ความคิดเห็นที่ 1 ถามเยอะจัด ตอบลำบาก M6 ราคาประมาณนั้นหาจับเมืองไทยก็น่าจะพอได้ ได้จับได้ดม น่าจะดีกว่า ไม่ต้องลุ้นหาย หรือได้มาซ่อม ตอนนี้สวย ๆ ก็น่าจะ 50K+- สำหรับ TTL ก็เห็นประมาณ 60K+- summicron 35 mm ราคาประมาณ 55K+- 70K ไม่น่าจะพอ ต้องขอกำลังเสริม ---------------------------------------- ความเห็นผมเกี่ยวกับ zeiss ikon ถือว่าฟิลลิ่งดีมาก ๆ จับถือสะดวกดี แต่ชัตเตอร์เสียงดังไปหน่อยนึง (สำหรับคนที่ใช้ M มาตลอดจะบอกว่าดังมาก) วิวสว่างกว่า leica แม้แต่ leica mp ก็ยังสู้ไม่ได้ รู้สึกงั้นจริง ๆ ใส่ฟิลม์ง่ายดี โหมด A ถือว่าทำงานง่ายดี ชอบตรงมีปุ่มเปิดปิด ไม่เผลอถ่ายทิ้งเหมือน M สีดำ black paint เซ็กซี่มาก ๆ ----------------------------------------- ความเห็นของผมถึง leica m ใส่ฟิลม์ยาก ถ้ารีบ ๆ นี่เลิกกัน X{ การจับถือไม่ดีนัก ถ้าใส่เลนส์ยาว ๆ จับไม่ถนัด ต้องเสียตังค์ซื้อของแต่งมาให้จับถนัดอีก X{ วิวไม่สว่างเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับ bessa ไม่มีช่องมองฟิลม์ว่าใส่ฟิลม์อะไรอยู่ ไม่มีตัวล้อกชัตเตอร์ถ้าขึ้นฟิลม์ไว้แล้วเผลอใส่กระเป๋า จะลั่นไปโดน เสียฟิลม์ 1 เฟรม ชัตเตอร์นิ่มนวล การขึ้นฟิลม์ค่อนข้างดีมาก นอกนั้นผมว่าอะไร ๆ ก็เหมือนกันครับ กล้องระดับนี้แล้ว ทำป๊อกแป๊กโดนด่าตาย แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 11:41:58 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 16 มิ.ย. 51 11:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้อยู่ทั้งM และZMครับ  เรื่องฟิลลิ่งเกี่ยวกับM พูดแบบเว่อร์ๆให้หมั่นไส้ก็ขอบอกว่ามันชินชาซะแล้ว คือbodyMใช้ดียังไงก็ยังคงดีอยู่เช่นนั้น หากจะหยิบออกไปใช้ก็ไม่ได้รู้สึกซึบซับอะไรมากขึ้นไปกว่าเดิม เนื่องจากเวลาจะออกไปถ่ายรูปแต่ละครั้งมีน้อย สิ่งที่กังวลคือ ทำยังไงให้ได้ภาพเร็ว แม่นยำและปริมาณมากที่สุดเมื่อเทียบกับเวลาที่เสียไป  เดี๋ยวนี้จึงเอาแต่ZMไป(และวันไหนหากรู้สึกยังไม่เป็นภาระพอก็จะเอาMติดไปสำรองด้วยอีกตัวนึง ทั้งที่ก็ไม่ค่อยได้ควักออกมาหรอก เหมือนกับ "ห้อยพระดีกว่าไม่ห้อยอุ่นใจกว่าทำนองนั้น) ZMโหมดAEก็เหมือนกับของR2a แต่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นโดย ปุ่มAE-lockกดลงคือ lock กดอีกครั้งคือ unlock ไม่เหมือนกับR2aที่จะต้องกดหนีบเอาไว้ตลอดเมื่อต้องการจะล๊อค  ถ้าใส่แว่นยิ่งดีใหญ่สำหรับZM เพราะช่องมองทรงกลมใหญ่มาก และdiopter-lensสามารถใช้ร่วมกับของNikonได้ ตาไม่ต้องชิดกับช่องมองมาก ลืมตาสองข้างก็โฟกัสได้สบาย จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 16 มิ.ย. 51 12:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เฟรมไลน์35และ28 ของZM ออกแบบให้ใช้ได้จริงโดยไม่ต้องกลอกตา ในM6หากจะใช้28ให้สบายตาที่สุดคงต้องพึ่ง0.58อย่างเดียว          กลไลขับเคลื่อนฟิลม์ของZMทำได้ดีเหนือกว่า BessaและรวมถึงMด้วย กล้องเมื่อมีฟิลม์และไม่มีฟิลม์ แรงง้างก้านขึ้นฟิลม์จะใช้แรงเท่าๆกัน        ห้องchamberของZM ออกแบบให้ใช้กับเลนส์wideที่มีโครงสร้างยื่นเข้าไปในบอดี้ รวมถึงเลนส์collapsibleได้ทุกตัว (ไม่เหมือนBessa) จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 16 มิ.ย. 51 12:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รูป2รูปแรกsaveจากebay รูปสุดท้ายของผมเอง หวังว่าข้อมูลที่ให้ไว้คงจะมีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจ จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 16 มิ.ย. 51 12:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ oho it's so sexy มาก ๆ ครับ ทั้งกล้องทั้งเลนส์ , เลนส์ 28 f/2.8 นี่น้าได้มาจากบอร์ดสีส้ม ๆ หรือเปล่าครับ?? แบบว่าคาใจมาก ๆ โทรไปไม่ทัน :-) แบบว่าผมเพิ่งสังเกตุว่า hot shoe มันราบไปกับตัวกล้องด้วยแฮะ บางทีลูบ ๆ  bessa แล้วสะดุด แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 13:20:46 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 13:17:45 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 16 มิ.ย. 51 13:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวยสุดๆเลยครับน้า ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ ใจเทไปทาง Zeiss ไปอยู่มาก เรื่องความสะดวก แต่ก็ชอบชัตเตอร์แบบนิ่มๆของเอ็ม น้าๆคิดว่าต่างกันมากมั้ยครับ เพราะไม่เคยลองจับ Zeiss แล้วจะหาตัวใหม่ได้มั้ยหรือต้องน้องเบย์อย่างเดียว จากคุณ : Rollo Tomassi - [ 16 มิ.ย. 51 13:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 -แนะนำM6 TTL -ถ้าสนใจ M6 classic ให้เบอร์มากกว่า 2xxxxxx ขึ้นไปครับ -35 summicron นี่แล้วแต่ความชอบ แล้วแต่งบ รุ่นที่นิยมกันก็รุ่น 1 รุ่น 4 รุ่น 5 ดูเบอร์เพื่อแยกรุ่นหาตามเวบน่าจะได้ -ZM ดีครับสวยงาม สะดวก แต่ผมว่ายังไงก็ต้องกลับมาซื้อไลก้าอยู่ดี :D จากคุณ : maple - [ 16 มิ.ย. 51 15:24:32 A:124.120.142.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังไม่เคยเล่นครับ แต่ได้ความรู้แยะครับ จากคุณ : NENO-C - [ 16 มิ.ย. 51 17:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนผมได้ M6 TTL มา ผมก็สงสัยแบบนี้เหมือนกันครับ ดูแล้ว Zeiss ได้ความทันสมัยกับทคดนโลยีที่น่าจะดีกว่า และแน่นอนได้ของใหม่แกะกล่องในราคาที่ถูกกว่ามากๆ แต่สุดท้ายผมก็เจอ M6 ในสภาพ 95up ครับ เลยตัดสินใจเลือกความคลาสสิกที่หาซื้อแทบไม่ได้อีกแล้วครับ และการใช้งานทุกอย่าง กาลเวลาก็เป็นตัวพิสูจน์มาแล้วครับว่ามันเยี่ยมจริง จากคุณ : copboyd - [ 16 มิ.ย. 51 18:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาเก็บความรู้เช่นกันครับ   กำลังศึกษาวิธีฉีกกระเป๋าตัวเองอยู่ครับ จากคุณ : tamrong - [ 16 มิ.ย. 51 18:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เท่าที่เปิดดูคู่มือนะครับ ซีเรียลนัมเบอร์เป็นตัวช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าถามผม ๆ ว่าสภาพภายนอกสำคัญกว่า เพราะกล้อง mechanic ล้วน ๆ แบบไลก้า M6 นี่ ถ้าวัดแสงไม่เสีย ผมว่ายังอีกยาว ๆ เหลือ ๆ ครับ ขอให้เจอช่างดี ๆ น่าจะกลับมาปึ๋งปั๋งได้เหมือนเดิมครับ 1984/85 s/n = 1657251-1682950 1986 s/n = 1687951 - 1711450 1987-1990 s/n = 1711451 - 1786000 1990 - 1993 s/n = 1790001 - 1997000 1994 - 1997 s/n = 2000011 - 2427000 ถ้าเลือกกล้องก็ให้เลือกซีเรียลนัมเบอร์สูง ๆ หน่อยก็ได้ครับ ถ้าราคามันพอ ๆ กัน ส่วน s/n ของเลนส์ต้องรบกวนสมาชิกห้องกล้องเก่าช่วยหาลิงค์ให้แล้วกันครับ เพราะเยอะมาก ๆ ปล. ถามน้าเสือ TTT ด้วยครับว่าเจ้า hot shoe guard พลาสติกสีดำ ๆ ที่เสียบที่ hot shoe นี่น้าหาจากไหนเหรอครับ ผมมีของ nikon แล้วรู้สึกเสียบกับ M6 แล้วจะเข้าไม่สุด ติดน๊อตตัวเล็ก ๆ น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 19:30:09 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 16 มิ.ย. 51 19:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุยกันได้ไม่มีเบื่อเนอะเรื่องกล้องเอ็มเนี่ย M6 Classic ของผมปี 93 ตั้งแต่ใช้มาเพิ่งซ่อมวัดแสงไปหนเดียวเมื่อปีกลาย (เลยถือโอกาสให้ช่าง CLA ไปด้วยเลย) อาการงอแงอื่นยังไม่เคยปรากฏ เชื่อว่าคงใช้ต่ออย่างถนอม ๆ ได้อีกหลายปีครับ M6 .72 ใช้กับเลนส์ 28mm พอได้ครับ เต็มวิวไฟน์เดอร์พอดี แต่เหมาะที่สุดก็คงต้องเลนส์ 35mm ขึ้นไป เพราะฉะนั้นถ้าไม่กะจะเอาไว้ใช้กับเลนส์ไวด์ถึง 28 ไม่ต้องขวนขวายหา M6 TTL ก็ได้ครับ จากคุณ : Sonnar Devotee - [ 16 มิ.ย. 51 21:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Zeiss Ikon กับ Bessa ความรู้สึกต่างกันมากครับ ผมเคยได้ใช้ช่วงนึง ถึงจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่มั่นใจว่าเชื่อถือได้มากกว่าพวกฝรั่งบางคนที่รีวิวกล้องตามเว็บโดยอาศัยแค่อ่านเสป็คหรือส่องกล้องผ่านตู้กระจกแล้วจินตนาการว่าเคยสัมผัสมันมาแล้วจริง ๆ CV รับจ้างผลิตให้ก็จริงแต่นี่คือกล้องมาตรฐาน Zeiss เยอรมนี  กลไกต่าง ๆในกระบวนการถ่ายภาพตั้งแต่ขึ้นฟิล์มยันกรอฟิล์มกลับทำได้นุ่มนวลกว่ามากครับ สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือการออกแบบที่ซุกซ่อนทุกอย่างไว้ภายใต้บอดี้หมด อย่าง Hot shoe ที่น้าจอมมารฯตั้งข้อสังเกต กับก้าน rewind ฟิล์มที่ถูกเก็บอยู่ข้างใต้ มองจากด้านบนตัวกล้องจึงเกลี้ยงเกลาหมด ไม่มีตัวปรับเฟรมไลน์เหมือน Bessa เพราะมันตีกรอบภาพอัตโนมัติตามเลนส์ที่ใช้เหมือนไลก้าเอ็ม ตั้งแต่ใช้กล้องมา  ZI จัดเป็น RF ที่มี AEL เวิร์คสุดแล้ว จะเป็นรองก็แค่ Contax G2 ตัวเดียว กดทีแรกเปิด กดอีกทีปิด ไม่ต้องบีบค้างไว้ โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นกล้องที่ใช้สนุกมากๆ ตัวนึงครับ เคยจะสั่งจากของใหม่จากนอกเหมือนกันแต่ร้านเขาใหญ่ ทำอะไรถูกต้องหมด กระทั่งส่งยัง Fedex ไม่ก็ UPS เชื่อขนมกินได้ว่าต้องโดนภาษีไม่ต่ำกว่าสามพัน ตอนนี้เลยกำลังรอเพื่อนจากสิงคโปร์หามือสองสวย ๆ หิ้วเข้ามาให้อยู่ครับ จากคุณ : Sonnar Devotee - [ 16 มิ.ย. 51 21:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอว จะกลายเป็นว่าตัวไหนก่อนก็ได้ ยังไงก็ออกลูกตามมาสินะครับเนี่ย ไว้ได้เรื่องยังไงจะเข้ามาอวดอีกที ขอบคุณน้าๆทุกคนมากเลยครับ จากคุณ : Rollo Tomassi - [ 16 มิ.ย. 51 21:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แหม ผมก็ไม่เคยได้ใช้ ZI จริง ๆ จัง ๆ ซะที ได้จับ ได้หมุน แค่ไม่เท่าไหร่ พอเจอความเห็นของน้าเสือ กับน้าจ๊อด ก็พาลเกิดอยากได้ขึ้นมาซะแล้ว เดี๋ยวคงต้องไปจีบคนที่มีอยู่ว่าจะปล่อยมั้ย? ท่าจะดี :) จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 17 มิ.ย. 51 08:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เก็บความรู้ไว้ยั่วกิเลศซะ กล้องคุณเสือสวยงามมากครับ ผมว่าห้องกล้องเก่านี้ ถ้าเมื่อใดคุณเสือ กับคุณSonnar Devotee  มาให้ความรู้เนี่ย เก็บเข้าคลังกระทู้ได้เลยครับ จากคุณ : Ko (Essueko) - [ 17 มิ.ย. 51 09:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงคุณเจ้าของกระทู้  ยังไงซะตามงบที่มีให้เน้นเลนส์เป็นหลักแล้วกันครับ 35f2 typeไหนก็ได้นี่ก็สุดยอดละครับ ตัวเดียวจบจริงๆ ซื้อมาใช้-เบื่อขายโอกาสเจ็บตัวน้อยครับ ลองได้เลนส์ตัวนี้แล้วเงินเหลือบอดี้อะไรก็ไม่ขี้เหล่หรอกครับ R2a gray นี่ก็สุดสวยเหมือนกัน ถึงคุณจอมมารฯ แผ่นปิดhotshoeตัวนี้ผมเด็ดมาจากกล้องCosina SLR ใส่ได้กับกล้องทุกรุ่นครับ หาไม่ยากแถวภิรมณ์ผมว่ามีขายเยอะนะ ลองสังเกตก้มๆเงยๆดูตามตู้เอาแล้วกัน คุณจอมมารฯน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น"จอมตั้งกระทู้"ได้แล้วนะครับ โผล่มาเดี๋ยวเีดียวชื่อเต็มหน้ากล้องเก่าไปหมดแล้ว ไม่ใช่ไม่ดีนะ คึกคักดีครับ คุณ Ko ...... (พูดไม่ออกเลย) ขอบคุณครับที่รู้สึกแบบนั้น ดีใจครับ จากคุณ : TTT (เสือตุ๋งติ๋ง) - [ 17 มิ.ย. 51 11:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับน้าเสือ ที่ช่วงนี้ตั้งบ่อย (ตั้งกระทู้นะ) เหตุเพราะข้าวของขายไม่ออกครับ ไม่มีงาน แปลว่าว่างงานนั่นเอง :-) แต่จะทิ้งงานก็ไม่ได้ เพราะกิจการทำกันสองคนเอง เดี๋ยวอีกคนจะเดือดร้อน เลยไปไหนไม่ได้เลย (มีคนช่วยทำให้ยุ่งเพิ่มมาอีกคนด้วย) เห็นด้วยกับคุณโก้ครับ เมื่อไหรน้าจ๊อดกับน้าเสือแจมนี่ มีข้อมูลดี ๆ เพียบเลย มาบ่อย ๆ นะครับ เดี๋ยวนี้เงียบ ๆ ไป :D ว่าแต่ว่า มันอ่านว่า ไซซ์ ไอคอน หรือว่า ไซซ์ อิคอน กันแน่ครับ? แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 51 13:12:44 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 17 มิ.ย. 51 12:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าZM นี่สมมุติว่าถ้าถ่านหมด จบกันเลยมั๊ยครับ หรือว่า ยังใช้ โหมด m ได้ จากคุณ : judgee - [ 17 มิ.ย. 51 16:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นพูดถึง serial no. ของเลนส์ M เลยเอามาฝากครับ http://www.forloren.dk/lbf/leica_lens_serial.htm อันนี้บอดี้ครับ http://www.cameraquest.com/mtype.htm อันนี้เปรียบเทียบ 35 Summicron รุ่น 4 กับ 5 (asph) http://www.jimarnold.org/galleries/leica_35_test/ รูปของ 35 Summicron รุ่นต่างๆครับ http://members.aol.com/dcolucci/35summicron.htm จากคุณ : APO G - [ 17 มิ.ย. 51 16:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แบบหลังถูกครับ อ่านว่า ไซซ์ อิคอน จากคุณ : Sonnar Devotee - [ 17 มิ.ย. 51 21:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมกำลังเจอปัญหาเดียวกันเลยครับ 2 ตัวนี้ ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี ตอนนี้เริ่มไหลไปทาง Ikon มากกว่าแล้ว ถ้า Leica เป็น Porsche 911 Ikon ก็คงเหมือน Lamborghini Gallado ละมั้งเนี่ย ถามเรื่อง วัสดุของ M หน่อยนะครับ Black Chrome นี่น่าคบมั๊ย ...ถ้าใหม่ๆ คงสวย แต่ในความรู้สึกผมมันน่าจะหมองเร็ว แล้วเป็นจ้ำๆ อย่างรอยนิ้ว สีเงินจะวิ้งๆ เตะตาไปมั๊ยครับ หรือว่า...M6 Titanium ดี? ทน แล้วก็น่าจะ retain value ได้นานด้วย อ้อ อีกอย่าง ผมมือเหงื่อออกง่ายด้วยน่ะครับ จะมีผลเสียต่อตัวไหนพิเศษมั๊ยนี่... ว่าแต่คุณ Sonnarฯ มีความเห็นยังไงกับ Sonnar 50mm f1.5 ครับ :D ผมชอบ bokeh มันมากเลย แต่ดันมี Focus Shift ปล. วันก่อนเจอ Buy It Now ของ M6 TTL ใน ebay ราคา 1200USD สภาพอย่างนิ้ง มีกล่องด้วย นั่งอ่าน Description อยู่ 2-3 นาที พอกดปุ่มซื้อ โดนคนซิวไปก่อนซะงั้น T-T ปล2. Ikon+Sonnar 50mm f1.5 ขายอยู่ 56k ครับ โปรโมชันในเว็บของ Procamera แต่ผมยังไม่ได้โทรถามนะ จากคุณ : no6i - [ 17 มิ.ย. 51 22:50:11 A:58.9.200.111 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 Leica เสียงเดียวเลยครับ จากคุณ : Trix - [ 18 มิ.ย. 51 02:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จากความรู้สึกส่วนตัว black chrome จะเป็นสีดำที่ไม่เป็นรอยง่าย ๆ แบบ black paint แต่ black paint สวยเซ็กซี่กว่าพอสมควร พอลอก จะเป็นสีทองเหลือง black chrome ทำบน zinc plate ที่เวลาลอกแล้วจะไม่เป็นสีทองเหลือง อันนี้สำคัญ บางคนว่ามันน่าเกลียด ไม่เซ็กซี่ แต่ผมไม่อยากให้กล้องผมถลอกเลยจริง ๆ ให้ตายเหอะ คำถามว่าหมองเร็ว? ไม่เคยเจอปัญหาหมองครับ นอกจากใจอยากจะหาเรื่องเปลี่ยนกล้องเซียะเอง กล้องหมองไม่ส่งผลต่อภาพครับ :D ไม่งั้นก็ต้องมาจับ MP black paint หรือ M สี black paint อื่น ๆ ไปเลย กล้องสีเงินจะถนอมง่ายกว่า เห็นรอยยากกว่า titanium ผมใช้อยู่แฮปปี้ดี แต่ถ้าจะซื้อมาใช้ และคิดจะ retain value อย่าเลยครับ เมื่อไหร่ที่เราเอามาแขวนคอ มันจะด้อยค่าไปเยอะครับ ขายต่อลำบาก ไม่เหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าอยากขายต่อได้ราคา แขวนพระดีกว่าเป็นไหน ๆ กล้องสีดำ จะเป็นรอยง่าย เห็นริ้วรอยได้ชัด ๆ แต่บางคนชอบ ผมไม่ชอบริ้วรอย แต่ผมชอบสีดำ ก็ต้องใช้แบบถนอมนิดนึง แต่ก็อ่ะนะครับ เดี๋ยวถึงเวลาหายเห่อ ก็ไม่กลัวเป็นรอยแล้ว กล้องซื้อมาใช้ครับ ส่วน IKON ไม่เคยใช้จริง ๆ จัง ๆ แต่ชอบ ราคาก็ไม่แรง ถ้ามีโอกาสคงได้เป็นเจ้าของเหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 51 08:11:49 จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 18 มิ.ย. 51 06:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นคุณ no6i บอกว่าตัวเองเหงื่อเยอะ ตรงนี้น่าจะมีผลต่อการเลือกสีกล้องพอสมควรครับ อันนี้ผมโฟกัสไปที่ Leica M นะครับ เพราะใช้อยู่ และเคยใช้ทั้งสองสี (Silver Chrome & Black Chrome) ตัวแรกที่ผมใช้ เป็น silver ของน้องชายแฟนผม เหงื่อเขาพอมีแต่ไม่มาก แต่ใช้แบบของใช้จริงๆ ดูแลรักษาแต่พอดีแต่ไม่ถึงกับพิถีพิถันอะไรนัก ปรากฎว่ามีอาการสีปุดครับ คือที่ผิวโลหะสีเงินที่เคลือบเพลทโลหะมันปุดจากข้างใน ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากผิวโลหะที่กร่อน(อาจจะจากเหงื่อหรือเกลือทะเล) สะสมความชื้นเข้าไป ทำให้ผิวโลหะที่เคลือบอยู่พองตัวแยกออกจากเพลท แต่อาการปุดของมันก็จะหยุดอยู่แค่นั้นนะครับ ปกติจะไม่ลาม และส่วนที่ปุดขึ้นมาก็มีเนื้อแข็งพอสมควร ไม่ลอกออกง่ายๆ หรอก เว้นแต่จะหงุดหงิดกับมันจนไปขูดมันออก ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นใครทำ ส่วนใหญ่จะปล่อยไว้ (เพราะมันไม่ลาม) หนักเข้าทนรกสายตาไม่ได้ก็ขายๆ กันไป หาตัวใหม่เอา ขณะที่ตัวที่ผมซื้อมาใช้เอง เป็น black chrome ซึ่งผมพยายามดูแลอย่างดี (อย่างน้อยก็ดีกว่าของน้องเค้าแหละ) ใช้ผ้าชามัวร์เทียมหมาดน้ำเช็ดเบาๆ ทุกครั้งที่เอาออกไปใช้ข้างนอก เนื่องจากผมเป็นคนที่เหงื่อเยอะพอควร ซึ่งแม้จะใช้งานมานานพอควร แต่ไม่มีอาการสีปุดแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ลอกด้วย คือผมว่า black chrome ที่ลอก น่าจะมาจากการใช้งานที่ serious พอสมควร รูปแบบการใช้งานของมือสมัครเล่นทั่วไปไม่น่าจะลอกได้ง่ายๆ ในเวลา 4-5 ปี ข้อสรุปจากการสังเกตุ ... เท่าที่เห็น M ของเพื่อนๆ และคนรู้จัก รวมทั้งดูจากบรรดากล้องที่ลงขายในอีเบย์ ผมตั้งข้อสังเกตุส่วนตัวว่า บอดี้สีเงิน ถ้าขาดการดูแลรักษาที่ดีแล้ว จะมีโอกาส "สีปุด" ได้ง่ายกว่าสีดำ ... ตรงนี้ไม่ใช่ว่าสีดำจะไม่ปุดนะครับ เคยได้ยินเหมือนกันว่าสีดำก็ปุดได้ แม้จะไม่เคยเห็นกับตาก็ตามครับ ... สรุปก็คือ จะเลือกสีอะไรก็ตาม อยู่ที่เจ้าของต้องดูแลเค้าให้ดีๆ ครับ ถ้าดูแลดีพอ สีอะไรก็ใช้ทนครับ จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 18 มิ.ย. 51 10:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Bessa R3M ครับ View 1:1 สว่างๆเต็มๆตา ราคาจับต้องได้ ของเล่นมามากมาย ผมใช้อยู่ก็ happy ดีครับ ซื้อ Body มีเงินก็ไปลงทุกกับเลนส์อีกตัว ใช้แต่พองาม แบก R3M ไปไหนก็ไม่อายใครครับ ได้ feeling สุดๆ จากคุณ : นายปาฏิหาริย์ - [ 18 มิ.ย. 51 14:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนแรกผมก็ดูชุด R3M 250 ปี เหมือนกันครับ ชอบมาก ราคาดี ลองๆ จับๆ ดูก็ท่าทางแข็งแรง ชัทเตอร์ก็เงียบใช้ได้ วิวสว่างใส แถมกล่องดูดีน่าเก็บอีกตะหาก สุดท้าย ติดที่เรื่องหน้าตาของมันนิดหน่อยที่ดูทันสมัย กับโหดไปหน่อย :D อีกอย่างคือรู้สึกว่า ไหนๆ ก็แพงๆ กันทั้งนั้น ก็เอาให้ตัวเองชอบสุดๆ ไปเลยดีกว่าครับ คงใช้กันอีกเป็นสิบปี จากคุณ : no6i (no6i) - [ 18 มิ.ย. 51 14:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สีปุดนี่เท่าที่พบเห็น นี่น่าจะเกิดจากการ ชุบโลหะที่ไม่สมบูรณ์นะครับ จะเป็นกับทุกสีในช่วงเวลาหนึ่งที่ผลิต เพราะถ้าสีปุดเกิดจากเหงื่อนี่คงต้องใช้งานกันแบบสุดๆไปเลยครับ ไม่น่าจะใช่ว่าเกิดจากเหงื่อครับ จากคุณ : maple - [ 18 มิ.ย. 51 20:44:12 A:124.120.135.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เจ้าของกระทู้แจ้งข่าวครับ สรุปว่ารับ R4M มาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเลนส์ก็ยังตามหา Summicron ต่อ แต่ช่วงนี้ถ้ารอไม่ไหวคงไปหาเลนส์โวกมาเล่น เข้ามาดูเป็นกระทู้เรทติ้งดีเหมือนกันแฮะ ความรู้เพียบเลยครับ ยังไงฝากตัวเป็นสมาชิกกล้องเก่าด้วยครับ จากคุณ : Rollo Tomassi - [ 18 มิ.ย. 51 22:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แหมเจ้าของกระทู้ไปซะแล้ว ดีใจกับกล้องใหม่ด้วยนะครับ :D ของผมตะกี๊ก็เกือบได้เสียตังค์ละ แต่ดันง่วงจนหลับ ลืม bid ... พลาด M6 Titan เลย (แต่จริงๆ คือบ่จี๊ อิๆ) ปล R4M นี่ถ้าใช้กับ 50mm แบบคนใส่แว่น จะไหวมั๊ยครับ จากคุณ : no6i (no6i) - [ 19 มิ.ย. 51 02:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 R4 ใช้กับเลนส์ 50 mm จะโฟกัสยากหน่อยครับ เล็กไป ถ้าใส่แว่นด้วยมีสิทธ์พลาดได้นะ จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 19 มิ.ย. 51 10:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ปกติถ่ายไวด์มากกว่าครับ เลยจับ R4 คิดว่าจะใช้กับช่วงต่ำกว่า 35 อยู่แล้ว แต่ก็ต้องลองก่อนครับ ช่วงนี้ก็หารูปมาดูไปก่อน จากคุณ : Rollo Tomassi - [ 19 มิ.ย. 51 14:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณจอมมารไปคลอด ไลก้าไททาเนียมมาอีกหรือครับ ผมติดใจไลก้า black paint ได้มานั่งถูอยู่ 7 วันขอบขึ้นทองเหลืองแล้วชอบมากๆๆ คนที่ไม่ชอบกล้องที่ลอกถลอกต้องผ่านตัวนี้ไปเลยครับ ขนาดเคลือบสีมาอย่างดีนะ หลายคนขายทิ้งเพราะเรื่องนี้แหละ แต่ผมหามาเพราะอยากใช้ให้ขอบมันลอก จากคุณ : patar - [ 20 มิ.ย. 51 16:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 m6 ti ผมได้มาหลายเดือนแล้วล่ะครับ งานมีทติ้งก็เอาไปนะ น่าจะเห็นผมแขวนคอนะ ไม่ทราบว่าพี่ patar ปล่อย m4p ไปแล้วหรือยังครับ? จากคุณ : จอมมารพุงโต - [ 20 มิ.ย. 51 17:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มานั่งฟัง น้ำลายไหล อิอิ จากคุณ : โอครับ - [ 10 ก.ค. 51 17:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่รู้ใครจะตามอยู่มั้ย จะบอกว่างบมันบานไป m6 ttl + 35 summicron ไปแล้วครับ ถ่ายไปห้าหกม้วนแล้วจ้า ไว้จะมาอวดนะครับ จากคุณ : rollo tomassi (Rollo Tomassi) - [ 15 ส.ค. 51 21:23:26 ]