ความคิดเห็นที่ 1 ที่บูธขายตั๋วของหางแดง ก็มีป้ายเบ่อเริ่ม บอกว่าจะเก็บตังค์ละนะ ดังนั้น ใครจะบินหางแดง ก็รีบจองตั๋วก่อนวันที่ 21 เมษายนนะครับ ..... แล้วก็ได้เข้าส่วนผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ที่เดิมทีเป็นส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ หน่ะครับ ..... แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 14:30:44 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผู้โดยสารไฟล์ทนี้น้อยมากๆ ครับ แค่ 30 กว่าคน เท่านั้นเอง ตามประสาเที่ยวบินแบบบินสวนทางหน่ะครับ (ไฟล์ทขามาจากกรุงเทพก็ผู้โดยสารเต็มเอี๊ยด) วิ่งเล่นได้สบายบรี๋อหล่ะครับ ..... ขนาดมาเช็คอินก่อนเคาน์เตอร์ปิดไม่นานได้ sequence แค่ลำดับ 29 เอง ... พี่กราวน์หางแดงที่รู้จักกัน เธอก็บอกว่า วันนี้ไฟล์ทขาเข้าเชียงใหม่เต็มหมดหล่ะ แต่ไฟล์ทตีกลับเข้ากรุงเทพ ก็โล่งๆ อย่างนี้ทุกสายการบิน หุ หุ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โล่ง ๆ เท่าที่เห็นนี่คือผู้โดยสารหางแดงไฟล์ทนี้หล่ะครับ .... ผู้โดยสารจากกรุงเทพมากันแล้ว ผู้โดยสารเต็มลำแน่นขนัดอ่ะครับ เหอ เหอ (ไม่ได้ถ่ายภาพมา) ซักพักหนึ่งก็พร้อมเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องครับ ผมก็ขึ้นเป็นคนแรกหน่ะดิ เหอๆๆ ไฟล์ทนี้ไม่มี XBD (ผู้โดยสาร Xpress Boarding) ครับ แต่ใครขืนซื้อมาก็เสียดายตังค์แย่ เหอ เหอ เหอ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เส้นทางเดินจะค่อนข้างภูเขาวงกตพอสมควร เดินไปทางซ้าย อ้อมอีกด้านหนึ่งแล้วเดินตรงมา (เดินเป็นงูเลยหล่ะครับ) ก็อย่างว่าหล่ะครับ ตอนนี้สนามบินเชียงใหม่กำลังปรับปรุงอยู่ ..... หุ หุ ได้ขึ้นเครื่องคนแรกนะครับ ... (เรื่องเล่นเก้าอี้ดนตรีนี่ผมไม่เคยเป็นรองใคร ถือว่าเป็นสีสันหนึ่งในชีวิต ที่ผมรู้สึกแฮปปี้กับการขึ้นหางแดงมาก นึกอยากเปลี่ยนใจ อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง ไม่ต้องเถียง ไม่ต้องทะเลาะกับแอร์) ได้เจอเจ้า HS-AAI ลาย Amazing Thailand ซักกะที ในที่สุดผมก็ได้นั่งหางแดงโบอิ้ง 737-300 ครบทั้ง 14 ลำแล้ว (^__^) (รอคอยลำนี้มาตั้งนาน เหอ เหอ) แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 14:37:50 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขึ้นไปบนเครื่องก็โล่งโปร่งสบายมากๆ ครับ ใคร่อยากนั่งไหนนั่งได้เลย .... มองไปข้างหน้าก็โล๊ง ... โล่ง จริงๆ ครับ ..... เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ของคนเชียงใหม่ เวลาบินสวนทางเข้ากรุงเทพช่วงเทศกาล หุ หุ หุ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่นั่งโล่งขนาดว่า ... เหมาคนละ 6 ที่นั่งได้สบายๆๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ย้ายที่นั่งไปนั่งด้านหน้าๆ ดีกว่า อิอิ เครื่องบินปิดประตูก่อนเวลาเล็กน้อยครับ ... เพราะผู้โดยสารน้อยมาก board ได้เร็วครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ค้นๆ ดูว่าในกระเป๋าหน้าที่นั่งมีอะไรบ้าง ... สมกับที่เป็นเครื่องโฆษณาของ ททท. จริงๆ เพราะมีเอกสารของ ททท. เพียบเลยหล่ะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาลงชื่อค่ะหมอยุ่งฯ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง - [ 16 เม.ย. 51 14:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดูเมนูใหม่ของหางแดงกันซักกะหน่อย .... อาหารร้อนบนเครื่อง A320 เปลี่ยนใหม่แล้วนะครับ กลายเป็น ข้าวผัดไก่ และ กระเพราไก่ อยากกินกระเพราไก่บนเครื่องหางแดงซะแล้ว... (รอเดือนหน้านะครับ มีโปรแกรมเข้ากรุงอีกครั้งกับหางแดง A320) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาร่วมยินดีที่ได้เดินทางกับ A346 Trip SIN ตามที่ได้ตั้งใจ จากคุณ : Giantpig - [ 16 เม.ย. 51 14:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วก็มีอาหารแบบ combo set ขายด้วย ก็ถือว่าโอเคนะครับ ถ้าบินไฟล์ทเช้าก็กิน combo set กับมิสเตอร์โดนัท ถ้าบินไฟล์ทเที่ยงๆ หรือไฟล์ทค่ำ ก็กินแบบอาหารร้อน (เฉพาะ A320) หรือกินกับแซนวิชก็ดีทีเดียวครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อูย อยากจะบอกว่า ดีใจที่สุดเลยหละครับที่ได้เจอ A346 สมใจอยาก เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเจอ A346 ในเส้นทาง domestic ครั้นจะตามไปบินไฟล์ทข้ามทวีปด้วยก็คงจะไม่ไหว เหอ เหอ เหอ ถอยออกมาแล้วจ้า ..... แล้วก็ taxi อย่างรวดเร็ว ... จากนั้นก็ตีโค้งหลังติดเบาะวิ่งขึ้นฟ้าไปเลย ... (ตามฉบับหางแดงจอมซิ่ง) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 14:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้เมนูเครื่องดื่มของหางแดง ก็มีเพิ่มเข้ามานะครับ จากเดิม กลุ่ม 30 บาท ที่มีแค่ไมโลร้อน กาแฟร้อน ชาลิปตันร้อน ตอนนี้มีน้ำมะนาว, น้ำขิง, น้ำตะไคร้ แบบร้อน-เย็น ให้เลือกดื่มด้วย ราคา 30 บาทเท่ากันครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมก็เลยขอน้ำขิงแบบเย็นละกัน (ลืมไปว่าจริงๆ น่าจะสั่งตะไคร้เย็นมากกว่า) และแล้ว ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ก็บุกหางแดง !!!! จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไฟล์ทนี้โล่งมาก ... โล่งมากที่สุด เท่าที่ผมเคยบินหางแดงมาเลยหล่ะครับ เพราะเท่าที่เคยเจอน้อยสุดคือ 40 คน แต่ไฟล์ทนี้มีแค่ 30 กว่าคน ... ก็เท่าที่เห็นนี่หล่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลืมไปว่าตรงกระเป๋าหน้าที่นั่งมีนิตยสาร อสท. อยู่นี่นา ... นั่งอ่านเพลินๆ ดีกว่า .... อยากไปเกาะพะงันอ่ะ .... (ยิ่งเห็นกระทู้ของเจ๊ผักอ้วนแล้วยิ่งอยากไป เหอ เหอ เหอ กลางปีนี้เจอกันนะเกาะสมุย ...) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บินแป๊บเดียวก็ลดระดับลงจะแตะสุวรรณภูมิแล้วหล่ะครับ .... และแล้วเครื่องก็แตะรันเวย์ 19L อย่างนุ่มนวล ..... จอดสนิท ณ เบย์ร้อยหน่อยๆ ออกจากเครื่องบินมาก็ขอถ่ายมุมบังคับซักกะหน่อย แต่ก็ต้องรีบทำเวลานะครับ เพราะว่าไฟล์ทนี้คนน้อย เค้าเอารถบัสแค่คันเดียวมารับผู้โดยสารทั้งไฟล์ทหน่ะครับ เหอ เหอ ... ภาพก็เลยไม่ค่อยชัดซักเท่าไหร่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มองออกไปเห็นคุณบาวแดง ... และเห็นตัวแดงหางขาวแว๊บๆ ... โลโก้ใหม่ด้วย -->>> อ้าว นั่นเจ้า Lat HS-AAP ถูกส่งไปทำสีใหม่แล้วนี่ .... เดือนที่แล้วที่บินไปภูเก็ตด้วยกัน ยังเป็นลาย Lat ขาวๆ ลายเก่าอยู่เลย ... การ์ตูน Lat มาเลย์ก็เลยกลายเป็นอดีตไปซะแล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ น้องหมอยุ่ง..... เป็รรีวิวที่ละเอียดดีครับ...... หนีสงกรานต์เชียงใหม่จริงๆ ไปถึงสิงคโปร...... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 16 เม.ย. 51 15:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วันนี้เที่ยวบินของหางแดง ตรงเวลากันถ้วนหน้าครับ หลายไฟล์ทถึงก่อนเวลาด้วย.. ในขณะที่บูติกแอร์ของเจ๊ผักอ้วน(เจ้าแม่บางกอก) ดีเลย์เบาๆ 1 ชั่วโมง ขำๆ กันอยู่เรื่อย (ดูภาพประกอบ) แต่แปลกเนอะ ไม่ค่อยมีใครมาโวยวายเรื่องบางกอกแอร์ดีเลย์เลย ในขณะที่โลว์คอสต์ดีเลย์ที นี่บ่นกันอุบ ..... โวยกันกระจาย .... เป็นไปได้เหมือนกันมั้งครับว่า .... บางกอกแอร์ราคาตั๋วอาจจะสูงจนกระทั่ง ไม่ค่อยมีใครได้บิน แล้วไม่ค่อยมีใครจะได้บ่นกัน เหอ เหอ เหอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รับกระเป๋าเรียบร้อยดีครับ ไฟล์ทนี้ก็แฮปปี้ดี เพราะคนน้อย รู้สึกสบายดีครับ อีกทั้งมีนิตยสาร อสท. ให้อ่านด้วย เลยทำให้รู้สึกว่าไฟล์ทนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากๆ และไม่น่าเบื่อครับ ปล. นิตยสาร อสท. เห็นพี่แอร์บอกว่า จะมีอยู่แค่บนเครื่องบินบางลำเท่านั้นนะครับ และขอความร่วมมือไม่ให้นำนิตยสาร อสท. ลงจากเครื่องบิน เพื่อให้ผู้โดยสารรายต่อๆ ไปได้อ่านโดยทั่วกันครับ ... ปล.2 นับๆ ดูแล้วผมก็ใกล้จะบินหางแดงครบ 100 ไฟล์ทแล้วหล่ะครับ แห่ะๆๆ อีกไม่กี่ไฟล์ทเท่านั้น .... ปล.3 ต่อไปนี้คงไม่ค่อยเห็นผมโหลดกระเป๋าแล้วนะครับ หุ หุ จะเป็น carry on baggage อย่างเดียวแล้ว .... (ไหนๆ ก็ถ่ายภาพ Tag กระเป๋าไว้เป็นที่ระลึกหน่อยละกัน) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามารอดูค่ะ จากคุณ : Parissara - [ 16 เม.ย. 51 15:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สายการบินที่สอง : คุณค๊ะ .... เอ่อคือผมอยากบินกับ A346 ครับ !! การบินไทย สายการบินแห่งชาติ ที่ผมยังไม่มีโอกาสได้บินด้วยง่ายๆ ส่วนหนึ่งเพราะค่าโดยสารที่แพงใช้ได้ และผมเองก็ไม่ได้ต้องการบริการอะไรที่เลิศเลอ ขอแค่บินให้ถึงปลายทางก็โอเคแล้ว ดังนั้นผมจึงบินกับสายการบินโลว์คอสต์ บ้าจองตามโปรโมชั่นอยู่เรื่อยมา อย่างว่าหล่ะครับ คราวนี้ผมใช้ไมล์ ROP ของน้องแลกตั๋วมา เลยทำให้มีโอกาสได้บินกับ คุณค๊ะ ในเที่ยวบินสู่สิงคโปร์ ครับ ไฟล์ทขาไปนี่เจอกับโบอิ้ง 777-200 (รุ่นที่อัพเกรดมาจากคอกวัว -- Royal Cattle Class !! แต่ยังไม่มี PTV หน่ะครับ) ในชื่อตอนว่า บินสู่สิงคโปร์กับการบินไทย TG403 ไฟล์ทเช้าสุดกับโบอิ้ง 777-200 หลังจากที่ผมบินกับหางแดง ไฟล์ทโล่งๆ เพราะบินสวนทางช่วงสงกรานต์ มาถึงสุวรรณภูมิแล้ว ผมก็ต้องพักค้างที่สุวรรณภูมิหล่ะครับ .... วันนี้คิดผิด ปกติผมจะต้องนอนตรงข้างสายพานรับกระเป๋าหล่ะครับ ... เพราะว่ามีเบาะนุ่มๆ สบายๆ ปลั๊กไฟให้ชาร์จแบตเตอรี่เพียบพร้อม ปรากฎว่าอะไรไม่รู้ดลใจทำให้ผมอยากออกมาข้างนอก ... เดินตรงขึ้นไปถามตรงเคาน์เตอร์เช็คอินการบินไทย Row J ว่าไฟล์ท 8 โมงเช้าเปิดเช็คอินกี่โมง เค้าบอกว่าเช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป ... เฮ่อ ... ต้องลำบากลำบนหาที่นอนอีกแล้ว .... ตอนแรกก็กะว่าจะนอนที่ Row W หล่ะครับ ปรากฎว่า ม้านั่งนุ่มๆ เบาะน้ำเงิน ถูกย้ายหายไปหมดแล้ว !!! เหลือแต่ม้านั่งแข็งๆ นอนไม่สบายอยู่เต็มไปหมด แถมมีคนนั่งอยู่เต็มเลย อ่าวทำไงหล่ะทีนี้ ..... (กลายเป็นว่าไม่กล้าแนะนำใครให้มานอน Row W แล้วหล่ะครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมก็เลยไปมองหาที่นอนแถวๆ ชั้น 3 ที่เคยนอนประจำครับ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าๆ คนเยอะมากๆ ครับ .... เกือบไม่มีที่แหน่ะ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนเช้า ผมตั้งมือถือปลุกไว้ตอน 5.00 น. แต่ก็ยังคงงัวเงีย... (ใครที่รู้จักผมดีจะรู้ว่าผมขี้เซาสุดๆ) ตื่นมาตอน 6.00 น. ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ขึ้นไปชั้น 4 ก็ต้องตะลึงกับแถวรอเช็คอินกับการบินไทย ยาวเหยียดทั้งฝั่ง Row H และ Row J เลยครับ .... ผมก็เดินเข้าไปตรงกลางบอกว่า ผมทำ Internet Check-in มาแล้วครับ เข้าไปตรงเคาน์เตอร์ J1 ได้เลยหรือเปล่าครับ?? คุณ รปภ. ที่ตรงเข้ามาตอบคำถาม ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องครับ กลับบอกให้ผมรีบไปเข้าแถว (ให้ผมเดานะ ผมว่าพี่แกก็คงไม่รู้จักว่า Internet Check-in คืออะไรด้วยซ้ำไป .... เพราะพี่แกทำหน้าดูงงๆ มากๆ เลย) ด้วยความที่ผมไม่มีประสบการณ์บินระหว่างประเทศกับการบินไทยเลย ... ผมไม่รู้ว่าถ้าทำ I check-in มาแล้วสามารถตรงไปที่เคาน์เตอร์ J1 ได้เลย ผมก็เลยไปเข้าคิวรอ .... พอถาม จนท. ที่น่าจะพอรู้เรื่อง เดินผ่านมาที่แถวอันยาวเหยียด เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องมีใบที่ print มาแล้วถึงจะเข้าช่องเช็คอิน J1 ได้ ผมก็งงสิครับ เอ้ย ต้อง print มาด้วยเหรอ ใบยืนยันการเช็คอินอ่ะ .... ผมก็เลยค่อนข้างหงุดหงิด แต่ก็ไม่อยากเดินออกจากแถว เพราะแถวยาวมากๆๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เข้าคิวรอไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ครับ .... แบบว่าเซ็งอ่ะ ขนาดทำ Internet Check-in แล้วยังต้องเข้าคิวอีกเหรอนี่ .... ปล. ตอนที่ทำ Internet Check-in ครั้งแรกสุดแบบเครื่องบินเป็นเครื่องแอร์บัส A330-300 ครับ ผมเลือกที่นั่ง 65K เอาไว้ ปรากฎว่า พอไปคีย์หน้าจอดูอีกครั้ง ก่อนที่จะเข้าไปเคาน์เตอร์เช็คอิน เห็นที่นั่งกลายเป็น 48K พอดูอีกครั้งหนึ่งก็ถึงบางอ้อว่า เค้าเปลี่ยนแบบเครื่องบินกลายเป็นโบอิ้ง 777-200 ธรรมดา ... ผมก็เลยเสียววาบเลยว่าไฟล์ทขากลับผม เป็น A346 จะเจอหวยออกกลายเป็น AB6 อีกหรือเปล่า เหอ เหอ เหอ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จนกระทั่งแถวตีโค้งมาทางเคาน์เตอร์ J1 อีกครั้งหนึ่ง ผมก็เลยบอกกับพนักงานตรงๆ ว่าผมทำ Internet Check-in มาแล้วนะครับ พอดีพนักงานคนนั้นเค้าให้ผู้โดยสารที่ทำ Internet Check-in มาแล้ว (แต่เป็นฝรั่ง) เดินผ่านเข้าไป ผมก็เลยขอตามเข้าไปด้วยซะเลย .... เอ่อ ... คือว่า ทำไมเค้าไม่บอกหล่ะครับว่า ผู้โดยสาร Internet Check-in ตรงเข้าแถวเฉพาะเคาน์เตอร์ J1 ได้เลย และเวลาตอนนี้ก็ประมาณ 6.40 น. แล้ว ผมเองก็เริ่มร้อนใจมากๆ กลัวติด ตม. หล่ะวุ่นเลย ..... ในที่สุดก็ได้ต่อคิวที่เคาน์เตอร์ J1 สำหรับผู้โดยสาร Internet Check-in ครับ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 การบินไทยเล่นทำผมเครียดเลยครับ .... บินหางแดงไฟล์ทระหว่างประเทศ ผมไม่เคยเครียดกับการเช็คอินขนาดนี้เลยนะนี่ ... ผมรู้สึกว่าเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทยมีไม่พอหรือเปล่าหว่า ... น่าจะเพิ่มเป็นซัก 3 Row นะครับ ตอนนี้แค่ Row H กับ Row J อาจจะไม่พอ โอ้ ... ในที่สุดผมก็ได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ด่าน ตม. คนเยอะตามคาดครับ คนไปเที่ยวสงกรานต์กันอ่ะครับ (แต่วันปกติคนก็น่าจะเยอะอย่างนี้อยู่แล้วหล่ะครับ ....) ก็ทำไงได้หล่ะครับ ก็รีบเข้าคิว ...ดีกว่าเนอะ ในสนามบินจะมีป้ายประกาศจากทาง ตม. แนะนำว่าให้รีบเข้าผ่าน ด่าน ตม. อย่างน้อย 90 นาทีก่อนเวลาออกเดินทางครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รอซักพักหนึ่งก็ผ่านด่าน ตม. ตรงสู่รูปปั้นตำนานการกวนเกษียรสมุทร เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าสู่ King Power Lounge ครับ (^___^) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วันนี้สบายครับ เรียกขึ้นเครื่องที่ Gate C3 อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ King Power Lounge เลยหล่ะครับ เดินตรงไปเรื่อยๆ เห็นศาลาไทย ... เอ้ยทำไมมีควันเยอะขนาดนั้น ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเป่าแคนอยู่ในศาลาด้วย ... ตอนแรกก็คิดไปได้ว่าเป็น effect เพื่อให้อินกับบรรยากาศ (ตรงไหน?) พอเดินเข้าไปใกล้ขึ้น เอ้ย นี่ควันไฟนี่หว่า ... เลยได้ทีถามพนักงานร้านดิวตี้ฟรีที่อยู่ตรงนั้น เธอบอกว่า ... เป็นควันจากครัวของร้าน Burger King อ่ะครับ แต่ดูไม่เห็นมีใครตื่นตระหนกอะไรกันเลยนะครับ น้องที่เป่าแคน ก็เป่าแคนต่อไป ... อึดจริงๆ เลยน้อง .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดูไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ของสนามบินมาสนใจเลยอ่ะครับ จะให้น้องที่เป่าแคนเป็นลมไปก่อนรึยังไงกัน หรือว่าจะต้องให้เป็นข่าวใหญ่โต ... ถ้าสื่ออื่นมาเห็น ก็คงลงข่าวไปแล้วหล่ะครับว่า "ไฟไหม้สุวรรณภูมิ" (ทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก -- แต่ระบบการจัดการทำได้ค่อนข้างช้าเท่านั้นเอง) ซักครู่หนึ่งการเป่าแคนก็ต้องหยุดลง เพราะน้องทนไม่ไหวแล้ว เห็นเอาผ้าขาวม้าปิดจมูกอยู่ .... ผมก็เดินหนีไปเข้าเล้าจน์ดีกว่า หายใจเริ่มจะไม่ออกแล้วหล่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 15:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ในเล้าจน์นี้ไม่มีควัน แห่ะๆๆ ... สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ 1.หนังสือเดินทาง 2.บอร์ดดิ้งพาส ที่แสดงว่ากำลังเดินทางออกต่างประเทศ 3.บัตรสมาชิก ของผมนี่ Temporary Card ก็ใช้ได้เสมอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อาหารการกิน สำหรับผมยังถือว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ครับ แค่ปริมาณอาหารอาจจะไม่เท่าแบบแต่ก่อน คุณภาพเครื่องดื่มอาจจะลดเกรดลงไป อาทิเช่น .... สมัยก่อนใช้น้ำผลไม้ทิปโก้ 100% ตอนนี้ก็ลดระดับลงมาเป็น ทิปโก้ 40% แบบมิ๊กซ์อ่ะครับ ... ตอนแรกเห็นในกระทู้ของลุงเหม่ง ก็จินตนาการภาพว่าคงแย่ลงไปเยอะ แต่ส่วนตัวผมก็ยังนับว่าโอเคมากๆ ครับ เพียงแต่ว่าถ้าเข้ามาในช่วงเวลาที่คนเยอะมากๆ อาจจะไม่มีอะไรกินเท่าไหร่ อาหารที่ยังคงมีก็ได้แก่ แซนวิช, ขนมเบเกอรี่ต่างๆ (แต่บางรายการที่เด่นๆ เช่นทาร์ตผลไม้ก็หายไป), เครื่องทำกาแฟก็ยังอยู่นะครับ กดทำคาปูชิโน่ก็ยังทำได้ มีขนมปังให้อุ่นทาเนยกิน และก็กลุ่มน้ำผลไม้ ... ส่วนตัวผมว่าโอเคครับ !! สำหรับเล้าจน์ที่ให้เข้าฟรี และผมเองก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสเป็นลูกค้าซื้อของจากคิงพาวเวอร์เท่าไหร่ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วทีนี้ก็ถึงเวลากิน ๆๆ ครับ เหอะ เหอะ ผมยังจำบัตรผ่านจอมซ่า ในกระทู้ลุงเหม่งนั้นได้ ที่บอกว่า สมาชิกบางคนมากินแบบตายอดตายอยาก ถ้ามีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ คงมีเรื่องขำขำไปขายคงได้หลายตังค์ ... ผมก็กินครับ แต่ไม่ตายอดตายอยากหรอก แค่นี้ยังไม่ถึง 1/4 กระเพาะผมด้วยซ้ำไป เดี๋ยวค่อยไปกินต่อบนเครื่องการบินไทย หุ หุ หุ เค้ามีให้กินก็กินอ่ะครับ แต่ถ้าเค้าไม่ให้กิน ก็ไม่เคยต้องไปขอเค้ากิน .... อีกทั้งผมไม่กลัวหรอกครับ กล้องวงจรปิดหน่ะ ที่ทำงานผมนี่ ติดกล้องแทบจะทุกจุดอย่างกะบ้าน Academy Fantasia อยู่แล้ว ทำอะไรเปิ่นๆ ไว้ก็ลงบันทึกเป็นหลักฐานไว้หมด ก็ดีเหมือนกันครับ ที่เค้าเสนอไอเดียไว้ ผมจะได้ขอวงจรปิดจากเจ้านาย ไปขายบ้าง เผื่อจะได้ตังค์ไปเที่ยว หุ หุ นี่กินแบบเซฟๆ นะครับ ถ้าบินหางแดงจะกินเยอะกว่านี้ เหอ เหอ เหอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ต่อด้วยคาปูชิโน่เบาๆ อีกซักแก้วละกันครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะได้เวลาเดินทางแล้ว ออกจากเล้าจน์ไปรอขึ้นเครื่องดีกว่า ... หมอกควันหายไปแล้วหล่ะครับ ..... เจ้าหน้าที่สนามบิน รปภ. เพียบ เปิดเครื่องดูดอากาศตรงเหนือศาลาอ่ะครับ (ควรจะเปิดตั้งนานแล้ว !!!) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ร้านต้นเหตุน่าจะอยู่แถวๆ นี้หล่ะครับ ตอนนี้ก็เลยต้องปิดชั่วคราวไปก่อน .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินไปที่เครื่องบินดีกว่า .... คุณอุทัยธานี HS-TJB โบอิ้ง 777-200 จอดรออยู่แล้วครับ คุณอุทัยธานี นี่ผมเคยเจอกันอย่างน้อยสองรอบแล้วหล่ะครับ ตั้งแต่สมัยยังเป็น Royal Cattle Class แจก OTOP กับลูกอมเม็ดเดียว และล่าสุด กระทู้ที่ไปญี่ปุ่นของพ่อ-แม่-น้องสาวผมก็บินกับคุณอุทัยธานี นี่หล่ะครับไปนาริตะ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 วันเดินทาง : 13 เมษายน 2551 เที่ยวบิน : TG403 Bangkok - Singapore เครื่องบิน : โบอิ้ง 777-200 ทะเบียน HS-TJB นามพระราชทาน "อุทัยธานี" เวลาออกเดินทาง : 8.00 - 11.15 น. เวลาออกเดินทางจริง : 8.15 - 11.30 น. จำนวนผู้โดยสาร : เต็มทุกที่นั่ง ค่าโดยสาร : ตั๋วแลกไมล์ ROP 25,000 ไมล์ ชำระค่าธรรมเนียมและภาษีต่างๆ ไป-กลับ 3,530 บาท แป๊บเดียวก็ได้ขึ้นเครื่องแล้วหล่ะครับ พอดีนั่งทางท้ายเครื่องด้วยเลยได้มีโอกาสขึ้นเครื่องก่อน ..... เฮ้อ... ไม่มี PTV มีแต่เพดาน และ ผนังทีวี ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แต่ seat pitch ก็ห่าง นั่งสบายดีครับ ด้วยความที่ไม่มี PTV ก็เลยทำให้เอากระเป๋าใส่ใต้ที่นั่งได้ ในขณะที่ถ้าเป็นเครื่อง A346 ซึ่งจะมี PTV Box อยู่ใต้ที่นั่ง เลยต้องเอากระเป๋าไว้ข้างบนทั้งหมดอ่ะครับ เพราะสอดกระเป๋าใต้ที่นั่งไม่ได้ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สิ่งแรกที่ลูกเรือแจกให้กับผู้โดยสารทุกคน ก็คือหูฟังครับ ... ทีนี้เราก็เลยมาดูช่องเพลงดีกว่า เปิดจาก In-Flight Entertainment Magazine เอานะครับ ว่าเปิดช่องไหนจะเจอเพลงอะไรบ้าง ... ไหนๆ ก็ไม่มี PTV แล้วก็ฟังเพลงก็ได้ เพลินๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วันนี้บินขึ้นทางรันเวย์ 19L ครับ เครื่องบินไม่ติดแล้ว .... (เหมือนรถไม่ติด) บ้ายบายสุวรรณภูมิ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เส้นทางบินดูแปลกๆ ดีครับ เห็นไฟล์ทสิงคโปร์ของหางแดง ปกติเค้าก็บินเลียบอ่าวไทยกัน คราวนี้ไฟล์ทการบินไทย บินผ่านแถวชลบุรี พัทยา แล้วอ้อมลงใต้ครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อเครื่องบินไต่ระดับได้ ... คุณแอร์ในชุดสไบ เธอก็แจกใบ ตม.สิงคโปร์ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคุณแอร์ใส่ชุดสไบ บนเครื่องการบินไทยครับ เลยตื่นเต้นเล็กน้อย (ปกติบิน domestic เธอก็ใส่ชุดม่วงๆ ปกตินั่นแล) ปล. น้องสาวผมเห็นรูปแล้วแซวว่า เดี๋ยวนี้เทรนด์ทรงผมของแอร์โฮสเตส การบินไทย นิยมผมสั้นๆ แบบนี้กันแล้วเหรอ เห่อๆๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แวะมาเยี่ยม....อิอิ จากคุณ : รอชม - [ 16 เม.ย. 51 16:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วคุณสจ๊วตก็เดินเครื่องดื่มครับ ... ด้วยความที่ไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทเช้ามั้งครับ ก็เลยไม่มีเครื่องดื่มแอลกฮอลล์เล็ดลอดออกมาเลย คุณสจ๊วตเอาเครื่องดื่มใส่ถาด มาเสิร์ฟอ่ะครับ เลยเลือกไม่ได้ว่าจะเอาอะไร เพราะในถาดก็มีแค่น้ำส้ม น้ำเปล่า แล้วก็โค้ก เท่านั้นหล่ะครับ .... ตอนแรกก็จินตนาการว่าน่าจะมีไวน์ขาว ไวน์แดง เบียร์ แอลกฮอลล์เพียบ ฯลฯ (ไม่เป็นไร ไว้รอเที่ยวขากลับ เหอ เหอ เหอ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อย่างภาพบนนี่ ก็คือน้ำแอ๊ปเปิ้ล แบบที่มีบนเครื่องเสือน้อย Tiger Airways เด๊ะๆ เลย .... สิ่งต่อไปที่ลูกเรือแจกก็คือผ้าเย็นในซอง ... แล้วเจ้า SFML หรือ Seafood Meal ที่ผมสั่งไว้ก็มาถึง ได้ก่อนใครด้วยครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถาดเล็กมากๆ เลย เวลากินนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะครับเนี่ยะ (ที่เปรียบเทียบได้เพราะไฟล์ทขากลับ อาหารที่โหลดขึ้นจากสิงคโปร์ ดูเหมือนถาดจะใหญ่กว่ามากๆๆ) แท่นแท๊น ... ภายใต้ห่อฟลอยด์ คือ ... V V V เหมือนกับที่บ้านผมเจอตอนไปญี่ปุ่นเด๊ะเลย ฮร่วย !!! จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แต่รสชาติก็ถือว่าอร่อยดีนะครับ ... โดยเฉพาะ กุ้ง ที่เป็นกุ้ง แบบนี้ .... กินกับขนมปังอุ่นกำลังพอดี ... อร่อยดีแท้ครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนอุปกรณ์การกิน ช้อนส้อมมีดเป็นโลหะหมดเลยแฮะ ... (ผมจะค่อนข้างตื่นเต้นนิดนึงนะครับ ตามประสาคนเคยเจอครั้งแรกอ่ะครับ) แล้วก็เซ็ตผลไม้ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 53 พอดีพี่คนที่นั่งข้างๆ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ครับ เราคุยกันมาเกือบตลอดทาง ผมก็เลยขออนุญาตถ่ายภาพอาหารของพี่แกซักกะหน่อย เมนูปกติของไฟล์ทนี้ ที่ให้เลือกได้ก็จะมี 1. ออมเล็ต 2. ไส้กรอก อย่างในภาพนี้ก็จะเป็นออมเล็ตอ่ะครับ ส่วนของว่างเป็นผลไม้เหมือนกัน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ้ำ.... (พัชราภา ไชยเชื้อ) ปล. ผมชอบโรยพริกไทยลงในอาหารนะครับ ที่เห็นดำๆ บนกุ้งอย่าเพิ่งตกใจไป จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ดูคุณลูกเรือค่อนข้างง่วนทีเดียวเชียวครับ นี่ขนาดว่าไฟล์ท 2 ชั่วโมงหน่อยๆ นะครับ ไม่อยากจะนึกว่าไฟล์ท กรุงเทพ-เวียงจันทน์ จะเซิ้งกันขนาดไหน เหอ เหอ เหอ .... แบบว่า ผมกินขนมปังหมดแล้วอ่ะครับ อยากจะขอเพิ่ม ก็ยังเกรงใจไม่กล้าเรียกเลยครับ ... (ปกติลูกเรือเค้าให้ขนมปังแค่ครั้งละ 1 ชิ้นเท่านั้น แต่ผมเขมือบไม่ถึง 10 วิก็หมดแล้ว เหอ เหอ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ก็รอซักพักหนึ่งหล่ะครับ ... เลยได้กระซิบบอกคุณลูกเรือว่า อยากกินครัวซองค์อีกอ่ะครับ ... ปล. ผมว่าครัวซองก์อร่อยกว่าขนมปังปกตินะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กินไปเรื่อยๆ ก็หมดหล่ะครับ ส่วนผลไม้ก็กินไปพลางๆ เพราะคุณลูกเรือเค้าก็ไม่ได้รีบเก็บถาดนะครับ ... ก็มีชากาแฟให้ตามปกติอ่ะแหล่ะครับ ... แต่ไฟล์ทเช้านี่ไม่มีแอลกฮอลล์เล็ดลอดออกมาจริงๆ .... ภาพนี้แสดงให้เห็นว่า ถาดอาหารค่อนข้างเล็กไปมากๆ ครับ ทำให้เวลากินก็จะลำบาก ต้องระมัดระวังไม่ให้อะไรร่วงลงไปอ่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ซักพักหนึ่งก็เก็บถาดไปครับ ... แต่ก็ยังมีรถเครื่องดื่มให้เลือกได้อีก ผมก็ขอได้เรื่อยๆ หล่ะครับ ปล. จะมีใครหาว่าผมตะกละอีกไหมเนี่ยะ แต่เค้ามีให้กิน ก็กินนี่ครับ .... ปล.2 ไฟล์ทนี้จะเห็นว่า ผู้โดยสารเต็มสนิทครับ คิวเข้าห้องน้ำยาวเหยียด จนผมต้องเก็บไปปล่อยที่ชางงีเลยทีเดียว เหอ เหอ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 16:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่กินผัก ทำไมไม่บอก อิอิ จากคุณ : หงษ์สู้เว้ย - [ 16 เม.ย. 51 16:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แล้วผมก็ขอน้ำส้มมาอีก .... ซักพักเดียวเท่านั้นหล่ะครับ สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดก็ดังขึ้น อื้ม เวลาผ่านไปรวดเร็วจริงๆ เลยนะครับ ผมยังไม่ได้เห็นคุณลูกเรือได้พักเลย เห็นเสิร์ฟมือระวิงตลอด ถ้าเปรียบเทียบกะกลุ่มลูกเรือสายการบินโลว์คอสต์ ช่วงขายอาหารเสร็จก็จะมีเวลาว่างพอจะนั่งเม้าท์กันได้แล้วอ่ะครับ .... พอสัญญาณรัดเข็มขัดดังปุ๊บ คุณลูกเรือประกาศว่า "ขออภัยที่ต้องหยุดให้บริการเนื่องจากเครื่องบินกำลังลดระดับลงสู่ ท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์" พอดีผมเพิ่งกินน้ำส้มไปได้ครึ่งแก้วหน่ะครับ คุณสจ๊วตเดินผ่านมาขอเก็บน้ำส้มพอดี แห่ะๆๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้อ ... ที่เห็นใน คห. 57 นี่คือผมยังกินไม่เสร็จนะครับ กำลังเคี้ยวเอื้อง เอ้ย กำลังนั่งคุย นั่งถ่ายรูปเพลินๆ ระหว่างรอขนมปังอยู่อ่ะครับ (กะว่าจะกินเจ้าถั่วลันเตากับขนมปัง) ปกติผักนี่ผมกินเรียบครับ อย่างกะเป็นพวกกระต่าย แต่ว่าจะมีผักอย่างเดียวที่ผมไม่ชอบคือ "ผักชีโรยหน้า" ครับ ทำอะไรแบบผักชีโรยหน้านี่เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยชอบที่สุด จริงๆ .... แท่นแท๊น .... ถึงแล้วหล่ะ สนามบินชางงีสิงคโปร์ ... เห็นเจ้าปลาวาฬอ้วนใหญ่ A380 ของ SQ นี่ไม่ผิดที่แน่ๆ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนเจ้าปลาวาฬอ้วนใหญ่ A380 ของการบินไทย คงจะอีกหลายปีหล่ะครับ ตอนนั้นผมอาจจะได้ปลดล๊อกตัวเอง ได้บินข้ามทวีปบ้างหล่ะครับ อิอิ วันนี้เครื่องจอดที่ Gate C24 ครับ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สรุปไฟล์ทนี้ ผมก็แฮปปี้ครับ กับบริการของการบินไทย ที่ถือว่าน่าจะสมราคาหล่ะครับ ประทับใจดีครับ .... แต่ถ้าที่นั่งมี PTV ที่เป็น Personal TV เหมือนกับสายการบินคู่แข่งในเส้นทางนี้ อย่าง สิงคโปร์แอร์, สวิส หรือแม้แต่คาเธ่ย์แปซิฟิก น่าจะดีไม่น้อยทีเดียวครับ .... พอดีว่า ก่อนจะลงจากเครื่อง คุณสจ๊วตเข้ามาทักผมว่า ผมใช่หมอยุ่งหรือเปล่า ... คือแกบอกว่า แกมั่นใจว่าเป็นหมอยุ่งมากๆ เพราะคงมีผู้โดยสารไม่กี่คนหรอก ที่บ้าถ่ายรูปอาหารขนาดนั้น คุณจ๊วตคนนี้เคยเป็นสจ๊วตรุ่นแรกๆ ของไทยแอร์เอเชียมาก่อนครับ เจอผมตั้งแต่สมัยผมเรียน แล้วผมบิน กรุงเทพ-เชียงใหม่ กับหางแดงบ่อยมากๆ ก็เลยได้คุยกันหลายครั้ง แต่ก็สงสัยว่าพี่เค้าหายไปไหนหว่า ... เลยมาถึงบางอ้อว่าพี่เค้ามาอยู่การบินไทยได้ 3 ปีแล้ว พี่แกบอกว่าจำได้ตั้งแต่สมัยที่หมอยุ่งยังทำรีวิวแบบไม่มีภาพประกอบ (ซึ่งนานมากแล้วนะครับ สมัยที่หางแดงเพิ่งเปิดได้ไม่นานเอง) พี่แกก็เป็นมิตรเหมือนเคยครับ ผมเองก็รู้สึกว่าสจ๊วตคนนี้หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยคุยกันมาก่อน แต่ก็ไม่กล้าทัก เพราะผมเองก็ไม่ได้บินการบินไทยบ่อย จนถึงขั้นลูกเรือจะจำหน้าได้หรอกครับ (แต่ถ้าเป็นหางแดงและนกนี่ลูกเรือหลายรายอาจจะจำหน้าผมได้ -->> และอาจจะหมายหัวไว้แล้วด้วย เหอ เหอ -->> ตาบ้านี่ขึ้นมาอีกแระ เดี๋ยวก็ถ่ายรูปชั้นลงเว็บอีก !!!) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ก่อนลงจากเครื่อง ก็ขอแอบถ่ายภาพชั้นรอยัลซิลค์ซักหน่อย แต่ให้ผมบินระยะสั้นแบบนี้ก็ไม่เอาอ่ะครับ (เสียดายตังค์) แต่ถ้ามีโอกาสบิน New York Express เที่ยวบินระยะไกลแบบนั้นก็น่าสนใจอยู่นะครับ หุ หุ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ออกจาก Gate มาก็เจอด่าน Security ก่อนเลยครับ ... คุณสิงคโปร์เค้าก็เข้มจริงๆ บ้ายบาย คุณอุทัยธานี ขอบคุณที่มาส่งถึงสิงคโปร์ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วก็ไปผ่านด่าน ตม. อันคุ้นเคย ... จริงๆ ผมมีโอกาสมาใช้ Terminal 1 ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2549 ครับ เพราะทริปหลังๆ บินเสือมาลง Budget Terminal ตลอดเลย ก็เลยค่อนข้างจะคิดถึง T1 เป็นพิเศษครับ ... คิว ตม. ค่อนข้างยาว และใช้เวลานานอยู่นะครับ ..... แต่คุณ ตม.เห็นหน้าผม เค้าก็ไม่ถามอะไรแล้วหล่ะครับ มือผมก็ล้วงหยิบลูกอมบนเคาน์เตอร์ แล้วก็อมต่อหน้าคุณ ตม. นั่นแหล่ะครับ คุณ ตม. ก็ประทับตราให้เข้าประเทศได้ 30 วันมาเรียบร้อย โดยไม่ถามไถ่อะไรซักกะคำ หุ หุ (คงเห็นว่าตานี่มาบ่อย) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แล้วก็ตรงไปรับกระเป๋าครับ .... ผมรู้สึกว่าเรื่องระบบการจัดการสนามบิน ของชางงียังคงทำได้ดีกว่าสุวรรณภูมิค่อนข้างเยอะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเดินทางเข้าเมือง ที่มีการบอกราคาชัดเจน ตั้งแต่ตรงสายพานรับกระเป๋า และสมควรอย่างยิ่งที่ทาง AOT น่าจะเข้ามาขอทาง CAAS ดูงาน !!! ไม่ต้องมาประสบปัญหาเรื่องแท๊กซี่จอมป่วนด้วย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาปาดดดด ^_^ หมอยุ่งฯ ดังนะเนี่ย...พี่จ๊วตเข้ามาทักเองเลย ^_^ ปล.ถ้า TG ถูกกว่านี้อีกนิด เราก็อยากนั่ง TG ตั้งแต่นั่งมา เราประทับใจ TG ไม่เคยเจอบริการแย่ๆ บน TG  (แต่ไปเจอที่ ROP แทน) จากคุณ : Hermy - [ 16 เม.ย. 51 17:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สายการบินที่สาม : เจ๊ตสตาร์ดาวส้ม Premium Low-cost Airlines ของสิงคโปร์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเดินทางกับสายการบิน Jetstar ครับ โดยเจ๊ตสตาร์ได้ทำการบินสู่ประเทศไทยครั้งแรก ในเส้นทาง สิงคโปร์-อู่ตะเภา(พัทยา) ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2547 แต่ต่อมาก็ได้บินออกจากดอนเมือง และเป็นสายการบินแรกที่ย้ายมาสุวรรณภูมิก่อนการเปิดสนามบินอย่างเป็นทางการ เจ๊ตสตาร์ก็จะมี 2 สายการบินในเครืออ่ะครับ คือ 1. Jetstar (JQ) หรือเจ๊ตสตาร์ออสเตรเลีย เป็นบริษัทแม่ที่ให้บริการเที่ยวบินในประเทศออสเตรเลีย และต่อมาได้มีการนำเครื่องบินแอร์บัส A330-200 ขนาดใหญ่ทำการบินข้ามทวีป แล้วได้เปิดเส้นทางบิน กรุงเทพ-เมลเบิร์น และ ภูเก็ต-ซิดนีย์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา บนเที่ยวบินข้ามทวีป มีลูกเรือคนไทยให้บริการด้วยครับ 2. Jetstar (3K) หรือเจ๊ตสตาร์เอเชีย มีฮับอยู่ที่สิงคโปร์ ถือว่าเป็นบริษัทลูกของเจ๊ตสตาร์ออสเตรเลีย แต่บริหารงานโดยคนสิงคโปร์ มี CEO เป็นสุภาพสตรีชาวสิงคโปร์ และลูกเรือเป็นชาวสิงคโปร์ทั้งหมด ใช้เครื่องบินแอร์บัส A320 ทำการบินเส้นทางต่างๆ อาทิเช่น กรุงเทพ-สิงคโปร์ และ ภูเก็ต-สิงคโปร์ พอดีอย่างนี้ครับ เนื่องด้วยแต่เดิมที เส้นทาง สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์ ด้วยสนธิสัญญาหรืออะไรบางอย่าง ที่มีข้อกำหนดให้แค่สายการบินแห่งชาติ ของทั้งสองประเทศ คือ Singapore Airlines และ Malaysia Airlines สามารถทำการบินในเส้นทางนี้ ได้เพียง 2 สายการบินเท่านั้น ส่วนสายการบินโลว์คอสต์อื่น ไม่สามารถทำการบินในเส้นทางนี้ได้ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางระยะสั้นมากๆ และทำการบินเพียง 55 นาทีเท่านั้น จนกระทั่งได้มีการเปิดเสรีทางการบิน เพื่อให้สายการบินต้นทุนต่ำสามารถเปิดเที่ยวบินตรงระหว่าง สิงคโปร์ และ กัวลาลัมเปอร์ได้ ... (เห็นว่าเป็นฝีมือการเจรจาของเฮียดาโต๊ะโทนี่ เจ้าพ่อหางแดงเค้าหล่ะครับ) การเปิดเสรีในเส้นทาง สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์นี้ ผู้ที่ได้รับประโยชน์มิใช่แค่แอร์เอเชีย เจ้าหางแดงที่เรารู้จักกันดีเท่านั้น แต่สายการบินต้นทุนต่ำของสิงคโปร์อย่าง Jetstar และ Tiger Airways ก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน ทั้ง 3 สายการบินได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินในเส้นทางนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมาครับ ... แอร์เอเชีย (AK) : ทำการบินเส้นทางนี้วันละ 2 เที่ยวบิน เช้า - ค่ำ โดยเดินทางออกจาก Terminal 1 ของชางงี ไปลงที่อาคาร LCCT กัวลาลัมเปอร์ ไทเกอร์แอร์เวย์ส (TR) : ทำการบินเส้นทางนี้วันละ 1 เที่ยวบินในช่วงบ่ายแก่ๆ ออกจาก Budget Terminal ชางงี ไปลงที่ LCCT กัวลาลัมเปอร์ (ประหยัดสุดๆ) เจ๊ตสตาร (3K) : ทำการบินเส้นทางนี้วันละ 1 เที่ยวบินในช่วงบ่ายแก่ๆ ออกจาก Terminal 1 ชางงี ไปลงที่ KLIA Main Terminal กัวลาลัมเปอร์ (หรูสุด !!!) ด้วยความที่ผมอ่ะบินเสือบ่อยเกินไปแล้ว เบื่อเสือด้วย เสือเล่นทำผมไปทำงานสายตั้ง 1.36 ชั่วโมงเมื่อคราวก่อน แม้ว่าคราวนี้เสือจะมีโปรโมชั่นบิน SIN-KUL แค่ 47 SGD ผมก็ปฏิเสธครับ ดั้น ดันมาเลือก Jetstar ที่บินหรูกว่า แต่ราคาก็แพงกว่าครับ ขนาดโปร 9 SGD พี่แกยังคิดราคารวมภาษีเป็น 72 SGD แต่ผมเองก็ด้วยความที่ตั้งใจจะนั่ง Jetstar ก็เลยยอมจ่ายแพง เพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ครับ แท่นแท๊น ... เนื่องด้วยเคาน์เตอร์เช็คอินของ Jetstar ยังไม่เปิด เลยไปเดินเล่น Terminal 3 พลางๆ กันก่อนนะครับ ..... แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 20:51:02 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบรีวิว หมอยุ่งมาก มีข้อมูลการเดินทาง รายละเอียดเยอะ ขอบคุณนะค่ะ จากคุณ : Parissara - [ 16 เม.ย. 51 17:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เอาหน่าครับ ... ถ้าเปรียบเทียบเล่นๆ ระหว่างโลว์คอสต์สิงคโปร์ กับไทย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ไทยแอร์เอเชีย = ไทเกอร์แอร์เวย์ส (ประหยัดสุดๆ ไปเลยคุณพี่) นกแอร์ = เจ๊ตสตาร์ (วางตัวเป็น Premium Low-cost Airlines เหมือนกัน) ดังนั้นทริปนี้ที่ผมเลือก Jetstar ก็อารมณ์เหมือนเวลาเลือกบินนกแอร์อ่ะครับ คือยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิด แต่มีบริการเสริมที่มากขึ้นตามราคา .... ซึ่งการบริการที่ได้ผมคิดว่า ก็คล้ายๆ กับนกแอร์หล่ะครับ ประทับใจเหมือนกัน ตามราคาที่สูงขึ้น ..... ไปดูเครื่องบินดีกว่า เห็นเจ้า A345 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เห็นว่าเค้าจะเอาไปปรับปรุงใหม่เป็น All Business Class ทุกที่นั่งแล้วอ่ะครับ เพราะดูท่าทาง เส้นทางบินตรง สิงคโปร์-นิวยอร์ก (18.50 ชั่วโมง) หรือ สิงคโปร์-ลอสแองเจลิส (16-17 ชั่วโมง) คนที่บินน่าจะเป็นนักธุรกิจ มากกว่านักท่องเที่ยวคนทำงานทั่วๆ ไป ซึ่งมักจะเลือกเที่ยวบินแบบแวะพัก ที่ราคาประหยัดกว่า .... ไฟล์ทนี้บินมาจากจาร์กาต้าอ่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 72 กลับมาที่ Terminal 1 เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดแล้วหล่ะครับ ผู้โดยสารท่าทางจะน้อยมากๆ เลยเปิดแค่เคาน์เตอร์เดียว ในใบ Itinerary จะบอกไว้เลยนะครับว่า ผู้โดยสารจะต้อง print ใบนี้มาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์เช็คอินด้วย !!! ผมก็เลยต้อง print มากันเหนียวไว้ก่อน (จะทำแบบบินภายในประเทศไม่ได้) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อืดมาก เอ๊ย อึดมากเลยครับ รอดูตั้งแต่บ่ายๆ ละ แต่ไม่อยากปาด เข้ามาดูอีกทียังโพสไม่เสร็จ ก็เลยขออนุญาตปาดแต่พองามนะครับ อิอิอิ ปกติเขียนแต่รีวิวมือถือ เดี๋ยวต้องลองรีวิวการเดินทางบ้างละ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 18:01:31 จากคุณ : mLIFE - [ 16 เม.ย. 51 17:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 วันเดินทาง : 13 เมษายน 2551 เที่ยวบิน : 3K687 Singapore (T1) - Kuala Lumpur (KLIA) เครื่องบิน : แอร์บัส A320 ทะเบียน 9V-JSD เวลาออกเดินทาง : 15.05 - 15.55 น. (ตรงเวลา!!) เวลาเดินทางบนอากาศ : ราวๆ 40 นาทีเท่านั้น (พอๆ กับเส้นทางบิน กรุงเทพ - ขอนแก่น หรือ กรุงเทพ-พิษณุโลก) จำนวนผู้โดยสาร : ราวๆ 30 กว่าคนจาก 180 ที่นั่ง ราคาค่าโดยสาร : โปรโมชั่น 9 SGD รวมภาษีเป็น 72 SGD/เที่ยวบิน ตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่เค้าก็เลยถามเยอะเลยครับ เพราะว่าเป็นการเดินทางแบบ one way ผมก็เลยเล่าการเดินทางให้ฟังคร่าวๆ ว่า จะไปนอนที่ KL 1 คืน แล้วหลังจากนั้นนอนรถไฟกลับเข้าสิงคโปร์ แล้วก็จะบินกลับเมืองไทย จากสิงคโปร์ .... เจ้าหน้าที่ก็ไปปรึกษาคุณซุปก่อน ได้ความว่า no problem จ้า ... ได้บอร์ดดิ้งพาสมาหน้าตาแบบนี้ครับ เป็นสลิ๊ปเหมือนกัน แต่จะแยกเป็น 2 แผ่นคือ Boarding Pass และ Customer Copy โดยเราจะต้องยื่นส่วน Boarding Pass ให้กับเจ้าหน้าที่ไปครับ ..... อูย ... วันนี้เดินไกลอีกแล้ว ขึ้นเครื่องที่ Gate D47 นั่น Gate หางแดงนี่หว่า ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 17:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาชม รีวิวมัน ๆ ของหมอยุ่ง หลังจากที่ห่างหายไปนาน ดีใจได้ปาดหน้า บิน 346 ก่อนหมอยุ่ง น่าอิจแ หมอยุ่งเป็นคนดัง ขนาดสจ๊วต ยังจำได้ ถ้าเป็นผม มีคนทักว่า คุณหมอดาริน หรือเปล่าครับ คงเขินพิลึก แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 18:00:25 จากคุณ : หมอดาริน - [ 16 เม.ย. 51 17:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จริงๆ ผมเองก็ไม่อยากจะโพสต์นานหรอกครับ เพียงแต่ว่า วันนี้คนเข้าชมที่ HFlight เยอะมาก (ตามประสาวันหยุดวันสุดท้าย คนเริ่มกลับมาถึงบ้านเปิดเน็ตเข้ามาอ่านกัน) เว็บก็เลยอืดมากๆ คราวนี้ผมก็เลยเลือกที่จะโพสต์ลง Blueplanet ก่อน -->> โพสต์สดก็เลยช้าหน่อยนะครับ แต่ต้องอาศัยความอึดเล็กน้อยถึงปานกลาง เหอๆๆ ที่ Blueplanet ปาดได้นะครับ ยินดีให้ปาด (^___^) ผ่านด่าน ตม. ไปอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ไปสำรวจก็คือ Terminal 3 ครับ อลังการล้านแปด แบบว่าสนามบินแถวๆ นี้เทียบไม่ติดเลยอ่ะครับ ... แต่ทว่า ... แทบไม่มีเที่ยวบินเลยครับ น่าเสียดายสนามบินเหมือนกัน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ตรงจอทางเข้า Gate ครับอลังการดีจริงๆ ... วันนี้ไฟล์ท SQ326 ไปแฟรงค์เฟิร์ตดีเลย์กระจุยกระจายเลยครับ เดาว่าเจ้าโบอิ้ง 777-300ER งอแงไม่ยอมบินแหง๋เลย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:03:15 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นร้านนี้แล้วคิดถึง ... ร้าน Ajisen Ramen ที่ Terminal 1 สนามบินดอนเมือง ในอดีต เป็นร้านที่สามารถนั่งกินราเมนไปดูเครื่องบินแบบใกล้ชิดไปก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เฮ้อ ...... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แล้วดูมุมพักผ่อน ใน Terminal 3 ซะก่อนดิครับ .... อยู่ที่นี่ทั้งวันก็ไม่เบื่อ อยากให้สนามบินแถวๆ นี้เป็นแบบในภาพนี้บ้างจัง .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 80 นี่ยังไม่นับมุม Internet Kiosk ที่มีมากมายในสนามบินนะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเนอะ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมไม่ได้คลิ๊กเข้าไปดูรีวิว สายการบินต่างๆ นานแล้ว (ยกเว้นของเฮียวันเดอร์กับป๋าเกย์จิ) แต่พอเห็นชื่อหมอยุ่งการันตี พลาดไม่ได้จริงๆ ครับ และไม่ก็ไม่ผิดจริงๆ ครับ ทำได้ดีมาก ละเอียดและอ่านเพลินดีครับ รอต่อกับ 346 อยู่นะครับ จากคุณ : ละอ่อนดึก - [ 16 เม.ย. 51 18:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตรงกลางนั่นเป็นบ่อปลาคาร์ฟนะครับ ..... เฮ้อ .... (ถอนหายใจหลายๆ รอบกับสนามบินแถวๆ นี้) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไปแวะ Singapore Visitor Centre ซักกะหน่อย ที่ชางงีมีทั้งหมด 3 แห่ง คือมีทุก Terminal เลยอ่ะครับ บริการดีมากๆ ให้ข้อมูลด้วยความเต็มใจ ยิ้มแย้มทีเดียวครับ ผมไม่เคยผิดหวังเลยนะกับการท่องเที่ยวสิงคโปร์ พอดีว่าไปสอบถามการเดินทางจากสถานีรถไฟสิงคโปร์ (ที่อยู่ตรง Keppel Rd) ว่าจะไป Sentosa ได้อย่างไร เธอก็แนะนำให้เดินไปขึ้นที่สถานี MRT Outram Park เธอไม่แน่ใจว่าแถวๆ นั้นจะมีป้ายรถเมล์หรือเปล่า (รอดูกระทู้ต่อๆ ไปละกันครับ จะได้ทราบว่า ผมไปได้อย่างไร อิอิ) แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 18:47:21 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 85 จริงๆ Terminal 3 เป็นอาคารที่ยาวมากๆ ครับ ยาวถึงขั้นต้องใช้รถไฟฟ้าวิ่งภายในเลยทีเดียว ... ผมก็เลยคิดว่า ไป Terminal 2 แล้ววนกลับไป Terminal 1 เลยดีกว่า ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้าที่ Terminal 2 ก็จะมีแต่เจ้าถิ่นคือ Singapore Airlines และ Silk Air และกลุ่มสายการบินพันธมิตรเป็นส่วนใหญ่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อย่างนี่ก็แก๊งค์ Silk Air ลำที่จอดเทียบงวง Gate F32 กำลังจะไปเชียงใหม่ครับ .... ตอนนี้เส้นทาง สิงคโปร์-เชียงใหม่ ก็เหลือแค่ Silk Air บินเท่านั้นหล่ะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 88 กลับมาที่ Terminal 1 เห็น Lion Air จอดอยู่ .... ตอนนี้ Lion Air โลว์คอสต์อินโดนีเซีย ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-900ER ทำการบินแล้วนะครับ ด้วยความที่สายการบินในอินโดนีเซียจะเจอปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางด้วยเครื่องบินมากๆ หลายๆ สายก็เริ่มที่จะเปลี่ยนเครื่องบินเป็นเครื่องบินใหม่ล่าสุดกัน อย่างเช่น Lion Air ที่ใช้โบอิ้ง 737-900ER และ Mandala ที่ใช้เครื่องบินแอร์บัส A319/320 ใหม่เอี่ยมกันหมดเลย ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีครับ .... ผมเองก็อยากให้โลว์คอสต์ในไทยใช้เครื่องบินใหม่ๆ เอี่ยมๆ กันบ้างนะครับ แต่ก็เข้าใจครับว่า เครื่องบินลำนึงก็ไม่ใช่จะถูกๆ .... ปล. เห็นใครว่า Lion Air จะจับมือกับโอเรียนท์ไทย กลายเป็น Lion Air Thai ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างนะครับ แต่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีมากสำหรับวันทูโก ถ้าจะต้องการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ โดยใช้แบรนด์ Lion Air ดำเนินธุรกิจ แบ่งเครื่องโบอิ้ง 737-900ER ใหม่ๆ มาบินในไทยโดยใช้ Licence ของวันทูโก แล้วโอเรียนท์ไทยก็ไปทำงาน Charter ที่ตนเองถนัด ..... (อันนี้ก็แค่คิดเล่นๆ นะครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 18:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไว้โปรเจคต่อไปครับ ถ้ามีเวลามากขึ้น ผมอยากจะลองบินโลว์คอสต์ในภูมิภาคนี้ไปเรื่อยๆ อย่างเช่น Lion Air, Mandala, Adam Air และ Indonesia AirAsia อ่ะครับ แท่นแท๊น .. ได้เวลาเข้าสู่คอกกัก Gate D47 แล้วหล่ะครับ เห็น Jetstar จอดอยู่แล้ว ผู้โดยสารค่อนข้างน้อยแค่ 30 กว่าคนเท่านั้นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ว่าแล้วก็เล่นเน็ตต่อดีกว่า ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ได้เวลาขึ้นเครื่องละครับ .... ผู้โดยสาร 30 กว่าคนขึ้นเครื่องได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน บรรยากาศเลยไม่ค่อยคุกรุ่นเหมือนเก้าอี้ดนตรีหางแดงเท่าไหร่ ... อีกทั้ง Jetstar ให้ผู้โดยสารเลือกที่นั่งล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตแล้วหล่ะครับ เลือกได้ฟรีด้วยนะครับ เหมือนกับนกแอร์ .... มองออกไปเห็นเจ้าหางแดง HS-AAS จอดที่ Gate D46 ครับ กำลังจะบินกลับกรุงเทพกับไฟล์ท FD3504 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มุมบังคับกับ Jetstar .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 93 จริงๆ เครื่อง Jetstar ก็ไม่ถือว่าใหม่กิ๊กหรอกครับ เพราะเห็นว่าเริ่มใช้บินกันตั้งแต่ปลายปี 2547 - 2548 แล้ว ก่อนที่หางแดง AK จะได้รับมอบเครื่องแอร์บัส A320 ซะอีก ภายในก็จะเริ่มโทรมไปตามกาลเวลา แต่การบำรุงรักษาเครื่องบินก็ยังถือว่าดีครับ สภาพเอี่ยมสะอาดมากๆ ที่นั่งเป็นเบาะหนังทรงเดียวกับเครื่องหางแดง โบอิ้ง 737-300 บางลำอ่ะครับ (เบาะเหมือนกับเครื่อง HS-AAK, AAL, AAM, AAN เด๊ะ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ตรง Emergency Exit ก็กว้างขวางนั่งสบายครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ส่วนแถวอื่นๆ ที่นั่งจะค่อนข้างอัดๆ กันหน่อยนะครับ .... แต่สำหรับผมก็ยังถือว่านั่งได้สบายอยู่ ไม่อัดเท่าเสือ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 96 มองออกไปก็เห็น Valuair จอดอยู่ ... Valuair ตกเป็นส่วนหนึ่งของ Jetstar มาตั้งแต่ประมาณปี 2549 ครับ ในช่วงหนึ่ง Valuair เคยทำการบินเส้นทาง สิงคโปร์-กรุงเทพ ด้วย มีอาหารว่างให้บริการ แต่ต่อมาหลังจากที่ถูก Jetstar ซื้อกิจการไป ก็ยังคงความเป็นแบรนด์ของ Valuair ไว้ ไม่ได้จับทำสีใหม่กลายเป็น Jetstar เพราะ Valuair ได้ licence ในเส้นทางบิน สิงคโปร์-อินโดนีเซีย ดังนั้นเที่ยวบินของ Jetstar ที่บินเข้าอินโดนีเซีย จะใช้เที่ยวบิน,เครื่องบิน และลูกเรือของ Valuair บินครับ แต่สำหรับเส้นทางอื่นๆ อาจจะเจอเครื่องบินของ Valuair บินไปก็ได้ แต่ลูกเรือจะเป็น Jetstar ตอนแรกผมก็อยากจะลอง Valuair บินไปจาร์กาต้าเหมือนกันครับ แต่สู้ราคาไม่ไหว แพงเหลือเกิน ไป-กลับนี่แพงกว่าบินกลับกรุงเทพอีก .... ครั้นจะจอง Lion Air ไปจาร์กาต้า ก็เต็มเอี๊ยด เลยได้มาลงเอยที่ Jetstar ไปกัวลาลัมเปอร์นี่หล่ะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เอกสารตรงกระเป๋าหน้าที่นั่ง ... ก็จะมีนิตยสารบนเครื่องบินของ Jetstar คู่มือเพื่อความปลอดภัย แล้วก็ดิวตี้ฟรีครับ ..... สั่งได้ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 98 seat pitch ถือว่านั่งสบายครับ และไฟล์ทนี้ผมก็ได้ครอง 6 ที่นั่งเหมือนเดิม ..... ปล. ทริปนี้เป็นทริปบินสบายครับ มีแค่ช่วง BKK-SIN-BKK ที่คนเต็มเอี๊ยดเท่านั้นเอง .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 99 พอผู้โดยสารขึ้นเครื่องครบก็ปิดประตู ถอยออกมาครับ ลูกเรือก็ออกมาแสดงการสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็เข้าใจง่ายดีครับ pattern เหมือนสายการบินโลว์คอสต์เจ้าอื่นๆ นั่นแล .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 100 พอได้เวลาแล้วก็ เหินฟ้าครับ ... ในภาพจะเห็น Malaysia Airines โบอิ้ง 737-400 ตามมาอยู่ ลำนี้ก็จะบินไปกัวลาลัมเปอร์เช่นเดียวกันครับ .... แล้วรู้สึกว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ก็มีเที่ยวบินเวลาไล่เลี่ยกันนี่เอง .... ส่วนเสือน้อยวันนี้ดีเลย์ครับ จาก 15.10 กลายเป็น 15.40 น. อิ อิ อิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 101 พอเครื่องบินไต่ระดับได้แล้ว ลูกเรือก็ออกปฏิบัติการครับ ... เนื่องด้วยเดี๋ยวนี้บินเข้ามาเลเซีย เราไม่ต้องกรอกใบ ตม. แล้วนะครับ เวลาไปถึงปุ๊ปก็ยื่นพาสปอร์ต แล้วเค้าก็ถามคำถามนิดหน่อย แล้วก็ประทับตราให้เข้าประเทศแล้ว ไม่ยาก สะดวกสบายดีครับ ... ผู้โดยสารเที่ยวบินนี้น้อยมากๆ ลูกเรือก็เลยเอาถาดใส่ของว่างและเครื่องดื่มเดินยกมาด้วยเลย แล้วก็ไล่ถามผู้โดยสารไปทีละคนว่าอยากจะได้อะไรไหม .... อีกทั้งคงเป็นการทำเวลาด้วยหล่ะครับ เพราะว่า flight time สั้นมากๆ ขืนเข็นรถอาจจะไม่ทันการก็เป็นได้ เพราะช่วงเวลาที่สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดับ จนกระทั่งสัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดังขึ้นก็แค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นเอง ผมจินตนาการไม่ถูกว่า ไฟล์ท สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์ บริการแบบ full service ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ส และ มาเลเซียแอร์ไลน์ส จะเป็นยังไง ลูกเรือคงจะเซิ้งกันแบบว่า เหมือนกรุงเทพ-เวียงจันทน์ แน่ๆ เลยหน่ะครับ เหอ เหอ เหอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เมนูอาหารของ Jetstar จะอยู่ตรงหน้าสุดท้ายของนิตยสารอ่ะครับ เช่นเดียวกับของเสือน้อย Tiger Airways เลย ราคาอาหารแทบจะไม่ต่างจากเสือเลยครับ คือ.. แพงเหมือนกัน !!! อาหารร้อนก็ 8-10 SGD (มีเฉพาะไฟล์ทบินไกลๆ) ส่วนเครื่องดื่มก็เริ่มต้นที่ 3 SGD หน่ะครับ อย่างแพงเลย .... (สรุปว่า Jetstar ต่างจากนกแอร์ ก็ตรงเรื่องค่าอาหารนี่หล่ะครับ นกแอร์ถูกกว่ามากกกกกก !!!) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ไปแวะเข้าห้องน้ำครับ ห้องน้ำก็เริ่มโทรมตามกาลเวลานั่นแหล่ะครับ แต่ก็ยังถือว่าสะอาดอยู่ ... ไฟล์ทโล่งๆ นั่งสบายๆ ดีครับ ... บินแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 104 บินจากชางงีไปได้ประมาณเกือบ 40 นาที เครื่องก็ลดระดับลง เห็นสวนปาล์มน้ำมันเยอะขนาดนี้ ไม่ผิดที่แน่นอน -->> KLIA จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 105 แล้วเครื่องบินก็ร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวล .... ก่อนที่จะเข้าเทียบจอดที่ Gate ตรง Main Terminal ตื่นเต้นครับ ผมไม่ได้ใช้ KLIA Main Terminal มานานแล้ว เคยมาใช้ครั้งเดียว ตอนสมัยหางแดงยังอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ปลายปี 2548 ครั้งมา KL ครั้งแรกอ่ะครับ แต่พอครั้งต่อๆ มาไปอยู่ LCCT ก็เลยจะคุ้นเคยกับ LCCT มากกว่าที่นี่หล่ะครับ .... KLIA Main Terminal ก็ยังคงร้าง แทบจะไม่มีเครื่องบินจอด เงียบเงาวังเวงเหมือนกะป่าช้า ... สรุปได้เลยครับว่า ใน 3 สนามบินใหญ่ ที่ผมเห็นทั้งหมดในทริปนี้ -- สุวรรณภูมิ คึกคักที่สุดแล้วหล่ะครับ สมกับที่เป็น Hub ใหญ่ของภูมิภาคนี้ ..... ผู้คนพลุกพล่านมากๆๆ -- แต่การจัดการสนามบินนี่ ชางงีเป็นเลิศที่สุดครับ ... -- ส่วน KLIA ก็นับว่าโอเคในเรื่องความสะดวกสบาย ทั้งเรื่อง ตม. เรื่องการเดินทางเข้าเมือง รวมไปถึงสัญญาณ Wireless LAN ที่มีให้ใช้ได้ฟรีๆ ทั่วทั้งอาคารครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ได้เวลาลงจากเครื่องบินแล้วหล่ะครับ ลูกเรือของ Jetstar ค่อนข้าง Friendly ดีมากๆ ครับ ผมคุยด้วยก็รู้สึกโอเค ... พอผมบอกว่านี่ครั้งแรกของผมกับ Jetstar เธอก็ดีใจใหญ่ ถามไถ่น่าดู .... ส่วนตัวผมทริปนี้ก็แฮปปี้กับเจ๊ตสตาร์ครับ ถ้ามีโอกาสอยากจะได้บินเที่ยวบินข้ามทวีปไปเยือนถิ่นออสซี่บ้างเหมือนกัน ตอนที่ลงจากเครื่องบิน คุณกัปตันฝรั่งออกมาส่งผู้โดยสารด้วยนะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ยืนยันว่า .. KLIA นั้นว่างโล่งจริงๆ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ตอนสมัยมีหางแดง ก็ยังคึกคักอยู่หล่ะครับ แต่พอหางแดงย้ายไปอยู่ LCCT กันหมดนี่ โหรงเหรง อย่างบอกไม่ถูก ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอนั่งรถไฟฟ้าไปเที่ยวตรง Satellite Building ซักกะหน่อย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 109 คนค่อนข้างน้อยมากๆๆ .... กลัวผีจะหลอกเอาอยู่ และผมเองมีความรู้สึกว่า สนามบินนี้ดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเอาซะเลย เงียบสนิทเกินไป บรรยากาศดูหม่นๆ หมองๆ อย่างบอกไม่ถูก ... ถ้าเทียบกับชางงี หรือกับสุวรรณภูมิ .... พอเที่ยวให้เต็มเหนี่ยวแล้วก็ ... ได้เวลาผ่าน ตม. แล้วหล่ะครับ คุณ ตม. เค้าก็ถามเฉยๆ ว่ามาจากเที่ยวบินไหน ผมก็ตอบว่า Three K 687 (3K687) คุณ ตม. งงว่า TG ?? (เค้าเห็นพาสปอร์ตไทยด้วยหล่ะครับ) บอกว่า three k Jetstar คร้าบบบ..... ก็ถามแค่นั้นหละครับ แล้วก็ปล่อยมารับกระเป๋าสบายบรื๋อ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ของ KLIA ก็จะมีวิธีการเดินทางเข้าเมืองที่รวดเร็วที่สุด นั่นก็คือรถไฟฟ้าสาย KLIA Express ครับ ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาวิ่งแค่ 28 นาทีถึงสถานี KL Sentral แต่ว่า .... ค่าโดยสารก็แพงเอาการครับ 35 ริงกิต/เที่ยว ถ้าใครชอบความสะดวกสบาย ก็กดลิฟท์ลงมาชั้นล่างสุดแล้วขึ้นรถได้เลยครับ จะเลือกไปชำระค่าโดยสารที่ KL Sentral ก็ได้ หรือจะชำระจากที่สนามบิน KLIA เลยก้ได้ หุหุ ผมไม่เอาด้วยหรอก แพงหลาย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตอนนี้ สนามบิน KLIA มีนิทรรศการ ฉลองครบรอบ 10 ปีของการเปิดให้บริการครับ ... โดยสนามบิน KLIA เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2541 ครับ ... กำลังจะครบ 10 ปีแล้วกลางปีนี้ เดิมทีที่กัวลาลัมเปอร์ มีสนามบิน Supang อยู่ใกล้ๆ ตัวเมือง ตอนที่ย้ายสนามบินมา KLIA เที่ยวบินภายในประเทศบางเที่ยวของ MH (Malaysia Airlines) ก็ยังคงให้บริการอยู่ที่ Supang ครับ จนกระทั่งปี 2545 จึงปิดสนามบิน Supang เหลือเป็นแค่ศูนย์ฝึกบิน ศูนย์ซ่อมบำรุงเท่านั้นเองหล่ะครับ .... แต่ไม่มีสายการบินไหนให้บริการที่นั่นแล้ว จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ของ KLIA เค้าก็จะมีการบอกสิ่งที่เด่นๆ ของเขาอยู่ในนิทรรศการหล่ะครับ ที่เด่นมากๆ ก็ได้แก่ ... - KLIA ใช้เวลาวางแผนและก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ เพียง 4 ปีครึ่งเท่านั้น!!! (1993-1998) หุหุ ผมเห็นข้อความนี้แล้วผมขำก๊ากเลย ว่าสนามบินแถวไหนไม่รู้ ก็ใช้เวลาขึ้นต้นด้วยเลข 4 เหมือนกัน ... - หอบังคับการบินที่ KLIA เคยเป็นหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก (ประมาณ 12x เมตร โดนสุวรรณภูมิเบียดไป) - Fast & Furious เพราะว่ามีสนามแข่งรถ F1 Sepang Circuit อยู่ข้างๆ ... ผมอ่านประวัติการก่อสร้างแล้วผมรู้สึกว่าที่มาเลย์เค้าก็วางแผน วางผังเมืองไว้ดีมากๆ เลยนะครับ ... เค้าเห็นว่า Supang ขยายไม่ได้ก็รีบมาหาพื้นที่ใหม่ แล้วก็ลงตัวที่เขต Sepang เพราะว่าห่างไกลผู้คน มีแต่สวนปาล์ม ไม่สร้างมลภาวะทางเสียงให้กับชุมชน ... ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยหล่ะครับ สงสัยว่า AOT คงจะต้องหาโอกาสมาดูงานกับ Malaysia Airport อีกแล้วหล่ะสิ .... (แวะไปดูทั้งสองที่เลยก็ได้นะครับ ทั้ง CAAS และ Malaysia Airport) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 19:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แต่ที่แน่ๆ เรื่องปริมาณผู้โดยสาร สุวรรณภูมิเยอะที่สุดแล้วหล่ะครับ ในภูมิภาคนี้ ..... ตอนนี้ KLIA เป็นข่าวใหญ่อยู่ 2 อย่างก็ทั้งเรื่องจี้เครื่องบินสายการบิน GMG Airlines ลงที่ดอนเมือง แล้วก็การบุกปล้นธนาคารในอาคารผู้โดยสาร KLIA ซึ่งตอนที่ผมไปนี้ ก็ไม่ได้เห็นว่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มมวดมากขึ้นเท่าไหร่เลยอ่ะครับ ..... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 20:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เอาเป็นว่า เรื่องบินๆ และสนามบิน ก็ได้จบลงแล้วหล่ะครับ ผมขอจบกระทู้ที่ คห. นี้ละกันครับ เพราะเห็นว่ายาวเฟื้อยตั้ง 114 คห. เข้าไปแล้ว .... สิ่งที่ผมชอบที่สุดใน KLIA ก็คือสัญญาณ Wireless LAN ฟรีนี่หล่ะครับ ฟรีแบบไม่ต้องไปแอบคนข้างบ้านใช้ ... ประกาศเลยว่าให้ใช้ได้ฟรีๆ ซึ่งที่ชางงีก็ไม่มีนะครับ (มีแต่ Internet Kiosk) ส่วนสุวรรณภูมิ ก็ต้องเป็นแอบคนข้างบ้านต่อไป ..... เฮ้อ .... ผมเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้า KLIA Transit ครับ ไปแวะที่ Putrajaya 30 นาที แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายไปเยอะ ค่ารถไฟฟ้าก็จ่ายไปแค่ 6.2 + 9.5 = 15.7 ริงกิต/เที่ยว เท่านั้นเองหล่ะครับ ... ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 เม.ย. 51 20:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ตามหมอยุ่งขึ้นเครื่องบิน 3 เครื่องในวันเดียว ...เหนื่อยเลย ขนาดไม่ได้บินเองนะเนี่ย จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 16 เม.ย. 51 20:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ตามมาอ่านด้วยเหมือนกัน แบบว่าโพสมาราธอนมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : ฟ้าสางที่กลางใจ - [ 16 เม.ย. 51 21:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 117 แวะมาลงชื่อ..อีกรอบ เหนื่อยไหมล่ะ...ถ้าเหนื่อยบอก เดี๋ยวเราไปบินแทนเอง จากคุณ : รอชม - [ 16 เม.ย. 51 21:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เข้ามาดู อิอิ จากคุณ : porinter (porinter) - [ 16 เม.ย. 51 22:38:14 ]