ความคิดเห็นที่ 1 ผู้แปลวางไว้ทั้งภาษาอังกฤษต้นฉบับและคำแปลภาษาไทย และให้ annotations คือการบรรยายกลไกการแปล เอาไว้ในบางจุดที่เห็นว่าน่าสนใจ ที่จะมี educational value เพื่อประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการศึกษาภาษาอังกฤษ รวมทั้งศาสตร์และศิลป์แห่งการแปล A casual remark by the distinguished scientist and logician, Professor Augustus S. F. X. Van Dusen, provoked the discussion. He had in the past aroused bitter disputes by some chance remark; in fact, had been once a sort of controversial center of the sciences. It had been due to his modest announcement of a startling and unorthodox hypothesis that he had been invited to vacate the chair of philosophy in a great university, later that university had felt honored when he accepted its degree of LL. D. การที่ท่านศาสตราจารย์ เอากุสตุส เอส เอฟ เอ็กซ์ ฟาน ดูเซ่น นักตรรกวิทยา และนักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงเกียรติ์ พูดหลุดปากหลุดคำออกมาลอยๆโดยไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต กลับกลายเป็นสาเหตุให้มีการอภิปรายต่อปากต่อคำดังกล่าวเกิดขึ้น เท่าที่ผ่านมาในอดีต คำพูดที่หลุดปากของท่านท่านศาสตราจารย์ผู้นี้ก็เคยเป็นชนวนให้เกิดกรณีถกเถียงโต้แย้งกันอย่างรุนแรงมาแล้วหลายครั้งหลาคราด้วยกัน ว่ากันไป ในสมัยหนึ่ง ท่านผู้นี้เคยเป็นศูนย์รวมของการโต้แย้งในวงการวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่ท่านศาสคราจารย์ประกาศออกมาอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว แถลงสมมุติฐานที่ผิดแผกแหวกแนวอย่างน่าตกใจไปจากสิ่งที่เคยยึดเชื่อตาม ๆกันมา เป็นเหตุทำให้ท่านถูกขอร้องให้สละตำแหน่งประธานภาควิชาปรัชญาในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ยิ่งแห่งหนึ่ง แต่แล้วต่อมาในภายหลัง มหาวิทยาลัยแห่งนั้นกลับรู้สึกเป็นเกียรติ์อย่างสูงส่งเมื่อท่านยอมรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมายที่ทางมหาวิทยาลัยได้มอบให้ For a score of years educational and scientific institutions of the world had amused themselves by crowding degrees upon him. He had initials that stood for things he couldn’t pronounce; degrees from England, Russia, Germany, Italy, Sweden, and Spain. These were expressed recognition of the fact that his was the foremost brain in the sciences. The imprint of his crabbed personality lay heavily on half a dozen of its branches. Finally there came a time when argument was respectfully silent in the face of one of his conclusions. เป็นเวลายี่สิบปีมาแล้วปี ที่สถาบันทางการศึกษาและสถาบันทางวิทยาศาสตร์หลายแห่งของโลก ต่างดีอกดีใจที่จะประสิทธิประสาทปริญญาให้กับท่าน อักษรย่อของปริญญาจำนวนมากมาย ที่ต่อท้ายชื่อของท่าน บางทีท่านเองยังอ่านไม่ออก เป็นปริญญาที่ได้รับจากมากมายหลายประเทศ อาทิเช่น อังกฤษบ้าง รัสเซียบ้าง รวมไปถึง เยอรมัน อิตาลี สวีเดน และเสปนด้วย ปริญาทั้งหลายแหล่เหล่านี้เป็นการประกาศเกียรติคุณ ยอมรับมันสมองที่เยี่ยมยอดเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆของท่านผู้นั้น อุปนิสัยส่วนตัวในด้านความเป็นบุคคลเจ้าอารมณ์ของท่าน ก็ได้ประทับรอยจารึกฝากเอาไว้อย่างชัดเจนในศาสตร์แขนงต่างๆ ถึงห้าหกแขนงด้วยกัน มีบางโอกาศที่บทอภิปรายสรุปของท่านทำให้ประเด็นที่ผู้คนกำลังโต้เถียงอื้ออึงกันอยู่ต้องเงียบกริบลงด้วยความยอมรับนับถือในเหตุผลของท่านในที่สุด จากคุณ : sensitive reader - [ 18 ธ.ค. 48 01:14:41 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 2 The remark which had arrayed the chess masters of the world into so formidable and unanimous a dissent was made by Professor Van Dusen in the presence of three other men of standing. One of these, Dr. Charles Elbert, happened to be a chess enthusiast. เหตุการณ์ที่ท่านศาสตราจารย์ ฟาน ดูเซ่น ได้หลุดปากแสดงความคิดเห็นออกไปบางอย่าง ต่อหน้านักหมากรุกที่มีตำแหน่งสูงในวงการหมากรุกสามท่าน จนถึงกับทำให้เซียนหมากรุกชั้นแนวหน้าของโลกทั้งหลายแหล่รวมหัวกันตั้งค่ายจะเล่นงานท่านอย่างเป็นเอกฉันท์ หนึ่งในจำนวนนี้มี ดร. ชาร์ลส เอลเบร์ต ซึ่งเป็นนักหมากรุกตัวยงรวมอยู่ด้วย “Chess is a shameless perversion of the functions of the brain,” was Professor Van Dusen’s declaration in his perpetually irritated voice. “It is a sheer waste of effort, greater because it is possibly the most difficult of all fixed abstract problems. Of course logic will solve it. Logic will solve any problem; not most of them, but any problem. A thorough understanding of its rules would enable anyone to defeat your greatest chess players. It would be inevitable, just as inevitable as that two and two make four; not sometimes, but always. I don’t know chess, because I never do useless things, but I could take a few hours of competent instruction and defeat a man who has devoted his life to it. His mind is cramped; bound down to the logic of chess. Mine is not; mine employs logic in its widest scope.” “หมากรุกนี่เป็นการเอาสมองไปใช้ในทางที่วิปริตวิตถารอย่างน่าละอาย ”ศาสตราจารย์ ฟาน ดูเซ่น ประกาศด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ตลอดศกของท่าน " เป็นเรื่องเสียเรี่ยวเสียแรงไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่เห็นจะได้มรรคผลอะไรขึ้นมา ที่ยิ่งไปกว่านั้น มันก็เป็นแค่ปัญหาทางนามธรรมที่ยากที่สุด แต่ก็มีคำตอบลงตัวอยู่แล้ว ตรรกศาสตร์ใช้แก้ปัญหาหมากรุกได้อย่างแน่นนอน ใช้แก้ปัญหาอะไรก็ได้ทุกอย่าง ที่ผมพูดนี่ไม่ได้หมายความว่าแก้ปัญหาส่วนใหญ่นะ ขึ้นชื่อว่าเป็นปัญหาแล้วแก้ได้หมด ถ้าลงได้เข้าใจกฎเกณฑ์การใช้เหตุผลของตรรกศาสตร์อย่างทะลุปรุโปร่งแล้วละก็ใครๆก็สามารถเอาชนะนักหมากรุกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณได้ มันเป็นเรื่องกำปั้นทุบดินที่อย่างไรก็เป็นกฎตายตัวอยู่แล้ว เหมือนกับสองบวกสองต้องเป็นสี่ ไม่ใช่ว่าบางทีเป็นสี่ แต่ว่าต้องเป็นสี่ทุกทีไปอย่างตายตัว ผมไม่เคยเล่นหมากรุก เพราะที่ผ่านๆ มา ผมไม่เคยทำอะไรที่ไร้สาระ แต่ถ้าจะหาใครที่เก่งๆมาสอนอย่างเป็นงานเป็นการให้ผมรู้จักวิธีเล่นสักสองสามชั่วโมงก็พอ ผมจะเอาชนะคนที่ทุ่มเทกับหมากรุกมาตลอดชีวิตให้จงได้ สมองของคนที่เล่นหมากรุกมาตลอดชีวิต จะถูกขังอุดอู้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน อยู่แต่ในกะลาครอบของตรรกกะทางหมากรุก ส่วนสมองผมนั่นผิดกัน สมองของผมนี่ใช้ตรรกกะที่แผ่ขยายกว้างออกไปอย่างมหาศาลสุดที่จะประมาณได้” annotation1: ให้สังเกตดูคำว่า inevitable น้ำเสียงของคำนี้ ในบริบท ไม่ใช่แปลว่า “หลีกเลี่ยง” ไม่ได้ แต่แปลว่า “(กฎของตรรกะ)ตายตัว (ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้)” จากคุณ : sensitve reader - [ 18 ธ.ค. 48 01:27:11 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 3 “หลีกเลี่ยง” ไม่ได้ แก้เป็น “หลีกเลี่ยงไม่ได้" Dr. Elbert shook his head vigorously. “It is impossible.” he asserted. ดร.เอลเบิร์ตส่ายหัวดิกๆอย่างแรง “ เป็นไปไม่ได้ " เขายืนยันอย่างหัวชนฝา “Nothing is impossible!” snapped the scientist. “The human mind can do anything. It is all we have to lift us above the brute creation. For Heaven’s sake, leave us that!” “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!” นักวิทยาศาสตร์พูดกระชากเสียง “สติปัญญาของมนุษย์สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น เราถึงได้เป็นสัตว์ประเสริฐอยู่เหนือสัตว์โลกทั้งหลายอย่างไรล่ะ ให้ตายสิ พอแล้วหละ!" The aggressive tone, the uncompromising egotism, brought a flush to Dr. Elbert’s face. Professor Van Dusen affected many persons that way, particularly those fellow-savants who, themselves men of distinction, had ideas of their own. น้ำเสียงที่กร้าว แข็ง ความถือตน ไม่ยอมลดราวาศอกให้กับใครของท่านศาสตราจารย์ ทำให้ดร.เอลเบิร์ตหน้าแดงเป็นผลตำลึงสุก ศาสตราจารย์ ฟาน ดูเซ่น ทำให้คนหลายๆคนรู้สึกเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาปราชญ์ทางวิชาการในแวดวงเดียวกับท่าน ท่านต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ทรงเกียรติ์และมีความคิดความอ่านเป็นของตนเอง “Do you know the purposes of chess? Its countless combinations?” asked Dr. Elbert. “คุณทราบจุดประสงค์ของการเล่นหมากรุกหรือเปล่า? คุณรู้ไหมว่า การใช้ตัวหมากหลายๆตัวผนึกกำลังเข้าด้วยกัน ทั้งในการจู่โจมและในการตั้งรับ สามารถทำให้เดินหมากได้หลายรูปแบบจนความน่าจะเป็นไปได้ มีนับไม่ถ้วน?” ดร.เตอร์เอลเบิร์ตถามต้อน annotation 2: snapped มาจาก snap ต้องระวัง มีความหมายหลายอย่าง เช่น “ดีดนิ้วมือ” ถ้าใช้ snap at somebody อย่าง She snapped at him. ก็คงใกล้เคียงกับภาษาไทยว่า หล่อนแขวะเขา แต่ในบริบทในเรื่องนี้ snap คือการพูดกระชากเสียงด้วยความโกรธแบบใส่อารมณ์ annotation 3: combinations เป็นศัพท์เทคนิคในกีฬามวยก็ได้ ถ้าเป็นมวยสากลก็หมายถึง การใช้หมัดตรง หมัดสอยดาว หมัดเหวี่ยง และหมัดอะไรต่อมิอะไรผสมผสานกันหลายๆทิศทางเพื่อต่อยจนคู่ต่อสู้หลบหลีกหรือปิดป้องไม่ทัน แต่ถ้าเป็นมวยไทยทีมีหมัดเท้าเข่าศอกมาใช้ด้วย ก็น่าจะตรงกับศัพท์มวยไทยคำว่า “ไม้พันลำ” แต่ในบริบทเป็นศัพท์เทคนิค แปลว่าการใช้ตัวหมากรุกผสมผสานผนึกกำลังกันเข้าจู่โจมนั่นเอง ซึ่งถ้าใครเล่นหมากรุกไม่เป็นจะเดินหมากตัวเดียวบุกเข้าไปแล้วก็โดนจับกินในที่สุด แต่พวกเซียนหมากรุกจะเดินผนึกกำลังกันเข้าไปจู่โจมทีเดียวพร้อมๆกันหลายๆตัวทำให้คู่ต่อสู้ตั้งตัวไม่ติดเหมือนเมื่อใช้ไม้พันลำในมวยไทยนั่นเอง จากคุณ : sensitive reader - [ 18 ธ.ค. 48 01:43:38 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 4 annotation 4: ช่วงที่น่าสนใจนี่น่าวิเคราะห์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็คือ Dr. Elbert shook his head vigorously. “It is impossible.” he asserted. “Nothing is impossible!” snapped the scientist. “The human mind can do anything. It is all we have to lift us above the brute creation. For Heaven’s sake, leave us that!” ให้ดูตรงสองวรรคข้างบน ตรงประโยคสุดท้ายดีๆ นั่นก็คือ For Heaven’s sake, leave us that! For Heaven’s sake แปลตรงๆตัวก็คือ เพื่อเห็นแก่พระเจ้าเถิด หรือมีบางคนก็แปลเป็น พระเจ้าได้โปรดเถิด แต่เราลองมาคิดเปรียบเทียบวัฒนธรรมดู เราจะเห็นได้ว่า ฝรั่งพูดประโยคนี้ เพื่อแสดงความโกรธนั่นเอง ดังนั้น ถ้าแปลและแปลงข้ามวัฒนธรรม แปลเป็น ให้ตายสิ หรืออะไรที่หยาบคายกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับว่าโมโหแค่ไหน) ก็พอที่จะแปลได้ แต่ไอ้คำทีมีปัญหาในการตีความมากที่สุดก็คือ leave us that เนื่องจากว่าถ้าใครอ่านผลงานของ Futrelle มาหลายๆเรื่องจะเห็นได้ว่าเขาเป็น “ยอดเซียน” ในการ “ดัดแปลงสำนวนหรือคำพังเพย” (ซึ่งจะยกตัวอย่างให้ดูในคราวต่อไป) ในเมื่อสำนวนเขาสวิงสวายมากๆ ผู้แปลก็ต้องคิดเผื่อไว้หลายๆทาง ลองมาดูแบบคิดไม่ลึกไว้ก่อน คือคิดว่า คำว่า that น่าจะหมายถึง human mind เมื่อบอกว่า leave us that ก็ตีความได้ว่า ขอให้พระเจ้าปล่อยให้มนุษย์ยังคงมีมันสมองเหมือนเดิมเถิด จะได้ประเสริฐกว่าสัตว์เดียรัจฉาน แต่ถ้าคิดให้ลึกๆ leave us that อาจเป็นการแผลงมาจากคำว่า leave off (ไม่เอาน่า หุบปากเถิด) ..ที่สงสัยว่าเป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากำลังโกรธ หรืออาจแผลงมาจาก leave it at that (แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่เอาแล้ว) หมายถึงโมโหไม่อยากเถียงด้วยแล้ว ดูตัวอย่างการใช้งาน คำว่า leave it at that ใช้อย่างนี้ก็ได้ คือ Let’s leave it at that for today. พวกเราพอแค่นี้ก่อนนะวันนี้ (หมายถึงไม่อยากทำ (อะไรที่กำลังทำอยู่) อีกต่อไปแล้ว) จากคุณ : sensitive reader - [ 18 ธ.ค. 48 02:10:03 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งที่อยากเห็นในวงการแปล ก็คือหนังสือแปลที่วางต้นฉบับภาษาอังกฤษเทียบกับคำแปล และผู้แปลเขียน notes หรือ annotations บรรยายเอาไว้ ซึ่งการทำเช่นนี้น่าจะมี educational value ไปพร้อมๆกับความบันเทิงด้วย อีกเหตุผลหนึ่งก็คือว่านักเขียนนิยายที่ผูกเรื่องเร้นลับหักมุม และเขียนฉากแทรกแบบอยู่ดีๆก็มีประโยคแปลกๆโผล่มาเฉยๆ บางประโยคตีความได้หลายอย่างมาก อย่างเช่นผลงานของคุณป้า Agatha Christie เราเพิ่งหัดอ่านเรื่องของคุณป้า แล้วพบว่าคำที่คุณป้าใช้ บางประโยคกินความหมายลึกมากๆ ตีความได้หลายอย่างมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาลเวลาผ่านไปคำแต่ละคำก็เปลี่ยนความหมายไป การแปลให้ถูก 100% แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่การค้นข้อมูลหลายๆอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง ภาษาและวัฒนธรรม ในยุคสมัยนั้นๆ ช่วยให้แปลได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แต่จะรู้คำศัพท์แล้วจะแปลได้ ดังนั่นการเขียน annotations ก็จะช่วยให้ผู้อ่านได้คิดเผื่อไว้หลายๆทาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านนั่นเอง จากคุณ : sensitive reader - [ 18 ธ.ค. 48 02:22:20 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 6 annotation 5: ด้วยความสงสัยตะหงิดๆเรื่องการตีความคำว่า leave us that เราจึงส่ง e-mail ไปถามนักเขียนชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อ Dave Feldman (หนังสือของเขาได้รับการแปลเป็นไทยแล้ว 3 เล่ม แล้วตีพิมพ์ ไปแล้วชื่อ “ปริศนาคาใจ” ) ให้เขาช่วยตีความให้ เขาตอบมาว่า เขาคิดว่า คำว่าใน leave us that คำว่า that มีความหมายว่า human mind ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ คำแปลในเนื้อเรื่องนี้ ตรงนี้ก็น่าที่จะเป็นอย่างข้างล่างนี้คือ “Nothing is impossible!” snapped the scientist. “The human mind can do anything. It is all we have to lift us above the brute creation. For Heaven’s sake, leave us that!” “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!” นักวิทยาศาสตร์พูดกระชากเสียง “สติปัญญาของมนุษย์สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น เราถึงได้เป็นสัตว์ประเสริฐอยู่เหนือสัตว์โลกทั้งหลายอย่างไรล่ะ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ปล่อยให้พวกเราเป็นอยู่อย่างนั้นต่อไปเถิด!" ทีนี้นักเขียนชาวอเมริกันที่ว่านี้ พี่แกก็เล่น “หักมุม” หลังจากตีความแบบนั้นไปแล้ว โดยประโยคต่อไป พี่แกบอกว่า But I’m not sure เออทีนี้ละสนุกละสิ ขนาดฝรั่งนักเขียนยังไม่แน่ใจเลย แล้วสนุกอย่างไร.............สนุกอีตรงที่ว่า เราก็อยากหายสงสัย เราเลย e-mail ไปหา Futrelle เพื่อถามว่า leave us that แปลว่าอะไรกันแน่?!!!!......... อิๆๆๆๆ สงสัยเราจะเล่นนั่งทางในหรือเล่นผีถ้วยแก้วซะแล้วสิ ลองมาร่วมกันเล่นเกมสนุกๆโดยการทายสิว่า Futrelle เขาตอบ e-mail เราหรือเปล่า และะถ้าตอบ เขาตอบว่าอะไร???? และเขาตอบ e-mail เราได้อย่างไร???..... อ้าวอ่านแล้วงงมะล่ะ เราเพิ่งเกริ่นไปแล้วว่า Futrelle ตายไปแล้วร้อยปี รู้สึกว่าเพิ่งจะครบรอบร้อยปีหรือร้อยกว่าปีอะไรทำนองเนี้ยที่เขาตายไป แล้ว Futrelle ตอบ e-mail เราได้อย่างไรกัน????? คือว่านะ คนที่อ่านเรื่องประเภทรหัสคดีต้องมีตรรกะที่แม่นยำ ลองใช้ตรรกะร่วมสนุกเล่นเกมทายปัญหาที่เราถามกันดูนะ อิๆๆๆ จากคุณ : sensitive reader - [ 18 ธ.ค. 48 02:54:26 A:61.91.226.4 X: TicketID:113322 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาอ่านความดุเดือดของท่าน ศาสตราจารย์ ฟาน ดูเซ่น ครับ และมึนกับการ e-mail ไปหา Futrelle อืมม์...ผมจะลองเมล์ไปถามเขาดูดีกว่า จะแอบถามว่าเขาได้รับเมล์ของคุณ sensitive reader หรือไม่ ถ้าได้รับแล้วเขาตอบอย่างไร แฮ่ะๆ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 48 08:08:44 จากคุณ : Psycho man - [ 18 ธ.ค. 48 08:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่มอ่านกระทู้ของคุณจากคลับนักสืบมาเองแหละค่ะ แต่กระทู้นี้ขอข้ามนะคะ เป็นความขี้เกียจอ่านไทยและอังกฤษคู่น่ะค่ะ แต่ไว้ว่างๆ จะมาศึกษาภาษาอังกฤษค่ะ ขอบคุณมากเลย :) (เห็น IT อันแรก นึกถึงไอทียุดปัจจุบัน เมื่อก่อนมันยังไม่มีนี่นา ฮ่าๆ) จากคุณ : scottie - [ 18 ธ.ค. 48 14:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 “No,” was the crabbed reply; “I know nothing whatever of the game beyond the general purpose, which, I understand, is to move certain pieces in certain directions to stop an opponent from moving his king. Is that correct?”       ไม่ทราบหรอก” เขาตอบอย่างไม่สบอารมณ์นัก   “เรื่องเกมหมากรุกนี่ผมไม่ทราบเลย  เพียงแต่เข้าใจว่าวัตถุประสงค์โดยทั่วไปก็คือ จะต้องเลือกเดินหมากบางตัวไปยังทิศทางบางทิศทางเพื่อสกัดไม่ให้คู่ต่อสู้เดินคิงหนีไปได้   อย่างนั้นใช่หรือเปล่า?”       “Yes,” said Dr. Elbert slowly; “but I never heard it stated just that way before.”       “ก็ใช่แหละ”  ดร.เอลเบิร์ตตอบอย่างช้าๆ  “แต่ผมยังไม่เคยได้ยินใครพูดเรื่องหมากรุกแบบนี้มาก่อนเลย”       “Then, if that is correct, I maintain that the true logician can defeat the chess expert by the mechanical rules of logic. I’ll take a few hours some time, acquaint myself with the moves of the pieces, and defeat you to convince you.” Professor Van Dusen glared savagely into the eyes of Dr. Elbert.       “ถ้าเท่าที่ผมพูดมานี่ถูกต้อง  ผมก็ขอยืนยันว่านักตรรกวิทยาที่แท้จริง   จะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญหมากรุกได้   โดยอาศัยกลไกแห่งกฎเกณฑ์ของตรรกะ    ผมจะใช้เวลาสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อเรียนวิธีการเดินหมากตัวต่างๆ    และจะเล่นชนะคุณให้ดู จะได้หายสงสัยกันเสียที”    ศาสตราจารย์ ฟาน ดูเซ่น ตาลุกโตมีประกายวาว  จ้องตาดร.เอลเบิร์ต อย่างแข็งกร้าว       “Not me!” said Dr. Elbert. “You say anyone; you for instance might defeat the greatest chess player. Would you be willing to meet the greatest chess player after you ‘acquaint’ yourself with the game?”       “อย่าเลือกผมเลยดีกว่า!”   ดร.เอลเบิร์ตพูด   “คุณบอกว่าเล่นกับใครก็ได้  อย่างเช่น คุณบอกว่า   จะเอาชนะนักหมากรุกที่เก่งที่สุดก็ได้  ถ้าอย่างนั้นหลังจากที่คุณ “ทำความคุ้นเคย” กับกฎกติกาของเกมแล้ว  คุณพร้อมหรือไม่ ที่จะประมือกับนักหมากรุกคนที่เก่งที่สุด?”       “Certainly,” said the scientist. “I have frequently found it necessary to make a fool of myself to convince people. I’ll do it again.” “สบายมากเลย”  นักวิทยาศาสตร์รับคำท้า   "เคยบ่อยๆไป ที่ผมจำเป็นต้องทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกไปเสียก่อน  ที่จะทำให้ผู้คนเชื่อถือเห็นตามได้   เอาละ ผมจะทำอย่างนั้นอีก”       This, then, was the acrimonious beginning of the discussion which aroused chess masters and brought open dissent from eminent men who had not dared for years to dispute any assertion by the distinguished Professor Van Dusen. It was arranged that at the conclusion of the championships Professor Van Dusen should meet the winner. This happened to be Tschaikowsky the Russian who had been chess champion for half a dozen years.             ทั้งหมดคือคำพูดและน้ำเสียงที่เชือดเฉือนกันอย่างร้อนแรง   นี่เป็นบทเริ่มต้นของการประทะคารมอันเผ็ดร้อน   ซึ่งทำให้เซียนหมากรุกทั้งหลายแหล่ขุ่นเคืองใจ และนำให้ผู้ที่มีชื่อมีเสียงคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วยอย่างเปิดเผยในฐานะเป็นฝ่ายตรงกันข้าม   ก่อนหน้านี้บุคคลดังกล่าวต่างสงบท่าทีไม่มีใครที่จะกล้าหาญหักขัดแย้งท่านศาสตราจารย์ฟานดูเซ่นผู้มีชื่อเสียง จึงเป็นอันตกลงกันว่า   หลังจากการแข่งขันหมากรุกชิงแชมเปี้ยนเสร็จสิ้นลงแล้ว   ท่านศาสตราจารย์ฟานดูเซ่นจะต้องเส่นประลองฝีมือกับผู้ที่ชนะเลิศ  ซึ่งก็บังเอิญเป็นชาวรัสเซีย  ชื่อไชคาวสกี้ที่ครองตำแหน่งแชมเปี้ยนหมากรุกมาได้หกปีแล้ว จากคุณ : sensitive reader (chatterbot) - [ 20 ธ.ค. 48 21:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 annotation 6: ศัพท์ที่น่าสนใจก็คือ “No,” was the crabbed reply; Futrelle ใชคำว่า crabbed เนี่ยได้อย่างชาญฉลาด  ในบริบทนี้ไม่ยากที่จะเดา คือ crabbed ก็แปลว่า อารมณ์หงุดหงิด   แต่มี Thinking Machine อีกตอนหนึ่งชื่อว่า Silver Box ในตอนนี้  เราอ่านๆไปเจอวรรคนี้เข้า In the course of time The Thinking Machine received a check for ten thousand dollars, signed, “J. Morgan Grayson.” He glared at it for a little while, then indorsed it in a crabbed hand, “Pay to Trustees Home for Crippled Children,” and sent Martha out to mail it. เล่นเอางงเลย  อีกตรง crabbed hand น่ะ ว่ามันอะไรกัน  จะเป็น "ทำไม้ทำมือโมโห"  ก็ไม่น่าที่จะเข้ากับบริบท  แต่เรานั่งบริกรรมดูพักใหญ่ๆเลยคิดได้ว่าเมื่อเขา indorsed it = endorsed it  คือสลักหลังเช็ค  นั่นเอง   เราเลยเดาว่าคงเป็นลักษณะของการเขียน  เลยคิดว่า hand คงย่อมาจาก handwriting ที่แปลว่า "ลายมือ" แล้วลองเปิดดิกดูด เอ้ยเปิดดิกดู  (ทีแรกพิมพ์ผิดจริงๆนะ เปิดดิกดูดก็แย่สิ  เพราะดิกเราเป็น software เกือบหมดเลย)  ก็ใช่จริงๆ  เราเลยเดาต่อไปว่า crabbed คงแปลว่าหวัด ไม่ใช่หวัดนกนะ แต่เป็น (ลายมือ) หวัด   แล้วเปิดดิกดูก็ใช่จริงๆแฮะ  โหค่อยโล่งอกว่าตีความไม่ผิด  ในอีกเรื่องหนึ่ง   อ้อลืมบอกไปว่า indorse กับ endorse มันก็ศัพท์ตัวเดียวกันน่ะแหละ แต่สะกดแบบแรกมันแบบโบราณ แบบหลังแบบสมัยใหม่  แล้วหลุมพราง ระวังนะ ถ้าบอกไปแล้วจะไม่เชื่อ  นั่นก็คือ  ทั้งสองตัวถึงจะสะกดไม่เหมือนกันแต่ก็อ่านออกเสียงเหมือนกัน  นั่นก็คือออกเสียงว่า อินดอร์ส  เหมือนกันทั้งสองตัว  แต่ถ้าใครออกเสียงตัวที่สองเป็น เอ็นดอร์ส ก็ไม่ผิด  เนื่องจากอ่านแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน  นั่นก็เพราะคำในภาษาอังกฤษหลายๆตัวมีการออกเสียงได้หลายอย่าง คือในการอ่านวรรณกรรมให้เข้าใจนั้น  บางทีก็ต้องทำการค้นคว้าบ้างพอสมควร  เพื่อเจาะลึกว่าเราเข้าใจเนื้อเรื่องจริงๆ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 48 22:52:29 จากคุณ : sensitive reader (chatterbot) - [ 20 ธ.ค. 48 22:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ศัพท์ที่น่าสนใจในประโยคนี้ Then, if that is correct, I maintain that the true logician can defeat the chess expert by the mechanical rules of logic. ก็คือคำว่า  maintain (that) ส่วนใหญ่เราจะเจอ maintain ในความหมายว่า "ดูแลรักษา"  แต่ในบริบท maintain (that) แปลว่า  "เชื่อว่า/ยืนยันว่าเป็นความจริง รูปแบบการใช้งานยกตัวอย่างเช่น Experts maintain that the new system will lead to an improvement in educational standards. ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมั่นว่าระบบใหม่จะนำไปสู่การพัฒนาทางด้านมาตรฐานการศึกษา รูปแบบการใช้งานนี้ก็น่าสนใจ แทนที่จะเขียนว่า He maintaintains that he is innocent. เราพลิกรูปแบบประโยคได้โดยการเขียนว่า He maintains his innocence. ทั้งสองประโยคก็แปลได้เหมือนๆกัน  นั่นก็คือ เขายืนยันว่าเขาบริสุทธิ์ (ไม่มีความผิด) จากคุณ : sensitive reader (chatterbot) - [ 20 ธ.ค. 48 22:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้าสวัสดีคุณ Psycho man   I maintain that I have received an e-mail from Futrelle. ข้าพเจ้ายืนยันว่าได้รับอีเมวจาก Futrelle จริงๆนะ ถ้าไม่เชื่อจะ forward mail เขาไปให้คุณดู  แต่ตอนนี้ลองให้คุณขบปริศนานี้เล่นๆไปพลางๆก่อนนะ สวัสดีคุณ scottie ไปอ่านเจอที่ไหนก็ไม่รู้ว่าคุณอ่านเรื่องเขียนทุกเรื่องยกเว้นบทกวี  โหขยันจัง  โทษทีที่แปะไว้สองภาษาทำให้เวียนหัวเล่น แต่เราว่าบางทีอาจเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหัดอ่านวรรณกรรมหรือหัดแปลบ้างนะ จากคุณ : sensitive reader (chatterbot) - [ 20 ธ.ค. 48 22:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ติดตามอ่านด้วยความสนใจเนื้อหาและความรู้ทางภาษาที่น่าสนใจมากเหมือนเนื้อเรื่องเลย โห..ปริศนาที่วางไว้ทำให้ผมอ่านเรื่องนี้หลายรอบเลยครับ ที่ยังไม่คิดออก แต่จะพยายามต่อไป แฮ่ะๆๆ ส่วนตัวผมว่าเรื่องและวิธีการที่ คุณ sensitive reader นำเสนอ เป็นกระทู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งในดวงใจน้อยๆของผมเลย ขอบคุณมากๆๆครับ อ้อ ผมพบประว้ติของเขาที่นี่ด้วยครับ http://www.kirjasto.sci.fi/futrell.htm แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 18:14:27 จากคุณ : Psycho man - [ 22 ธ.ค. 48 18:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แท่นสี เปลี่ยนชื่ออีกแล้วเหรอ จากคุณ : เหอๆๆๆ - [ 15 ก.พ. 49 12:09:49 A:61.7.158.216 X: TicketID:107982 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Tansy น่าจะเปลี่ยนชื่อวว่า buffalo จากคุณ : lol - [ 28 ก.พ. 49 17:33:51 A:61.7.158.211 X: TicketID:107982 ]