Part 2
ทุ่มตรงแล้วแต่ปลายเทียนยังคงนั่งง่วนจัดการกับหนังสือกองพะเนินเทินทึกอยู่ที่ชั้นวางด้านหลังของตัวเคาน์เตอร์ห้องสมุด
เมื่อตะกี้เจ้ากวีตัวยุ่งก็แวะมาป่วนจนหล่อนทำงานแทบจะไม่ได้ เขามานั่งป้อยอหยอดคำหวาน มานั่งจ้องหล่อนซะตาเยิ้มตาเชื่อมก่อนทิ้งท้ายว่าคงคิดถึงหล่อนแย่เพราะต้องไปเก็บตัวที่เชียงใหม่เพื่อลงแข่งขันบาสเก็ตบอลระดับชาติเป็นเวลาถึงสองเดือน
จะไม่ต้องเจอหน้าหมอนั่นตั้งสองเดือนแหนะ...ดีใจชะมัดยาด
รอยยิ้มเผยเต็มดวงหน้าหวานแต่ทว่าเมื่อสายตากลับมาสบที่กองหนังสือตรงหน้าที่ไม่มีวี่แววจะจัดเสร็จเสียที หล่อนก็อด เซ็ง ไม่ได้ เมื่อไหร่น้าจะครบสามเดือนซักกะที เมื่อไหร่น้าที่เธอจะพ้นจากพันธนาการอันน่าเบื่อนี้ แล้วเมื่อไหร่หนอ...ที่หล่อนจะได้กลับบ้าน
เบื่อ ! อยากตะโกนออกมาดังๆ แต่ก็ทำไม่ได้ จนเสียงเล็กๆ ของหล่อนอาจจะดังไปถึงเบื้องบนกระมัง
ปลายเทียน...วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไว้ค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้
โอ้วว
ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน
หล่อนคิดว่าเสียงนี้คือเสียงสวรรค์ หล่อนรักและเทิดทูนประโยคนี้ซะเหลือเกิน ไม่รอช้าปลายเทียนวางหนังสือที่อยู่ในอุ้งมือลงกับโต๊ะแล้วผลุนผลันออกไปโดยเร็ว
ปกติแล้วเสาไฟฟ้าทั้งสองฟากถนนของมหาลัยจะส่องสว่างไปทั่ว หากแต่วันนี้เสาไฟกลับติดบ้างไม่ติดบ้าง ปลายเทียนเหม่อมองที่ท้องฟ้ายามราตรีครานี้เมฆหมอกเคลื่อนมาบังดวงจันทร์
ฝนตกแหงๆ งานนี้ หล่อนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมวันนี้ทางมหาลัยถึงเปิดไฟเป็นช่วงๆ สงสัยกำลังเร่งประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐเป็นแน่...แหม จะประหยัดอะไรกันหนักกันหนา เปิดซักสองสามดวงมันจะตายหรือไง มืดแบบเนี่ยหญิงสาวชักจะเสียวสันหลังตะหงิดๆ ซะแล้ว
อ๊าย !
กรี๊ดดดดดดดด !
ปลายเทียนอุทานลั่นใจหายวาบเมื่อเงาตะคุ่มปรากฏร่างตัดผ่านหน้าหล่อน หญิงสาวเพ่งตามองบางอย่างตรงหน้าเขม็ง หัวใจเต้นรัวดังกลอง
โธ่ ! อาจารย์นั่นเอง
มือเรียวทาบแน่นบนอก ผ่อนลมออกเล็กน้อยอย่างคลายใจ "หนูนึกว่าผีซะอีก นึกครึ้มอะไรคะถึงมายืนอยู่แถวนี้ ?
ร่างใหญ่เกาหัวแกรกสำนึกผิด โทษที...ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณตกใจ
ช่างมันเถอะค่ะ...ว่าแต่มาทำอะไรตรงนี้ล่ะคะ ?
ผมมาดักรอคุณ
หา ! อาจารย์ว่าไงนะคะ หนูได้ยินไม่ชัด
ชายหนุ่มขบปากเม้มแล้วผ่อนยิ้มช้าๆ ผมมารอพบคุณ
พบหนู ? ปลายเทียนลอบยิ้มดีใจมิใช่น้อย อาจารย์มารอพบหนู...มีอะไรเหรอคะ หรือว่า....
อาจารย์จะเอ่ยสารภาพรักกับหล่อน
อย่าเลยค่ะ หนูว่าเวลาเนี้ยมันคงไม่เหมาะมั้งคะ ร่างบางปัดไม้ปัดมืด กลั้วหัวเราะสะเทินอายจนอีกฝ่ายมองกลับอารามงงๆ
ไม่เหมาะตรงไหน คิดบ้าอะไรของเธออยู่เนี่ยปลายเทียน
ก็
ฉันเอาของมาคืน...อันนี้ใช่ของเธอหรือเปล่าฮะ ฐาณัฐหยิบยื่นของสิ่งหนึ่งส่งให้ หญิงสาวจ้องบางอย่างในมือหยาบแล้วก็เบิกตาค้าง ตะลึงลาน
ฮะ ! "
ผมตั้งใจจะเอาของมาคืนคุณ คุณลืมมันไว้ที่ผมเมื่อสองวันก่อน
ที่อาจารย์ ? ให้ตายซิ ฉันลืมไดอารี่ไว้ที่เขาได้ยังไงกัน แล้วมันไปอยู่ที่อาจารย์ได้ไงคะ ? เนื้อนางคว้านคว้าแย่งของกลับคืน
ชายหนุ่มเสมองเลยผ่าน ริมฝีปากหนาจุดยิ้มฉาย ก็มันปนอยู่ในกองหนังสือที่เธอยืมมาให้น่ะซิ ขี้ลืมจริงๆ นะเรา
ดวงตาใสเหยียดมองจับผิด อาจารย์ได้เปิดอ่านข้อความข้างในหรือเปล่าคะ ?
ฐาณัฐส่ายหน้า เปล่า
โกหกหรือเปล่าคะ แล้วหนูจะเชื่อคำพูดอาจารย์ได้ยังไง ดูหน้าอาจารย์แล้วมันไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ หล่อนคาดคั้นแล้วต่อขานสมทบ
เขายกไหล่สูง หน้าผมเนี่ยนะ แต่ช่างมันเหอะผมก็ไม่ได้ขอให้คุณเชื่อ มันก็แล้วแต่คุณจะคิด
หล่อนครวญ อาจารย์ไม่ได้อ่านไดอารี่ของหนูจริงๆ นะคะ คือถ้าอ่านหนูจะได้อธิบายถูกว่าข้อความนั่นมันหมายความว่ายังไง
หนุ่มใหญ่เผยยิ้มกว้าง ข้อความไหนล่ะ ผมจำไม่ได้หรอก
ปลายเทียนกางหูผึ่ง หะ...หา ! ไหนว่าไม่ได้อ่านไงคะ ?
แล้วมันจริงหรือเปล่า ?
ริมฝีปากเต็มอิ่มเชิดขึ้นเฉไฉ อะไรจริงคะ ?
เขาชักสีหน้ารำไร พร้อมส่งเสียงกระแอมใส่หยอกเย้า ช่างมันเถอะ...แต่ตามความเห็นผม ผมว่าคุณน่าจะบอกให้เจ้าตัวเขาทราบนะว่าคุณรู้สึกยังไงกับเขา ถ้าไม่เสี่ยงที่จะลองดูซักตั้ง คุณก็อาจจะต้องสูญเสียสิ่งที่รักไป บอกไปเลยว่าชอบเขาเผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น แอบรักเขาข้างเดียวอย่างนี้ไม่ดีหรอกนะผมเคยเป็นและรู้ว่ามันเป็นยังไง
ไม่ต้องมาสอนหรอกค่ะ...เรื่องพวกนี้หนูคิดเองได้
ฐาณัฐขบปากแน่น อยากรู้จัง ! ชายหนุ่มที่ลูกศิษย์ผมคร่ำครวญอยู่เนี่ยเป็นใครกัน แต่ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใครยังไงผมก็ขอให้คุณสมหวังในความรัก
เกลียดนัก..พวกที่ฉลาดแต่แกล้งโง่เนี่ย !
ขึ้นรถซิ เดี๋ยวผมไปส่ง ชายหนุ่มขันอาสาด้วยท่าทีเป็นมิตร แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับปั้นหน้าตึงใส่ ไม่ละค่ะ หนูกลับเองสะดวกกว่า
ใจจริงก็อยากกลับหรอกนะ แต่ฉันปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว...
ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ผมแอบอ่านไดอารี่ของคุณไง ให้ผมไปส่งบ้านเถอะนะ
หนูไม่กล้ารบกวนอาจารย์หรอกคะ หล่อนตอบหน้านิ่ง
มืดๆ อย่างเนี้ยคุณกล้ากลับคนเดียวด้วยเหรอปลายเทียน เอ๊ะ คุณได้ข่าวเรื่องนักศึกษาที่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายหรือเปล่า เห็นบอกว่าเฮี้ยนสุดๆ ไม่กลัวหรือไง กว่าจะเดินออกไปมันไกลนะระยะทางที่คุณต้องเดินน่ะ ไปรถผมดีกว่า อาจารย์หนุ่มท้วงพลันชะโงกหน้าเข้มคร้ามมาเผชิญหน้ากับหล่อน อีกคนใจหายวับ...ถอยกรูดหลบหนึ่งก้าว
โอ๊ย ! ลมแทบจับ อาจารย์เล่นไรเนี่ย...ถ้าหลบไม่ทันจะเป็นยังไง ?
ดวงหน้าหวานเปลี่ยนแปรเป็นแดงระเรื่อ หล่อนเขิน ทำเอาอีกฝ่ายแกมหัวเราะแทบไม่ทัน
ทำไมต้องขู่หนูอย่างนี้ด้วยคะ ไม่ยุติธรรมเลย หล่อนโอดอย่างเสียไม่ได้
ร่างสูงปรายสายตาบอก แล้วสรุปว่าไง รับข้อเสนอผมหรือเปล่า ถ้ารับก็ขึ้นรถซิ เขาว่าเสร็จก็หยิบรีโมทเล็งไปที่รถมินิคูเปอร์สีเขียวเข้มซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก ปลายเทียนชักตาขุ่นก่อนจำยอมเมื่อเขาเปิดประตูผายมือออกอย่างเชื้อเชิญ
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 48 08:34:41
จากคุณ :
PieKrob
- [
29 ธ.ค. 48 08:32:36
]