พักนี้ฉันดวงไม่ค่อยดีเลยแก ! เพิ่งซื้อมือถือมาใหม่ก็ดันซุ่มซ่ามทำตกคอห่าน... ไหนจะเรื่องที่โดนเพื่อนในห้องแอบนินทาประมาณว่าหมั่นไส้ฉัน หาว่าฉันเนี่ยสร้าง
สถานการณ์ส่งดอกกุหลาบให้ตัวเอง
หญิงสาวผิวสี ร่างอวบนิดๆ บ่นอุบอิบหลังจากที่เดินข้ามพ้นเขตประตูห้องเรียนออกมาแล้วเจอะหน้าซี้ปึกยืนอยู่ หล่อนสบถเสียงดังตบท้าย
จะบ้าหรือไง ! ใครเขาทำกันเล่า
ก็นั่นน่ะซิ หญิงสาวอีกคนซึ่งมีร่างที่สูงกว่าตอบแนวประชดประเทียด พลันเหล่มองอีกฝ่ายกลับจนสาวผิวเข้มอย่างปลายเทียนต้องเอ่ยสารภาพว่า
แหม ! ก็ยอมรับนะว่าเคยส่งดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ให้กับตัวเองทุกๆ ปี แต่งานนี้ไม่ใช่ฉันแน่ๆ ยัยพัด ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนจนถึงขนาดจำไม่ได้นะ ถึงฉันทำ...ฉันก็เป็นประเภทที่กล้าทำแล้วก็กล้ายอมรับ แต่งานเนี่ยมิใช่ฉันแน่นอน แต่ว่า...
คนขี้วีนหยุดบ่นซะดื้อๆ แถมลากเสียงยาวทิ้งท้าย สร้างความฉงนใจจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม
แต่ว่า...อะไรยะ ?
อืม มันน่าแปลกแกว่ามั๊ยพัด ใครกันนะที่ตาถั่ว...เสียบดอกไม้ไว้ที่ล็อกเกอร์น่ะ ฉันขอคอนเฟิร์มว่าหมอนั่นเสียบผิดตู้แหงๆ
สองสาวเดินลงจากบันไดมาที่ชั้นหนึ่ง เลี้ยวผ่านหัวมุมตึก เดินทอดน่องตรงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่หน้าตู้ล็อคเกอร์ประจำตัวของคณะมนุษย์ศาสตร์
ไม่มีทาง ! สาวหมวยท้วงขึ้นจมูกเสียงแหลม จนทำให้ปลายเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ หมายความว่าไง ?
พัดชายิ้มหน้าระรื่น ครั้นเห็นดอกไม้ดอกหนึ่งถูกเสียบไว้ ณ จุดเดิม แกก็ดูนี่ซิ...นั่นยังไงเล่า ! ดอกไม้ของแกชัวร์ มีรูปเทียนไขด้วยแหละแก เสียงแจ๋นของพัดชาเปล่งบอก มือชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปที่รูปภาพในการ์ดที่แนบมา
อีกแล้วเหรอ ! ดอกนี้ก็ดอกที่ 3 ของเดือนนี้แล้วนะ เจ้าของดอกไม้เป็นใครกัน ฉันหวังว่าคงไม่ใช่นายกีวี นายแว่นจอมตื้อข้างบ้านนะ ยี้ ! ถ้าเกิดเป็นนายนั่นจริง ฉันขอทิ้งดอกไม้ดีกว่า
สาวน้อยร่างโปร่งสั่นหน้าดิก อย่าทิ้งนะเทียน ! อาจจะไม่ใช่นายนั่นก็ได้...เก็บเอาไว้เหอะน่า บางทีโชคชะตาแห่งความรักอาจจะกำลังเล่นเกมกับเธออยู่ก็ได้
เล่นเกมกับฉันน่ะเหรอ ? ปลายเทียนเกาหัวแกรก บ้าน่า ! นี่ยัยพัด...แกอย่าเอาเรื่องดวงมาพูดกับฉันซิ แกก็รู้ว่าฉันเชื่อเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน
พัดชาขบปากยิ้มกว้าง เชื่อฉันไหมล่ะว่าเนื้อคู่ของแกกำลังจะปรากฏตัวเร็วๆ นี้นี่แหละ
หญิงสาวผมหยักศก ร่างอวบปรายตามองแล้วส่ายหน้า ฉันไม่อยากจะเชื่อแกแล้วยัยพัดแม่หมอขี้ตู่ ทำนายทีไรไม่เห็นจะแม่นเลย ครั้งที่แล้วแกดูไพ่ให้ฉันบอกว่าต้นปีที่ผ่านมาฉันมีเป็นตัวเป็นตนแน่ แล้วไงยะฉันรอเป็นชาติแล้วเนี่ยไม่เห็นจะโผล่มาซักคนเลย
ใครจะรู้บางทีเนื้อคู่แกอาจจะ...อยู่ใกล้ๆ ตัวก็ได้นะเทียน
ใกล้ตัว ? ปลายเทียนทวนถาม
อืม...อาจเป็นพี่ปี่ก็ได้ ?
พี่ชายแกน่ะเหรอ...โอ๊ย เลิกพูดเถอะ
แต่คราวนี้ฉันว่า... ยังไม่ทันที่พัดชาจะได้พูดจบ ปลายเทียนก็รีบใช้มือปิดป้องปากเพื่อนแล้วพูดแทรกว่า เนื้อคู่ของฉันจะเป็นใครฉันไม่สนหรอกย่ะ เพราะว่าฉันสนคนแค่คนเดียวเท่านั้น...
พัดชาตาโต...คลี่ยิ้มบางๆ เฮ้ย ! คนไหนวะเทียน
หล่อนเขย่าแขนเพื่อซี้ออกอาการลุ้นๆ แม่เทียนไขของฉันปิ๊งหนุ่มคณะไหนกัน บอกใบ้หน่อยซิ
คณะเดียวกับฉันนี่แหละย่ะ หล่อนพูดขวยเขิน
เด็กมนุษย์ศาสตร์ ญี่ปุ่นเหรอ ? " พัดชาทบทวน พยายามนึกว่าใครเข้าเค้าบางแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก เทียนจ๋า...หมอนั่นเป็นใครกัน ?
ใครกันล่ะพัด ที่ชอบกักตัวฉันไว้ให้ช่วยตรวจงานทุกวันศุกร์น่ะ
พัดชาร้องอ๋อ ยัยเทียน ! แกชอบ... หล่อนปิดปากตกใจสุดขีด ปลายเทียนรีบตัดบท เออๆ คนนั้นนั่นแหละ
เป็นไปได้ไง ! ดูแกไม่มีทีท่าที่จะชอบเขาเลยนะ...แล้วไหงเป็นเงี่ย ?
สาวร่างอวบกว่าเอ่ยว่า ไม่รู้ซิว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพราะเจอหน้าเขาบ่อยมั้งก็เลยรู้สึกชอบเขาขึ้นมา
ชอบมากถึงขนาดรักหรือยัง หรือว่าแกแค่ชอบเขาเฉยๆ
แกถามอะไรน่ะพัดชา บ้าหรือเปล่า ?
พัดชาอมยิ้มกริ่ม ถ้าชอบมากถึงขนาดว่าอยากเห็นหน้าทุกวัน หรืออดใจไม่ไหวยังไงก็ต้องแวะไปเจอนั่นแหละแก...แสดงว่าแกน่ะเริ่มรักเขาแล้วล่ะ
คอร์สติวเข้มเรื่องความรักหรือไงย่ะ ฉันรู้หรอกน่า...
แล้วแกเริ่มเป็นถึงขนาดนั้นหรือยังจ๊ะ ?
ปลายเทียนจ้องมองดอกไม้ในตู้ล็อกเกอร์หัวใจกระชุ่มกระชวยพิกล อืม พัดชาหัวเราะพรืดหยอกเย้า ตายแล้ว ! ข่าวใหญ่เลยนะเนี่ย ต้องประกาศให้ทั่ว
จะบ้าหรือไงยะ ! อย่าเชียวนะ ด้วยความเขินปลายเทียนเก็บของใส่ล็อกเกอร์ท่าทางเก้ๆ กังๆ จะยืมสมุดเลคเชอร์ไหมเนี่ย พัดชาพยักหน้า เดี๋ยวนี้ริโดนเรียนนะแก ปลายเทียนค่อนขอดเล็กน้อย...ผลักบานเหล็กปิดแล้วไขกุญแจล็อกตู้
ยัยพัด ! ตาย ! ฉัน...ฉันลืมไปเสียสนิทเลย กี่โมงแล้วเนี่ย ?
คนถูกถามยกข้อมือยื่นให้อีกฝ่ายดู ร่างเล็กเสตามองที่เครื่องบอกเวลาแล้วอุทาน ว๊าย ! ฉันไปก่อนนะ พัด เดี๋ยวโดนเจ๊บรรณหาว่าอู้งานอีก ไปล่ะ
พัดชาทอดสายตามองตามเพื่อนที่วิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อไหร่ยัยเพื่อนจอมโก๊ะของเธอจะมีแฟนเหมือนชาวบ้านเขาซักที หากปลายเทียนมีคนดูแลเอาใจใส่ซักหน่อย อะไรๆ ก็คงดีกว่านี้เป็นแน่
ช่วยจัดหนังสือเข้าชั้นให้มันเร็วกว่านี้หน่อยได้ม่ะ มาช้าแล้วยังจะมาอู้อีก เจ๊บรรณ หรือคุณบรรณารักษ์ เจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุดมหา ลัย ออกคำสั่งเสียงเฉียบ
ค่า ทราบแล้ว กำลังเร่งทำอยู่ค่ะ สาวน้อยตาคมกะพริบตาถี่ไล่ความเบลอออกจากสมอง หล่อนสะบัดแข้งสะบัดขา รวบรวมกำลังทั้งหมดหอบหนังสือกองโตเดินผ่านบันไดขึ้นไปที่ชั้นสองแล้วทิ้งหนังสือลงโต๊ะดังปั๊กก่อนทรุดตัวลงกับพื้นจัดหนังสือด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
เฮ้อ ! ไอ้เทียนเอ๊ย ชาตินี้มีกรรมจริงหนอ นอกจากจะไม่สวยแล้วยังไม่ฉลาดอีก ไหนจะขี้ลืม ป้ำๆ เป๋อๆ จอมโก๊ะอีกต่างหาก เฮ้ย...เบื่อชะมัด เซ็งโว๊ย เมื่อไหร่จะพ้นๆ โทษไปซะทีนะ
ถ้าเกิดวันนั้นหล่อนเป็นคนเห็นแก่ตัวซะก็ดีหรอก ก็แค่ปลายเทียนเห็นอาจารย์ปราณีเดินอุ้มท้องโย้ผ่านหน้าเธอไป ด้วยความสงสารกลัวอาจารย์และเด็กในท้องจะเป็นอันตราย ก็เลยเหน็บหนังสือเล่มที่เธอจะยืมเอาไว้ที่ใต้รักแร้ก่อนแล้วอาสาช่วยอาจารย์ถือหนังสือ อาจารย์ก็เดินเลือกหนังสือไปซิส่วนอีกคนก็เดินตามก้นต้อยๆ จากหนึ่งเล่มก็กลายเป็นสองเล่ม เป็นสามเล่ม เป็นสี่เล่มจนท้ายสุดก็สุมเป็นกองพะเนินสูงเหนือหัวปลายเทียนไปอีก
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด....
เสียงเครื่องตรวจจับคำรามเสียงดังลั่นจนผู้คนแตกตื่น สาวน้อยผมประบ่าหันรีหันขวางไม่รู้สาเหตุที่เกิดขึ้นและแล้วหล่อนก็ถึงบางอ้อ เมื่อสายตามารวมอยู่ที่หล่อนเพียงจุดเดียว
อย่าหนีนะแม่หัวขโมย นักศึกษาคนนั้นขโมยหนังสือ ช่วยกันจับตัวมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ !!!!! เจ๊บรรณเจ้าเดิมลั่นวาจาประมาณว่าบ้าพลังสุดขีด
หนูหรือคะ ? ปลายเทียนยื่นหน้าเหวอถามเจ๊บรรณ ก่อนกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกเมื่อสบสายตาเอาจริงเอาจังของหญิงแก่หน้าเหี้ยม
แม่เจ้า ! หล่อนลืมหนังสือที่เหน็บไว้ใต้แขนไปเสียฉิบ ตายละว้า ! หล่อนเดินผ่านเครื่องสแกนโดยที่ไม่ได้ยืมหนังสือเล่มนั้น
และนั่นแหละ...ก็คือสาเหตุที่หล่อนต้องมาทำงานชดใช้ความผิดฐานขโมยหนังสือเป็นเวลาตั้ง 3 เดือน...อย่างนี้ปลายเทียนจะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย !!
จากคุณ :
PieKrob
- [
28 ธ.ค. 48 09:06:24
]