ความคิดเห็นที่ 1 สงสัยยังไม่ตื่นกัน เสร็จเรา เอิ๊ก ๆ 1. ตอบง่าย ๆ แบบไม่ใช้ภาษาเทพ เค้าเรียกกันทั่วไปว่า พุชฟิล์ม(Push) ครับ ประหนึ่งว่าเป็นการหลอกฟิล์มว่าขณะนี้ความไวแสงของมันเพิ่มขึ้นแล้วเพื่อเราจะได้ใช้สปีดชัตเตอร์สูงขึ้นนั่นเอง เกรนจะเด่นชัด คอนทราสจะเพิ่มขึ้นจริงตามที่บางคนบอกมาจริงครับ แต่อย่านึกว่าฟิล์มทุกตัวจะโง่หลอกง่ายเหมือนกันหมดนะ หุ หุ หุ 2. มีฟิล์ม 400 แต่ตั้งความไวแสงได้แค่ 200 ในฐานะผู้บริโภคนั่นก็เท่ากับว่าเราถูกเอาเปรียบ ฟ้อง สคบ.เลย เอิ๊ก ๆ เอาจริง ๆ ก็คือ เราจะเข้าสู่โหมด Pull (แทนที่เป็น Push) เพราะจำต้องถ่ายรูปที่ความไวแสงต่ำกว่า ISO จริงของฟิล์ม ผลก็ตรงกันข้ามกับพุชคือ คอนทราสจะลดลง รายละเอียดในเงามืดจะดีขึ้น 3. ไฟล์เล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าเอาไปทำอะไรต่อ ถ้าแค่เอามาโพสต์อวดกันตามเว็บ 700กว่าเค ถือว่าใหญ่โตเกินความจำเป็นด้วยซ้ำครับ จากคุณ : George (Sonnar Devotee) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 07:26:32

ความคิดเห็นที่ 2 เสริมนิดหน่อย กรณีคุณจอร์จบอกไปนี่พูดถึงการล้างฟิล์มแบบปกติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรตามเวลามาตรฐาน แต่ถ้าจะชดเชย ก็อาจจะปรับเพิ่มหรือลดเวลาล้างล้างฟิล์มได้ ทำได้ทั้งเนกาทีฟสี,ขาวดำ หรือ แม้แต่ฟิล์มสไลด์ เพื่อให้ภาพที่ได้มีแสงพอดี แต่ทั่วไปแฃ้ว จะเห็น push ฟิล์มขาวดำเป็นหลัก อาจจะมีการ pull ลงมาบ้าง เพือเพิ่มรายละเอียดในเงามืด จากคุณ : nop0611 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 07:45:09

ความคิดเห็นที่ 3 เสริมอีกนิด ในกล้องฟิล์มที่มีโหมด A ยุคแรกๆ  เค้าใช้การปรับค่า ISO ในการชดเชยแสงครับ ถ้า push/pull ไป  เพื่อให้ได้ภาพปกติ ก็ต้องเปลี่ยนเวลาในการล้างด้วย ส่วนถ้าฟิล์ม 400 แล้วตั้งค่าได้แค่ 200 ถ้าวัดแสงพอดี ภาพก็จะโอเวอร์ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:04:13

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็มือใหม่เหมือนกันนะครับ เอาเท่าที่ผมอ่านมามั่วๆนะครับ   ถ้าผิดพลาดรบกวนเสริมเลยนะครับ เพราะผมก็ยังล้างฟิล์มไม่เป็น เลย ไม่เคยลองทำเองเลย ถือซะว่าแชร์กันนะครับ 1.สมมติ ในสภาพแสงนั้น ที่ ISO 100 วัดได้ Speed 1/30   ที่ ISO 200 วัดได้ 1/60 (นับถูกเปล่าหว่า) การเร่ง ISO มากขึ้นจากฟิล์ม เช่นฟิล์ม 100 แต่ตั้งที่กล้อง 200 ที่แน่ๆอย่างนึงคือ จะทำให้ได้ Speed shutter เพิ่มขึ้นครับ เหมือนโกงการวัดแสงของกล้อง ส่วนใหญ่ผมเห็นเค้าจะทำตอนถ่ายในที่มืด เพื่อให้ภาพไ่ม่สั่น (ในทางเทคนิคการถ่ายนะครับไม่เกี่ยวกับการสร้าง Effect ของภาพนะครับเช่น contrast หรือ เกรน อันนั้นผมไม่ทราบ แหะๆ) แต่ผลการทำแบบนั้น ทำให้แทนที่ฟิล์มจะได้รับแสงพอดี กลับได้รับแสงน้อยลง เพราะกล้องนึกว่า ISO 200 จึงปิด Shutter เร็วขึ้นเป็น 1/60  แทนที่จะเป็น 1/30 ซึ่งภาพที่ได้จะได้รับแสงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จึงมืดลง หากอยากให้ภาพสว่างพอดี ก็ต้องชดเชยการมืด ด้วยวิธีการล้างแทนครับ โดยต้องใช้สูตรการล้างอีกแบบหนึ่ง ซึ่งต่างจากการล้างแบบตรง ISO ตามปรกติ โดยการเปลี่ยนสูตรการล้างจากปรกติ อาจจะส่งผลให้เกิด Effect ต่างจากปรกติที่ฟิล์มนั้นให้ครับ ( contrast เกรน ฯลฯ) การที่ฟิล์ม 100 แต่เราถ่ายที่ iso มากขึ้น เช่น 200 400 จะเรียกว่า Push Film การที่ Film 200 แต่เราถ่ายที่ iso ต่ำลง เช่น 100 50 จะเรียกว่า Pull ครับ 2. อันนี้ไม่ทราบอ่ะครับ 3.เท่าที่ผมลองนะครับ ถ้าสแกนแถมจากตอนล้างน่าจะแบบนั้นครับ ผมไปถามร้านโปรๆที่รับสแกนได้ไฟล์ใหญ่ ราคาโหดมาก 200-300 ++ ไรแบบนั้นเลย อีกอย่างที่เห็นชัดคือ เนื้อไฟล์อ่ะครับ เพราะรู้สึกเนื้อไฟล์ที่ผมสแกนแถมจากร้านตอนล้าง ดูแล้วมันต่างกับที่น้าๆ สแกน ลงในเวบมากเลยครับผมก็กำลังหาข้อมูลเรื่อง Scanner เหมือนกันครับ จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 13:43:07

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ :D จากคุณ : กินผักเพื่อสุขภาพแข็งแรง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:25:16

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแวะมาลองตอบนะครับ  เพราะผมน่าจะพอรู้เรื่องนี้พอสมควร 1.  ถ้ากำหนดค่าน้อยกว่า iso ฟิล์ม จะเรียกว่า pull film   แต่ถ้า       กำหนดให้ค่ามากว่า iso  ฟิล์ม จะเรียกว่า push film   ทั้งสองอย่าง มีจุดประสงค์แตกต่างกัน     ถ้าเป็นฟิล์มสี  มักจะ push เพื่อ เน้นถ่ายในที่มืดๆ  โดยได้สปีดที่ยังไวอยู่   แต่เมื่อเวลานำไปล้าง  ต้องแจ้งผุ้ล้างว่า ได้ push (pull)ไปกี่สต๊อป   เพราะจะได้เพิ่ม(ลด)เวลาล้างจากปกติ     อีกอย่าง  จะ push หรือ pull ฟิล์ม นั้น  ต้องทำทั้งม้วนเลย     ส่วนใหญ่ แทบไม่ค่อยได้เห็น pull ในฟิล์มสี เท่าใดนัก   แต่ใน ฟิล์มขาวดำ  นั้น  มักจะ pull ฟิล์มเป็นหลัก  เพื่อหวังผลในส่วน ดีเทลในที่มืด   ตามหลักการถ่ายขาวดำ คือ  "exposure for shadow   develop for highlight"     แต่มีบ้างที่ต้อง push เพื่อเน้นถ่ายในที่แสงน้อยเช่นเดียวกับฟิล์มสี   ซึ่งบางครั้ง ในการถ่ายขาวดำมักตั้ง iso ให้น้อยกว่า 1/3 สต๊อป จากฟิล์ม ซึ่งการทำแบบนี้เรียกในศัพท์แวดวงขาวดำว่า  ค่า  EI  (Exposure Index)   ซึ่งค่า EI มักจะมาจากการทดลองของแต่ละคน ดูภาพประกอบจากข้างล่างได้นะครับ    จากรูป ผมถ่ายแผ่นเกรย์การ์ด ด้วยฟิล์ม 400 ม้วนเดียว   แต่ตั้งค่าต่างกัน  โดยตั้งค่า iso (หลอกเครื่องวัดแสงกล้อง)   ด้วยค่า 200  280  320และ 400  โดยเฉพาะเฟรมที่ผมนำมาให้ดู   ผมถ่ายมาที่ -2 stop จากเครื่องวัดแสงในตัวกล้อง   เมื่อล้างเสร็จ แล้ว ผมนำไปอัดด้วยเครื่องอัดขาวดำ โดยใช้ค่า dmax ผลที่ได้อย่างที่เห็นครับ     ผมถึงได้รู้ว่า ทำไม ถึงต้องหาค่า IE ในฟิล์มขาวดำ    ให้สังเกตดู ที่ความมืด  จะเห็นว่า ค่า 320 จะยังคงรายละเอียดอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็น ค่า 200 280 นั้น ยังไม่ดำพอ   แต่ถ้าค่า 400 นั้น ดำแบบมืดๆ   ทั้งนี้เพราะเฟรมที่ผมชดเชย -2 ที่ผมถ่ายจากเกรย์การ์ดนั้น น่าจะอยู่ในโซน 3 โดยคร่าวๆ  ซึ่งจะต้องมีลักษณะ มืดดำแต่ยังคงมีรายละเอียดอยู่   ที่ผมทดลองนั้น เป็นแค่การหาค่าแบบคร่าวๆ  ไม่ใช่โซนซิสเต็มอย่าง แท้จริง เพราะต้องพึ่งอุปกรณ์ และต้องอาศัยความรู้อีกเยอะ จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:39:28

ความคิดเห็นที่ 7 เฉพาะกรณีกล้องที่ปรับตั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์เอง และฟิล์มขาวดำ นะครับ ข้อหนึ่ง ในกรณีฟิล์ม asa400 แต่ปรับตั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ตามเครื่องวัดแสงในกล้องที่ตั้งค่า asa ไว้ที่ 200 ฟิล์มจะรับแสงมากขึ้น 1 สต็อป ในกรณีฟิล์ม asa400 แต่ปรับตั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ตามเครื่องวัดแสงในกล้องที่ตั้งค่า asa ไว้ที่ 800 ฟิล์มจะรับแสงน้อยลง 1 สต็อป กรณีฟิล์มรับแสงมากขึ้น มีแนวโน้มว่าควรจะลดเวลาล้างลง เพื่อลด density ของฟิล์มชดเชยกัน กรณีฟิล์มรับแสงน้อยลง มีแนวโน้มว่าควรจะเพิ่มเวลาล้างขึ้น เพื่อเพิ่ม density ของฟิล์มชดเชยกัน   อย่างไรก็ตามการปรับเวลาล้างยังมีปัจจัยพิจารณาอื่นอีก ข้อสอง ในกรณีฟิล์ม 400 แต่มีที่ปรับถึงแค่ 200 เท่ากับเวลาวัดแสงออกมาจะรับแสงมากไปสต็อปนึง เราก็ทดรูรับแสงหรือความเร็วชัตเตอร์ จากค่าที่เครื่องวัดแสงระบุ ให้รับแสงน้อยลงสต็อปนึงชดเชยกันครับ จากคุณ : อา ตง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 02:43:45

ความคิดเห็นที่ 8 ความรู้เพียบสุดๆ ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ จากคุณ : กินผักเพื่อสุขภาพแข็งแรง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 09:28:56

ความคิดเห็นที่ 9 เยี่ยมครับ ได้ความรู้เพิ่มทั้งมือเก่าและมือใหม่ จากคุณ : dong dong เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 11:20:27

ความคิดเห็นที่ 10 รบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ "...จะ push หรือ pull ฟิล์ม นั้น  ต้องทำทั้งม้วนเลย..." หมายความว่า ในม้วนเดียวกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนเดี๋ยว push เดี๋ยว pull ได้เหรอครับ ถ้าสมมติเราเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ผลจะเป็นยังไงครับ (กล้องจำค่าแรกที่เราตั้ง?) ขอบคุณมากครับ ^_^ จากคุณ : กินผักเพื่อสุขภาพแข็งแรง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 12:08:29

ความคิดเห็นที่ 11 พุช กับ พูล ฟิล์มในม้วนเดียวกัน ล้างออกมาก็จะมีภาพโอเวอร์ อันเดอร์ หรือพอดี ตอนล้างมันต้องล้างทั้งม้วน ที่เวลาใดเวลาหนึ่ง ไม่สามารถตัดเป็นภาพๆว่าภาพนี้พุช ภาพนี้พูลได้ครับ ยกเว้น กล้อง Large fomateที่ล้างฟิล์มเป็นแผ่นๆไป จากคุณ : dong dong เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 12:52:01

ความคิดเห็นที่ 12 ลองเขียนตามที่ผมเข้าใจนะครับ ผิดพลาดยังไง น้อมรับคำติติงแก้ไขครับ ค่า EI ในเชิงของ personal true film speed ครับ เป็นค่าความไวแสงที่เราตั้งให้เหมาะสมกับระบบการ ถ่าย/ล้าง ของเราเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ขึ้น โดยมีสมมติฐานว่าฟิล์มมีความไวแสงไม่ตรงกับที่ระบุข้างกล่องเนื่องจากการผลิตหรือการเก็บรักษา และน้ำยาหรือกระบวนการล้างที่แตกต่างกัน มีผลกับความไวแสงของฟิล์ม จึงต้องมีการปรับตั้งความไวแสงที่เครื่องวัดแสงให้เหมาะสมกับสภาพดังกล่าว อันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ช่างภาพอาชีพมักจะสั่งซื้อฟิล์มเหมาเป็นล็อตใหญ่ๆ เพื่อจะให้เกิดตัวแปรน้อยที่สุดครับ ผลกระทบของการตั้งค่า EI นี้เห็นไม่ชัดนัก โดยเฉพาะในฟิล์มขาวดำ ส่วนที่เห็นได้หน่อยมักจะเป็นส่วน shadow detail แต่สามารถชดเชยได้หลายทาง ส่วนการหาค่า EI นี้ก็จะได้มาจากการทดสอบ ขั้นตอนอย่างง่ายก็เป็นดังที่น้า NAF ได้แสดงไว้ด้านบนแล้ว การทดสอบนี้ถ้าจะให้แม่นยำ จะทำต่อ ฟิล์ม 1 ยี่ห้อ/รุ่น/ล็อต และกระบวนการล้าง 1 แบบ/น้ำยา/เวลา/อุณหภูมิ เท่านั้นครับ ส่วนตัวผมใช้กระบวนการตามลิงก์ด้านล่างนี้ครับ ซึ่งจะโยงใยไปถึงการทดสอบหาเวลาล้างเฉพาะด้วย http://www.paulwainwrightphotography.com/biblio_files/use_your_eyes.pdf จากคุณ : อา ตง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 12:54:58

ความคิดเห็นที่ 13 ค่าต่างๆที่โรงงานผู้ผลิตให้มาเพียงพอที่จะเล่นได้อย่างมีคุณภาพแล้วครับ เพียงแต่ต้องควบคุมกระบวนการให้ได้ด้วยตัวเองทั้งหมด ถึงจะได้ผลครับ วัดแสง ถ่ายภาพ ล้างฟิล์ม ครับ หลักๆมีอยู่เท่านี้ครับ อ่านข้อมูลจากพวกคู่มือการใช้ให้มีข้อมูลเพียงพอ สงสัยก็ถามเข้ามามีคนช่วยตอบแยะครับ มีความสุขกับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มครับ จากคุณ : NENO-C เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 15:26:45