ความคิดเห็นที่ 1 เทียบไม่ได้อ่ะ ฟิลม์มันขยายได้เท่าไรก็ได้ครับ เเต่กล้องดิจิมอนมันมีความละเอียดสูงสุดจำกัดไว้ จากคุณ : ตั๋งคุง - [ 21 พ.ค. 48 21:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะซัก 15 ล้านมั๊ย? จากคุณ : สันโต๊ะ - [ วันวิสาขบูชา 00:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยได้ยินมาว่า 22 MP ครับ จากคุณ : nozila - [ วันวิสาขบูชา 02:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฟิล์ม ก็มีข้อจำกัดในการขยายเช่นกันครับ ไม่ใช่ว่าจะขยายเท่าไหร่ก็ได้ ........................... ตอบ คำถามของกระทู้ การเทียบ มีหลายด้านครับ ทำให้ผลออกมา หลากหลายและ บางทีจะถูกกว่าถ้าใช้คำว่า ไม่อาจเทียบได้ครบในทุกแง่ ครับ เอารวมๆมา เฉพาะการขยาย และความคมชัดนั้น เทียบ ฟิล์ม 135 นะครับ ประมาณ 18-22 MP ครับ ( หาข้อมูลอ้างอิงไม่เจอแล้ว รู้สึกจะอยู่ใน Luminouslandscape ครับ) ถ้าเทียบด้าน Dynamic range ตอนนี้ Digital ยังเทียบฟิล์มไม่ได้ อันนี้ ไม่อาจนับเป็น MPได้ว่ากี่ล้าน ยังมีการ เทียบเคียงคุณลักษณะอีกเยอะแยะหลายๆด้าน การเทียบนั้น ไม่ใช่แค่ การเอามาขยายขนาดครับ มีอื่นๆอีกมาก คอยท่านอื่นๆนะครับ ถ้าผมผิดก็แก้ไขด้วย ;-) จากคุณ : บางคนก็ไม่ค่อยรู้อะไรนัก (lexusman) - [ วันวิสาขบูชา 07:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ครับ Dynamic range กับ Noise กล้องดิจิตอลไม่อาจเทียบได้ จากคุณ : Vivid - [ วันวิสาขบูชา 08:23:28 A:203.209.51.81 X:203.148.136.66, 203.148.136.67 TicketID:031565 ]

ความคิดเห็นที่ 6 14 จากคุณ : ^^ (^^) - [ วันวิสาขบูชา 09:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อก่อนเขาบอกว่าประมาณ 13 mp แต่จริง ๆ ผมว่าน่าจะซัก 20+ mp ครับ แต่เรื่องความลึกของสีก็มีความสำคัญมากเหมือนกันครับ ยังไงงานที่ต้องการคุณภาพกล้องดิจิตอลก็ยังห่างจากกล้องฟิล์มเยอะครับ แต่งานที่ต้องการจำนวน และลดต้นทุน ดิจิตอลได้เปรียบครับ จากคุณ : e2ns (e2ns) - [ 23 พ.ค. 48 00:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ จากคุณ : JJ@CM - [ 23 พ.ค. 48 01:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองอ่านบทความนี้จาก Popular Photography ดูครับ http://www.popphoto.com/article.asp?section_id=4&article_id=1342&page_number=1 --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) - [ 23 พ.ค. 48 02:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ร้านบางร้านที่ ล้างจาก scan film ภาพออกมาแย่มาก... (ไม่ได้ตาหาเรื่องนะ) เลยถามว่า scan resolution ต่ำหรือป่าว พนักงานตอบไม่ค่อยรู้เรื่อง บอก -ก็ตามเครื่องที่ set ไว้- สงสัยจะเซตห่วยจิงๆ ล้างครั้งก่อนนึกว่าเพราะถ่ายกลางคืนเลยติดแตกๆ ... ล่าสุดก็เป็นอีก ... ร้านต้นๆแถวๆแยกลาดพร้าวอะ จากคุณ : dear - [ 23 พ.ค. 48 23:15:53 A:203.113.35.8 X:203.151.140.111 TicketID:017982 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความละเอียดขึ้นอยู่กับชนิดของฟิล์มด้วยครับ ถ้าฟิล์มสี ก็จะต่ำ สไลด์ ก็จะสูง (โดยทั่วไปนะครับ) นอกจากนั้นก็ยังเกี่ยวกับขบวนการการล้างฟิล์มอีกต่างหาก เช่น การเลือกอุณหภูมิในการล้างฟิล์มขาวดำ เรื่องนี้ผมว่าคนที่นั่งแสกนฟิล์มเองก็จะรู้ทุกคนครับ ฟิล์มอย่าง pro image แสกนที่ 11ล้านก็เห็นเกรนแล้วครับ แต่ถ้าเป็นสไลด์ที่แสงดี ล้างดี จะละเอียดอย่างไร (เท่าที่แสกนเนอร์ทั่วไปทำได้) ก็จะไม่เจอเกรนครับ ** ผมใช้การมองเห็นเกรนของเนื้อฟิล์มเป็นตัวชี้วัดถึงความละเอียด ถ้าผิดอย่างไร ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ จากคุณ : โค่โร่ - [ 24 พ.ค. 48 00:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาหาความรู้ครับ เดา ๆ นะครับ digital: จุดหนึ่งจุด = ขนาด pixel (แบบ Foveon X3) film: จุดหนึ่งจุด = ขนาดโมเลกุล แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 48 13:57:58 จากคุณ : Tux-Linux - [ 25 พ.ค. 48 13:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ โมเลกุลเลยเรอะ  - -" เล็กไปมั้งลุง เกรนฟิล์มน่าจะเป็นผลึกมากก่านะ......รึเป่าหว่า จากคุณ : DoraeMew - [ 25 พ.ค. 48 16:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผลึกของ silver halide ครับ โมเลกุลมันเล็กไป ไม่งั้นฟิล์ม 135 มีเป็นร้อยร้อยล้านพิกเซล จากคุณ : arctica - [ 25 พ.ค. 48 16:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คำถามนี้ถามง่ายแต่ตอบยากจังครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยกับคุณ โคโร่ คห.11 ว่าความละเอียดขึ้นอยู่กับชนิดของฟิล์มด้วย เทียบกับฟิล์มสไลด์/สี ( ฟิล์มสีให้เกรนละเอียดๆก็มี ) /ขาวดำ / ISO เท่าใด /พุชหรือไม่มีส่วนหมดครับ ส่วนเรื่อง Dynamic range ของ Digital SLR ที่ใช้กันทั่วๆไปในขณะนี้ ผมคิดว่าใกล้เคียงหรือเทียบเท่าฟิล์มมากแล้วครับ ( Dynamic range คือความกว้างของช่วงการรับแสงที่ Sensor รับแสงยังแสดงผลได้ไม่มืดทึบหรือขาวโพลน ) แต่สิ่งดิจิทัลพ่ายแพ้แบบขาดลอย ( อันทำให้หลายๆท่านเข้าใจผิดไปว่า Dynamic range ของดิจิทัลสู้ฟิล์มไม่ได้ ) ก็คือคุณสมบัติในการไล่โทนครับ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือจำนวนบิทนั่นเอง ผมขอแสดงภาพตัวอย่างประกอบ + สนับสนุนความคิดเห็นเฟอะๆฟะๆของผมสักเล็กน้อยนะครับ สัก 2-3 โพสเท่านั้นแหละครับแล้วจะสรุป (ตามทรรศนะส่วนตัว ) ว่า " ฟิล์มของกล้องธรรมดาเทียบได้กับกล้อง Digital หรือไม่และเทียบได้กี่ MP " จากคุณ : ตอสระอือ - [ 25 พ.ค. 48 17:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพแรกเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นถึงความกว้างของช่วงการรับแสงบน Sensor ( หรือ Dynamic range ) ของกล้อง DSLR ตลาดๆรุ่นหนึ่ง ( DSLR รุ่นอื่นๆก็ใกล้เคียงกันนี้แหละครับ ) จะเห็นได้ว่า Dynamic range มันสามารถแสดงผลได้ตั้งแต่ -9 ถึง + 3.5 สตอปซึ่งนับว่ากว้างมากๆครับ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าความกว้างของ Dynamic range นี้มันไล่โทนได้ตั้งแต่ 0 ถึง 4095 ( ต่อสี ) หรือ 4096 เท่านั้นเอง ( พูดง่ายๆคือ 12 bit ) นี่ขนาดเป็น RAW File นะครับ ถ้าเป็น Jpeg ที่เราใช้งานกันเป็นส่วนใหญ่จะไล่ได้แค่ 256 โทน ( 0 ถึง 255 หรือ 8 bit ) จากคุณ : ตอสระอือ - [ 25 พ.ค. 48 17:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเริ่มจาก Digital คับถ่ายไปประมาณ 20000 รูป 1ปี พอได้หัดถ่าย film 5 ม้วนก็ติดใจสุดๆ แต่ผมไม่มีกล้อง film อ่ะซิ มีแต่กล้องยืม แถมยืมได้นานๆซะด้วย ผมใช้กล้อง digital ทำงานอ่ะคับเวลาถ่ายแล้วก็ไม่ชอบสีเลย แต่ว่าถ้าแสงดีดี ก็ออกมาสวยนะคับอาจจะไม่เท่า film pro แต่ก็สวย เวลาถ่าย film คุณจะได้ภาพถ่าย เวลาถ่ายด้วย CCD or CMOS คุณจะได้ภาพถ่าย digital คับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 48 17:19:42 จากคุณ : fotomania - [ 25 พ.ค. 48 17:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในเมื่อโทนของ Fotmat Digital ตามภาพตัวอย่างนี้มันให้ได้เพียง 4096 โทน ( ซึ่งรวม 3 สีแล้วผสมกันก็ได้กว่าหกหมื่นแปดพันล้านเฉดสี เหนือกว่า 16.7 ล้านสีของ Jpeg ไปไกลโขอยู่ ) ทีนี้เราลองมาดูครับว่า 0 ถึง 63 โทนแรก หรือ 64 โทนจากส่วนมืดสุด มันมีอะไรให้เราเห็น ผลที่แสดงออกมาเห็นได้เลยครับว่าแทบไม่มีประโยชน์กับภาพ 64 โทนแรกกินขอบเขตมาจนถึงรายละเอียดในส่วนมืดที่ต่ำกว่า -2.5 สตอปลงมา ซึ่งถ้าเอาไปเทียบกับฟิล์มแล้วยังเป็นคนละเรื่องอยู่ครับ ผมคิดว่าถ้า Format Digital สำหรับผู้ใช้ทั่วไปพัฒนาได้ถึง 24 bit หรือ 16.7 ล้านโทนต่อสีนั่นแหละครับถึงสู้ฟิล์มได้ ( ซึ่งถ้าเป็นเช่นในในภาพตัวอย่างที่ช่วงต่ำกว่า -2.5 สตอปที่ได้เพียง 64 โทน ก็จะมีรายละเอียดให้เก็บกู้ได้ถึงสองแสนกว่าโทนพอฟัดกับฟิล์มไหวแน่นอน ) จากคุณ : ตอสระอือ - [ 25 พ.ค. 48 17:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อีกภาพนึงครับภาพสุดท้าย เรามาดูโทนในส่วนที่สูงกว่า 2.5 สตอปขึ้นไปนะครับ จาก Softwere เราจะเห็นได้ว่ามันยังเหลืออีกถึงสองพันกว่าโทน ( พูดง่ายๆคือส่วนที่เกิน 11 bit ขึ้นมา ) ผมอยากบอกว่าสองพันกว่าโทนนี้เป็นประโยชน์กับภาพไม่มากเท่าที่เคยนึกเลยครับ ( ไม่แปลกใจเลยที่ Format Digital มีจุดอ่อนในเรื่องรายละเอียดในส่วนสว่าง ) ด้วยโทนรวมทั้งภาพเพียง 4096 เช่นนี้ ผมคิดว่าถ้าเป็นไฟล์ภาพที่บันทึกมาดีหรือต้องปรับแต่งเพียงเล็กน้อยนั้นยังคงไม่เป็นปัญหาครับ แต่หากต้องปรับแต่งมากๆโอกาสที่ส่วนสว่างจะคลิปเป็นปื้น หรือการไล่เฉดสีเป็นชั้นๆวงๆให้ต้องมาตามแก้ไขด้วย Softwere ในภายหลังก็เป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ Format Digital ในระดับผู้ใช้ทั่วไปมันแพ้ฟิล์มหลุดลุ่ยตรงนี้ครับ ( ดูภาพกันบนจอคอมที่แสดงผล 24bit หรือ 32bit ท่วๆไปอาจไม่เห็นผลชัดเจน แต่ลงกระดาษเมื่อไหร่มันฟ้องเลยครับถ้าคุณภาพไฟล์ไม่ดีพอ ) ดังนั้นการเทียบจำนวน Pixel กับฟิลม์มันจึงมีเงื่อนไขเรื่องคุภาพไฟล์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมหาศาล จากคุณ : ตอสระอือ - [ 25 พ.ค. 48 17:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทรรศนะส่วนตัวของผมก็คือหากฟิล์มที่มีคุณภาพสูงและบันทึกภาพมาดี เมื่อเทียบกับคุณภาพไฟล์ที่ดีทัดเทียมกันของ Format Digital แม้เพียงแค่ 6MP ก็สามารถเทียบเท่าหรือใกล้เคียงได้ในการอัดขยายขนาดไม่เกิน 20x24 นิ้วครับ แต่ถ้าได้กล้อง DSLR ระดับ 10MP ขึ้นผมว่าถึงไหนถึงกันเลยเชียว แต่ในกรณีที่ไฟล์ภาพถูกบันทึกมาไม่ดีพอ หากไม่ได้ใช้ Software ช่วยปรับแต่งแล้ว Format Digital แพ้ลุ่ยครับ หรือต่อให้แต่งภาพด้วยหากเป็นภาพขาวดำที่ผู้ชำนาญบางท่านเสกเป่าในห้องมืดจนชำนาญแล้ว ฝั่ง Digital ก็ยังไม่มีอะไรไปเทียบเลยครับ ( นอกจาก Sharpen ทีเด็ดของ Digi หุหุ ) พูดง่ายๆคือถ่ายถ่าย Over หรือ Under ถึงจุดหนึ่งไฟล์ Digital จะไม่สามารถเทียบฟิล์มได้เลยครับแม้นว่าจะขนาดเท่าไหร่ เพราะคุณภาพมันไปไม่ไหว ! อ่านถึงตอนนี้เพื่อนสมาชิกที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลก็มิต้องตกอกตกใจนะครับ คุณภาพในระดับนั้นพวกเราส่วนใหญ่ไขว่คว้าไปไม่ถึงหรอกครับ คนที่ใช้ฟิล์มอยู่เขาก็สแกนภาพมาลง Web กันด้วย Jpeg ( 256 โทน/สี ) เท่านั้น คุณภาพที่เหนือกว่าของฟิล์มในการไล่โทนจะหาคนเข้าใจและใช้มันเป็นอาวุธได้อย่างลึกซึ้งก็มีน้อยคนเต็มทีครับ ส่วนใหญ่ก็มั่วๆกันเหมือนเราๆท่านๆนั่นแหละ อย่าไปยึดติดหรือซีเรียสกับคุณภาพระดับเอกอุให้มากนักครับถ้าฝีมือเรายังแค่หางอึ่ง ที่พูดมานี่ผมหมายถึงตัวเองเป็นสำคัญเลยครับมิกล้าล่วงเกินท่านใดเด็ดขาด และสุดท้ายผมอยากย้ำว่าภาพสวยๆที่เราได้เห็นใน Web นี้ก็ล้วนเป็น Jpeg ทั้งนั้นนะครับ ไม่ว่าจะมาจากต้นฉบับอันไหนสุดท้ายมันก็มาอั้นที่ปลายทางอยู่ดี บางภาพถ่ายด้วยกล้อง Digital Compact เราก็ยังเห็นว่ามันสวยและมีคุณค่า ดังนั้นข้อสงสัยในเรื่องฟิล์มเทียบได้กับ Format Digital กี่ Pixel นั้นเป็นส่วนปลายสุดครับ ได้คำตอบไปเราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ? ( ถ้าเราไม่ได้ใช้งานมันจริงในระดับนั้น ) ทรรศนะส่วนตัวนะครับอาจผิดเพี้ยนไปมากก็เป็นได้เด้อ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 48 17:59:32 จากคุณ : ตอสระอือ - [ 25 พ.ค. 48 17:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคยได้ยินว่า ประมาณ 50 นะ จากคุณ : มันจะซ้ำอีกมะ - [ 25 พ.ค. 48 18:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 http://www.kenrockwell.com/tech/filmdig.htm บทความนี้ดีมากครับ ลองไปอ่านดู สรุปได้ว่าถ้าต้องการขยายใหญ่ ฟิล์มยังดีกว่าอยู่ครับ ที่แสกนมาแล้วสู้ดิจิตอลไฟล์ไม่ได้ เป็นเพราะแสกนเนอร์ครับ มันติดอยู่ตรงนี้แหละ ยิ่งใช้แสกนเนอร์คอนซูมเมอร์แสกน ยังไงก็สู้ไม่ได้ เค้าบอกว่าให้เอาไฟล์มายิงเป็นไสล์ด แล้วเอามาขึ้นโปรเจอเตอร์แล้วเทียบดู จะแฟร์กว่า ซึ่งในกรณีนี้ ฟิล์มกินขาดครับ จากคุณ : arctica - [ 25 พ.ค. 48 19:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ฟิลม์เทียบได้กี่ล้านพิกเซล ขึ้นกับชนิดฟิลม์ มีหลายท่านตอบเรื่องDynamic rangeไปแล้ว ผมอยากเสนอเรื่องความละเอียดที่ฟิลม์วิ่งไปได้ ถ้าเป็นฟิลม์เกรดธรรมดาส่วนใหญ่สแกนได้ไม่เกิน2.1MP ถ้าสแกนมากกว่านี้จะมีnoiseขึ้น เหมือนโดนล็อกสเปกจากผู้ผลิตให้อัดรูปได้ไม่เกิน4*6 ถ้าเป็นฟิลม์เกรดโปรสามารถสแกนได้ถึง30MPได้ โดยมีnoiseบ้างเล็กน้อย เช่นฟิลม์เวลเวีย เรียร่า ลองนะครับ ภาพนี้สแกนที่38.5MP เลนส์แทมรอน24-135 แล้วเดี๋ยวผมจะตัดภาพแบบ1:1ให้ดู จากคุณ : aum (aum2002) - [ 26 พ.ค. 48 00:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลืมส่งรูป ขอโทษที ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : aum2002 - [ 26 พ.ค. 48 00:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นี่เป็นรูป คนเดินบนสะพานไม้  ตัดภาพมาขนาด1:1ครับ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : aum2002 - [ 26 พ.ค. 48 00:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไฟล์ที่ สแกนมาความคมชัดสู้ดิจิตอลไม่ได้ที่พิกเซลเท่ากัน เช่นที่6ล้านเท่ากันภาพดิจิตอลดูคมชัดกว่าฟิลม์ครับ แต่การไล่สีฟิลม์ยังดีกว่าครับ และถึงแม้ที่ความลึกสีเท่ากัน เช่น สแกนที่12บิท เทียบกับ ดิจิตอล12บิท ภาพจากฟิลม์ก็ดูไล่โทนสีได้ดีกว่า อันนี้ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ จากคุณ : aum2002 - [ 26 พ.ค. 48 00:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จากประสบการณ์ของผมซึ่งใช้ฟิล์มมาก่อน 10 กว่าปี ผมว่า กล้องแบบ 10D 6MP ก็ชนะฟิล์ม 135 แล้วนะครับ ลองเอาฟิล์ม 135 ไปอัดขนาดเกิน 8x10 ซิครับ รับรองภาพจาก 10D ดีกว่า (หากรู้จักถ่ายแลปรับแต่งได้พอควรนะครับ) ส่วนเรื่อง Dynamic Range ที่บอกว่าดิจิตอลสู้ฟิล์มไม่ได้นั้น ผมว่าไม่จริง เป็นแต่เพียงว่า response curve ของทั้งสองต่างกันต่างหาก ฟิล์มสไลด์โดยมากมี DR ไม่เกิน 6 EV นะ แต่ DSLR เกินนะ เพียงแต่ช่วงไฮไลท์ต้องระวังหน่อยเท่านั้น เรื่อง Noise นั้นผมก็ว่ามันยังดีกว่าเกรนของฟิล์มเวลาเราขยายเกิน 8x10 นะ ที่ดิจิตอลแพ้ฟิล์มน่าจะเป็นที่ long time exposure มากกว่า เป็น Noise ที่เกิดจากการเปิดชัตเตอร์นานๆ ลองดูที่นี่ประกอบนะครับ http://normankoren.com/EOS-10D_3.html#Res_vs_35mm ผมเองดูเหมือนจะเชียร์ดิจิตอล แต่เปล่าเลยครับ หากเลือกได้ ผมอยากใช้ฟิล์มสไลด์ไปเรื่อยๆ มีเงื่อนไขทางอารมณ์บางอย่างที่ผมยังชอบฟิล์มมากกว่าครับ แต่หากใครเคยต้องเก็นสไลด์เป็นหมื่นๆ ภาพแล้วต้องมาค้นหาทีหลัง คงเข้าใจว่าดิจิตอลดีอย่างไร การเก็บรักษาก็ง่ายกว่ากัน จากคุณ : F22 & Be There - [ 26 พ.ค. 48 09:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เวลาเราจะเปรียบเทียบฟิล์มกับดิจิตอลนั้น ผมว่าต้องคิดก่อนเลยว่าจะเปรียบจากผลลัพธ์อะไร ภาพสแกน? ภาพปริ้นท์? จากจอมอนิเตอร์? ใจผมคิดว่าภาพปริ้นท์น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วภาพถ่ายน่าจะมีไว้แขวนโชว์ ซึ่งภาพจากฟิล์ม 135 นั้น ถ่ายอย่างดี ใช้เลนส์อย่างดี อัดมาขนาด 11x14 ยังไม่น่าประทับใจเท่าภาพที่อัดจาก DSLR เลย แลปอาจจะมีส่วน และอาจเป็นตัวแปรสำคัญ จากคุณ : F22 & Be There - [ 26 พ.ค. 48 09:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลำพังเล่นภาพเพียงบนเว็บ กล้อง 1-2 MP ก็เหลือเฟือ ขืนภาพใหญ่ โหลดนาน ผู้คนก็จะวิ่งหนี เขาเลยใช้งาน jpeg ถ่ายรูปทั้งที เอารูปไปแปะฝาบ้าน ขนาดโปสเตอร์ ขนาดเต็มใบ หน้าหนังสือพิมพ์ มันส์กว่า งมอยู่แต่ในจอ ฟิล์ม 200 สั่งล้างอย่างเดียว (D/O) พอเอามา ผ่านเครื่องสแกนฟิล์ม ได้ไฟล์ ขนาด 25 - 30 MB (เม็กกาไบต์) ผมก็จนปัญญา ว่า 25-30 MB มันคือกี่ MP film scanner ให้ output เป็นไฟล์สกุล TIF เห็นถามกันมาบ่อยๆ ประเด็นนี้ จำไม่ได้เหมือนกันว่า สรุปกันว่าอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ปริ้นเตอร์ ธรรมดา พิมพ์ออกมา (ขนาดหน้าหนังสือพิมพ์ 2 หน้าเต็มครับ) tif ไม่แตกลาย ส่วน jpeg มีแตก จากคุณ : tik (tik) - [ 26 พ.ค. 48 14:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อมูลเสริม ผมเอาภาพขาวดำเก่า ขนาดฟูลสแก้ป (   < a4    >a3  ) ใช้สแกนเนอร์ ฝาบน ยี่ห้อหนึ่ง ได้ไฟล์ขนาด 400 (สี่ร้อย) เม็กกะไบต์ จริงๆ มันทำภาพได้ขนาดโตกว่านี้อีก แต่ผม มิอาจบรรจุภาพลง CD ได้ เล่าสู่กันฟังครับ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 48 14:46:57 จากคุณ : tik - [ 26 พ.ค. 48 14:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ TIFF ขนาด 25-30MB ถ้าเป็น 24-bit uncompress ก็ราวๆ 8-9MP คับ ฮืมมม แต่สแกนได้ 400MB นี่ใช้ interpolated resolution แล้วมั้งคับ? เปลืองโดยใช่เหตุนา จากคุณ : DoraeMew - [ 26 พ.ค. 48 22:15:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 476 เม็กครับ (พอดีเจอภาพ) จากคุณ : tik (tik) - [ 27 พ.ค. 48 09:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 162MP  -___-" สแกนไรอ่ะน้า ใหญ่มั่กๆ จากคุณ : DoraeMew - [ 27 พ.ค. 48 12:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 พ.ค. 48 18:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาที่ฝรั่งเขียนไว้มาฝากครับ it takes about 25 megapixels to simulate 35mm film, which is still far more than any practical digital camera. At the 6 megapixel level digital gives about the same sharpness as a duplicate slide, which is plenty for most things. ------------------------------------------- ส่วนเว็บนี้ อธิบายว่าทำไมนิตยสารของเค้า ถึงไม่ใช้ภาพจากกล้องดิจิตอล http://www.arizonahighways.com/page.cfm?name=Photo_Talk803 จากคุณ : nameonics - [ 27 พ.ค. 48 19:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมแสกนภาพดวงจันทร์จากฟิล์ม Venus 400 ของ Fuji เมื่อ crop ภาพแล้ว เห็นเกรนของเนื้อฟิล์มเยอะจนรายละเอียดหลุมใหญ่ๆของดวงจันทร์หายหมด พอซื้อเจ้า 300D มาใช้ ก็ลองถ่ายดูมั่งโดยใช้เลนส์เดิม(70-210 f 2.8 + MC7) คุณภาพของภาพดวงจันทร์ดีกว่ามากครับ สรุปว่า สำหรับฟิล์ม ISO 400 นะครับ ความละเอียดของเกรนสู้ความละเอียดของ CMOS 6.1 ล้านพิกเซลไม่ได้ครับ แสกนฟิล์มได้ไฟล์ใหญ่ก็จริงครับ แต่ภาพที่ได้เห็นแต่เกรนเต็มไปหมดก็ไม่ไหวครับ( crop) เรื่อง dynamic range ของดิจิตอลน่าจะยังแพ้ฟิล์มเนกครับ เพราะจากที่ลองถ่ายๆเจ้า 300D มานี่ วัดแสงยากกว่าเดิมที่เคยชุ่ยๆครับ อันนี้ผมอ้างอิงจาก ระบบดิจิตอลคือ 300D และระบบฟิล์มคือ EOS55+ Fujji Venus 400 นะครับ จากคุณ : Ontjung - [ 28 พ.ค. 48 07:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยังมีคนเข้าใจคำว่า Dynamic range ( ความกว้างของช่วงการรับแสง ) กับจำนวน Bit ต่อสี ( คุณสมบัติในการไล่โทน ) สับสนอยู่เยอะครับ ถึง Dynamic range เท่าเทียมกันก็ไม่ได้หมายความว่ามีคุณภาพเท่าเทียมกันนะครับ ยกตัวอย่างเช่นหูมนุษย์มี  Dynamic range ประมาณ 20-20000 Hz ก็จริง แต่ที่ความถี่ต่ำๆนั้นฟังไม่เป็นภาษาและแยกทิศทางไม่ได้แล้ว Sub-Woofer ที่ให้ความถี่ในช่วง 20-80 Hz ( ประมาณนะครับ ) ถึงมีแค่ตัวเดียวแต่ก็ให้เสียงกลมกลืนกับความถี่อื่นๆและลำโพงหลายๆตัวโดยเรารู้สึกเป็นธรรมชาติได้ ลำโพงที่ให้ Dynamic range เท่ากันไม่ได้ให้คุณภาพเสียงที่เท่ากัน ฟิล์มกับดิจิทัลที่มี  Dynamic range ทัดเทียมกันก็มิได้หมายความว่าคุณภาพเท่าเทียมกันฉันท์นั้นครับ จากคุณ : ตอสระอือ - [ 28 พ.ค. 48 13:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Dynamic Range เท่ากัน ไม่ได้หมายความว่าคุณภาพเท่ากันครับ เห็นด้วยจริงๆครับ เพราะมันเหมือนจะเป็นคนละเรื่องกันเลย แต่โดยส่วนตัวผมเอง ถ้ากล้องดิจิตอลมันมี dynamic range มากกว่านี้อีกหน่อยคงจะดี เพราะชินกับการถ่ายฟิล์มเนกกาติฟอ่ะ วัดแสงไม่ค่อยดี ยังออกมาเป็นรูปได้ อิ อิ(กะไม่พัฒนาฝีมือล่ะ) จากคุณ : Ontjung - [ 28 พ.ค. 48 22:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ก็เหมือน " กล้องดิจิตอลไต้หวัน  3 ล้านพิกเซล " ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ ดีเท่ากับ" กล้องยี่ห้อญี่ปุ่น 3 ล้านพิกเซล" ใช่มั้ยครับ น้าตือ....   สเปกเท่ากันก็จรืง..แต่คุณภาพยังห่าง..^^ ล่าสุด ผมไปเที่ยว คอนพะเพ็ง มาครับ ใช้กล้อง 350D  กับ Contax G (ฟิล์มสี) 350 D ดูคมกว่าเห็นๆ  (Contax G เกรนแตก (คงเพราะฟิล์มสี) ) แต่ Contax ยังให้ ดีเทล ที่ดีกว่าเยอะพอสมควร ถึงฟิล์มจะดีกว่า ณ ตอนนี้ แต่ผมก็เลือก ดิจิตอล SLR แหล่ะครับ คุณภาพไม่ได้แย่อะไรมากมาย แต่สะดวกกว่าเยอะ ครับ... แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 48 23:18:31 จากคุณ : NeW_Du_Ri_An - [ 28 พ.ค. 48 23:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 จขกท. และท่านที่สนใจครับ ไม่ยากเลยครับที่จะเทียบ ถ่ายฟิลม์ 1 ม้วนไปแสกนตามร้านครับ เห็นเลยครับว่าอะไรเป็นอะไร โดยส่วนตัวแล้วผมว่าเราต้องแยกคำว่า "รายละเอียด" กับ "ความสามารถในการขยายภาพ" ออกจากกันนะครับ เพราะฟิลม์ดีเทลดีก็จริง แต่ขยายแล้วเห็นเกรนผมก็ว่าไม่เวิร์คนา จากคุณ : thichachan - [ 29 พ.ค. 48 01:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เอาฟิล์มไปแสกน แล้วเอาไปเทียบ กับ รูปดิจิตอล  บน จอ ผมว่า ไม่แฟร์เลยนะครับ คุณ thichachan รูปฟิล์มสี ให้คุณภาพดีที่สุด เมื่อ "อยู่บนกระดาษ" รูปดิจิตอล ให้คุณภาพดีที่สุด เมื่อ "อยู่บนจอ" การเอา รูปจากรูปแบบนึง ไปแปลงเป็นอีกรูปแบบนึง ผมว่า มันเทียบกันไม่ได้ เพราะ รูปที่ถูกแปลง คุณภาพย่อมจะตกลง นะครับ รูปขยายจาก ฟิล์ม ถึงเกรนจะแตก แต่มันให้ความรู้สึก สบายตากว่านะครับ สำหรับผม แต่ผมก็เลือก ดิจิตอลSLR  แค่นี้มันก็ดีพอแล้วแหล่ะ "ผมไม่ได้ถ่ายเอา โล่รางวัล" 555  (มุขเก่า) จากคุณ : NeW_Du_Ri_An - [ 29 พ.ค. 48 10:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กลับเข้ามาอีกรอบ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณทุเรียนใหม่เป็นส่วนใหญ่เลยครับ ฟิล์มนั้นให้ดีเทลดีจริงๆแต่ก็มาพร้อมกับเกรนและเกรน การทำปฏิกิริยาแบบเคมีอย่างไรมันก็ไม่สามารถให้ผลได้ 100% หรอกครับ ต่อให้ถ่ายสีเรียบๆพอขยายถึงจุดหนึ่งมันจะมีเกรน ( แต่ถ้าเป็นดิจิทัลเรา Interpolate ไปได้เรื่อยๆโดยไม่สิ้นสุดไม่เชื่อลองกับสีดำสนิทดูครับ ) คนใช้กล้องดิจิทัลรุ่นแรกๆน่ะเบื่อความเนียนอันไม่เป็นธรรมชาติของดิจิทัลกันมาทั้งนั้นแหละครับ 3-4 ปีที่แล้วกล้องดิจิทัลระดับเกิน 50,000 ยังถ่ายผิวคนออกมาเป็นตุ๊กตาอยู่เลย ( เดี๋ยวนี้เป็นน้อยลงเยอะ ) ผมว่าจุดเด่นมันยังเป็นคนละอย่างครับ ( แต่อนาคตจุดเด่นที่เหนือกว่าบางประการของฟิล์มน่าจะถูกดิจิทัลไล่จนทันและแซงไปได้... อย่าไปยึดติดกับวัตถุใดๆ ) ส่วนทรรศนะในเรื่องว่าฟิล์ม/ดิจิทัลจะดีที่สุดเมื่ออยู่ในสภาวะใดผมขอ มองดังนี้ ฟิล์มสี ให้คุณภาพดีที่สุดเมื่อยังเป็นฟิล์มอยู่ ดิจิตอล ให้คุณภาพดีที่สุดเมื่อยังเป็นไฟล์ ( ดิบ ) อยู่เช่นกัน Process หลังจากนั้นเพื่อปรุงแต่งให้กลายเป็นภาพบนกระดาษหรือบนจอนั้นล้วนมีส่วนให้คุณภาพตกต่ำลง ( มากน้อยแล้วแต่ความสามารถและอุปกรณ์ที่ดีครับ ) จะบอกว่าฟิล์มได้เปรียบหรือดีกว่าเมื่อเป็นกระดาษก็ตอบยากครับหากวัดผลจากใช้บริการของดิจิทัลแลป ( ซึ่งมีอยู่เต็มไปหมด ) ผมไม่ได้หมายความว่าฟิล์มใช้บริการจากดิจิทัลแลปแล้วไม่ดีนะครับ คือคุณภาพในการใช้งานระดับทั่วๆไปก็ OK อยู่แล้ว ( แต่ไม่รู้สินะ.. ถ้าผมใช้ฟิล์มผมคงพอใจที่จะดูมันจากสไลด์มากกว่าถูกสแกนเป็นไฟล์แล้วเอามาดูบนจอคอมฯและตอนเป็นภาพผมคงอยากให้มันเป็นภาพด้วยขั้นตอนแบบแฮนด์เมดมากกว่า ) ส่วนข้อได้เปรียบของดิจิทัลในตอนใช้งานมันบนคอมฯนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับว่าฝั่งดิจิทัลมันได้เปรียบกว่า ไม่งั้นยอดขายกล้องดิจิทัลมันคงไม่ถล่มทลายแบบนี้หรอกครับ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 48 20:33:31 จากคุณ : ตอสระอือ - [ 30 พ.ค. 48 20:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 .. เข้ามาอ่าน.. จากคุณ : Handy Man - [ 31 พ.ค. 48 09:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาเก็บความรู้ครับ.... จากคุณ : ^Nobi^ - [ 31 พ.ค. 48 12:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นี่คือความจริงอีกอย่าง ที่ไม่ลับครับ... คิดดูนะครับ ถึงคุณจะใช้กล้องฟิลม์ที่ดีสุดๆแค่ไหน ถ่ายดีแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องมาผ่านเลนส์แย่ๆตอนที่อัดรูปจากเครื่องอัดขยายภาพอยู่ดีครับ แต่ถ้าเป็น File ดิจิตอล ตอนที่มันอัดภาพมันจะส่งภาพเข้าไปโดยตรงเลยครับ ทำให้สิ่งที่ออกมาดูสีธรรมชาติกว่ามาก แต่ยอมรับในเรื่องของสีครับว่าสู้ฟิลม์ไม่ได้แน่ๆ เพราะอย่างไรก็ตามภาพ jpg ยังถือว่าเป็น Format ที่มีคุณสมบัติ Drop จำนวนสีลงมาได้ และจะทำให้สีเพี้ยน ส่วนจะได้ก็ตรงความละเอียดที่หนาแน่นกว่าฟิลม์ โดยหากคุณจะเอางานของคุณไปตีพิมพ์แล้วหล่ะก้อ ผมบอกได้เลยว่าคุณต้องเอาฟิลม์ไปสแกนก่อน ซึ่งงานมันจะแย่มากๆก็ตอนนี้แหละครับ... จากคุณ : กงพัฒน์ (Jakaman) - [ 31 พ.ค. 48 15:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 "เลนส์แย่ๆตอนที่อัดรูปจากเครื่องอัดขยายภาพ" เลนส์ในเครื่อง ส่วนใหญ่ เป็นเลนส์ ของ มินอลต้า หรือไม่ก็ นิคอน ซึ่ง ไม่ "แย่" แน่นอน ครับ   "ส่งภาพเข้าไปโดยตรงเลยครับ" มันใช้ "เลเซอร์" ยิงครับ ดิจิตอล มันยังห่วย ก็เพราะ หัวเลเซอร์ ที่ใช้ยิงนี้แหล่ะครับ ที่ทำให้สู้ ฟิล์มไม่ได้.. นะครับคุณ jakaman แต่ก่อน กระบวนการดิจิตอล ใช้หลายวิธีในการ ยิง ฉาบ ลงบนกระดาษ ก็มี ใช้ ระบบไฟเบอร์ ออฟติคอล บ้างล่ะ  , ใช้ MFA[มํ๊ง] (ฉาบแสงลงกระดาษ) ,LED , LCD ประมาณนี้ล่ะ ถ้าผมจำไม่ผิด   ซึ่งตอนนี้ ลงตัวที่สุด ที่เลเซอร์.... แต่มันก็ยังไม่ใช่ระบบการปริ๊น ที่ดีพอ....(สำหรับโปรๆทั้งหลาย) อนาคต คงมีระบบอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ... ตอนนี้ผมก็ขอเป็น โปร(โมชั่น) ไปก่อนล่ะกัน เอิ๊กๆ.... จากคุณ : NeW_Du_Ri_An - [ 31 พ.ค. 48 17:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่าครับ ง่าย ๆ เลย แค่ลองเอาฟิล์ม neg ที่คุณมีอยู่ จะเป็น proimage ก็ได้ แล้วไปขยายซัก 8x10 เสร็จแล้วมาแสกนด้วย เครื่องแสกนฝาบนทั่วไป เอาแค่ 1200 dpi ก็พอ แล้วเอามาเทียบกับไฟล์ดิจิม่อนดูก็รู้แล้วครับ ไม่ได้ว่า ดิจิม่อนไม่ดีนะครับ เพราะทุกวันนี้ก็ใช้มันหาเงินอยู่ แต่มันยังสู้ฟิล์มไม่ได้แล้วยังห่างอีกด้วยยิ่งถ้าอัดลงกระดาษแล้วไปกันใหญ่ กล้องดิจิม่อนเอามาถ่ายงานรับปริญญายังกลัวเลย ป.ล.ไอ้ไฟล์ดิจิม่อนที่ดูดีบนคอมน่ะ ลองอัดลงกระดาษดูสิ แล้วจะรู้ จากคุณ : e2ns (e2ns) - [ 1 มิ.ย. 48 11:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้าจะแสกนจากฟิล์มโดยตรงมันต้องดูด้วยว่าใช้เครื่องแสกนดีแค่ไหน จากคุณ : e2ns (e2ns) - [ 1 มิ.ย. 48 11:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอ 1Ds mkII พอนะ จากคุณ : Marit E. Larsen - [ 2 มิ.ย. 48 00:42:44 ]