CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    รายงาน concert Dream Theater Live in Bangkok

    คำเตือน - ใครที่ไม่ชอบอ่านคำสบถ หรือ คำหยาบคาย กรุณาอย่าอ่าน เพราะนี่เป็นข้อความที่มีคำสบถ และ คำหยาบ อยู่บ้าง เนื่องจากเป็นรายงาน Rock concert มิใช่รายงานพิธีปฐมนิเทศของโรงเรียนมัธยมแต่อย่างใด


    โอ้ย... โว้ย... แม่ม...สุดยอดจริงๆ.......
    มันเป็นคนหรือเปล่าวะนั่น.... ที่เล่นกันได้แบบนั้น
    ไม่ไปดูกับตาตัวเอง ผมละไม่อยากเชื่อว่ามันจะมีวงแบบนี้อยู่ในโลก

    Concert ครั้งแรกของ Dream Theater ในไทย ไม่อยากจะเชื่อนะครับว่า แป๊ปเดียว วงนี้อยู่กันมายาวนานถึง 20 ปีแล้ว ดนตรีของ Dream Theater เป็นแนวที่เรียกว่า Progressive metal ได้รับอิทธิพลมาจากหลายๆวง ทั้งในสาขา progressive และ heavy metal

    ดนตรีของ Dream theater จะมี sound ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก โครงสร้างดนตรีซับซ้อนมาก จังหวะของดนตรีจะเปลี่ยนแบบกระทันหัน วิธีการเล่นเต็มไปด้วยเทคนิคชั้นยอด เรียกว่าใครคิดจะแกะ Dream theater ละก็ ต้องคิดให้ดีๆก่อน

    ผมไปถึง impact ประมาณ 5 โมงเย็นด้วยบริการรถตู้ ราคาถูกดีครับ สะดวกดีด้วย ทีหลังไปรถตู้ดีกว่า ไม่ต้องขับรถไปเองให้เปลืองน้ำมัน ไปถึงก็ไปรับบัตรที่จองผ่าน internet แล้วก็มาเดินโต๋เต๋ รอเวลา ดู rocker ทั้งหลาย ทั้งสาวทั้งหนุ่ม ซึ่งก็จะมารวมตัวกันพร้อมกับแฟชั่นแสดงความเป็น rock กันเต็มที่ มีผมคนเดียวแต่งตัวไม่ค่อยเข้าบรรยากาศเท่าไร แบบ... ไม่กล้าแต่งครับ มันแก่แล้ว แต่งแล้วผมว่ามันดูตลก แบบ... แก่แล้วไม่เจียม อะไรทำนองนั้น

    ก็ปล่อยให้หนุ่มๆสาวๆเขาแต่งกันไป เราก็ดูสาวๆเขาแต่งให้เพลินลูกกะตา เพราะเขาก็อุตส่าห์แต่งกันมา ถ้าผมไม่ดู เด๋วเขาต้องเสียใจแน่ๆเลย...

    ประมาณ 1 ทุ่มผมก็เข้าไปประจำที่ครับ ก่อนเวลา 30 นาที บัตร 2900 ประมาณแถวที่ 17 ตรงกลางของเวที เวทีของ Dream Theater เรียบๆครับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เข้ามานั่งใน impact อีกครั้งนี่ รู้สึกว่า impact arena เล็กลงไปถนัดใจ เมื่อเทียบกับ Palace Aurburn Hill ที่ผมเพิ่งไปดู Paul , U2 และ Def Leppard มาปีก่อน ผมว่าเล็กกว่าครึ่งหนึ่งเลยนะครับ ตอนแรกนึกว่าเล็กกว่าไม่เท่าไร มาเห็นอีกทีนี่เล็กลงถนัดใจ

    แล้ว intro ก็เริ่มขึ้น แต่เป็นเทปครับ ผมก็ชะเง้อหาอยู่ นักดนตรียังไม่ออกมาครับ ม่านหน้าเวทีตกลงมา เห็นเครื่องดนตรีว่างเปล่าวางอยู่ แล้วผมก็เห็นมือเบสเดินออกมา ตามมาด้วยสมาชิกคนอื่นๆ เข้าประจำที่ หลังจากนั้น ความมันส์ก็ระเบิดขึ้นมาด้วยเพลงแรก The root of all evil

    ตั้งแต่เพลงแรกถึงเพลงสุดท้ายของ Dream Theater ทำให้ผมต้องตะลึง ถึงผมจะรู้ว่า วงนี้มันเก่ง แต่ผมไม่คาดว่า การมาดูแสดงสดนั้น มันให้พลังออกมาได้ขนาดนี้ การเล่น team work ของวง แน่นปึ๊ก ! ดนตรีที่มีโครงสร้างซับซ้อน การเปลี่ยนจังหวะแบบกระทันหัน การตีกลองแบบขัดจังหวะ สารพัดเทคนิคในการเล่นดนตรีต่างๆ ถาโถมเข้าหาคนฟังอยู่ตลอด concert

    ยิ่งดู ยิ่งอึ้งครับ
    ถัดจากอึ้ง เปลี่ยนเป็นความรู้สึกของการยอมรับนับถือจนหมดหัวใจเลยทีเดียว

    ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า ทำไมทุกที่ที่ dream theater ไปเล่น จะต้องมีนักดนตรีไปดู concert ของวงนี้กันมากมาย ผมเชื่อว่า จะมีน้องๆที่เป็นนักดนตรี ได้แรงบันดาลใจ ได้มีกำลังใจ และได้เห็นตัวอย่างของนักดนตรีตัวจริง การได้ดู dream theater จะได้เห็นตัวอย่างสดๆของการเล่นดนตรีที่เต็มไปด้วยเทคนิคชั้นยอด ที่คงหาดูในไทยได้ยากมาก

    แต่ปัญหาหนึ่งของการดู dream theater คือ ผมไม่รู้จะไปตั้งใจฟังเครื่องดนตรีชิ้นไหนดี
    คือ วงทั่วๆไป เวลา solo หรือ เล่นซับซ้อนหน่อย ก็มักจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ชิ้นที่เหลือก็จะเล่นแค่คุมจังหวะไปเรื่อยๆ

    แต่กับ Dream theater ไม่ใช่ครับ
    แม่ง... solo พร้อมกันหมด
    แล้วกรูจะเลือกฟังชิ้นไหนดีวะเนี่ย....

    กลองก็ใส่ลูกเล่นไม่ซ้ำกันออกมาตลอดเวลา
    เบสกำลังเล่น tapping 2 มือ บนคอกีตาร์
    กีตาร์กำลังโชว์ hammer on อยู่
    Keyboard กำลัง solo อยู่... solo ไปพร้อมๆกับ กีตาร์
    กลายเป็น sound ที่ซับซ้อน หนา และ แน่น ปึ๊ก !

    ผมฟังไม่ทันครับ.... มันเยอะเกินไป....

    ผมว่า DVD แผ่นต่อไปของ Dream theater ควรจะใช้ประโยชน์จาก multi angle ของ DVD นะครับ คือให้คนดูเลือกได้เลยครับว่า จะเลือกดูใครเป็นการเฉพาะไปตลอด concert พอดูครบคน ก็เลือกแบบรวมวงกันอีกที ดูไม่ทัน ฟังไม่ทัน rewind กลับไปดูได้อีกรอบ

    แล้วไอ้ที่ว่า ยากๆนี่ พี่แกเล่นยังกับเป็นขนม...
    มือกลองทีตีกลองไป โยนไม้กลองส่งไปให้ทีมงานข้างๆ แล้วก็ให้โยนกลับมาให้มือกลองรับ แล้วก็ตีต่อ
    ตีกลองไป ดื่มน้ำไป ก็ยังได้
    แม่ม... เก่งอิ๊บอ๋าย....

    มือเบส กับ มือกีตาร์ เล่นยากๆของใครของมันแล้วยังไม่พอใจ
    พี่แก มายืนใกล้ๆกัน แล้วก็จับจังหวะ
    มันพลัดกันเล่น พลัดกันดีด เครื่องดนตรีของอีกฝ่ายครับพี่น้อง....

    มือขวาดีดกีตาร์ของตัวเอง แต่ยื่นมือซ้ายไปจับโน้ตที่คอเบส
    มือเบสดีดเบสของตนเอง แต่ยื่นมือซ้ายไปจับโน้ตที่คอกีตาร์

    แล้วแม่ง.. ไม่ใช่เพลงช้าๆนะ
    แม่ง...ไม่หลุดด้วย
    โว้ย.... แม่งเก่งจริงๆ... โว้ย.....

    มือคีย์บอร์ดก็ไม่น้อยหน้า เยี่ยมครับ แล้วก็โชว์เต็มที่ในเพลง Octavrium มหากาพย์ยาวครึ่งชั่วโมงของ Dream theater ผมได้เห็นเครื่องดนตรีแบบใหม่ด้วย ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่แปลกดีครับ ไม่มีคีย์ให้กด แต่ให้ใช้นิ้วสัมผัส แล้วกดๆ ขยี้ไปขยี้มา ให้ sound ที่แปลกดีครับ แถมด้วยการเล่น pedal stell guitar ด้วย

    ผมว่า คนไทยโชคดีนะครับ ที่ได้ดู tour ที่โปรโมทแผ่น Octavarium
    เพราะผมว่าทีหลัง อาจจะไม่มีการเล่นเพลงที่ยาวร่วมครึ่งชั่วโมงนี้อีกในการแสดงสด

    นักร้อง James Labrie
    สุดยอด....
    ไม่มีการหลบลงคีย์ต่ำ ไม่มีการยั้ง
    ทั้งระดับของเสียงร้อง และพลังของเสียง
    ทำได้ดีมากจริงๆ

    ตลอดทั้ง concert Dream theater เล่นเพลงดีๆของตัวเองทั้งนั้น ผมก็ทำการบ้านมาอย่างดีก่อนถึง concert
    แต่เพลงที่ ซึ้งมากๆสำหรับผมคือ The spirit carries on ครับ
    เนื้อเพลง และทำนองมันกินใจน่ะ

    ท่อนที่ว่า
    If I die tomorrow
    I'd be allright
    Because I believe
    That after we're gone
    The spirit carries on......

    ท่อนนี้ร้องกันกระหึ่ม impact ครับ
    ผมร้องท่อนนี้ แล้วน้ำตามันจะซึม
    อาจจะเป็นเพราะว่า คิดถึงตัวเอง
    ไม่ได้คิดถึงตัว nicholas ตัวละครในแผ่น scene หรอกครับ
    แล้วบรรยากาศรอบตัว มันเยี่ยมยอดครับ

    อังกอร์กันด้วย Pull me under ครับ
    เพลงนี้สุดๆครับ ตามมาด้วย ครึ่งหลังของ Metropolis
    เล่นกันได้สุดยอดครับ ไม่รู้จะบรรยายยังไง

    Peruvian Skies มีการแทรก Wish you were here / Pink Floyd และ Wherever I may roam / Metallica เข้าไปด้วยครับ แทรกเข้าไปได้เนียนมาก ชนิดแบบถ้าไม่เคยฟัง จะไม่รู้เลยว่า มีการแทรกเพลงอื่นเข้ามาด้วย

    หากคุณเป็นแฟนเพลง Rock แล้วไม่ได้มาดู concert ครั้งนี้
    ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คุณพลาดโอกาสครั้งสำคัญของคุณไปครั้งหนึ่งแล้วครับ ที่จะได้ดูวงชั้นเยี่ยมขนาดนี้

    ระบบเสียงดีครับ มีบางคนบอกว่าไม่ดี
    แต่ผมว่าดีครับ sound ของกีตาร์อาจจะไม่ clean นักในช่วงแรก แต่ผมว่าดีแล้วครับ
    ถือว่า ไม่ผิดหวัง เพราะหากว่า ระบบเสียงแย่ อรรถรสในการฟังจะดิ่งเหวทันที
    เพราะเพลงของ Dream theater นั้นซับซ้อนมาก หากไม่ได้ยินชิ้นดนตรีครบทุกชิ้น
    ไลน์ทุกไลน์ เม็ดทุกเม็ด มันจะแย่ครับ

    เพราะสเน่ห์ของ Dream theater อยู่ที่สิ่งเหล่านี้

    สิ่งที่ผมอยากบ่นคือ รปภ. ครับ
    คนจะลุกขึ้น
    ไม่ยอมครับ ชี้สั่งให้นั่ง

    ผมเข้าใจครับว่า เขากลัวจะมีการตีกัน ก็เลยต้องการให้ทุกคนนั่งนิ่งๆ
    แต่นี่มัน concert rockนะครับพี่...
    แล้วพี่คิดว่า จะมีใครจ่ายค่าตั๋วแพงๆ เข้ามาตีกันเหรอครับ...

    อย่าบ้าน่า....

    แฟนเพลง Dream theater ไม่ใช่เด็กมีปัญหานะครับ นี่เป็นแฟนเพลงเฉพาะกลุ่ม ที่รักดนตรีกันจริงๆ
    เขาไม่ตีกันหรอก

    ตอนผมดู U2 น่ะ เขายืนกันทั้ง areana ครับ
    ยืนกันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครนั่ง เต้นกันทุกคน
    มันก็ไม่เคยมีการตีกัน

    เสียดายครับ งาน Dream Theater นี่ หากว่า ยอมให้ลุกขึ้นยืนตั้งแต่แรก จะสนุกกว่านี้อีกครับ
    ใครสนครับว่า ใครจะบังใคร
    ใครสนครับว่า จะมีใครบังเอิญมากระแทกกันสักนิด

    หากว่าผมอยากดูชัดๆ ไม่มีคนบังผม ผมนอนอยู่บ้านดู DVD ครับ
    หากว่า ผมไม่อยากได้บรรยากาศของคนรอบข้าง ผมนอนดูคนเดียวอยู่ที่บ้านแล้ว

    แต่นี่ผมอยากมาฟังเพลงสดๆ พร้อมๆกับแฟนเพลงคนอื่นๆ
    แหกปากร้องเพลงพร้อมกัน
    โยกหัวไปพร้อมๆกัน
    มาบังคับให้ผมนั่งทำไม...... เฮ้อ......

    นี่เป็น Rock Concert ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง เท่าที่ผมเคยได้ดูมาในชีวิต
    มันไม่ได้ดีเพราะ production ใหญ่โต หรือของปรุงแต่งอื่นๆ
    แต่มันดีเพราะการแสดง การเล่นดนตรี spirit ของนักดนตรีชั้นยอด

    ผมคิดว่า นี่เป็นช่วงที่ Dream theater กำลังมีฟอร์มที่สดมาก
    หากว่า อายุมากๆไปกว่านี้อีกสัก 10 ปี อาจจะ drop ลงแล้ว
    อย่างน้อยเสียงของ James labrie อาจจะ drop ลง
    จึงเป็นโชคดีมากๆครับ ที่ผมได้ดู Dream Theater ในช่วงนี้

    Mike บอกตอนจบว่า
    "You are ฟักกลิ้ง amazing , we shall return."

    ผมก็อยากบอกเหมือนกันครับว่า
    "You are also ฟักกลิ้ง amazing too, Please DO return ! "


    Set list
    Intro tape In The name Of God
    The Root Of All Evil
    Panic Attack
    A Fortune In Line
    Under A Glass Moon
    Lie
    Peruvien Skies
    Strange Deja Vu
    Through My Words
    Fatal Tragedy
    Solitaly Shell
    About to Crash (Reprise)
    Losing Time / Grand Finale

    -- Intermission --

    As I Am
    Endless Sacrifice
    I Walk Beside You
    Sacrificed Sons
    Octavarium

    -- Encore --

    Jordan Intro Through Her eyes / Petrucci Solo
    Spirit Carries On
    Pull Me Under / Metropolis Pt.1
    (ก็อปมาจาก pantip ห้อง Rock ครับ)

    จากคุณ : poj-audiophile - [ 27 ม.ค. 49 14:37:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป