Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กะเทาะตัวตน 'ซานิ V6' พ่อแม่-คนดู พลังหนุนนำสู่ฝั่งฝัน  

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2552 16:37 น.

ปิดฉากไปอย่างอลังการ กับทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเซีย ซีซั่น 6 หรือ AF 6 ที่เหล่าผู้ชมต่างทุ่มเทคะแนนให้กับ "นิภาภรณ์ ฐิติธนการ" หรือ "ซานิ V6" สาวห้าว มั่นใจ ผู้สร้างเสียงฮาตัวแม่แห่งบ้าน AF จนทำให้คืนในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.52 ที่ผ่านมา กลายเป็นคืนประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องจดจำ เพราะ “ซานิ V6” ได้เป็นผู้หญิงคนแรกที่คว้ารางวัลชนะเลิศสุดยอดนักล่าฝันมาครองได้อย่างภาคภูมิ
     
      แต่กว่าจะผลักดันชีวิตให้เดินทางมาถึงตำแหน่งสุดยอดนักล่าฝันในวันนี้ คงมิอาจปฏิเสธเบื้องหลังคนสำคัญของเธอ เพราะอิสระที่ได้จากพ่อแม่ในการใช้ชีวิต ได้จุดประกายให้เธอกลายเป็นผู้หญิงมีความคิด และความสามารถ รวมไปถึงความมั่นใจที่จะเดินไปตามทางฝันของตัวเอง ถึงแม้จะต้องพิสูจน์อะไรบางอย่างให้ครอบครัวได้เห็น และยอมรับก็ตาม
     
      ***กะเทาะเปลือกสาวมั่น 'ซานิ-นิภาภรณ์'
     
      “ซานิ” สาวห้าวขวัญใจมหาชนคนทุกเพศ อายุ 24 ปีคนนี้ เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่ออนันต์ และคุณแม่บุญกอง ฐิติธนการ เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับ (Jewelry) ซานิในวัยเด็ก เป็นเด็กซน และอยู่ไม่เป็นที่ ชีวิตเธอถูกเลี้ยงให้มีชีวิต และความคิดที่อิสระ เมื่อมีปมปัญหาในใจ เธอจะไม่เก็บไว้คนเดียว แต่จะถือโอกาสเข้าไปปรึกษา และพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิท ที่จะคุยกับเธอได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องร้าย หรือดี
     
      สำหรับสายเลือดศิลปินในตัวเธอ ซานิบอกว่า มีอยู่ในตัวตั้งแต่เด็กแล้ว ผนวกกับที่บ้านจะอบอวลไปด้วยเสียงเพลงอยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ เธอ และครอบครัวจะจับไมค์ ร้องเพลงคาราโอเกาะกันอย่างสนุกสนาน และทุกครั้งที่ร้องเพลงร่วมกัน จะมีการเล่นมุกกันด้วยทุกครั้ง เนื่องจากทุกคนในบ้านเป็นคนตลก และชอบดูตลกคาเฟ่
     
      ความเฮฮาตรงนี้ ทำให้เธอมีนิสัยรักตลก และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา โดยมี “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” เป็นตลกต้นแบบ จากจุดเริ่มต้นของความรู้สึกที่ดีภายในบ้าน ทำให้เธอซึมซับ และชื่นชอบเสียงดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยเหตุผลที่อยากจะร้องเพลงให้คนฟังมีความสุข และมีรอยยิ้มเหมือนกับเธอที่ร้องด้วยความสุขกับครอบครัว

*** หัวใจคนดนตรีที่ต้องพิสูจน์ตัวตน
     
      เมื่อหัวใจคนดนตรีประทุขึ้น สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ซานิได้เข้าร่วมคณะประสานเสียงของโรงเรียน พอสอบเข้าเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒได้ จึงตั้งวงดนตรีร่วมกับเพื่อน และเริ่มร้องเพลงอย่างจริงจังเรื่อยมา แต่ถึงกระนั้น เส้นทางดนตรีของซานิ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะที่บ้านไม่เห็นด้วยกับการร้องเพลงของเธอเท่าที่ควร โดยเฉพาะช่วงที่ไปร้องเพลงในสถานบันเทิงยามค่ำคืน
     
      “การที่เราต้องทำงานดึก มันเป็นธรรมดาที่ต่อให้เราห้าว หรือดูแก่นมากแค่ไหน เราก็ยังเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่ เวลาไปทำงานกลางคืน เขาก็จะห่วงแล้วว่า กลับบ้านอย่างไร ขับรถไหวหรือเปล่า บวกกับช่วงนั้นอยู่ในช่วงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ท่านก็กลัวว่า จะไม่รอดเรื่องเรียน จึงอยากให้เรามามุ่งมั่นกับการเรียนก่อน ซึ่งขัดแย้งกับนิที่อยากทำงานหาเงินเรียนด้วยตัวเอง”
     
      จากความไม่ลงรอยกันทางความคิด คุณพ่อจึงบอกกับเธอประโยคเดียวว่า “ถ้าเรียนแล้วไม่ตก ลูกก็ทำต่อไปได้” ซึ่งการพิสูจน์ในครั้งนั้น ผลปรากฏว่าเธอทำได้ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3 กว่าๆ ในเทอมที่คุณพ่อต้องการ บทพิสูจน์บทนี้ ถือเป็นบทหินที่เธอสามารถปลดล็อกความไม่เข้าใจของครอบครัว ให้กลายเป็นความเข้าใจ และเป็นกำลังใจ จนได้มาอยู่เคียงข้างเธอถึงทุกวันนี้


      ***บ้านนักล่าฝัน บ้านที่มากกว่าการเก็บตัว
     
      หลังจากพิสูจน์ตัวเอง จนทำให้พ่อแม่ยอมรับ และได้ทำงานร้องเพลงตามที่ชอบมาประมาณ 5 ปี วันหนึ่งพ่อกับแม่ ก็เจอข่าวการรับสมัครประกวดร้องเพลง จึงบอกให้เธอลองไปสมัครดู ผนวกกับรุ่นพี่ที่คอยผลักดันเธอมาตั้งนานแล้ว ทำให้ซานิตัดสินใจเข้าสมัครทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเซีย ซีซั่น 6 เพราะเชื่อว่า การจะเป็นนักร้อง ถ้าไม่ลองดูสักตั้ง ก็คงไม่มีโอกาสสำเร็จได้
     
      “ตอนแรกก็ไม่คิดหวังอะไรมาก เพียงแต่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และอยากได้คอมเมนต์เท่านั้น แต่พอได้ผ่านเข้ามาอยู่ในบ้าน AF บ้านหลังนี้ให้อะไรกับนิเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทักษะการร้องเพลงจากครูทุกคน มิตรภาพ ความผูกพันที่เพื่อนๆ มีให้อย่างจริงใจ ซึ่งจากตอนแรกที่เคยมองว่า อยู่กันแค่ประเดี๋ยวเดียว ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้ด้วย พอได้เข้ามาอยู่จริงๆ มันบอกได้แค่ว่า เรามีกันอยู่ 12 คน ไม่ว่าใครคนหนึ่งเดินออกไป ความเหงา และความหดหู่มันก็แทรกเข้ามาทันที”
     
      *** พ่อแม่-คนดู พลังหนุนนำสู่ฝั่งฝัน
     
      “ถึงแม้ตัวเองจะมีแรงกระตุ้นที่อยากจะเป็นนักร้องมากแค่ไหน แต่ก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น เพราะถ้าไม่ได้รับแรงผลัก และแรงสนับสนุนจากครอบครัว รวมไปถึงคนรอบข้าง ฝันนั้นก็ไม่เป็นจริง” จากประโยคนี้ ซานิเชื่อในพลังของพ่อแม่ และคนรอบข้างที่รัก และชอบเธอ เพราะถือเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่จะเป็นพลังผลักดันให้ชีวิตไปสู่เส้นชัย
     
      สำหรับพ่อแม่ ซานิ บอกว่า ปกติเธอจะเป็นคนใจร้อนมาก แต่เธอจะมีแม่ที่คอยบอกอยู่เสมอว่า “เวลาจะทำอะไร ถ้ามีความใจเย็น ชัยชนะจะมาหาเราแน่นอน” คำสอนตรงนี้ ทำให้เวลาขึ้นเวทีทุกครั้ง เธอจะมีความอดทน และไม่ประหม่า เพราะความใจเย็นที่ได้จากแม่ และความแข็งแกร่งที่ได้จากพ่อ ทำให้เธอมีสติ ซึ่งเชื่อว่า ถึงจะร้องออกมาไม่ดี แต่ถ้าร้องออกมาจากใจโดยมุ่งไปที่คนฟัง จนทำให้คนฟังมีความสุข และเห็นทุกคนยิ้มกับเพลงที่เธอถ่ายทอดออกไป เท่านี้คือความสุดยอดสำหรับเธอแล้ว
     
      “คำที่พ่อแม่สอน ไม่ว่าจะเป็นความใจเย็น อดทน มันเตือนสติเราได้ทุกสถานการณ์ เช่น ตอนอยู่ในบ้านเอเอฟ เมื่อเห็นคนออกไปทีละคน สองคน ใจมันหลุดลอยไปแล้ว แต่พอมีสติ ทำให้ความมุ่งมั่น และความตั้งใจกลับมาคืนมาเหมือนเดิม เพราะคนดูกำลังรอฟังเพลงของเราอยู่ จะมาจมอยู่กับความอ่อนแอไม่ได้อีกแล้ว” ซานิบอก

      ด้านคนดูแฟนคลับทั่วประเทศ ที่คอยเป็นกำลังใจร่วมกับการเดินทางไปหาความฝันของเธอ ซานิอยากจะบอกว่า “มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากที่สุด ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ก็ยิ้มได้ทุกครั้งที่เห็นแฟนคลับ และคนที่รักซานิ มายืนถือป้าย V6 คอยเชียร์อยู่ทุกๆสัปดาห์ บางคนกรี๊ดเพื่อให้เราได้ยินจนเสียงแหบ รวมไปถึงคนที่อยู่ทางบ้านด้วย ดังนั้นอยากบอกให้ทุกคนรับรู้เช่นกันว่า เราก็ชอบคุณ และรักคุณมากนะ และเมื่อคุณทำเต็มที่กับนิถึงขนาดนี้ นิก็พร้อมที่จะส่งคืนให้กับคุณมากกว่าที่คุณทำให้ซานิแน่นอน”
     
      *** ‘กตัญญู’ เครื่องหมายคนดี สู่ความสำเร็จ
     
      นอกจากความฝันที่อยากจะเป็นศิลปินของเธอแล้ว เธอยังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพ่อกับแม่สุดที่รักของเธอ ด้วยการเลี้ยงดูพ่อแม่ในฐานะลูกคนเดียว เพื่อให้ท่านทั้งสองสุขสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเธอเชื่อว่า ความกตัญญูเป็นสิ่งที่จะนำพาทุกคนไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้
     
      “ตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ไม่เคยปล่อยให้นิลำบากเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้พ่อกับแม่จะอดมื้อกินมื้อ แต่ในความเป็นลูก พ่อแม่ยอมเสียสละให้ได้เสมอ รวมไปถึงทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำให้กับนิ วันนี้มันถึงเวลาแล้วที่ จะลูกคนนี้ จะต้องเลี้ยงดูท่านทั้งสองให้อยู่อย่างสุขสบาย ทั้งนี้เพื่อส่งกลับให้มากกว่าสิ่งที่พ่อกับแม่ทำให้นิมาตลอดครึ่งชีวิต” นี่คือสิ่งที่ซานิอยากทำให้กับพ่อแม่มากที่สุดในชีวิต ณ ตอนนี้
     
      อย่างไรก็ดี ด้วยบุคลิกที่มั่นใจ และชัดเจนของผู้หญิงมาดร็อกคนนี้ เธอยังมีความฝันที่อยากจะเป็นช่างตัดผม และนักออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น ด้วยเหตุผลที่เธอชอบเห็นคนสวย และดูดี จากการออกแบบ และการจัดแต่งของตัวเธอเอง เพราะงานแบบนี้มันสามารถเปลี่ยนลุคคนได้ จากคนผมยาว กลายเป็นสาวเปรี้ยวไปในพริบตาหรือการแต่งตัวทำให้คนธรรมดา เปลี่ยนเป็นคนที่มีสไตล์ และอินเทรนได้เช่นกัน
     
      ถึงตอนนี้ คงจะสัมผัสถึงตัวตนของ “ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” กันได้ชัดเจนขึ้น กับบทบาทที่เป็นเครื่องการันตีถึงพรแสวง ที่เธอใส่ให้กับตัวเองมากับมือ ประกอบกับการเลี้ยงดูที่ได้รับอิสระในการใช้ชีวิต และความคิดจากครอบครัว ทำให้เธอเติบโต และกลายเป็นสาวห้าว มั่นใจ มีเอกลักษณ์ จนเป็นที่จดจำของคนทุกเพศ และนำพาเธอสู่การคว้ารางวัลสุดยอดนักล่าฝันในปีนี้มาครองได้อย่างภาคภูมิใจ เพราะเธอคือ “ซานิได้หมด” ที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคน

จากคุณ : ดีโอ
เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 17:41:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com