PANTIP.COM : E7023519 แน่ใจหรือครับว่าที่นี่เป็น สวนสัตว์

แน่ใจหรือครับว่าที่นี่เป็น สวนสัตว์ - สระบุรี

ข้อความที่ผมกำลังจะโพสต์นี้ ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องหรือไม่ หากต้องการอยากให้สาธารณะชนได้ทราบ
เมื่อวัน 2- 3วันมานี้ ผมมีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวน้ำตกสามหลั่น แต่ขากลับลูกๆอยากให้แวะสวนสัตว์สระบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กัน ซึ่งตามข้อมูลการท่องเที่ยวระบุว่ามีฟาร์มจระเข้ด้วย
ตามความรู้สึกนั้นเราเคยไปเที่ยวสวนสัตว์ที่ลพบุรีมาแล้ว ลูกๆก็ชอบนะ แต่มาสวนสัตว์ที่สระบุรี นั้น ได้ความรู้สึกที่แปลกมากๆ
เพราะก่อนหน้าที่เราจะออกเดินทาง ผมได้แวะถามทางระหว่างทานอาหารที่ห้างโลตัสสระบุรี ว่าทางไปน้ำตกและสวนสัตว์สระบุรีไปทางไหน และน่าเที่ยวไหม
ซึ่งคำตอบนั้นทำเอาเรางงไปตามๆกัน เพราะน้องๆที่ห้างบอกเราว่า พี่สวนสัตว์นี้เขาปิดไปแล้วนะครับ
ความงุนงงเข้ามาแทนที่ทันที เพราะป้ายการท่องเที่ยวยังระบุเลยว่าสวนสัตว์สระบุรี ฟาร์มจระเข้สระบุรียังมีอยู่ แล้วไหงน้องคนนี้ดันตอบว่าปิดแล้ว ด้วยความสงสัยจึงตัดสินใจเดินทางไปน้ำตก และแวะไปดูว่าจริงหรือไม่

ทันทีที่รถของเราเลี้ยวเข้าไปตามป้ายบอกทาง ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ามาถูกทางหรือไม่เพราะ ตรงทางเข้า เป็นหมู่บ้านคน ที่เป็นชุมชนจริงๆ ไม่มีวี่แววเลยว่าข้างหน้าเป็นสวนสัตว์ ขับตรงไปจนออกหมู่บ้านเจอทาง 3 แยก ก็งงกว่าเดิมเพราะไม่ทราบว่าจะไปยังไงต่อ เลยตัดสินใจขับตรง
ประมาณ 50 เมตร ผมเห็นที่ทำการ อบต.หนองปลาไหล มองไปข้างหน้า ... โอ...ผมเห็นแล้ว สวนสัตว์ แต่สภาพที่เห็นทำให้ผมนึกถึงน้องผู้ชายคนนั้นที่โลตัส เพราะเงียบเชียบ ภายในที่จอดรถมีรถจอดอยู่ 3 คัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นรถนักท่องเที่ยวหรือไม่
เอาน่า....เรามาถึงแล้ว ลูกๆก็อยากดูด้วย
ผมตัดสินใจจอดรถ แล้วพาครอบครัวเดินตรงดิ่งไปซื้อบัตรเข้าชม

ณ ตรงนั้นมีผู้หญิงอายุราวๆ 40-50 อยู่ที่เคาน์เตอร์ ผมให้เงินลูกไปซื้อบัตรด้วยตัวเขาเอง ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30.- เด็ก 10.- ถูกดีนิ

เราเดินเข้าไปในอุโมงค์ที่ทางสวนสัตว์บรรจงสร้างให้เป็นถ้ำจระเข้ บรรยากาศข้างในมี จนท.หญิงอีกคนนึงขายของที่ระลึก

แต่บรรยากาศต่างจากสวนสัตว์หรือว่าฟาร์มจระเข้ที่เราเดินทางไปเยือนมานักต่อนัก เพราะปกติบรรยากาศทางเข้าทั่วไปที่อื่นๆจะดูครึกครื้น มีเด็ก นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป ... แต่ที่นี่ไร้วี่แวว

เอาน่า.....มาถึงแล้ว

ลูกดีใจที่เห็นสัตว์ตัวแรกของสวนสัตว์ นั่นคือ จระเข้ ครับจระเข้ตัวใหญ่ๆ ไม่น้อยกว่า 20 ตัว นอนก่ายกองในลานเลี้ยง แต่ผมสังเกตว่า นี่เป็นการเข้าใกล้จระเข้ที่มากที่สุดที่ผมเคยพบมา เพราะว่ากรงที่นี่ชิดติดกับจุดที่นักท่องเที่ยวยืนเลย และจระเข้ทุกตัวนอนสงบติดกรงลวดนั้น จนมีนักท่องเที่ยว(ไม่ดี)คนนึงเอาเท้าเตะลวดกั้นนั้นสะเทือนปากจระเข้เลย ผมว่าเขาเจตนาก่อกวนจระเข้มากๆ แต่ผมคิดไปว่าตรงจุดนี้ไม่ปลอดภัยเลยทั้งนักท่องเที่ยวที่เป็นเด็ก เพราะสามารถเอามือแหย่ไปได้ง่ายดายมากๆ และสัตว์เองก็โดนกระทำ

และที่สุดจะทนก็คือ กลิ่นเหม็นที่มาจากบ่อจระเข้ มันสุดๆจริงๆครับ น้ำในบ่อนั้นยืนยันได้เลยครับว่าเน่าแล้ว ทั้งๆที่มีป้ายบอกว่าที่มีระบบบำบัดน้ำเสีย

ขณะที่คิด วิเคราะห์อะไรอยู่นั้น คณะนักท่องเที่ยวนิสัยไม่ดีรายนั้น ก็พูดออกมาดังๆ ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพว่า "ที่นี่ ...ง. เลวจริงๆ ดูสิ ป้ายหมาดุ ก็มันขังหมาไว้ให้ไอ้เข้กิน ใคร.ง.. จะเอาไก่ให้มันทุกวันๆ .... "

ผมคิดว่าหากเป็นจริงอันนี้รับไม่ได้แน่นอน ผมสังเกตว่าหมาที่ขังไว้ส่งเสียงดังน่ะมีจริงๆนะครับ แต่ส่งเสียงในลักษณะใดนั้น...ไม่ขอออกความเห็น
แต่หากไม่มีเจตนาอย่างนั้น อันนี้สวนสัตว์ต้องชี้แจงนะครับ

ถัดจากบ่อจระเข้ ผมเดินไปตามทางที่เขาสร้างไว้ ซึ่งเป็นบ้อซีเมนต์สองข้างทาง เข้าใจว่าเมื่อก่อนคงสร้างเอาไว้ฟักไข่จระเข้ หรือผสมพันธุ์เป็นแน่ แต่ตอนนี้มีไม่ถึง 3 บ่อที่มีจระเข้ตัวเล็กๆ แบ่งตามขนาดอายุของมัน ตรงนี้สังเกตว่ามีบ่อนึงเลี้ยงจระเข้ขนาด 1 เมตร ถายในบ่อมีหัวไก่สดๆ ประมาณ 20 หัวได้ ลอยน้ำในบ่ออยู่ทำให้ความคิดเรื่องสุนัขตกลงไป

ผมเดินต่อไปเรื่อย พบสิ่งก่อสร้างซึ่งน่าจะบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองในอดีตได้ว่าที่นี่เมื่อก่อนเคยมีคนอยู่ เอ้ย..น่าจะสร้างไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่ยังไงปัจจุบันมันเหมือนสวนสัตว์ร้างเลย เช่น พิพิธภัณฑ์ กรงสัตว์ร้าง ซึ่งสภาพผุพัง น่ากลัวมากๆครับ เดินไปเรื่อย คิดว่าหมดแล้ว ปรากฎว่ามีกรงหมี ซึ่งอยู่กัน 3 ตัว น่ารักดีนะ แต่สภาพกรงนี่สิทำเอาเราต้องบอกให้ลูกถอยออกมา ถัดไปเป็นคอกม้าแคระ ตรงนี้ม้าแคระเขาน่ารักมาก เชื่องด้วยยอมให้เราลูบหัว แต่เราไม่สามารถให้เขากินอะไรได้

ทุกกรงมีสภาพแตกต่างกันไป ที่น่ากลัวก็เป็นกรงลิงกังที่ดูดุมากๆ ดูสัตว์ที่นี่เครียดมากๆ (จากประสบการ์ณที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์มามาก)
อย่างจระเข้นี่ ทางมะพร้าวตกลงไปก้านเดียว ก็ว่ายแห่มาหากันเลย
บ่อเลี้ยงปลาบึก น้ำก็เขียวสุดๆ น่าสงสารมากๆ

จะให้เราสรุปยังไงดีล่ะ....สวนสัตว์ที่นี่เปิดดำเนินการเมื่อไรนั้นผมไม่ทราบจริงๆ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาเราเห็นแค่สองคนตรงหน้าประตู ทางเดินปูนข้ามบ่อจระเข้ผมยังสั่งไม่ให้ลูกเดินข้ามไปเลยครับ

ไม่แน่ใจว่าสวนสัตว์นี่เขามีมาตรฐานอะไรรับรองหรือเปล่าครับ แล้วทำไมสวนสัตว์ที่นี่ถึงมีสภาพที่สุดจะบรรยายได้ แล้วหน่วยงานไหนจะเข้ามาดูแลพัฒนาได้บ้างครับ

ผมขอยืนยันนะครับ ว่ากระทู้ผมไม่ได้มีเจตนาตำหนิสวนสัตว์ แต่หากมีการแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้นจนผู้คนสามารถเดินทางมาเที่ยวชมกันหนาแน่นเหมือนสวนสัตว์อื่นๆ จะทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก เพราะสวนสัตว์นั้นเป็นห้องเรียนที่ดีมากๆสำหรับทุกครอบครัว

และที่สำคัญผมสงสารสัตว์ทุกตัวทุกชีวิตจริงๆที่อยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้ โดยเฉพาะเจ้าม้าแคระตัวขาวๆที่เราได้สัมผัสเขามา หวังว่าหากกระทู้นี้ได้รับความสนใจ ทุกชีวิตน่าจะดีขึ้นนะครับ

ผมมีรูปติดมาให้ชมด้วย แต่ขออภัยที่ใช้กล้องโทรศัพท์ถ่าย เพราะวันนั้นไม่ได้นำกล้องถ่ายรูปไป ทำให้ภาพไม่ชัด หากท่านใดอยากชมจริงๆ ขอเชิญไปชมและร่วมพิสูจน์ได้ที่สวนสัตว์สระบุรี อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น บริเวณเดียวกันเลยครับ

ขอบคุณครับ ...ด้วยความเคารพในการนำเสนอ

จากคุณ : pixa - [ 22 ก.ย. 51 17:49:58 ]