ความคิดเห็นที่ 1 เนื่องด้วยผมมีโอกาสไปร่วมชมงาน Singapore Air Show 2008 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา โดยได้บัตรเข้าชมงานในนามสื่อจากเว็บไซต์ HFlight.net ครับ   การเดินทางทางทริปนี้ ผมเลือกใช้บริการของสายการบินไทเกอร์แอร์เวย์ส ซึ่งมีเที่ยวบินให้บริการบินตรงจาก เชียงใหม่ สู่ สิงคโปร์ เพียง 3 ชั่วโมงก็ถึงสิงคโปร์แล้ว ในราคาที่ประหยัดมากๆ ครับ จริงๆ ผมก็เล็งโปรโมชั่นของเจ้าเสือน้อยมานานแล้วหล่ะ แต่ไม่มีโปรโมชั่นถูกๆ เสียเลย ตอนแรกเกือบจะจองหางแดงแล้ว ... จนกระทั่งวันหนึ่ง ... ไทเกอร์แอร์เวย์สออกโปรโมชั่น 9 SGD ออกมา คุ้มอีกแล้ว ราคาโปรโมชั่น 265 บาท รวมหมดทุกอย่าง ไป-กลับ 3,940 บาท บินตรงจากเชียงใหม่ ก็ถือว่าไม่แพงหรอกครับ เพราะแค่บินตรงจากกรุงเทพ ไป-กลับ ก็ราคา 3,xxx ขึ้นไปแล้ว พอเห็นโปรโมชั่นนี้ก็รีบตะครุบเลยสิครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 15:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของดีๆ แบบนี้ไม่จองก็แปลก ก็เลยฟาดไปซะเลย อิอิ เวลาเหมาะเจาะด้วยครับ  เพราะว่าใช้วันหยุด 2 วันติดกัน วันศุกร์-เสาร์ ไปสิงคโปร์ ก็เวิร์กดีแฮะ บินกลับเช้าอาทิตย์ มาถึงเชียงใหม่ก็เข้างานโลดเลย ....   แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายครับว่า ... สายการบินไทเกอร์แอร์เวย์ส ได้ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทาง สิงคโปร์-เชียงใหม่-สิงคโปร์ ตั้งแต่ตารางบินฤดูร้อนปี 2551 เป็นต้นไป โดยจะทำการบินเที่ยวบินสุดท้ายในเส้นทางนี้ วันที่ 28 มีนาคม 2551 ดังนั้นรีวิวนี้จึงถือว่าเป็นรีวิวสั่งลา เสือน้อย เส้นทาง เชียงใหม่-สิงคโปร์ ซึ่งได้เปิดให้บริการเที่ยวบินแรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548 ในเที่ยวบิน TR128/129 ซึ่งให้บริการในช่วงเย็น เพียงสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และช่วง High season ฤดูหนาวเพิ่มความถี่เป็นบินทุกวัน ซึ่งสมัยแรกเริ่มให้บริการถือว่าโปรโมชั่นถูกมากๆ โดยเที่ยวบิน เชียงใหม่ - สิงคโปร์ โปรโมชั่น 1 SGD ราคาไป-กลับรวมภาษีทั้งหมดเพียง 2,2xx บาทเท่านั้น ต่อมาก็มีการปรับขึ้นราคาค่าน้ำมันเพิ่มเติม รวมภาษีเป็น 2,7xx บาทแล้วก็ได้ขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงปี 2550 ได้มีการเปลี่ยนแปลงตารางบินเส้นทางเชียงใหม่ อีกครั้งหนึ่ง จากเดิมที่บินช่วงเย็น เปลี่ยนแปลงมาบินช่วงเช้า จึงอาจทำให้ผู้โดยสารมีปริมาณลดน้อยลง ดังนั้น จากเดิมที่บินสัปดาห์ละ 4 วัน และเพิ่มช่วง High season เป็นบินทุกวัน แล้ว พอหลังช่วง High season ลดเหลือเพียงสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน คือวัน ศุกร์ และ วันอาทิตย์ เท่านั้น ก่อนที่จะปิดเส้นทางลงในเดือนมีนาคม 2551 ผมเองก็รู้สึกใจหายกับการปิดเส้นทางนี้ของไทเกอร์แอร์เวย์ส เพราะมีโอกาสได้บินในเส้นทางนี้อยู่หลายครั้ง  ;) ในตารางบินฤดูร้อน 2551 นี้ ไทเกอร์แอร์เวย์ส จะบินสู่ประเทศไทยเพียง 2 จุดบินเท่านั้นคือ กรุงเทพ และ ภูเก็ต ครับ   โดยไทเกอร์แอร์เวยส์ ได้ไปเน้นจุดหมายปลายทางในประเทศจีน และอินเดียมากขึ้น รวมไปถึงการตั้ง Incheon Tiger Airways หรือ เสือน้อยเกาหลีด้วยเช่นกันครับ (จากตอนนี้ที่มี เสือน้อยออสซี่ หรือ Tiger Airways Australia เรียบร้อยแล้ว) ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ผมได้บินกับไทเกอร์แอร์เวย์ส แล้วหล่ะครับ เพราะถ้าบินจากกรุงเทพ มีตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจกว่า เพราะอย่างไทยแอร์เอเชีย ก็เลือกใช้ Terminal 1 อลังการกว่าครับ วันเดินทาง : 22 กุมภาพันธ์ 2551 เที่ยวบิน : TR123 Chiang Mai - Singapore เครื่องบิน : แอร์บัส A320 ทะเบียน 9V-TAE เวลาออกเดินทางตามตาราง : 9.00 - 13.00 น. เวลาออกเดินทางจริง : 9.40 - 14.10 น. เวลาเดินทางบนอากาศ : 3 ชั่วโมง 9 นาที จำนวนผู้โดยสาร : 180 คนเต็มทุกที่นั่ง !!! ราคาค่าโดยสาร : รวมภาษี ไป-กลับ 3,940 บาท หลังจากที่ผมตะลุยรบรากะน้องหมาน้องแมว รักษามาต่อเนื่อง 13 วันโดยไม่ได้หยุดพักเลย ก็ถือวันหยุด 2 วันที่ผมรอคอยมานานซักทีหนึ่ง .... วันนี้ผมจึงรีบไปสนามบินตั้งแต่ 7.30 น. ครับ ปรากฎว่า .... ผู้คนมากมาย เข้าคิวรอเช็คอินเสือน้อยยาวเหยียดเลยครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 15:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อะไรจะเช็คอินนานปานนั้น ... เข้าคิวรอไป 40 นาทีอ่ะครับ ยิ่งแถวผมอยู่ด้านขวา เจอแก๊งค์สิงคโปร์อีก นานเหลือเกิน ผู้โดยสารเที่ยวบินนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ และชาวต่างชาติอื่นๆ ครับ ส่วนคนไทยไม่น่าจะเกิน 10% ซึ่งผมเองก็ไม่รู้นะครับว่า เสือโง่ หรือ เสือบ้า กันแน่ ที่ปิดเส้นทางนี้ !!! เพราะผู้โดยสารก็ดูไม่น้อยเลย แทนที่จะลดเที่ยวบินลง กลายเป็นปิดเส้นทางไปเลย ทั้งๆ ที่เส้นทางนี้ ทางไทเกอร์ฯ ได้จ้างผู้ให้บริการภาคพื้นดินประจำสถานีเชียงใหม่ คือ การบินไทย ทั้งการเช็คอิน การประกาศเรียกขึ้นเครื่อง การจัดการเรื่องสัมภาระทุกอย่าง การบินไทยดำเนินการให้ทั้งหมด ไม่ได้ใช้คนของไทเกอร์เลย และที่สำคัญ ไทเกอร์แอร์เวย์ส ไม่ได้มีบูธหรือออฟฟิศที่เชียงใหม่เลย... ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่การบินไทยจึงได้แค่รับเรื่องไว้ ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ของไทเกอร์ ที่สิงคโปร์ หรือที่กรุงเทพเท่านั้นครับ ... วันนี้เรียกขึ้นเครื่องที่งวงกระจก Gate 8 ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ ... กว่าจะถึงคิว ... เสือเล่นทำปวดขาตั้งแต่ยังไม่บินออกจากเชียงใหม่เลยนะนั่น ... คุณพี่พนักงานการบินไทยบอกว่า ที่เช็คอินช้าเพราะว่าชื่อแต่ละคนอ่านยากมากๆๆ และเป็นการเช็คอินแบบแมนนวล หมดอ่ะครับ เลือกที่นั่งตามใจชอบ แล้วก็เอาสติกเกอร์หมายเลขที่นั่งมาแปะบนบอร์ดดิ้งพาส เพราะเดี๋ยวนี้ เสือเค้าปั๊ตตะนาแว๊วว ไม่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีแล้ว อิ อิ แต่นั่นหล่ะ ก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเช็คอินเป็นไปได้ช้ามากๆ โดยเฉพาะไฟล์ทที่ผู้โดยสารเต็มเอี๊ยดแบบนี้หน่ะครับ   ตอนแรกผมก็ลุ้นสุดๆ เลยนะ คนเยอะแบบนี้สงสัยชวดที่นั่งริมหน้าต่างแน่ๆ แต่ในที่สุด ผมก็ได้ที่นั่งหมายเลข 12A มาครอง ผมรู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นที่นั่งตรง Emergency Exit พอดีเลย .... เหยียดแข้งเหยียดขาสบายมากๆ เพียงแต่เอนเบาะไม่ได้เท่านั้นเอง และทีสำคัญ ถ้าจะจองที่นั่งตรง Emergency Exit ล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตหล่ะก็ ... เสือเค้าคิดค่าจองที่นั่งล่วงหน้าตั้ง 675 บาทเชียวนะครับ !!! จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และแล้วก็ขึ้นไปชั้น 2 เลยครับ ... เข้าด่าน ตม. ดีกว่า สะดวกโยธินมากๆ ถ้าเป็นที่สุวรรณภูมิต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ แต่สำหรับเชียงใหม่ นี่ผ่านปรู๊ดเดียวเลยครับ ยิ่งช่องสำหรับคนไทย คนน้อยอยู่แล้ว สบายบรี๋อครับ คุณ ตม. ที่นี่ก็ใจดีทีเดียว   ส่วนมาตรการของเหลว สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศจากเชียงใหม่ ก็เคร่งครัดครับ น้ำดื่มนี่หมดสิทธิ์แน่ๆ ยิ่งเป็นเสือน้อยไม่กล้าเสี่ยงเอาไรขึ้นไปกินหรอกครับ เดี๋ยวจะเจอแม่เสือสาวแยกเขี้ยวใส่เอาหน่ะ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เกาะกระจกมองออกไปด้านนอก เห็นเจ้าเสือน้อย 9V-TAE จอดอยู่แล้ว วันนี้ไฟล์ท TR122 จากสิงคโปร์ มาถึงก่อนเวลาตั้ง 15 นาทีแหน่ะครับ ... รู้สึกดีใจเล็กๆ ถ้าเจอเครื่องตัวเก่าอย่าง 9V-TAA,TAB,TAC,TAD นี่นั่งไม่สบายสุดๆ   ก็รอไปเรื่อยๆ ไม่เห็น boarding ซักกะที จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ประกาศว่าจะเรียกขึ้นเครื่อง 9.20 น. แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งเหตุผลนะครับว่าเพราะอะไร .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รอกันเหงือกเกือบแห้งอ่ะครับ ... 9.20 แล้วยังเงียบกริบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเจ้าหน้าที่ .... อุอุ รู้สึกว่าน่าจะได้เวลาแล้วนะครับ มาตั้งแถวหน่อยดีกว่า แม้ว่าเสือจะไม่ได้เล่นเก้าอี้ดนตรีแล้ว แต่ผู้โดยสารก็ยังนิยมมาเข้าคิวรอขึ้นเครื่องกันอยู่เหมือนเดิมหล่ะครับ .... ก่อนจะเข้าถ้ำเสือ ต้องจับแม่เสือสาวเป็นตัวประกันก่อน เอ้ยไม่ใช่ ... ต้องเตรียมบอร์ดดิ้งพาสให้คุณแม่เสือสาวหรือคุณสจ๊วตดูก่อนนะครับ ... ป้องกันการแอบอ้าง แอบเนียนบินไปสิงคโปร์ฟรี เหอ เหอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงที่นั่งแล้วหล่ะครับ Emergency Exit อันกว้างขวาง   บนเบาะที่นั่งจะมีแผ่นพับพิเศษ คู่มือปฏิบัติตนสำหรับผู้โดยสารที่นั่งตรง Emergency Exit   บอกวิธีการเปิดประตูไว้อย่างละเอียดเลยหล่ะครับ แต่เดี๋ยวจะมีแม่เสือสาวมาอธิบายให้ฟังอีกครั้งหนึ่งด้วย เรื่อง safety ของเสือนี่ก็เข้มใช้ได้ทีเดียวเชียวครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ได้เวลาปิดประตูแล้วหล่ะครับ .... กัปตันประกาศขออภัยเรื่องเที่ยวบินดีเลย์ อันเนื่องมาจาก งาน Singapore Air Show ซึ่งมีการปิดน่านฟ้าระหว่างเวลา 12.00 - 14.00 น. จึงไม่สามารถนำเครื่องร่อนลงจอดได้ ซึ่งผมว่ากัปตันเค้าก็ตัดสินใจถูกแล้วครับ ที่ยอมจอดรอที่เชียงใหม่ดีกว่าไปบินวนให้เปลืองน้ำมันเล่นๆ แถมผู้โดยสารเวียนหัวอีก เหอๆ หุ หุ วันนี้ขึ้นทางรันเวย์ 36 วิ่งขึ้นไปทางทิศเหนือด้วยหล่ะครับ เสียดายถ้านั่งทางฝั่งขวาของเครื่องจะเห็นวิวแจ่มๆ มากมาย   เสือน้อยเหินฟ้าแล้วจ้า .... บินนิ่มดีจริงๆ เห็นดอยสุเทพแบบเต็มๆ ตา .... (เสียดาย ว่าถ้าไม่ติดปีก จะเห็น มช. แบบเต็มๆ ตา และถ้านั่งแถวฝั่งขวาจะเห็นตัวเมืองแบบเต็มๆ นั่นเอง) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พอเครื่องไต่ระดับได้ ... แม่เสือสาวก็เดินแจกใบ ตม. สิงคโปร์ครับ รีบกรอกโดยพลัน เพราะผมง่วงนอนมากๆ ขอหลับซักงีบใหญ่ๆ แล้วกันเนอะ   อีกทั้งนั่งฝั่งซ้าย แดดส่องตลอดการเดินทาง วิวก็ไม่เห็น ก็หลับดีกว่า .... (ปกติแนะนำให้นั่งฝั่งขวานะครับ จะวิวสวยสบายตากว่า) การให้บริการของลูกเรือ ลูกเรือจะเดินรถขายอาหารและเครื่องดื่ม 2 รอบครับ ส่วนเมนูอาหาร และราคาอาหาร จะอยู่หน้าสุดท้ายของนิตยสาร Tiger Tales ทีอยู่ตรงกระเป๋าด้านหน้าที่นั่ง   ราคามาตรฐานค่าครองชีพสิงคโปร์อ่ะครับ จะค่อนข้างสูงมากๆ เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ อย่างหางแดง หรือ นกก็ยังถูกกว่ามากๆ ตัวอย่างเช่น กลุ่มเครื่องดื่มร้อน และเย็น ราคาอยู่ที่ 3 SGD ส่วนบะหมี่ถ้วย โจ๊กถ้วย ราคาอยู่ที่ 4 SGD และอาหารร้อน ราคาอยู่ที่ 8 SGD (ในขณะที่หางแดงขายแค่ 90 บาท (FD) และ 8 ริงกิต (AK) เท่านั้นเองครับ -- สำหรับ AK ถ้าเลือกซื้ออาหารล่วงหน้าตอนที่ทำการจอง ลดราคาเหลือแค่ 7 ริงกิตเท่านั้น) ส่วนใครที่อยากจะทานอาหารร้อน บนเที่ยวบินที่ไกลกว่า 3 ชั่วโมงจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบครับ คุณลูกเรือจะเดินเข้ามาเสนอเลย หรือจะไปบุกครัว ไปถามคุณลูกเรือเอาก็ได้ครับ อย่างไฟล์ทนี้ ก็จะมี ข้าวหมูผัดใส่ผัก กับ ข้าวผัดกุ้ง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บรรยากาศบนเครื่อง ... ผู้โดยสารแน่นขนัด ...   พอดีว่าผมงีบไปแล้ว 2 ชั่วโมงหน่ะครับ กะว่าจะทานอาหารตอนชั่วโมงสุดท้ายบนเครื่อง ก็เลยแว๊บไปเข้าห้องน้ำ พร้อมๆ กับการสั่งอาหารจากลูกเรือด้วยเลย จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมสั่งอาหารร้อน กับน้ำแอ๊ปเปิ้ล สูตรเด็ดบนเครื่องเสือครับ .... (ที่ใครๆ ก็ recommended ให้ดื่ม -- ตอนนี้ขึ้นราคาจาก 2 SGD เป็น 3 SGD แล้ว อย่างแพง !!!) หมดสตางค์ไป 8+3 = 11 SGD ครับ อาหารที่สั่งได้แล้วหล่ะครับ .... น้ำแอ๊ปเปิ้ลเปลี่ยนไปแฮะ ... จากเดิมเป็นกระป๋องยี่ห้อ Bluebird ที่อร่อยมากๆ กลายเป็น MariGold ซึ่งก็ต้องลองหล่ะครับว่าจะอร่อยไหม แต่ที่แน่ๆ ราคาขึ้นจากเดิม 2 SGD เป็น 3 SGD ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หน้าตาเป็นงี้ครับ ... อารมณ์เหมือน ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังไงก็ไม่รู้แฮะ รสชาติก็จะเฉยๆ อ่ะครับ ไม่จัดจ้านเท่าไหร่ ผมรู้สึกคิดถึง หมูน้ำมันหอย กะ ปลาเปรี้ยวหวาน บนเครื่องหางแดง FD ขึ้นมาทันที (ที่สำคัญ FD ขายแค่ 90 บาทเองด้วย -- นี่ขายตั้ง 8 SGD แหน่ะ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนน้ำแอ๊ปเปิ้ลก็อร่อยมากๆ ครับ ผมก็เลยไปตามล่าหาน้ำแอ๊ปเปิ้ลนี้ในห้าง เพราะไม่เคยเห็นน้ำแอ๊ปเปิ้ลแบบนี้ขายในไทยเลย ... แล้วก็ค้นพบว่า มีขายอยู่ ที่ผมไปเช็คมาก็ที่ร้าน Giant @ VIVO city ตรง Harbour Front อ่ะครับ กล่อง 1 ลิตรกล่องละแค่ 1.67 SGD หรือถ้าซื้อแบบแพค 6 กล่อง 250 ml. ก็ขายแค่ 3.02 SGD เท่านั้น จะซื้อกลับมากินก็ได้นะครับ ไม่ต้องไปลิ้มลองแพงๆ บนเสืออีกแล้ว  ;) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านๆ Tiger Tales อื้มม เห็นมีหลายๆ คนตั้งข้อสังเกตว่า เสือน้อยชอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ ตลอดเลย แม้แต่ที่อยู่ออฟฟิศของสายการบินยังไม่เป็นที่เปิดเผย ... ถ้าลูกค้าจะติดต่ออะไรให้ส่งไปที่ PO Box ที่สนามบินชางงีซะงั้น   มองลงไปเบื้องล่าง เหมือนเครื่องจะเข้าเขตสิงคโปร์แล้วหล่ะครับ แต่เวลาขณะนี้ประมาณ 13.40 น. ตามเวลาสิงคโปร์ กัปตันก็ประกาศว่า ทางหอบังคับการยังไม่อนุญาตให้นำเครื่องร่อนลง ก็เลยนำเครื่องบินวนไปเรื่อยๆ .....   ก็วนอยู่หลายรอบอ่ะครับ เกือบๆ 20 นาทีได้ เกือบจะบ่ายสอง (ตามเวลาสิงคโปร์) แล้วหล่ะครับ ในที่สุดกัปตันก็ประกาศว่า ทางหอบังคับการบินให้สัญญาณในการร่อนลงจอดแล้ว จะร่อนลงจอดภายใน 5 นาที   มองวิวข้างล่าง เห็นเรือมากมายนี่ ไม่ผิดแน่ๆ สิงคโปร์ชัวร์ป้าบ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วก็ร่อนลงแตะพื้นสนามบินชางงี สิงคโปร์ อย่างนุ่มนวล   Welcome to Singapore Changi Airport, Budget Terminal !!! นี่หล่ะคือข้อเสียของเสือ ถ้าเสืออยู่ T1 นี่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการในโอกาสต่อไปได้ง่ายขึ้น จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงแล้วหล่ะครับ Budget Terminal ภาพนี้แจ่มจริงๆ .... ไม่รู้ว่าเค้าเอาเครื่องลำนี้บินไปไหนต่อนะครับ แต่เดาว่าน่าจะบินไกลอีกแน่ๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพราะเห็นผู้โดยสารเข้าคิวมารอขึ้นเครื่องเต็มแล้วอ่ะครับ .... เดินเข้าอาคารกันเลยดีกว่า ... ยินดีต้อนรับ ปล. ภาพนี้ถ่ายเสร็จ พี่มืด รปภ. สั่งให้ปิดกล้องเลยครับ ... ก็เลยเดินผ่านไปเลยดีกว่า (^___^) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อดีของที่ Budget Terminal คือ clear immigration เร็วมากๆ ครับ คือผมรีบออกจากเครื่องคนแรกๆ ก็เลยได้ผ่านด่าน ตม. เป็นคนแรกๆ รอไม่ถึงครึ่งนาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ อย่าลืมนะครับ ห้ามถ่ายรูปด่าน ตม. สิงคโปร์เด็ดขาด (เป็นคำเตือนที่มีมานานมากแล้ว -- ถ้าไม่อยากโดนเรียกไปสอบสวนนะครับ) ตรงไปยังสายพานรับกระเป๋าได้เลย ... โอ๊ะ โอ๊ะ บนหน้าจอมีภาษาไทยด้วย หลังจากนั้นก็เดินออกช่อง nothing to declare สีเขียวออกไปได้เลย เผอิญผมออกมาเป็นคนแรกมั้ง คุณเจ้าหน้าที่ก็เลยเรียกไปให้สแกนกระเป๋า ผมก็งงๆ แต่ก็ให้เค้าสแกน แล้วก็ผ่านออกมา จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 การเดินทางเข้าเมืองจาก Budget Terminal ก็ไม่ยากครับ เดินออกมานอกอาคารแล้วเลี้ยวขวา จะมองเห็นรถ shuttle bus ฟรีสีเขียวๆ ที่ไป Terminal 2 จอดอยู่ครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อถึง T2 เดินเข้าอาคาร แล้วเดินไปทางขวาเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วหล่ะครับสถานี MRT Changi Airport นอกจากบัตร อีซี่ลิ๊งค์ ที่ใช้งานง่ายมากๆ แล้ว (ปัจจุบันไม่ต้องสอดบัตรเข้าเครื่องแล้ว แค่วางไว้เฉยๆ ก็ทำรายการได้   ) ตอนนี้มีบัตร Thesingaporetouristpass อยู่ครับ จะเป็นบัตรโปรโมชั่นบุฟเฟต์ สามารถขึ้นรถไฟฟ้า MRT และรถเมล์ของ SBS Transit และ SMRT ทั้งหมดได้โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว 1 day pass = 8 SGD 2 day pass = 16 SGD 3 day pass = 24 SGD เริ่มใช้ได้ตั้งแต่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการ ยันรถไฟฟ้าปิดให้บริการในแต่ละวันครับ   เพียงแต่ว่าจะต้องจ่ายเงินค่ามัดจำบัตร 10 SGD ซึ่งจะได้คืนทั้งหมดเวลาที่คืนบัตรเมื่อการงานสิ้นสุดแล้วครับ สามารถซื้อบัตรได้ที่สถานี MRT ทั่วๆ ไปครับ สถานี MRT ที่ Changi Airport ก็มีขายครับ เผื่อว่าใครอยากจะสนใจซื้อมาใช้ ส่วนตัวผมมองว่า สำหรับคนที่ยังไม่มีบัตรอีซี่ลิ๊งค์ ก็คุ้มมากๆ ครับ แต่พอดีผมมีแล้วหน่ะสิครับ เห่อ เห่อ บางทีก็ใช้น้อย บางทีก็ใช้เยอะ ไม่สม่ำเสมอกันอ่ะครับ สำหรับทริปนี้ ผมอยู่ไป 2 วันหมดเฉพาะค่า MRT กับรถเมล์ ไปร่วมๆ 26 SGD เพราะว่า ค่ารถเข้างาน Singapore Air Show นี่อย่างแพงครับ ขาละ 5 SGD ไป-กลับ 2 วันอ่ะครับ หุ หุ (ไม่แน่ใจว่า รถเมล์เฉพาะ Event พิเศษแบบนี้ เค้ารวมอยู่ในโปรฯ บุฟเฟต์ 8 SGD ด้วยหรือเปล่านะครับ -- แต่ผมว่าเค้าไม่รวมหรอก) เท่าที่คำนวนเล่นๆ นะครับ ใน 1 วันจะต้องขึ้น MRT หรือรถเมล์มากกว่า 8-10 ครั้ง หรือจะต้องวิ่งระยะทางไกลๆ ประมาณว่า จาก สนามบินชางงี ไป Harbour Front (1.75 SGD) ประมาณนั้นอ่ะครับ ... ถ้าใช้เยอะมากๆ ก็คุ้มครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขออนุญาตปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด คุณหมอยุ่งนะก๊าบบ คิดถึงกระทู้แบบ "อภิมหารีวิว" ของคุณยุ่งมากมาย เกาะเป้หนุบหนับๆ ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะค๊าบบ จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 29 ก.พ. 51 16:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Singapore Airshow 2008 : TOO HOT TO MISS !! สิงคโปร์แอร์โชว์ 2551 : ร้อนเกินจนไม่น่าไป !! (It's too hot, you have to miss!) โปรดอย่าเพิ่งตกใจกับชื่อของกระทู้เวอร์ชั่นภาษาไทยนะครับ คำว่า Too Hot To Miss อันเป็นวลีโฆษณางานใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งชาวสิงคโปร์ หรือคนไทยที่ไปสิงคโปร์ในช่วงเวลานั้นคงจะเห็นจนเบื่อ ไม่ว่าจะโฆษณาในที่ต่างๆ บนเกาะสิงคโปร์ รวมไปถึง spot โฆษณาในทีวี รวมไปถึงจอมอนิเตอร์สถานีรถไฟฟ้า MRT นั่นสามารถแปลความหมายที่เค้าจะสื่อก็คือว่า ร้อนแรงเกินจะพลาด !!! แต่เนื่องด้วยว่า ลักษณะงาน และ อากาศที่ถือว่าร้อนมากๆ ผมก็เลยจัดการดัดแปลงใหม่เสียซะเลย   ก่อนอื่นผมต้องกล่าวก่อนครับว่า ลักษณะงานแอร์โชว์ นอกจากจะมีเครื่องบินมาโชว์แล้ว หรือการขับเครื่องบินโชว์ในรูปแบบต่างๆ แล้ว -->> ในส่วนนิทรรศการก็จะมีบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน ซึ่งเน้นไปในเชิงอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบิน มาออกบูธกันมากมายทีเดียวเชียวครับ รวมไปถึงเครื่องบินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก และเครื่องบินที่ใช้ในราชการ หรือการพาณิชย์ ออกมาแสดงกันมากทีเดียว แต่ว่าไม่ค่อยมีบูธที่เกี่ยวข้องกับสายการบินต่าง หรือ การให้บริการของสนามบินมากเท่าใดนัก ซึ่งถ้าหากใครไม่ได้สนใจเรื่องเกี่ยวกับการบิน (ซึ่งในที่นี้หมายถึง เรื่อง hardware อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องบิน หรือบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินต่างๆ หรือการเล่นเกมส์ไฟล์ทซิมมูเลเตอร์ ฯลฯ) อาจจะรู้สึกเฉยๆ กับงานนี้ก็เป็นได้ แล้วทำไมผมถึงรู้สึกเฉยๆ กับงานนี้ ?? -->> เพราะส่วนหนึ่ง ตัวผมเองเป็นคนที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับตัวเครื่องบินโดยสาร และการให้บริการของสายการบินต่างๆ รวมไปถึงเรื่องสนามบิน แต่จะไม่ค่อยสนใจในเรื่องของ Hardware ส่วนประกอบของเครื่องบิน หรือ กลไกการทำงาน หรือการขับเครื่องบิน และที่สำคัญก็คือ แทบจะไม่มีความสนใจในเรื่องเครื่องบินอื่นๆ ที่ไม่ใช่เครื่องบินโดยสารเลย .... ในงานนี้ มีบูธต่างๆ มาออกกันมากมายทีเดียวครับ พระเอกใหญ่ของงานนั่นก็คือ เครื่องบินแอร์บัส A380 ยักษ์ใหญ่ ซึ่งผมเองก็เคยได้มีโอกาสขึ้นไปบุกบนเครื่องมาแล้ว เมื่อเดือนกันยายน 2550 ตอนที่แอร์บัสจัด world tour มากรุงเทพและเชียงใหม่ด้วย ซึ่งท่านที่สนใจอยากจะเห็นภายในของเครื่องแอร์บัส A380 สามารถเข้าไปอ่านได้ในกระทู้นี้ครับ http://www.hflight.net/forum/m-1188654271/s-all/ เอาหล่ะสิ ถ้าตัด A380 ออกนี่แทบจะไม่มีเครื่องบินโดยสารอื่นเหลืออีกเลย นอกจากเครื่องกลุ่ม private หรือเครื่องบินขนาดเล็ก อย่างพวก Embraer Legacy 600 หรือไปพวก Cessna ไปเลย แล้วก็เครื่องในกลุ่มราชการ และทางทหารเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งถ้าใครชอบเครื่องบินแบบทหารหล่ะก็ คงจะรู้สึกสนุกมากๆ เลยหล่ะครับ แต่ตัวผมหน่ะเฉยๆ เพราะไม่ได้มีอะไรตื่นตาตื่นใจ ถึงอย่างไรก็ได้ข่าวครับว่า ในปีหน้า ปี 2009 อาจจะได้ยลโฉมเจ้า Boeing 787 Dreamliners ในงานแอร์โชว์ที่สิงคโปร์ก็เป็นได้ครับ   ในกระทู้นี้ก็จะกล่าวถึงงานโดยรวมนะครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกที่ต้องการจะไปเที่ยวชมงาน Singapore Airshow ในปีหน้าครับ เพราะสถานที่จัดงานคงจะไม่ได้ย้ายไปไหนแล้ว โดยปีนี้เป็นปีแรกทีได้ย้ายสถานที่จัดงานมาเป็นที่ Changi Exhibition Centre ซึ่งเป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ โดยมีเนื้อที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ และลานจัดแสดงเครื่องบินอันใหญ่โตครับ ----------------------------------------------------------------------------- การเดินทางเข้าสู่ตัวงาน ... จะมีรถ shuttle bus ให้บริการจากหลายๆ จุดทั่วเกาะสิงคโปร์ครับ ไม่ว่าจะตามสถานี MRT ต่างๆ อาทิเช่น Pasir Ris , Tanah Merah, Expo หรือ City Hall หรือรถให้บริการตรงจากโรงแรมใหญ่ๆ ทั่วเกาะสิงคโปร์ รวมไปถึงย่าน Orchard Rd ด้วยเช่นกัน ค่าโดยสารคนละ 5 SGD/เที่ยว ครับ อย่าเพิ่งตกใจกันไป   ไป-กลับวันนึงก็หมดไปแล้ว 10 SGD ซึ่งค่าโดยสารส่วนนี้ จะจ่ายด้วยเงินสด หรือบัตรอีซี่ลิ๊งค์ก็ได้ครับ .... หลังจากที่ผมได้บินตรงจากเชียงใหม่ มาถึงสิงคโปร์แล้ว ผมก็เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT จากสนามบินชางงี มาแค่สถานีเดียวครับ ลงที่ Expo เพื่อต่อรถ Shuttle bus ไปเข้างานครับ มาถึงแล้วหล่ะ สถานี Expo รถก็จะจอดอยู่ด้านล่าง ข้างๆ สถานีนั่นเองหล่ะครับ วันแรกที่ผมไปคือวันศุกร์ คนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ในวันเสาร์นี่คิวรอขึ้นรถยาวเหยียดเลยหล่ะครับ .... ต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยนะครับ ..... ยาวจนทะลุออกไปฝั่ง Singapore Expo เลย คิวยาวๆ นี้ รอประมาณ 20 นาทีก็ได้ขึ้นรถแล้วนะครับ   (ภาพนี้ถ่ายวันเสาร์ครับ เวลาก็เกือบเที่ยงแล้ว) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฮัลโหลๆ หายไปไหนแล้วล่ะน้องยุ่ง เก่งๆ อย่างน้อง ปราบแม่เสือสาวอยู่หมัดแน่ๆ ก็แค่แมวน้อยตัวโตมะใช่เหรอ จากคุณ : bangkok dream - [ 29 ก.พ. 51 16:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การเดินทางจากสถานี Expo ไปยังสถานที่จัดงาน แนะนำว่านั่งฝั่งซ้ายของตัวรถก็จะดีมากๆ ครับ (กรณีขาไป ส่วนขากลับให้นั่งฝั่งขวา) เพราะว่าจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของรันเวย์สนามบินชางงีด้วย ... เห็นเครื่องบินเทคออฟ แลนดิ้งแบบเต็มๆ ตา เส้นทางจะวิ่งอ้อมรันเวย์สนามบินชางงีทางด้านทิศใต้ แล้วก็วิ่งเลียบรันเวย์ขึ้นไปทางทิศเหนือเรื่อยๆ จนถึงงานหล่ะครับ พอเข้างานรถก็เริ่มจะติดครับ ... อย่างในภาพนี้ถ่ายวันเสาร์ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยู่บนรถประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานที่จัดงานครับ ก็ต้องผ่านฝูงชนมากมายหล่ะครับ ไปยังส่วนทางเข้างาน แผนผังของงานก็จะเป็นไปตามแผนผังด้านล่างนี้ครับ ฝั่งซ้ายของภาพ = ส่วนลานจอดรถรับส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถแท๊กซี่ รถลิมูซีน รถ shuttle bus ต่างๆ ซึ่งจุดนี้จะมีด่านตรวจบัตรเข้าชมงาน และเครื่องสแกนสัมภาระและร่างกายของผู้ที่เข้าชมงาน ก่อนที่จะเดินข้ามสะพานมาทางส่วนนิทรรศการ ด้านกลางของภาพ = จะมีอาคาร Changi Exhibition Centre อยู่ตรงกลาง ซึ่งภายในก็จะมีบูธของบริษัทต่างๆ มากมายครับ ลานด้านหน้าอาคารส่วนที่ติดกับทะเล ก็จะเป็นลานแสดงเครื่องบิน อย่างในปีนี้ก็จะเป็นเครื่องบินและอุปกรณ์ทางทหารต่างๆ และเป็นลานสำหรับชมการแสดงโชว์ ซึ่งในปี 2008  ได้จัดแสดงในเวลาประมาณ 12.15 - 13.45 น. ฝั่งขวาของภาพ = เป็นลานจอดเครื่องบินขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ได้หลายลำ เดินชมเครื่องบินกันจนเบื่อเลยหล่ะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 การเข้าชมงาน ... บุคคลทั่วไป --> ค่าเข้าชมงานคนละ 20 SGD สามารถจองผ่านเว็บไซต์หลัก http://www.singaporeairshow.com.sg/ ได้ครับ   แต่พอดีผมได้บัตรสื่อ ก็เลยไม่ได้ทำการจองผ่านอินเตอร์เน็ตครับ ต้องขอบคุณน้อง เจเค..LSKY ที่เป็นธุระให้ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ภายในอาคารส่วนตรวจบัตรเข้าชมงาน และเครื่องสแกน ก็จะมีเคาน์เตอร์เยอะมากๆ พร้อมกับแนวให้เข้าคิวเป็นระเบียบทีเดียวครับ .... ภาพนี้ถ่ายตอนที่ไปรับบัตรเข้าชมงานของสื่อ ในวันศุกร์ คนก็เลยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผู้ที่ถือบัตรห้อยคอ จะมีช่องทางพิเศษ แสดงบัตรห้อยคอ แล้วก็ผ่านเข้าไปตรวจผ่านเครื่องสแกน เข้างานได้เลยครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อผ่านเข้าไปข้างใน ก็ต้องเดินข้ามสะพานไป แล้วก็จะเห็นอาคาร Changi Exhibition Centre ซึ่งจะมีนิทรรศการและบูธต่างๆอยู่ข้างในเพียบเลยหล่ะครับ ... บริเวณลานกว้างๆ นี่หล่ะครับ เป็นจุดที่จะชมการแสดงโชว์เครื่องบิน ซึ่งจะมีการแสดงในช่วงเวลาประมาณ 12.15 - 13.45 น. ของทุกวันที่จัดงาน (โปรดเช็คอีกทีหนึ่ง) ผู้คนก็จะมายืนชมกันมากมายที่นี่หล่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องโชว์แล้ว ขอกล่าวเกี่ยวกับโชว์ซักหน่อยนะครับ จะมีโชว์การบินระหว่างเวลา 12.15 - 13.45 น. ครับ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) โชว์แต่ละชุดจะกินเวลาประมาณ 15 นาทีครับ พอดีผมถ่ายภาพมาได้แค่นี้หล่ะครับ ไม่ถนัดถ่ายภาพเครื่องบินแบบนี้ แห่ะๆๆ ถือว่าโชว์อลังการตื่นตาตื่นใจใช้ได้ครับ   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โชว์แอร์บัส A380 ปลาวาฬแหวกว่ายอยู่บนอากาศ   สมคอนเซปต์เลยครับ เงียบกริบ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนโชว์อื่นๆ เจ๋งๆ ก็มีครับ ... แต่โชว์เครื่องบินแบบขับซิ่งๆ นี่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ เพราะงานวันเด็กทีไร คุณกองบิน 41 เชียงใหม่ พี่แกก็ชอบขี่ซิ่งโชว์เด็กๆ อยู่ทุกปีอยู่แล้วอ่ะครับ   รู้สึกว่าเป็นมลพิษทางเสียงอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ภาพนี้ผมจำชื่อชุดโชว์ไม่ได้ แต่ผมว่าโชว์นี้สวยงามมากๆ ทีเดียวเลยหล่ะครับ บินกันเป็นกลุ่มเป็นแก๊งค์ ปิดท้ายโชว์ด้วยการ บินแบบเป็นกลุ่มขึ้นไปที่สูง แล้วก็ร่อนลงมาในแนวดิ่ง ก่อนที่จะแยกออกมาเป็นสาย .....   เรื่องโชว์นี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างประทับใจมากๆ ครับ สำหรับงานนี้ (ส่วนภาพเครื่องบินแจ่มๆ รอกระทู้น้องๆ หรือสมาชิกท่านอื่นๆ ละกันครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอาหล่ะครับ เข้ามาส่วนภายในอาคารกันบ้างดีกว่า ... ตั้งแต่ประตูทางเข้า ก็เจอคุณ SQ ดักทางไว้ก่อนเลย คุณเธอเอาที่นั่งชั้น Suite (Class Beyond First) มาตั้งโชว์ให้ประชาชีได้เชยชม   หวังว่าซักวันหนึ่งคงจะมีโอกาสได้บิน ... ตอนนั้ A380 ของ SQ บินเส้นทาง สิงคโปร์-ซิดนีย์ เป็นประจำทุกวัน ด้วยเที่ยวบิน SQ220/221 ส่วนเส้นทาง สิงคโปร์-ลอนดอน (ฮีทโทรว์) จะเริ่มบิน 18 มีนาคมนี้ครับ แต่ตอนนี้ ตั้งหน้าตั้งตารอรีวิวจากลุงวันเดอร์ หรือ ลุงแชส ก่อนละกัน พยายาช่วยๆ กันยุลุงวันเดอร์แกหน่อยนะครับ เผื่อว่าแกจะเปลี่ยนจากที่แพลนจะบินเดือนสิงหาคม มาบินเร็วๆ นี้ อยากดูรีวิวชั้น Suite เส้นทาง SIN-LHR อ่ะครับ ลุงวันเดอร์ อิ อิ อิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอาหล่ะครับ พาไปชมบูธเด่นๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันก็แล้วกัน เริ่มต้นด้วยแอร์บัสครับ ... เอาโมเดลเครื่องบินต่างๆ มาโชว์ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กอย่าง A320 รุ่นใหญ่อย่าง A380 และ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ยังคงเป็นแค่โมเดลอย่าง A350 ด้วยเช่นกัน ... ตรงบูธแอร์บัสนี่ แค่ได้โบรชัวร์มานอนกอดเล่น ผมก็ดีใจแล้วหล่ะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไหนๆ ก็พูดถึงแอร์บัสแล้ว ไปดูบูธของ Lufthansa นะครับ จะมี A380 Private Jet รุ่นพิเศษที่ยังคงเป็นแค่โมเดลให้ชมด้วย จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ข้ามฟากไปยักษ์ใหญ่ฟากอเมริกา อย่างโบอิ้งกันบ้างครับ ... พระเอกของโบอิ้งตอนนี้ ก็คงจะเป็น (โมเดล)โบอิ้ง 787 Dreamliners นั่นเองครับ   หวังว่าปีหน้าจะได้เห็นตัวเป็นๆ ซักกะทีนะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 และรุ่นปีกงอนอินเทรนด์อย่าง โบอิ้ง 747-8 รุ่นใหญ่ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ดูรุ่นใหญ่แล้ว มาดูรุ่นเล็กบ้าง ในภาพนี้น่าจะเป็นโบอิ้ง 737-900 รุ่นตัวยาว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 16:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อีกบูธหนึ่งที่น่าจะรู้จักกัน นั่นก็คือ ATR ครับ ATR ก็ยังคงมีเครื่องบินแบบ ATR-42 ตัวสั้น และ ATR-72 ตัวยาวอยู่นะครับ ตอนนี้ตัวใหม่สุดคือซีรีย์ 600 เป็น ATR72-600 แล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บริษัทอื่นๆ ส่วนมากจะเป็นบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆ อ่ะครับ อาทิเช่น ... เจ้านี้ ผลิตผ้าเบรก ของแอร์บัส A320 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เดินเล่นต่อไป ... อารมณ์เหมือนงานวันเด็กเลยแฮะ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนบูธอื่นๆ ความจริงผมก็ไม่รู้จักเท่าไหร่หรอกครับ ... เลยไม่รู้จะถ่ายอะไรมาบ้าง เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นแนว hardware ทั้งนั้นเลยครับ  (ยิ่งจบสัตวแพทย์มา เลยไม่ได้มีความรู้เรื่องช่างเท่าไหร่) ออกไปดูอะไรอันน่าตื่นตาตื่นใจนอกอาคารดีกว่า   นั่นก็คือเจ้าปลาวาฬยักษ์ A380 นั่นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ลอดใต้ท้อง A380 เพื่อความเป็นสิริมงคล (ทำอย่างกะลอดท้องช้าง) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ล้อมากมาย ....  ชมกันแบบเต็มๆ ตา ผมรู้สึกว่าได้ชมภายนอก ใกล้ชิดกว่าตอนที่ A380 มาเชียงใหม่อีกหน่ะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 45 และลูกค้าของ A380 เมื่อไหร่หนอการบินไทยจะได้ .... ส่วนคนที่จะขึ้นชมได้จะต้องมีบัตรเชิญ หรือไปลงทะเบียนที่บูธแอร์บัส (ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าจะลงตรงไหนได้ แห่ะๆ) อ้อ เครื่องบินลำนี้เป็นลำแรกสุดในสายการผลิตเครื่องแอร์บัส A380 เชียวนะนี่ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไหนๆ ก็เป็นพระเอกของงานแล้ว ก็ถ่ายเยอะหน่อยแล้วกัน .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลอดใต้ปีก A380 เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกซักรอบ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตามไปดูบนอากาศอีกซักรอบหนึ่ง .... เห็นท้องอันขาวอวบแบบเต็มๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 พอแหวกว่ายในอากาศ ก็ต้องกลับมาแลนดิ้ง เพื่อเข้ามาจอดโชว์ในงานจริงไหมครับ ... หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าเครื่องบินมาได้อย่างไร ... ปกติพื้นที่นั้นจะมีรันเวย์ที่ 3 ที่สร้างงอกออกมา (ไม่เกี่ยวกับสนามบินชางงีนะครับ) แล้วก็จะมีทาง taxiway จาก รันเวย์นั้น มายังส่วนจัดแสดงเครื่องบินของ Changi Exhibition Centre ครับ   ไปดูภาพกันเลยดีกว่า เห็นเจ้า A380 อยู่ลิบๆ แล้ว คงเพิ่งจะร่อนลงจอดมาหมาดๆ เห็นไฟกระพริบแว๊บๆ แสดงว่า เดี๋ยวก็คงมาแล้วหล่ะ .... นี่จะวิ่งมาตามถนนนี่จริงๆ เหรอนี่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผู้คนมากมายตั้งหน้าตั้งตาคอยดูอยู่ ... มุมแจ่มมากๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผ่านไปแบบเต็มๆ ตา .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ดูซิว่าจะเลี้ยวเข้าส่วนลานจัดแสดงยังไงดี ...   นั่นไงครับ ถอยตูดเข้า .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถอยเข้าไปแล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พาไปดูอย่างอื่น ที่ไม่ใช่ A380 บ้างดีกว่า .... ส่วนนี้ก็แก๊งค์เครื่องบินเล็กๆ แล้วก็แก๊งค์เครื่องบินรบที่อยู่อีกฟากหนึ่ง (ซึ่งผมรู้สึกไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 Embraer Legacy 600 ท่าทางข้างในจะไม่ธรรมดานะครับ แต่คนรอคิวขึ้นเยอะมาก เลยไม่ดูดีกว่า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เครื่องบินลำนี้ของอินโดนีเซีย ผมเรียกว่าเจ้าตุ่นปากเป็ด ก็แล้วกัน ... ถ้าเอามาบินในเมืองไทย อาจจะเป็น เป็ดแอร์ คู่แข่งกับ นกแอร์ ก็เป็นได้ (บริหารโดย ตาโอบเป็ดไว้ด้วยไอรัก อิ อิ อิ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ลานข้างนอกก็ร้อนจัด ... (ความจริงก็เดินๆ ดูครบแล้วเนอะ ไม่ได้ถ่ายภาพไว้หมด เพราะลำที่ผมไม่สนใจ ผมก็ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ครับ) เข้ามาหลบมุม มาดูบูธของสนามบินชางงี ดีกว่า   มีโมเดลของสายการบินต่างๆ ที่ให้บริการสู่สนามบินชางงี สิงคโปร์ ให้ดู ... แน่หล่ะครับ ก็ต้องมี การบินไทย และ หางแดง .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 นอกจากงานนี้จะมีเครื่องบินให้ชมแล้ว ยังมีขีปนาวุธด้วย เช่นกันครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ด้านหน้าอาคารก็จะมีโชว์ของเครื่องบินและยุทโธปกรณ์ของคุณตะหาน สิงคโปร์เค้าหน่ะ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ... พูดถึงเรื่องอาหารการกินในงานบ้าง (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เจเคก็ตาม) ในงานก็จะมีส่วน Food court ขายอาหารหลากหลายชนิดเช่นกันครับ แต่ราคาก็จะแพงกว่า Food Stall หรือพวก Eating House ข้างนอกอยู่ประมาณ 3-4 เท่า สมมุติว่าพวก Laksa หรือ ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ข้างนอกขายประมาณ 2-2.5 SGD ในงานจะขายประมาณ 6-8 SGD เช่นเดียวกันกับข้าวมันไก่ ที่ข้างนอกขายราคา 2.5 SGD ในงานจะขายประมาณ 8 SGD เป็นต้นครับ อีกทั้ง คนเยอะมากๆ เลย ทริปนี้ผมก็เลยเลือกที่จะเข้างานสายหน่อย แต่กินมาจากข้างนอกเรียบร้อยแล้ว แล้วก็พกน้ำดื่มเข้ามากินในงานเท่านั้นเองอ่ะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เอาหล่ะครับ ถึงเวลาต้องโบกมือบ้ายบายแล้วหล่ะครับ   ถ้ามีโอกาสอีกปีหน้าก็จะมานะครับ แต่จะดีมากถ้าเจ้า 787 Dreamliners ได้มาเผยโฉมในงานนี้ด้วย   แต่สงสัยก็ต้องหาจังหวะเหมาะๆ แล้วจองโปรหางแดงบินมา น่าจะคุ้มสุดๆ ไปเลยหล่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 62 วันเสาร์แบบว่าคนเยอะสุดๆ ไปเลยหล่ะครับ ..... กว่าจะออกจากงานได้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน ยิ่งรถ Shuttle bus สายยอดนิยม คนจะยิ่งเยอะมากๆ ต้องรอคิวนานพอสมควรทีเดียวหล่ะครับ   ส่วนตัวผมก็ขึ้นสายที่ไปสถานี MRT Expo นันแล ... ดังนั้นเวลาเดินทางเข้าออกงานจะต้องเผื่อเวลาไว้เยอะเลยนะครับ   สรุปว่าผมเองก็ค่อนข้างประทับใจกับการจัดงาน Singapore Airshow 2008 พอสมควรทีเดียว เห็นว่าระบบการจัดการของเค้าทำได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องระบบขนส่งมวลชน (แพงไปหน่อย แต่รอไม่นานก็ได้ขึ้นรถแล้ว) ระบบการจัดการเข้างาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสื่อฯ หรือประชาชนทั่วๆ ไป เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แม้ว่าปีนี้จะมีกลุ่มเครื่องบินโดยสารมาแสดงค่อนข้างน้อย (โดยจะหนักไปทางเครื่องบินทางทหาร และพวก private jet มากกว่า) ถ้าใครไม่ได้สนใจในเรื่องเกี่ยวกับ hardware อาจจะรู้สึกเฉยๆ ก็ได้ อย่างผมเองตามที่กล่าวไว้ว่า สนเรื่องเครื่องบินโดยสาร และการให้บริการของสายการบิน และ สนามบินเป็นหลัก บางทีก็เลยเดินชมงานแบบมึนๆ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเพราะไม่ได้สนใจในเรื่อง hardware เท่าไหร่นั่นเอง ... การแสดงโชว์ดูตื่นตาตื่นใจดีครับ แม้ว่าโชว์เครื่องบินรบ ผมจะได้เห็นอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว แต่การโชว์แบบบินเกาะกลุ่ม ก็ไม่ค่อยได้เห็นในประเทศไทยกันเท่าไหร่นะครับ ถ้าหากว่าประเทศไทยได้มีโอกาสจัดงานแอร์โชว์ในลักษณะนี้ได้ก็คงจะเป็นเรื่องทีดีมิใช่น้อยเลยครับ หุ หุ ลืมไป ว่า งานวันเด็ก ที่จัดเป็นประจำทุกปี ก็เหมือนเป็นงานแอร์โชว์อยู่แล้วนี่เนอะ   จริงๆ ถ้าจัดงานให้ใหญ่ขึ้น ใช้พื้นที่สนามบินดอนเมืองเป็น Exhibition Centre หล่ะเวิร์กเลยครับ สิ่งที่อยากจะบอกสำหรับใครที่อยากจะไปปีหน้าก็คือ อย่าลืมเตรียมหมวก แว่นกันแดด ซันบล๊อก และน้ำดื่มมาด้วย จะได้ชมงานได้อย่างเพลิดเพลินสบายตา และตัวไม่ดำครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไหนๆ ผมก็ได้มาสิงคโปร์แล้ว ก็ต้องไปเที่ยวสิงคโปร์บ้าง มีอะไรหลายๆ อย่างให้อัพเดตเยอะเลยหล่ะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง sentosa ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากๆ ทั้งวิธีการเข้าเกาะ รวมไปถึงโชว์และสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะ สิงคโปร์เค้าก็เก่งนะครับที่หาอะไรใหม่ๆ มาล่อตา ล่อเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวได้อยู่เรื่อยเลย อีกทั้งมีห้างใหม่เกิดขึ้น ตรงฝั่งตรงข้ามเกาะ sentosa อย่าง Vivo city ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าเป็นห้างที่น่าเดินมากๆ อยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว คือ เที่ยว sentosa เสร็จแล้วก็มาช๊อปต่อ โดยการเดินทางที่สะดวกสบายกับ Sentosa Express หรือเจ้ารถ monorail ซึ่งวิ่งเชื่อมระหว่างห้าง Vivo city กับเกาะ sentosa นั่นเองครับ ... เอาหล่ะ ทริปนี้ผมได้ที่พักแถวๆ สถานี Aljunied แล้วหล่ะครับ ที่พักนี้ผมค้นจาก hostelworld.com ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT Aljunied มากๆ แค่ 100 เมตรจากประตูทางออกเท่านั้น เห็นว่าที่อื่นๆ ยอดนิยมอย่าง NSS หรือ Bugis Backpacker จะมีคนไทยไปพักกันเยอะมากๆ ผมก็เลยหลบหลีก มาหาที่ๆ ไม่น่าจะเจอคนไทย แล้วก็ไม่ได้เจอจริงๆ ด้วย (^___^) อย่างภาพนี้ ผมถ่ายจากด้านหน้าที่พักก็จะมองเห็นตัวสถานีเลยครับ ตัวที่พักนี่ห่างจากรางรถไฟฟ้าไม่กี่เมตรเอง เวลาอาบๆ น้ำอยู่ ถ้ามีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านก็จะได้ยินด้วย จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ที่พักของผมก็คือเจ้า 98SG อ่ะครับเป็น hostel แบบ dorm นอนรวม ซึ่งผมเองก็มีประสบการณ์แบบ dorm มาหลายครั้งแล้ว โดยผมเองก็รู้สึกโอเคหน่ะครับ นอนรวมกับคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าอาจจะต้องทำตนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีหน่อย คุยกับฝรั่งหรือชาวต่างชาติเตียงข้างๆ บ้าง ข้อดีก็คือได้ฝึกภาษากันแบบสุดๆ ครับ ข้อเสียก็คือ ต้องระมัดระวังของมีค่าด้วย เพราะบางทีเราก็ไว้ใจเค้าไม่ได้หรอกนะครับ และความเป็นส่วนตัวที่ไม่มีเลย ... ที่พักนี้อยู่ซอย Lorong 27 ย่านเกลังพอดี ... ถามว่ากลางคืนน่ากลัวไหม ก็เฉยๆ อ่ะครับ เพราะอยู่ติดกับสถานี อีกทั้งละแวกนี้มีร้านอาหารที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย .... รายละเอียดที่พักอยู่ตามลิ๊งค์นี้ครับ http://www.reservations.bookhostels.com/niigata/hosteldetails.php/HostelNumber.23016/PHPSESSID.777cf81f8647e53f4051f6a7f72a082e?PHPSESSID=777cf81f8647e53f4051f6a7f72a082e ผมไม่ได้จองล่วงหน้าหรอกครับ มาแบบวัดดวงเอา เพราะในระบบ hostelworld วันที่ผมจะเข้าพักมันขึ้นมาว่าเต็มแล้ว แต่พอผมมา walk-in ก็มีเตียงว่างพอดี จ่ายเงิน 20 SGD แล้วก็เข้าพักแบบไม่ต้องลงทะเบียนก็ได้ (จริงๆ นะ ผมไม่ได้กรอกใบลงทะเบียนอะไรเลย เค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำไปมั้งว่าผมเป็นคนชาติไหน ...) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ประหยัดใช้ได้   เพราะระหว่างทางเดินจากที่พักไปสถานี MRT (ระยะทางแค่ 100 เมตรเท่านั้น) ก็จะมี eating house เปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ อยากใคร่กินไรกิน อย่างข้าวมันไก่จานนี้ก็ 2.5 SGD เท่านั้นเองครับ ... ส่วนนมถั่วเหลือง ราคา 1.2 SGD ครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วก็เกาะ MRT จากสถานี Aljunied ไปลงที่ Chinatown (ไปเปลี่ยนรถที่ City Hall และ Dhoby Ghaut ครับ) ไปดูวัด วัดที่ นังริน จาก สงครามนางฟ้า มาไหว้ขอพร ในภาพนี้หล่ะครับ .... เดินจาก Temple street ไปนิดเดียวเอง ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ข้างในก็งดงามจริงๆ ครับ เหมือนจะเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานนัก .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วก็ไปกินอีก ไปกินตรง Food stall เยื้องๆ กับวัดตะกี้นั่นเอง   กับ Mutton Briyani .... จริงๆ ผมก็ชอบกินมากๆ นะครับ ถ้ามาสิงคโปร์หรือมาเลย์ จะต้องหาอาหารแบบนี้กินตลอด จานนี้รู้สึกจะ 3 SGD เท่านั้นครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 แท่นแท๊นน ... จากป้ายรถเมล์หน้า Food stall นี้ (ก็คือป้ายรถเมล์ที่ตรงข้ามกับวัด ที่นังริน มาไหว้ขอพร นั่นเอง) ขึ้นรถเมล์สาย 80 มาลงหน้าห้าง Vivo ได้เลยครับ .... ถ้าเดินทางด้วย MRT ก็จะมีทางออกเชื่อมกับห้างอยู่แล้วครับ .... อย่างนี่เดินทางด้วยรถเมล์ จะเห็นรางรถ Monorail พุ่งเข้าหาตัวห้างอยู่ เพราะสถานี Sentosa Express จะอยู่บนชั้น L3 ของห้างนี่เองครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ห้างนี้ก็จะประกอบไปด้วย 5 ชั้นครับ ... โดยฝั่งหนึ่งจะมีห้าง TANGS ด้วย ชั้น L3 ชั้นบนสุด มีพื้นที่สำหรับให้เดินเล่นเปิดโล่ง มีร้านอาหารมากมาย และ สถานี Sentosa Express (ชั้น L3 ฝั่ง north) ชั้น B2 มี Hypermarket ชื่อ Giant แน่นอนหล่ะครับว่า เราสามารถมาหาของกินราคาถูกๆ ได้ที่นี่ โดยไม่ต้องถ่อไปถึงคาร์ฟูร์ ที่ Dhoby Ghaut หรือ Suntec แล้ว ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เดินเล่นชั้นล่างดีกว่า ... จะมีพื้นที่ให้เดินเล่นริมชายฝั่ง ที่มองออกไปก็จะเป็นเกาะ sentosa ด้วย .... นั่งเล่นสบายๆ ได้ที่นี่ มองเห็นเรือ Superstar Virgo แล้วก็ Cable car   นั่งเล่นตรงนี้ก็สบายๆ ดีจริงๆ ครับ แต่พอมองออกไปฝั่ง sentosa เหมือนจะไม่ใช่เกาะ sentosa ที่เคยรู้จักเลย เพราะอาคารท่าเรือฝั่ง sentosa ถูกทุบทิ้งหมดแล้วอ่ะครับ.... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมก็เดินเล่นไปเรื่อยหล่ะครับ ... บนชั้น 2 เหมือนจะมีร้านหนังสือด้วย ก็อยู่ในนั้นตั้งนาน ผู้คนค่อนข้างเยอะครับ .... ผมขึ้นไปถึงชั้น 3 อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ไปสะดุดตากับร้าน Pet Shop ร้านนี้ ที่ตั้งอยู่บนห้างด้วย .... เป็นร้านที่คอนเซปต์ดีมากๆ เลยครับ นอกจากจะเป็นแค่ร้าน pet shop ขายอาหารและข้าวของเครื่องใช้สำหรับสัตว์แล้ว ยังมีบริการอาบน้ำ-ตัดขน และงานบริการด้านการรักษาสัตว์ด้วย !!!   เพราะผมไม่เคยเห็นคลินิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ในสิงคโปร์เลยครับ ผมก็เลยรีบตรงรี่เข้าไปในร้านโดยพลัน ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ชื่อร้านว่า Pet Safari นั่นเอง มีสินค้าเกือบทุกประเภทเลยหล่ะครับ ... (ประมาณว่าร้านน้ำปิงปศุสัตว์ที่เชียงใหม่ ที่ว่าใหญ่แล้วยังชิดซ้าย   ) แต่ราคาสินค้าก็มาตรฐานค่าครองชีพชาวสิงคโปร์นะครับ ไม่ถือว่าถูกหรอก อย่างราคาอาหารสัตว์ premium grade ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เหมือนกับที่มีในไทย ที่สิงคโปร์ก็ราคาขายแพงกว่า ประมาณ 10% ครับ ที่ผมตื่นตาตื่นใจก็คือ บริการอาบน้ำตัดขนนี่หล่ะ .... อุปกรณ์เพียบพร้อมมากๆ ที่สำคัญคือร้านนี้ใช้กระจกเยอะครับ ทำให้คนข้างนอกมองเห็นการทำงานภายในพื้นที่อาบน้ำตัดขนด้วย ... แต่ผมเห็นราคาค่าบริการแล้วลมแท่บใส่ครับ ... อยากมาเปิดร้านสัตวแพทย์ที่สิงคโปร์จัง ....   เพราะค่าบริการสูงกว่าประเทศไทยประมาณ 5-10 เท่าได้ อันนี้แค่ส่วนอาบน้ำตัดขนนะครับ .. เปรียบเทียบกะที่ทำงานผมก็แล้วกัน (ที่ทำงานผม ก็คือโรงพยาบาลสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่มีฐานลูกค้าระดับ A ถึง C+ อ่ะนะครับ อย่าเพิ่งเอาไปเปรียบเทียบกับค่าบริการของสถานพยาบาลสัตว์ย่านสุขุมวิทเชียวนะครับ !!!) ราคา Full Grooming อยู่ที่ 45 SGD ขึ้นไป = ประมาณ 1,050 บาท ราคาที่ทำงานผม อย่างแพงที่สุดแล้ว เลิศหรูไปเลย ไม่เกิน 300-400 บาทครับ   ราคาเช็ดหู (easy easy) ราคา 5 - 10 SGD ราคาที่ทำงานผม ถ้าลูกค้ามาทำวัคซีน ก็คือ รวมในค่าวัคซีนแล้ว, ถ้าลูกค้ามาขอให้เช็ดเฉยๆ ก็ 30-50 บาทเท่านั้น ราคาตัดเล็บ (very easy easy) ราคา 10 SGD ราคาที่ทำงานผม ถ้าลูกค้า request ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม, ถ้ามาทำวัคซีน หมอก็จะตรวจแล้วก็ตัดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนอกจากค่าวัคซีน ... นี่ยังไม่คิดถึงค่ารักษานะครับ ถ้าค่ารักษาผมว่าต้องแพงกว่านี้แน่ๆ .... โหย .... เห็นแล้ว .... ลมใส่อีกรอบ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ้อ แต่ความคิดที่จะมาหากินต่างแดนนั้นทำไม่ได้นะครับ เพราะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ สำหรับการทำงานในประเทศไทยเท่านั้น!!   เช่นเดียวกันกับสัตวแพทย์ต่างชาติ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเปิดร้านประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ในประเทศไทย เว้นแต่ว่าจะต้องยื่นขอใบอนุญาตจากสัตวแพทยสภาของไทยจึงจะมีสิทธิ์ ... เอาหน่ะ เดินดูเพลินๆ ... อีกส่วนหนึ่งที่ผมชอบมากๆ นั่นก็คือ ส่วนพื้นที่ขายสัตว์เลี้ยง เล่นเอาน้องหมาใส่ตู้โชว์เลย คนสิงคโปร์ก็ให้ความสนใจกันเยอะ เอ่อ ภาพนี้แบบว่าแอบถ่ายหน่ะครับ จริงๆ เค้าไม่ให้ถ่ายภาพหรอก แต่ผมเห็นไอเดียแล้วรู้สึกว่า ดีมากๆ เลยครับ ถ้าในกรุงเทพ มีร้านแบบนี้ผมว่าน่าจะดีนะ เป็นการยกระดับการขายสุนัขได้อีกเยอะเลย (ราคาก็น่าจะขายได้สูงขึ้นด้วย) อย่างเจ้าชเนาเซอร์ ตัวนี้ ....   ไม่แน่ใจว่าราคาขายเท่าไหร่ แต่น่าจะแพงเอาการอยู่ เห็นระบบการจัดการคอก และที่อยู่ดูทีใช้ได้ครับ บริเวณหลังร้านมีพื้นที่เปิดโล่งให้น้องหมาพวกนี้ได้ไปเดินเล่นด้วย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เดินเล่นกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ห้าง Vivo ตรงชั้น L3 มีสถานี Sentosa Express อยู่ ... ตั๋วรถ Monorail เข้า Sentosa แค่ 3 SGD เท่านั้นเองครับ ตั๋วนี้สามารถใช้ได้แบบ unlimited ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ภายใน 1 วัน นั่นหมายถึง จะวิ่งไป-กลับ ภายในเกาะ sentosa ระหว่างสถานี Beach Station กับ Imbiah Station อีกหลายๆ รอบก็ได้ ภายใน 1 วันไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ถ้าหากว่ากลับมาที่ห้าง Vivo แล้ว จะต้องซื้อตั๋วใหม่ครับ :) เพราะถือว่าเข้าเกาะได้แค่รอบเดียวเท่านั้น จริงๆ ผมถือว่าไม่แพงหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 22:47:09 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จ่ายเงิน 3 SGD มาก็จะได้ตั๋วกระดาษมาหน้าตาแบบนี้ ซึ่ง .... วิธีการใช้ก็เหมือนกับบัตรอีซี่ลิงค์ คือ โปะ แล้วก็ผลักก้านตรงประตูครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คืนนี้ก็จะมีโชว์ที่ sentosa เหมือนกับที่ผมเคยมาทุกๆ ครั้ง ... แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป จากเดิมชื่อโชว์ชื่อว่า "Musical Fountain" กับเจ้าตัว Kiki ซึ่งเป็นโชว์ที่ให้ชมฟรีสำหรับคนที่มาเที่ยวเกาะ sentosa ที่สมัยก่อน ทุกรีวิวจะต้องเขียนวิธีการให้ไปนั่งจองที่นั่งกันตั้งแต่บ่ายๆ .... เนื่องด้วย sentosa มีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ ก็เลยไถเกรดพื้นที่นั้นซะเหี้ยนเตียนแล้วหล่ะครับ ... ย้ายสถานที่จัดแสดงโชว์ใหม่ไปอยู่ตรง Beach Station ภายใต้ชื่อ "Song of the sea" มีโชว์วันละ 2 รอบเวลา 19.40 และ 20.40 น. เหมือนเดิม แต่ทว่าเก็บค่าเข้าชมคนละ 6 SGD !!! จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เข้าสถานีดีกว่า รถมาแล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นั่งรถไฟฟ้าข้ามเข้าเกาะ ...   ดูพื้นที่ที่เคยเป็นท่าเรือของ sentosa ถูกไถเกรดจนเหี้ยนเตียนแล้ว ... เหมือนไม่ใช่ sentosa ที่เคยรู้จักเลยอ่ะ   บริเวณพื้นที่ที่เค้าไถเกรดซะเหี้ยนเตียน บนรถมีการประกาศว่า จะทำพื้นที่เป็น Entertainment Complex และโรงแรมด้วย ... จะเสร็จประมาณปี 2010 ครับ พื้นที่นี้ก็จะมีสถานีของ Sentosa Express ด้วย แต่ตอนนี้ใช้ชื่อว่า station future development ... มีทางแยกออกไปทำเหมือนเป็นสถานีแล้ว และรถก็จะหยุดจอดด้วย เพียงแต่ประตูไม่ได้เปิดออกเท่านั้นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 17:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 80 แล้วจากนั้นรถก็จะต้องวิ่งผ่านสถานี Imbiah Station ก่อนจะไปสุดสายที่ Beach Station ใช้เวลาเดินทางจากห้าง Vivo ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อยากจะบอกว่า ... ตอนออกสถานี ต้องเอาบัตรโปะบนเครื่องแล้วค่อยผลักก้านนะครับ เหมือนกับการใช้บัตรอีซี่ลิ๊งค์นั่นเอง ... มาถึง Sentosa แล้วขอดู Song of the sea ซักกะหน่อย ..... คนละ 6 SGD อยากจะรู้ว่าจะแตกต่างจาก Musical Fountain แบบสมัยก่อนหรือเปล่า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 บัตรรอบ 19.40 ขายไปหมดแล้ว เหลือแต่รอบหลังเวลา 20.40 น. ครับ เค้าเปิดให้คนที่ดูรอบแรกเข้าชมแล้ว ... ประตูทางเข้าจะเปิดก่อนเวลาแสดงโชว์ 20 นาทีเท่านั้นครับ ก่อนเข้าก็ต้องเข้าคิวยาวเหยียดเพราะว่า Free seating นั่นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว โชว์รอบแรกกำลังจะเริ่มครับ เกาะรถไปสถานี Imbiah ดีกว่า แล้วเดินเล่นดู Merlion ยักษ์ก่อน ... เอ่อ ... เมอร์ไลอ้อน ม่วงจริงๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เดินไปทางด้านหลัง .... เรื่อยๆ ก็จะพบกับจุดที่สามารถยืนดูโชว์ได้ ... ผมยังคงนึกถึงแสงเลเซอร์ จากตาเมอร์ไลอ้อน ... (ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โอ้ว ... ระเบิดรึนั่นหน่ะ เป็นการปิดโชว์แบบอลังการหน่ะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ได้เวลาเข้าชมแล้วหล่ะครับ .... ก่อนเข้าชมก็ต้อง เข้าคิวก่อน .. เหมือนเข้าคิวขึ้นเครื่องหางแดงเลยเนอะ .... Free seating เหมือนกัน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เนื่อหาโชว์ก็จับใจความประมาณว่า ... เป็นกลุ่มเป็นแก๊งค์มาเที่ยวทะเลกัน แล้วก็ร้องเพลง แล้วได้เจอกับอะไรที่แปลกประหลาด เลยต้องโชว์พลังเสียงร้องเพลงกันซักกะหน่อย .... แหม แล้วก็ร้องเพลงเอาใจคนมาเลย์ จีน น่าดูทีเดียว (ฐานลูกค้าใหญ่) แต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดท้ายด้วยการร้องเพลงสิงคโปร์ เมื่อยัยนี่โผล่มา ก็มีอะไรอลังการๆ ให้ดู ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เจ้าตัวนี้โผล่มาอีกแระด้วยเทคนิคเดิมๆ .... ยังคงแนะนำว่าไม่ควรนั่งแถวหน้าๆ เพราะจะร้อนมากๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 น้ำพุมาแว๊ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ร้องจนคอแหบ ในที่สุดยัยเจ๊นี่ก็กลับมา พร้อมกับโชว์ปิดท้าย (ไฟลุกท่วม) โดยใช้เวลาแสดงโชว์ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ผมเองรู้สึกว่า ผมประทับใจกับ Musical Fountain แบบดูฟรีๆ และอลังการ มากกว่าโชว์นี้อ่ะครับ (เสียตังค์ดู รู้สึกไม่อลังมากเท่ากับโชว์แบบสมัยก่อน) ก็ลองพิจารณาดูนะครับว่า คุ้มหรือเปล่ากับ 6 SGD ที่ต้องจ่ายไป แต่ส่วนตัวผม ครั้งเดียวก็พอแล้วครับ คราวหน้ามาก็จะเกาะดูอยู่หลัง Merlion หรือดูจากสถานี Beach Station แล้วกัน อิอิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เกาะ Sentosa Express กลับดีกว่า เพียง 5 นาทีก็กลับมาถึงห้าง Vivo แล้ว แล้วก็ลงไปซื้อน้ำผลไม้ ที่มีขายบนเครื่องเสือซักกะหน่อย ที่ตรง Giant Hypermarket ตรงชั้น B2 ครับ เกาะรถ MRT จาก Harbour Front ไปลงที่สถานี Raffles Place ออกจากสถานีตรง Battery Road เดินเล่นตรง Singapore River หุ หุ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มองออกไปก็จะเห็น Singapore Flyer ด้วย .... เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์นี้ครับ http://www.singaporeflyer.com.sg/ ไว้ทริปหน้าค่อยมาบุก Singapore Flyer ละกัน .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สิงโตตัวนั้นที่เธอฝันยามหนุน .... เมื่อเธอมาสิงคโปร์ ขอปิดกระทู้นี้ก่อนนะครับ .... พอดีว่า มีนัดกินข้าวกะตารอชมอ่ะ ... เดี๋ยวจะไปสาย แห่ะ แห่ะ แห่ะ กระทู้หน้าก็จะพูดถึงการพักค้างอ้างแรมในสนามบินชางงี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Changi Terminal 3 นะครับ ตามไปต่อกันที่กระทู้นี้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6380302/E6380302.html ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 00:00:21 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 18:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่ได้ไปแวะเล่น Singapore Flyer ด้วยเหรอคะ จากคุณ : MeeMi - [ 29 ก.พ. 51 18:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เขากลายเป็นเมืองระดับโลกไปแว้ววววว เมื่อไหร่กรุงเทพเราจะจัดระเบียบเมืองให้สวยได้บ้าง จากคุณ : newuno - [ 29 ก.พ. 51 19:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณหมอยุ่งเช่นกันที่มารีวิวจ้า ^_^ จากคุณ : Hermy - [ 29 ก.พ. 51 19:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อยู่เชียงใหม่มาตั้งนานเพิ่งรูว่ามีเครื่องบินตรงไปสิคโปร์ด้วย แถมยังจะปิดแล้วอีดเฮ้อ จากคุณ : รักทะเล - [ 29 ก.พ. 51 19:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ดีมากๆเลยครับ เด่วถ้าผมไปคนเดียว ต้องถามคุณหมอหน่อยแล้ว ละเอียดจริงๆ จากคุณ : เด็กมหาลัย (Aircondition) - [ 29 ก.พ. 51 19:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ทั้งวัดเอย ห้างเอย เซนโทซ่าเอย ที่หมอไปมาทั้งหมดลุงยังไม่เคยไปเหยียบเลยสักกะแห่ง แสดงว่ายังไปไม่ถึงสิงคโปร์เลยจริงๆ 5 5 5 ว่าแต่ใครบอกว่าจะนั่งเจ้าบิ๊กบัสไปลอนดอนอะ ลุงว่าจะจองไปโตเกียวเห็นว่าช่วงสิงหาฯอาจจะนำมาบินเส้นทางนี้ แต่อาจจะแห้วก็ได้เพราะยังไม่เห็นมีวี่แววเลยว่าจะบินจริงเปล่า แถมกำลังด้อมๆมองๆ 77LR ของ EK ไปดูบรรยากาศโอลิมปิคที่ปักกิ่งอยู่ เห็นว่าที่นั่งชั้นหนึ่งสูทปรับปรุงใหม่ไฉไลกว่าเดิมบน 345 เยอะทีเดียว...อย่างนี้ต้องลอง จากคุณ : WONDERFUL_DAY - [ 29 ก.พ. 51 20:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ตามไปสิงคโปร์ด้วยจ้า จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 29 ก.พ. 51 21:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แวะมาทักทาย คห.101 พอดี หุ หุ หุ รอดูมาตั้งนานแล้ว ว่าแต่ คุณยุ่งไปแค่ 2 วัน ตลุยเยอะขนาดนี้เลยเหรอ เหนื่อยแทนเลย อิ อิ อิ งะ แก้ไขนิดนุง ว่าจะเอา คห100 โดนปาดหน้าไปซ้าาาาาาา งุ งิ งุ งิ แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 51 22:01:04 จากคุณ : ps2001 - [ 29 ก.พ. 51 21:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เข้ามาลงชื่อครับ.... คิดถึงรีวิวหมอยุ่งในนี้จัง จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง - [ 29 ก.พ. 51 23:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ถ่ายภาพได้สวยดีครับ จากคุณ : oumbkk - [ 29 ก.พ. 51 23:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ไม่เคยผิดหวังกับรีวิวคุณยุ่งซกกะที ตอนผมไปนะ เพิ่งเริ่มเปิด โมโนเรลข้ามไปเซนโตซ่าเลย มีประตูเปิดด้วยนะครับ สถานีที่ยังสร้างไม่เสร็จอ่ะ ดีนะไม่ก้าวออกไป อิอิอิ แล้วผมหน่ะ อยากดูมาก ซอง ออฟเดอะซี ตอนนั้นคนคงเห่อเพราะว่าเปิดการแสดงยังไม่ถึงเดือน ไปถึงบ่ายสามบ่ายสี่โมงเย็น ตั๋วเต็มทุกรอบ --" เสียมากๆ  ลมแทบจับ ฮือๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 1 มี.ค. 51 02:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อ่านรีวิวแล้ว สงสัยจะไม่อยากไปดูแอร์โชว์แล้ว คนเยอะเหลือเกิน รอไปงานวันเด็กดอนเมืองดีกว่า ประหยัดดี........... จากคุณ : Tanoshii - [ 1 มี.ค. 51 12:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ฝากข้อมูลในกระทู้นี้ละกันนะครับ... ร้าน No Signboard ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดัง ในด้าน "Chilli Crab" ก็มาเปิดอยู่ที่ Vivo City เหมือนกันครับ... อยู่ด้านลานด้านนอกบนชั้น 3 นั่นละครับ.. ส่วนตั๋ว Sentosa Express นั่น หมอยุ่งฯ เข้าใจผิดไปนิดหนึ่งนะครับ.. ถามเจ้านหน้าที่ตอนที่ไป เขาบอกว่า ใช้ข้างใน sentosa กี่รอบก็ได้ แต่ถ้ามาออกฝั่ง Vivo City แล้ว จะเข้าไปอีกไม่ได้.. จากคุณ : Wobbegong - [ 1 มี.ค. 51 16:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาให้กำลังใจอีก 1 กระทู้ครับ จากคุณ : ดับฝันหนุ่มน้อย - [ 1 มี.ค. 51 18:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านและติชมนะครับ -- Singapore Flyer รอทริปหน้าครับ ผมมีตั๋วการบินไทย แลกไมล์ ROP ของน้องมาแระ จองไว้ช่วงสงกรานต์ครับ กะว่าจะไปขึ้นซักกะหน่อย ... -- ลุงวันเดอร์ ก็ขอให้ SQ เค้าเอา A380 บิน SIN-NRT เร็วๆ ละกันะครับ แต่ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้ load ดีขนาดต้องใช้ A380 ด้วยหรือเปล่า อิ อิ -- ทริปนี้ 2 วัน 2 คืนเต็มๆ ก็ต้องพยายามทำเวลาครับ เนื่องด้วยไปคนเดียวอ่ะครับ ก็เลยจับยัดได้หมด ไม่ต้องเดินช้าๆ หรือต้องรอใครครับ -- ขอบคุณคุณ Wobbegong สำหรับเรื่อง Sentosa Express ด้วยนะครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 1 มี.ค. 51 22:51:38 ]