CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ประวัติของครูสง่า อารัมภีร(1)

    ประวัติของครูสง่า อารัมภีร(1)

    โดย คีตา พญาไท www.manager.co.th

    ---------------------------------------------------------------------

    ในบรรดาศิษย์เก่ากองดุริยางค์ทหารอากาศ ที่มีชื่อเสียง มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับ และรู้จักกว้างขวาง รวมทั้งมีคุณประโยชน์ต่อวงการดนตรีไทย วงการเขียน และวงการบันเทิง เห็นจะไม่มีใครเด่นไปกว่า "ครูแจ๋ว" หรือ "น้าแจ๋ว" "พี่แจ๋ว" หรือ ครูสง่า อารัมภีร ของใครต่อใครไปได้
         
          ยิ่ง ครูสง่า อารัมภีร เป็นนักเขียนเรื่องราวที่น่ารู้ต่างๆ ในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ต่างๆ หลายฉบับอยู่เป็นประจำ เฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราว ประวัติ หรือเกร็ด ของครูเพลง นักดนตรี นักร้อง หรือ นักแสดง ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คนรุ่นหลังๆ ได้มีโอกาสรู้ถึงความเป็นมา ความเป็นไปในวงการได้เป็นอย่างดี
         
          มาระยะหลังๆ เมื่อ ครูสง่า อารัมภีร ล่วงไปแล้ว ก็ยังมีอภิชาตบุตร ที่เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น บูรพา อารัมภีร นำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่น่ารู้มาเผยแพร่ สานต่อเจตนารมณ์ของ ครูสง่า อารัมภีร ก็ทำให้คนอ่านมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ กว้างขวางออกไปอย่างต่อเนื่อง
         
          จากหนังสือประวัติและผลงานของ ครูสง่า อารัมภีร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล) ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ตีพิมพ์ออกเผยแพร่นั้น ระบุรายละเอียดไว้ว่า
         
          "นายสง่า อารัมภีร หรือที่รู้จักกันในนามแฝงว่า "แจ๋ว วรจักร" เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด...เกิดที่ตำบลบางขุนพรหม เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2464 บิดาชื่อสมบุญ และมารดาชื่อ พิศ ตระกูลฝ่ายบิดามีอาชีพในการทำดอกไม้ไฟ มารดามีอาชีพทำนา...
         
          เมื่อเกิดมานั้น บิดา มารดาเห็นว่าเป็นเด็กที่ชะตาแรง ด้วยความเชื่อถือในเรื่องโหราศาสตร์ จึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรม ของ นาวาอากาศเอก ขุนสวัสดิ์ฑิฆัมพร และ นางพิศวง (หรือทรงสอางค์) ฑิฆัมพร ทั้งยังได้เปลี่ยนดวงชะตา มาเป็นคนเกิดวันที่ 13 ธันวาคม 2466 โดยเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตของ นายสง่า อารัมภีร ดีขึ้นด้วยประการทั้งปวง..."
         
          จากการที่เป็นเด็กแถวบางขุนพรหม ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของวงดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงเช่น วงดนตรีไทยวังบางขุนพรหม ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต หลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น โรยชีวิน) หลวงเสียงเสนาะกรรณ (พัน มุกตวาภัย) ขุนสนิท บรรเลงการ (จง จิตตเสวี) ซึ่งอยู่ใกล้เคียงละแวกนั้น ทำให้ความรัก และสนใจในเพลง เฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยเหตุที่พ่อและแม่บุญธรรมทั้งสองคน เป็นคนที่รักและชอบการดนตรีและการละครอยู่ด้วย จึงมีโอกาสได้ฟังเพลงจากแผ่นเสียงที่ซื้อหามาฟังเล่นอยู่ในบ้าน ทำให้ครูสง่า อารัมภีร ได้มีโอกาสฟังเพลงไทยและเทศ รวมทั้งเพลงละครที่แสนจะไพเราะจากพรานบูรพ์ ในสมัยนั้นเรื่อยมาตั้งแต่เด็ก
         
          ครูสง่า อารัมภีร เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนแถวบางขุนพรหม ต่อมาเมื่อบิดา มารดา บุญธรรมย้ายไปรับราชการที่ จังหวัดลพบุรี ก็เรียนหนังสือที่บ้าน โดยมีมารดาบุญธรรมเป็นผู้สอน จนสามารถสอบเทียบชั้นมัธยมปีที่ 3 และได้เข้าฝึกงานในหมวดซ่อมของกองบินน้อยที่ 4 โคกกระเทียม
         
          ด้วยเหตุที่บิดา มารดาบุญธรรมทั้งสองท่าน มีความสนใจเรื่องหนังสือ การดนตรี การแสดงละครต่างๆ อยู่แล้ว ทำให้ครูสง่า อมรัมภีร มีโอกาสได้อ่านหนังสือวรรณคดี วรรณกรรม ผลงานการเขียนของนักเขียนชั้นแนวหน้า เช่น ดอกไม้สด แม่อนงค์ ยาขอบ ฯลฯ จึงมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักเขียนกับเขาอยู่บ้าง
         
          นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสฟัง ผลงานเพลงอมตะของครูเพลงสมัยนั้น จากแผ่นเสียงที่บ้าน เช่น เพลงของพรานบูรพ์ หลวงวิจิตวาทการ รท.มานิตย์ เสนะวีณิน ขุนวิจิตรมาตรา ฯลฯ ทำให้เกิดความบันดาลใจในสุนทรียะด้านการดนตรีเรื่อยมา
         
          ใน ประวัติชีวิตและผลงานของนายสง่า อารัมภีร เขียนเล่าเอาไว้ว่า
         
          "...ในเรื่องของการศึกษาวิชาดนตรี กล่าวได้ว่า นายสง่า เรียนด้วยตนเองมาโดยตลอด เริ่มจากการฟังเพลง ซึ่งมีแผ่นเสียงประกอบละครเป็นพื้น ได้แก่เพลงของ พรานบูรพ์ ซึ่งมีนางสาวประทุม ประทีปเสน เป็นนักร้องสำคัญ ต่อมาก็แผ่นเสียงเพลงจากละครต่างๆ ของหลวง วิจิตรวาทการ เพลงจากภาพยนตร์ศรีกรุงของ เรือโทมานิตย์ เสนะวีณิน และ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนพันธุ์)
         
          ยุคนั้น เป็นยุคละครเพลงทั้งหมด รวมทั้งละครร้องในแนวเก่า ของ กรมนราธิปประพันธ์พงศ์ ละครคณะแม่เลื่อน เป็นต้น
         
          ทั้งหมดนี้จัดได้ว่าเป็นครู ด้วยประสบการณ์การฟังเท่านั้น..."
         
          ต่อมาในปี พ.ศ.2479 เริ่มเบื่องานเกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องยนต์ และอยากใช้ชีวิตที่เผชิญโลกภายนอกด้วยตนเองบ้าง จึงออกจากบ้านไปท่องเที่ยวโดยลำพังในต่างจังหวัด รับจ้างคุมเครื่องเรือยนต์ที่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี แล้วกลับมาบ้านเพื่อเข้ารับราชการทหาร ในปี พ.ศ.2482
         
          ที่กองบินน้อยที่ 4 โคกกระเทียม ลพบุรี นั้น เรืออากาศเอกเฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร หัวหน้าหน่วยจัดให้มีวงดนตรีบรรเลงขึ้นเพื่อสร้างความรื่นรมย์ให้กับหน่วยทหาร ครูสง่า อารัมภีร ก็เป็นนักร้องกับวงด้วย เพราะสามารถร้องเพลงและจดจำเนื้อเพลงได้มากกว่าคนอื่นๆ และถือโอกาสหัดเครื่องดนตรีบางชิ้น เช่น ปี่ปิคโกโล่
         
          ซึ่งครูสง่า อารัมภีร เล่าถึงประวัติในตอนนี้ไว้ ใน ความเอย ความหลัง ว่า
         
          "...ม.ล.ทรงสอางค์(พิศวง) ฑิฆัมพร ป.ม.ท่านเป็นครูเคยสอนที่ร.ร.สตรีวิทยา แล้วลาออกไปอยู่ที่กองบินน้อยที่ 2 ดอนเมือง สมัยคุณหลวงล่าฟ้าเริงรณ เป็นผบ.เมื่อ 2478 ย้ายต่อไป กองบินน้อยที่ 4 โคกกระเทียม สมัยขุนสวัสดิ์ฑิฆัมพร เป็น ผบ.เมื่อ 2479 ถึง 2483
         
          สมัยนั้นท่านยังไม่มีลูก จึงรับผมไปอุปถัมภ์ สอนภาษาไทยชั้นสูง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ให้ไปอยู่โคกกระเทียม ลพบุรี ท่านเขียนนวนิยายต่างๆ หลายร้อยเล่มไปด้วย ผมเลยเป็นหนอนหนังสือ ตั้งแต่บัดนั้น"
         
          ด้วยเหตุนี้ ผลงานเพลงไทยสากลในยุคละครเวทีหรือเพลงประกอบในภาพยนตร์ที่ครูสง่า อารัมภีร แต่งขึ้น จึงนำเอาบทพระราชนิพนธ์ ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 และบทวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของกวีไทยในสมัยโบราณ เช่น จากเจ้าฟ้ากุ้ง สุนทรภู่ นรินทร์ธิเบศ โคลงโลกนิติ ฯลฯ มาใส่ทำนองที่แสนไพเราะและมีความหมายยิ่ง เหมือนกันกับที่ครูเอื้อ สุนทรสนาน นำเอามาทำไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

    จากคุณ : Younger Pat - [ 6 มิ.ย. 49 17:36:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com