Japan Rail Pass ( JRP ) หรือ JR Pass คืออะไร????
Japan Rail Pass ( JRP ) หรือ JR Pass คือ ตั๋วราคาพิเศษเป็นแบบ Unlimitted Ride
ซึ่งใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น โดยจ่ายเพียงครั้งเดียว แต่สามารถใช้บริการรถไฟ (รถไฟท้องถิ่นและรถไฟชินคันเซ็น ) รถบัส เรือ ของบริษัท JR ได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว คือจะใช้บริการกี่เที่ยวก็ได้ แต่จะต้องอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น
JR Railway [JR] เป็นผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เราสามารถใช้ JR เดินทางไปได้แทบทุกที่ในญี่ปุ่น เรียกได้ว่า ถ้าเรามีบัตร JR Pass เพียงใบเดียว ก็สามารถไปเที่ยวได้แทบทุกที่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
การซื้อบัตร JR Pass สามารถซื้อได้นอกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ Agency และตัวแทนขาย JR Pass อย่างเป็นทางการได้ที่ http://www.japanrailpass.net
และสำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อและใช้ JR Pass นั้น จะต้องเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่น และต้องมีวีซ่าประเภท Temporary Visitor หรือ เป็นนักท่องเที่ยวแบบชั่วคราวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ผู้ที่ถือสัญชาติญี่ปุ่นก็สามารถซื้อได้เหมือนกัน แต่จะต้องเป็นชาวญี่ปุ่นที่พำนักอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นการถาวร หรือ สมรสกับชาวต่างชาติ และพำนักอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่นเป็น
การถาวรแล้วเท่านั้น เรียกได้ว่า บัตร JR Pass นั้นเป็นบัตรเหมาจ่ายที่ทำขึ้นมาเพื่อให้สิทธิพิเศษกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นการโปรโมทและดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นมากขึ้นไปในตัวนั่นเอง
Temporary Visitor คือ ผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 15 วัน - 90 วัน เท่านั้น
Shinkansen
สำหรับรถไฟชินคันเซ็น หรือ รถไฟหัวกระสุนนั้น เป็นรถไฟด่วนความเร็วสูงที่จะให้บริการวิ่งข้ามเมืองแต่ละเมือง โดยประเภทของรถไฟชินคันเซ็นนั้น จะมี 3 ประเภทด้วยกันคือ
1. Nozomi (โนโซมิ) เป็นรถไฟขบวนที่วิ่งเร็วที่สุด และราคาแพงสุดด้วย โดยรถไฟชินคันเซ็น ประเภทนี้ ไม่สามารถใช้ร่วมก้บบัตร JR Pass ได้ ถ้าอยากขึ้นรถด่วนโนโซมิ จะต้องจ่ายเงินต่างหาก
2. Hikari (ฮิคาริ) เป็นรถไฟที่จะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆเท่านั้น รถไฟประเภทนี้ สามารถใช้ร่วมกับ JR Pass ได้ ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ ซื้อบัตร JR Pass ไว้แล้ว และต้องการใช้บริการรถไฟด่วนชินคันเซน ขอแนะนำให้ขึ้น Hikari นะคะ
3. Kodama (โคดามะ) รถไฟประเภทนี้เป็นรถไฟหวานเย้นค่ะ จะช้าสุดและใช้เวลาเดินทางนานสุด เพราะว่าจะจอดเกือบทุกสถานี รถไฟประเภทนี้สามารถใช้ร่วมกับบัตร JR Pass ได้เช่นกัน
วิธีการซื้อและขั้นตอนการใช้บัตร JR Pass
เราสามารถซื้อบัตร JR Pass ได้จากบริษัททัวร์หรือจาก Agency ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย และอย่าลืมนำ Passport และวีซ่าติดตัวไปด้วยตอนซื้อนะคะ หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับเอกสารที่เรียกว่า Exchange Order มา หรือคล้ายๆ บใบเสร็จให้เราเก็บไว้เป็นหลักฐาน เก็บ Exchange Order ไว้ให้ดีๆ นะคะ เพราะเราต้องนำไปแสดงเพื่อขอรับ JR Pass ตัวจริงเมื่อเราไปถึงญี่ปุ่น
โดยที่เราสามารถนำไปแลกบัตร JR Pass ตัวจริง ได้ที่เคาน์เตอร์ Japan Rail Pass Exchange Office ที่สนามบิน หรือถ้าไม่สะดวก เราก็สามารถนำไปแลกที่สถานีแรกที่เราจะใช้บริการ หรือ สถานีรถไฟของ JR ได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลักฐานที่ใช้ในการแลก JR Pass เมื่อเราไปถึงญี่ปุ่น ก็คือ Passport + Exchange Order
วันหมดอายุของตั๋ว JR จะขึ้นอยู่กับประเภทตั๋วที่ซื้อคือ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการตั๋ว JR
ตั๋วจะมีอายุ 3 เดือนนับจากวันที่ทางบริษัทฯ ออกเอกสารสำหรับใช้เปลี่ยนเป็นตั๋ว JR ให้ หากไม่มีการใช้ตั๋วภายในระยะเวลา ดังกล่าว เอกสารนี้จะกลายเป็นโมฆะ ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก หรือ ไม่สามารถนำกลับมาทำ REFUND คืนได้
- บัตรนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
- ตั๋วนี้ใช้ได้กับบริการของ JR RAILWAY GROUP ทุกประเภท โดยสังเกตสัญลักษณ์ "JR" เป็นสำคัญ (ยกเว้นรถไฟ ชินคันเซนแบบ NOZOMI, รถไฟแบบ SUPER-EXPRESS และ LIMITED-EXPRESS)
- บัตรนี้ไม่สามารถซื้อได้ในประเทศญี่ปุ่น และ เอกสารหรือ Exchange order ที่ซื้อและได้รับที่เมืองไทย ไม่สามารถใช้ขึ้นรถไฟ JR ได้ เราต้องไปแลกบัตร JR Pass ตัวจริง ที่ญี่ปุ่นก่อน ถึงจะนำไปใช้บริการรถไฟ JR ได้