CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ รักไม่มีวันตาย ของ จุ๊บ (แฟน DJ โจ้ อัครพล) +++

    หยิบมาจาก  http://webboard.mthai.com/6/2006-07-05/249106.html

    >> >>ตำนานความรักที่ทรงพลังของ "นนทิยา พุทธาโภคาทรัพย์" กับ
    >> >>"ดีเจโจ้-อัครพล
    >> >>ธนะวิทวิลาส"
    >> >>ใกล้ดำเนินมาถึงบทที่ทั้งคู่เริ่มต้นชิตครอบครัวอย่างมีความสุข
    >> >>แต่เพียงไม่กี่เดือน รอยยิ้มถูกแทนที่ด้วยคราบน้ำตา
    >> >>งานมงคลกลายเป็นงานศพ
    >> >>ความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งพังทลายลงชั่วพริบตา
    >> >>
    >> >>"แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปีแล้วก้อตาม
    >> >>แต่จุ๊บยังจำวันแรกที่เจอกับพี่โจ้ได้ไม่ลืม
    >> >>เราเจอกันในงานคอนเสิร์ตของนาวิน–ต้าร์ เขาหันมามองจุ๊บ
    >> >>ยังจำดวงตาคู่นั้นได้เลยว่าสวยมาก เพื่อนแอบให้เบอร์จุ๊บกับพี่โจ้
    >> >>ซึ่งสมัยนั้นเป็นเพจเจอร์
    >>เขาส่งข้อความมาหลายครั้ง
    >> >>กระทั่งจุ๊บยอมไปทานข้าวด้วย""แล้วจุ๊บก้อหลงรักเขาโดยไม่มีเงื่อนไขว่า
    >> >>แฟนฉันต้องหล่อหรือรวย เพราะจุ๊บรักทุกอย่างที่เป็นพี่โจ้ รักเสียง
    >> >>รักรอยยิ้ม รักดวงตาคู่นั้น เขาเรียกจุ๊บว่าหนู
    >> >>จุ๊บก้อเรียกเขาว่าที่รัก
    >> >>แม้ตอนแรก คุณพ่อคุณแม่จะไม่ชอบ
    >> >>แต่ความจริงใจที่เขามีให้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
    >> >>ประกอบกับเป็นคนมีจิตใจดี
    >> >>พี่โจ้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจุ๊บโดยปริยาย"
    >> >>"เราตกลงกันว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านเป็นเรือนหอ
    >> >>ช่วงนั้นอะไรประหยัดได้ก้อช่วยกันประหยัด
    >> >>เวลาพี่โจ้มารับที่บ้านคุณแม่ทำข้าวใส่กล่องเตรียมไว้ให้
    >> >>ระหว่างทางจุ๊บจะป้อนข้าวพี่โจ้
    >> >>หรือเสื้อผ้าพี่โจ้ก้อจะเอามาซักที่บ้านจุ๊บ
    >> >>จะได้ประหยัดค่าซักรีด
    >>กินข้าวนอกบ้านเรียกว่านับครั้งได้
    >> >>เพราะแค่ซื้อน้ำส้มสักแก้วยังคิดแล้วคิดอีก
    >> >>กระทั่งพี่โจ้เริ่มมีชื่อเสียงและเข้าหุ้นกับพี่เอก-กฤษณา วารินทร์
    >> >>เปิดบริษัท มหัศจรรย์งานโชว์ แม้รายรับมากขึ้น
    >> >>แต่ก้อมีปัญหาจุกจิกให้แก้ไขตลอดเวลา แต่เราจับมือสู้ไปด้วยกัน
    >> >>เขามักบอกให้จุ๊บชื่นใจเสมอว่า
    >> >>หนูเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่มีวันนี้"
    >> >>"ในที่สุดความฝันก้อเป็นจริง
    >> >>เราซื้อบ้านด้วยเงินสดที่พยายามอดออมกันมา
    >> >>ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน
    >> >>ตกแต่งบ้านด้วยกัน วาดโครงการว่าปลายปี 49 แต่งานแล้วจะมีลูกทันที
    >> >>ตั้งชื่อไว้เสร็จสรรพ
    >>ซึ่งจุ๊บหวังว่าจะเป็นเจ้าสาวของพี่โจ้ตลอดเวลา
    >> >>รอคอยวันนั้นอย่างตื่นเต้น ซื้อหนังสือแต่งงานทุกฉบับ
    >> >>เราสองคนช่วยกันเลือกชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าว เลือกแหวน เลือกสถานที่
    >> >>เตรียมงานมาเป็นระยะ"
    >> >>"จนเมื่อปลายปีที่แล้วเราตั้งใจไว้ว่า
    >>ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี
    >> >>ไปเที่ยวฮ่องกงกันดีกว่า แต่พี่โจ้มีอาการท้องเสียไม่หยุด
    >> >>ร่างกายอ่อนเพลียมาก จุ๊บพาพี่โจ้ไปหาหมอ หมอคลำที่ท้อง
    >> >>ปรากฏว่าตับโต
    >> >>พออัตราซาวนด์
    >> >>พบก้อนเนื้อที่ตับประมาณ 10 เซนติเมตร
    >> >>ถ้าเทียบกับเนื้อที่ตับที่มีอยู่ 16
    >> >>เซนติเมตร ถือว่าค่อนข้างใหญ่
    >> >>หมอบอกว่าเป้นมะเร้งอยู่ในระยะที่ไม่มากไปไม่น้อยไป
    >> >>สันนิษฐานว่าเป็นมาเกือบปี แต่ไม่ถึงกับต้องให้คีโม
    >> >>ซึ่งพี่โจ้ไม่อยากรักษาด้วยคีโมบำบัดอยู่แล้ว
    >> >>ความที่เขาเป็นโรคตับอักเสบอยู่ก่อนแล้ว
    >> >>หมอจึงไม่กล้าเสี่ยงตัดตับให้ทันที
    >> >>กลัวอาการจะทรุดหนักกว่าเดิม
    >> >>ต้องสกัดตัวมะเร็งให้ฝ่อลงก่อนจึงค่อยตัดชิ้นเนื้อที่เสียออก"
    >> >>"เราทั้งสองคนยืนรับฟังประโยคนั้นด้วยกัน ใจพี่โจ้สุดยอดมาก
    >> >>ถามหมอเลยว่าผมจะอยู่ได้อีกกี่เดือน ถ้าอยู่ได้ไม่นาน
    >> >>ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับแฟนให้เต็มที่
    >>หมอบอกว่า "สู้ได้ครับคุณโจ้"
    >> >>ขณะที่จุ๊บร้องไห้ รับไม่ได้ พี่โจ้กอดจุ๊บ บอกว่าห่วงหนู
    >> >>จุ๊บบอกว่าไม่ต้องห่วง "เราจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย ถ้าที่รักตาย
    >> >>หนูจะตายตามไปด้วย เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน" พี่โจ้ร้องไห้ บอกว่า
    >> >>"ชีวิตจริงทำอย่างนั้นไม่ได้ อยู่เพื่อสานฝันให้พี่
    >> >>ถ้าหนูบอกว่าพี่ไม่เป็นอะไร พี่ก้อจะไม่เป็นอะไร"
    >> >>"พี่โจ้อยู่โรงพยาบาล 3
    >> >>วันจากบ้านที่เตรียมไว้เป็นเรือนหอก้อใช้เป็นที่พักฟื้นของพี่โจ้
    >> >>ตอนนั้นจุ๊บย้ายมาอยู่ด้วย ไม่แคร์แล้วว่าต้องแต่งก่อนไหม
    >> >>คุณพ่อคุณแม่พี่โจ้มาจากเชียงใหม่อยู่ดูแลด้วย
    >> >>เอฟเฟ็คท์จากฤทธิ์ยาทำให้พี่โจ้ผอมลง เหนื่อยง่าย ผมร่วงเล็กน้อย
    >> >>แม้อากู๋-ไพบูลย์ พี่ฉอด-สายทิพย์ และพี่ไก่-สมพล
    >> >>จะให้หยุดรักษาตัวก่อน
    >> >>แต่ความที่เขาทำงานมาตลอดก้อแอบไปอัดสปอตสั้นๆบ้าง
    >>อัดเกมวัดดวงบ้าง
    >> >>ยังขำๆฮาๆได้
    >>ทุกคนจึงเชื่อว่าเขาต้องหาย"
    >> >>"ระหว่างนั้นพี่โจ้ไปตรวจเช็คอาการและทานยาตามปกติ
    >> >>เขาบอกว่าอย่างไรมะเร็งก้อไม่เล็กลงหรอก
    >> >>ขณะที่จุ๊บยังหวังว่าพี่โจ้ต้องหายอยู่ทุกเวลา ทุกนาที
    >> >>หมอทางเลือกที่ไหนดี
    >> >>จุ๊บพาไปรักษาทุกที่
    >> >>ขณะเดียวกันเราก้อใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
    >> >>พระที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ จุ๊บตามไปไหว้อีก ตระเวนทำบุญ 9
    >>วัดเกือบทุกวัน
    >> >>ปล่อยปลาเยอะมาก แต่ความที่พี่โจ้เป็นมาก พอเข้าเดือนที่สอง
    >> >>อาการเริ่มทรุดลง
    >> >>แน่นท้องทานข้าวได้น้อยลง เพราะตับทำงานแย่ลง
    >> >>มีภาวะน้ำท่วมปอดและหัวใจร่วมด้วย ต้องไปให้หมอเจาะเอาน้ำออก
    >> >>เขาเริ่มเดินไม่ถนัด
    >> >>จากที่เคยไปทำบุญด้วยกันก้อเริ่มอยู่บ้านดูทีวี
    >> >>จุ๊บไม่อยากให้เขาดูทีวีมาก
    >> >>เพราะถ้าสมองรับคลื่นกระแสไฟฟ้ามากๆ จะไม่ดีกับคนเป็นมะเร็ง
    >> >>เขาก้ออ่านหนังสือ "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน"
    >>บอกอ่านแล้วจะได้ปลง"
    >> >>"จุ๊บไหว้พระทุกวัน ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครอง
    >> >>ถ้าหากถึงวันที่ที่ต้องแลกชีวิตกันจริงๆ ก้อขอให้เอาจุ๊บไปแทน
    >> >>เพราะถ้าพี่โจ้อยู่ยังทำอะไรให้กับคนรอบข้างอีกเยอะ จุ๊บยอมเสียสละ
    >> >>แขน ขา
    >> >>หัวใจ ตับ หรืออะไรก้อได้ ขออย่างเดียวให้ได้มองหน้าพี่โจ้
    >> >>ได้กอดเขาไปนานๆ
    >> >>พยายามม่ร้องไห้ให้พี่โจ้เห็น แต่...บางครั้งก้อห้ามใจตัวเองไม่ได้
    >> >>เขามักบอกว่า...ร้องไห้อีกแล้ว เดี๋ยวก้อร้องด้วยเลย
    >> >>จุ๊บบอกว่าร้องเพราะ...ความปลื้มปิติว่าที่รักจะหายแล้ว....ดีใจว่าสิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้"
    >> >>"ไม่มีปาฏิหาริย์.....ไม่มีความมหัศจรรย์....ล่วงเข้าเดือนที่สาม
    >> >>พี่โจ้เริ่มทานข้าวไม่ได้ ตัวซีด เหนื่อยหอบ จุ๊บพาไปหาหมอ
    >> >>คิดว่าให้เลือด
    >> >>น้ำเกลือแล้วก้อกลับบ้าน แต่....หมอส่งตัวพี่โจ้เข้าห้องไอซียู
    >> >>สวนท่อเพื่อฟอกเลือด เอาของเสียออก
    >>สามวันแรกพี่โจ้ยังร่าเริง
    >> >>พยาบาลบอกว่าพี่โจ้สุภาพมาก ไม่เอะอะ โวยวายหรืออาละวาดดึงสายออก
    >> >>จากวันนั้นด้วยฤทธิ์ยา พี่โจ้มีอาการ สะลึมสะลือ พูดได้เป็นคำๆ
    >> >>จนกระทั่ง..ไม่รู้สึกตัวเลย
    >>จุ๊บขออนุญาตหมอเข้าไปนอนเฝ้าในห้องไอซียู
    >> >>จับมือเขาไว้ตลอดเวลา...กอด..หอม....สวดมนต์ให้ฟัง
    >> >>เพราะอย่างไรก้อมีความหวังว่าพี่โจ้ต้องหาย...ตกค่ำความดันพี่โจ้ค่อยๆตกจาก
    >> >>100 มาอยู่ที่ 68 ขณะที่ระดับของออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 68
    >> >>ซึ่งถือว่าโคม่าแล้ว แต่หัวใจเขายังเต้นอยู่"
    >> >>"ขณะนั้น พวกญาติๆ เริ่มลูบหัวพี่โจ้สั่งลากัน
    >> >>จุ๊บทนเห็นภาพนั้นไม่ได้..
    >> >>"อย่าพูดแบบนั้น...อย่าพรากคนรักไปจากจุ๊บ..." จุ๊บกอดพี่โจ้แน่น
    >> >>กราฟหัวใจของพี่โจ้กลับเต้นขึ้นมาใหม่ถึง 300
    >>แต่หลังจากนั้นแป๊ปเดียว
    >> >>กราฟหัวใจก้อตกไปที่ศูนย์....จุ๊บกรี๊ดเหมือนคนบ้า...ไม่ยอมกลับบ้าน...ร้องไห้จะตามไปนอนกับพี่โจ้ในห้องเย็น
    >> >>พี่สาวบอกว่ากลับบ้านเถอะ เรียกโจ้กลับบ้านด้วย
    >> >>แม้ตัวไม่อยู่แต่วิญญาณเขายังอยู่
    >> >>ก่อนเข้าบ้านจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง
    >> >>ขอให้พี่โจ้เข้าบ้านด้วย"
    >> >>"วันรดน้ำศพ จุ๊บร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
    >> >>ผู้ใหญ่เข้าใจถึงความรักเรา
    >> >>แนะนำว่าให้เอาขี้เถ้าทำตำหนิไว้ เผื่อเจอหน้ากันจะได้จำหน้าได้
    >> >>จุ๊บทำตามแล้วสวมแหวนให้ จับมือพี่โจ้ขึ้นพนมร่วมกัน บอกว่า
    >> >>"สัญญาน่ะว่าชาติหน้าเกิดมาจะรักกันอีก และอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
    >> >>อย่าให้โรคภัยไข้เจ็บมาพรากเราจากกันอีก" วันเผาศพ
    >>จุ๊บร้องไห้จนตาช้ำ
    >> >>วินาทีที่ไปส่งพี่โจ้ไม่รู้จะมีคำพูดอะไรบรรยายความรู้สึกได้มากกว่าคำว่า
    >> >>"สาหัสทรมาน" พี่ฉอดกอดจุ๊บบอก "พี่เขาไปดีแล้ว"
    >>
    >> >>จุ๊บตะโกนไปอย่าไม่รู้ตัวว่า
    >> >>"อย่าให้เขาเอาพี่โจ้ของเราไป" แล้วก้อเป็นลม ถึงเวลาเก็บกระดูก
    >> >>สียงพระสวดบังสุกุลตายแล้วต่อด้วยบังสุกุลเป็นดังอยู่ข้างๆ
    >> >>จิตใจดีขึ้น
    >> >>ไม่ร้องไห้ รู้สึกว่าพี่โจ้ตายไปเดี๋ยวก้อมาเกิดใหม่"
    >> >>"ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
    >> >>ความทรงจำทุกอย่างที่มีกับพี่โจ้กำลังฆ่าจุ๊บ....เพราะทุกอย่างที่เคยมีพี่โจ้ทั้งนั้น
    >> >>ออกจากบ้านไปได้แค่หน้าปากซอย
    >> >>ยิ่งเห็นพี่สาวกับพี่เขยไปเที่ยวกันแล้วยิ่งสะเทือนใจ
    >> >>เพราะเมื่อก่อนพี่โจ้พาจุ๊บไปกินข้าว เสาร์อาทิตย์ไปเดินจตุจักร
    >> >>ทุกวันจุ๊บทำกับข้าวรอพี่โจ้กลับจากที่ทำงาน ทานข้าวเสร็จไปดูหนัง
    >> >>แต่ตอนนี้เหมือนรออะไรอยู่ไม่รู้ ไม่มีจุดหมาย"
    >> >>"ทุกคืนจุ๊บต้องกินยานอนหลับอย่างแรง แต่ทุกๆตีสามต้องตื่น
    >> >>มีความรู้สึกเหมือนถูกสัมผัสเบาๆที่ปลายเท้า
    >>
    >> >>เชื่อว่าต้องเป็นพี่โจ้แน่ๆ
    >> >>เพราะเขาชอบตื่นมาดูบอลแล้วก้อหอมแก้มบอกรักน่ะ
    >> >>ตั้งแต่นั้นความทุกข์จึงกลายเป็นความสุข...กับการตื่นตีสามและรอคอยตอนเช้า
    >> >>เพื่อจะได้ใส่บาตรให้พี่โจ้
    >> >>สิ่งเหล่านี้ช่วยเยียวยาจิตใจให้รู้ว่าพี่โจ้ยังอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
    >> >>ทุกวินาทีที่จุ๊บทำอะไรจะเรียกพพี่โจ้ตลอด
    >> >>มีบอลก้อเอาอัฐิมาตั้งดูทีวีด้วยกัน
    >>บางทีก้อคิดว่าทำไมต้องทำแบบนี้
    >> >>นั่งคุยกับรูป..กับอัฐิ...
    >> >>แต่นี้คือความจริงที่ต้องเผชิญ แม้ขณะนี้ญาติๆ จะมาอยู่เป็นเพื่อน
    >> >>แต่สักวันทุกคนต้องแยกย้ายกับไปดำเนินชีวิตตามปกติ
    >> >>เหลือจุ๊บที่ต้องอยู่บ้านนี้เพียงคนเดียว
    >> >>เพราะฉะนั้นต้องพยายามทำตัวให้ชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้
    >> >>แต่จะไม่พยายามทำใจเด็ดขาดว่าพี่โจ้ไม่อยู่แล้ว"
    >> >>"ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่โจ้ไม่คิดว่าตัวเองจะไปเร็วขนาดนี้
    >> >>จนไม่ทันได้เตรียมอะไรไว้ให้ มีแต่บ้านหลังนี้กับคอนโด
    >>และรถ
    >> >>ระหว่างเราจะเป็นความฝันที่ร่วมสร้างด้วยกันเสียส่วนมาก
    >> >>ซึ่งจุ๊บต้องสานต่อ
    >> >>พี่โจ้รักพ่อแม่มาก ตั้งใจว่าจะรับหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่พี่โจ้แทน
    >> >>โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท มหัศจรรย์งานโชว์
    >> >>แม้จุ๊บจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ตอนที่พี่โจ้อยู่....แต่ต้องทำต่อไป..."
    >> >>
    >> >>"ไม่อยากให้พี่โจ้เป็นแค่ความทรงจำแล้วสักวันก้อจางหาย....อยากให้พี่โจ้เป็นความรู้สึกดีๆที่อยู่ใกล้ๆทุกๆคน...ตลอดไป......"

     
     

    จากคุณ : mung EMO - [ 5 ก.ค. 49 18:17:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com