PANTIP.COM : O3526247 ระบบแฟลชของ 5600HSD และการปรับใช้ฟังก์ชั่นย่อยๆ [Minolta User Group of Thailand]

ความคิดเห็นที่ 6

ส่วนเรื่องการถ่ายภาพด้วยแสงผสม (แสงธรรมชาติผสมแสงแฟลช) ลองไปอ่านดูที่นี่ครับ

http://www.geocities.com/minoltacamera/tip/0004.html

ตอนท้าย ทางน้า 800 ได้สรุปไว้ดังนี้

<<<<<< Flash Exposure ของ 800Si >>>>>>
ขอ clear เรื่องการถ่ายภาพด้วยแฟลชของ 800Si ซักนิดก็ละกันเพราะช่วงนี้มีหลายคนถามกันเข้ามาพอสมควร และจากที่น้องอิกแนะนำเรื่องการ fill-in โดยการกดปุ่ม AEL นั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะถือเป็นการ slow sync fill-in ที่มีอธิบายอยู่ในเอกสารเรื่องนี้ของมินอลต้าที่เคย mail ให้ดูกันมานานแล้ว ก็เลยขอสรุปให้ฟังเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยแฟลชของกล้องรุ่นนี้กันอีกครั้ง (รุ่นอื่น ๆ ก็ใช้หลักการเดียวกัน) ดังต่อไปนี้ครับ

1. การถ่ายภาพโดยใช้แฟลช การเปลี่ยนขนาดรูรับแสง เป็นการควบคุมปริมาณแสงแฟลช ในขณะที่การเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์ จะกำหนดปริมาณแสงที่ฉากหลัง

2. ในกล้อง Minolta ทุกรุ่น ระบบวัดแสงธรรมชาติและระบบวัดแสงแฟลชจะถูกเชื่อมโยงอยู่ด้วยกัน การปรับชดเชยค่าแสงธรรมชาติจะส่งผลในสัดส่วนเดียวกันกับค่าแสงแฟลชเสมอ (ยกเว้น D7 ที่สามารถปรับที่ CF26 ให้ระบบทั้งสองแยกจากกันได้ แต่การใช้ก็ต้องระวังเนื่องจากต้องเข้าใจเรื่องระบบวัดแสงแฟลชที่ดีพอสมควร)

3. โหมดแฟลชปกติ กับการถ่ายภาพใน P A mode + ระบบวัดแสงแบบรังผึ้ง 14 ส่วน (ไม่แนะนำให้ใช้ S mode ยกเว้นต้องการผลพิเศษเรื่องการเคลื่อนไหวเท่านั้น - ต้องระวังเรื่อง max sync speed ให้ดีด้วย)

3.1 ระบบ fuzzy logic ของกล้องจะทำการวิเคราะห์สภาพแสงของ main subject และฉากหลังเพื่อกำหนดว่าขณะนั้นสภาพแสงเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้
- แสง backlight หรือการถ่ายย้อนแสง
- แสง frontlight หรือการถ่ายตามแสง
- แสง lowlight หรือสภาพแสงน้อย

3.2 ยกแฟลชขึ้นหรือเปิดแฟลชภายนอก และแฟลชต้องพร้อมทำงาน (ไฟสายฟ้าติด)

3.3 ทุกกรณีในสภาพแสงข้างต้น กล้องจะทำการปรับค่าแสงภายนอก (ambient) ที่ได้จากระบบวัดแสง 14 ส่วนลงประมาณ 1 stop เพื่อบาลานซ์กับค่าแสงแฟลชที่ยิงออกไป โดยการปรับค่าความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ฉากหลังดูมืดลงในกรณีการถ่ายตามแสง - ไม่เป็นปัญหากับเนกาตีฟ แต่จะไม่ดีนักกับสไลด์ (ใน P และ A Mode กล้องจะเลือกค่าความไวชัตเตอร์ที่เหมาะสมที่อยู่ระหว่าง 1/200 กับ 1/60 วินาทีให้)

3.4 เพื่อไม่ให้ main subject ดูไม่เป็นธรรมชาติเนื่องจากแสงแฟลช ในสภาพแสง backlight และ frontlight กล้องจะทำการปรับลดกำลังของแฟลชลงด้วย โดยขึ้นอยู่กับค่าแสงของ subject ว่ามากหรือน้อย กำลังแฟลชจะปรับลดอยู่ในช่วงประมาณ -1/4 ถึง -3/4 stop ยกเว้นในกรณี lowlight ที่แฟลชจะยิงเต็มกำลัง

3.5 ถ้าต้องการชดเชยให้ฉากหลังสว่างขึ้น การปรับขดเชยแสง +1 จะส่งผลกระทบให้แฟลช (จากข้อ 3.4) โอเวอร์ไป 1 stop ด้วย ต้องปรับชดเชยแสงแฟลชลง -1 stop เพื่อให้แสงแฟลชออกมาพอดี

3.6 ไม่แนะนำให้ใช้การปรับชดเชยแสงแฟลชมากนักใน P A และ S Mode เพราะผลที่ได้จะคาดเดาลำบาก ยกเว้นว่าจะทดลองดูเองจนชำนาญ ถ้าต้องการควบคุมแสงแฟลชจริง ๆ แนะนำให้ใช้ M Mode

4. โหมดแฟลช slow sync อัตโนมัติ กับการถ่ายภาพใน P และ A Mode + ระบบวัดแสงแบบรังผึ้ง 14 ส่วน (S mode ใช้ slow sync อัตโนมัติไม่ได้) วิธีการคือก่อนกดปุ่มชัตเตอร์ ให้กดปุ่ม AEL ค้างไว้ (ตั้ง CF ให้เป็นกด-ปล่อยได้) ในกรณีนี้ระบบ Fuzzy Logic จะทำการปรับลดความไวชัตเตอร์ให้ช้าลงเพื่อการบันทึกสภาพแสงจากฉากหลังลงบนฟิล์มด้วย (ความไวชัตเตอร์อาจจะไม่ลดลง ถ้าสภาพแสงภายนอกสว่างมากจนไม่สามารถลดความเร็วลงได้อีก)

**** Slow sync จะไม่มีการปรับลดค่าแสงภายนอก (ambient) ลง แต่จะปรับลดกำลังแฟลชลงประมาณ -3/4 stop เท่านั้น ****

ดังนั้นการกดปุ่ม slow sync จึงเป็นเทคนิคการ fill-in ที่ใช้ได้ผลอีกวิธีหนึ่งครับ

เอาไปลองกันดูนะครับ ได้ผลยังไงก็มาบอกกันด้วยเน๊อ :-)

จากคุณ : P_Wut - [ 6 มิ.ย. 48 17:52:54 ]