้แน่ใจว่าเป้นเขา ผู้ชายโลว์คีย์เข้มคล้ำคนนั้นเองที่เจอในฝันก่อนตื่น
เลือดเริ่มไหลออกมาตามปลายมีด มันหยดลงพื้น
น่าแปลกที่ไม่มีใครสนใจ น่าแปลกกว่าที่ผมไม่ร้องออกมาสักแอะ ไม่มีแม้แต่คำพูดใด
มันไม่เจ็บใช่ไหม? ประโยคนั้นมาจากปากของคนที่แทงผม น้ำเสียงเขาเหมือนในฝัน
มันไม่เจ็บนั่นเป็นความจริง ผมจึงไม่ร้องออกมา มีดนั่นยาวคืบหนึ่งได้ ผมตกใจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
คุณแทงผมทำไม?
ผมไม่รู้ นั่นคือคำตอบของเขา คำตอบที่ชวนให้ความสงสัยค้างคา
ผ่านไปกี่สถานีแล้วผมไม่รู้ ผมจดจ้องดูแต่มีดคมสีเงินวาวตรงพุงเท่านั้น เลือดชโลมหลั่งเต็มเสื้อไปหมด รู้ตัวอีกทีผมก็ก้าวลงจากรถไฟฟ้าถึงสถานีที่หมาย ผู้ชายคนนั้นหายไป มีดที่พุงหายไป เชิ้ตขาวไม่มีรอยเลือดสักหยด เหตุการณ์เป็นดังนี้จึงลงมติว่านี่เป็นเช้าที่แปลกสุดในชีวิตของผม เป็นครั้งแรกมันจึงแปลกสุด เพราะเช้าต่อๆมาเมื่อเป็นเช่นนี้ซ้ำอีกทุกเช้า ความแปลกจึงหายไปเหลือแต่ความหวาดกลัว
มีดหนึ่งคืบสีเงินวาว เสียบทะลุพุงจากด้านหลัง เลือดแดงซึมหลั่งอาบเสื้อเชิ้ต
คุณเป็นใครทำไมต้องมาทำร้ายผม
ผมไม่รู้ แต่ผมรู้ว่าต้องเอามีดมาแทงคุณทุกเช้า และผมก็รู้ด้วยว่าทำไม
สองอาทิตย์ผ่าน ผมไม่รู้จะหาคำอะไรมาสบถกับสิ่งที่ผมต้องเจออีกแล้ว ผมลองเปลี่ยนมาโหนรถเมล์แทน บางทีไอ้โลว์คีย์อาจไม่มายุ่ง มันอาจประจำอยู่บนรถไฟฟ้าเท่านั้น
ไม่ถึงสิบนาที มีดเล่มเดิมก็เสียบตรงจุดเก่า
บอกมาสิโว้ย ว่าผมไปทำ:-)อะไรกับใครเขาไว้
ผมไม่รู้ แต่บางครั้งคุณก็คงเคยทำอะไรลงไป แล้วไม่รู้ว่ามันเกิดผลอย่างไร
ผมอยากบ้า คงใกล้เต็มที น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับผมตอนนี้ มีดที่เสียบทะลุท้องมันไม่เจ็บก็จริง แต่มันทำให้ผมประสาท
เลือดที่หลั่งทุกเช้า อาจเป็นเลือดจริงๆของผม ถ้าผมเสียเลือดทุกเช้า ผมคงน้ำหนักลดลงวันละนิดจนเลือดหมดตัวตายได้
มันจะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ ผมถามเขาในวันหนึ่งขณะนั่งแท็กซี่ไปทำงาน
ผมไม่รู้ บางทีอาจจะเป็นแบบนี้จนกว่าชีวิตคุณจะหาไม่
แล้วเมื่อไหร่ผมถึงจะตาย
ผมไม่รู้ มิมีทางทราบได้ชีวิตเป็นของคุณ
ชีวิตเป็นของคุณ!! แล้วคุณมายุ่มย่ามอะไรกับผมเล่า วันหนึ่งคุณเข้ามาแทงผมดื้อๆ แล้วก็บอกว่า ไม่รู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ห่ะเฮ็ดเถอะวะ
คุณต้องรู้ด้วยหรือว่าอะไรทำร้ายคุณอยู่ทั้งที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณทำร้ายใครอยู่บ้างทุกวันนี้
ผมจะไปรู้รึว่าทำร้ายใคร
คุณมีชีวิตมากี่ปีแล้วแต่เพิ่งมาใส่ใจ เรียกร้องหาเหตุผล ว่าทำไมคุณถึงถูกทำร้าย มีอยู่อย่างที่ผมรู้คือ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด เชิญคุณใช้ชีวิตต่อไปตามปกติ เพียงแต่ทุกเช้าคุณต้องถูกผมเอามีดแทงแค่นั้นเอง
ผมแค่ใช้ชีวิตตามปกติธรรมดา ผมไม่เคยเบียดเบียนใคร ไม่เคย ไม่เคยเลย หน้าตาผมบูดเบี้ยว ก้อนสะอื้นจุกคอจนผมอยากจะอาเจียนออกมา
------------------------------------------------
มีดยังคงคาพุงผมอยู่ทุกเช้าโดยไม่รู้สาเหตุ ผมยังไม่ชินเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก หากคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ความอัดอั้นของอาการอยากรู้เริ่มคลายลง ผมอยากจะเสียใจ แต่ไม่รู้ว่าจะไปเสียใจกับใครหรืออะไร
ผมอยากให้มันเป็นเพียงแค่ฝัน ฝันร้าย อาจเป็นความฝันที่ผมไม่มีทางตื่น ไม่มีวันจบ ไม่มีวันสูญพันธุ์ทั้งผมและเขา
....................................................................
บอกกล่าว:เดือนนี้ผมว่าจะหยุดเขียนเรื่องสั้นครับ เรื่องสุดท้ายที่ตั้งใจจะเอามาลงเขียนไว้ตอนก่อนสิ้นเดือนที่แล้วครับ
แต่แล้วผมก็เขียนเรื่องนี้ออกมา เขียนออกมาทื่อๆและใช้เวลาสั้นๆ เรื่องนี้มาจากผมคิดที่จะเขียนเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งถูกแทงทุกเช้าโดยไม่มีสาเหตุ กะเขียนโดยไม่มีเหตุผลรองรับครับ ส่วนที่มีสมันมาเกี่ยวนั้นมาโดยบังเอิญจริงๆ ผมก็เลยจับมาผูกกันดื้อๆ ที่มาจึงเป็นดังนี้แลขอรับ
จากคุณ :
อุปกรณ์ประกอบฉาก
- [
13 ธ.ค. 48 14:36:40
A:203.113.81.38 X:
]