CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    "เรื่องราวในความเงียบ" : หมายเลข ๑ เสียงจากความเงียบของเธอ

    เธอนั่งอยู่ในเทอเรซของเกสต์เฮาส์ได้พักใหญ่แล้ว
    ข้างหน้ามีแก้วกาแฟที่พร่องไปครึ่งแก้ว  ซองยาเส้นและซองกระดาษสำหรับม้วนยาวางอยู่เคียงข้าง
    สายตาที่ทอดไปเบื้องหน้าวางอยู่ที่ร่างคุ้มค่อมของหญิงชราคนหนึ่งที่ก้มๆเงยๆอยู่หน้าตลาดตรงข้ามเกสต์เฮาส์
    อีกสิบนาที  เธอจะออกไปจากที่นี่  
    เริ่มสายแล้วนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเริ่มตื่นและออกมาจับจองที่นั่งจิบกาแฟมากขึ้น
    เธอหยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น  เรียงยาเส้นลงไปก่อนจะม้วนแล้วเลียปิดตามความเคยชิน
    สายตาฉงนฉงายเล็กน้อยยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างก้มๆเงยๆคุ้มค่อมอยู่อย่างเดิม
    ผุ้คนเริ่มหนาตามากขึ้น  ทั้งในเทอเรซ ในตลาด และบนถนน
    เธอหยิบกระเป๋า...วางเงินค่ากาแฟไว้บนโต๊ะ  ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่รีบร้อน

    เย็นนี้ เมื่อหล่อนกลับมา  หญิงชราจะยังคงอยู่ที่เดิม

    เธอเลี้ยวซ้าย  ออกไปท่าน้ำใกล้ๆที่พัก
    ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ  การจราจรที่ติดขัดมลภาวะและอากาศร้อนอบอ้าวหนักอึ้งนั้น ร่างกายเธอรับความแตกต่างได้ไม่มากนัก
    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่  ครั้งที่สี่แล้วสินะ
    เรือด่วนเจ้าพระยาเทียบท่า...วันนี้เธอจะไปลงที่ท่าไหน  เดินเล่นในย่านไหนดี
    ละอองน้ำที่กระเด็นเป็นฟองฝอยช่วยโชลมให้เธอเย็นฉ่ำขึ้น
    การเดินทางว่องไว  ไม่เสียเวลาบนท้องถนนหุ้มสารตะกั่ว และเสียเวลาทุ่มเถียงราคาขูดรีดของตุ๊กๆไทยแลนด์
    ในเก๋งเรือ...นักเรียน  คนทำงานหนุ่มสาว  คุณตาคุณยายแก่ๆนั่งอุ้มลุกหลานไว้บนตัก  อ้อ....สามเณรอีกสามสี่รูปด้วย
    ต่างคนต่างมองออกไปด้านนอก....
    มองสายน้ำสีน้ำตาลที่รินไหลเอื่อยๆ

    วั้นนั้น เธอตัดสินใจลงที่ท่าน้ำแห่งหนึ่ง  ตามแผนที่มันอยู่ทางใต้สุดของบางกอก
    ถนนทั้งสาย  เต็มไปด้วยคนขายดอกไม้  แม่ค้าดอกไม้สาวบ้าง แก่บ้างนั่งร้อยดอกไม้มือเป็นระวิง
    ปากก็คุยกันตะโกนข้ามฝั่งกัน  ผู้คนสัญจรขวักไขว่
    ถนนสายดอกไม้....ที่นี่  เธอยังไม่เคยมา
    เธอหยุดมองดูแม่ค้าคนหนึ่งร้อยดอกไม้ หล่อนเปล่งเสียงออกมาพร้อมทีท่ากวักมือเชื้อเชิญ
    เธอไม่เข้าใจหรอก...แต่นึกรู้ว่าหล่อนคงชวนเธอให้ลองทำตาม
    เธอลงนั่งริมถนนกับแม่ค้า  หล่อนยัดเยียดเข็มยาวๆและถุงที่ใส่กลีบกุหลาบและดอกมะลิให้ อ้อ มีดอกสีเหลืองๆที่เธอไม่รู้จักชื่อด้วย
    แม่ค้าบอกให้เธอลองทำตาม เสียบดอกไม้ สับหว่าง สับหว่าง ก่อนจะหยุดมองเธอทำแล้วหันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน
    เธอเสียบดอกนั้น  ดอกนี้...ตั้งใจจดกับเข็มร้อยดอกไม้ในมือ...
    เสียงหัวเราะของแม่ค้าและเพื่อนแม่ค้าจางหายไป  หล่อนยิ้มให้เธอ...แล้วสอนร้อยดอกไม้ต่ออย่างชอบใจ
    เธอนั่งอยู่ในตลาดดอกไม้ได้พักใหญ่...ได้มาลัยมาหนึ่งพวง
    เธอตัดสินใจออกเดินต่อ  แม่ค้าดอกไม้ยกดอกไม้สดให้เธอถุงหนึ่ง พร้อมเข็มและด้าย
    พวกหล่อนยิ้มให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนจะลงมือร้อยดอกไม้ต่อ

    เธอออกเดินทาง พร้อมถุงดอกไม้พะรุงพะรังเต็มมือ
    เดินเข้าเดินออกอีกทั้งบ่ายตามย่านต่างๆ
    เลาะลงตามท่าน้ำแล้วท่าน้ำเล่า พร้อมมาลัยในมืออีกหนึ่งพวง

    บ่ายคล้อยแล้ว...เธอเดินกลับมาจากท่าน้ำยังที่พัก
    นักเรียนในเครื่องแบบเดินผ่านไปมาหลายกลุ่ม  คงถึงเวลาเลิกเรียน

    นั่น...
    หญิงชราคนเดิมยังก้มๆเงยๆอยู่หน้าตลาด
    เหมือนเมื่อเช้า...เหมือนทุกเช้าและทุกเย็นที่เธอเห็นเมื่อ กรกฎาคมปีที่แล้ว และเมื่อปีก่อนหน้านั้น
    หญิงชรายังผ่ายผอมเหมือนเดิม  ยังเหี่ยวย่นเหมือนเมื่อเช้า
    เธอคว้ากระดาษมามวนยาเส้น  เลียริมกระดาษปิดมุม ก่อนจะจุดไฟสูบตามความเคยชิน
    สาวใหญ่เจ้าของเกสต์เฮาส์หัวเราะชอบใจเมื่อเห็นเธอก้าวเข้ามาพร้อมกับมาลัยหนึ่งพวง ถุงดอกไม้สดพร้อมเข็มและด้าย

    เย็นนั้น  พวงมาลัยของเธอลอยเด่นอยู่เหนือเคาน์เตอร์หน้าเทอเรซของเกสต์เฮาส์

    เธอนั่งอยู่ในเทอเรซของเกสต์เฮาส์พักใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมาหาข้าวเย็นในตลาดตรงกันข้าม

    พ่อค้าบะหมี่เกี๊ยวคนนั้นมาถึงแล้ว
    เขาขับรถกระบะมาทุกๆเย็น  ราวห้าโมงแก่ๆกับภรรยาหน้าละอ่อน
    สองคนช่วยกันกางโต๊ะ  พ่อค้าวุ่นวายอยู่กับรถเข็นบะหมี่เกี๊ยว
    ตกเย็น  ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรแวะเวียนมาเติมเต็มกระเพาะกันไม่ขาดสาย
    เธอเดินลงไปที่ร้านหมี่เกี๊ยว  พ่อค้าเห็นเธอเดินมา  เขาส่งยิ้มให้กว้างขวางอย่างทุกเย็น
    สักพัก  บะหมี่เกี๊ยวถ้วยใหญ่กว่าปกติถูกวางไว้ตรงหน้า  เขาคงเห็นเธอผอม
    (ปีนี้เขาพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้น) "มอร์ ?มอร์?" "อี้ท อี้ท"

    ราวๆทุ่ม  "เมอซิเออร์คุณครู" เดินมาสั่งบะหมี่เกี๊ยวกลับบ้านอย่างทุกเย็น
    เธอตั้งชื่อเขาว่า "เมอซิเออร์คุณครู"  เขาเป็นชายวัยกลางคน  แต่ตัวเรียบร้อยดู"มีระดับ"
    นับเป็นขาประจำ"มีระดับ"คนเดียวของพ่อค้าบะหมี่เกี๋ยว เขามาสั่งบะหมี่กลับบ้านทุกเย็น ไม่มองใคร  ไม่พูดกับใคร
    ลูกค้าคนอื่นๆในร้าน มองเขามา หัวเราะคิกคักกระซิบกระซาบกันจิ๊กจั๊กจนเขาลับตาไป

    เธอจ่ายเงินแล้วเดินกลับที่พัก


    วันรุ่งขึ้น
    เธอนั่งอยู่ในเทอเรซของเกสต์เฮาส์อยู่พักใหญ่แล้ว
    ข้างหน้ามีแก้วกาแฟที่พร่องไปครึ่งแก้ว  ซองยาเส้นและซองกระดาษสำหรับม้วนยาวางอยู่เคียงข้าง
    สายตาที่ทอดไปเบื้องหน้าวางอยู่ที่ร่างคุ้มค่อมของหญิงชราคนหนึ่งที่ก้มๆเงยๆอยู่หน้าตลาดตรงข้ามเกสต์เฮาส์
    เธอหยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น  เรียงยาเส้นลงไปก่อนจะม้วนแล้วเลียปิดตามความเคยชิน
    สายตากระจ่างยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างก้มๆเงยๆคุ้มค่อมอยู่อย่างเดิม

    หญิงชราร่างกายคุ้มค่อม ก้มๆเงยๆเก็นเศษกระดาษอยู่หน้าตลาด
    เช้า กลางวัน เย็น...ทุกวัน  ทุกวัน
    ใบหน้าของหล่อนเหี่ยวย่น ตาเล็กยิบหยีดูฝ้าฟาง
    หล่อนก้มๆเงยๆ  เก็บกระดาษชิ้นเล็กใส่ลงในลังเล็ก  เก็บกระดาษกล่องใหญ่ลงในลังใหญ่  เก็บขวดพลาสติกถุงพลาสติกไว้ในอีกลัง
    มือเหี่ยวยับบ่งบอกร่องรอยการกรำงานหนักที่ผ่านมา
    เก็บเศษกระดาษชิ้นเล็กในลังเล็ก  เก็บกระดาษชิ้นใหญ่ในลังใหญ่ เก็บเศษขวดพลาสติกและถุงพลาสติกว่างเปล่าไว้ในอีกลัง

    เธอ...หยิบกระดาษขึ้นมาอีกหนึ่งแผ่น  เรียงยาเส้นลงไปก่อนจะม้วนแล้วเลียปิดแล้วจุดสูบตามความเคยชิน
    เธอเริ่มเข้าใจ..

    ชีวิตของหญิงชราเป็นเช่นนี้ หล่อนก้มๆเงยๆเก็บเศษกระดาษชิ้นเล็กในลังเล็ก  เก็บกระดาษชิ้นใหญ่ในลังใหญ่ เก็บเศษขวดพลาสติกและถุงพลาสติกว่างเปล่าไว้ในอีกลังอยู่หน้าตลาดและในตลาด
    หล่อนคัด หล่อนแยก เศษขยะในชีวิตของผู้อื่นที่ถูกทิ้งตามทางเท้าเพื่อหาเลี้ยงชีวิตของตนเอง
    สายๆ  สามล้อคันหนึ่งจะแวะเข้ามาในตลาด  ชั่งเศษกระดาษชิ้นเล็กในลังเล็ก เศษกระดาษชิ้นใหญ่ในลังใหญ่ เศษถุงและขวดพลาสติกในอีกลัง
    ก่อนจะยื่นเศษเงินให้หญิงชราหลังคุ้มค่อมคนนั้น


    ผู้คนยังคงสัญจรผ่านมาผ่านไป และเริ่มหนาตามากขึ้นเมื่อแสงตะวันเริ่มทอแสงกล้า
    เธอลุกจากเทอร์เรซ  หายเข้าไปในห้องด้านหลังก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งพร้อมถุงขยะใหญ่สีดำสามใบ
    เธอเดินตัดเทอร์เรซ  ตรงไปหาหญิงชราหลังคุ้มค่อมที่นั่งหลบแสงแดดอยู่ข้างทางเท้าตรงข้ามเกสต์เฮาส์
    เธอยื่นถุงให้หญิงชรา  หล่อนไม่เข้าใจมองหญิงต่างชาติที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความงงงวย
    เธอยิ้มให้หล่อน  ส่งถุงเข้าไปให้พร้อมท่าทางที่บอกให้หล่อนรับไว้
    รอยยิ้มจุดขึ้นบนดวงหน้ายับย่นของหญิงชรา  หล่อนทำท่าขอบอกขอบใจให้พร
    รอยยิ้มระบายบานอยู่บนดวงหน้าของเธอและหล่อน
    เธอเดินกลับมานั่งทอดสายตาเช่นเก่าบนเทอร์เรซของเกสต์เฮาส์
    หญิงชรา  หล่อนนั่งพักก่อนจะดำเนินวัตรคัดแยกของหล่อนต่อในยามบ่าย

    เธอบอกฉันว่า  เธอและหล่อนกลายมาเป็นเพื่อนกันแล้ว

    สายวันนั้น  เธอออกจากเกสต์เฮาส์มุ่งหน้าไปยังสนามบินระหว่างประเทศเพื่อเดินทางออกจาก บางกอก

    ย่ำเย็น
    หญิงชราคนเดิมจะยังก้มๆเงยๆอยู่หน้าตลาด
    เหมือนเมื่อเช้า...เหมือนทุกเช้าและทุกเย็นที่เธอเห็นเมื่อ กรกฎาคมปีที่แล้ว และเมื่อปีก่อนหน้านั้น
    ราวๆห้าโมงเย็น รถกระบะคันเดิมของพ่อค้าบะหมี่เกี๊ยวและภรรยาหน้าละอ่อนจะมาจอดหน้าตลาด
    ขาจร  ขาประจำและ "เมอซิเออร์คุณครู"จะมาสั่งบะหมี่เกี๊ยวเติมกระเพาะเช่นเก่า

    พวงมาลัยยังลอยเด่นอยู่เหนือเคาน์เตอร์ของเกสต์เฮาส์  กลีบเริ่มโรยราเป็นสีชาไปตามกาลเวลา

    เรือด่วนเจ้าพระยายังวิ่งฉิวในแม่น้ำสีน้ำตาลเช่นเดิม

    กรกฎาคมปีหน้า
    เธอจะกลับมา
    นั่งทอดสายตาอยู่ในเทอเรซซ์ด้านหน้าของเกสต์เฮาส์ หยิบกระดาษขึ้นมาอีกแผ่น  เรียงยาเส้นลงไปก่อนจะม้วนแล้วเลียปิดแล้วจุดสูบตามความเคยชิน

    - - - - - - - - - - - - - - -

    ฉันเข้าใจ  นั่งอมยิ้มฟัง "เรื่องราวในความเงียบ"

    แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 48 04:14:14

    จากคุณ : ange du riz - [ 28 ธ.ค. 48 03:45:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป