ความคิดเห็นที่ 1 มันทำได้หลายหน้าที่ และยังปรับตั้งได้ด้วยครับ ลองเปิดคู่มือดูก่อนครับ มีบอกไว้โดยละเอียด ^_^ อ่อ... ลืมถามก่อนว่าใช้กล้องอะไร... แหะๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 49 21:50:57 จากคุณ : งู (tonz) - [ 4 ม.ค. 49 21:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่ได้ไปตั้งอะไรมัน โดยปกติมันก็จะล็อกค่าแสงที่วัดได้โดยกดค้างไว้ พอวัดแล้วก็ค่อยจัดองค์ประกอบ กดชัตเตอร์เสร็จ จากนั้นก็ปล่อยได้ จากคุณ : อะธีลาส - [ 4 ม.ค. 49 22:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แบบคุณอะธีสาสว่าเลยครับ   เล็งๆหาตำแหน่งที่ต้องการค่าแสงตรงนั้น กดค้างไว้ครับ จัดองค์ประกอบแล้วถ่าย ปกติผมจะใช้AELกับโหมด A อะครับ ถ่ายเร็วดี ถ้า M ก็ต้องเล็งกล้องตรงนู้นตรงนี่ยุ่งหน่อย จากคุณ : new rose - [ 4 ม.ค. 49 23:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเพื่อวัดแสงก่อนครับ แล้วก็กด AEL ค้างไว้เพื่อล๊อคค่าแสง จัดองค์ประกอบใหม่ แล้วก็กดชัตเตอร์อีกที มั๊ง~~!!!! จากคุณ : LordJIn - [ 5 ม.ค. 49 00:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ้อ ลืมบอกไป ระหว่างการกดชัตเตอร์ กับ AEL กล้องจะให้ความสำคัญกับ AEL มากกว่านะครับ เปิดคู่มือดูการตั้งค่า เพื่อปรับแต่งการทำงานของ AEL ให้ตรงกับความต้องการได้ครับ จากคุณ : อะธีลาส - [ 5 ม.ค. 49 08:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การล็อคค่าแสงต้องล็อคก่อนถ่าย โดยวิธีใช้ก็อย่างเพื่อนๆ ว่าไว้ข้างบน แนะนำให้ลองใช้กับการวัดแสงเฉพาะจุดครับ จากคุณ : จุ๊ - [ 5 ม.ค. 49 10:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างที่คุณงูบอกเลยครับ ปุ่มนี้มันปรับลักษณะการใช้ได้ด้วย ตอนนี้ E1 ผมตั้งให้เมื่อกด AEL มันจะจำค่าแสงไว้(Mode 2 or 5 ไม่ต้องกดค้าง) และตั้งโฟกัสจุดกลางที่เดียว โดยขั้นตอนการถ่ายของผมเมื่อแบบไม่ได้อยู่กลางภาพจะทำดังนี้ 1) จัด Composition ภาพแล้วกด AEL ให้มันจำค่าแสงไว้(ไม่ต้องกดค้าง) 2) จากนั้นก็ไปโฟกัสที่แบบโดยกด Shutter ค้างไว้(ผมตั้งให้ Focus ที่จุดกลางที่เดียวเลย) 3) กลับมาจัด Composition ตามเดิมแล้วกด Shutter เต็มเพื่อบันทึกภาพ 4) กด AEL อีกทีเพื่อ Clear ค่าความจำแสง (Default ของ E1 มันต้องกด AEL ค้างไว้ซึ่งผมไม่ค่อยถนัดเลยปรับมาเป็นแบบนี้คล่องตัวกว่าพอสมควร) ถ้าผมเข้าใจผิดแย้งได้นะครับ (^__^) ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอแจมด้วยคำถามนึงแล้วกันครับ ตอนนี้ผมยังไม่เคลียร์กับการวัดแสงแบบ ESP กับ Center Weight เท่าไหร่ จากที่ได้ลองดูผมว่ามันไม่แตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดเหมือนแบบ Spot กับ Center Weight อ่านดูเหมือนมัน weight น้ำหนักให้ระหว่าง Center กับ Background เหมือนกัน แต่ ESP เหมาะสำหรับภาพที่แสง Background กับ Foreground ต่างกันเยอะมากๆเช่นถ่ายย้อนแสง แต่ CenterWeight นี่สำหรับภาพทั่วๆไป ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ ???????? เผอิญลองทั้งสองแบบผลลัพธ์ออกมาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่(ทั้งรูรับแสงทั้ง Speed Shutter) เลยสงสัยน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 49 11:50:26 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 49 11:49:07 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 49 11:47:48 จากคุณ : พ้ง (Antm) - [ 5 ม.ค. 49 11:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่อง AEL ถูกครับ เรื่องการวัดแสง ESP มันจะแบ่งภาพเป็นหลายๆ ส่วน วัดค่าแสงแต่ละส่วน แล้วเทียบกับฐานข้อมูล ว่าเป็นภาพแบบไหน มีการปรับชดเชยแสงอย่างไร แล้วก็กำหนดค่าแสง พร้อมชดเชยให้เรียบร้อย เราทำอะไรไม่ได้ครับ นอกจากไว้วางใจให้กล้องคิด แม้ค่าแสงจะไม่ค่อย "หลุด" ไปไกลนัก ในสภาพแสงที่ยากๆ ซับซ้อน แต่สภาพแสงในบางลักษณะก็ไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ และเราไม่รู้ด้วยว่ามันคิดอะไรอยู่ Center Weight จะให้น้ำหนักแสงที่กลางภาพมากหน่อย ขอบภาพน้อยหน่อย ถ้าช่างภาพที่เข้าใจเรื่องการวัดแสงพอสมควร จนถึงเชี่ยวชาญ น่าจะคุ้นเคยกับระบบนี้ครับ พอจะคาดเดาได้ว่าค่าแสงจะออกมาในลักษณะไหน ไม่ต้องกังวลว่ากล้องจะชดเชยแสงให้โดยไม่บอกไม่กล่าวเหมือน ESP แต่ในสภาพแสงที่ซับซ้อน และผู้ถ่ายภาพไม่แตกฉานเรื่องการวัดแสง การคุมโซนมากพอ ก็มีโอกาสพลาดได้ครับ Spot วัดแสงที่จุด กลางจออย่างเดียวเลย ตรงกากบาทนั่นแหละ โดยไม่สนใจค่าแสงที่อื่นเลย คนที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งเรื่องการวัดแสง หรือใครที่ใช้ระบบโซนในการถ่ายภาพจะชอบ เพราะควบคุมแสงได้ดั่งใจ แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่ครับ โอกาสพลาด ชนิดพาเข้ารกเข้าพงมีสูงมาก จากคุณ : อะธีลาส - [ 5 ม.ค. 49 12:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณอะธีลาสครับที่ช่วยไขข้อข้องใจ ส่วนใหญ่ผมใช้แต่ Center กับ Spot ซึ่งถ้าฉากหลังแสงเวอร์ๆนี่ก็คุมไม่อยู่เหมือนกัน ช็อตแบบนี้คงต้องใช้ ESP + Flash น่าจะช่วยได้ใช่มั้ยครับ (นายถามจัง 5555) พอดียังไม่มี Flash ให้ลองเล่นน่ะครับ (T__T) จากคุณ : พ้ง (Antm) - [ 5 ม.ค. 49 13:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ฮี่ๆ ไม่มีแฟลชโอลิมปัสให้เล่นเหมือนกัน จากประสบการณ์ที่เคยใช้กล้องที่มี TTL Flash  (ระบบวัดแสงแบบกล้องคิดให้) พบว่า แสงที่ตัวแบบ กับแสงที่ฉากหลังจะออกมาสมดุลย์ครับ ถ้าความต่างของแสงไม่โหดร้ายจนเกินไป และแฟลชแรงพอ ระยะไม่ไกลมากนัก ----------------------------------------------------------------------- ยกตัวอย่างถ่ายภาพบุคคลย้อนแสงครับ ตอนนี้ผมมีแต่แฟลชอิสระยี่ห้อจีนแดงครับ ด้วยแฟลชที่มีอยู่ผมจะทำแบบนี้ครับ ใช้แฟลชระบบแมนนวล ดีกว่าแฟลชออโต้ งานนี้แสงฉากหลังก็หลอกเซ็นเซอร์แสงแฟลชได้เหมือนกัน ใช้โหมดถ่ายภาพ M 1. อันดับแรกตั้งช่องรับแสงก่อน (เราคุมแสงแฟลชในขั้นนี้) ทำโดยกะระยะจากกล้องถึงนางแบบ ตั้งช่องรับแสงตามตารางหลังแฟลช ถ้าอยากให้อันเดอร์ ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนถ่ายภาพย้อนแสง (ผมชอบแบบนี้) หรือพอดีเท่าฉากหลัง ก็ดูจากตารางแฟลช ปรับชดเชยเอาได้ แต่ถ้าปรับโอเวอร์ แทนที่จะได้นางแบบ เราจะได้ผีแดดมาแทน หากอยากได้นางแบบสว่างกว่าฉากหลัง โดยไม่กลายเป็นลิงเผือกไปซะก่อน ดูข้อต่อไป 2. ต่อมาตั้งความไวชัตเตอร์ (ขั้นนี้เราจะคุมแสงฉากหลัง แต่มีผลกับนางแบบนิดหน่อย) วัดแสงที่ฉากหลัง  ตั้งความไวชัตเตอร์ให้แสงฉากหลังพอดี หรือถ้าอยากให้ฉากหลังโอเวอร์นิดๆ ก็ปรับความไวชัตเตอร์เอา ***ปัญหาที่จะเจอในขั้นตอนนี้คือ ปรับยังไงก็โอเวอร์เยอะ*** เพราะ Speed Sync ของกล้องที่ผมใช้มันชนเพดานที่ 1/180 ทางแก้คือเปลี่ยนไปใช้กล้องที่ Speed Sync สูงกว่านี้ (จึ๋ย..) ใช้แฟลชกำลังสูงขึ้น (เงินครับ เงิน ถ้ามีปัญญาซื้อ ผมคงไม่ใช้แฟลชจีนแดงหรอก) หรือเดินเข้าไปใกล้ๆ นางแบบ เพื่อจะได้ใช้ช่องรับแสงแคบลง โดยนางแบบได้แสงแฟลชพอดีเหมือนเดิม แต่ฉากหลังแสงน้อยลง (อันนี้พอไหว) หรือเลยตามเลย ช่างมัน เวอร์ได้เว่อร์ไป ทางเลือกสุดท้าย ก็ต้องถ่ายฉากหลังพอดี นางแบบอันเดอร์ แล้วใช้ไสยศาสตร์ช่วย ทีหลัง (มีปัญหาอย่ากลัว โฟโต้ช็อปช่วยท่านได้) เสร็จเรียบร้อยก็ ยิงได้แล้วครับ จากคุณ : อะธีลาส - [ 5 ม.ค. 49 14:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับคำตอบอีกครั้งครับคุณอะธีลาส ไว้มีโอกาสผมจะทดลองดูครับ (^__^) จากคุณ : พ้ง (Antm) - [ 5 ม.ค. 49 16:24:10 ]