PANTIP.COM : O3004270 @ฟื้นคลังกระทู้เก่า@ =-=-=เทคนิคการถ่ายภาพงานแต่งงานแบบ กันเอ๊ง...กันเอง=-=-= []

@ฟื้นคลังกระทู้เก่า@ =-=-=เทคนิคการถ่ายภาพงานแต่งงานแบบ กันเอ๊ง...กันเอง=-=-=

หลังจากอดตาหลับขับตานอน โพสต์รูปกระทู้ที่แล้วจนเสร็จ ตอนแรกๆ ก็โดนขอร้องแกมบังคับมาว่า ให้ช่วยบอกวิธีวางไฟ จัดไฟ ในการไปถ่ายงานแต่งงานให้ด้วย แต่เนื่องจาก ผมเอง ไปแหย่คนอื่นเล่นซะจน ไม่กลายเป็นกระทู้วิชาการเอาซะเลย เอิ้กกก เลยมาขอตั้งกระทู้ใหม่แล้วกันนาครับ แต่ก็คงใช้รูปงานแต่งพี่พัดมาประกอบคำอธิบายด้วยแล้วกัน เหะ เหะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการที่ผมใช้อาจจะไม่ได้เป็นสากล หรือว่าถูกต้องซะทีเดียว เพราะผมเอง ก็ได้มาจากการอ่านบ้าง
หลอกถามคนอื่นบ้าง คิดไปเองบ้าง ว่าอย่างนี้อย่างนั้น มันคงจะดีแหล่ะ ดังนั้น อย่าเชื่อผมไปซะหมดนะครับ อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัว คิดตามไปด้วยแล้วกัน

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 02:01:45]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 1

การไปถ่ายงานแต่งงานคราวนี้ ผมเอาชุดไฟสตูดิโอติดไปด้วย 1 ดวง คือ Bowen Mono 1500 Watt หน้าตาก็คล้ายๆ หม้อหุงข้าวบ้านเราดีๆนี่เอง มีโคมกระจายแสง บานๆเล็กน้อย คล้ายๆ ฮูดของ 28-70G ปรับตั้งกำลังไฟได้ตั้งแต่ full ไปจนถึง 1/16 เท่าเลยทีเดียว มีไฟนำ หรือศัพท์เทคนิคที่เค้าเรียกกันว่า Modelling light ปรับตั้งกำลังไฟได้เท่ากัน คือ full ถึง 1/16 มีเสียงเตือน เมื่อไฟชาร์จเต็ม

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 02:11:59]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2

การจัดไฟดวงเดียว โดยวางไฟไว้หน้างานบริเวณซุ้มดอกไม้ที่บ่าวสาว จะคอยยืนต้อนรับแขกนั้น จริงๆ แล้วไม่ยุ่งยากอะไรเลย วิธีการก็คือ ผมเลือกใช้ไฟที่มีกำลังวัตต์สูงๆ เพื่อ จะได้แบ่งกำลังไฟลดลงไปได้เยอะ แล้วยิ่งแบ่งกำลังไฟลงไป ก็จะยิ่งชาร์จไฟเร็วขึ้นในการยิงแต่ละครั้ง ไม่ต้องไปเสียเวลารอ bounce แฟลชยิงขึ้นไปกับเพดานให้สะท้อนแสงลงมากระจายเต็มห้อง ภาพที่จะใสเคลียร์กว่ากันมากขึ้นกว่า การยิงแฟลชจากหัวกล้องอย่างเดียว

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 02:22:28]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3

พอมาถึงหน้างาน ผมเองก็อึ้งๆอยู่เหมือนกัน เิริ่มเจอโจทย์ที่คิดว่า ต้องตีให้แตก ม่ายงั้นหัวตัวเองอาจแตกเองได้ มันต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาตรงที่ บริเวณส่วนหน้างานนั้นมีขนาดเล็กมาก ทางเดินกว้างราวๆ5 เมตรเท่านั้น เพดานสูงราว 4 เมตร ซุ้มดอกไม้ ก็จัดวางเอียงๆ ไม่ทำมุมระนาบกับผนังด้านใดด้านนึงเสียอีก ส่วนด้านตรงข้ามเยื้องๆกับซุ้มดันมีผนังกระจก แผ่นเบ้อเร้อ นัยว่า ติดไว้เพื่อให้สะท้อนให้ห้องที่ดูเล็กๆ นั้นดูใหญ่ขึ้น แต่นี่หล่ะครับ ปัญหาใหญ่เลย
มันยากตรงที่ หากใช้การ bounce flash กับเพดานอย่างที่บอกไปข้างต้น จะต้องหามุมดีๆ ที่แสงแฟลช จะไม่สะท้อนกระจกออกมา ผมเลยจำเป็นต้องหงายแฟลชขึ้นสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำมุมราวๆ 160-170 องศาจากพื้น(เกือบๆตั้งฉาก) เพื่อให้แสงที่ทำชิ่งกับเพดาน ไปตกหลังบ่าวสาวพอดี และหันหน้าเยื้องออกจากกระจกให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดแสงสะท้อนออกมา ปรับกำลังไฟให้เหลือเพียง 1/16 เพื่อให้ชาร์จไฟได้เร็ว ทดลองวัดแสงได้ครั้งแรก 1/125 f:11 กว่าๆ ที่ ISO 200 ด้วยเครื่องวัดแสงมือถือ Minolta IV-Fเลยต้องถอยไฟให้ออกมาไกลจากซุ้มอีกหน่อย เพื่อให้ได้ f:11 และจะใช้ค่านี้ บันทึกภาพตลอดงานหน้าซุ้มดอกไม้
ผมไม่ได้ใช้สาย syncแฟลชเข้ากับตัวกล้อง เนื่องจากว่า ผมทำไอ้เจ้าตัวปิด ช่อง syncแฟลชหาย แล้วดันอุตริ เอาพลาสติกอะไรก็ไม่รู้ไปยัดๆ ปิดไว้แก้ขัด ทีนี้ ดันดึงไม่ออก กล้องผมเลยกลายเป็น ไม่มีช่องเสียบสาย sync flash ไปซะฉิบ เอิ้กกกกก
การแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือ ติดตัวเซ็นเซอร์ตัวนึง ที่เรียกกันว่า ตาแมว หรือ Slave เอาไว้ที่ตัวแฟลชสตูฯ มันจะ่ำทำงานต่อเมื่อได้รับแสงแฟลช จากแฟลชตัวอื่นไปกระตุ้น ก็เอาตัวรอดไปได้อีกงาน

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 02:45:20]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4

ทีนี้มาดูภาพประกอบกันได้เลยครับ

หลังจาก set up ตำแหน่งและกำลังไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เวลาถ่ายจริง ผมใช้แฟลช 5400HS และ 5600HS จากหัวกล้อง เป็นตัวสั่งยิง slave ที่ตัวแฟลชสตูดิโอเลย โดยไม่ต้องตั้งชดเชยแสงอะไรทั้งนั้น ทีนี้แฟลชสตูฯจะทำหน้าที่เพียงแค่ เป็นแสงเสริมบรรยากาศให้สว่างขึ้นเท่านั้น แต่ subject จะได้รับแสงแฟลชเต็มๆ จากหัวกล้อง ดังนั้น หากหัวกล้อง ชดเชยแสงแฟลช อันเดอร์เมื่อไหร่ นั่นหมายถึง มันจะฉายแสงน้อยกว่า แฟลชเสริมทันที ส่งผลให้สีของภาพนั้นไม่อิ่ม เนื่องจากตัวแบบโดนแฟลชไม่เพียงพอ จะติดสีของไฟ หรือ บรรยากาศของห้องนั้นๆไปได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลืองๆ
ส่วนเรื่องแฟลชหัวกล้อง ที่บางคนอาจจะกังวลว่า มันจะตัดแสงทันเหรอ? หรือกลัวว่ายิงแฟลชสตูฯไปแล้ว ยิงที่หัวกล้องซ้ำเข้าไปอีก ภาพจะไม่โอเวอร์ไปกันใหญ่หรือเปล่า ผมบอกได้เลยครับ ว่าไม่มีทาง จำไว้อย่างนึงว่า โดนแสงแฟลชเอาไว้เยอะๆ ดีกว่า โดนน้อยๆครับ เพราะจะแก้ใน negative ยากมากๆ
ภาพนี้คือภาพที่ฟิล์มได้รับแสงถูกต้อง การจัดแสงลงตัวจะไม่มีเงา เิกิดขึ้นด้านหลังตัวแบบ ถึงจะมีก็น้อยมากๆ

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 02:57:51]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5

ส่วนตัวอย่างภาพนี้ แสดงให้เห็นถึงว่า ตัวแบบโดนแฟลชไม่เพียงพอ โดนแต่แฟลชจากหัวกล้องเท่านั้น ในช่วงจังหวะนี้ คาดว่าคงมีคนเดินไปเตะปลั๊กไฟ ทำให้ ไฟสตูฯไม่ทำงาน ภาพที่ได้จะสีขุ่นๆ และจะมีเงาแข็งที่ด้านหลัง

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:01:06]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6

อันที่จริง การถ่ายภาพด้วยไฟดวงเดียว อย่างที่ผมทำอยู่นี่ เป็นเรื่องที่ง่ายมากจริงๆ หลักการทำงานก็เหมือน wireless flash ของมินอลต้าเอง คือแฟลชหลักจะยิงแสงเข้าไปตรงๆ ส่วนแฟลชรอง ที่แยกออกจากตัวกล้องจะเป็นเพียงตัวลบเงาเท่านั้น
อย่างในภาพนี้ น้องอิก ผู้ซึ่งเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องทฤษฏีแฟลชได้ลองเล่น wireless โดยผมคาดว่า น้องเค้าคงใช้แฟลชติดหัวกล้องอันนึง ส่วนอีกตัว ใช้wireless ยิง bounce กับเพดาน เป็นไงครับ หลักการ เหมือนกับไฟสตูฯที่ผมกล่าวๆ มาเปี๊ยบบบบ เลย เปลี่ยนแค่ จากการใช้มิเตอร์วัดแสดงแฟลช มาเป็นระบบ TTL อันล้ำยุคของกล้องมินอลต้า ของเค้าดีจริงๆครับ

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:07:56]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7

ทีนี้ ก็คงจบจากเรื่องการวางไฟสตูฯหน้างานกันสักทีนะครับ มากล่าวถึงเรื่องของการถ่ายภาพในงานกันบ้าง
สำหรับ ภาพในงานเลี้ยงนั้น แน่นอน สภาพแสงต้องน้อยอยู่แล้ว ผมเลือกใช้ฟิล์ม Fuji Superia400 เพื่อสามารถเก็บสภาพแสงต่างๆภายในห้องได้อย่างดี มิใช่ ยิงแฟลชออกไปแล้ว subject สว่างพอดี แต่แสงด้านหลังมืดไปหมด ใช้ระบบบันทึกภาพแมนนวล ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ ซึ่งในที่จริงแล้ว ก็ไม่ค่อยสนใจค่าแสงซักเท่าไหร่นัก
เพราะค่าแสงจริงๆในห้อง คงน้อยมากอยู่แล้ว ใช้สปีดชัตเตอร์ให้ต่ำที่สุดเท่าที่เรามั่นใจว่าจะถือได้นิ่งพอ ผมเลือกที่ 1/30 ส่วนรูรับแสง ก็ให้เลือกที่กลางๆหน่อย ก็คือ f:5.6 หากแคบกว่านี้ กำลังแฟลชจะลดลงไปเยอะ เปิดแฟลช TTL เต็มกำลัง ไม่ต้องชดเชยใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องของแสงฉากหลังที่ในภาพนี้มันเก็บได้ไกลมาก ไปจนถึงหน้าเวทีเลย เนื่องจาก ผมไปขอตกลงกับคนควบคุมไฟว่า ขอให้ช่วงนี้ เค้าเร่งไฟให้สว่างจนสุดเลย

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:16:06]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ขอเสริมอีกนิดตรงที่ว่า เวลาถ่ายภาพแขกตามโต๊ะ หากเป็นไปได้ ให้ยกกล้องขึ้นสูง เพื่อไม่ให้ติดจานอาหารข้างหน้า
และหากรู้สึกว่า ในภาพนั้น มีคนเยอะเกินไป หรือแขกบางคนทำหน้าเหม็นเบื่อ ไม่ค่อยอยากจะร่วมถ่ายภาพด้วยนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นแขกที่นั่งริมๆในภาพ ให้ซูมครอปเอาคนพวกนี้ออกไปเลย เก็บไว้ก็รำคาญลูกตา แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่า เจ้าของงานจะรู้นะครับ ว่าไม่ได้ถ่ายแขกคนนี้ เพราะเค้าเองก็คงจำไม่ได้เหมือนกัน ว่าในจังหวะนั้ัน มีใครบ้าง 5 5 5 5 ผมทำบ่อยครับ วิธีนี้
ทีนี้มาถึงในเรื่ององค์ประกอบภาพกันบ้างครับ ใครว่าถ่ายงานแต่ง ก็แค่เป็นภาพบันทึกเหตุการณ์ทั่วๆไป ถ่ายให้ชัดโฟกัสให้ดีเข้าว่า ก็พอแล้วแค่นั้น จริงๆการถ่ายภาพทุกแขนงก็คือศิลปะแหล่ะครับ หากคุณคิดแค่นั้น คุณก็จะเริ่มเบื่อการถ่ายภาพไปเอง และจะไม่พัฒนาไปได้ไกลมากนัก
อันที่จริง เราสามารถใส่ไอเดีย เข้าไปในงานประเภทนี้ได้ แต่ต้องดูด้วยว่า ผู้จ้างจะรับได้มั้ย ลองมาดูกันสัก 2-3 ตัวอย่างแล้วกันครับ

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:27:03]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9

ผมชอบภาพนี้ ครับ ฟิลลิ่งดีชมัด ถ่ายไว้โดยจานเบิ้ม
เป็นภาพแคนดิดที่น่ารักจริงๆ ใบหน้าเจ้าสาว สดใสร่าเริง หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ ก็วันแห่งความสุขนี่ครับ หากเจอจังหวะแบบนี้ กดๆ ไปเหอะครับ ภาพไม่เสียแน่นอน เจ้าของงานมาดู ก็คงยิ้มแก้มแตกอยู่เหมือนกัน และก็คงคิดไปว่า ตูทำลงไปได้ยังไงฟ่ะเนี่ย เอิ้กกกกก

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:30:01]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10

หากคุณมีซูมมุมกว้างมากๆ อย่าง 20-35 หรือ 17-35 หล่ะก็ อย่าลืม นำติดไปงานประเภทนี้ด้วยนะครับ เพื่อสร้างภาพที่แปลก แหวกแนว ออกไปบ้าง ภาพนี้เอาดอกไม้เป็นฉากหน้าเลยครับ มุมเงยขึ้นสุดๆ ไม่สนใจว่าตัวคนจะบิดเีบี้ยวแค่ไหน ซูมที่ช่วงกว้างสุด คือ 17 แฟลชมันจะกระจายแสงไม่ถึงขอบภาพก็ช่างมัน

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:35:21]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11

ถ้าในงานนั้นๆ มีช่างภาพ เกินกว่า 1 คน ก็ควรแบ่งหน้าที่ถ่ายภาพกันออกไป คนนึงอยู่หน้าเวที อีกคนอาจอยู่ข้างเวที หรือคอยเก็บภาพแคนดิด เอาไว้

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:37:53]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12

ภาพจากด้านข้างเวที หากมีเวลาพอ ก็ควรถ่ายเก็บไว้ด้วยครับ แต่ไม่ควร มากเกิน สัก 2-3 ภาพก็พอแล้ว

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:39:59]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13

ภาพนี้ ผมได้แนวคิดมาจาก Theme บางตอน ในหนังฝรั่งบางเรื่อง ประมาณว่า เจ้าสาวคือเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ที่มีชื่อเสียง มีแต่คนห้อมล้อม เป็นคนดัง ผมจัดให้มีช่างภาพอยู่ด้านหลังของเจ้าสาว สัก คนสองคน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เจ้าสาว เป็นคนสำคัญ มีคนคอยตามถ่ายภาพเยอะ เว้นจังหวะไฟด้านหลัง ให้พอดีๆ เหมือนสร้างกรอบให้กับภาพ
การถ่ายให้ติดผู้คนเยอะๆ แล้วคนๆเดียวหันหน้ามาทางเรา จะสร้างจุดเด่นให้กับภาพได้ครับ ส่วนคุณลุงคนที่ยืนลุกขึ้นมา ก็เล็งมุมกล้องให้หัวแก ไปบังไฟกล้องวีีดีโอซะเลย ไม่งั้น อาจแฟลร์ได้

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:46:38]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14

การใช้ประโยชน์จาก perspective ของเลนส์ super wide
ก็สามารถ สร้างภาพที่น่าสนใจได้นะครับ ผมจัดให้โต๊ะอยู่ใกล้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ แล้วถีบ บ่าวสาวให้กลายเป็นฉากหลังออกไป เอาเพดานมาเป็นเส้นนำสายตา

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:52:44]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15

หากเป็นภาพบ่าวสาวกับเพื่อนๆ ที่สนิทๆกัน
เราอาจลองเล่นอะไรแปลกๆด้วยการลองเอียงมุมกล้องดูก็ได้นะครับ แต่อย่าเที่ยวเอียงซี้ซั้ว จัดองค์ประกอบให้ดีก่อนแล้วค่อยลองครับ

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:55:56]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16

ภาพนี้ของจานอิกถ่ายไว้ ไอเดียดีทีเดียว เสียตรงที่ว่า
จังหวะนั้นเป็นฟิล์ม100 ไม่สามารถ เก็บรายละเอียดของฉากหลังได้มากนัก หากเป็นฟิล์ม400 ผมเชื่อว่า น่าจะเป็นภาพที่บ่าวสาว ชอบมากอีกภาพนึง

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 03:58:13]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17

กับภาพสุดท้ายแล้วครับ
แนวคิดง่ายๆเลย จับจุดเด่นไว้อยู่กลางภาพ นั่นก็คือเจ้าสาวในชุดสีขาว จะตัดกับหนุ่มๆ ที่แต่งสีเข้มๆ จัดองค์ประกอบหลวมๆ นิดนึง เพื่อให้เห็นบรรยากาศภายในงาน ผมพลาดไปนิด ตรงที่เห็นชื่อบ่าวสาวบนเวทีไม่ครบ และเค้กโดนบังไปนิดหน่อย แหะ แหะ แหะ ภาพนี้ฟิล์ม100 ครับ เปิดหมด
1/15 f:3.5 เลย เพื่อเก็บฉากหลัง

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 04:02:58]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18

ภาพเสริมครับ ให้เห็นการวางไฟซุ้มดอกไม้หน้างาน ว่าวางไว้ในแนวไหนกับคนถ่ายภาพ ภาพนี้ จานเชี่ยว เอาไปโพสต์ไว้ในกระทู้อื่น ผมขออนุญาตก๊อบปี้มาอ้างอิงนิดหน่อย
ว่าถึงเรื่องอุปกรณ์นิดหน่อยแล้วกัน งานนี้ผมใช้แต่เลนส์คนอื่นเค้า ของตัวเอง มีเพียงกล้อง เก่าๆ กับแฟลชแก่ๆ แค่นั้น ส่วนเลนส์ตัวพังๆ ก็ปล่อยให้ที่โต๊ะเค้านั่งเล่นกันไป ไม่ได้ถ่ายเลยก็ว่าได้ ตัวที่ใช้บ่อยจริงๆ ก็คือ 17-35G หล่ะครับ ส่วนภาพหน้าซุ้มดอกไม้ ช่วง 28-70 ดูน่าจะลงตัวที่สุด ฟิล์มก็ใช้ Superia 200 ตอนใช้แฟลชสตูดิโอที่หน้างาน ส่วนภายในงาน ใช้ Superia 400 ไม่ต้องไปกังวลเรื่องเกรนมันมากนักหรอกครับ ใช้ฟิล์มไวแสงไปเถิดจะเกิดผล ส่วนขาวดำ ก็เป็น Kodat T400CN ที่นำไปล้างน้ำยาสีได้เลย บางภาพยิงแฟลช บางภาพไม่ยิง ก็แล้วแต่จะมั่วกันไป เอิ้กกกก แต่ที่สำคัญ แฟลชไม่ต้องชดเชย อันเดอร์ใดๆทั้งสิ้น

สุดท้ายแล้ว หวังว่ากระทู้นี้ คงพอตอบข้อข้องใจให้กับหลายๆคน ที่อยากรู้เรื่องการ่ถ่ายภาพแนวนี้นะครับ หากผิดพลาดประการใด หรือรู้สึกว่า ผมขี้โม้ไปหน่อย ก็ขออภัยมา ณ.ทีนี้ด้วยนะคร้าบบบบ

จากคุณ : นายโตรเจน - [5 พ.ย. 44 04:15:36]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19

ความคิดเห็นที่ 19

ยกนิ้วโป้งให้ทั้ง 4 อันเลยนายโตร ยอดเยี่ยมและได้ความรู้ดีมาก สมกับเป็นช่างภาพในตำนานจริง ๆ

คุณสิงช่วยเอาไป save ไว้ในเวปของเราหน่อยได้ไหมครับ

จากคุณ : Mr800Si - [5 พ.ย. 44 08:53:55]

ความคิดเห็นที่ 20

ใช่เลยครับ พี่Mr800Si ได้ความรู้เพิ่มมาอีกเพียบเลย..

จากคุณ : @สนสามใบ@ - [5 พ.ย. 44 09:13:13]

ความคิดเห็นที่ 21

อิอิ
เข้ามาอ่าน
เพิ่มพูนความรู้กับเค้ามั่ง
Thank.

จากคุณ : Tee3307 - [5 พ.ย. 44 10:09:53]

ความคิดเห็นที่ 22

เรามี "อาจารย์" คนใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งคนแ้ล้ว.... อิ อิ จานเน็ตเอ๋ยบอกแล้วงานนี้ดังแน่.....อิ อิ

ปล. ตั้งแต่ไปอาบน้ำมาเนี้ย เนื้อหอมขึ้นเยอะนะ

จากคุณ : เซี่ยงกัวกิมฮ้ง - [5 พ.ย. 44 10:43:25]

ความคิดเห็นที่ 23

สวัสดีคับ จานโตรเจน รับข้าน้อยเปนลูกศิษย์ด้วยซิคับ

จากคุณ : yesiam - [5 พ.ย. 44 11:46:33]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20

ความคิดเห็นที่ 24

อิอิ จากงานนี้ที่ได้ไปเดินตามหลังช่างภาพในตำนาน มา ทำให้ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะ โดยเพราะมุมที่จะ bounce flash นะครับผม จานเน็ตเค้าสอนผมให้ bounce ไปแล้วให้แสงตไปตกหลังตัวแบบไม่ต้องกลัวตัวแบบด้านหน้านัก เมื่อวานไปดูภาพแล้วดีขึ้นจริงๆ ด้วย
เพราะ flash ที bounce ไว้สำหรับลบเงาด้านหลังเท่านั้น
flash ที่หัวกล้องเป็นแสงหลัก
ส่วนภาพที่ผมถ่าย ที่เจ้าบ่าวสาวนั่งหัวเตียง ผมใช้ wireless flash โดย กล้อง D7 กับ 5600
ตั้ง wireless ration จะให้ 5600 เป็น 2: แต่ 5400 เป็น 1�
เพราะตอ้งการให้แสงด้านหลังมแรงกว่าแสงที่ bounce
แต่ด้วยความไม่ชำนาญ กล้อง Dynax7 เลยทำให้ ตั้ง อะไรไม่ค่อยทันนัก
ปลายเป็น 5400 เป็น2 และ 5600 เป้น 1 แทน
ผลทำให้ภาพแสงบนเพดาน มันจะสว่างกว่า แสงที่โดนแบบ
แต่ก็ได้ผลดีคือ ห้องดูสว่างมากๆๆ เลย แต่ถ้าผมได้รับความรู้เรือ่ง bounce flash จาก จานเน็ตก่อนหน้านี้
แสงที่ bounce จากเพดานคงไม่ลงที่หลังเจ้าสาวอย่างเดียวแบบที่เห็นในภาพนะครับ
คงจะดูดีกว่านี้ ไว้คราวหน้าลองใหม่อีกว่า อิอิ

จากคุณ : อิก (อิก) - [5 พ.ย. 44 11:58:24]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21

ความคิดเห็นที่ 25

ปล เมื่อวานแอบไปดูรูปที่บ้านพี่น๊ะพัดมา สังเกตุ ว่ารูปที่ซุ้มดอกไม้ flash ที่โดนตัวแบบ จะ over ไปนิดๆ ออแบบไต้หวั่นเลย ภาพมันก็สวยดี เลยเกิดข้อสงสัยว่า
เป็นเพราะตอนพี่เน็ตจัดไฟ ที่เน็ตไม่ได้ ยิง แสงจาก flash 5600 เข้าไป test ด้วยหรือเปล่า
(ไม่มาไม่ทันตอนจัดไฟนะครับไปหาเพือ่นมา อิอิ )
พอวัดแสง ได้ f11 speed 1/125 แล้วตอนถ่ายจริง ยิง flash 5600 เสริมเข้าไปอีก
ดีที่ 5600 เป็น ttl ตัดการทำงานทันได้แต่ คงยังไม่ทันพอ เพราะแสงจาก ไฟสตู ก็ได้ค่าแสงพอดีแล้ว แสงที่หน้าแบบ เลยดูเกินๆ ไปนิดๆ
แต่ การเกินตรงนี้ กับฟิลม์ neg ไม่เป้นผลเพราะยิ่งถ่าย over เท่าไหร่ สำหรับneg กาทีฟ ทำให้ เกรนมันน้อยลงด้วยนะ
มันสงสัยคาใจเลยขอความคิดเห้นหน่อยนะครับผม

จากคุณ : อิก (อิก) - [5 พ.ย. 44 12:07:14]

ความคิดเห็นที่ 26

ถ้าตอน test ไฟ เราเปิด 5400 ตั้ง กำลังไฟของ 5600 หรื อ5400
ให้ต่ำที่สุด ประมาณ 1/16 อย่างนี้ แล้ว test ไฟ จนได้ ค่าพอดี
ถ่ายออกมา จะดีกว่าไหมครับสงสัยเหมอืนกัน

จากคุณ : อิก (อิก) - [5 พ.ย. 44 12:11:42]

ความคิดเห็นที่ 27

อ่อ เสริมอีกหน่อยจากการถ่ายงานตอนรับตัวเจ้าสาว ผมจะmanual zoom flash ให้อยู่ที่กว้างที่สุดตลอด เพราะเหตุผลที่ว่า แสงมันกระจายกว้าง มันก็มีโอกาสจะไปสะท้อนเพดาน พนังข้างแล้วกลับมาที่ตัวแบบ ทำให้แสงฉากหลังมีโอกาสสว่างขึ้นนิดหน่อย ผล ก็คล้ายๆกับ การ bounce flash นะคับ
ผมใช้ 5600 กับ dynax 7 ข้อดีของ 5600 คือ สามารถ zoom flash ได้กว้างมาก ถึง 17 mm จำได้คราวๆกว่าเกือบ 160 องศา ทีเดียว ผมก็คิดๆในใจว่า ถ้ามันเกือบ จะ 160 องศา ก็คงมีผลพอๆกับการ ยก flash ขึ้น ไปยิงเพดานเลยซินะลอง ดึงแผ่น กระจายแสงมาใช้
ว้าว ปรากฎว่าระยะ flash ยังคงทำงานได้ถึงอยู่ 0.7 เมตร -4.5 เมตร ที่
f 5.6 กะว่าให้มุมแสง flash มันกว้างๆ มันจะได้ไปสะท้อนนู่นๆนี่ๆได้
ภาพออกมาก็ไม่เลวนักนะครับผมผมว่า ลองใช้ๆดูกันก็ได้
fix zoom flash ไปเลยถ่ายในงาน ผมก็ maunal zoom flash ไว้ที่ 24 mm นะครับผม
แต่ต้องพึ่งระวังระยะ การทำงานของ flash หน่อย
ของผม zoom ไว้ ที่ 24กับ flme 200f 5.6 ผมจำได้ว่าระยะ flash อยุ่ที่ 0.7-5 เมตร
ที่ 24 mm นะครับผม ถ้าต้องการให้ระยะมากกว่านี้ ก็ เปิดรูปรับแสงกว้างขึ้นอีกนิดหน่อยนะครับผม

จากคุณ : อิก (อิก) - [5 พ.ย. 44 12:21:36]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22

ความคิดเห็นที่ 28

นับถือครับ นับถือ ผมอ่านๆ แล้วสงสัยอยู่นิดนึงคือตรงที่เน้นบอกว่า ไม่ต้องชดเชยแสงแฟลช นี่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลประการใดเหรอครับ?

จากคุณ : Roy - [5 พ.ย. 44 13:16:33]

ความคิดเห็นที่ 29

เอ่อ.....ไม่อยากขัดคอเลยย.....แต่ คคหที่15น่ะผมว่าเข้าไปยืนทำงด้านซ้ายหรือขวาแล้วcropทั้งกลุ่มผู้ถูกถ่ายให้เต็มเฟรม.....ถ้าเอียงหรือตะแคงกล้องก็จะได้เป็นถาพPerspectiveที่o.k.....อย่างที่ถ่ายมาเนี่ย....การจัดวาง+spaceรอบข้างถือว่าหลวมมาก คู่บ่าวสาวและเพื่อนดูแล้วไม่เด่น ถ้ามีโอกาสcropให้แน่นอย่าง คคห4ดูสิ....สวย
แต่ก็นับถือนะ.....ที่ยังพยายามCreateอะไรใหม่ๆ.....

จากคุณ : Rutz(r_skh@hotmail.com) - [5 พ.ย. 44 17:45:00]

ความคิดเห็นที่ 30

ขอบคุณคุณเน็ตมาก
ดีจัง ผมก้จะรับงานแต่งเอาอีกสัปดาห์นี่เอง
แต่คงจัดเทคนิคอะไรม่ายค่อยได้
มีแค่3500xi เฮ่อ.....

จากคุณ : ชง (meow...ka) - [5 พ.ย. 44 23:33:52]

ความคิดเห็นที่ 31

เขียนดีนิ น่าไปเขียนลงหนังสือนะ่ นายเน็ต

จากคุณ : PUH2O - [6 พ.ย. 44 11:24:40]

ความคิดเห็นที่ 32

ชอบใจมาก เลยโหวตให้แล้วนะจ๊ะ

จากคุณ : หนูหล่อ - [6 พ.ย. 44 14:12:36]

ความคิดเห็นที่ 33

สอนถ่ายภาพ Nud บ้างเด้!

จากคุณ : นายต่อ(ปลอมตัวมา) - [6 พ.ย. 44 14:33:51]

ความคิดเห็นที่ 34

อืม..จะจำเอาไว้ใช้บ้าง
ขอบคุณครับ

จากคุณ : pek (X-700) - [6 พ.ย. 44 19:00:39]

ความคิดเห็นที่ 35

เย้ๆๆ เยี่ยมๆ ครับ ดีจัง...
ผมได้ความรู้เยอะแยะเลย...

โหวตให้อีกคนครับ...

จากคุณ : อดีตคนไทยในลอนดอน (คนไทยในลอนดอน) - [6 พ.ย. 44 20:15:25]

ความคิดเห็นที่ 36

ดีครับ

จากคุณ : สร้อยอินทนิล - [6 พ.ย. 44 20:38:49]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23

ความคิดเห็นที่ 37

(เรื่องการชดเชยแสงแฟล็ช)ระบบแฟล็ชแต่ละรุ่นทำงานมะเหมือนกานนะพี่ ใครเคยใช้ตัวไหนก็จะรู้ว่าของตนเอง + - เช่นไร สังเกตจากประสบการณ์ที่เคยใช้
ไม่ซีเรียสๆ ดีๆจ้าๆ
กระทู้นี้เป็นความรู้นะดีนะจ๊ะพี่ gooddddddddddd
จานเน๊ต ณ BP ^_^
/me เรารักโฟโต้จ้า

จากคุณ : @เจ้าหนูจัมมัย - [7 พ.ย. 44 00:22:12]

ความคิดเห็นที่ 38

เยี่ยม

จากคุณ : หมูเย็น - [7 พ.ย. 44 12:56:10]

ความคิดเห็นที่ 39

อิอิ สาระเว้ยยยยยย โหวด ๆๆ

จากคุณ : Ryback - [8 พ.ย. 44 09:22:11]

ความคิดเห็นที่ 40

รับงานถ่ายภาพแต่งงานอีกไหมคะ ถ่ายเก่ง ภาพสวยจังเลย โหวตด้วยคนค่ะ
ป,ล. ถ้ารับงานถ่ายภาพ คิด rate ยังไงคะ
ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : จันจลา - [8 พ.ย. 44 15:00:32]

ความคิดเห็นที่ 41

เยี่ยมปายโลยยยย

จากคุณ : kobee - [8 พ.ย. 44 16:06:33]

ความคิดเห็นที่ 42

เยี่ยมปายโลยยยย
(แก๊งค์เดียวกัน พูดเหมือนกันคะ คิคิ)

จากคุณ : April Fool - [8 พ.ย. 44 20:44:27]

ความคิดเห็นที่ 43

ว้าว .....
แล้วไปล้างอัดร้านใหนเนี่ย อย่าบอกนะว่าเป็นร้านนั้น

โหวดให้แล้วด้วย

จากคุณ : @(.-=^Sunya^=-.)@ - [9 พ.ย. 44 12:21:46]

ความคิดเห็นที่ 44

เยี่ยมจังเลยพี่เน็ต ผมก็มีงานแต่งรออยู่ต้นปีหน้า...จะนำไปลองใช้ดู ได้เสียยังไงก็โทษพี่เน็ตแทน...555555555

หรือถ้ายังไปถ่ายให้ผมก็ได้นะ แต่ค่าตัวผมขอ 555555

จากคุณ : อยากจะโปร (หนูหล่อ) - [9 พ.ย. 44 17:26:47]

ความคิดเห็นที่ 45

ดีครับดีจังเลย บรรยากาศวันนั้นยากที่จะลืมจริงๆ

จากคุณ : leky@ - [9 พ.ย. 44 21:11:51]

ความคิดเห็นที่ 46

ขอบคุณครับ ... มาช้าไปหน่อยอ่ะ ... เยี่ยมสุดๆเลยครับคุณนายโตรเจน รูปก็ดี หน้ามือกะฝ่าเท้าเลยครับ เวลาผมเทียบกับรูปงานแต่งงานของพี่ผมหรือรูปจากงานแต่งคนอื่นๆที่ผมเห็น

จากคุณ : SF-The KOP - [13 พ.ย. 44 12:59:48]

จากคุณ : w@@n - [ 9 ก.ย. 47 14:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24

เจ๋งอะน้าวุ้นหื่น //เซฟ

จากคุณ : wswz - [ 9 ก.ย. 47 20:07:56 ]