PANTIP.COM : A5440673 ข่าว นักเรียนเตรียมทหาร 6 นาย - นึกถึงหนังเรื่อง A Few Good Men [ภาพยนตร์]

ความคิดเห็นที่ 7

ได้อ่านข่าว เรื่องนี้ และคำวิจารย์ รวมทั้งคำด่า จากแหล่งอื่นๆ มาพอสมควร
ผมเลยอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กๆกลุ่มนี้ ให้ผู้ที่ยังไม่ทราบ พอเป็นสังเขป
เพราะบางท่านก็ด่าน้องๆ ลูกๆ เหล่านี้ ด้วยความคิดที่รุนแรง
เด็กที่เข้าเตรียมทหาร...ในสมัยก่อน ตอนผมรุ่นๆ .ก็คือเด็กที่จบ ม.ศ.3 สอบเข้า จะไปเรียนแบบ เช้า*-เย็น ก็กลับบ้าน เหมือนนักเรียนทั่วไป
เสาร์อาทิย์ ถ้าไม่ติดเวร ติดโทษ ก็อยู่บ้าน เหมือนนักเรียนปกติ โดยเรียนเพียง 2 ปี แล้วต่อโรงเรียนเหล่าทัพ อีก 5 ปี
ต่อมา เมื่อผู้นำประเทศ ซึ่งไม่เคยผ่านโรงเรียนเตรียม ไม่เห็นความสำคัญของสถาบันแห่งนี้ ก็อยากจะยกเลิก แต่ได้รับการคัดค้าน เลยยุบให้เรียน เพียง 1 ปี และรวมเป็นชั้นปี 1 ของเหล่าทัพไปเลย โดยรับเด็ก ที่จบ ม.6 สอบเข้าเรียน
ต่อมา เตรียมทหารถูกย้ายไปอยู่ข้างโรงเรียน จปร.ที่นครนายก
ก็มีการวางระบบการเรียนใหม่ โดยให้เด็กที่จบชั้น ม.3 สอบเข้าเรียน เป็นเวลา 3 ปี แล้วเข้าโรงเรียนเหล่า ต่ออีก 4 ปี
คิดดูนะครับ ว่าเด็กๆ อายุ 14-15 ปี หรือเต็มที่ ไม่เกิน 17 ปี
ต้องจากอ้อมอก พ่อ-แม่ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไปอยู่ป่า อยู่เขา กับเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน
ต้องตื่นแต่เช้า ตี 5 ต้องฝึกหนัก ตั้งแต่ลืมตา จนถึงเวลานอน
โอกาสกลับบ้าน โดยเฉพาะช่วง 1-2 เดือนแรก แทบไม่มี เนื่องจากการปรับปรุง ลักษณะ ทางทหาร
เพราะบางครั้งก็ถูกปล่อยหลอก บางคนแจ้งพ่อ-แม่ ว่าอาทิตย์นี้ จะกลับมากินข้าวบ้าน พ่อ-แม่ก็ทำกับข้าวที่ชอบไว้รอท่า
ผลปรากฏว่า ไม่ได้กลับ
บางคนถูกโทษ ที่ทำผิดไว้ระหว่างสัปดาห์
บางคนจะกลับอยู่แล้ว รองเท้าไม่มัน เสื้อไม่เรียบ ก็เป็นอันต้องนอนโรงเรียน
ในขณะที่เด็กวัยเดียวกัน ส่วนใหญ่ เฮฮาอยู่ตามห้าง ร้านเน็ต หรืออื่นๆ
ไม่ใช่แต่เด็กๆเหล่านี้ พ่อ-แม่ก็คิดถึงลูก ถ้าว่าง ก็แวะไปเยี่ยมได้เป็นบางครั้ง
ด็กส่วนใหญ่ ร้อยละ 80 เป็นเด็กที่สอบได้จากต่างจังหวัด อีกร้อยละ 20 เป็นเด็กกรุงเทพฯ และปริมณทล เนื่องจากค่านิยมของคนกรุง ที่ไม่นิยมรับราชการ และกลัวลำบาก
ในขณะที่คนต่างจังหวัด จะอยากให้ลูกหลาน ได้รับราชการ และประหยัดค่าเล่าเรียน จบแล้วมีงานทำเลย
บางคนที่ไม่รู้จริง ก็ด่าว่ามีแต่พวกลูกท่านหลานเธอ ใช้เส้นเข้ามา หลับตาดำน้ำพูด
เด็กพวกนี้ พอจะขึ้นปี 3 บางคนจะถูกคัดเลือก จากพวกที่เรียนเก่ง มีบุคลิก ผู้นำ ให้ไปทำหน้าที่ คอมแมนด์ ปกครองนักเรียน
ซึ่งในกรณีนี้ นักเรียน เด็ก อายุ 16-17 ที่เป็นคอมแมนด์ใหม่ ก็จะมีความฮึกเหิม ตามประสาของวัย จะเอาจริง เอาจัง อยาก ให้ครู และน้อง เห็นว่าตนเอง เข้มแข็ง เข้มงวด โดยที่บางครั้ง ก็ไม้ได้รับคำแนะนำว่า อะไร พอ อะไร เกิน
ซ้ำยังถูกรุ่นพี่ ที่ปฏิบัติมาก่อน ทำให้ติดนิสัย กลายเป็นการปฏิบัติตามปกติ
รุ่นน้องเมื่อถูกสั่งซ่อม หรือ ปรับปรุงวินัย ก็จะไม่ปริปากบ่น เพราะวินัย ถูกบ่มเพาะมาแบบนั้น
กรณีที่เกิดขึ้น ผู้ที่ควรรับผิดชอบ ควรจะเป็นนายทหารปกครอง นายทหารเวร
ที่อยู่ดูแล
เพราะท่านก็จะไม่ได้กำชับ เรื่องลักษณะการลงทษ ที่เป็นจิจะลักษณะ
จริงอยู่ ที่ออกมาอ้างกันเรื่องกฏข้อบังคับ ว่า ให้ลงโทษยึดพื้นได้แค่ 20 ครั้ง หรืออื่นๆ เท่านั้น เท่านี้
แค่นักเรียน ร.ด. ถามว่า เคยโดนสั่งยึดพื้น 50 ครั้ง หรือ 100 ครั้งไหม
หรือวิ่ง แค่ 1.5 กม. แค่วิ่งรอบโรงเรียนตอนเช้า ก็ปาเข้าไป กว่า 2 กม.แล้ว
พ่อ-แม่ของน้องที่เสียชีวิต ย่อมเสียใจอย่างสุดซึ่ง
แต่พ่อ-แม่ ของน้องที่ไปลงโทษ จนรุ่นน้องตาย ก็ไม่ได้เสียใจน้อยกว่าแน่นอน
ในระบบโรงเรียน ที่นี่ ไม่เคยสอนพี่ ให้แกล้งลงโทษน้องจนตายแบบนั้นแน่นอน
แต่อะไร มันก็ต้องมีพลาดเป็นครั้งแรก แม้แต่สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ อย่าง จุฬา ธรรมศาสตร์ หรืออื่นๆ
ที่ผ่านมา มีเรื่องร้ายแรงบ่อยกว่านี้เสียอีก พอมีข่าวที ก็ล้อมคอกที
ผมอยากให้มองคนอื่น แบบใจเป็นธรรม
บางคนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า พวกนี้ บ้าอำนาจ ชอบทำอะไร รุนแรง
โรงเรียนทหารครับ จบออกไป ต้องไปเสี่ยงตาย แลเด็กพวกนี้ ในอนาคต ไม่ทราบว่า อีกกี่คน ต้องไปโดนระเบิดอยู่ที่ภาคใต้อีกเท่ไหร่
ถ้าไม่มีใครไปสมัครเรียน พวกเรา จะอาสาไปเองไหม
ปีหน้า ลูกชายผม ก็จะไปลองสมัครสอบเหมือนกัน
ก็ไม่รู้ว่า ถ้าเขาสอบได้ ผมกับภรรยา จะทนคิดถึงเขาได้แค่ไหน
คนเป็นพ่อ-แม่คน คงเข้าใจ แต่คนโสด คงจะอีกนาน กว่าจะรับรู้

จากคุณ : oldmanhandsome - [ 24 พ.ค. 50 12:03:19 ]