ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้เดิมค่ะ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๕๐ ๏ ๏ ๏ โคลง แรก ใน ชีวิต ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3948016/W3948016.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                     . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 20 ธ.ค. 48 18:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 [ หนาวนี้ที่เจียงฮาย เห็นคุณตาผิงไล่ความหนาว จึงแอบเก็บภาพมาให้ได้กลิ่นไอหนาว ขอรับ ] ---------------------------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 48 20:57:33 จากคุณ : xers - [ 20 ธ.ค. 48 19:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หนาว...ก็หนาวร้าวก็ร้าวอยู่ในอก ลม...กรรโชกโศกสะท้านพาลหวั่นไหว ห่ม...คุ้งฟ้าแทนอาภรณ์นอนผิงไฟ รัก..อยู่ไหน อยู่หนใด ไม่ผ่านมา เอ่อ ต่อกลอนแปดไปก่อนนะคะ ยังไม่เข้าใจโคลงสี่สุภาพดีอ่ะค่ะ เศร้าใจจริงๆ จากคุณ : สหายสันติ - [ 20 ธ.ค. 48 20:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชื่อกระทู้หวานจ๋อยมาทีเดียวเทียวครับ อิอิ ขอบคุณคุณพี่ ณ มิตร หลายๆนะครับ สำหรับซีดีรวมกระทู้อาศรมฯ เพิ่งได้รับวันนี้ล่ะครับ หนาว เนื้อหาเนื้อห่ม       หายหนาว ลม    คร่ำน้ำค้างพราว    เหน็บเนื้อ ห่ม    ผ้าสักกี่คราว        ไป่หยุด รัก    ห่มกี่ลมเทื้อ          บ่ร้าวหนาวคลาย แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 48 20:39:14 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 20 ธ.ค. 48 20:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดี ขอรับ พี่เทพกร พี่ศาลาไทย พี่สหายสันติ พี่โกฏิดารา รักนี่ต้องห่มกี่เทื้อ ขอรับ [ จัตวาทันฑี ] ๏ หนาว กราวกรูแกร่งกร้าว....กรีดกริว ลม พัดพรูทิวผอง..................ไผ่ก้ม [ เปลี่ยนจาก ผิว เป็นผอง ครับ ] ห่ม หมอกหม่นหมุนปลิว.........ปอยเมฆ รัก รัดรึงลอบล้ม..................ลูบไล้กลายหนาว ๚ [ ของเดิม/ ลม พัดพรูทิวผิว.....ไผ่ก้ม /ท่านลุงหมอวฤก บอกว่าสัมผัสเลือน ขอรับ ] [ แวะทุ่งนายามเย็นที่เชียงราย มีไอควันจากครัวของชาวบ้าน ขับเน้นความเย็นที่อ้อยสร้อย ] -------------------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 12:48:17 แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 48 21:30:25 จากคุณ : xers - [ 20 ธ.ค. 48 21:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจัง แหะๆ ผมต้องสอบมิดเทอม วันคริสต์มาส-ปีใหม่เลย ฮือๆ เฮฮา ฮาเฮ กรรม -*- จากคุณ : โกฏิดารา - [ 20 ธ.ค. 48 22:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หนาว..ยิ่งสั่นหวั่นไหวในอกนัก รัก......หนอรักมาเลือนหายเมื่อกายหนาว ห่ม......อาภรณ์แม้อุ่นกายในคืนยาว รัก......มาร้าว ก็หนาวเหน็บเจ็บระทม หนาว...ใดใดหากมีใจ'อุ่นไอรัก' ลม.....โชยจักอุ่นขวัญให้ไร้ขื่นขม ห่ม......ผืนรักถักห่วงใยให้ชื่นชม รัก......ช่วยห่มอุ่นได้กลางสายลม... ...เอ่อ เหมือนคุณสหายสันติ ขออนุญาติมาแบบกลอนแปดเช่นกันค่ะ จากคุณ : ดารุ (ดารุ) - [ 20 ธ.ค. 48 22:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หนาว...แสบหนาวสอดเนื้อ.............นางกระสัน ลม...เลียดเสียดสุดสวรรค์..............สวาทร้อง ห่ม...ลีลาศโสมสุพรรณ.................นภาส่อง รัก...หลอกบอกรักน้อง....................เสน่ห์เว้าคำหวาน หนาว... คราวนอนขาดน้อง.........นางหาย ลม...นรกโลกเผามลาย..............สมุทรแห้ง ห่ม...โหมตะวันถวาย................กามเทพ กระพือพ่อ รัก...เซ่นสุญตาแสร้ง...............โศกเศร้านิรันดร์สมัย แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 01:10:50 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 01:00:48 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 00:32:44 จากคุณ : เชษฐภัทร - [ 21 ธ.ค. 48 00:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณดารุ กับ คุณสันติ  ไม่ต้องกังวลเรื่องวางกลอนแปดครับ เพราะไม่ได้มีกฏเกณฑ์อะไรว่า  "ต้อง" วางเฉพาะโคลง วางอะไรก็ได้ตามสบายครับ  ขอให้ "สร้างสรรค์" เป็นใช้ได้ อิๆ ปกติผมก็วางมันทุกอย่าง  เท่าที่เขียนได้   อิๆ (กำลังหาพวกอยู่พอดี) สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 09:21:02 จากคุณ : Ar@p - [ 21 ธ.ค. 48 09:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ คุณเทพกร ทั้ง หนาว ทั้ง รัก มากันพรักพร้อมเชียว เลยแต่งไม่ค่อยออก มัน น้าว หนาว หนาวแบบรักๆ ๏ หนาว  เดียวดายขาดด้วย          คู่ตุนา    -หงันเฮย ลม    ไม่ขันอาสา                      สื่อให้ ห่ม    กายแต่ใจพา                     หนาวเหน็บ รัก หากอยู่เคียงใกล้                   กอดไว้คลายหนาว  ๚ หนาวขึ้นอีกนิด ๏ หนาว  หนักจักเกิดริ้ว                 ผิวแตก ลม    พัดผ่านแทบแทรก               แยกเนื้อ ห่ม    ผ้าก็ขาดแฉก                      หลุดลุ่ย รัก โปรดบริจาคเกื้อ                      ห่มให้คลายหนาว  ๚ เลิกหนาวพอดี ๏ หนาว  นักจักห่มผ้า                   เอาสิ ลม    พัดปิดประตูมิ                     ยากแท้ ห่ม    ผ้าที่ไม่ปริ                         ฉีกขาด รัก  ไม่มีสักแม้                           แค่นี้ไม่ตาย  ๚ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 10:19:10 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 21 ธ.ค. 48 09:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หนาว กายยังพอกผ้า            ผิงไฟ ลม พัดพอทนไหว                อาจสู้ ห่ม นางจักอุ่นใจ                  ยามค่ำ รัก ยิ่งเนื้อแนบชู้                  สุขล้ำเลอสรวง จากคุณ : เจียวต้าย - [ 21 ธ.ค. 48 10:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หนาว-ลม-ห่ม-รัก ------------------------------- หนาว.....หนักพักนี้มีแต่น้ำ ลม..........ก็พร่ำกราดใส่ไม่สงสาร ห่ม.........น้ำตาอาดูรคงอีกนาน รัก..........นายก แต่ท่านไม่รักเรา. เอย. ท่านรักใคร. 21-12-2548 นำกลอนมาฝากคุณเทพกรครับ. จากคุณ : . (Ar@p) - [ 21 ธ.ค. 48 12:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีตอนเที่ยงวันอากาศยังเย็นอย่างยิ่ง ขอรับ สวัสดี พี่โกฏิดารา สวัสดีคุณดารุ กลอนก็เป็นสมบัติของชาติเหมือนกันนะ ขอรับ สวัสดีโคลงงามๆ ของ พี่เชษฐภัทร สวัสดี พี่จำปูน มาวางใจหนาวๆ ไงอยู่นะเออ ต้องตามหาไอรักด่วน        ขอมาเก็บบัว ในสระเย็นๆของพี่เทพกรด้วยคนนะขอรับ พี่จำปูน สวัสดี ท่านปู่เจียวต้าย หนาวนี้ทำไมไม่ค่อยมีคนอยากได้ผ้าห่มนะ ขอรับ สวัสดี กลอนเย็นๆ ของ น้าอาร์พี ขอรับ [ ไอรัก ] ๏ หนาว จะแข็งจะเข้า.....ข่มกาย ลม ระส่ำระสาย.............สาดต้อง ห่ม มิมิดมิวาย...............วูบวาบ รัก แนบรักแนบน้อง........นุ่มเนื้ออุ่นหนอ ๚ เซ่อ...น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 21 ธ.ค. 48 12:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนาว  สะท้านท่อนเบื้อง.................บนมา ลม  ล่องลัดอัดทา.........................ทั่วท้อง ห่ม  อกกอดมือชา........................ชัดแน่น รัก  ชักเกร็งเท้าต้อง......................ชุ่มเนื้อง่ามทวาร หนาว  แต่กาลค่ำเนื้อ.....................ปูปลา  ร้าแฮ ลม   ก่อนเหลืองจะคา....................คาบก้น ห่ม   หนาวแต่รู้รา..........................ราดรด รัก  เน่าฤาหอมล้น.........................ล่วงพื้นกลิ่นขจร ** คงทานข้าวกันเสร็จแล้วนะครับ จากคุณ : mere - [ 21 ธ.ค. 48 13:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๏ หนาว กลอนของท่านน้า        อาร์พี   ลม กระโชกน้ำมี                     ท่วมท้น ห่ม ไห้ระทมชี                       -วิตวอด วายแฮ รัก แต่ไม่แหย่ก้น                   เฉียดใกล้กรายถึง ๚ - ขออนุญาตเรียกตามน้องๆไปก่อนนะครับ *************************** สวัสดีครับทุกๆท่านเลย อิ่มข้าวกันหรือยังเอ่ย แวบมาอ่านมาเขียน แล้วจะไปทำงานต่อ คะร้าบ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 13:29:36 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 21 ธ.ค. 48 13:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หนาว  ฤทัยไป่ร้าง......................เริงรัก ลม ห่มห้อมล้อมทัก....................ทาบแก้ม ห่ม จันทร์ตะวันวัก......................วาบว่า รัก ลูกคู่อริแย้ม.........................ยากใกล้คลอเคลีย หนาว เสียแต่ช่วงเช้า...................ชูเชิง ลม พัดสะบัดเปิง........................เปิดฟ้า ห่ม ห่ากระสุนเพลิง.....................พลาดท่า รัก ร่างนางร้างข้าฯ.....................สละแล้วชีวี จากคุณ : mere - [ 21 ธ.ค. 48 13:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รายรายรายร่างร้อม................นิทรา ไรริดไรระอา.........................ระอุอ้าง เรียนเรียนเล่นเล่นฮา................เห็นสนุก คว้าไขว่ให้เคว้างคว้าง...............ยิ่งคว้าดวงดาว จากคุณ : นานมี - [ 21 ธ.ค. 48 17:01:14 A:202.29.33.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คำคนคุณค่าล้น..........คำความ คำหนึ่งเพียงติดตาม.....พี่ไว้ คำใครยิ่งยุยาม...........ยุส่ง คำเคร่งคนวอนให้........อย่าร้างลืมไฉน จากคุณ : นาร์เนียร์ - [ 21 ธ.ค. 48 17:13:05 A:202.29.33.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 โรมรันหมายมั่นน้อง..............นวลนาง ตามต่อเพียงถากทาง.............ที่ทั้ง ไวไวอย่าเลือนลาง................เลยลู่ รีบเร่งหากอยากคว้า...............นิ่มน้องเชยชม จากคุณ : นาเดียร์ - [ 21 ธ.ค. 48 17:22:39 A:202.29.33.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 โรมรันหมายมั่นน้อง..............นวลนาง ตามต่อเพียงถากทาง.............ที่ทั้ง ไวไวอย่าเลือนลาง................เลยลู่ รีบเร่งหากอยากรั้ง................นิ่มน้องเคียงใจ จากคุณ : นาเดียร์ - [ 21 ธ.ค. 48 17:27:55 A:202.29.33.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไรไรไรร่ำร้อง................บอกไป เริงร่าทุกภาคไทย...........กู่ร้อง เริงระบำเร่งรำไป............ราบรื่น รวยรื่นดังกึกก้อง............แผ่วแผ้วเพียงพัง จากคุณ : การ์ดิเนีย - [ 21 ธ.ค. 48 17:41:49 A:202.29.33.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 สุขและสวัสดีญาติมิตรวงวรรณกรรม "อาศรมชาวโคลง" ขอรับ อ่านโคลง อ่านกลอน ของทุก ๆ ท่าน แล้ว เริ่มหนาว ๆ (ฮา) ************************************************** +++คุณศาลาไทย (คห.๑)+++ ขอบพระคุณสำหรับลิงก์ กระทู้ที่แล้ว "โคลง แรก ใน ชีวิต" ครับ ************************************************** +++คุณ xers (คห.๒, ๕ และ ๑๓)+++ อิ ๆ เห็นภาพคุณตาผิงไฟแล้ว ไม่ทราบว่าคุณยายไปอยู่หนใดนะครับ ปล่อยให้คุณตาผิงไฟอยู่คนเดียวได้ ๏ หนาว กราวกรูแกร่งกร้า ......กรีดกริว ลม พัดพรูทิวผิว...............................ไผ่ก้ม ห่ม หมอกหม่นหมุนปลิว...............ปอยเมฆ รัก รัดรึงลอบล้ม...............................ลูบไล้กลายหนาว ๚ ชมโคลงแล้วคลายหนาวครับ มี "รัดรึง" มี "ลูบไล้" อิ ๆ จักจี้ดีแท้ ๆ ครับ ๏ หนาว จะแข็งจะเข้า.....ข่มกาย ลม ระส่ำระสาย.............สาดต้อง ห่ม มิมิดมิวาย...............วูบวาบ รัก แนบรักแนบน้อง........นุ่มเนื้ออุ่นหนอ ๚ บทนี้มี "วูบวาบ" ไฟเริ่มติดแล้วสิท่า (ฮา) ดีครับคลายหนาวอย่างยอดครับ ************************************************** +++คุณสหายสันติ (คห.๓)+++ หนาว...ก็หนาวร้าวก็ร้าวอยู่ในอก ลม...กรรโชกโศกสะท้านพาลหวั่นไหว ห่ม...คุ้งฟ้าแทนอาภรณ์นอนผิงไฟ รัก..อยู่ไหน อยู่หนใด ไม่ผ่านมา รักไม่ได้ไปไหน อยู่ตรงนี้ขอรับกระผม หนาว เหมันต์ วันไหนไม่มีเจ้า ลม จะยิ่ง หยอกเย้า เศร้าหนักหนา ห่ม รักหาย คลายหนาว ร้าวอุรา รัก อยู่ที่ เรียกหา เดี๋ยวมาเอง ไม่ถนัดโคลง แต่งกลอน แต่งกาพย์ มาก็ได้ครับ ที่นี่ อ่านง่าย ขายคล่อง ไม่ต้องต่อขอรับ ************************************************** +++คุณโกฏิดารา (คห.๔ และ ๖)+++ หนาว เนื้อหาเนื้อห่ม       หายหนาว ลม    คร่ำน้ำค้างพราว    เหน็บเนื้อ ห่ม    ผ้าสักกี่คราว        ไป่หยุด รัก    ห่มกี่ลมเทื้อ          บ่ร้าวหนาวคลาย เห็นไหมครับ ถึงจะหนาว ถึงจะร้าวรานแค่ไหน "ความรัก" ก็ทำให้ "อบอุ่น" อยู่เสมอครับ หนาวนี้ "หาเนื้อห่ม" กันหรือยังครับ "ชาวโคลง" ************************************************** +++คุณดารุ (คห. ๗)+++ หนาว..ยิ่งสั่นหวั่นไหวในอกนัก รัก......หนอรักมาเลือนหายเมื่อกายหนาว ห่ม......อาภรณ์แม้อุ่นกายในคืนยาว รัก......มาร้าว ก็หนาวเหน็บเจ็บระทม หนาว...ใดใดหากมีใจ 'อุ่นไอรัก' ลม.....โชยจักอุ่นขวัญให้ไร้ขื่นขม ห่ม......ผืนรักถักห่วงใยให้ชื่นชม รัก......ช่วยห่มอุ่นได้กลางสายลม ถึงจะห่มผ้าหนา ๆ ก็ไม่เท่า "อุ่นไอรัก" นะครับ เมื่อมี "รัก" แล้ว "ความห่วงใย" ก็อย่าลืมให้ไว้ต่อกันนะครับ ************************************************** +++คุณเชษฐภัทร (คห.๘)+++ หนาว...แสบหนาวสอดเนื้อ.............นางกระสัน ลม...เลียดเสียดสุดสวรรค์..............สวาทร้อง ห่ม...ลีลาศโสมสุพรรณ.................นภาส่อง รัก...หลอกบอกรักน้อง....................เสน่ห์เว้าคำหวาน หนาว... คราวนอนขาดน้อง.........นางหาย ลม...นรกโลกเผามลาย..............สมุทรแห้ง ห่ม...โหมตะวันถวาย................กามเทพ กระพือพ่อ รัก...เซ่นสุญตาแสร้ง...............โศกเศร้านิรันดร์สมัย นี่ ต้องคุณเชษฐภัทร มาถึง ก็ "กระสัน" หาสาวกอดก่อนเลย (น่าอิจฉาจัง) แหม! อารมณ์กวีจริง ๆ สิ ถึงกับ "สวาทร้อง" เลยนะขอรับ พอขาดสาวแล้ว ก็เหมือนตกนรกเลยหรือขอรับ อิ ๆ อย่างนี้ก็ขาดสาวไม่ได้สักวันสิขอรับ ************************************************** +++คุณAr@p (คห. ๙ และ ๑๒)+++ หนาว.....หนักพักนี้มีแต่น้ำ ลม..........ก็พร่ำกราดใส่ไม่สงสาร ห่ม.........น้ำตาอาดูรคงอีกนาน รัก..........นายก แต่ท่านไม่รักเรา ขอบพระคุณสำหรับกลอนนะขอรับ คุณAr@p ตอนนี้พี่น้องชาวใต้ของเราก็กำลังประสบปัญหาอุทกภัยกันครับ ยามนี้ก็ต้องส่งกำลังทรัพย์ และกำลังใจไปช่วยเท่าที่มีนะครับ น้ำท่วมภาคใต้ แต่คราวนี้ "สุโขทัย" ไยไม่ระทม หนอ (ฮา) ************************************************** +++คุณจำปูน (อ่างหยก) (คห. ๑๐ และ ๑๕)+++ หนาวแบบรัก ๆ ๏ หนาว  เดียวดายขาดด้วย          คู่ตุนา    -หงันเฮย ลม    ไม่ขันอาสา                      สื่อให้ ห่ม    กายแต่ใจพา                     หนาวเหน็บ รัก หากอยู่เคียงใกล้                   กอดไว้คลายหนาว  ๚ หนาวขึ้นอีกนิด ๏ หนาว  หนักจักเกิดริ้ว                 ผิวแตก ลม    พัดผ่านแทบแทรก               แยกเนื้อ ห่ม    ผ้าก็ขาดแฉก                      หลุดลุ่ย รัก โปรดบริจาคเกื้อ                      ห่มให้คลายหนาว  ๚ เลิกหนาวพอดี ๏ หนาว  นักจักห่มผ้า                   เอาสิ ลม    พัดปิดประตูมิ                     ยากแท้ ห่ม    ผ้าที่ไม่ปริ                         ฉีกขาด รัก  ไม่มีสักแม้                           แค่นี้ไม่ตาย  ๚ คุณจำปูน (อ่างหยก) ก็นำความหนาวมาให้ได้เสพถึง ๓ รส นะขอรับ บทแรก ค่อนข้างขมครับ เพราะยังขาดสาวเจ้ามาเคียงคู่ บทที่สอง นี่ค่อนข้างรันทดขอรับ ทั้งผิวแตก ทั้งผ้าขาด เอ๊ะ! ยังไง ๕๕๕ ใครมีรักล้น ๆ ช่วยบริจาคหน่อยนะขอรับ บทสุดท้าย เริ่มปลง หนาวก็หนาว หาสาวก็ไม่ได้ ปิดประตู หาผ้าห่มห่ม อยู่คนเดียวก็ได้ (วะ) หนาวแค่นี้ไม่ตายหรอกวุ้ย! ๏ หนาว กลอนของท่านน้า        อาร์พี   ลม กระโชกน้ำมี                     ท่วมท้น ห่ม ไห้ระทมชี                       -วิตวอด วายแฮ รัก แต่ไม่แหย่ก้น                   เฉียดใกล้กรายถึง ๚ "รักแต่ไม่แหย่ก้น" อิ ๆ อยู่ห่าง ๆ เข้าไว้ครับ รักประเภทนี้ หวาดเสี๊ยว หวาดเสียว ************************************************** +++คุณเจียวต้าย (คห.๑๑)+++ หนาว กายยังพอกผ้า            ผิงไฟ ลม พัดพอทนไหว                อาจสู้ ห่ม นางจักอุ่นใจ                  ยามค่ำ รัก ยิ่งเนื้อแนบชู้                  สุขล้ำเลอสรวง นี่ ๆ ๆ คิดถูกต้องเลยขอรับ "หนาวลมให้ห่มผ้า หนาวฟ้าให้ผิงไฟ หนาวผู้หญิงให้อิงผู้ใหญ่" สมกับคำโบราณทีเดียวเชียว "ยิ่งเนื้อแนบชู้" ย่อม "สุขล้ำเลอสรวง" แน่นอนขอรับ ************************************************** +++คุณmere (คห.๑๔ และ ๑๖)+++ หนาว  สะท้านท่อนเบื้อง.................บนมา ลม  ล่องลัดอัดทา.........................ทั่วท้อง ห่ม  อกกอดมือชา........................ชัดแน่น รัก  ชักเกร็งเท้าต้อง......................ชุ่มเนื้อง่ามทวาร หนาว  แต่กาลค่ำเนื้อ.....................ปูปลา  ร้าแฮ ลม   ก่อนเหลืองจะคา....................คาบก้น ห่ม   หนาวแต่รู้รา..........................ราดรด รัก  เน่าฤาหอมล้น.........................ล่วงพื้นกลิ่นขจร แหม โคลงสองบทนี้ ทำให้กระผมเห็นภาพเลยขอรับ เหงื่องี้ไหลย้อย ๆ ๆ จน "ชุ่มเนื้อง่ามทวาร" ๕๕๕ ความคิด ของคุณmere บันเจิดใจจริง ๆ สิพับผ่า หนาว  ฤทัยไป่ร้าง......................เริงรัก ลม ห่มห้อมล้อมทัก....................ทาบแก้ม ห่ม จันทร์ตะวันวัก......................วาบว่า รัก ลูกคู่อริแย้ม.........................ยากใกล้คลอเคลีย หนาว เสียแต่ช่วงเช้า...................ชูเชิง ลม พัดสะบัดเปิง........................เปิดฟ้า ห่ม ห่ากระสุนเพลิง.....................พลาดท่า รัก ร่างนางร้างข้าฯ.....................สละแล้วชีวี พอรับประทานปลาร้าทรงเครื่องเสร็จ เริ่มจะมีแรงสิขอรับ เลยไปรักลูกคู่อริได้ แหม ทำอย่างกับละครเลย รักอย่างนี้ ก็ร้อน ๆ หนาว ๆ สิขอรับ ต้องคอยหลบลูกระสุนกันให้สนุกเชียว ************************************************** +++คุณนานมี, คุณนาร์เนียร์ คุณนาร์เดียร์ และคุณการ์ดิเนีย (คห.๑๗, ๑๘, ๑๙, ๒๐และ ๒๑)+++ ไม่แน่ใจว่า ทั้ง ๔ ท่าน เป็นคนคนเดียวกันหรือไม่นะขอรับ เพราะรหัสไอพี เป็นหมายเลขเดียวกันทั้ง ๕ ความคิดเห็นเลย แต่ก็ขอขอบพระคุณครับ ที่มาร่วมกันหนาว รายรายรายร่างร้อม................นิทรา ไรริดไรระอา.........................ระอุอ้าง เรียนเรียนเล่นเล่นฮา................เห็นสนุก คว้าไขว่ให้เคว้างคว้าง...............ยิ่งคว้าดวงดาว (1) คำคนคุณค่าล้น..........คำความ คำหนึ่งเพียงติดตาม.....พี่ไว้ คำใครยิ่งยุยาม...........ยุส่ง คำเคร่งคนวอนให้........อย่าร้างลืมไฉน (2) โรมรันหมายมั่นน้อง..............นวลนาง ตามต่อเพียงถากทาง.............ที่ทั้ง ไวไวอย่าเลือนลาง................เลยลู่ รีบเร่งหากอยากคว้า...............นิ่มน้องเชยชม (3) โรมรันหมายมั่นน้อง..............นวลนาง ตามต่อเพียงถากทาง.............ที่ทั้ง ไวไวอย่าเลือนลาง................เลยลู่ รีบเร่งหากอยากรั้ง................นิ่มน้องเคียงใจ (4) ไรไรไรร่ำร้อง................บอกไป เริงร่าทุกภาคไทย...........กู่ร้อง เริงระบำเร่งรำไป............ราบรื่น รวยรื่นดังกึกก้อง............แผ่วแผ้วเพียงพัง (5) สำหรับบทที่สาม "ที่ทั้ง" ไม่สัมผัสกับ "อยากคว้า" ขอรับ ก็มาแก้มือในบทที่ ๔ สำหรับบทที่ ๕ "ไป" ในบาทแรก ซ้ำกับ "ไป" ในบาทที่สามขอรับ ************************************************** ทุกท่านยังหนาวกันอยู่หรือไม่ขอรับ ถ้ายังหนาวกันอยู่ ก็เชิญแก้หนาวกันได้ต่อไปเลยขอรับกระผม ************************************************** แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 19:36:40 จากคุณ : เทพกร - [ 21 ธ.ค. 48 18:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หนาว นวลนางนุ่มน้อง..........นวลหนาว ลม หอบน้ำค้างคราว...............เหน็บเนื้อ ห่ม ห่อหล่อเลี้ยงสาว..............รุ่นลูก ดีนอ รัก อยู่รักอะเคื้อ........................อะคร้าวคราวฝัน หนาว พลันวันพี่นี้..................เอ้กา ลม สวาทคลาดนัยนา..............พี่เศร้า ห่ม ใดที่จะมา..........................ห่มพี่ หายฤๅ รัก อย่าได้หยอกเหย้า.............เศร้าน้ำใจแสน จากคุณ : เทพกร - [ 21 ธ.ค. 48 18:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 [ รักสับ ] ------------------------------------------- หนาว คราใด ไร้คน เคยเคียงคู่ ลม พร่างพรู เพ้อพร่ำ คำหวีดหวิว ห่ม พรมนุ่ม เนื้อยังเย็น เป็นตะคริว รัก ปลิดปลิว ปาดเฉือน เหมือนมีดคม สวัสดีตอนค่ำ ขอรับ ท่าน พี่mere '14 อยากรู้สถานที่ชักกล้อง ขอรับ                  '16 สงสัยตอนชักกล้องนี่ อ่าน โรมิโอ กับ จูเลียต รึเปล่า ขอรับ อะอะ... พี่จำปูน '15 เดี๋ยวท่านก็สะบัดก้นไป ไม่งั้นอดได้คะแนนสมัยหน้าแน่ๆ ขอรับ คุณ นานมีนานาร์การ์ดิเนียเนียร์เดียเดียร์ ชื่อยาวมากเลยครับ สวัสดีครับ สวัสดี ท่านพี่เทพกร ไฟมีแต่มิวูบวาบ วูบวาบตัวนั่น         หมายความถึงตอนไปเชียงราย ห่มผ้าผืนติ๊ดเดียวขอรับ ขอให้นอนอย่างมีความสุขกับอากาศเย็นสบายครับ เช่อ...น้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 19:33:01 จากคุณ : xers - [ 21 ธ.ค. 48 19:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หนาว กายกลับอุ่นเอื้อ.........เนื้อขวัญ ลม ระบัดเจ้าเหมันต์............กลั่นแกล้ง ห่ม ผ้าร่วมผืนกัน................กรกอด ก่ายเฮย รัก กุดเพราะน้องแสร้ง.........สะบัดผ้ากระตุกผวย รัก จืดเย็นชืดแล้ว..............เล่าหรือ หนาว เหน็บด้วยเจ็บถือ.......ทิฐิตั้ง ห่ม แค้นหลับลงฤๅ.............ลอบคิด ลม พัดพี่ลองพลั้ง..............พาดดั้งด้วยขา **แหะ แหะ แก้ไขหลายครั้งเพราะสะกดคำว่า "ทิฐิ" ไม่ถูกแน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 20:21:51 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 20:17:30 จากคุณ : สายลมคิมหันต์ - [ 21 ธ.ค. 48 19:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หนาว แสนหนาวสักเนื้อ.............แนบฝัีน ลม เร่งคนเลยวัน.................กรีดชิ้น ห่ม หาอดีตอัน..................ถนอมอยู่ รัก ดั่งเมฆสลายสิ้น...............หลาบฟ้าฤดูหนาว เห็นสายลมเหน็บหนาว ราวรานสะท้านจิต น้อยนิด ยังคิดถึงสหายเคยดื่มคำ.... สวัสดีครับผม จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 21 ธ.ค. 48 21:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หนาว  กะปวกกะเปียกห้อย.....หย็องหยอน ลม  กระพัดสะบัดทอน..............สะอึกอื้น ห่ม หงอยหง่อมกระจร................กระเกริ่น รัก กระแทกกระตุ้นตื้น...............ต่ำเตี้ยกระเตาะเดิน แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 22:16:46 จากคุณ : mere - [ 21 ธ.ค. 48 22:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีทั่นเทพกรและทุกทั่นครับ...และขออภัยที่ผมโดดเรียนมาช้าครับ..ขอส่งการบ้านครับ ๏หนาว กายเกินกว่าให้    หนาวจิต ลม เสียดผิวเช่นพิษ-  ผ่าวแก้ม หม่ ขวัญหมั่นตามติด   ธัมถูกสุขแล รัก แน่แท้ต่างแย้ม   ยับยั้งใจเสมอ๚ ๏หนาว กายวายชีพไซร้   ทนไหว ลม รักปักอกใคร   ทุกข์แท้         หม่ ผ้าอุ่นแต่ใน    ทรวงแตกร้าวแล รัก สบรักจริงแล้   หลากล้นสุขสรร๚ ๏หนาว แล้วนวลนิ่มน้อง   หนาวไหม ลม แทรกซอนถึงใน   อกแล้ว หม่ สุขทุกข์มากไฉน   หายหด รัก ประจักษ์ใจแพร้ว   เพริศพริ้งดั่งสวรรค์๚ ๏หนาวเนื้อ หนาวเนื้อเมื่อ...หมายหอมแก้มเฮย ลม วกใจวกตรอม...ตรึกกว้าง หม่ ไหมแพรไหมถนอม...ทนุนิ่มน้องนา รัก ห่วงหวงห่วงร้าง...โลกลี้สวรรค์หาย๚   ๏หนาว เนื้อเมื่อหม่เนื้อ   หายหนาว ลม รักหม่อกสาว    แรกแย้ม หม่ คำพร่ำพรอดคราว    นัดพบกันนา รัก จึ่งเจียมสงวนเนื้อ    เผื่อไว้คู่สมร๚ และคคห11 ทั่นเจียวต้าย ๏หนาว กายยังพอกผ้า            ผิงไฟ ลม พัดพอทนไหว                อาจสู้ ห่ม นางจักอุ่นใจ                  ยามค่ำ รัก ยิ่งเนื้อแนบชู้                  สุขล้ำเลอสรวง๚ ผมชอบบาทท้ายมากครับ" รัก ยิ่งเนื้อแนบชู้                  สุขล้ำเลอสรวง๚ " แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 19:57:33 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 23:08:48 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 23:04:20 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 22:46:10 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 48 22:29:33 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 21 ธ.ค. 48 22:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เคยคิดเล้ย.........ว่างานของเราจะถูกแอบอ้างเอาไปใช้กับเขามั่ง เฮ้อๆ รายละเอียดดูนี่ก็แล้วกัน http://www.dek-d.com/entertain/viewlongc.php?id=107340&chapter=7&title=ตอนพิเศษ(อีกแล้วเหรอะ)โคลงสี่สุภาพ%20FMA http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=107340 เทียบกับนี่ http://terasphere.exteen.com/20051019/entry เอาไปใช้ยังไม่พอ ยังมาว่าโคลงไม่ดี อีกต่างหาก อันนี้แหละที่โมโหกว่า ๏  ธรณีภพนี้เพ่ง              ทิพญาณ หนึ่งรา เราก็ศิษย์อาจารย์            หนึ่งบ้าง ท่านเขียนท่านด่าขาน     เราชอบ ท่านมิเขียนท่านมล้าง     ดาบนั้นคืนสนอง ๏ ปัญญาลิขสิทธิ์แจ้ง      แจ่มชัด ละเมิดกฏบัญญัติ             เยี่ยงนี้ ควรคิดจิตประหวัด           สำนึก ย่ำแย่อย่างกระพี้              เปลือกสิ้นแก่นสาร ๏ โคลงสี่นี้ไม่ได้             เผางาน กวีแต่งด้วยวิญญาณ        เศกสร้าง ขโมยลอกดุจประหาร       กวีจิต ฤาโลกวรรณศิลป์ร้าง        หลับแล้วเลือนธรรม๚๛   เฮ้อๆ ๏ ใช้ใจซื้อใจไม่ได้แล้ว น้ำเปล่าหนึ่งแก้วยังซื้อขาย เคยขอน้ำขันนั้นเสื่อมคลาย โลกแล้งเหลือหลายน้ำใจจาง (ลิฟท์) "จุลสารกระดาษชนวน ฉบับ ๑๑ - วรรณศิลป์ ธรรมศาสตร์" อันข้างบนนี้ รุ่นพี่เขียนครับ ผมบ่ได้เขียน แต่มันตรงใจคักแน่............ ยังไงก็สวัสดีทุกท่านด้วยครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 22 ธ.ค. 48 00:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเบิ้ล ด้วยการเข้าเรื่องครับ หนาวลมห่มรัก ชื่อกระทู้ทำให้คิดถึงเพลง The Impossible นะครับ +หนาวเนื้อห่มเนื้อ+ The Impossible หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว หนาวราวอกร้าวห่มอกหาย หนาวรักห่มรักอุ่นรักสบาย หนาวคลายเพราะห่มที่สมกัน โอ้ตัวเราหนาวเนื้อไร้เนื้อห่ม หนาวลมห่มลมยิ่งหนาวสั่น หนาวรักห่มร้างอ้างว้างครัน หนาวสวรรค์ห่มนรกอกช้ำเอย ตอนนี้ผมมางานรับปริญญารุ่นพี่ที่ขอนแก่นครับ หนาวชะมัด................ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 04:46:47 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 00:47:21 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 22 ธ.ค. 48 00:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หนาว นี้นานยิ่งย้ำ                  ใจกาย ลม จัดจิตมลาย                     เจ็บจ้าน ห่ม ใดไม่อาจหาย                  ทุกขเวทน์ รัก ล่องลอยเหลือค้าน             ไขว่คว้าคืนคง. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 22 ธ.ค. 48 07:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ ทุกท่าน หนาวจริงๆแฮะ วันนี้ ยิ่งมาเจอแบบคุณ โกฎดารา ก็ยิ่งหนาวใหญ่ แต่ถ้าคิดว่าเป็นวิทยาทานไป ภูมิใจว่าของเราดี ถึงได้มีคนฉกเอาไป ก็คงจะสบายใจขึ้น แต่ถ้าขโมย กัน บ่อยๆละก็ เจอกันแน่ ๏ หนาว  นักถูกลักล้วง                 ตับตู ลม    ริษยาพรั่งพรู                      หยาบกระด้าง ห่ม    ปิดพักตร์อดสู                    ปูนฉาบ  หนาเฮย                 รัก  แบบไม่สรรสร้าง                    แอบอ้างน่าละอาย  ๚ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 ธ.ค. 48 08:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มาแจม หนาว...เหน็บจนเจ็บเนื้อ.............แสบหนัง ลม...กรีดราวมีดยัง...................บาดย้ำ ห่ม...ใดเล่าพอประทัง...............คลายเทวษ รัก...พลาดกลับอนาถซ้ำ...........โศกซ้อนทรวงสลาย ............................................................ จากคุณ : เวทย์ - [ 22 ธ.ค. 48 08:46:29 A:58.147.31.17 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 [ ห่มใจ ] ------------------------------------------- ๏ หนาว  บีบกระชากพื้น....เหนือบน ลม  กระหน่ำน้ำฝน...........ท่วมใต้ ห่ม  เย็นเหน็บตัวจน..........สองฝ่าย รัก  แจกจ่ายเกื้อให้...........ผ่านฟ้าหน้าหนาว ๚ เอาข่าว พี่จำปูนกับ น้าอาร์พี มามิกซ์ ขอรับ สวัสดีตอนเช้า ทุกท่าน สวัสดี พี่สายลมคิมหันต์ โคลงมายิ้มอีกแล้วครับ สวัสดี คุณวิญญานฯ พี่mere พี่จันทร์แห้ง สวัสดี คุณโกฏิดารา ได้ไปเที่ยวแล้วนะครับ ท่าทางจะหนาวใจด้วย... สวัสดีตอนเช้าครับ ปู่เจียวต้าย พี่จำปูน เช่อ...น้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 09:04:10 จากคุณ : xers - [ 22 ธ.ค. 48 09:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หนาวพรรณผ่องขาวก็ร้าวก็รวด ลมพาพรวดพุ่งพิษสถิตย์สถิน ห่มฟ้าพาพัดระบัดระบิน รักฟ้าดินโด่งดังกระทั่งกระเทือน หนาวใจในจิตกระมิดกระเมี้ยน ลมพาเหี้ยนเวียนดิ้นจะหมิ่นจะเหมือน ห่มสาวแยกแตกพลัดกระจัดกระเจือน รักดั่งเดือนดาวชัดกระจัดกระจาย * สวัดดียามเช้า กับกลบทสบัดสบิ้ง จากคุณ : mere - [ 22 ธ.ค. 48 09:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แหม น้อง เซ่อ มิกซ์ได้ดีจริง ไปขอของพวกพี่ๆน้าๆ  มาทำ เวอร์ชั่น รีมิกซ์ คงจะดี อืม เช้านี้มากันคึกคักดีแท้ แต่งโคลงไว้โต้ลมหนาว ดูซิ ระหว่าง ลม  กับ โคลง ใครจะแน่กว่ากัน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 ธ.ค. 48 09:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หนาว..นี้หากกอดน้อง.................หายหนาว ลม...ผ่านเพียงแผ่วคราว..............ผ่าวเนื้อ ห่ม...ใดมิหายราว......................เหน็บอยู่  พี่เฮย รัก...หากคอยเติมเชื้อ.................อุ่นได้สม่ำเสมอ จากคุณ : กรวี - [ 22 ธ.ค. 48 15:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หนาวลมห่มรัก..ซึ้ง    ตรึงทรวง ลม..ล่ม ห่มรักลวง     สร่างเศร้า ห่ม..รักห่วงรักหวง      หวนห่วง ร้างฤา รัก..ข่มตรมรักร้าว      ผ่าวคล้าวนัยชล หนาวลมห่มรักซึ้ง       ฤาจะตรึงกลางลมหนาว ทรวงอุ่นห่มรักราว       ผิงไฟผ่าวให้อุ่นทรวง หวงแหนแหนรักห่วง    เกรงรักลวงจึงแหนหวง ร้ายฤทธิ์พิษฝังทรวง    เล่ห์กำเริบรักฤทธิ์ร้าย             ขอสมัครเป็นน้องใหม่ในอาศรมด้วยคนนะครับ   แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 17:05:09 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 16:52:30 จากคุณ : ปฤษณะ - [ 22 ธ.ค. 48 16:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ หนาว  หนักแม้ขาดด้วย              คู่ใจ ลม    ยะเยือกพัดไถ                     ถากเนื้อ ห่ม    ผ้าขาดคลุมไป                    กายขด                 รัก  จากอาศรมเอื้อ                      โอบให้หายหนาว  ๚ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 ธ.ค. 48 17:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 หนาว การเมืองร้อนทั่ว     สยามวรรณ     ลม    ปากกเฬวรากอัน    โอ่โอ้ ห่ม    โปรเจกขายฝัน      หวานฉ่ำ รัก     ชาติเมื่อปีมะโว้      ป่านนี้ตอแหม นักวิชาการอ่านรู้            เศรษฐกิจ สยามประเทศเป็นพิษ     เรื่อยไร้้ ทำได้แค่สะกิด             คิดใหม่ คิดอีกก็เสียวไส้            ชาติใกล้กรายสูญ ------------------------ อ่านบทวิเคราะห์ด้่านเศรษฐกิขของนักวิชาการ (ที่ไม่เกี่ยวข้องกะการเมือง) หลายท่าน ที่ทำการวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ในรอบหลายปีที่ผ่านมา และแนวโน้มในปีหน้า แม้จะพยายามรักษาภาพให้ออกมาเป็นกลางๆ แต่ก็จับความรู้สึกได้ว่าไม่เชื่อมั่นในทักษะทางการบริหารจัดการประเทศของท่านนายกคนปัจจุบัน มีหลายจุดที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่เข้าใจในหลักเศรษฐศาสตร์ของตัวนายกรัฐมนตรี มีหลายจุดที่ขัดแย้งกับหลักเศรษฐศาสตร์แบบที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจประเทศ ทั้งระยะสั้นและยาว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งในระดับเบาและรุนแรง ได้แต่เฮ้อออกมาเบาๆในอาศรมครับ ------------------------- ปล.บทสอง แต่งเรื่องเสียงเอาใจพี่ทิวาครับ .. แฮ่ม แต่โคลงที่อ่านในลักษณะกลอนได้ น่าจะเป็นแต่งเป็นโคลงโทคู่นะ เพราะบาทท้ายวรรคหลังคำจะได้ไม่เกิน เฮ้อ.. จากคุณ : หมีเซอะ - [ 22 ธ.ค. 48 17:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หนาว  เนื้อเมื่อเจอะน้อง     เนื้อนวล ลม     รักกระอักอวล         เอ่ออ้าง ห่ม     อกห่มองคสงวน      แม่กระซิบ กระซาบนา รัก      ล่มเมื่อเจอะช้าง      แม่ชี้ชูชม แว้กกกก..!! จากคุณ : หมีเซอะ - [ 22 ธ.ค. 48 18:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หนาว จนติดลบห้า              องศา ลม โกรกโอ้แม่ขา              บ่รอดมั้ง ห่ม หน้าห่มกายา                ยังสั่น รัก พี่จัดเตาตั้ง                   อุ่นให้มันเผา... สวัสดี พี่เทพกร จอมขยัน, น้าอาร์พี, พี่จำปูน, พี่เซ่อร์ ( ได้รับ CD ยังก๋า? ) , พี่mere แต่งได้เห็นภาพเลย และสวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ... แดนโสม... หนาวนี้ทรมานหลายครับ... หูแดงไปหมดแล้น... "ห่ม นางจักอุ่นใจ            ยามค่ำ" ผมรอจนดึกแล้วยังหาไม่ได้ซักนางเลยคร้าบ ลุงเจียวต้าย... ลุงเวทย์ ก็ยังวางโคลงได้สุดยอดเหมือนเดิมเลยนะครับ... พี่โกฏิ น่านะ... อย่าคิดมาก... ใครทำอะไรไว้ ไม่ช้าก็ได้กลับคืนสนอง... เป็นกำลังใจให้ครับ... ไปหนาวคนเดียวเปลี่ยวเอกาต่อละครับ... แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 18:21:27 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 22 ธ.ค. 48 18:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หนาว นี้ยังปกด้วย              หิมะ ลม พัดกองเปะปะ              กลบก้าน ห่ม หญ้ามิดคงจะ               ตายแน่ รัก ติดตรึงหน้าร้าน             ย่างเนื้อเกาหลี โอย เข้ามาหนาวต่อ.... "โคลงโทคู่" เป็นงัยเหรอครับ พี่หมี พี่จำปูน มีแต่หนาวขาดๆนะครับ... ขอหนาวเกินๆมั่งจิ... อิอิ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 18:46:58 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 22 ธ.ค. 48 18:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หนาว เปิปตามเจ้าถิ่น           กิมจิ ลม ส่งกลิ่นอย่างกะปิ           คละคลุ้ง ห่ม ห่อใส่ถุงนิ                    สองขีด รัก ผักดองยอมทุ้ง              กระเป๋าให้ได้ชิม ในซุปเปอร์นี่มองไปทางไหนก็มีแต่ผักดอง.... หลากหลายรูปแบบ... กินทั้งปีคงยังไม่ครบครับ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 22 ธ.ค. 48 19:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 45 หนาว ประมงยังจับได้          เจ้าหมึก ยักษ์นา ลม พิษเห่อยังนึก                หวาดไห้ ห่ม ยาปะเป็นปึก                 กินอีก รัก หมึกแต่อดได้                กัดเคี้ยวเหนียวกราม สดๆดิบๆ เฉือนแล้วจิ้มครับ... หวานฉ่ำ ชุ่มลิ้น... แต่ผมกินไม่ได้... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 22 ธ.ค. 48 19:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มัวแต่แต่ง.... ลืมรูป... อิอิ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 22 ธ.ค. 48 19:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 [ ซี๊ดดดดดด บรื้อออออ ] ------------------------------------------- ๏ หนาว  หนาวถอดผ้าเล่น....หิมะ ลม  น่าจะเย็นอุระ...............แน่แท้ ห่ม  หมอกนุ่มนุ่มนะ............นอนแผ่ รัก  นิดไปเยียมแม้............ .พะงาบเฝ้าโรงหมอ ๚ ขอยืมภาพหิมะ เติมเชื้อหน่อยนะครับ สวัสดี พี่ ณ มิตร อ่าแอบมาเล่นคนเดียว ตอนไม่มีใครเลยนะครับ นึกว่าหายไปไหนที่แท้แอบไปชิมกิมจินี่เองผมก็ชอบ...ซี๊ดดด หะน๋าว... ซีดีรวมฮิต อาศรมฯ ได้แล้ว ขอรับ ขอบคุณนะครับ ใครอยากได้ วางที่อยู่ไว้หลังไมค์นะครับ จะส่งไปให้ครับ ตอนนี้ยอดสั่ง 1 รายแล้ว...ครับ เซ่อ...น้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 20:54:05 จากคุณ : xers - [ 22 ธ.ค. 48 19:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สุขและสวัสดีญาติมิตรวงวรรณกรรม "อาศรมชาวโคลง" ครับ แหม วันนี้คึกคักมากเชียวครับ มีทั้งเรื่องดี และเรื่องร้าย ๆ ของชาวเรา ************************************************** +++คุณxers (คห.๒๔, ๓๔ และ ๔๗)+++ หนาว คราใด ไร้คน เคยเคียงคู่ ลม พร่างพรู เพ้อพร่ำ คำหวีดหวิว ห่ม พรมนุ่ม เนื้อยังเย็น เป็นตะคริว รัก ปลิดปลิว ปาดเฉือน เหมือนมีดคม คมสมกับเป็นกลอนครับ ความหนาวและว้าเหว่ เฉือนใจดีจริง ๆ ครับ ดังนั้น หนาว ๆ อย่าอยู่คนเดียวครับ หาสาว ๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม ๆ มากอดคลายหนาวได้แล้วครับ หนาว มากรีด ความรัก ให้ร่วงหล่น ลม มาเฉือน ดวงกมล ให้หล่นหาย ห่ม มาฉีก กระชากชีพ แทบวางวาย รัก มากลาย กลับคืน ไม่ชื่นทรวง ๏ หนาว  บีบกระชากพื้น....เหนือบน ลม  กระหน่ำน้ำฝน...........ท่วมใต้ ห่ม  เย็นเหน็บตัวจน..........สองฝ่าย รัก  แจกจ่ายเกื้อให้...........ผ่านฟ้าหน้าหนาว ๚ ภาคเหนือก็หนาว ภาคใต้ก็น้ำท่วม อากาศแปรปรวนรวนเร ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ก็ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาด้วยครับ หนาว ลมลมลิ่วฟ้า..........ทางเหนือ ลม ฝนกระหน่ำเรือ..............ภาคใต้ ห่ม ใจไปช่วยเหลือ...............กันบ้าง นะเอย รัก ช่อรักสลักไว้....................ซึ่งน้ำใจสยาม ************************************************** +++คุณสายลมคิมหันต์ (คห.๒๕)+++ หนาว กายกลับอุ่นเอื้อ.........เนื้อขวัญ ลม ระบัดเจ้าเหมันต์............กลั่นแกล้ง ห่ม ผ้าร่วมผืนกัน................กรกอด ก่ายเฮย รัก กุดเพราะน้องแสร้ง.........สะบัดผ้ากระตุกผวย รัก จืดเย็นชืดแล้ว..............เล่าหรือ หนาว เหน็บด้วยเจ็บถือ.......ทิฐิตั้ง ห่ม แค้นหลับลงฤๅ.............ลอบคิด ลม พัดพี่ลองพลั้ง..............พาดดั้งด้วยขา อิ ๆ ไม่รู้ว่าสาวเจ้าไปงอนใครมานะครับ ถึงกับสะบัดผ้าสะบัดผ่อนกันทีเดียว อย่าให้ความรักเย็นชืดนะครับ ต้องหมั่นขยันอุ่นเอาไว้ทุกวัน ๆ หนาว อย่าร้างห่างเหเสน่หา ลม จะพัดแก้วตาให้ห่างหาย ห่ม ด้วยรักสลักอยู่อย่ารู้คลาย รัก อย่าตายหมั่นอุ่นกรุ่นไอเอย ************************************************** จากคุณ : เทพกร - [ 22 ธ.ค. 48 21:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 +++คุณวิญญาณอสัญญา (คห.๒๖)+++ หนาว แสนหนาวสักเนื้อ.............แนบฝัน ลม เร่งคนเลยวัน.................กรีดชิ้น ห่ม หาอดีตอัน..................ถนอมอยู่ รัก ดั่งเมฆสลายสิ้น...............หลาบฟ้าฤดูหนาว อดีตหวานชื่น ก็ควรจดจำ อดีตที่ชอกช้ำ ก็จงลืมมันนะครับ หนาว แสนหนาวยิ่งนัก ลม หาญหักอารมณ์ชาย ห่ม สวาทอย่าคลาดคลาย รัก อย่าร้ายทำลายลง หนาว นี้อย่านอนหนาว ลม พัดพราวเคล้านวลอนงค์ ห่ม เนื้อห่มกายประสงค์ รัก ยืนยงคงคู่ควร ************************************************** +++คุณmere (คห.๒๗ และ ๓๕)+++ หนาว  กะปวกกะเปียกห้อย.....หย็องหยอน ลม  กระพัดสะบัดทอน..............สะอึกอื้น ห่ม หงอยหง่อมกระจร................กระเกริ่น รัก กระแทกกระตุ้นตื้น...............ต่ำเตี้ยกระเตาะเดิน เจอลมหนาวเข้านิดเข้าหน่อย ก็อ่อนปวกเปียกกันทุกคน จะอาบน้ำทีต้องแตะแล้วแตะอีก ใจไม่กล้าจริง อย่าอาบน้ำ อาบเสร็จออกจากห้องหนาว ลมพัดมาที สั่นไปทั่วทั้งตัว อูยยยย หนาวจัง หนาว น้ำยามอาบน้ำ..........ยืนสยิว ลม พัดกายแทบปลิว...........สั่นสะท้าน ห่ม ผ้าเช็ดตัวฉิว..................ออกห้อง น้ำเฮย รัก ลมกระหน่ำซ่าน..........ยิ่งร้องโอยหนาว หนาวพรรณผ่องขาวก็ร้าวก็รวด ลมพาพรวดพุ่งพิษสถิตย์สถิน ห่มฟ้าพาพัดระบัดระบิน รักฟ้าดินโด่งดังกระทั่งกระเทือน หนาวใจในจิตกระมิดกระเมี้ยน ลมพาเหี้ยนเวียนดิ้นจะหมิ่นจะเหมือน ห่มสาวแยกแตกพลัดกระจัดกระเจือน รักดั่งเดือนดาวชัดกระจัดกระจาย วันนี้คุณmere มาด้วยกลบทสะบัดสะบิ้งเลยหรือครับ ขอลองมั่งนะครับ หนาว จริงหนอโอยออดกระปอดกระแปด ลม ก็พัด แสงแดดก็แผดก็เผา ห่ม ผ้านวมนอนฝันบันเทิงบรรเทา รัก จะเคล้าคู่เคียงจำเรียงจำรูญ ************************************************** +++คุณจันทรห์แห้ง (คห.๒๘)+++ ๏หนาว กายเกินกว่าให้    หนาวจิต ลม เสียดผิวเช่นพิษ-  ผ่าวแก้ม ห่ม ขวัญหมั่นตามติด   ธัมถูกสุขแล รัก แน่แท้ต่างแย้ม   ยับยั้งใจเสมอ๚ ๏หนาว กายวายชีพไซร้   ทนไหว ลม รักปักอกใคร   ทุกข์แท้         ห่ม ผ้าอุ่นแต่ใน    ทรวงแตกร้าวแล รัก สบรักจริงแล้   หลากล้นสุขสรร๚ ๏หนาว แล้วนวลนิ่มน้อง   หนาวไหม ลม แทรกซอนถึงใน   อกแล้ว ห่ม สุขทุกข์มากไฉน   หายหด รัก ประจักษ์ใจแพร้ว   เพริศพริ้งดั่งสวรรค์๚ ๏หนาวเนื้อ หนาวเนื้อเมื่อ...หมายหอมแก้มเฮย ลม วกใจวกตรอม...ตรึกกว้าง ห่ม ไหมแพรไหมถนอม...ทนุนิ่มน้องนา รัก ห่วงหวงห่วงร้าง...โลกลี้สวรรค์หาย๚ ๏หนาว เนื้อเมื่อห่มเนื้อ   หายหนาว ลม รักห่มอกสาว    แรกแย้ม หม่ คำพร่ำพรอดคราว    นัดพบกันนา รัก จึ่งเจียมสงวนเนื้อ    เผื่อไว้คู่สมร๚ ฝากไว้ถึง ๕ บทเลยนะครับ ดีครับอ่านเพลินดี อิ ๆ มาเชิงธรรมะธรรโม ยิ่งดีมากครับ สอนให้สาวรักนวลสงวนตัวไว้ ถูกต้องอย่างยิ่งครับ หนาว บาปฉาบทั่วแล้ว..........ในจริต ลม ชั่วมัวเมามิด.......................ปิดฟ้า ห่ม ธรรมด่ำในจิต...................ครองสติ ตั้งนา รัก รสพุทธบทท้า...................ต่อสู้ปวงอธรรม ************************************************** +++คุณโกฏิดารา (คห.๒๙ และ ๓๐)+++ ใครหนอมาฉ้อชิงผลงานของคุณโกฏิดาราได้ อย่างนี้ต้องประณามครับ พวกที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ชิงปัญญาของผู้อื่นไป อย่างไรเสียย่อมไม่ได้ดีเป็นแน่ หนาว ไอ้พวกลอกงานไปบานเบอะ ลม กระเซอะใจกระเซิงยุ่งเหยิงใหญ่ ห่ม สติริประพันธ์ท่านผู้ใด รัก อยู่ในคำกวีที่เราครอง หนาว อย่างนี้หน้าด้านพาลประชด ลม อย่าหมดแรงลมจงผุดผ่อง ห่ม กำลังใจสู้รู้ควรตรอง รัก คำทองของเราเท่าชีวิน ************************************************** +++คุณเจียวต้าย (คห.๓๑)+++ หนาว นี้นานยิ่งย้ำ                  ใจกาย ลม จัดจิตมลาย                     เจ็บจ้าน ห่ม ใดไม่อาจหาย                  ทุกขเวทน์ รัก ล่องลอยเหลือค้าน             ไขว่คว้าคืนคง ความทุกข์เหมือนเมฆร้ายคราวพายุใหญ่ เมื่อพายุสงบลง ความสดใสของแรกอรุณจะต้อนรับเราอย่างอบอุ่นครับ หนาว ทุกข์ทุกข์ท่วมท้น..........ในใจ ลม สงบอรุณไข.........................สว่างฟ้า ห่ม ทรวงด้วยห่วงใย...............บริสุทธิ์ ยิ่งเฮย รัก ควรเราไขว่คว้า...................แนบไว้ในทรวง ************************************************** +++คุณจำปูน (อ่างหยก) (คห.๓๒, ๓๖ และ ๓๙)+++ ๏ หนาว  หนักแม้ขาดด้วย              คู่ใจ ลม    ยะเยือกพัดไถ                     ถากเนื้อ ห่ม    ผ้าขาดคลุมไป                    กายขด                 รัก  จากอาศรมเอื้อ                      โอบให้หายหนาว  ๚ อืม ความรักจากอาศรมเรานี้เหนียวแน่นจริง ๆ ครับ มาถึงภาคที่ ๑๕๑ แล้ว ก็ด้วยความรักของสมาชิกชาวอาศรม หนาว อะไรไหนจะหนาวเท่าน้ำแข็ง ลม มาอัด น้ำแดง ยิ่งดื่มอร่อย ห่ม ผ้าห่ม ดื่มน้ำ เฮลบลูบอย รัก ไม่น้อย พี่น้อง เราชาวโคลง หนาว แสนหนาวคราวนี้ไม่มีหนาว ลม จะเยือก เย็นราว น้ำในโอ่ง ห่ม ถนอม กล่อมมโน ยืนยาวโยง รัก ต้มโคล้ง กินกับน้ำ เฮลบลูบอย (ฮา) ************************************************** +++คุณเวทย์ (คห.๓๓)+++ หนาว...เหน็บจนเจ็บเนื้อ.............แสบหนัง ลม...กรีดราวมีดยัง...................บาดย้ำ ห่ม...ใดเล่าพอประทัง...............คลายเทวษ รัก...พลาดกลับอนาถซ้ำ...........โศกซ้อนทรวงสลาย เจอรักซ้อนเข้าให้ หนาวไหมล่ะครับ ๕๕๕ หนาว เย็นเยือกกว่าน้ำ.............ใจหญิง ลม กระหน่ำหาไหวติง.............นิ่งแน่ ห่ม สวาทขาดใจจริง.................เราขลาด รัก ซ้อนซ่อนรักแท้..................เล่ห์รักใจหญิง ************************************************** +++คุณกรวี (คห.๓๗)+++ หนาว..นี้หากกอดน้อง.................หายหนาว ลม...ผ่านเพียงแผ่วคราว..............ผ่าวเนื้อ ห่ม...ใดมิหายราว......................เหน็บอยู่  พี่เฮย รัก...หากคอยเติมเชื้อ.................อุ่นได้สม่ำเสมอ อิ ๆ กลิ่นสาว ๆ หน้าหนาวมันหอมเหลือเกินนะครับ (ฮา) อืม จะทำไงดี เริ่มหนาวอีกแล้ว กรมอุตุฯ ท่านว่า จะหนาวหนัก เฮ้อ สาวใดใจยังว่าง อย่าลืมร้างเทพกรนะครับ อิ ๆ หนาว กอดยอดหญิงย่อม..........คลายหนาว ลม โบกกระโชกพราว..............สั่นทั่ว ห่ม เนื้อห่มน้องสาว.................คราวรุ่น รุ่นเฮย รัก จะยิ่งล้อมรั้ว........................ซึ่งนี้เราครอง ************************************************** +++คุณปฤษณะ (คห.๓๘)+++ ขอกล่าวคำต้อนรับ คุณปฤษณะ เข้าสู่ร่มอาศรมชาวโคลง ครับ หนาวลมห่มรัก..ซึ้ง    ตรึงทรวง ลม..ล่ม ห่มรักลวง     สร่างเศร้า ห่ม..รักห่วงรักหวง      หวนห่วง ร้างฤา รัก..ข่มตรมรักร้าว      ผ่าวคล้าวนัยชล หนาวลมห่มรักซึ้ง       ฤาจะตรึงกลางลมหนาว ทรวงอุ่นห่มรักราว       ผิงไฟผ่าวให้อุ่นทรวง หวงแหนแหนรักห่วง    เกรงรักลวงจึงแหนหวง ร้ายฤทธิ์พิษฝังทรวง    เล่ห์กำเริบรักฤทธิ์ร้าย ก็มาด้วยกาพย์ห่อโคลง "หนาว ลม ห่ม รัก" ความรัก ไม่ใช่เล่น ๆ ใครลองแล้วเหมือนจมอยู่ในวังน้ำวนเลยนะครับ "รักลึกล้น กลสวาท อาจจะก่อกวนหัวใจ ให้มัวหม่น เล่ห์ความรักวน เปรียบน้ำวน ใครถูกกลต้องหลง" จริงไหมครับ หนาว ลมจมอยู่ห้วง..........ชลธี ลม สวาทของนารี..............นี่ร้าย ห่ม งามแต่พิษมี..................มรณะ นะเอย รัก เล่าเปรียบก็คล้าย.........ซึ่งน้ำวนกล หนาวลมห่มรักร้าย..........รักนี่คล้ายเกลียวน้ำวน จมสู่บาดาลดล...................บ่หวนกลับคืนเคหา น้ำวนกลเสห่ห์..................อย่าหลงเล่ห์ของยุพา ไม่งั้นเสียเงินตรา..............อีกเวลาสารพัน มารยาร้อยเล่มเกวียน........ยังวนเวียนทุกวี่วัน ร้ายนักนารีนั้น...................ท่านว่าไว้เราควรตรอง ************************************************** +++คุณหมีเซอะ (คห. ๔๐ และ ๔๑)+++ หนาว การเมืองร้อนทั่ว     สยามวรรณ     ลม    ปากกเฬวรากอัน    โอ่โอ้ ห่ม    โปรเจกขายฝัน      หวานฉ่ำ รัก     ชาติเมื่อปีมะโว้      ป่านนี้ตอแหม นักวิชาการอ่านรู้            เศรษฐกิจ สยามประเทศเป็นพิษ     เรื่อยไร้ ทำได้แค่สะกิด             คิดใหม่ คิดอีกก็เสียวไส้            ชาติใกล้กรายสูญ อืม เศรษฐกิจไม่ดี ประชาชีชาวโคลง จะอยู่ได้อย่างไร อย่านี้ต้องทำให้เศรษฐกิจฟื้น สักหน่อยแล้วกระมัง หนาว นี้ใครหนอว่า..........เศรษฐกิจ ลม หนาวอย่าได้ปิด...........ป้องไว้ ห่ม ผ้าซื้อขายคิด................ซื้อผ้า ห่มเฮย รัก ยิ่งจะขายไซร้..............บอกไว้รวยชัวร์ หนาว อย่างนี้ต้องซื้อขายผ้าห่ม ลม ว่าแรงยิ่งระทมกันยกใหญ่ ห่ม ผ้าห่มขายผ้าห่มกันเร็วไว รัก จะรวยบอกไว้ในคำกลอน หนาว  เนื้อเมื่อเจอะน้อง     เนื้อนวล ลม     รักกระอักอวล         เอ่ออ้าง ห่ม     อกห่มองคสงวน      แม่กระซิบ กระซาบนา รัก      ล่มเมื่อเจอะช้าง      แม่ชี้ชูชม ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ดูให้แน่ต้องดูถึงแม่ยาย (ฮา) หนาว นี้ชวนช้างชี้..................ชมสาว ลม หวนสวนสัตว์พราว..........สัตว์แยะ ห่ม กอดชะนีหนาว.................ลิงค่าง บ้างเฮย รัก สัตว์ชอบเก้งแพะ..............แกะเนื้อกวางโค ************************************************** +++คุณณ มิตร (namit) (คห.๔๒, ๔๓, ๔๔, ๔๕ และ ๔๖)+++ นั่นแน่ คุณณ มิตร แอบย่องไปหาหนูแดจังกึมแหงม ๆ อย่าลืมซื้อของฝาก (แต่ไม่ต้องผ้าตาตา) มาฝากชาวโคลงบ้างนะครับ หนาว แดนกิมจินี้..........เกาหลี ลม สว้านอย่าเพิ่งมี........อย่างนั้น ห่ม ห่มทานโรตี.............อุ่นอุ่น พ่อนา รัก อยู่เกาหลีครั้น...........ต้องเว้าเกาหลี หนาว เกาหลีอย่าหลีสาวเกาหลี ลม จะตีขึ้นหัวบวมบวมใหญ่ ห่ม จะห่มเกาหลีหลีอย่างไร รัก จะไปเกาหลีต้องหลีเป็น หนาว น้องแดจังกึมกรึ๊บเสียก่อน ลม จะผ่อนสาวสาวไม่ยากเข็ญ ห่ม เกาหลีเนื้อย่างเบียร์เย็นเย็น รัก จะเห็นไม่ต้องหลีเกาเหลามา กินเกาเหลาไม่ต้องง้อคนเกาหลี แถวแถวนี้เกาเหลายอดหนักหนา เกาหลีเมาเกาเหลามีแก้มสุรา หาสาวสวยอย่าช้า นะคุณ ณ มิตร อิ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : เทพกร - [ 22 ธ.ค. 48 21:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หนาว แสนหนาวคราวนี้ถึงที่สุด หนาว ถึงจุดสุดสวาทยอดปรารถนา หนาว เหมันต์ผันผวนป่วนวิญญาณ์ หนาว ยิ่งว้าเหว่หนาวร้าวดวงใจ ลม เสน่ห์เล่ห์กลมนต์สวาท ลม ประหลาดพัดฮือหรือไฉน ลม เกสร น้องนวล ยวนหฤทัย ลม เจ้าไกว ไหวหวั่น พี่พรั่นทรวง ห่ม ผ้าห่มกันหนาวยิ่งหนาวหนัก ห่ม ด้วยรักหวานวาวเพริศพราวช่วง ห่ม อารมณ์ห่มห้อมล้อมแดดวง ห่ม ความหวงห่วงหาอนาทร รัก ลมหนาวพราวพรูมาจู่จูบ รัก ลมหนาวไล้ลูบจูบบัวสมร รัก ลมหนาวคราวที่พี่อาวรณ์ รัก ลมหนาวอย่าเพิ่งจรตอนนี้เอย จากคุณ : เทพกร - [ 22 ธ.ค. 48 21:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีคุณเทพกรและทุกๆ ท่านค่ะ  มาอ่านตอนเช้าทีนึงแล้วแต่คิดไม่ออก ก่อนนอนกลับมาอ่าน เลยขอแจมแบบสร้างสรรค์ตามที่คุณ Ar@p บอก ก็โคงไม่ได้ก็กลอนก่อนได้ แบบที่คุณ xers บอกอีกเช่นกัน ว่ากลอนก็เป็นสมบัติชาติเหมือนกันนี่ อิอิ .... หนาว  ยิ่งหนาวคราวอ่านกลอนตอนรุ่งสาง หนาว  ตาค้างนั่งจิ้มพิมพ์อยู่นี่ หนาว  เลยคิดไม่ออกว่าจะไงดี หนาว  โคลงกลอนทุกท่านนี้ที่มีมา ลม     ยิ่งพัดพาให้คิดไม่ออก ลม     ข้างนอกเปิดยิ่งหนาวยิ่งกว่า ลม     ยิ่งพัดสะบัดสั่นหวั่นอุรา ลม     หอบใจเหนื่อยล้าข้าไปที ห่ม     ผ้าห่มอุ่นกายพอหายหนาว ห่ม     ใจเราเหว่หว้าล้าเหลือที่ ห่ม     ด้วยมิตรภาพซาบซึ้งมี ห่ม     ด้วยไออุ่นรักนี้ที่อาศรม รัก     ด้วยรักบทกวีที่ไพเราะ รัก     เสนาะสำเนียงเสียงผสม รัก     ทั้งโคลงกลอนกวีมีให้ชม รัก     จึงก้มลงพิมพ์มาคารวะกัน.... .....สวัสดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 23:20:47 จากคุณ : ดารุ (ดารุ) - [ 22 ธ.ค. 48 23:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับกาพย์ห่อโคลงตอบของคุณเทพกร   ผมชอบวรรคที่สองของกาพย์มากเลย  ฟังขลังดี แล้วจะแวะมาเก็บเกี่ยวความรู้เรื่อย ๆ ครับ จากคุณ : ปฤษณะ - [ 23 ธ.ค. 48 00:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ท่านใจอ่อน, ตัดสินใจลงไปใต้ เราดีใจ หายเศร้ามั๊ง? คราวนี้ น้ำคงลด  อดอยากจากไปที ทำแค่นี้เห็นไหม ใครก็ชม 23122548-1 *สวัสดีทุกท่านครับ  เช้านี้อากาศเย็นเข้าใส้ สาวๆ อาบน้ากันทุกคนหรือเปล่า  ดญ.ศาลาฯ วิ่งผ่านน้ำหรือยัง.  อ่าาา จากคุณ : Ar@p - [ 23 ธ.ค. 48 09:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 54 หนาว จริงผับผ่าผ้า..............ผวยบาง ลม โชยพัดสะบัดคราง.........ครั่นเนื้อ ห่ม อกกอดมือวาง..............หว่างอก  เองนอ รัก ร่างนางช่างเรื้อ..............รัดร้อยใจถวิล หนาว จริงยินยิ่งก้าว...........ผ่าวไหว ลม  รักจางจากไป.............ก่อนนี้ ห่ม นางร่างองค์ไอ.............อ้อมอุ่น รัก สักกระผีกพี้.................ค่อยพ้อพรากลา หนาว ฤดูมาต่างต้อง..........พรากกัน ลม ช่างร้างรำพัน..............ผูกให้ ห่ม เพียงแต่ฟ้าปัน............ปองคู่ รัก อยู่เยี่ยงเพียงใกล้........สัตว์เลี้ยงหมาแมว จากคุณ : mere - [ 23 ธ.ค. 48 09:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อรุณสวัสดิ์คุณเทพกร  และเพื่อน ๆ อาศรมชาวโคลงทุกท่านค่ะ  อากาศดีจริง ๆ                . ด.ญ. ศาลาไทย เดินไปเขกหัว ด.ช. อาพีร์  ... โป๊ก แล้ววิ่งกลับไปมุดผ้านวมต่อ  ฮ่า ๆๆ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 23 ธ.ค. 48 09:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องปาฏิหาริย์เมื่อเช้า ซื้อบัตรเติมเงินจากร้านเซเว่นเจ้าประจำ   ขูดบัตรดูไม่มีตัวเลข จึงแจ้งกับทางร้าน,   แต่พนักงานปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังในฐานะ "ผู้ต้องบริโภค" ที่ไม่มีทางเลือก แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 10:18:19 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 10:14:17 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Ar@p - [ 23 ธ.ค. 48 10:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คงหนาวหนักเกือบตายอีกหลายวัน ลมหนาวจากฟากนั่น มันร้ายยิ่ง ทั่วทั้งร่างทุกสิ่งหดหมดจริงจริง เราคึกได้กับบางสิ่งเท่านั้นเอง. 23122548-3 จากคุณ : Ar@p - [ 23 ธ.ค. 48 13:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หนาว หนักนักสาวหน้าหนาวนี้ ลม ผ่านทีผิวปลุกขนลุกซู่ ห่ม มิดชิดปิดเนื้อไม่เหลือดู รัก จะชูโฉมอวดทรวดทรงใด หนาว หน้ามหา,ลัยทำไมหนาว ลม เคยกราวกรูร้อนผ่อนผ้าไหว ห่ม สายเดี่ยวเรียวบางมาย่างใจ รัก สุกไหม้หมายตาถึงคราจาง หนาว เพราะบัดนี้ไม่มีเห็น ลม พัดเย็นเหงาเศร้าเร้าอ้างว้าง ห่ม เอกาอาจิณถวิลคราง รัก สักอย่างมีไหมมาให้รัก. จากคุณ : mere - [ 23 ธ.ค. 48 14:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เกลออาพี คงหนาวหนักเกือบตายอีกหลายวัน ลมหนาวจากฟากนั่น มันร้ายยิ่ง ทั่วทั้งร่างทุกสิ่งหดหมดจริงจริง เราคึกได้กับบางสิ่งเท่านั้นเอง. คงหนาวหนักเกือบตายอีกหลายรอบ ลมหนาวหอบคำถามความร้ายยิ่ง ทุกสิ่งหดหมดเชียวเหรอ เฮ้อ...แย่จริง ยังคึกได้กับบางสิ่ง... ไม่จริงล่ะมั้ง !!! เอิ้ก ๆ ศาลาฯ มาแซว ป.ล. สัมผัสและเสียงกลอนเล่นไปตามเรื่อง ฉัน-ทะ-ลัก ห้ามเอาฉันทลักษณ์มาจับ  ไม่งั้นมีงอน ... จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 23 ธ.ค. 48 14:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับ ทุกท่านตอยบ่ายๆ ที่เหมือนจะตอนเย็นแล้ว ท่านพี่ mere มาสะบัดกลอนแต่เช้าเลยนะครับ พี่จำปูน หนาวๆ ตอนนี้ผมก็มีแต่คู่ดื่มอ่ะ รอฟัง โคลงโทคู่ ของ พี่หมีเซอะ และ "แบบที่2 - แบ่งโดยการใส่สัมผัสในเข้าไป วิธีนี้เข้าใจง่าย แต่หมีมาอธิบายทีหลัง เพราะอยากให้ได้อ่านวิธีแรกแบบละเอียดเสียก่อน" จากอาศรม แขวนคำประดับใจ ขอรับ กับของ พี่คัมภีร์ "ยังมีเสียงคู่โท   และเสียงระหว่างวรรคหน้า (5 คำ)  กับวรรคหลัง  (2 คำ)   และมีอีกหลาย อย่างที่จะปรับระดับฝีมือขึ้นไปได้เรื่อย" จากอาศรม แขวนคำประดับใจ ขอรับ พี่เทพกร รูปนั่นน้องเขาไม่หนาวเหรอครับ เสื้อแขนกุดด้วย คุณดารุ ที่นี่อุ่นเนอครับ น้าอาร์พี VS พี่ศาลาไทย ศึกนี้ต้องใช้ยาหม่องป่ะครับ '53 '55 '56 สงสัย "น้องส้ม" คงเกเร ผมก็เลิกใช้ไปนานแล้ว ด้วยเหตุที่คลื่นไม่แรงอ่ะ '57 อ่าดูดีๆ ผมว่าขนมันยังลุกสู้ (ซู่) เลยนะครับน้าอาร์พี จริงไหมครับพี่ mere '59 หืมแมวขี้เซา เข้ามาแซว หรือครับพี่ แหะๆ ตอบพี่เทพกร คุณยายไปจ่ายตลาดมา แต่ไม่รู้ว่าจะรู้จักกะคุณตารึเปล่าเน้อ แหะๆ [ เห็นคุณยายปั่นจักรยานผ่านมา และขอถ่ายรูป ยายรีบจอดรถลงมายืนยิ้มแป้นเลยครับ: เชียงราย ] ---------------------------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 23 ธ.ค. 48 15:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เรียน ท่านสหายผู้คุ้มกฏ (สำนวน ยุทธจักร เลยนะเนี่ย) นานมาแล้ว แม้ไม่กี่วัน ก็...เหมือนกับเวลาที่ผ่าน...นาน...เหลือเกิน... เอาละ...ว่าอย่างไรนะ...ท่านสหาย... จักพยายาม ขอรับ...ว่าไป... หนาว เท่าหนาวอุ่นเนื้อ          ไม่หนาว ลม    บ่มรักในคราว             สะอื้น ห่ม    ไออุ่นขวัญสาว            ช่วยซับ นัยน์เฮย รัก     ตราบแม้รื้นรื้น            หากปลื้มสุขเหลือ. แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 18:33:01 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ (พจนารถ๓๒๒) - [ 23 ธ.ค. 48 16:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สุขและสวัสดี ญาติมิตรอาศรมชาวโคลงครับ วันนี้ก็ยังหนาวกันอยู่ใช่ไหมครับ พรุ่งนี้ก็คาดว่าจะหนาวต่อไปอีก อืม มาคลายหนาวด้วย "หนาว ลม ห่ม รัก" กันต่อเลยนะครับ ************************************************** +++คุณดารุ (คห.๕๑)+++ หนาว  ยิ่งหนาวคราวอ่านกลอนตอนรุ่งสาง หนาว  ตาค้างนั่งจิ้มพิมพ์อยู่นี่ หนาว  เลยคิดไม่ออกว่าจะไงดี หนาว  โคลงกลอนทุกท่านนี้ที่มีมา ลม     ยิ่งพัดพาให้คิดไม่ออก ลม     ข้างนอกเปิดยิ่งหนาวยิ่งกว่า ลม     ยิ่งพัดสะบัดสั่นหวั่นอุรา ลม     หอบใจเหนื่อยล้าข้าไปที ห่ม     ผ้าห่มอุ่นกายพอหายหนาว ห่ม     ใจเราเหว่หว้าล้าเหลือที่ ห่ม     ด้วยมิตรภาพซาบซึ้งมี ห่ม     ด้วยไออุ่นรักนี้ที่อาศรม รัก     ด้วยรักบทกวีที่ไพเราะ รัก     เสนาะสำเนียงเสียงผสม รัก     ทั้งโคลงกลอนกวีมีให้ชม รัก     จึงก้มลงพิมพ์มาคารวะกัน สวัสดีคุณดารุครับ วรรณศิลป์เป็นสมบัติของชาติครับ ช่วย ๆ กันบำรุงรักษากันต่อไปนะครับทุกท่าน หนาว บันดาลวรรณศิลป์อย่าสิ้นสูญ ลม กวีอนุกูลให้พูนเพิ่ม ห่ม คำหวานหวานเตือนยังเหมือนเดิม รัก จะเสริมคำกวีนี้ยืนยง หนาว บันดลมนตรามารำร่าย ลม มาส่ายหมายยั่วดังประสงค์ ห่ม เข้าไว้หนอกวีหล่อร่วมวงศ์ รัก จะคงอมตาชั่วฟ้าดิน ************************************************** +++คุณปฤษณะ (คห.๕๒)+++ ยังไม่ขลังหรอกครับ (ฮา) หลวงพ่อท่านยังไม่ได้เป่าครับ อิ ๆ ************************************************** +++คุณAr@p (คห.๕๓, ๕๖, ๕๗)+++ ท่านใจอ่อนตัดสินใจลงไปใต้ เราดีใจหายเศร้ามั๊ง? คราวนี้ น้ำคงลดอดอยากจากไปที ทำแค่นี้เห็นไหมใครก็ชม อืม ตอนนี้ก็มีคนหนาว ๆ อีกคน คลับคล้ายคลับคลาว่าอยู่ไม่เป็นสุข ชอบบินไปโน่นไปนี่บ่อย ๆ หนาว กรุงเทพฯ ลงใต้ ไม่ใคร่หนาว ลม ครั้งคราว ชีพจร ลงเท้าได้ ห่ม ห่อความ เย่อหยิ่ง อย่างไรใคร รัก จะได้ เงินทอง ครอบครองเมือง รัก เลยร่อน ลงใต้ ไปดูหน่อย ลม ปากถ่อย เหม็นกว่าขี้เหลืองเหลือง ห่ม ความคิด ริษยา หวังรุ่งเรือง หนาว คงเปลือง เงินอีกแยะ แหวะนาย กอ เอ! บัตรโทรศัพท์ขูดแล้วไม่มีเลข ขูดแรงไปหรือเปล่าครับผม เลขเลยหลุดหมด แต่ที่สำคัญ การเอาเปรียบผู้บริโภคมันไม่ดีนะครับ หนาว บัตรโทรศัพท์โอ้..........เลขหาย ลม บ้าหอบเบอร์สลาย............สุดเพี้ยน ห่ม เงินซื้อมาหลาย.................ใบอยู่ นะพี่ รัก ผู้บริโภคเลี่ยน.................... เปลี่ยนให้ฟรีฟรี คงหนาวหนักเกือบตายอีกหลายวัน ลมหนาวจากฟากนั่น มันร้ายยิ่ง ทั่วทั้งร่างทุกสิ่งหดหมดจริงจริง เราคึกได้กับบางสิ่งเท่านั้นเอง ๕๕๕ หนาว ๆ หนุ่ม ๆ ก็ต้องคึกสิครับ จะให้หงอยอยู่ได้อย่างไรเล่า หลายวันนี้ที่ลมมาพรมพร่าง มันไม่ร้างห่างสิ่งที่ยึดเหนี่ยว คึกจริงจริงยิ่งคึกนึกคนเดียว บางสิ่งเสียวสุดคึกพิลึกจริง ลมจะพัดซัดมาหนักกว่าหนัก ไม่ขาดรักน้องนุ่งที่สุงสิง คึกสุดคึกคึกแต่เช้าเฝ้าแอบอิง แล้วจะยิ่งคึกมากไม่ยากเอย ************************************************** +++คุณmere (คห.๕๔, ๕๘)+++ หนาว จริงผับผ่าผ้า..............ผวยบาง ลม โชยพัดสะบัดคราง.........ครั่นเนื้อ ห่ม อกกอดมือวาง..............หว่างอก  เองนอ รัก ร่างนางช่างเรื้อ..............รัดร้อยใจถวิล หนาว จริงยินยิ่งก้าว...........ผ่าวไหว ลม  รักจางจากไป.............ก่อนนี้ ห่ม นางร่างองค์ไอ.............อ้อมอุ่น รัก สักกระผีกพี้.................ค่อยพ้อพรากลา หนาว ฤดูมาต่างต้อง..........พรากกัน ลม ช่างร้างรำพัน..............ผูกให้ ห่ม เพียงแต่ฟ้าปัน............ปองคู่ รัก อยู่เยี่ยงเพียงใกล้........สัตว์เลี้ยงหมาแมว ยิ่งหนาว อารมณ์กวียิ่งบันเจิดใจ คิดอะไรก็ออกมาพรั่งพรูนะครับ จิตนาการของกวีนี่มันหลั่งไม่หยุดจริง ๆ หนาว บัวตูมเต่งตั้ง..........ถวิลบัว ลม ถั่งโถมเนียนัว............ยั่วเย้า ห่ม จูบเล่นพันพัว............หลงเสน่ห์ บัวนอ รัก อย่าเร่งอย่าเร้า.............คล่อยเคล้าคลึงบัว หนาว กระหวัดกลุ้มกลัดทั่ว..........สรรพางค์ ลม เป่าเคล้าเคลียคราง...................คลั่งไคล้ ห่ม กอดสั่นเชยปราง.....................พลางกระเส่า กระซิกแม่ รัก อย่าล่วงอย่าไร้..........................ซึ่งรสกามถวิล หนาว หนักนักสาวหน้าหนาวนี้ ลม ผ่านทีผิวปลุกขนลุกซู่ ห่ม มิดชิดปิดเนื้อไม่เหลือดู รัก จะชูโฉมอวดทรวดทรงใด หนาว หน้ามหา,ลัยทำไมหนาว ลม เคยกราวกรูร้อนผ่อนผ้าไหว ห่ม สายเดี่ยวเรียวบางมาย่างใจ รัก สุกไหม้หมายตาถึงคราจาง หนาว เพราะบัดนี้ไม่มีเห็น ลม พัดเย็นเหงาเศร้าเร้าอ้างว้าง ห่ม เอกาอาจิณถวิลคราง รัก สักอย่างมีไหมมาให้รัก คุณmere มาด้วยกลอน ก็ต้องตอบด้วยกลอนสิครับ ๕๕๕ หนาว ขาอ่อน อวบอิ่ม จิ้มลิ้มหลาย ลม ปากชาย หมายจะชิม ลิ้มรสหวาน ห่ม น้อยน้อย หมายประจง จูบนงคราญ รัก มาหว่าน ทั่วไป เหมือนแกล้งลอง หนาว สายเดี่ยวเกี่ยวทีย่อมมีหลุด ลม มาช่วย นงนุช งามผุดผ่อง ห่ม ผ้าบาง อย่างนี้ พี่หมายครอง รัก อย่าป้อง ปัดไป มันไม่ดี หนาว หัวอก อวบอวบ เหมือนบวบขาว ลม ก็หนาว ร้าวไป ถึงใจพี่ ห่ม รูปทอง ผ่องพรรณ เรียน ป. ตรี รัก อยากมี รักนำ ชื่นฉ่ำเอย ************************************************** +++คุณศาลาไทย (คห.๕๕, ๕๙)+++ โห มีแวะมาแซวด้วยนะครับ อิ ๆ น่ารักจัง ************************************************** +++คุณ xers (คห.๖๐)+++ อ่อ คุณยายมาโน่นแล้ว แหม ปล่อยให้คุณตาผิงไฟอยู่คนเดียวได้ไงเนี่ยะ ๕๕๕ หนาว ยายยายปั่นรถ..........จักรยาน ลม กระหน่ำซ้ำตาอาน......แทบแย่ ห่ม ห่อเกี๊ยวกุ้งหวาน........ตาชอบ รัก หมี่อุ่นอุ่นแก้.................ดับแล้วความหนาว ************************************************** +++คุณพจนารถ๓๒๒ (คห.๖๑)+++ หนาว เท่าหนาวอุ่นเนื้อ          ไม่หนาว ลม    บ่มรักในคราว             สะอื้น ห่ม    ไออุ่นขวัญสาว            ช่วยซับ นัยน์เฮย รัก     ตราบแม้รื้นรื้น            หากปลื้มสุขเหลือ แหม มาด้วยสำนวนจอมยุทธ อืม ก็จะตอบอย่างจอมยุทธครับ หนาว หนาวร่ำร่ำด้วยน้ำ..........อมฤต ลม ลมดื่มสักนิด.........................อย่าน้อย ห่ม ห่มอย่าลืมมิตร....................สักจอก ซีพี่ รัก เดือนคลาเคลื่อนคล้อย......ร่ำร้องเพลงกวี หนาว ไหนไป่เปรียบเท่า..........เมาหนาว ลม สุราร่ำกันยาว.......................แต่นี้ ห่ม ด้วยกับแก้มคาว...................หวานครบ ถ้วนเฮย รัก อย่าลาหลีกลี้........................ค่ำนี้ยาวยืน จากคุณ : เทพกร - [ 23 ธ.ค. 48 20:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หนาว หนาวยืนยงยาวยืน ลม พัดทั้งคืน ห่ม ชื่นรื่นรสนวลปราง รัก แรกแหวกกฏบทวาง หนาว หรือเว้นว่าง ลม พร่างจูบไล้ไซร้ผิว ห่ม ห่อก่อเพลิงเริงปลิว รัก ล่นท้นทิว หนาว เหน็บเจ็บปวดทรวดทรง ลม ร่านซ่านทั่วตัวอนงค์ ห่ม บัวบุษบง รัก เลี้ยงเพียงก่อกามสันต์ บ่รู้ปีเดือนเลือนวัน เกษมหฤหรรษ์ กับรสหล่อเลี้ยงเพียงสรวง หนาวนี้พี่พรอดพุ่มพวง ลมหล่อห่อหวง ห่มรักหนักแม้แปรผัน บรรเลงเร่งบทอัศจรรย์ ฝนฟ้าพรูพลัน หนาวสั่นหวั่นใจกระเจิง หนาวนี้พี่ร้อนดั่งเพลิง รุมรุมเริงเริง บันเทิงใจแสนบรรเทา นิ่มน้องโฉมยงนงเยาว์ ผ่อนเร่งผ่อนเบา โลกเล่าเราครองคู่ควร แถม กาพย์ฉบัง ๑๖ เสียหน่อยครับ เป็นกับแก้มยามหนาว ๆ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 20:20:25 จากคุณ : เทพกร - [ 23 ธ.ค. 48 20:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ลืมลงรูปสาวคราวนี้ ชอกช้ำกระหล่ำปลี ไม่ดี๊ไม่ดีไม่งาม ๕๕๕ จากคุณ : เทพกร - [ 23 ธ.ค. 48 20:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โอ้โห... กาพย์พี่เทพกร หนาวจนเหงื่อแตกเลยครับ... ยิ่งเห็นรูปด้วย... โอ้ย.... วันนี้ได้หนังสือสองเล่มครับ... "ยามสายัณห์" ของ ลุงเจียวต้าย ดึงออกมาจากซองจดหมายปุ๊บ... รู้สึกเหมือนกลับไปเรียนมหาลัยใหม่อีกครั้งปั๊บ... รูปเล่มเหมือนตำราเรียนเลยครับ... อิอิ... ดูเนื้อหาข้างในแล้ว.. น่าสนใจมากครับ... ขอบพระคุณลุงไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ... ป.ล. ผมขอนำที่อยู่บนซองไปให้บ้านเด็กพิการ ไว้ส่งใบเสร็จค่าบริจาคให้ลุงนะครับ... อีกเล่ม... "บนหมอนรองรางรถไฟฟ้า" ของ อ.เชษฐภัทร เดินดูบนหิ้งถึงรู้ว่าอยู่ในชุด "ผลงานวรรณกรรมดีเด่น" ของ Nanmeebooks นี่เอง... เล่มนี้เป็นหนึ่งในหก (ถ้านับไม่ผิด) เปิดผ่านๆไปจนถึงปกหลัง... ค่อยได้คิด... ทำไม เวปนานมีฯ ไม่โชว์ปกหลังด้วยนะ... หน้าอาจารย์คมเข้มซะขนาดนี้อิอิ... ขอตัวไปอ่านทั้งสองเล่มก่อนนะครับ คืนนี้.... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 23 ธ.ค. 48 21:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 66 หนาว ใดในอกหล้า.....................ฟ้าฝน ลม ล่องไหลเวียนวน....................เหวี่ยงเศร้า ห่ม ผ้าห่มผิวปน...........................เปียกเปื่อย รัก อยู่ฤดูเคล้า..............................คลั่งคล้องครองเกษม หนาว เอมโอษอิ่มเอื้อ...................ใจไทย ลม หนึ่งซึ่งลมใจ...........................จากป้อง ห่ม รักห่มรังใด..............................แดอุ่น รัก เพื่อนไทยพี่น้อง.......................หนึ่งฟ้าเดียวกัน หนาว หากปันปัดป้อง...................แผ่ใจ ลม หมื่นมิตื่นไหว..........................หวาดแพ้ ห่ม กันแก่กันไว............................หวังร่วม รัก หลั่งรวมเลือดแท้......................ถั่งสู้ฤดูหนาว แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 22:50:27 จากคุณ : mere - [ 23 ธ.ค. 48 22:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีทุกๆท่านค่ะ เห็นคุณยายในรูปของคุณ xers ก็คิดถึงเพลงนี้ "...ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่(ฮาย) แห๋มบ่เต้าไดก็จะเป็นสาวแล้ว ตึงวันมีบ่าวมาแอ่ว มาอู้มาแซวเป็นคนละปูน ...." หากไปอู้ไปแซวคุณยาย ระวังคุณตาก็ดีนะคะ หุหุหุหุ แล้วก็หนาวจริงๆกับคุณ Ar@p โลกมันมักไม่ยุติธรรมกับคนดีอยู่บ่อยๆค่ะ ส่วนรูปของคุณ เทพกร ทั้งดีและงามแหละค่ะ ...ฟันธง กลับไปด้วยความหนาวอีกครั้ง หนาว ลมพัดสะบัดปลิวหวิวทั้งร่าง ลม    โชยกลิ่นจางจางจากทางไหน ห่ม     มิดชิดกระมิดกระเมี้ยนมองรอบกาย รัก     ฉันรักเธอมากมาย..เว้นกลิ่นเธอ.... ....ราตรีสวัสดิ์วันหนาวๆทุกๆท่านค่ะ จากคุณ : ดารุ (ดารุ) - [ 23 ธ.ค. 48 23:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สวัสดีวันฝนตกกลางลมหนาวครับ วันนี้หนาวจนหมดอารมณ์กลอน มาทักเฉยๆ(แต่ไม่ผ่านเลย) อ่านงานทุกท่านแล้วก็ชื่นชม............. น้าอาร์พี กับพี่ศาลาไทย ลองประชันโต้กัน ท่าจะมันส์มิน้อย อิอิ ไว้กลับกรุงเทพแล้วจะเอากลอน เอาโคลง มาแปะครับ ส่วนอันที่ถูกฉ้อฉลไปใช้ อโหสิกรรมแล้วครับ เพราะท่าทางสหายน้ำมิตรของผมกับคนอื่นๆที่ถูกขโมยผลงานไปจะไปถล่มเขาซะเละแล้ว -*- ว่าไปก็สงสารหน่อยๆ สวัสดีครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 23 ธ.ค. 48 23:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดีตอนดึกครับ ทุกท่าน พี่ ณ มิตร ท่าทางจะมีความสุขกับหนังสือนะครับ อยากได้แต่ไม่กล้ารบกวนอีก เพราะมัวแต่ไปเถลไถล เชียงรายหลายวันพลาดโอกาสอ่ะ สงสัยหลับคาหนังสือไปแล้วตอนนี้ พรุ่งนี้มีธุระคงไม่ได้มาเฝ้าอาศรมฯ ครับ พี่เทพกร กาบเรือที่แหลมฉบัง มีคลื่นซัดด้วยน้อ โคลงไปก็โคลงมา คุณดารุ สงสัยต้องไป ชักกล้องที่เดียวกับ'14 ของ พี่ mere ล่ะครับงานนี้ อิอิ ไฉน? มีแต่คนแต่งไม่ออก(รวมผมด้วย) พอมีคำ รัก นี่มันแต่งยากจริงๆ นะ โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากแตะต้องคำนี้... พี่โกฏิดารา ทั้งฝนทั้งหนาวเลยนะนี่ เศร้าสร้อยน่าดู ไหนๆ ดอกลิลลี่ ก็ยับยู่ยี่ปี้ป่น ไปแล้วสดชื่นหน่อยนะครับ ดอกมันแต่งโคลงไม่เป็น มีแต่เราแต่งให้ดอกอ่ะ ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่าน จากคุณ : xers - [ 24 ธ.ค. 48 00:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 70 [ ดอกฟ้ากะหมาวัด ] ------------------------------------------------------------------------   ๏ หนาว  ลิลลี่ดอกนี้.....หน้าบาน ลม  พร่ำพ่นคอยขาน....ข่มข้า  [ เปลี่ยนจาก ของ เป็น ข่ม ผิดอีกแล้ว ] ห่ม  สวยสดประจาน.....จากนอก ลัก  ลอบลอกโคลงค้า...คิดได้อายหมา.น ๚[ ใส่ "น" เข้าไปแล้วเสียงหวานขึ้นน้อ ศิษย์พี่โกฏิดารา ] [ ค้า = ออกแสดง ] สวัสดีตอนเช้าหนาวๆ แอบแว๊บมาก่อนจะไปธุระ ขอรับ เซ่อน้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 14:27:50 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 48 23:29:25 จากคุณ : xers - [ 24 ธ.ค. 48 08:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หนาวลมห่มรักร้อน.............นอนฝัน หนาวลมห่มรักพัน..............ผูกไว้ หนาวลมห่มรักสรรค์............เสกสร้าง  สุขเฮย หนาวลมห่มรักให้................อุ่นเอื้ออาบอรุณ ลมหนาวรักห่มร้อน..............หายหนาว รักหนาวห่มลมหนาว............หนักแท้ ลมร้อนห่มรักหาว...............เย็นฉ่ำ  ชื่นเลย รักร้อนห่มลมแก้................อาจแก้ด้วยหนาว ไม่ได้แปะโคลงในอาศรมมานานัก ผิดพลาดประการใดพี่น้องอภัยด้วยนะครับ คิดถึงเสมอ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 24 ธ.ค. 48 12:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ่าน "ยามสายัณห์" หนังสือทำมือ ของ ลุงเจียวต้าย จบแล้วครับ... ได้เกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์เก่าๆตั้งแต่สมัยผมยังไม่เป็นวุ้นเลยซะด้วยซ้ำ... ได้ข้อคิดก็เยอะครับ... ฝากความคิดถึงไปหาเจ้าทองดำ, เจ้าน้ำเงิน และนังขาวด้วยนะครับ.. ส่วนเจ้าตัวอื่นๆเด๋วผมทำบุญตามไปให้ครับ... ลุงใจดีจริงๆครับ... ขอบพระคุณลุงมากครับ... "ยามสายันต์"อ่านแล้ว          ได้คิด คนชั่วดีถูกผิด                     แค่นั้น หากยังร่วมชีวิต                   กันอยู่ ขอพักในถิ่นหั้น                   ถิ่นผู้ใจงามฯ พี่เซ่อร์ อย่าลืมเอารูปที่ถ่ายมาลงอีกนะครับ... ดูรูปยายยิ้ม... แล้วอบอุ่นจริงๆ... ล.ป. ถ้าน้าอาร์พี กับ น้าศ. จะปะทะกันจริงๆ... ศึกนี้ใครจะพลาดได้ครับ.... เมื่อคืนซื้อหนังสือเสร็จขับรถกลับบ้าน.. ถนนมันว่างดีแต้ๆ ทั้งๆที่เป็นคืนวันศุกร์... สวัสดีวันว่างครับ... แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 48 15:06:13 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 24 ธ.ค. 48 14:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดีวันเสาร์ครับชาวอาศรมโคลง วันนี้วันหยุดครับ หลายท่านอาจจะตื่นสายสักหน่อย หลังจากเหนื่อยงานกันมาทั้งสัปดาห์ครับ ปีใหม่นี้รัฐบาลท่านก็ประกาศให้หยุดได้ตั้ง ๔ วัน คือ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๘ อันเป็นวันส่งท้ายปีเก่าครับ ตามด้วยวันขึ้นปีใหม่ ๑ มกราคม ๒๕๔๙ แล้วก็แถมให้อีก ๒ วันครับ คือวันที่ ๒ และ ๓ มกราคม ๒๕๔๙ ท่านที่มีโปรแกรมไปท่องเที่ยวรับลมหนาว ก็ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย ประสบสวัสดิภาพครับ และท่านที่ไม่มีโปรแกรมจะไปไหนในช่วงปีใหม่ ก็ขอให้ท่านอยู่เฝ้าอาศรมโคลงด้วยนะครับ (ฮา) เดี๋ยวจะร้างหยากไย่ขึ้นช่วงปีใหม่ เพราะชาวอาศรมหนีเที่ยวกันหมดเสียก่อน ************************************************** +++คุณณ มิตร (namit) (คห.๖๕, ๗๒)+++ สวัสดีวันเสาร์ครับ คุณณ มิตร ขอให้อ่านหนังสือในวันหยุดให้สนุกนะครับ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้กับชีวิตถือเป็นกำไรนะครับ การอ่านหนังสือก็เสมือนกับการเดินทาง ยิ่งอ่านมาก ก็เหมือนเราได้เดินทางมากครับ อิ ๆ แต่อย่ามาเหงื่อแตกเหมือนผมเลยครับ (ฮา) มันเหนื่อย ๕๕๕ หนาวลมห่มรักสักคืน พิงฟ้าไฟฟืน ครองชื่นคืนสุขสุดสันต์ ใยรักร้อยรักอัศจรรย์ หลับตื่นตื้นตัน เมื่อขวัญเคียงขวัญหรรษา สบสุขปลุกปลื้มลืมตา กรก่ายไขว่ขว้า ฉิมพลีวิมานเมืองสรวง ครองขวัญรักแท้แดดวง ดื่มรสผึ้งรวง หวานใดบ่ได้ทันเทียม น้ำรักลิ้มรสใจเจียม ปรุงรสรักเปี่ยม เอี่ยมรสรักรื่นยืนยง ************************************************** +++คุณmere (คห.๖๖)+++ หนาว ใดในอกหล้า.....................ฟ้าฝน ลม ล่องไหลเวียนวน....................เหวี่ยงเศร้า ห่ม ผ้าห่มผิวปน...........................เปียกเปื่อย รัก อยู่ฤดูเคล้า..............................คลั่งคล้องครองเกษม หนาว เอมโอษอิ่มเอื้อ...................ใจไทย ลม หนึ่งซึ่งลมใจ...........................จากป้อง ห่ม รักห่มรังใด..............................แดอุ่น รัก เพื่อนไทยพี่น้อง.......................หนึ่งฟ้าเดียวกัน หนาว หากปันปัดป้อง...................แผ่ใจ ลม หมื่นมิตื่นไหว..........................หวาดแพ้ ห่ม กันแก่กันไว............................หวังร่วม รัก หลั่งรวมเลือดแท้......................ถั่งสู้ฤดูหนาว "หากไทยไม่ช่วยไทย ก็แล้วใครจะมาช่วยเรา" ส่งกำลังทรัพย์ พร้อมกำลังใจ เพื่อสู้ภัยหนาว และอุทกภัยครับ หนาว คืนคืนเคลื่อนคล้อย..........พลอยหนาว ลม ยิ่งพัดพรูพราว........................เช่นนี้ ห่ม ใจไทยทุกคราว......................ช่วยน้อง พี่เอย รัก ไทยรักอยู่ที่.............................ช่วยเกื้อปันกัน หนาว วันวันใต้นี้.......................อุทกภัย ลม ส่งน้ำพาไป...........................ท่วมพื้น ห่ม จิตน้ำมิตรไทย......................ขจัดน้ำ ท่วมนอ รัก ไทยรักไทยย่อมฟื้น.............กลับร้ายกลายดี ************************************************** +++คุณดารุ (คห.๖๗)+++ หนาว ลมพัดสะบัดปลิวหวิวทั้งร่าง ลม    โชยกลิ่นจางจางจากทางไหน ห่ม     มิดชิดกระมิดกระเมี้ยนมองรอบกาย รัก     ฉันรักเธอมากมาย..เว้นกลิ่นเธอ.... อิ ๆ แหม รักมากมายยกเว้นกลิ่นนะครับ หนาว กลิ่นกรุ่นอุ่นอาบที่ฉาบผิว ลม สะบัดพัดปลิวฉิวไปไหน ห่ม มิดชิดไม่พ้นคนจมูกไว รัก กลิ่นไอของเจ้าเข้าในทรวง หนาว กลิ่นแก้มกลิ่นกายยามย้ายเยื้อง ลม พัดเบื้องบนมาข้าหวงห่วง ห่ม ใจพี่นี้เล่าเท่าแดดวง รัก ทั้งปวงหน่วงจิตเป็นนิจเอย ************************************************** +++คุณโกฏิดารา (คห.๖๘)+++ สวัสดีวันหยุดครับคุณโกฏิดารา แปลอย่างเจ๊ไก่แล้วล่ะก็ คงจะหมายถึง "ดาวล้านดวง" อะไรทำนองนี้หรือเปล่า? ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขครับ ************************************************** +++คุณxers (คห.๖๙, ๗๐)+++ ๏ หนาว  ลิลลี่ดอกนี้.....หน้าบาน ลม  พร่ำพ่นคอยขาน....ของข้า ห่ม  สวยสดประจาน.....จากนอก ลัก  ลอบลอกโคลงค้า...คิดได้อายหมา ๚ มีโอกาสไปเที่ยวดอยตุง ดอกไม้ที่นั่นบานสะพรั่งรับลมหนาว อากาศก็ดี หมอกก็ลง แหม หนาว หน๊าว หนาว หนาว พันธุ์บุปผชาติช่อ..........ทรงงาม ลม ซ่านเกสรวาม......................ยิ่งแล้ว ห่ม กลิ่นผกาหวาม....................ใจยิ่ง หวามเฮย รัก แสนรักเพริศแพร้ว.............แก้วนั้นวรรณผกา ************************************************** +++คุณปะหล่อง (คห.๗๑)+++ หนาวลมห่มรักร้อน.............นอนฝัน หนาวลมห่มรักพัน..............ผูกไว้ หนาวลมห่มรักสรรค์............เสกสร้าง  สุขเฮย หนาวลมห่มรักให้................อุ่นเอื้ออาบอรุณ ลมหนาวรักห่มร้อน..............หายหนาว รักหนาวห่มลมหนาว............หนักแท้ ลมร้อนห่มรักหาว...............เย็นฉ่ำ  ชื่นเลย รักร้อนห่มลมแก้................อาจแก้ด้วยหนาว สวัสดีครับคุณปะหล่อง พักนี้ไม่แวะคลับสุนทราภรณ์บ้างหรือครับ อิ ๆ ตอนนี้ผมก็พักร้อนผ่อนกายมาคลายหนาวที่อาศรมชาวโคลงครับ หนาวลมห่มรักเร้น..........ปริศนา ลมห่มรักหนาวมา............ยิ่งช้ำ ห่มรักหนาวลมพา............ใจป่วน แสนนา รักหนาวลมห่มซ้ำ............โอ้ช้ำใจเหลือ จากคุณ : เทพกร - [ 24 ธ.ค. 48 15:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 74 หนาว แก้มนุ่มกุมใจให้ชายหลง ลม เสน่ห์โฉมยงหลงสนิท ห่ม เสื้อดำขับผิวนวลชวนให้คิด รัก จะชิดเชยชมนิยมนาง ยิ้มหมายยวนชวนเชิญมาเพลินพิศ ขนงทรงอิทธิฤทธิ์ไม่คิดห่าง วงพักตร์พริ้มยิ้มระเรื่อไม่เจือจาง ชมพูปรางนางปรุงอำรุงจริง โอ๊ยยิ่งคิดยิ่งครุ่นให้วุ่นหนัก คำว่า "รัก" ชักจูง ให้ยุ่งขิง ดูแต่ภาพวาบว่าอย่าประวิง เดี๋ยวจะยิ่งยุ่งยากลำบากตัว อาหารตาอาหารใจใช่ไหมเล่า อย่าดูเบาเชิญชิมลิ้มให้ทั่ว ขออย่างเดียวอย่าได้เข้าไปพันพัว ประเดี๋ยวบัวหนูจะลดหมดราคา อิ ๆ จากคุณ : เทพกร - [ 24 ธ.ค. 48 15:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กลับมาอ่านอีกรอบค่ะ อ่านไปหนาวไปเพราะหวัดเล่นงานงอมแงม จากคุณ : สหายสันติ - [ 24 ธ.ค. 48 16:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สาวธนชาตงามงดยิ้มหยดย้อย โอ้แม่กลอยใจพา ณ มิตร ฝัน ชวนไปซื้อกองทุนลุ้นด้วยกัน ของรางวัลที่ได้มาให้ยาใจ... พี่เทพกรไปงานศูนย์สิริกิติ์มาด้วยเหรอครับผม? จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 24 ธ.ค. 48 17:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 วันหยุดสองวันนี้ติดงานอยู่ในกรุงเทพทั้งงานศพและงานวันเกิด มีช่วงว่างสั้น ๆ ได้เข้ามาอ่านกระทู้ใหม่นิดหน่อยส่วนกระทู้ที่ผ่านมาก็ได้แต่บันทึกเก็บไว้อก่อน การอ่านโคลงในอาศรมแบบศึกษาด้วยตัวเองถือเป็นการฝึกหัดได้ดีประการหนึ่ง มือใหม่นอกจากจะอ่านทบทวนและตรวจทานบทโคลงของตนเองแล้วก็ควรจะอ่าน โคลงกลอนของคนอื่นเพื่อศึกษาทาง อ่านความคิด แล้วซึมซับเก็บไว้เป็นคลังสมอง คนที่ไม่สนใจศึกษาอ่านโคลงกลอนของผู้อื่นแต่อยากแสดงฝีมือตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว จะแตกฉานการโคลงได้ยาก  การเฝ้ากระทู้จึงเป็นการฝึกปรือที่เข้มข้นเพราะจะต้อง อ่าน สังเกต ตรวจฉันทลักษณ์  ตีความ กลั่นกรอง แล้วเสนอแง่มุมส่วนที่เราคัดคั้น เอาได้จากบทโคลงของเพื่อนที่ส่งมาร่วมกระทู้ เห็นคุณ  xers (60) เปรย ๆ เรื่องเสียงโคลงที่ผมค้างคาไว้ก็ขอผลัดไปก่อน     และขอ บอกกล่าวไว้ว่าเป็นมุมมองส่วนตัวที่ได้จากตำรา จากครูในอาศรม จากการอ่านเขียน มาระยะเวลาหนึ่ง มาเล่าสู่กันฟัง ไม่ใช่ทฤษฎีตายตัว  ....เอาไว้คุยทีหลังครับ.... อ่านกลอนบทเดียวของอาพีแล้วชอบใจในอารมณ์และถ่ายทอดเป็นภาษาที่น่ารัก แต่เหน็บลึกอยู่ในที  อ่านแล้วแตกความคิดเขียนกลอนเลยเถิดไปหลายบท ตั้งชื่อ ไว้ว่า ..เพลงเถื่อนเอื้ออาทร....  เขียนเมื่อคืนได้ 3 แถว แล้วเขียน ๆ หยุด ๆ จนจบ ในวันนี้ เป็นการร่วมวงกลอนกับอาพี หนาว-ลม-ห่ม-รัก ------------------------------- หนาว.....หนักพักนี้มีแต่น้ำ ลม..........ก็พร่ำกราดใส่ไม่สงสาร ห่ม.........น้ำตาอาดูรคงอีกนาน รัก..........นายก แต่ท่านไม่รักเรา. เอย. ท่านรักใคร. 21-12-2548 ท่านใจอ่อน, ตัดสินใจลงไปใต้ เราดีใจ หายเศร้ามั๊ง? คราวนี้ น้ำคงลด  อดอยากจากไปที ทำแค่นี้เห็นไหม ใครก็ชม 23122548-1 จะส่งแผ่นซีดีเพลงให้ศาลาไทยช่วยแจกผู้เฒ่าชาวโคลงก็ยังยุ่งนุงนัง  ไม่ใช่ของ ขวัญปีใหม่  จึงยังไม่รีบ เขียนโคลงฉีกกระทู้หนึ่งบทตามธรรมเนียมชาวอาศรม  อ่านแล้วถ้าจะมีใคร มาตีหัวก็กรุณาตีหัวพวกน้องใหม่ทั้งหลายด้วย เพราะเราก็จำ ๆ เขามาเขียนอีกที ๏  หนาว-ลำไส้ใหญ่ย้อย       ทวารยาน       ลม- เบ่งผายเบิกบาน            บูดคลุ้ง ห่ม-ผวยร่วมผืนผสาน           เสียงตด รัก-ร่วมหมอนนอนมุ้ง           เน่าแม้นละมุนหอม   ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 ธ.ค. 48 18:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ........เพลงเถื่อนเอื้ออาทร........ ๑ ผจงสารสุวภาพกราบเรียนถาม กลางพายุทุรยุคโหมลุกลาม แลไฟกามเกาะกุมขึ้นสุมทรวง ๒ ฟ้าอุ้มฝนไปฝากที่ภาคใต้   ถึงน้ำท่วมทนได้มิต้องห่วง แต่ลมเหนือยิ่งใหญ่กว่าใครปวง อย่ารอคนถามทวงความอาทร ๓ ฤๅน้อยใจคนใต้เขาไม่รัก จึงเอ่ยอ้างงานหนักเข้าไว้ก่อน เขารักแม้วนักหนาทั่วนาคร ยกเว้นตอนลงคะแนนน่าแค้นจัง ๔ “สึนามิ” ครบปีเข้านี่แล้ว “สึนาแม้ว” ควรรำลึกตรึกความหลัง โอ้สนธิเคยชะเลียร์เชียร์จนดัง มาเกลียดชังสาวไส้ให้กากิน ๕ อันน้องโอ๋ น้องอ้อ ชื่อ ออ.อ่าง เป็นสอ.สอ.มิสร่างทุกข์โศกสิ้น เอกยุทธ์ตัวแสบแค่แลบลิ้น ถึงปล้อนปลิ้นว่าน้องแอบท้องโต ๖ คนขอนแก่นแสนเก่งขอกรานกราบ แก้วมุกดาอิ่มอาบงามอวดโอ่ ได้เชื้อเชิญน้องดาออกมาโชว์ จนชูวิทย์จอมโวแทบวอดวาย ๗ คุณหญิงหมอก็อย่าหมายจะคลายทุกข์ ที่เป็นศพเขายังปลุกมารำร่าย เป็นนางเอกโดดเดี่ยวแสนเดียวดาย เมื่อตำรวจกับผู้ร้ายมาคล้ายคลึง ๘ นกยังเป็นไข้หวัดสาหัสนัก รอ.มอ.ตอ. แตกหักมิเป็นหนึ่ง ถึงป๋าเหนาะเงียบงำมิอำอึง มีเฉลิมเหม็นหึ่งมาฮือฮา ๙ โอ้สวนสัตว์ใครอสัตย์ยังสับสน ช่างถึงลูกถึงคนจริงเจ้าข้า อันกลอนดีอ่านดังหมายสั่งลา จึงเบ้าตาบวมแตกแหกเป็นรู ๑๐ ใครใคร่ค้าช้างม้าหมูกาไก่ แลกเครื่องบินลำใหญ่พอทราบอยู่ เอฟ.สิบแปดมะริกาแพงน่าดู เปลี่ยนเป็นซู.รัสเซียละเหี่ยใจ ๑๑ ฉันมิใช่ฝ่ายค้านมาค้านแหลก ด่าคนอื่นดื่มแด่กพอฟังได้ คราวตัวเองได้แด่กกลับแปลกไป ปิดปากใบ้มืดบอดตลอดปี ๑๒ ดาวยังเผลอละเมอพลาดตกดาดฟ้า ไปเหว่ว้าหล่นดินต่างถิ่นที่ อยากจะต่อว่าน้องท้องทั้งที ปล่อยให้พี่ฝันเปรอะเลอะมานาน ๑๓ โน่นสองดาวเคียงคู่งามหรูเริด งานวิวาห์พราวเพริดเพิ่งพ้นผ่าน ไยมาแข่งแถลงข่าวแสนร้าวราน ยอมประจานเตียงหักวันรักเลือน ๑๔ ดาวพุธเดินถอยหลังวังเวงหวาด ท่ามกลางดาวดื่นดาดระดะเกลื่อน จงเป็นดาวแสนดีนับปีเดือน อย่าเอ่ยเอื้อนโอษฐ์อ้าด่าเรื่อยไป ๑๕ ผจงสารสุวภาพพอทราบเรื่อง เขียนถึงดาวประจำเมืองยามหม่นไหม้ ถ้าอยากสมนามพรรคไทยรักไทย จงเทใจรักเราเท่าเท่ากัน  ฯ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 48 18:17:36 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 ธ.ค. 48 18:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 79 "คุณ คัมภีร์โบราณ ไม่สะดวกรับข้อความจากคุณค่ะ" แง ๆ เฮียคัมฯ รบกวนเช็คหลังไมค์หน่อย สงสัยศาลาไทย ถูกโยนไปอยู่ใน "แบล็คลิตร" เอ้ย "บล็อคลิสต์" ค่ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 ธ.ค. 48 18:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีกันอีกคราวค่ะ  มิตรสหายอาศรมชาวโคลงทุกท่าน เย้ ๆ ศาลาไทยติดต่อหลังไมค์กับเฮียคัมฯ ได้แล้ว  เจ้า ณ มิตรมาช่วยดีใจหน่อย (แอบกระซิบ ณ มิตร ว่า งอนเฮียฯ ล่ะ ณ มิตร แอบเตะศาลาไทยไปไว้บล็อคลิสต์ ... เชอะ) แต่อ่านกลอนเฮียแล้วยังถูกใจเหมือนเดิม  ยังติดใจกลอนครั้งกระโน้นมากกว่า  ที่ว่า " ... ๏ ดาวใส วัยเยาว์ แห่งเราสอง หลงห้อง เหวห้วง สิเนหา โลกมืด ไหม้มอด ตลอดมา เพราะดาว บนบ่า บังตาเธอ ๚ " ปลายปีของศาาไทยเป็นช่วงที่ยุ่งวุ่นวายอีกตามเคย  แต่เป็นความวุ่นวายที่เต็มไปด้วยความสุข ความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันความสุข  จากคนหนึ่งถึงใครอีกมากมายเหมือนเคย แค่นี้ก็ทำให้มีความสุขได้สม่ำเสมอแล้วค่ะ   หาทางเขียนโคลงกระทู้ ชื่ออาศรมฯ มาหลายวัน หวั่น ๆ คนเฝ้าอย่างคุณเทพกรจะน้อยใจเอา เอิ้ก ๆ เพิ่งสบโอกาสวันนี้เองค่ะ   ๏ หนาว ใดไยเหน็บเนื้อ        นวลหมอง ลม หอบทุกข์ทบครอง            หม่นเศร้า ห่ม โศกแห่งเราสอง               ยามจาก รัก มอบเพียงเรียมเจ้า           ย่อมแจ้งใจเสมอ ๚ มีธุระต้องไปติดต่องานที่พระนครศรีอยุธยา  ทานมื้อเที่ยงริมน้ำ เหลือบไปเห็นเข้าพอดี  คิดถึง...    เลยลองซูมกล้องเก็บรูปมาฝากค่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -             . แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 48 21:38:42 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 ธ.ค. 48 21:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 หนาว ลมห่มแต่ผ้า                    มิหาย ลม ห่มเย็นทั่วกาย                    สะท้าน ห่ม รักมักวุ่นวาย                      ในอก รัก มากเลือกหลายด้าน              สุดท้ายอดเลย. เมื่อหนาวลมจะห่มผ้าก็มิหาย ลมเย็นพัดต้องกายสะท้านทั่ว ครั้นห่มรักมักวุ่นวายใจระรัว ชักนึกกลัวรักหลายรายสุดท้ายแห้ว จะให้ดีรักหนึ่งเดียวแต่เหนียวแน่น มีรักอื่นหมื่นแสนแม้หวานแหวว มั่นคงไว้ล็อคหัวใจไม่นอกแนว กลับบ้านแล้วเป็นของเธอเสมอเอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 ธ.ค. 48 05:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 82 [ Merry X'mas ] ----------------------------------------- สวัสดีครับทุกท่าน สงสัยจะได้หยุดยาวกันหลายท่าน นะขอรับ ยังไงถ้าว่างก็แวะมาเยี่ยมกันบ้างเน้อ สวัสดี พี่ปะหล่อง มาเสกกระทู้สี่ ห่มชาวอาศรมฯ สงสัยจะไม่ได้วางนานแลัวจน สร้างโคลงตกเอกโท ตกลมหนาวร้อน นอพี่... สวัสดี ศิษย์พี่ ณ มิตร ภาพมีเยอะแต้ๆ แล้วจะคัดมาวางให้ชมครับ วันนี้ ละเมอรี่คิดหมาดๆ ไปก่อนอ่ะ สวัสดี พี่เทพกร ฝากช่วยชำแหละโคลงของผมด้วยน้อครับ สวัสดี พี่สหายสันติ  ระวังหวัดระบาดนะ ขอรับ สวัสดี พี่คัมภีร์ สงสัยจะงานยุ่งมิเป็นไรครับ ว่างๆเข้ามาติติงก็อุ่นใจแล้ว บางทีก็ต้องการประสบการณ์มางัดแงะ ขอรับ ๒ ฟ้าอุ้มฝนไปฝากที่ภาคใต้   ถึงน้ำท่วมทนได้มิต้องห่วง แต่ลมเหนือยิ่งใหญ่กว่าใครปวง อย่ารอคนถามทวงความอาทร [ อันนี้ก็เหน็บลึกมิแพ้ น้าอาร์พีนะครับ ] สวัสดี พี่ศาลาไทย "แบล็คลิตร" นี่สาดแก้หนาวดีแท้นะครับ อิอิ ในที่สุดก็มาวางโคลง เมาๆ สักทีน้อ สวัสดี ปู่เจียวต้าย มาประจำเช้าๆ ด้วยสำนวนสุขุมนุ่มนวลอย่างเคยนะครับ แล้วบ่ายๆ เย็นๆ จะมาวางโคลงให้แนะนำนะครับ เซ่อน้อมบันทึก ----------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 25 ธ.ค. 48 11:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 หือ...ลืมภาพครับ ------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 25 ธ.ค. 48 11:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เฮียคัมฯ พยายามจะฉีกโคลงให้ได้เหมือนคราวที่เฮียสอนไว้ใน "สวนน้อยพันหอม" นะครับ... แต่คิดไม่ออกจริงๆ จนมาเห็นของ พี่mere กับ เฮียคัมฯ นี่แหละครับ...   คลุ้งเชียว...อิอิ.. น้าศ. "เย้ ๆ ศาลาไทยติดต่อหลังไมค์กับเฮียคัมฯ ได้แล้ว  เจ้า ณ มิตรมาช่วยดีใจหน่อย (แอบกระซิบ ณ มิตร ว่า งอนเฮียฯ ล่ะ ณ มิตร แอบเตะศาลาไทยไปไว้บล็อคลิสต์ ... เชอะ)" ต่อไปนี้ เฮียคัมฯ ต้องตะลึงกับข้อความหลังไมค์จำนวนมหาศาลต่อวัน หรือ JK (เรียกง่ายๆว่า Junk Krazip) จาก น้าศ. แทนผมแล้วสินะเนี่ย... ( ล้อเล่นน้า ) ลุงเจียวต้าย "กลับบ้านแล้วเป็นของเธอเสมอเอย" แสดงว่าตอนอยู่นอกบ้านนี่... เป็นของใครไม่รุ พี่เซ่อร์ ยังรอชมรูปงามๆต่อ... อิอิ.. สุขสันต์วันคริสต์มาสพี่เทพกรและทุกท่านครับ... แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 12:53:01 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 25 ธ.ค. 48 12:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 85 หนาว    จิตคิดบาปซ้ำ .............กรรมชรูป ลม   กรรตุสถูป............................กราบไหว้ ห่ม  สติจุตูป - ..............................ปาตธาตุ รัก  รากรัตนใกล้...........................กลั่นแก้วนิพพาน หนาว  ปานปัสสัทต้อง................ต่อมไต  แตกนอ ลม  ต่ำอุทธัสจะไหล....................หลับแล้ว ห่ม  ธาตุจตุไว..............................วิมุติ รัก วิมังสะแคล้ว...........................คล่องคล้องจรดฤดี. หมายเหตุ   : 1  ไม่ได้เขียนโคลงธรรมะบ่อยนัก เพราะยากต่อการเข้าถึง..... 2  ความชั่วคนดีทำได้ยาก  พึงรำงับจิต ไตร่ตรองตนอยู่เสมอ 3  กรรตุ อ่านว่า   กัด-ตุ  (ผู้กระทำ) จากคุณ : mere - [ 25 ธ.ค. 48 13:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 86 กลอน ๏ หนาว ลมแยกกระแทกกระทั้นสะบั้นรัก ลม  พิฆาตสวาทหักรักขยี้ ห่ม  ความทุกข์รุกกระอักทะลักปรี่ รัก  แตกแหลกฉะนี้ป่นปี้ฤดีสลาย ๚ โคลง ๏ หนาว ลมแยกกระแทกกระทั้น          สะบั้นรัก ลม  พิฆาตสวาทหัก                           รักขยี้ ห่ม  ความทุกข์รุกกระอัก                    ทะลักปรี่ รัก  แตกแหลกฉะนี้                           ป่นปี้ฤดีสลาย ๚ *********************** สวัสดีทุกๆท่านครับ ไม่ว่างอยู่หลายวัน หายหนาวแล้ว เลยพอเขียนไหว แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 14:04:08 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 14:02:24 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 25 ธ.ค. 48 13:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จำปูน (อ่างหยก) ๏ หนาว ลมแยกกระแทกกระทั้นสะบั้นรัก ลม  พิฆาตสวาทหักรักขยี้ ห่ม  ความทุกข์สุขชะงักทะลักปรี่ รัก  แตกแหลกฉะนี้ป่นปี้ฤดีสลาย ๚ ตัวสุดท้ายของ บาทที่ 3  ไม่ควรใช้เสียงเอก ควรใช้เสียง สามัญ เช่น ทะลักมี  ...  น่าจะดีกว่าครับผม จากคุณ : mere - [ 25 ธ.ค. 48 14:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ความรัก ทำให้คนตาบอด ..........ดีขึ้น      [ ได้ดูรายการ unseen TV ช่วงอุ้ม สิริยากร สำหรับพี่ ณ มิตร ครับ ] [ จัตวาทัณฑี ] --------------------------------------------------- ๏ หนาว  มืดบอดตลอดครั้น....คลอดนา ลม  เท่านั้นหนาปลอบ...........ปกป้อง ห่ม  ไดเล่าจะมา...................มิดปิด รัก  จากปวงพี่น้อง................นึกแล้วดังฝัน ๚ สวัสดีพี่ ณ มิตร ก็บอกให้ พี่หนูศาลาไทย เขากระซิบเบาๆ หน่อยนะครับ อิอิ เรียกพี่หนูดีกว่ามิอยากขัดคำสั่ง อ่ะขอรับ สวัสดี พี่mere เปิดพจนานุกรมจนมือหงิกอ่ะ เจอบางคำเองน้อ สรุปแลัวโคลงล่างนี่ยังคงเดิมอ๊ะป่าวครับ อะอะ สวัสดีครับพี่จำปูน ก้าวไปอีกขั้นแล้วนะครับ กับกลอนถอดโคลง ผมทำมาหลายครั้ง ต้องตัดใจลบหลายรอบเลยอ่ะครับ... เซ่อน้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 48 00:16:36 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 21:24:45 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 21:23:34 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 21:22:36 จากคุณ : xers - [ 25 ธ.ค. 48 19:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 89 [ อยากรู้จักกันแค่ชาติหน้า ] -------------------------------------------------- ๏ สะสม  พบมิยากมิเข็ญ สหายเป็น มากมาย สะสาง  กว่าจะมองจะหมาย สหายตาย ยากยิ่ง บางครั้ง  ล้มและพลั้งและผิด บางคนคิด ระรื่น พบเจอ  ครั้งที่ขลาดที่ขื่น พบคนยื่น หัวใจ   ๚ สวัสดีครับ ท่านปู่เจียวต้าย และทุกท่านครับ แวะไปอ่าน เพื่อนในอากาศ (บันทึกของคนเดินเท้า) มาปลื้มแทนเลยครับ แอบเอาที่ไปเขียนกระทู้ปู่เจียวต้ายมาแปะก่อน ขอรับ จากคุณ : xers - [ 25 ธ.ค. 48 20:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สักวาว่าสอบ - ลอบมาทัก สมองหนักหักต่อข้อปวดหัว กบาลแยกแตกร้าว - หนาวทั้งตัว ต้องพักปัว*สักแป๊บ - ค่อยแว้บมา *ปัว - ภาษาอีสาน แปลว่า รักษา แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 48 20:48:00 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 25 ธ.ค. 48 20:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 91 คุณ ณ มิตร ก็ชอบอ่านเอาเรื่องจริง ๆ ทีบอกว่า มีรักอื่นหมื่นแสนเพียงแผ่วแผ่ว ไม่ยักเชื่อ คุณเซอร์ ขอบคุณที่เข้าไปอ่าน เพื่อนในอากาศ และ สังสรรค์ฉันท์มิตร ขอเวลาไปแปลบทกวีของคุณก่อนครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 ธ.ค. 48 21:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 92 พี่เซ่อร์ พูดถึงความรักทำให้คนตาบอด..... ดีขึ้นนี่... วันนู้นไปดูอุ้มวาดรูปประกอบการบรรเลงเดี่ยวเปียโนมา... ต้องแอบขำกิ๊กกับรูปที่อุ้มวาด... ฮาฮา... ตามมาดูได้ในบล็อกนะครับ... [จินตภาพจากความมืด คอนเสิร์ตเพื่อคนตาบอด...] [ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=silhouette&month=08-2005&date=21&group=3&blog=1 ] ได้ศัพท์ใหม่จาก พี่โกฏิฯ อีกคำ... วันนี้.... "ปัว" อย่างกับภาษาฝรั่งเศสแน่ะ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 25 ธ.ค. 48 23:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สวัสดีตอนเช้าๆครับ ทุกๆท่าน วันนี้มีหมอกด้วยแฮะ เย็นนิดหน่อย สงสัยบ่ายก็คงร้อนแล้วล่ะ - ขอบคุณ คุณ mere ที่แนะนำนะครับ ผมเพิ่งจะหัดเขียนในลักษณะแบบนี้ เพิ่งจะเป็นบทที่ ๓ ครับ ก็อาศัยเลียนแบบท่านๆในอาศรมนี้แหละครับ มันยากตรงที่โคลงคำต้องไม่เกิน และไม่ผิดบังคับเอกโท การใช้คำครึ่ง เช่น กระแทก พิฆาต ก็เพื่อจะให้เสียงครบในคำกลอน แต่งเสร็จแล้วดูเหมือนจะลงตัว แต่พออ่านออกมาในบาทที่ ๓ โคลงน่ะพอได้ เพราะคำสุดท้ายต้องบังคับเอก แต่กลอนถ้าคำสุดท้ายเป็นเอกด้วย ความเพราะมันจะน้อยลงไป แต่ก็พยายามจะไม่ให้ผิดฉันทลักษณ์ครับ ถ้าแต่งให้คำครบ ๓๒ ตามกลอน เสียงจะดูเพราะขึ้น แต่โคลง บาทที่ ๓ จะมีคำสร้อยด้วย ซึ่งส่วนมากจะบอกว่าถ้าไม่มีก็จะดี เพราะบางทีเกินความจำเป็น แต่ถ้าเป็นกลอนถอดโคลง ดูเหมือนว่า คงจะต้องเขียนแบบโคลงมีคำสร้อยในบาทที่ ๓ เพราะเมื่ออ่านในลักษณะกลอนจะดูไพเราะขึ้น ก็เขียนตามความเข้าใจเล้กๆน้อยๆ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 26 ธ.ค. 48 08:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โคลงกลอน ๏ ยามพิศพักตร์ผ่องพริ้ม.............พิลาส ล้ำสุดหาคำวาด.............................แต่งแต้ม เพียงส่วนผ่องผิวผาด.....................ผ่องแม่ ยิ่งแล นวลดุจจันทร์ยวนแย้ม..................เปล่งครั้งเพ็งกาล ๚ ๏ กลิ่นสุมาลย์ส่งกลิ่นฟุ้ง.............กระจาย กลิ่นรื่นรวยรินราย.......................กล่อมหล้า หอมหวานแต่หอมวาย.................ฤๅเปรียบ เทียบแม่ ปานแม่หอมซ่านฟ้า....................ไล่ทั้งไตรภูมิ ๚ กลอนโคลง ๏ ยามพิศพักตร์ผ่องพริ้มพิลาสล้ำ สุดหาคำวาดแต่งแต้มเพียงส่วน ผ่องผิวผาดผ่องแม่ยิ่งแลนวล ดุจจันทร์ยวนแย้มเปล่งครั้งเพ็งกาล กลิ่นสุมาลย์ส่งกลิ่นฟุ้งกระจายกลิ่น รื่นรวยรินรายกล่อมหล้าหอมหวาน แต่หอมวายฤๅเปรียบเทียบแม่ปาน แม่หอมซ่านฟ้าไล่ทั้งไตรภูมิ ๚ เห็นหลายๆท่าน แต่งโคลงที่สามารถอ่านเป็นกลอนได้ด้วย จอมยุทธฯ ก็มานั่งคิดถึงความหลังอีกแล้ว จำได้ว่ากลบทโคลงกลอน- กลอนโคลง จอมยุทธฯ ก็เคยแต่งไว้นิดหน่อย เลยขอนำมาวางไว้ด้วยขอรับ กลบทข้างบนจอมยุทธฯ ใช้ตามแบบครูเนาว์ ที่แต่งไว้ในหนังสือชักม้าชมเมือง กลบทแบบนี้ครูใหญ่แห่งอาศรมชาวโคลง ครูหนอนสุรา ได้อธิบายหลักการแต่งไว้ดังนี้ครับ โคลงกลอน                                     สวัสดีต้ะหมีเซอะ กระทู้นี้ดีจังจ้ะ แต่พี่เล็กตั้งตัวไม่ทัน ก็ขอแปะโป้งไว้ก่อน ด้วยการนำกระทู้ “โคลงกลอน” ของครูหนอนฯ ซึ่งเคยเล่นกันมา มาให้อ่านกันทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติของชาวถนนฯ นี้จ้ะ โคลงกลอนของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากชักม้าชมเมือง มีทั้งหมด 4 บท พี่เล็กเคยเอามา post ครบแล้ว แต่ผมจะเลือกมาอธิบาย 1 บท ให้เห็นกลเม็ดเคล็ดลับในการแต่ง ว่าพี่เนาว์ท่านทำยังไง ถึงออกมาเป็นโคลงและกลอนเสียงดี อ่านเป็นโคลง ใช่ชีพนี้ชี้เช่น.................เป็นแบบ บทประจงจดแนบ..........เนื่องร้อย เรื่องไขหลากข้อแยบ......ยลคิด จิตฤา ใจจักสอดใส่สร้อย..........สว่างไว้ทางกวีฯ อ่านเป็นกลอน ใช่ชีพนี้ชี้เช่นเป็นแบบบท ประจงจดแนบเนื่องร้อยเรื่องไข หลากข้อแยบยลคิดจิตฤาใจ จักสอดใส่สร้อยสว่างไว้ทางกวีฯ ที่ผมเลือกเอาบทสุดท้ายมาอธิบายเพียงบทเดียว เพราะบทนี้อธิบายง่ายที่สุด แต่ขนาดอธิบายง่ายที่สุดก็ยังยาก เพราะเสียงโคลงกับเสียงกลอนมันขัดกัน ถ้าไม่ใช่ระดับพี่เนาว์ที่เก่งทั้งโคลงและกลอน ยากยิ่งที่จะเขียนออกมาได้ดี แม้พี่เนาว์เองก็เถอะ วรรคสามของโคลงก็ต้องใช้จังหวะการอ่านช่วย เหมือนกับกลอนวรรคสอง ลองอ่านดูนะครับจะได้ยินว่าเสียงมันสะดุดอยู่นิดๆ แต่นิดเดียวครับ ผมมิบังอาจตำหนิท่าน เพราะแต่งได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดแล้ว จุดประสงค์คืออยากให้เห็นว่าเสียงโคลงกับเสียงกลอนมันขัดกันเป็นธรรมชาติครับ วิธีแต่งให้ถอดออกเป็นทั้งโคลงและกลอนที่พอใช้ได้ จะต้องมองทั้ง 2 อันไปพร้อมๆกัน หรือเขียนลงกระดาษหน้าคู่ อันนึงเป็นโคลงอันนึงเป็นกลอน แต่ในหน้าจอผมทำไม่เป็น เอาเป็นว่าใช้วงเล็บแทนกลอนแล้วกัน ใช่ชีพนี้ชี้เช่น.................เป็นแบบ (บท) วรรคแรกนี้มองเป็นกลอนง่าย เพราะคำสุดท้ายของกลอนวรรคนี้ใช้เสียงอะไรก็ได้ แค่ให้คิดถึงคำที่จะมาสัมผัส อย่าใช้คำสระยากมากนัก แต่เรื่องสัมผัสในนั้นก็สำคัญ กับกลอนแบบเนาวรัตน์ ซึ่งคือแบบสุนทรภู่นั่นเอง จะอธิบายควบคู่ไปด้วยเลย คำที่3 กับ 4 ต้องสัมผัสกัน จะใช้สัมผัสสระหรืออักษรก็ได้ เช่นเดียวกับคำที่ 5 ต้องไปสัมผัสคำที่ 6 อันนี้ถ้าได้สัมผัสสระเวลาถอดเป็นกลอนฟังดีกว่า ใช้สัมผัสอักษร เพราะแต่งวรรคต่อมาให้ดีง่ายกว่า บทประจงจดแนบ..........เนื่องร้อย (เรื่องไข) วรรคสองเริ่มยาก เมื่อเราเขียนวรรคแรกเราได้คำว่าบทมาแล้ว คำที่คิดต่อต้องคิดหลายชั้น เอาคำที่ 3 (จด) รับสัมผัสกลอน คำที่ 4 (แนบ) รับโคลง สัมผัสใน 4 ไป 5 ให้ใช้สัมผัสอักษร จะฟังเพราะกว่า คำเอกโทของโคลงก็ยากเย็น คำต่อมาคือคำที่เท่าไหร่ ชักไล่ไม่ถูกแล้วคือคำว่าไข คำนี้ห้ามเสียงสามัญกับเสียงตรี เพราะจะทำให้ถอดเป็นกลอนแล้วเสียงเพี้ยน ถ้าให้ง่าย ใช้เสียงจัตวาเอาไว้ก่อน แต่อย่าลืมว่าคำนี้ส่งสัมผัสไปกลอนวรรคต่อมาด้วย เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำสระยากมากนัก สรุปแล้ววรคนี้เกือบยากที่สุด เรื่องไขหลากข้อแยบ......ยลคิด จิตฤา (ใจ) วรรคสามวิธีคิดไม่ค่อยยาก แต่เวลาแต่งมักจะพลาดวรรคนี้ เพราะเริ่มงง เดี๋ยวเสียงโคลง เดี๋ยวเสียงกลอนตีกันมั่วไปหมด วิธีคิดคือหาแค่คำรับสัมผัสโคลง กับคิดคำเอกท้ายวรรค ให้ส่งสัมผัสในไปคำแรกของสร้อยได้จะฟังเป็นกลอนดี อย่าลืมวรรคนี้ต้องมีสร้อยโคลงเสมอ และควรใช่เสียงสามัญเท่านั้น คำที่ตามมา (ใจ) ก็เหมือนกันถึงจะใช้เสียงตรีได้อีกเสียง แต่อย่าดีกว่า อย่าเพิ่งลองแบบพิศดารมาก เพราะจะเละทั้งโคลงทั้งกลอน ใจจักสอดใส่สร้อย..........สว่างไว้ทางกวีฯ วรรคสุดท้าย โอย...เหนื่อย วรรคนี้ยากคล้ายๆ วรรคสองในแง่เสียง แต่ยากกว่าในแง่เนื้อความ เพราะสรุปจบทั้งหมด เละไม่เละ วัดกันที่วรรคนี้ เอาแค่แง่เสียงอย่างเดียวแล้วกันนะครับ (ใส่) รับสัมผัสกลอน (สร้อย) รับสัมผัสโท คำเอกสุดท้าย (สว่าง) ควรหาคำมารับสัมผัสสระ (ทาง) และถึงแม้คำสุดท้ายเป็นโคลงเสียงจัตวาฟังดีกว่าเสียงอื่น แต่เป็นกลอนแล้วฟังไม่ได้ ให้ใช้เสียงสามัญ อย่างเดียวพอ ถึงใช้เสียงตรีได้ก็ไม่เอา เอาแบบพื้นๆ ก่อน กลอนจะได้แลนดิ้งแบบไม่คะมำกลิ้ง สูตรทั้งหมดที่เขียนมานี้ เป็นแบบคร่าวๆ พี่เนาว์ท่านคิดเยอะกว่าผมอีกหลายชั้นมาก คิดตามพอไหว แต่เขียนอธิบายไม่ไหว ไม่ได้อมภูมิแต่อย่างใด เพราะมันเขียนอธิบายยากจริงๆ เอาเป็นว่าสั้นๆ อย่างนี้ พอให้เขียนออกมาพอใช้ได้ก็พอแล้ว โอย...เหนื่อย...เหนื่อย... โดยคุณ : หนอนสุรา ก่อนเริ่มภารกิจเช้านี้ขอฝากไว้อีกหน่อยขอรับ ของเก่าเหมือนกัน โคลงกลอน ๏ สร้อยภาษาเสกสร้าง.............ส่งผล ศิลป์ก่อบทยินจน....................จบแคว้น ภพสามรับรู้ยล.......................รสฉ่ำ คำแล ความแค่งดงามแม้น................หนึ่งนั้นพึงใจ ๚ ๏ ผ่านสมัยคงแบบไว้.............จำเรียง สานเสกต่อกานท์เพียง.............พจน์ถ้อย สดใสเพราะศัพท์เสียง..............สนุกคิด จิตฤๅ ใจมุ่งทางไทยร้อย.....................รักษ์ด้วยหลักเดิม ๚ กลอนโคลง ๏ สร้อยภาษาเสกสร้างส่งผลศิลป์ ก่อบทยินจนจบแคว้นภพสาม รับรู้ยลรสฉ่ำคำแลความ แค่งดงามแม้นหนึ่งนั้นพึงใจ ผ่านสมัยคงแบบไว้จำเรียงสาน เสกต่อกานท์เพียงพจน์ถ้อยสดใส เพราะศัพท์เสียงสนุกคิดจิตฤๅใจ มุ่งทางไทยร้อยรักษ์ด้วยหลักเดิม ๚ แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 48 10:40:20 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 26 ธ.ค. 48 09:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เล่าสู่กันฟัง .... ตอนเขียนกลอนใหม่ๆ เพื่อนนักเขียนมันบอกว่า "เอ็งอยากเขียนอะไรก็เขียนเถอะ ไม่ต้องสนใจถูกผิด" การขยันเขียนจะช่วยให้ภาษาสละสวยขึ้น ก็เลยระดมเขียนก็คงถูกของเพื่อนมัน ก็เลยเขียนแบบไม่ต้องส่งไปตีพิมพ์ที่ไหน รวบรวมได้ 1 เล่มไดอารี่ แล้วก็คัดที่ถูกต้องที่สุดส่งไปตีพิมพ์ ชิ้นแรกที่ตีพิมพ์ "ดอกไม้ป่า" ลงในหนังสือ "มาตุภูมิ" สมัย "อ.เสมอ กลิ่นหอม" เป็บ บก.พิจารณา และก็ ทะยอยตีพิมพ์มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ "ดอกเบี้ย" อ.กิริยากร เป็น บก.  "ฐานเศรษฐกิจ" อ.พินิจ นิลรัตน์ เป็น บก.  "สยามรัฐฯ" อ.ไพลิน รุ้งรัตน์ เป็น บก.  ที่บอกมาพอประมาณครับ บางเล่มนิตยสารก็ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว เหลือก็แต่ที่ มติชนสุดสัปดาห์ (ค่าบทกวีดีที่สุด) อยู่นานที่สุด 555   บทกวีชิ้นแรก "ดอกไม้ป่า" ดอกไม้ป่าประดับอยู่กับป่า อยู่กับค่าของยามความอ่อนไหว มิเปื้อนคราบสังคมโลกกลมไกว มิเปื้อนหน่อเนื้อในสังคมเมือง ...................................... จำได้แค่นี้ครับ ....ไว้ บก.คนไหนกล้าขาดทุน ค่อยอ่านกันครับ... จากคุณ : mere - [ 26 ธ.ค. 48 09:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เกาะท้ายขบวน เดี๋ยวตกรอบ อิอิ ลมหนาวล่องน้ำนองเอ่อเต็มคันนา ดอกไม้ป่าบานละออชูช่อไสว.. หนาวอย่างนี้รักษาตัวรักษาใจให้อุ่น ๆ กันนะคะ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 26 ธ.ค. 48 09:53:52 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 97 หนาว ร้างไปห่างฟ้า..........ลาลง ลม โบกยังโศกคง............คู่แก้ว ห่ม เหงาแต่เผ่าพงศ์.........พิศพร่าง รัก ต่างแต่ทางแพร้ว........เพริดพริ้งพิศมัย หนาว ใจไผบ่ฮู้...............คิดฮอด ลม ล่าพาฝันคอด............กิ่วแล้ว ห่ม เลือนเพื่อนรักปอด......เคียงคู่ รัก  ยิ่งร้างห่างแร้ว...........บ่วงร้อนเริงใจ จากคุณ : mere - [ 26 ธ.ค. 48 11:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 98 จะไปธุระนิดหน่อย ไม่ค่อยว่างแวะเวียนมานะครับ แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 48 17:24:36 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 26 ธ.ค. 48 17:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีครับทุกท่าน เทพกรหายหน้าไปสองวันไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนหรอกครับ แต่เนื่องจากอากาศแปรปรวน อีกทั้งปรวนแปร กรุงเทพฯ อุณหภูมิที่เคยเย็นพอเหมาะ ก็เริ่มร้อนอีกแล้ว ทำเอาไวรัสในร่างกายเกิดอาการอยากเป็นหวัดเสียนี่ วันนี้ค่อยยังชั่ว ก็ขอมาทำหน้าที่เฝ้าอาศรมฯ ภาคที่ ๑๕๑ ต่อ ครับ ************************************************** +++คุณสหายสันติ (คห.๗๕)+++ ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ขอให้หวัดหายไวไว อิ ๆ (หัวอกเดียวกันนี่ครับ) ************************************************** +++คุณณ มิตร (คห.๗๖, ๘๔ และ ๙๒)+++ งานศูนย์สิริกิติ์ไม่ได้ไปหรอกครับ พอดีท่องเว็บไปเรื่อย เจอภาพงาม ๆ เลยเอามาฝากท่าน ๆ ในอาศรมได้ทัศนากันเท่านั้นครับ (ฮา) ************************************************** +++คุณคัมภีร์โบราณ (คห.๗๗ และ ๗๘)+++ ๏  หนาว-ลำไส้ใหญ่ย้อย       ทวารยาน       ลม- เบ่งผายเบิกบาน            บูดคลุ้ง ห่ม-ผวยร่วมผืนผสาน           เสียงตด รัก-ร่วมหมอนนอนมุ้ง           เน่าแม้นละมุนหอม   ๚ ได้อ่านกระทู้ฉีก ๆ แล้ว ก็อดยิ้มไม่ได้ครับ ช่างคิดเป็นเรื่องเป็นราวได้ดีครับ เห็นภาพเลยทีเดียวเชียว หนาว กระเพาะปวดแปลบสิ้น..........เจียนตาย ลม สะท้านตีกลับกลาย.......................กลอกกลิ้ง ห่ม สรรพอาหารผาย-.........................ลมผ่อน ทั่วนา รัก กลิ่นเจียนสะดิ้ง.............................กรุ่นทั่วเคหา ************************************************** +++คุณศาลาไทย (คห.๗๙ และ ๘๐)+++ ๏ หนาว ใดไยเหน็บเนื้อ        นวลหมอง ลม หอบทุกข์ทบครอง            หม่นเศร้า ห่ม โศกแห่งเราสอง               ยามจาก รัก มอบเพียงเรียมเจ้า           ย่อมแจ้งใจเสมอ ๚ ในที่สุดก็ได้อ่านโคลงจากคุณศาลาไทย เสียทีครับ อิ ๆ ก็เล่นมาทำลิงค์อาศรมเก่าให้ผมใน คห. แรกสุด แล้วก็หายจ้อยไปเลยนี่ครับ นำโคลงมาลงแล้ว หายน้อยใจแล้วครับ หนาว กายกรกอดเนื้อ..........นวลหญิง ลม หอบรักหวานจริง...........ห่อนเศร้า ห่ม โศกกระไรจริง...............อย่าโศก เลยแม่ รัก อยู่เคียงเรียมเฝ้า..............อยู่เย้าครองเรือน ************************************************** +++คุณเจียวต้าย (คห.๘๑ และ ๙๑)+++ หนาว ลมห่มแต่ผ้า                    มิหาย ลม ห่มเย็นทั่วกาย                    สะท้าน ห่ม รักมักวุ่นวาย                      ในอก รัก มากเลือกหลายด้าน              สุดท้ายอดเลย. เมื่อหนาวลมจะห่มผ้าก็มิหาย ลมเย็นพัดต้องกายสะท้านทั่ว ครั้นห่มรักมักวุ่นวายใจระรัว ชักนึกกลัวรักหลายรายสุดท้ายแห้ว จะให้ดีรักหนึ่งเดียวแต่เหนียวแน่น มีรักอื่นหมื่นแสนแม้หวานแหวว มั่นคงไว้ล็อคหัวใจไม่นอกแนว กลับบ้านแล้วเป็นของเธอเสมอเอย จะเรียกว่ากลอนห่อโคลง คงจะได้กระมังครับ อิ ๆ ห่อกันไปห่อกันมา ขอให้อ่านได้เป็นดีครับ หนาว ลมห่มแต่ผ้า..........ทำไม ลม ยิ่งหนาวจับใจ...........เช่นนี้ ห่ม รักวุ่นวายใจ..............จริงหรือ ท่านเฮย รัก มากอย่าจู้จี้.................ไม่งั้นอดชม หนาวสายลมห่มผ้าไม่หายหนาว หัวอกร้าวสาวหายสุดหน่ายแหนง ห่มหัวอกชายช้ำระแวงแคลง เสียดายแรงจีบติดหงุดหงิดจริง จะให้ดีขยันตอดเป็นยอดชาย มีรักอยู่มากมายให้ยุ่งขิง เที่ยวจ่ายแจกแลกเบอร์หวังช่วงชิง เดี๋ยวเจอหญิงถูกใจเราได้ชม (เองแหละ) ************************************************** +++คุณxers (คห.๘๒, ๘๓, ๘๘ และ ๘๙)+++ ใครจะเป็นรายต่อไปที่จะอยู่โยงเฝ้าอาศรมภาคที่ ๑๕๒ ก็ต้องคอยติดตามกันนะครับ คุณxers ขยันเข้ามาจริง ๆ คห. มากกว่าของใคร ๆ นะครับ (ฮา) ************************************************** +++คุณmere (คห.๘๕, ๘๗, ๙๕ และ ๙๗)+++ ได้อ่านสำนวนแปลก ๆ ของคุณmere แล้วเกิดชอบใจ คิดจะเลียนแบบหลายหน แต่ไม่ซนพอ เอาไว้ซน ๆ จะลองเอาเยี่ยงเอาอย่างครับ ************************************************** +++คุณจำปูน (อ่างหยก) (คห.๘๖, ๙๓ และ ๙๘)+++ โคลงกลอน กับกลอนโคลง น่าลองเล่นดูเหมือนกันนะครับ เอาไว้จะลองแต่มาให้ทุกท่านช่วยพิจารณามั่งดีกว่า ************************************************** +++คุณโกฏิดารา (คห.๙๐)+++ คุณโกฏิดารากำลังใช้สมองในการสอบ แต่ยังอุตส่าห์แวะเข้าอาศรมมาชมงานได้ สอบเสร็จเมื่อไหร่ อย่าลืมอาศรมน้อย ๆ นี้นะครับ ************************************************** +++คุณจอมยุทธเมรัย (คห.๙๔)+++ ขอบพระคุณสำหรับกลเม็ดเคล็ดวิชาในการแต่งโคลงกลอน กลอนโคลงครับ เอามาลองอ่าน ๆ ดู แล้วก็แต่งตามที่ว่ามา ก็ไม่แน่ใจว่าจะไปวัดไปวาได้หรือไม่ เดี๋ยวคอยอ่านนะครับ ************************************************** +++คุณซอมพอแดง (คห.๙๖)+++ จะพยายามรักษาใจให้อุ่นครับ จากคุณ : เทพกร - [ 26 ธ.ค. 48 19:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 100 โคลง หนาว ลมจูบซ่านไซร้..........ในทรวง สั่นเมื่อเหมันต์ลวง..............ล่อไร้ ความหวังไม่ทักทวง...........ห่วงว่า รักฤๅ ยังอยู่กระทั่งได้...................โศกเศร้าจริงนอ ลม มาก่อเรื่องให้................ใจหวัง คิดถ้าหมู่มิตรยัง...................อยู่รู้ ความหนอข้อนี้ดัง..............ในจิต คิดแล พอส่งจิตก่อกู้.......................เก่งกล้าการกวี ห่ม ผ้าผืนชื่นหน้า...............อารมณ์ เพลินเมื่อเราเขินขม............จิตคิด บัดสีใช่เราตรม....................ตรอมอยู่ คู่นา รีบ่หามีฤทธิ์..........................เดชล้ำเลอคน รัก ลอยลมรื่นร้อย...............ยามรัก ไร้นุชอยู่ไหนสัก................แห่งนี้ หมองหม่นน้ำตาหนัก.......ท่วมท้น ล้นแล ชลเมื่อหน้ามลที่.................รักร้าวดวงใจ กลอน หนาวลมจูบ ซ่านไซร้ ในทรวงสั่น เมื่อเหมันต์ ลวงล่อ ไร้ความหวัง ไม่ทักทวง ห่วงว่า รักฤๅยัง อยู่กระทั่ง ได้โศก เศร้าจริงนอ ลมมาก่อ เรื่องให้ ใจหวังคิด ถ้าหมู่มิตร ยังอยู่ รู้ความหนอ ข้อนี้ดัง ในจิต คิดแลพอ ส่งจิตก่อ กู้เก่งกล้า การกวี ห่มผ้าผืน ชื่นหน้า อารมณ์เพลิน เมื่อเราเขิน ขมจิต คิดบัดสี ใช่เราตรม ตรอมอยู่ คู่นารี บ่หามี ฤทธิ์เดช ล้ำเลอคน รักลอยลม รื่นร้อย ยามรักไร้ นุชอยู่ไหน สักแห่ง นี้หมองหม่น น้ำตาหนัก ท่วมท้น ล้นแลชล เมื่อหน้ามล ที่รัก ร้าวดวงใจ พยายามใช้คำ "หนาว ลม ห่ม รัก" ในการแต่ง ทั้งโคลง และกลอนครับ ดีเลวประการใด ให้ผู้รู้สั่งสอนได้ตามเจตนาแล จากคุณ : เทพกร - [ 26 ธ.ค. 48 19:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 กระทู้ใหม่ค่ะ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๕๒ ๏ ๏ ๏ ส่งท้ายปีระกา ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3980882/W3980882.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -             . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 26 ธ.ค. 48 22:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 102 [ ผิงรัก ] ------------------------------------------ ๏ หนาวหากมาลูบไล้ ลมหอบใจมาให้ ห่มฟ้าผิงรัก  ๚ โอ้... แวะเข้ามาช้า กระทู้ใหม่มาซะแล้วครับ สุดท้ายขอให้ท่านที่สอบ สอบได้ ปู่เจียวต้ายครับ กวีบทนั้นแต่งเพื่อพักสมอง หลังจากได้ อ่าน เพื่อนในอากาศ จึงเกิดแรงบันดาลใจ และกำลังชอบ กลบท กินนรเก็บบัว และโคลงกระทู้ จึงนำมารวมกันครับ พี่ ณ มิตร "ปัว" ทางเหนือนี่เป็นอำเภอในจังหวัดน่านด้วย อ่ะครับ พี่จำปูน แอบไปแต่งอยู่นี่เองถึงไม่ค่อยได้เห็นในอาศรม ขอบคุณกลเม็ด โคลงกลอน กลอนโคลงของท่าน จอมยุทธเมรัย มากครับ ได้คำมาจากโคลงของ พี่mere มากมายเลยครับ  ดอกไม้จักไม่มีป่าอยู่แล้ว เมื่อคนทำลาย  อีกหน่อยจักแยกได้เยี่ยงไร ว่าดอกนี้มาแต่ป่าได เมื่อไม่มีป่า ขบวนสุดท้ายอยู่อีกไกลขอรับ พี่ซอมพอแดง สวัสดีพี่เทพกร ผู้ขยัน อาศรมหน้ามีแล้ว อะอะ รอดตัวไป... รู้สึกโคลง บาท 3 พี่จะตกเอกหลายที่ครับ แต่กลอนถอดโคลงนี่ แต่งได้เยอะเลยนะ ผมคิดบทเดียวยังไม่ได้เลยอ่ะ เจอกันต่อที่อาศรมฯ หน้านะครับ เซ่อน้อมบันทึก ------------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 27 ธ.ค. 48 00:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 103 หนาวลมห่มรักตระหนักอยู่ คะนึงคู่ชื่นชิดพิศมัย ณ ยามนี้ที่ห่างร้างแรมไกล รานหทัยร้าวจิตสุดคิดครวญ จากคุณ : รราญรอนแรมร้างมาต่างถิ่น - [ 27 ธ.ค. 48 20:53:10 A:24.199.226.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 ลองเขียนดู  เป็นโคลง - กลอน  บทแรกในชีวิตครับ ทิวขาวพราวขอบฟ้า        ดาดาว ล้านสิงขรสานสาว          ต่อเหนื้อง เฟื่องพฤกษาเย้ยเย่า       เมฆเหนือ  ฟ้าฤา     ลมราระโหยหล้า            อ่อนล้า   ฤไม้แรง         ทิวขาวพราว ขอบฟ้า ดาดาวล้าน สิงขรสาน สาวต่อเนื่อง เฟื่องพฤกษา เย้ยเย้าเมฆ เหนือฟ้า ฤาลมรา ระโหยหล้า อ่อนล้า ฤไม้แรง จากคุณ : ปฤษณะ (ปฤษณะ) - [ 28 ธ.ค. 48 12:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เข้าไปร่วมสนุกกันที่หน้าใหม่แล้วครับ คลิ๊กไปตามลิ้งค์ข้างล่าง ครับ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๕๒ ๏ ๏ ๏ ส่งท้ายปีระกา ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3980882/W3980882.html จากคุณ : xers - [ 28 ธ.ค. 48 15:46:34 ]