Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ใครหนอคือเพื่อนซี้ขี้โกง!! ของ "กนก" และ "สรยุทธ"

    จาก www.manager.co.th

    เป็นที่ทราบกันผ่านหน้าจอเสมอมาว่าอดีตพิธีกรชื่อดังอย่าง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" นั้นเป็น ‘เพื่อนซี้’กับ "กนก รัตนวงศ์สกุล" อย่างยิ่ง ทั้งจากหนังสือที่สัมภาษณ์ ทั้งจากพ็อกเก็ตบุ๊ค และจากรายการที่ทำด้วยกัน ปรากฏออกมาอย่างไม่ขาดสายในช่วงเวลาที่ สรยุทธ ยึดอสมท. เป็นที่ทำมาหากินอย่างสุขสบาย

    แม้ในรูปแบบความซี้ของเพื่อนคู่ในที่ผ่านมาจะเป็นรูปแบบของคนหนึ่งเป็นพี่ใหญ่ อีกคนหนึ่งยอมเป็นลูกกะเล่...ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วความสามารถของ "กนก" นั้นมีมากกว่าการทำเปิ่นๆตามที่สรยุทธสั่งผ่านหน้าจอ

    แต่ก็เพราะความเป็นเพื่อนกระมังที่ทำให้กนกยอมที่จะรับบทชวนสงสารแบบนั้น

    จนกระทั่งเมื่อ สรยุทธ ต้องอำลาจาก อสมท.ไปด้วยความช้ำและย้ายไปอยู่ช่อง 3 ซึ่งจะว่าไปก็ถือเป็นการปิดฉากที่ไม่สวยเท่าไหร่ ตามมาด้วยการเข้าแทนที่ของ กนก กับทีมเนชั่น+คนของ อสมท. อีกส่วนหนึ่งในรายการ ข่าวข้นคนข่าว...

    ที่สำคัญดวงของกนกในเรื่องงานปี 50 นี้รุ่งจนกลบรัศมีของ สรยุทธไปมากพอควร

    ในฐานะที่เป็นเพื่อนซี้...การเติบโตของกนก และการไปสร้างอาณาจักรใหม่ของสรยุทธในช่อง 3 นั้นน่าจะเป็นการจากกันไปได้ด้วยดี เพราะต่างก็โตขึ้นทั้งคู่ แต่ไปๆ มาๆ จะด้วยเหตุผลอะไรที่อยู่เบื้องหลังก็ตามที ข้อเขียนของทั้งคู่ที่ออกมาสู่สื่อในช่วงปลายปีเก่าและการต้อนรับปีใหม่กลับพูดถึง ‘เพื่อนซี้ในครั้งอดีต’ ออกมาอย่างชนิดกระซวกกันให้ตายคามีดกันมากกว่า

    แม้ในข้อความที่เชือดเฉือนของทั้งคู่จะไม่มีการเอ่ยชื่อว่าเพื่อนซี้คนนั้นจะชื่อกนก...หรือสรยุทธ แม้แต่คำเดียวก็ตาม แต่มันก็อดที่จะทำให้แฟนคลับของทั้งคู่เกิดความรู้สึกเครียดเหมือนดูละครเกาหลีเรื่องดีๆ ทีเดียว

    หลายคนรู้แต่ไม่กล้าเอ่ย หลายคนทราบ...แต่ไม่กล้าคิด!!

    เพราะโลกมนุษย์ที่แท้มันโหดกว่าโลกมายาเสมอๆ
    ..........
    ห้วงเวลารำลึกถึงเพื่อนที่คนอ่านจะต้องเดาว่า เขาพูดถึงใคร? ของพิธีกรคู่นี้เริ่มต้นจากคอลัมน์คุยนอกสนาม ที่เขียนลงในนิตยสารแพรวโดย สรยุทธ เองในตอนที่ชื่อว่า "ในความทรงจำ" ด้วยอารมณ์ตัดพ้อและโทษกนกว่า ทำให้เขาลำบากในการทำงานในช่วงปลายชีวิตที่ อสมท. มากโขอยู่ โดยเฉพาะประเด็นที่ กนก ถอนตัวออกจากรายการคุยคุ้ยข่าวอย่างกะทันหัน

    "แต่มีเรื่องแทรกซ้อนอีก เมื่อกนกขอถอนตัว...ต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้เรื่องราวทั้งหมดผมเก็บไว้ในใจ ไม่ได้ปรึกษากนก เพราะอยากให้บรรยากาศการทำงานเป็นปกติ ไม่อยากให้กระทบหน้าจอ ช่วงที่เกิดม็อบเสื้อดำ เคยถามเขาว่ามีใครติดต่อให้ออกจากรายการคุยคุ้ยข่าวหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่มี ต้นสังกัด(เนชั่น)บอกให้ทำรายการไปตามปกติ จนวันที่ผมตัดสินใจยื่นจดหมาย กนกบอกว่าต้นสังกัดเรียกไปพบ รู้แต่ว่าเป็นเรื่องคุยคุ้ยข่าวแต่ไม่รู้รายละเอียด คืนนั้นจบรายการผมตั้งใจโทรบอกกนกเรื่องยื่นจดหมาย แต่เขาไม่ได้รับสาย บ่ายของอีกวันก็ได้รับข่าวว่าต้นสังกัดให้กนกหยุดทำรายการคุยคุ้ยข่าวตั้งแต่สิ้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และคงไม่สามารถอยู่จนถึงวันสิ้นสัญญาได้ เพราะอยากพักและต้องเตรียมตัวทำรายการใหม่"

    "ผมต้องเคารพการตัดสินใจนั้น แต่ผลที่ตามมาคือเกิดการบ้านด่วนเรื่องหาพิธีกรใหม่ในช่วงเดือนสุดท้าย มองในแง่ดี เป็นการท้าทายส่งท้ายจะได้มีเรื่องให้คิดให้ทำ..."

    เมื่อแพรวฉบับนี้เริ่มวางแผง คอลัมน์ในความรื่นรมย์จากปลายปากกาของกนกยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ และดูเหมือนเรื่องจะจบลงแค่นั้น แต่ปรากฏว่าในคอลัมน์เดียวกันของ "แพรว" ในฉบับถัดมา สรยุทธยิ่งเพิ่มความลึกเข้าไปในบทความที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อน หรืออดีตคนคุ้นเคยที่ทำงานร่วมกันมาตลอดชนิดชวนระทึกอย่างยิ่ง

    คอลัมน์ฉบับนี้ของ สรยุทธ ว่าด้วยเรื่องของการทบทวนตัวเองและการเรียนรู้ที่จะรู้จักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ ‘เพื่อน’ ที่เขาเคยคิดว่าใช่

    "สำคัญที่สุดของการเรียนรู้คงเป็นเรื่องของ “คน” ปีนี้ผมอายุ 41 แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าด้วยวัยหรือประสบการณ์ที่มีไม่สามารถให้ช่วยรู้จักจิตใจคนได้ดีขึ้น สำหรับผม “คน” ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยากแท้หยั่งถึงเสมอ"

    ก่อนที่จะ ‘สรยุทธคนแสนซื่อ’ จะสาวหมัดตรงเข้าใส่หน้า...เพื่อนรักบางคนชนิดหน้าหงาย!!

    "คนที่คิดว่าเป็นเพื่อน ในความเป็นจริงบางครั้งอาจจะไม่ใกล้เคียง ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นผิด ตรงกันข้าม ที่ผิดคือผมต่างหากที่คบใครเปิดเผย จริงใจเกินเหตุ เพราะอินว่าเขาเป็นเพื่อน พอวันหนึ่งที่รู้ว่าเขายังยืนอยู่ ณ จุดเดิมของวันแรกที่รู้จัก คือคบหากันเพื่องานหรือธุรกิจเท่านั้น ไม่ใช่ความผูกพันแบบเพื่อน จึงอดเสียใจไม่ได้ แต่เมื่อได้ทบทวนแบบไม่เข้าข้างตัวเองก็คิดได้ว่าที่รู้สึกเสียใจ เพราะไปคาดหวังกับคนบางคนบางเรื่องมากเกินไป ฉะนั้นภูมิป้องกันตัวเองบอกทันทีว่า จากนี้ ควรเลิกหรือลดความคาดหวังลง"
    ..........
    เท่านั้นเองไฟก็ลุกโพลงทันทีจากคอลัมน์สุดแสนจะรื่นรมย์ของกนกใน “เนชั่น สุดสัปดาห์” ชนิดที่ถ้าอ่านหน้าไพ่ก็ต้องบอกว่า..."ไม่เผาผีกันแล้ว" สำหรับอดีตเพื่อนซี้ เพราะ กนกตั้งชื่อคอลัมน์ของเขาในตอนนี้ว่า

    "ผมทำงานกับคนโกงไม่ได้.."

    กนกโปรยถึงการทำงานปัจจุบันของเขาว่าสนุกเหลือใจโดยเฉพาะกับพิธีกรตลกทั้งหลายในสังกัดเวิร์คพ้อยท์ ในรายการ มหานคร เขาย้ำว่า วันนี้เขาสบายใจเพราะ เพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็น น้องเดียว คุณธง น้องเชียร์ คุณหม่ำ ไม่มีพิษภัย..กัดใครไม่ได้ ก่อนจะเริ่มรำลึกถึงอดีตที่เคยเจอมาของเขาว่า

    "เท่าที่ไปบันทึกเทปมาหลายหน ผมยังไม่เห็นการนินทา แทงข้างหลัง ไม่ให้เกียรติ คิดอิจฉา ดูถูก หรือคอยสกัดเพื่อนร่วมงานที่นั่น ไม่เหมือนช่วงที่ผ่านมา มีแต่เรื่องเล็กๆ คล้ายตัวอิจฉาในละคร จนถึงเรื่องใหญ่ๆ เข้าข่ายคอร์รัปชั่น"

    "เพียงแค่ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยบางแห่งยังมีคนขุ่นเคือง ไม่พอใจ อยากให้สถาบันนั้นเรียกใช้เขาคนเดียว หรือคอยระแวงกระทั่งผมจะแอบติดต่อ "คน" ของเขาไปทำอะไร มิดี มิชอบ (แบบที่เขาทำ) สารพัดจะสร้างภาพ"

    ก่อนจะยกคำพูดของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนโกงนั้นน่ารังเกียจเพียงใด อาทิ รตอ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ว่า ท่านไม่สามารถทำงานกับคนโกงได้ ไม่ว่าจะโกงในรูปแบบไหน หรือพวกสร้างภาพ หรือเป็นพวกอาชญากรคอปกขาว เหตุเพราะท่านไม่เคยโกง และไม่ยอมให้คนโกงเหล่านี้มามีอิทธิพลเหนือชีวิตของตน ตามด้วยการยกคำพูดของประธาน คมช.ที่พูดถึงทักษิณว่า ปากบอกว่าจะทำอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้วมีพฤติกรรมอีกอย่าง สิ่งที่เราเคยคิดว่าใช่ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ กว่าจะรู้บางทีก็เสียใจต่อสิ่งที่เราเคยเข้าใจผิด เสียใจต่อสิ่งที่เราเคยรักและเคารพ และ คนไทยหนีไม่พ้นลักษณะขี้เกียจ ขี้โกง ขี้โอ่ และขี้อิจฉา

    สุดท้ายกนกขมวดเข้าเรื่องของตัวเองของเขาว่า

    "อย่าทำงานกับคนโกง ยิ่งพวกที่สร้างภาพให้ดูหน้าเชื่อถือ แต่ธาตุแท้คิดไม่ซื่อ คนจำพวกนี้ สังคมต้องใช้เวลาพิสูจน์ สีที่เห็นขาว บางทีมันอาจดำ ที่ขาวเพราะถูกปรุงแต่งเกินจริง ปีนี้เป็นปีมงคล ปีที่คนดีคนสมถะ จะอยู่อย่างพอเพียง ผมเชื่อว่าคนขี้โอ้ ขี้โกง อยู่อย่างพอเพียงไม่ได้ ไม่อยากให้คนอื่นมองเราขี้โอ่ ขี้โกง จงอย่าอยู่กับคนแบบนั้น"

    วันนี้ของกนกก็ยังคงอยู่ที่เนชั่นรังเก่าของเขา และอยู่ที่รังใหม่กับเวิร์คพ้อยท์ อยู่ในฐานะของพระเอกตัวจริงทางช่อง 9 ในรายการข่าวข้นคนข่าว ...แต่ไม่ได้อยู่กับเพื่อนซี้ในไร่ส้มกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา อีกต่อไปแล้ว

    ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังของบทความที่ต่อเนื่องและเกี่ยวข้องกับเพื่อนที่ว่านี้จะออกมาเพราะอะไร ถึงขั้นบริภาษ เปรียบเทียบ ตัดพ้อ แดกดันไปจนกระทั่งขั้นเอาไม้ตีกบาลกันกับถึงอดีตเพื่อนรักขนาดนี้ ปริศนายังคงเป็นปริศนาต่อไป

    และอดีตเพื่อนซี้ที่ไม่เอ่ยนามนั้นจะหมายถึง กนก และ สรยุทธ หรือไม่ ?

    แต่ที่แน่ๆ แฟนคลับของทั้งคู่คงรอนิตยสารแพรวฉบับต่อไปว่า จะมีคอลัมน์ที่สรยุทธออกมาบอกกับผู้อ่านอีกหรือเปล่าว่า?

    "ชีวิตของผม...ไม่เคยโกงใครครับ..!!(ฮา)"

    จากคุณ : . - [ 25 ม.ค. 50 20:16:11 A:124.120.97.246 X: TicketID:048608 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom