CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    + + + ญ.หญิงเข้าใจยาก(?) + + +

    เรื่องมันเริ่มขึ้นจากบทสนทนาเล็กๆในวงเหล้าของหนุ่มๆหลังเลิกงานวันศุกร์แล้วมีใครสักคนหนึ่งถามคำถามขึ้นมาว่า “มีใครในนี้กลัวเมียบ้าง”  

    ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั้น  เพราะชีวิตนี้มีแต่แฟนไม่เคยมีเมีย  แต่เดี๋ยวนี้ความแตกต่างระหว่างคำว่าเมียกับแฟนก็น้อยลงทุกทีแล้ว  ดูจากใครหลายๆคนก็มักแนะนำเมียตัวเองกับคนอื่นว่า ‘นี่แฟนผม’

    กำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆก็มีเสียงเรียกชื่อผมและทุกคนในวงเหล้าหันมามอง  นั่นเองผมถึงเพิ่งรู้ว่าสมาชิกในวงเหล้ากำลังฟังคำตอบของแต่ละคนจนเวียนมาถึงผมแล้ว

    “ว่าไงสุทธิ  กลัวเมียรึเปล่า”

    “ไม่กลัว  เพราะไม่มี”  ผมยักคิ้วกระดกแก้วเหล้าเข้าปากและฮัมเพลง It’s now or never ของเอลวิสคลอไปตามที่ผับเปิดให้ฟังเหมือนไม่สนใจกับคำถามอันนั้น

    “อะไร  แล้วรูปคู่ที่ติดไว้ที่โต๊ะทำงานล่ะ”

    “นั่นแฟน  ไม่ใช่เมีย  ยังไม่แต่งงาน”

    “ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ละว้า  เดี๋ยวก็แต่ง  ตกลงแกกลัวเมีย เอ๊ย แฟนไหมล่ะ”

    ผมวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะแล้วถอนหายใจอย่างลืมตัว  มันคืออาการลืมตัวจริงๆ  เพราะหลังจากนั้นเพื่อนๆที่เดาท่าทีของผมออกก็พากันตบโต๊ะหัวเราะลั่น  บอกต่อๆกันไปว่าสุทธิกลัวแฟน  ผมหัวเราะแห้งๆแล้วผสมเหล้าเข้มข้นเทเข้าปากอึกๆๆ  ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย

    อลิสา.....แฟนของผม  เธอดุจริงๆ


    เช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าทั้งๆที่เป็นวันเสาร์  อลิสาจองตัวผมแบบนี้ทุกอาทิตย์  ก็ทั้งสัปดาห์ที่มีแต่งาน งาน และงานกันทั้งคู่  โอกาสที่จะได้เจอกันตามประสาคนรักที่ยังไม่แต่งงานก็มีเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมผ่านวันเสาร์อาทิตย์ไปกับการเดินตามเธอในศูนย์การค้าจนค่ำจนมืดทั้งสองวัน  แม้แต่เช้าวันนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

    ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว  กินอาหารเช้า  เช็คความพร้อมของรถยนต์  เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมก็พอดีแปดโมง  หน้าที่ต่อไปของผมน่ะเหรอ.....โทรศัพท์ไปปลุกแม่ตัวดีที่กำลังหลับสบายอยู่น่ะสิ  

    “รีบๆมานะ  อย่าให้รอนานล่ะ”  น้ำเสียงงัวเงียทว่ายังแฝงความดุแว่วมาจากปลายสายทำให้ผมต้องรีบขับรถออกจากบ้านมา  โชคดีที่การจราจรเช้าวันเสาร์ปลอดโปร่งทุกสาย  ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็มาถึงบ้านของเธอได้  ในขณะที่วันธรรมดาอาจใช้เวลาถึงชั่วโมงเศษๆ  ผลของการรีบมาตามที่เธอกำชับทำให้ผมมาพบกับเธอในสภาพเพิ่งใส่ชุดคลุมมิดชิดออกจากห้องน้ำ

    “พี่ธินั่งดูทีวีตรงนั้นก่อนนะคะ  สายังไม่ได้ลงครีมนวดผมเลย”

    ผมเปิดทีวีแล้วนั่งดูกับโซฟาอย่างว่าง่าย  ปล่อยให้เธอกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง  ได้ยินเสียงน้ำกระทบอ่างอาบน้ำเป็นระยะแต่ไม่นานก็ถูกกลบด้วยเสียงการ์ตูนโดเรมอนในทีวี  ผมนั่งดู  เอนหลังดู  ไปๆมาๆก็แทบจะเปลี่ยนท่าเป็นนอนดูทีวี  ยกนาฬิกาขึ้นดูก็เก้าโมงกว่าแล้ว  อลิสายังไม่ออกจากห้องน้ำเลย  โดเรมอนในทีวีฉายจนครบสามตอน  ผมลองเปลี่ยนช่องดูบ้าง  มีทั้งสารคดีสัตว์โลกแอฟริกา  ข่าวสุดสัปดาห์  นักการเมืองเหมาเวลาพูดออกอากาศ  ดูทั้งหมดจนเบื่อเต็มทีอลิสาถึงเพิ่งจะออกจากห้องน้ำ  ผมเปียกสยายเต็มแผ่นหลัง

    “พี่ธิเบื่อรึยัง  เดี๋ยวสาก็เสร็จแล้วนะ  รอหน่อย”  เธอว่าแล้วก็หายขึ้นไปชั้นบน

    ผมเลิกคิ้วถอนหายใจมองตามหลังเธอไป  กดรีโมททีวีไปมาสักพักก็ลุกไปปิดสวิตช์  เดินออกไปนั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน  แดดยามสายเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ  บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงาชวนนอนจนผมอ้าปากหาว  แต่รู้กับตัวดีว่าวันนี้คงไม่ได้นอนกลางวัน  ผมไม่มีสิทธินั้นเมื่ออยู่กับอลิสา  ผมต้องพร้อมเสมอที่จะพาเธอไปทุกที่ที่เธอต้องการ  ทำทุกอย่างที่เธออยากให้ทำ  ไม่มีคำว่าไม่ถ้าเธอเอ่ยปากขอในเรื่องใดๆก็ตาม  ยกนาฬิกาขึ้นมองตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงสี่สิบนาทีแล้ว

    เดินกลับเข้ามาเอนหลังรอที่โซฟาอีกครั้ง  แว่วเสียงเดินตึกตักและเสียงเปิดปิดลิ้นชักอยู่ข้างบน  พยายามเงี่ยหูฟังว่ามีวี่แววจะลงมาได้หรือยังแต่ก็ไม่มีวี่แววอันนั้นสักที  ผมยังต้องนั่งหาวหวอดๆอยู่อย่างนั้นจนสิบโมงกว่าจึงมีเสียงเดินลงบันไดมา  อลิสาแต่งตัวเสร็จแล้ว  ผมขยับตัวลุกขึ้นจะเดินไปที่รถ

    “เดี๋ยวสิพี่ธิ  จะรีบไปไหนล่ะ”

    “อ้าว  ก็แต่งตัวเสร็จก็ไปเที่ยวกันได้แล้วนี่”

    “ยังไม่เสร็จ  สายังไม่ได้แต่งหน้าเลย”

    ผมเบ้ปากทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง  เห็นเธอเดินไปที่กระจกเงาหน้าห้องน้ำแล้วเปิดกระเป๋าถือออก  หยิบกระปุกครีมบำรุงผิวมาละเลงบนใบหน้า  จากนั้นก็เป็นกระปุกครีมกันแดด  เสร็จจากพวกครีมก็เป็นแป้งรองพื้น  บรัชออนแก้มสีชมพู  ปัดอายเชโดว์สีน้ำทะเลบนเปลือกตา  ใช้เครื่องมือดัดขนตาจนงอนแล้วก็ใช้มาสคาร่าปัดซ้ำ  นึกว่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ปรากฏว่าเจ้าหล่อนหยิบลิปสติกขึ้นมาอีกสามแท่ง มีลิปมัน ลิปสี ตบท้ายด้วยลิปกรอสเพื่อความแวววาวของปาก  ผมดูจนแน่ใจว่าเธอน่าจะหมดกระบวนการเสริมความงามแล้วก็ลุกจะเดินไปหน้าบ้าน  แต่เสียงของอลิสาก็ดักผมไว้อีกครั้ง  “พี่ธิ  สายังไม่เสร็จนะ  รอหน่อยสิ”

    “อะไรอีกล่ะ  ก็แต่งจนทั่วหน้าแล้วนี่”

    “หน้าน่ะทั่วแล้ว  แต่สายังไม่ได้ฉีดน้ำหอมกับทาซันบล็อกที่แขนเลยนะ”

    “พี่ไม่เห็นมีอะไรมากแบบนี้เลย  อาบน้ำทาลูกกลิ้งที่รักแร้ก็ไปเที่ยวได้แล้ว”

    “ก็พี่ธิเป็นผู้ชายนี่  สาเป็นผู้หญิงก็ต้องดูแลตัวเองสิ  นั่งรอตรงนั้นแหละ  แป๊บเดียวบ่นซะแล้ว”  เธอตัดบท

    ผมดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง  เมื่อเห็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วก็หลับตาอ่อนใจ  นี่ผมจะต้องรีบตื่นมาที่นี่ทำไมนะ  แต่คำตอบก็คงมีคำตอบเดียว  อลิสาชอบให้ผมเป็นคนปลุกและต้องการจะเห็นผมมาที่บ้านของเธอให้เร็วที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  แน่นอนที่ผมไม่มีสิทธิปฏิเสธ  มาถึงตอนนี้ก็จำได้ว่าถึงเธอจะทาครีมพอกไปทั้งตัวจนเสร็จแล้วก็ยังออกจากบ้านกันไม่ได้  อลิสาเดินไปเปิดตู้รองเท้าสองตู้หน้าบ้าน  เลือกรองเท้าออกมาดูทีละคู่ว่าคู่ไหนจะเหมาะกับชุดที่เธอใส่  กำลังจะโล่งใจเมื่อเห็นเธอใส่รองเท้าเดินมาหาแล้วหัวใจของผมก็ต้องพลันเหี่ยวลงอีกเมื่อแฟนสาวถอดรองเท้าหันหลังกลับวิ่งขึ้นไปชั้นบน......เธอลืมใส่ตุ้มหู

    แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 48 23:42:28

    จากคุณ : ธามาดา - [ 25 ธ.ค. 48 22:40:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป