แล้วนี่ตุ้ยแจ้งความรึยัง
คำพูดของโด่งทำให้ตุ้ยคลายวงแขนออกจากต้า เขาหันมองเพื่อนรักอีกคนอย่างตกใจ
ยังเลย...ตุ้ยลืม มัวแต่ห่วงน้อง น้ำเสียงนั้นฟังดูร้อนรน เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ สี่ทุ่มกว่าแล้ว
อีกสองชั่วโมงก็จะเปลี่ยนเป็นวันใหม่ ตุ้ยไม่แน่ใจว่าสถานีตำรวจรับแจ้งความข้ามวันไหม...สำหรับกรณีชนแล้วหนี
เขาคงต้องรีบไปโรงพักเดี๋ยวนี้...ตุ้ยพยามยามคิดย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำ
เขาจำอะไรเกี่ยวกับรถคันนั้นไม่ได้เลย จำได้แค่เป็นรถแท็กซี่สีฟ้า...ไม่ได้สังเกตแม้แต่ป้ายทะเบียนด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องไปอยู่ดี...ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันยากเหลือเกิน ที่จะตามหารถแท็กซี่และคนขับรถคนนั้นเจอได้
งั้นเดี๋ยวตุ้ยมานะ ฝากน้องด้วย...
โด่งจ้องหน้าตุ้ยนิ่ง รับรู้ได้ถึงแววตากังวลที่ส่งมา ซาร่ายังไม่ออกจากห้อง ICU ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...
ตุ้ยไปคนเดียวได้นะ ...
คำพูดนั้นของโด่งส่งผลให้ตุ้ยชะงักฝีเท้า เขาหันมองอีกฝ่ายอย่างซึ้งในน้ำใจ
ตุ้ยรู้ดีว่าโด่งเป็นห่วงอาการของซาร่ามาก และคงอยากเฝ้าอยู่ทางนี้มากกว่า แต่โด่งก็ยังไม่ลืมที่จะห่วงเขาด้วย
ได้...ตุ้ยไปแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ โด่งอยู่เฝ้าร่าแทนตุ้ยด้วยนะ
คำพูดนั้นทำเอาต้ารู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน...
ต้าอยากให้ซาร่าเจอเขาก่อนโด่ง...อยากให้เธอคิดว่าเขาห่วงเธอมาก ในขณะที่โด่งไม่สนใจ
เจ็บ...ต้องเจ็บอย่างนี้เท่านั้นแหละ ถึงจะสมใจเขา
แค่นี้มันยังไม่ถึงครึ่งความเจ็บแค้นที่เขาต้องทนรับมาตลอดเลยด้วยซ้ำ
และตอนนั้นเองเสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือของตุ้ยก็ดังขึ้น ดึงให้ต้าหลุดจากความคิดของตัวเอง
ตุ้ยกดรับพูดอยู่สองสามคำก่อนจะหันมาบอกกับทุกคนในที่นั้นน้ำเสียงร้อนรน
พ่อกับแม่ลงจากเครื่องแล้ว...แต่แท็กซี่พาหลง แม่มาโรงบาลไม่ถูก
แม้ประโยคนั้นจะฟังดูเหมือนประโยคบอกเล่าธรรมดา...แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่ามันคือคำขอ
ตุ้ยต้องรีบไปโรงพัก ไปรับพ่อกับแม่ไม่ได้ เขาต้องการให้ใครสักคนไปแทนเขา
ตุ้ยมองหน้าต้า ส่งสายตาขอร้องไปให้ คนที่เคยเจอพ่อแม่เขาแล้ว มีเพียงต้าและโด่งเท่านั้น
และแน่นอนตุ้ยอยากให้โด่งอยู่ที่นี่ เขาอยากให้น้องฟื้นขึ้นมาเจอโด่งเป็นคนแรก...
เพียงแค่สบตา ต้าก็เข้าใจ...แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมผละไปในเวลานี้เล่า...
แผนการทั้งหมดกำลังจะสำเร็จ รอเพียงเวลา...เวลาที่ซาร่าฟื้นขึ่นมา และพบว่าเขาคือคนช่วยชีวิตเธอ!
ต้าแสร้งทำเป็นจับแผลที่ข้อมือเอาไว้ ก่อนจะรับคำเสียงเบา และทำท่าจะออกเดินไปพร้อมตุ้ย
ต้า...ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวโด่งไปเองดีกว่า ต้ายังเพลียอยู่นะ
ต้าหันมองคนพูดอย่างตกใจ ไม่...คราวนี้เขาไม่ได้แกล้งทำ ต้าตกใจเพราะเขาคาดหวังให้บอยเป็นคนไปแทน
โด่งเองก็เพิ่งจะเจาะเลือดมาเหมือนๆกับเขา ต้ารู้ว่าอีกฝ่ายก็คงเพลียไม่แพ้กัน...เขาเป็นห่วงโด่ง
บอยไปให้ก็ได้พี่... แล้วคนที่ยืนนิ่งมานานก็รับอาสา
ไม่...เดี๋ยวพี่ไปเอง บอยไม่เคยเจอพ่อแม่ตุ้ย ถ้าคลาดกันก็ตามไม่เจอหรอก สุวรรณภูมิมันเล็กๆซะที่ไหนกัน
โด่งยันคงยืนยันคำเดิม ก่อนบอกน้องน้ำเสียงจริงจังถ้าร่าฟื้นแล้วโทรบอกพี่นะ
แม้ซาร่าจะยังไม่ออกจากห้อง ICU แต่โด่งก็มั่นใจว่าคนที่เขารักต้องปลอดภัย...และฟื้นขึ้นมา
ซาร่าจะต้องไม่มีวันเป็นอะไร...เลือดจากตัวเขาจะต้องช่วยเธอได้
โด่งแตะท่อนแขนตุ้ยเบาๆเหมือนจะบอกให้ไปกันได้แล้ว ก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟท์รวดเร็ว
โดยที่โด่งไม่ทันได้เห็นสายตาห่วงใยจากต้าและบอย รวมไปถึงสายตาทึ่งในน้ำใจจากมิ้นด้วย
เพียงไม่นานลิฟท์ก็มา ตุ้ยและโด่งเข้าไปในตัวลิฟท์ที่ว่างเปล่า ประตูลิฟท์ปิดลง ตุ้ยยืนพิงพนังมองเพื่อนรักนิ่ง
ความคิดหลายอย่างผ่านเข้ามาในใจ...
ตุ้ยสงสัยว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้โด่งไม่สบอารมณ์ ตอนที่โด่งเจอกับซาร่าที่ห้อง ตามแผนของเขาเมื่อเย็น
แต่เขาก็ไม่อยากจะถามอีกฝ่ายเรื่องนี้แล้ว เพราะถ้าหากถาม...โด่งก็จะรู้ว่าสาเหตุที่น้องสาวเขารีบวิ่งออกจากห้อง
จนถูกรถชนเข้า เป็นเพราะซาร่าห่วงโด่ง และนั่นก็จะทำให้เพื่อนเขายิ่งคิดมากว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ซาร่าเจ็บ
แต่อีกคำถามที่ตุ้ยจะต้องถามอีกฝ่ายก็คือ ทำไมโด่งถึงไม่ได้ให้เลือดแก่ซาร่า จะว่าโกรธอยู่ก็ไม่น่าจะใช่
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำ มันก็น่าจะพิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่า โด่งยังรักซาร่าอยู่...
ตอนนั้นเองที่คนถูกมองรู้ตัว โด่งหันมามองตุ้ย เขาเห็นแววตาสงสัยจากดวงตาของเพื่อน...
โด่ง...ตุ้ยถามอะไรหน่อยได้มั้ย
โด่งหลบสายตา เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังจะถามเขาเรื่องอะไร
เรื่องให้เลือด...
ยังไม่ทันที่ตุ้ยจะได้ถามต่อให้จบ ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ถึงชั้นที่โด่งจอดรถไว้แล้ว เขาบอกลาเพื่อน
ก่อนจะเดินแทรกผ่านกลุ่มคนที่ยืนรอลิฟท์อยู่ออกมารวดเร็ว...ทิ้งให้ตุ้ยมองตามไปด้วยความสงสัย
........................................
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
ซาร่าถูกย้ายไปที่ห้องพักธรรมดาแล้ว...เธอปลอดภัย
บอยกดวางสายหลังจากโทรไปรายงานเรื่องน่ายินดีนี้กับโด่งและตุ้ยแล้ว
เขามองไปที่เตียงคนไข้ แฟนของพี่ชายเขายังคงหลับอยู่ โดยมีต้านั่งอยู่ข้างเตียงนั้นเงียบๆ ไม่ยอมลุกไปไหนเลย
ความสงสัยก่อเกิดขึ้นในใจ...บอยรู้สึกว่าเพื่อนพี่ชายเขาดูจะเป็นห่วงซาร่ามากจนน่าแปลก
แต่ยังไม่ทันที่บอยจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น...
หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวก็ดึงความสนใจของเขาไปซะก่อน
มิ้นกระพิบตาถี่ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง ปากเรียวเล็กนั้นหาวทิ้งท้าย ราวกับว่าเจ้าตัวยังนอนไม่เต็มอิ่ม
ภาพนั้นทำเอาบอยหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู คนที่หัวยุ่งเพราะเพิ่งตื่นหันมามองบอยอย่างไม่สบอารมณ์
ขำอะไร...
ก็ขำ...
ยังไม่ทันที่บอยจะได้ต่อปากต่อคำด้วย เสียงท้องร้องจากคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็ทำเอาเขาหัวเราะออกมาอีกรอบ
มิ้นหลบสายตาบอยด้วยความอาย เธอท้องร้องต่อหน้าผู้ชาย...แย่เลยมิ้นเอ้ย...
หิวอ่ะดิ บอยพูดกลั้วหัวเราะ จะว่าไปเขาเองก็หิวเหมือนกันแฮะ ตั้งแต่เย็นยังไม่ได้กินอะไรเลย
จะกินอะไร เดี๋ยวไปซื้อมาให้
เงียบ มิ้นไม่ยอมตอบ เพราะถ้าตอบไป นั่นก็จะเท่ากับเธอยอมรับว่าเสียงท้องร้องเมื่อกี้มันมาจากเธอ
ไม่ต้องอายหรอก บอกมาเหอะ ขี้เกียจนั่งฟังเสียงท้องร้องแล้ว
คำพูดแทงใจนั้นทำให้มิ้นตวัดสายตามองคนพูดอย่างเจ็บใจ ก่อนจะบอกเสียงดัง...
ไม่ต้อง ชั้นไปซื้อเองได้ หลีกๆ มิ้นพูดแล้วก็ผลักอีกฝ่ายแรงๆให้พ้นทาง
ก่อนจะหันไปถามพี่ชายที่ยังคงไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้
พี่ต้าจะกินอะไรมั้ย เดี๋ยวมิ้นซื้อมาฝาก
ต้าหันมองหน้าน้องก่อนจะปฏิเสธเสียงขรึม ไม่ล่ะ พี่ไม่หิว
เวลานี้เขากินอะไรไม่ลงหรอก เพราะจิตใจของเขากำลังพุ่งตรงไปที่ซาร่า
แค่รอเวลา...ให้เธอฟื้นขึ้นมา เพื่อเริ่มแผนการขั้นต่อไป...
งั้นมิ้นไปนะ
พูดแล้วหญิงสาวก็หันไปมองค้อนบอย ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูห้อง
แต่เพราะคำพูดของคนที่เดินตามมาติดๆนั่นแหละที่หยุดเธอไว้ได้ก่อน
ไปคนเดียว ไม่กลัวผีหรอ...นี่มันโรงพยาบาลนะ ห้าทุ่มแล้วด้วย
มิ้นหันมองหน้าบอย เขารับรู้ได้ถึงแววตาตะหนกในดวงตานั้น แต่อีกฝ่ายก็ยังคงปากแข็ง
ไม่กลัว นายอย่าเว่อร์เลย ผีเผออะไร ไม่มีหรอก
มิ้นพูดแล้วก็เดินเร็วๆตรงไปที่ลิฟท์ โดยมีบอยวิ่งตามไปติดๆ เขาเร่งฝีเท้าขึ้นไปเดินคู่กับหญิงสาว
แกล้งปั้นแต่งเสียงให้น่ากลัวก่อนจะบอก...
แน่ใจนะว่าไม่กลัว...อย่าลืมสิว่านี่มันวันฮาโลวีน...
***********************
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 23:17:30
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 22:40:54
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 22:37:35
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 22:21:20