ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีใครแก่เกินเรียน  แก่แล้วนิ้วอาจจะแข็งไปบ้าง คงไม่พริ้วได้เท่าโต๋ แต่เล่นได้แน่นอน ถ้าใจรัก เปียโน ต่างกับคีย์บอร์ด ตรงที่ เปียโน มีเสียงออกมาได้โดยไม่ต้องเสียบปลั้กไฟ ถ้าจะเรียน มีรร.สอนเยอะแยะ หาsearchดูได้ในเนท จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 15 ม.ค. 48 16:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวเองก็พึ่งเล่น keyboard มาได้ 2 - 3 เดือนแล้วคะ กระเตาะกระแตะไปเรื่อยๆ 55 ฉะนั้นคงแนะนำอะไรไม่ได้มาก และคงจะตอบเท่าที่ตอบได้นะคะ 1. เปียโน ต่างกันกับ คีย์บอร์ด อิเล็กโทน มากไหม - เรื่องเสียงที่จะให้เหมือนเปียโนจริงๆ keyboard คงสู้เปียโนไม่ได้แน่นอนคะ แต่ถ้ารุ่นแพงๆ อาจไม่แน่คะ - เรื่องลูกเล่น keyboard มีให้คุณแน่นอนคะเช่นทำเป็นเสียงกีตาร์ หรือกลองก็ได้ เพราะ keyboard ส่วนใหญ่จะมีเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ อยู่ในตัวอย่างตํา 90 เสียง - keyboard สามารถใช้ headpone ได้ในช่วงที่คุณไม่อยากรบกวนคนอื่นเวลาที่คุณเล่น ( หรือเล่นผิดคีย์ คนอื่นจะได้ไม่ขำ 55 ) ในขณะที่เปียโนทำไม่ได้ 3. อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เล่น มีราคาเฉลี่ยนประมาณเท่าไหร่ หาดูได้จากไหน แล้วผมควรเริ่มต้นเลือกซื้อยังไง - แนะนำให้ซื้อรุ่นพอใช้ได้ก่อนนะคะเช่น 61 คีย์ ( keyboard จะมีให้คุณเลือกตั้งแต่ 41 คีย์ ขึ้นไปถึง 88 คีย์ซึ่งเท่ากับคีย์ของเปียโนจริง ) ที่บอกให้คุณเลือกรุ่นพอใช้ได้มาก่อนเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจว่าคุณสนใจที่จะเล่นเปียโนจริงไหม ถ้าจริงค่อยซื้อเปียโนจริงมาเล่น ( ถ้าคุณมีงบถึงคะ ถ้าไม่ถึง ก็แนะนำ keyboard รุ่นที่ดีขึ้นไปคะ เช่น 88 คีย์ ) - เรื่องแป้นนี้สำคัญคะ ต้องเลือกแบบที่ไม่แข็งและไม่นิ่มเกินไป ความเห็นส่วนตัว: yamaha แป้นแข็งไปนิดนึง ยกเว้นรุ่นแพงๆ แต่ก็ยังดีกว่าคะ casio ที่แป้นนิ่มเกินไป เล่นแล้วมันยวบๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวนะคะ ลองไปเล่นที่ร้านดูคะว่าชอบแบบไหน - sensitive touch มีก็ดีคะ แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไรสำหรับคนเริ่มต้นเล่น - เรื่องราคา อันนี้ก็แล้วแต่รุ่นคะ ถ้ารุ่นพอใช้ก็ประมาณ 2,000 - 4, 000 บาท ถ้าแบบดี ราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ - วีธีที่ดีที่สุดในการซื้อ keyboard ได้ถูกใจคุณที่สุดก็คือ คิดก่อนว่าคุณมีงบเท่าไหร ต่อจากนั้นคืดคิดว่าคุณชอบแบบไหน อยากได้แบบไหน หลังจากนั้นหาข้อมูลตามเน็ท แล้วก็ดูตาม review เพื่อที่เราจะได้หาส่วนดีและส่วนเสียของรุ่นต่างๆ แล้วก็ไปลองที่ร้านคะ จับเครื่องจริงๆไปเลย จะได้รู้ว่าตัวไหนถูกใจเรา ถ้ายังสงสัย ถามพนักงานที่ร้านคะ เค้าจะแนะนำเราได้ดีในเรื่องของเสียง หรือคุณภาพ - review และราคาอย่างคร่าวๆ ดูได้ที่นี้คะ http://www.zzounds.com/cat--Personal-Keyboards--2698 4. มีเว็บสำหรับสอนไหม มีสิทธิ์ไหมที่จะสามารถเรียนรู้เอาเอง ผ่านเว็บ ผ่านหนังสือ - ส่วนตัวใช้ทั้ง 2 อย่างนะคะ จะได้ผลหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ความตั้งใจของคุณคะ 5. ผมแก่เกินเรียนไหมเนี้ยะ? - ตามที่คุณ หมาร่าหมาหรอด บอกหล่ะคะว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน ขอให้สนุกคะ :D จากคุณ : ราชินีใจเพชร - [ 15 ม.ค. 48 22:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิก ที่มีเสียงต่างๆ มากมาย สะดวก ต่างกับเปียโนรึเปล่าไม่รู้ จะเอาไปเล่นกับแนวไหนก็ได้ เพราะมันทำได้ แทบจะทุกเสียง แต่คีย์จะน้อยกว่าเปียโน ส่วนเปียโน นั้นมีเรื่องของ น้ำหนัก และ เทคนิคในการเล่น เข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนกับการเล่นโซโล่กีตาร์ คุณก็ต้องเรียนรู้ การดันสาย สั่นสาย จะร้องเพลงก็ต้อง รู้จักเอื้อน ลูกคอ ฯลฯ คุณจะกดคีย์ แบบที่กดกับ คีย์บอร์ดไม่ได้ (จริงๆมันก็ได้นะ) เพราะว่า คุณต้องควบคุมเสียงมัน คุณกดไม่ได้น้ำหนัก เสียงก็ออกมาไม่ดี ต่างกับคีย์บอร์ดที่กดคีย์ร้อยครั้ง เสียงมันก็เหมือนกัน ร้อยครั้ง ผมแนะนำว่า ควรไปเรียนครับ หรือหาใครสอนก็ได้ เรียนให้อยู่ตัว แล้วค่อย ออกมาฝึกเองเล่นเองดีกว่า ไม่ต้องเรียนถึงขนาดเก่ง มากก็ได้ แค่เราพอใจก็พอ แต่ถ้าจะเรียนเปียโนต้องทำใจครับ แพงโคตร จากคุณ : อยากเรียนเหมือนกัน - [ 15 ม.ค. 48 22:56:31 A:203.113.80.144 X:203.150.217.114 TicketID:026687 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจะเอาละเอียดนะครับ Piano ก็คือเครื่องตามที่เห็นๆ กันอยู่นั่นแหละครับ ก็เล่นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าอย่างที่ คุณหมาร่าหมาหรอด ว่าครับ piano จะมีคีบอร์ดชนิดหนัก ต่างจากคีบอร์ด และ electone ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดชนิดเบาครับ การจะเล่น piano ให้เพราะได้ต้องอาศัยน้ำหนักการกดคีย์ด้วยครับ ลองไปกด piano จริงๆ ดูนะครับ ถ้ากดหนักๆ แรงๆ เสียงจะดัง ถ้ากดเบาๆ เสียงจะค่อย อันนี้ต้องฝึกกันเยอะครับ เล่นแรกๆ จะเมื่อยมาก ถ้ามีครูสอนจะดีกว่า ถ้าจะเรียน piano ให้ดี จริงๆ ก็ควรจะมี piano หัดครับ หรือหาที่กัดให้ได้ ถ้าหัดกับ keyboard หรือ electone ซึ่งเป็นคีย์แบบเบา ก็จะเล่นเป็นเพลงได้เหมือนกัน แต่น้ำหนักนิ้วจะไม่ได้ครับ เวลาเล่น piano จริงๆ จะไม่เพราะ แต่ก็อย่างว่าราคา piano ส่วนใหญ่จะค่อนข้างแพง แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กๆ ก็ตาม ค่าเรียน-ค่าสอบเกรดก็มักจะแพงมากครับ piano มาตรฐานมี 88 ตีย์เท่ากันทุกตัวครับ ที่รุ่นเล็กต่างจากรุ่นใหญ่ก็คือน้ำหนักของคีย์ และเสียงครับ ถ้ารุ่นเล็กๆ คีย์มักจะเบากว่า (แต่ไม่เหมือนคีย์บอร์ด หรือ electone นะครับ) เล่นง่ายกว่า แต่จะถ่ายทอดอารมณ์ได้น้อยกว่ารุ่นที่คีย์หนักๆ (ถ้าฟังออกนะ หุหุ) เสียงก็มักจะแข็งๆ แหลมๆ กว่า ถ้ารุ่นใหญ่ๆ หน่อย คีย์จะหนักขึ้น เสียงก็มักจะนุ่มขึ้นด้วยครับ พวกนี้หัดเล่นแรกๆ จะยากนิดนึง แต่จะค่อยๆ ชิน และนิ้วจะแข็งแรงกว่าครับ ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีกว่า ยิ่งถ้าเป็น grade piano (อันที่ใหญ่ๆ มีฝีเปิดด้านบน มักจะเห็นตามงานแสดงดนตรีใหญ่ๆ น่ะครับ) คีย์จะหนักมาก (คือต้องใช้แรงกดเยอะ จึงจะได้เสียงที่ดังเท่ากัน) อันนี้มักจะเอาไว้เล่นโชว์ หรือประกวดครับ นอกจากนี้ piano ยังต้องการการดูแลรักษาเยอะครับ เคลื่อนย้ายยาก และทุกครั้งหลังเคลื่อนย้ายต้อง จูนเสียงทุกครั้ง เพราะเสียงจะเพี๊ยน คล้ายๆ กีตาร์นั่นแหละครับ แต่เราทำเองไม่ได้ครับ ต้องให้ช่างมาจูนเสียงให้ (นี่ก็เสียเงินอีก) เพราะยากและซับซ้อนมาก ไม่เท่านั้นนะครับ เล่นๆ ไฟซักปีนึงก็ต้องจูนเสียงใหม่ครับ แม้ว่าจะไม่ได้เคลื่อนย้านเลยก็ตาม เพราะสายมันจะค่อยๆ หย่อนลงตามเววลาน่ะครับ และสุดท้าย piano จะมีอายุการใช้งานประมาณ 20ปี ครับ แก่กว่านั้นจะไม่ค่อย work แล้วครับ (แต่ก็แล้วแต่การดูแลรักษาด้วยนะครับ) อีกทางเลือกสำหรับคนเรียน piano ให้ได้ดีๆ แต่ไม่มีงบพอซื้อ piano จริง ก็คือ Piano ไฟฟ้าครับ (ไม่ใช่ keyborad หรือ electone นะครับ) พวกนี้จะมีคีย์หนักเหมือน piano (พวกนี้จะถ่วงน้ำหนักที่คีย์ให้เหมือน piano เรียกว่ามี "สัมผัส" เหมือน piano) รุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้มักจะทำเสียง piano ได้ใกล้เคียงของจริงแล้วครับ ราคาจะแพงกว่าพวก คีย์บอร์ด แต่ก็ถูกกว่า piano จริง ครับ อันนี้นักดนตรีมักจะนิยมใช้เล่นเป็นเสียง piano เวลาเล่นตามวงดนตนตรี หรือแม้แต่เสียง piano ที่ได้ยินตามเพลงทั่วๆ ไปก็มักจะเล่นจากตัวนี้ครับ (ลองดูตามคอนเสิร์ทใหญ่ๆ ดูครับ เวลานักดนตรีเล่นเสียง piano มักจะใช้ตัวนี้ เพราะเสียงเหมือน สัมผัสของคนเล่นก็เหมือน) รุ่นใหม่ๆ มักจะมีลูกเล่นเพิ่ม ให้คล้ายๆ คีย์บอร์ดด้วย เช่น เล่นเสียงอื่นได้นอกจากเสียง piano, มีจังหวะกลองให้ ฯลฯ อันนี้จะเคลื่อนย้ายง่าย ไม่ต้องจูนเสียง แล้วก็เสียบหูฟังได้ด้วย แตไฟดับเล่นไม่ได้เด้อ ลองไปเดินๆ ดูตามร้ายขายครับ ลองกดๆ ดู หาคนเรียน piano ไปด้วยก็จะดีครับ ปล. piano ไฟฟ้า ถ้าเป็นของ YANAHA จะเรียกว่า Clavinova ครับป๋ม จากคุณ : Agarose - [ 16 ม.ค. 48 04:04:32 A:209.251.155.131 X: TicketID:085348 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบยาวไปมั้ยเนี่ย ถ้าเป็น keyboard พวกนี้จะเป็นคีย์แบบเบาครับ กดยวบไปเลยไม่มีแรงต้าน เคลื่อนย้ายง่าย พวกนี้จะทำเสียงสังเคราะห์ (พวกที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในเพลง dance rmix ทั้งหลายน่ะครับ) ได้ดี และเยอะ ส่วนเสียงพวกเครื่องดนตรีอื่นๆ ก็ทำได้นะครับ เช่น piano brass flute แต่พวกนี้ไม่ค่อยเน้นความสมจริงเท่าไหร่ครับ เอาแค่พอเสียงคล้ายๆ พอได้อารมณ์ประมาณนั้น (แต่รุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ก็ทำเสียงได้คล้ายอยู่นะ) บางรุ่นคีย์ ก็รับน้ำหนักได้เหมือนกันครับ คือ กดแรงดัง กดเบาค่อย แต่สัมผัสจะไม่เหมือน piano ครับ ถ้าเล่นเป็นเสียง piano จะคุมน้ำหนักเสียงยาก ไม่เพราะเท่า piano หรือ piano ไฟฟ้าที่มีคีย์แบบหนัก แต่เวลาเล่นเสียงอื่นๆ อาจจะทำลูกเล่นได้เยอะ เล่นอาศัยน้ำหนักคีย์ เล่นเสียง flute ให้มีเอื้อนคล้ายๆ flute ของจริงประมาณนั้นครับ พวกนี้ก็มักจะเป็นรุ่นที่มีเสียงเป็นร้อยๆ นั่นแหละครับ ส่วนมากมักจะมีจังหวะกลองและเสียงประกอบต่างๆ ให้ด้วย ด็จะเล่นเพลงได้เป็นเพลงเต็มๆ เหมือนมีเครื่องดนตรีครบวงเลยครับ คือมีเสียงกลอง เบส hormony หลัก ฯลฯ คุณภาพเสียงจะปานกลาง ไม่ดีมาก แต่ก็ไม่แย่มาก ลองเดินดูตามห้างครับ มักจะมีพนักงานเล่นโชว์อยู่ประจำ อันนี้ราคาจะค่อนข้างถูก หัดเล่นเองที่บ้านก็พอได้ หรือจะหาคนมาสอนก็ได้อีกเหมือนกัน แนะนำให้อ่านคู่มือให้ละเอียด เพราะจะได้เล่นได้เต็มที่คุ้มราคาครับ เวลาซื้อต้องระวังครับ บางแบบจะไม่มีลำโพงอยู่ในตัว เพราะเป็นรุ่นที่เอาไว้เล่นตามวงดนตรีครับ (ที่บางคนเรียกว่า ซินทีไซเซอร์ครับ ) ต้องมีลำโพง หรือแอมป์มาต่อ อันนี้ก็ที่เห็นบ่อยๆ ในวงที่เล่นตามร้านอาหารนั่นแหละครับ จากคุณ : Agarose - [ 16 ม.ค. 48 04:25:17 A:209.251.155.131 X: TicketID:085348 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สุดท้าย Electone อันนี้คนมักจะเข้าใจผิดว่าคือ คีย์บอร์ด แต่จริงๆ ไม่เหมือนกันครับ คำว่า Electone เป็นลิขสิทธิ์ของ Yamaha ครับ ใช้เรียกเครื่องดนตรีประเภท ออแกนไฟฟ้าของ Yamaha เองครับ สรุปว่า Electone ก็คือ ออแกนไฟฟ้า ของ Yamaha นั่นเอง ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นก็เรียก ออแกนไฟฟ้า เฉยๆ เอาล่ะซิ ทีนี้ออแกนไฟฟ้าคืออะไร คราวนี้แนะนำให้ลองไปดูตามโรงเรียนดนตรีของ Yamaha เลยครับ ง่ายสุด จะเห็นเครื่องดนตรีที่คล้ายๆ คีย์บอร์ด แต่มีคีบอร์ดสองชั้น (มือขวาเล่นแผงบน มือซ้ายเล่นแผงล่าง) แล้วก็มีเหมือนคีย์ข้างล่างอีก แต่สำหรับเท้าเล่น คือเล่นทั้งมือทั้งเท้าเลยนั่น อันนี้พัฒนามาจากออแกนที่เล่นตามโบถน่ำครับ คือจะมีทั้งมือเท้าเล่น ในเมืองไทยรู้สึกเดี๋ยวนี้จะเหลือแต่ของ Yamaha แล้วมั้งครับ ไม่ค่อยเห็นของยี่ห้ออื่นแล้ว electone ของ Yamaha เดี๋ยวพัฒนาไปไกลกว่าออแกนไฟฟ้าแล้วครับ จะทำเสียงเครื่องดนตรีได้หลากหลายคล้ายคีบอร์ด แต่คุณภาพเสียงจะสูงกว่า ยิ่งเป็นรุ่นใหญ่ๆ เสียงจะสมจริงมากๆ ลูกเล่นเยอะมาก เล่นเป็นเพลงออเครสคร้าวงใหญ่ได้เลยด้วยตัวคนเดียว เจ๋งมากๆ หรือเล่นเป็นเพลง pop ก็ได้เต็มเพลงเลย เหมือนของจริงเลยว่างั้น ต้องไปดูเค้าเล่นจริงๆ ครับ แล้วจะอึ้ง ราคาจะค่อนข้างแพง เพราะมักจะมีลำโพงคุณภาพสูงติดตั้งมาด้วยในตัว ยิ่งรุ่นใหญ่ๆ นี่แพงกว่า piano ซะอีก (แต่คุณภาพเสียงดีจริงๆ ขอบอก) อันนี้ต้องเรียนครบ ต้องมีคนสอน ลองสอบถามได้ตามโรงเรียนดนตรีของ Yamaha ทั่วไปครับ จากคุณ : Agarose - [ 16 ม.ค. 48 04:38:06 A:209.251.155.131 X: TicketID:085348 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Agarose ตอบได้ละเอียดถึงใจดีจังเลยครับ น่ารักมากๆ คุณราชินีใจเพชรและคุณอยากเรียนเหมือนกัน ก็น่ารักเช่นกัน ท่ามกลางกระทู้ขยะเกลื่อนกลาดห้องเฉลิมไท ก็ยังมีคนมีน้ำใจแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ให้ผู้อื่นนะครับ นี่เป็นเสน่ห์ของพันทิปจริงๆ ขอขอบคุณแทนจกขท.ด้วยครับ (ผมอ่ะละอายใจตัวเองเหลือเกิน ไม่ได้ตอบให้ให้มากกว่านี้ แบบว่าขี้เกียจง่ะฮือๆๆ) จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 16 ม.ค. 48 07:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โห...ตอบกันละเอียดดีจังนะคะ น่าปลื้มใจแทนคนตั้งกระทู้ ส่วนตามความคิดของเรานะ เราเรียนเปียโนน่ะ เราว่าเปียโนให้เสียงที่เพราะกว่ามากๆ เคยไปเล่นคีย์บอร์ดเหมือนกัน แต่ว่าความนุ่มนวลของเสียงดนตรีต่างกันมากเลย แต่ถ้าคุณอยากเล่นลูกเล่นเยอะๆคีย์บอร์ดก้อสนุดดีนะคะ อีกอย่างคือคุณก้ออายุ24แล้วน่าจะเลือกเล่นคีย์บอร์ด เพราะว่าอย่างที่คุณกระทู้บนๆเค้าบอกว่าเปียโนมันใช้เทคนิกการเล่นมากกว่า มันจะเสียเวลาเรียนนานเหมือนกันนะคะกว่าจะเก่งน่ะ คีย์บอร์ดจะเล่นง่ายกว่า จากคุณ : ปุกปุยกะปุ๊กลุ๊ก - [ 16 ม.ค. 48 11:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มจาก ROLAND RD700 ก่อนก็ได้ครับ เอามาใช้แน Piano ตามที่คุณ Agarose อธิบายไว้ คืออุปกรณ์ตัวนี้มันก็คล้ายกับ Piano ไฟฟ้านะครับ และยังมีเสียงอื่นๆ ให้ใช้งานใด้อีก Touching ก็คล้ายๆ กับ Piano เลย ส่วนใหญ่ก็ใช้เล่นกันตามวงดนตรีนะครับ ราคาอาจจะแพงไปหน่อย จากคุณ : toutoune - [ 16 ม.ค. 48 13:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเรียนอิเลคโทนมาถึงเล่ม 7 ละ แต่ว่ายังไม่เคยเล่นแบบที่ทำให้อึ้งได้ แนะนำให้เรียนเปียโนครับ เพราะกว่าอะไรทั้งสิ้น ใช้เปียโนไฟฟ้าก็ดีครับ ไม่แพง 20000 กว่า จากคุณ : ชิโฮจัง - [ 16 ม.ค. 48 18:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เปียโน เป็นเครื่องดนตรีที่สุดยอดที่สุดในโลกแล้วค่ะ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ขออนุญาตแก้ข้อความของคุณ Agarose นิดนึงนะคะ ตอนนี้นอกจาก Yamaha แล้ว คู่แข่งคนสำคัญคือ Technic ค่ะ เราเคยเห็นหนังสือเรียนของทั้ง 2 สถาบันมาแล้ว ข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบกันแล้ว เราชอบของ Technic มากกว่าเพราะ 1. Technic จะผ่านบทเรียนไปได้เร็วกว่า แม้จะไม่เน้นเรื่องเทคนิคการเล่นมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเอามาใช้จริง  ๆ จะนำมาใช้ได้เร็วกว่ามากค่ะ 2. เนื่องจากบทเรียนที่ไปได้เร็วกว่า ทำให้นักเรียนไม่เบื่อที่จะซ้อมค่ะ เพราะมีเรื่องท้าทายใหม่ ๆ อยู่ตลอด 3. Yamaha จะเน้นเรื่องเทคนิคการเล่น อย่างเล่ม 1 ที่ต้องเริ่มคอร์ด C และ G7 จะมีอยู่ 2 คอร์ทนี้อยู่เกือบทั้งเล่มแล้วค่ะ น่าเบื่อมาก ๆ จะมาท้าทายก็แค่ที่เทคนิคการเล่นที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก็ลองสอบถามจากโรงเรียนดนตรีต่าง ๆ เอาแล้วกันค่ะ ชอบหลักสูตรไหน คุยกับเค้าได้เลย แล้วค่อยตัดสินใจ จากคุณ : ตุ๊ดตู่ตัวน้อย - [ 17 ม.ค. 48 09:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราเคยเรียน Electone ที่ Yamaha จนจบหลักสูตรแล้ว ตอนเด็กๆที่เลือกเรียนอันนี้ เพราะตอนนั้นเห็นคนอื่นเค้าเล่นแล้วรู้สึกมันส์ดี ต้องใช้ทั้งมือ ทั้งเท้า แล้วมีหลายเสียง มีพวกเสียงจังหวะดนตรีให้ด้วย เลยรู้สึกว่าเล่นอันนี้คนเดียวก็เหมือนเล่นเป็นวงได้ แต่พอเรียนจบแล้วก็รู้สึกอยากไปเรียนเปียโนแหะ เสียงเค้าเพราะมีเสน่ห์ไปอีกแบบ แต่ไม่ได้เรียนหรอก เดี๋ยวโดนที่บ้านว่า -_-" ยังคิดเลยว่าไว้หาเงินได้เอง แล้วกะจะไปเรียนเพิ่ม แม้อายุจะเยอะกว่าเด็กๆตัวน้อยๆที่เค้าเรียนกันก็ตาม เคยเห็นมี CD สอนเปียโนด้วยอ่ะ ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่า อยากซื้อมาลองเหมือนกัน ไม่รู้จะเอามาลองฝึกกะเครื่อง electone ได้มั้ย ปล เล่นelectoneมันส์จริงๆนะ อิอิ จากคุณ : Red Penguin - [ 17 ม.ค. 48 23:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เผอิญมีคนมาโพสกระทู้นี้ไว้จากกระทู้นึง ขอตอบตามกระทู้นี้ว่า 1. piano ต่างกับ keyboard มากครับ ดูหน้าตาเหมือนกัน แต่เวลากดแล้วต่างกันครับ keyboard ไม่มี touching ที่ต่างกันในการกดครับ ( จิ้มแบบไหน เสียงก็ออกมาเป็นแบบเดียว ) แต่ piano นี่ ถ้ากดแรงก็ออกมาเสียงดัง กดเบาก็ออกมาเสียงค่อย หรือจะให้เสียงกระตุก (staccato) เสียงขาด (detach) หรือว่าเสียงเชื่อมต่อกัน (legato) ย่อมทำได้ครับ แต่ keyboard สมัยนี้บางอันก็ทำคล้าย piano ได้ครับ ( แค่คล้าย ) 2. ถ้าหัดเรียนใหม่ อยากดูว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ชอบ แนะนำให้เรียนที่สยามกลการ แต่ถ้าต้องการเรียนจริงจัง ไม่ใช่แค่ประดับบารมี คุณควรหาอาจารย์ที่เก่งๆ ที่เปิดสอน อย่างเช่นอาจารย์ณัฐ ยนตรรักษ์ ซึ่งน่าจะเก่งที่สุดในประเทศไทยแล้วล่ะผมว่า 3. keyboard ผมไม่ทราบ แต่ piano มีตั้งแต่หมื่นปลายๆ จนไปถึงหลักล้าน ถ้าจะเอาแบบแค่หัดเล่น ก็ซื้อแบบ upright ของ Yamaha ก็ได้ น่าจะไม่เกิน 100,000 4. ไม่ไหวหรอกครับอย่างนั้น หาที่เรียนเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า 5. ข้อนี้ขอตอบสวนกระแสครับว่า คุณค่อนข้างแก่เกินไปสำหรับคนที่จะเรียนดนตรี ถ้าคุณอยากจะเล่นพอแค่ดีดเพลงป๊อบง่ายๆ ก็น่าจะยังเรียนได้ แต่ถ้าคุณจะเอาให้เก่งเลย ก็คงจะยากสักหน่อย เหตุผลก็คือ ไม่ว่าทักษะใดๆ ก็ตามเช่นจะเป็นการเล่นดนตรี หรือการเล่นกีฬา จะต้องถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นเหตุผลทางสรีระครับ คือในตอนเด็ก สรีระของคุณยังสามารถจะถูกฝึกให้เป็นไปในทางใดก็ได้ นิ้วที่คุณใช้เล่น piano ก็เช่นกัน ถ้าคุณได้รับการฝึกอย่างหนักและถูกวิธีในช่วงวัยตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี คุณจะมีนิ้วที่ดีเลย แต่ถ้าเกินจากนี้ไปมันค่อนข้างจะฝึกยากสักหน่อย คุณลองไปสังเกตนักกีฬา หรือนักดนตรีที่เก่งๆดูสิครับ เค้าต้องเริ่มฝึกตั้งแต่เด็กเลย แต่เหนืออื่นใดก็ตาม ถ้าใจคุณรักและมีความพยายามก็น่าจะทำให้คุณทำได้ดีในระดับนึงเลยนะครับ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยด้วยละกันครับ จากคุณ : จากคนเคยเรียน - [ 18 ม.ค. 48 18:19:08 A:161.200.255.161 X: TicketID:083362 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่มเติมอีกนิดนึงนะครับ ที่คุณความเห็นข้างบนบอกว่า piano ตัวใหญ่ๆ ที่มีฝาเปิดด้านบน แล้วเค้าไว้ใช้ตามงานแสดงต่างๆ เนี่ย เค้าเรียกว่า grand piano ครับ ไม่ใช่ grade piano สำหรับ piano ทั่วไปที่ไว้สำหรับฝึกซ้อม หรือเรียนตามที่ต่างๆ เรียกว่า upright piano ครั จากคุณ : จากความเห็นที่ 13 - [ 18 ม.ค. 48 18:30:17 A:161.200.255.161 X: TicketID:083362 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิดเหมือนความเห็น 14 อะ เราก็ว่านะจะเป็น grand piano มากกว่านา จากคุณ : EAGo - [ 18 ม.ค. 48 18:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วันเสาร์นี้จะไปเริ่มเรียนเป็นชั่วโมงแรกค่ะ อายุก็เกือบๆ 30 แล้วเพิ่งจะได้มีโอกาสเรียน .. เรียนที่โรงเรียนดนตรีเจียรไน อยู่แถวๆ ประชาชื่น ถนนที่ตรงไปวัดเสมียนนารีค่ะ ค่าเรียนเรียนคู่ คนละ 700 บาท เรียนเดี่ยวคนละ 1500 ต่อเดือน เรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจค่ะ จากคุณ : poonoi (yorky) - [ 19 ม.ค. 48 14:41:29 ]