CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เท้า(ของ)ตุ๊กตา

    เท้า(ของ)ตุ๊กตา

    ฉันหยิบที่คั่นหนังสือสอดใส่ใน “ROSSO- ร้อนแรง” ก่อนวางคู่กับ “Blu-เยือกเย็น” ที่รออยู่ข้างเตียงนอน
     
    เมื่อสามปีที่แล้วฉันได้อ่านเรื่องราวความรักของของจุนเซใน Blu-เยือกเย็นจากการหยิบยืนจากเพื่อนสนิท  และส่งหนังสือคืนให้เพื่อนทางไปรษณีย์   แต่อะไรบางอย่างทำให้ฉันไม่ได้อ่านความรู้สึกของ “อาโออิ”ใน ROSSO- ร้อนแรง เสียที  จวบจนเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาฉันไปตะลุยร้านหนังสือมือสองที่จตุจักร หนังสือสองเล่มใส่ถุงพลาสติกเขรอะฝุ่นดินแดงนอนรออยู่บนแผงหนังสือคล้ายรอใครสักคนมาพบเจอ    ฉันรีบคว้าขึ้นมาขึ้นบอกไม่กลัวเลอะเทอะ  ราคาลด50% ทำให้ฉันไม่ลังเลที่จะต่อราคา      แถมคนขายกลัวจะไม่ได้ขายหรืออย่างไรรีบจัดแจงปัดฝุ่นใส่ถุงให้ฉันอย่างรวดเร็ว    คนรักเดินมาดูแล้วยิ้มเหมือนกลั้นหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กได้ของเล่นของฉันก่อนจ่ายเงินค่าหนังสือให้

    ฉันบอกเขาว่า...หนังสือสองเล่มนี้ต้องรอฉันเป็นเจ้าของแน่ๆ     เขาว่า...มันทำให้เขานึกถึงเรื่อง “หนังสือเล่มสอง”ของ เดือนวาด พิมวนา  ฉันทำหน้ายุ่งเพราะไม่ถึงขนาดนั้นเสียหน่อย! ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินขนมหวานในร้านขายอาหารราคาถูกที่จตุจักรก่อนกลับบ้านพร้อมถุงใส่หนังสือสองห่อใหญ่

    ฉันอ่านเรื่องราวชีวิตของอาโออิได้อย่างลื่นไหลอย่างแปลกใจ เหมือนรอคอยมานานเนิ่นนานราวกับอ่านจดหมายบอกเล่าชีวิตของเพื่อนรักที่ห่างหายไปนาน   ไม่จำเป็นที่ฉันต้องพลิกอ่านชีวิตของจุนเซเพื่อทบทวนความหลังแต่ฉากแต่ละฉากในชีวิตของอาโออิที่จมอยู่กับอดีตชัดเจนและสอดคล้องกับภาพของจุนเซ

      ทั้งๆที่ฉันอ่านเรื่องราวของจุนเซไปตั้งสามปีที่แล้วและเพียงรอบเดียวเท่านั้น(เพราะยืมหนังสือเพื่อนมาอ่าน)
    เมื่อสายตาไล่จนถึงบรรทัดสุดท้ายเหมือนได้ยินเสียงถอนหายใจของอาโออิเบาๆในรอยเหงาภายใต้ท้องฟ้าของเมืองฟลอเรนซ์

    ฉันลุกขึ้นนั่งคลำเท้าของตัวเอง บนเตียงนอน     อดคิดไม่ได้ว่าจะมีใครที่จมอยู่กับห้วงอดีตได้นานถึงสิบปีเชียวหรือ? ทำไมไม่ก้าวเดินไปข้างหน้าเดินเคียงข้างกับความเป็นปัจจุบัน   และจะมีใครสักคนที่อยู่เพื่อรัก...และรัก...รักอย่างสัตย์ซื่อตลอดกาล

    รักครั้งแรก เป็นความทรงจำของชีวิต  แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการเริ่มต้นรักครั้งสอง และมันอาจต้องเริ่มต้นไม่รู้กี่ครั้งตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตจะจากลา

    ฉันหลับตาและหัวเราะขื่นๆออกมาเบาๆ   ฉันเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมแบ่งปันผู้ชายของตนเองให้หญิงอื่นตามเงื่อนไขการใช้ชีวิตของเขา ใช่! ฉันเคยเป็นผู้หญิงร้ายกาจในชีวิตผู้ชายคนหนึ่ง  เพียงแค่เงื่อนไขการใช้ชีวิตของฉันที่เขารับไม่ได้   เพียงแค่ฉันต้องการครอบครัวเล็กๆ  ฉันเห็นแก่ตัวที่อยากให้เขามีฉันเพียงคนเดียว ใช่!ฉันทนไม่ได้ที่เห็นผู้ชายของฉันแจกความรักให้หญิงสาวทุกคนที่เข้ามาในชีวิตและนั่นมันทำให้ฉันเป็นผู้หญิงใจร้ายที่บอกเลิกผู้ชายก่อน

    หากฉันเป็นอาโออิ   ฉันคงรับคำขอแต่งงานของมาร์ฟไปนานแล้ว(555)และไม่จมอยู่กับอดีตใช้ชีวิตที่หยุดนิ่ง      แต่นั่นเพราะว่าฉันไม่ได้มีรอยกรีดในชีวิตที่เป็นแผลเป็นไม่อาจลบเลือนได้อย่างอาโออิ     ฉันว่าจุนเซอ่อนแอเกินไป แต่ฉันก็ไม่ชอบผู้หญิงอย่างเมมิเท่าไหร่นัก   ความจริงมันเป็นชีวิตของพวกเขา(ในนิยาย)ที่ต่างมีเงื่อนไขการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป   แต่เวลาที่ผ่านมาเกือบสิบปีทำให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งในมุมมองที่มีเหตุและผลของตนเองและยอมรับเงื่อนไขของกันและกัน    แต่ที่สุดของทางเดินนั้น พวกเขาต่างเป็นฝ่ายเลือกเอง

    เท้าที่ก้าวไปกับทางที่เลือกเดินด้วยตนเอง

    ฉันนั่งคลำเท้าของตัวเอง  นึกถึงตอนแรกในหนังสือร้อนแรง มาร์ฟบอกว่าเท้าของอาโออิเล็กเหมือนเท้าของตุ๊กตา ฉันไม่ชอบเท้าของตัวเองนักมันเหมือนเท้าของผู้ชายและทำให้หารองเท้าน่ารักๆใส่ยากจนกลายเป็นว่าฉันจะต้องหาเสื้อผ้าที่เหมาะกับรองเท้านั้นคือรองเท้าผ้าใบเซอร์ๆของตัวเอง  

    ครั้งหนึ่งที่เราไปงานเลี้ยงด้วยกันและฉันใส่รองเท้าคู่ใหม่สีชมพูหวานน่ารักปลายแหลมแบบที่กำลังเป็นที่นิยมปักเลื่อมลวดลายสวยงาม   ฉันเดินเกาะแขนคนรักตลอดงานเลี้ยง   แต่เมื่อกลับถึงที่พักเขาก็ต้องหัวเราะเมื่อรู้ว่ารองเท้าสวยทำพิษให้เท้าฉันถึงกับเป็นแผลผุพอง

      ฉันนั่งทำหน้าแหยบนเตียงต้องจัดการเอาน้ำเหลืองออกแต่ก็เจ็บเท้าจนมือสั่นไม่กล้าจับเข็มเพื่อแทงแผลผุพองที่เท้า       เขาหยิบไม้จิ้มฟันจากกล่องบนโต๊ะอาหารกับกระดาษทิชชู่   ก่อนเดินมานั่งลงปลายเตียง  

      เขายกเท้าฉันไปพาดบนตักแล้วค่อยๆใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยๆที่แผลช้าๆและชวนคุยโน้นคุยนี้  และโดยไม่รู้ตัวเจ้าน้ำเหลืองก็ไหลออกมาเขารีบใช้ทิชชู่ซับให้เรียบร้อยก่อนใช้พลาสเตอร์ปิดที่แผล

    ฉันคิดถึงคนที่รักอาโออิและคนที่อาโออิรัก คนรักของฉันอาจไม่ได้สักครึ่งของมาร์ฟแต่เขาก็มีตัวตนอยู่จริงในชีวิตฉัน    ใครสักคนอาจทุมเทความรักให้อย่างสุดกำลังและใครอีกคนอาจรักเท่าที่หัวใจสั่งให้รัก     คิดถึงจุนเซที่ต้องทนปวดร้าวกับอดีตจนแทบจะหยุดชีวิตไว้กับความทรงจำที่มีเพียงอาโออิเท่านั้น แต่ที่สุดของทางเดินนั้น พวกเขาต่างเป็นฝ่ายเลือกเอง

    ฉันนั่งคลำเท้าของตัวเอง  ใช่!เท้าที่ก้าวไปกับทางที่เลือกเดินด้วยตนเอง เพราะชีวิตเป็นของฉันและฉันจะเป็นคนเลือกหนทางของฉันเอง...ไม่ว่าความรักครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แต่มันก็คือหนทางที่ฉันเลือกจะก้าวเดินด้วยเท้าของฉันเอง
    .........................

    จากคุณ : สายลมอิสระ - [ 30 ธ.ค. 48 21:45:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป