ความคิดเห็นที่ 1 เค้าไม่ได้จำทีเดียวทั้งเรื่องครับ อีกอย่างถ้ามีประสบการณ์หน่อยมันจะส่งกันเองไม่ตรงทุกคำพูดก็ไปได้ ที่สำคัญบทละครไทยคนดูยังบอกได้ว่าประโยคต่อไปจะพูดว่าอะไร ประสาอะไรกับดารา จากคุณ : . - [ 2 ต.ค. 50 20:23:28 A:125.26.165.178 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้วิธีทำความเข้าใจกับบทครับ แล้วพูดออกมาโดยไม่เสียใจความเดิม แต่ถ้าเป็นผู้กำกับางท่าน เช่นคุณชนะ คราประยูร นักแสดงก็คงต้องท่องบทให้เป๊ะครับ สำหรับนักแสดงหน้าใหม่ มือใหม่ ส่วนใหญ่ก็ท่องกันทั้งนั้นครับ แต่ถ้าเป็นนักแสดงเก่าๆ หรือมืออาชีพแล้วก็ใช้แบบอ่านแล้วทำความเข้าใจ จากคุณ : yibby - [ 2 ต.ค. 50 20:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริง ๆ เหรอครับ.....คห.1 ผมเคยดูเวลาที่เค้าพูดผิดจากบท ทำไมเค้าคัด....แล้วถ่ายใหม่ครับ จากคุณ : pktip - [ 2 ต.ค. 50 20:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องท่องเลยครับ บทยาวเป็นหน้าๆก็ต้องท่อง แต่เวลาถ่ายบทพูดยาวๆ  ผกก.จะช่วยนักแสดงโดยการถ่ายเจาะทีละช่วง เช่นพูด 3 บรรทัดจบก็คัท 1 ทีแล้วถ่ายต่อบทพูดอีก 3 บรรทัด นักแสดงบางท่านเก่งมาก ปัญญาเป็นเลิศ "ไม่ต้องคัทย่ะ ชั้นจำได้" บางคนก็ติ๊งต๊องน่อ  บรรทัดเดียว(แม่ม)พูดผิดอยู่นั่น จนเพื่อนๆร่วมฉากอยากโดดสกายคิก เพราะเท่ากับทำให้คนอื่น"แสดงเก้อ"ครับ แต่ส่วนใหญ่แล้ว..ดาราสมัยนี้จะจำแต่ไลน์ของตัวครับ ไม่ยอมทำความเข้าใจบทของคู่แสดงหรือกลุ่มแสดงที่เล่นด้วย เพราะขี้เกียจ เสียเวลา จะจำแต่"คำท้ายของประโยคคนอื่น"ก่อนจะมาตัดรับบทที่ตัวเองพูด ผลเสียของการจำแต่บทตัวเอง ไม่ทำความเข้าใจกับบทของคนอื่นในซีน ส่งผลเห็นๆกับละครไทยเลยครับคุณจขกท. สังเกตดูสิครับ ดาราจะชอบทำหน้าเลื่อนลอยเวลาคนอื่นในฉากพูดบท หรือไม่ก็ "แอ๊คท่ารอ"ไว้ก่อนเลย เช่น"แอ๊คโกรธไว้รอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายยังไม่ทันจะด่า" หรือ "แอ๊คเศร้าไว้รอ ทั้งที่ตัวละครอีกตัวยังไม่ได้ตาย" ปล.เรื่องบทพูดนี่ นักเขียนบทระดับอาชีพถือมาก  ห้ามเปลี่ยนคำพูด  โดยเฉพาะบทละครเวที เพราะมันจะทำให้คนอื่นต่อบทไม่ได้ หรือบทละครที่อมตะ  เขายิ่งห้ามเปลี่ยนบทแม้แต่คำเดียว (เช่น ราโชมอนของหม่อมคึกฤทธิ์ หรือคำพิพากษาของอจ.สดใส) นักแสดงก็เหมือนกลับไปอยู่มัธยมใหม่อีกครั้ง ตั้งใจท่องหนังสือกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มันส์มาก! จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 2 ต.ค. 50 20:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าความหมายที่คห 1 คือพูดไม่ตรงกับบทเป๊ะ ๆ มากกว่าครับ แล้วไอ้ที่ว่าผู้กำกับคัดให้ถ่ายใหม่นั้นน่าจะมาจากที่พูดผิดชนิดความหมายเพี้ยนไป หรือ พูดข้ามบท ซะล่ะมากกว่าครับ จากคุณ : mu007 - [ 2 ต.ค. 50 20:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านคห.4 เข้าใจเลย แอบฮาด้วย 55+ จากคุณ : MiSs pOsH (MiSs pOsH) - [ 2 ต.ค. 50 21:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แอ๊คไว้รอนี่เห็นบ่อย แล้วก็เวลามีบทที่ต้องพูดแทรก คนพูดก่อนจะหยุดรอให้คนพูดแทรก จากคุณ : hydrophobia - [ 2 ต.ค. 50 21:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คห. 4 ครับ อย่างเวลาเล่นละครเวทีเนี่ย ถ้าตรงไหนที่เราจะไม่พูดตามบทเป๊ะ ๆ ก็ต้องขอความเห็น + ขออนุญาตจากผู้กำกับน่ะครับ บางครั้งท่านก็ซื้อ บางครั้งก็ไม่ซื้อ เพราะบทที่คนเขียนผู้เขียนมา ย่อมมีความหมายอย่างที่เขาต้องการนำเสนออยู่แล้วครับ จากคุณ : จักกิด - [ 2 ต.ค. 50 21:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โห งั้นก็ต้องจำเก่งๆ เลยดิ อยากรู้ว่า นักแสดงเค้ารู้รึปล่าวคะคะ ว่าแต่ละวันต้องเล่นตรงไหน เช่น วันนี้ต้องมีเลิฟซีนรึปล่าว อะไรอย่างนี้ นักแสดงเค้ารู้ล่วงหน้าไหมคะ เพราะรู้สึกว่าบางเลิฟซีนเนียะ นักแสดงเค้าไม่รู้มาก่อนเลย จากคุณ : Rdfaiz - [ 2 ต.ค. 50 21:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืม..ค่ะ เห็นด้วยกับคุณผึ้งน้อยพเนจรค่ะ นึกถึงละครสมัยก่อน ที่จะมีคนบอกบทให้เวลาที่นักแสดงแสดงเข้าฉากแล้วถ้านักแสดงคนนั้นจำบทไม่ได้ แต่ก็คงมีน้อยรายค่ะที่ทำแบบนี้ เพราะเขาเคร่งเรื่องบทประพันธ์กันมาก มันก็เป็นการวัดเชาว์ของนักแสดงอย่างหนึ่งค่ะว่าจะจำอย่างไรให้ไม่ขาดตกบกพร่อง บทไหนควรจำ บทไหนไม่จำเป็นต้องพูด บทไหนที่ต้องคอยรับส่งอารมณ์ให้ถูกจังหวะ ไม่ใช่แค่เอาตามใจตัวเองให้คิดว่า เออ...เมื่อไรจะผ่าน แต่ต้องอาศัยว่าคนดูมีอารมณ์ร่วมด้วยมั้ย ใครอยากเป็นนักแสดงก็คิดกันหนักหน่อยนะคะ ต้องเป็นผู้สื่อสารที่อยู่ในระดับดีทีเดียว จากคุณ : อักษราภรณ์ - [ 2 ต.ค. 50 21:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซ้อมไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินครับ นักแสดงระดับปรมาจารย์อย่างอาหนิง แกท่องแป๊บเดียว เดินเล่นแล้วครับ ผมเองเคยเล่นละครมาบ้าง แรก ๆ ยังสงสัย เค้าจำกันได้ยังไง เราท่องเก่ง แต่ทำไมจำไม่ได้ ท้ายสุด ก็รู้ทริค ถ้าคุณ "อิน" กะบท ตั้งแต่แรก เป็นตัวละครนั้นจริง ๆ อ่านบทจนรู้ภาพรวม คุณจะจำง่าย ยิ่งซ้อมสักรอบสองรอบแล้วค่อยเล่นจริงนี่ สบายครับ เช่น คุณเล่นเป็นตัวขี้โมโห บทจะออกมาโทน ขี้โมโห ให้คุณจำคิวง่าย และง่ายต่อการใช้คำพูด เพราะคนขี้โมโห ต้องพูดประมาณนี้แหละ และถ้ามีใครพูดยั่วโมโหมัน มันต้องโมโห สมมติ ต้องเล่นตอนที่ไอ้คนขี้โมโห โดนเพื่อนเบรคหัวทิ่ม ไม่กล้าขี้โมโห ถ้าคุณอินได้ตามบท เข้าใจว่าคนโดนเบรคจนอึ้ง คำพูดมันก็จะจ๋อย ๆ ไป คุณก็จะนึกได้ ว่า บทเขาจะให้คุณพูดว่ายังไงบ้าง ดังนั้น ผมเลยเข้าใจ ว่ามืออาชีพ เขา"อินกะบท"ตั้งแต่อ่านบทแล้วล่ะครับ แต่ว่า ต่อให้รู้นะครับ ว่าทริคเขาเป็นอย่างนี้ เอาเข้าจริง หากคุณตื่นเต้น ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน สมาธิและความสงบจึงสำคัญครับ ผมทำไม่ค่อยได้ เลยไม่ได้เป็นนักแสดงซักที 555 จากคุณ : คางคกแมน - [ 2 ต.ค. 50 21:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทู้นี้เริ่มอบอุ่นจัง ดีใจแทนคุณจขกท. แอ๊คไว้รอนี่เห็นบ่อย แล้วก็เวลามีบทที่ต้องพูดแทรก คนพูดก่อนจะหยุดรอให้คนพูดแทรก จากคุณ : hydrophobia ^^^ โห...ตาดีมาก!  ขอบอกว่า..ใช่เลยคร้าบท่านผู้ชม ******************************************************* อย่างเวลาเล่นละครเวทีเนี่ย ถ้าตรงไหนที่เราจะไม่พูดตามบทเป๊ะ ๆ ก็ต้องขอความเห็น + ขออนุญาตจากผู้กำกับน่ะครับ บางครั้งท่านก็ซื้อ บางครั้งก็ไม่ซื้อ  จากคุณ : จักกิด ^^^ เยี่ยมเลยคร้าบ!   มีบางคนเหมือนกัน..ที่ท่องไม่เก่ง-ขี้เกียจท่องหรือกำลังเบลอท่องไม่ได้ ชอบ"เปลี่ยนไดอะล็อก"ครับ  แล้วมาทำเนียนๆกับผกก.ประจำเลยขอเปลี่ยนประโยค ผกก.ไม่ค่อยยอมนะครับ   ผกก.บางท่านที่เคร่งเรื่องบทมาก แล้วเจอดาราเปลี่ยนคำพูดตอนถ่ายๆอยู่นี่.. มีเขวี้ยงด้วยบทนะขอโบก!  (คือในกองถ่าย ทุกคนต้องถือบทเดินไปเดินมาทุกคนครับ เพราะสำคัญสุดๆเวลาทำงาน   ยกเว้นแม่บ้านยกน้ำ   ไม่รู้แกจะถือทำไม) ************************************************************ อยากรู้ว่า นักแสดงเค้ารู้รึปล่าวคะคะ ว่าแต่ละวันต้องเล่นตรงไหน เช่น วันนี้ต้องมีเลิฟซีนรึปล่าว อะไรอย่างนี้ นักแสดงเค้ารู้ล่วงหน้าไหมคะ เพราะรู้สึกว่าบางเลิฟซีนเนียะ นักแสดงเค้าไม่รู้มาก่อนเลย ^^^ ถ้าเป็นกองถ่ายไทย ปกติมันจะมี"คิวถ่าย"แจกให้นักแสดงล่วงหน้า 1 อาทิตย์ครับคุณRdfaiz ใน 1 แผ่นคิว จะ break down กันออกมา ให้นักแสดงหลัก ประมาณ 10 คน(ตัวเอก ตัวรอง ตัว 3 ตัว 4) จะแบ่งเลยว่าช่วงครึ่งเช้าถ่ายฉากอะไรกับใคร นักแสดงก็จะเอาใบคิวนั้นไปเทียบกับบทละครหรือภาพยนตร์ได้ แล้วทำการบ้านมาล่วงหน้า (ซึ่งหลายคนก็ไม่ได้ทำ  บางคนก็เมาค้างมาก่อนถ่าย อิอิ  รับกันแมนๆ แต่พี่นกสินจัยนี่..สุดยอดของการทำการบ้านคร้าบ ใครเจอเข้าฉากกับพี่นกวันนั้น...ต้องท่องบทสุดชีวิตครับก่อนไปถ่าย ไม่งั้นจะขายขี้หน้าและละอายแก่ใจมากที่ต่อบทกับพี่นกไม่ได้) ฉะนั้น เราจะรู้ก่อนครับว่าถ่ายคิวไหน ฉากอะไร ถ่ายกับใคร ยิ่งบทยากมาก เช่น ฉากข่มขืน หรือฉากเลิฟซีน ผู้กำกับจะต้องบอกนักแสดงก่อน 2-3 วัน ให้ไปทำใจ...เอ๊ย...เตรียมตัว ทว่า...กองถ่ายบ้านเรายังทะยอยเขียนบทไปถ่ายไปอยู่มาก ดังนั้นนักแสดงอาจไม่รู้เลยก็ได้ มันก็เลยเล่นกันแข็งๆทื่อๆ ไม่กล้าเล่นจริง เพราะไม่ได้เตรียมใจมาก่อนนั่นเองครับ (ปัญหานี้แก้ไขยาก  และทำให้คุณภาพละครบ้านเราไม่มีทางตีตลาดเอเชียได้ ผมฟันธง) ปล.ขอโทษที่ผมเข้ามาตอบยาวนะครับ   เพราะเผื่อบางท่านอาจชอบเกร็ดเล็กน้อยที่เกี่ยวกับการท่องบท เข้ามาอ่านก็จะได้ความรู้เล็กๆพอสนุกๆไปด้วยอ้ะครับ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 22:10:43 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 2 ต.ค. 50 22:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 ตอบดีนะ แต่บรรทัดสุดท้ายนี่ เอ่อ............ หมดกัน 555+ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 2 ต.ค. 50 22:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้วววววว.... จิกก็รอบทยาวๆอยู่นะเนี่ย ศึกไหม!!! จากคุณ : ห้าจิก - [ 2 ต.ค. 50 22:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกคำตอบน่ะครับ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 2 ต.ค. 50 22:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฉากไหนยาวๆก็ต้องจำให้ได้หมดครับ ถ้าพูดผิด ก็เทคๆๆๆๆ เทคแล้ว เทคอีก.. จนตากล้องช่างไฟเริ่มอารมณ์เสีย แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องคัดแล้วถ่ายเป็นช่วงๆ ส่วนเรื่องบท ส่วนมากก็ต้องทำความเข้าใจว่าบทที่ตัวละครพูดพยายามจะสื่อถึงอะไร เวลาพูดไม่ต้องเอาให้ตรงก็ได้ แต่ความรู้สึกกับความหมายต้องเหมือนๆในบท ... แต่ถ้าเกิดเราเล่นเปลี่ยนซะหมด อันนี้อาจโดนด่าได้ 555+ ก็ประมาณนี้ล่ะครับ จากคุณ : แมกไซต์ - [ 2 ต.ค. 50 22:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เค้ามีการมัดมือชกนักแสดงบ้างไหมคะ อย่างเช่นที่เคยถามไปเรื่องเลิฟซีน คือนักแสดงไม่รู้มาก่อนว่ามีเลิฟซีน เพิ่งมารู้เอาวันนั้น แล้วก็ต้องถ่ายวันนั้น แบบนั้นมันไม่แย่หรอคะ แล้วก็เวลานักแสดงเค้าจะรับงาน เค้าจำเป็นต้องรู้ก่อนไหมคะ ว่าบทเป็นยังไง(อันนี้คงต้องรู้ใช่ไหมคะ) มีเลิฟซีนไหม มีแอคชั่นไหม (อันนี้จำเป็นต้องแจ้งนักแสดงไหมคะ ก่อนจะรับเล่น) จากคุณ : Rdfaiz - [ 2 ต.ค. 50 22:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เค้ามีการมัดมือชกนักแสดงบ้างไหมคะ ^^^ มีเหมือนกันครับ  ส่วนใหญ่เพราะบทมาช้ามาก ทำให้การจัดคิวล่าช้าเลยแจ้งนักแสดงก่อนไม่ได้   ซึ่งผกก.บางท่านที่มาจากสาย"เด็กกองถ่าย แล้วค่อยมุไต่เต้า" มักจะไม่สนเรื่องอารมณ์นักแสดง ก็จะให้ถ่ายทำเลย เพราะมันเป็นหน้าที่นักแสดง ต้องแสดงให้ได้ แต่ถ้าผกก.ที่มาทางสายนักแสดง สายเขียนบท หรือสายการละครก็จะไม่ค่อยมัดมือชกนักแสดง ********************************************************** แล้วก็เวลานักแสดงเค้าจะรับงาน เค้าจำเป็นต้องรู้ก่อนไหมคะ ว่าบทเป็นยังไง(อันนี้คงต้องรู้ใช่ไหมคะ) ^^^^ จำเป็นต้องรู้ครับ จะได้รู้ว่าตัวเองต้องเตรียมตัวยังไง แต่เรื่อง"อันนี้ต้องรู้ใช่ไหม"  สำหรับบ้านเรา ส่วนใหญ่นักแสดงไม่ค่อยรู้ละเอียดครับ เพราะประจำเลยที่บทยังไม่มา(เพราะเขียนยังไม่ได้ถึง 4 ตอนด้วยซ้ำ) ได้อ่านแต่เรื่องย่อ 2 หน้ากระดาษ รู้แต่ชื่อตัวละครกับความเป็นมาตัวละครไม่เกิน 1 ประโยค นักแสดงต้องเสี่ยงดวงเอาว่าบทที่ได้จะเกิดหรือดับ น้อยหรือมาก   ตายเอาดาบหน้าครับ เลือกบทไม่ได้ เพราะเหตุที่ "รายละเอียดไม่ครบ"นี่ละครับ ประจำเลย ********************************************************* มีเลิฟซีนไหม มีแอคชั่นไหม (อันนี้จำเป็นต้องแจ้งนักแสดงไหมคะ ก่อนจะรับเล่น) ^^^ ละครหรือหนังบ้านเรา ถ้าเป็นมืออาชีพจริงๆ ต้องแจ้งครับ เพราะเลิฟซีน ดาราบางคนก็ไม่เล่น เสียภาพลักษณ์ ฉากแอ๊คชั่นมากๆ มักจะถ่ายกันทุรกันดาร หน้าดำ ขาหัก โทรมสุดๆ แต่เผอิญพระเอกพระรองไปรับถ่ายโฆษณาครีมหน้าเด้งมาก่อนแล้ว แบกหน้าดำๆไปถ่ายครีม  เจ้าของสินค้าคงโดดถีบขาคู่ (55) ทว่า...วงการบ้านเรามักไม่มืออาชีพครับ มักปิดบังเลิฟซีนไว้ รอจนดาราไปถ่ายทำเสร็จซะครึ่งเรื่อง แล้วค่อยมารู้ว่าต้องถ่ายฉากนั้น"เยอะมากกว่าที่ตกลงกันแต่แรก" เช่น ตอนคุยค่าตัวกับดารา บอกว่าแค่จูบพระเอก พอวันถ่ายจริงผกก.บอกว่าเปลี่ยนใจแล้ว ให้ปล้ำกันลนเตียงดีกว่า หรือคิวบู๊  บอกดาราว่ามีสัต๊นท์ พอถึงวันถ่ายจริง  เราดูไปดูมา หน้าสลอนอยู่ในกองถ่ายวันนั้น..เฮ้ย..ไม่มีสตั๊นท์นี่หว่า ตรู.....ซวยแล้ว... ต้องให้ตรูโดดหน้าผาเองแน่ๆ! ถึงบอกไงครับว่า..เรายังโกอินเตอร์ไม่ได้หรอก ถ้าไม่เปลี่ยนระบบการทำงาน จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 2 ต.ค. 50 23:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งั้นขอเล่นเป็นคนรับใช้ก็แล้วกันนะ  เราคงพอจะทำได้บ้าง 555 จากคุณ : WADDEEGUB - [ 3 ต.ค. 50 00:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากๆ ค่า คุณผึ้งน้อยพเนจร ตอบทุกคำถามเลย ทำไมรู้ดีจังล่ะคะ อ้อ อีกอย่าง ที่กล่าวมาทั้งหมดเนียะ เกิดในกองถ่ายทั้งหนังทั้งละครเลยรึปล่าวคะ อีกอย่างๆ เคยได้ยินมาว่าเวลาถ่ายหนัง จะใช้กล้องเดียว เวลาแสดง ก็เลยต้องแสดงหลายๆ รอบ จริงรึปล่าว อย่างไร ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 00:54:15 จากคุณ : Rdfaiz - [ 3 ต.ค. 50 00:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระจ่างมาก อ่านที่คุณ ผึ้งน้อยพเนจร เขียนมาเพลินเลยคะ เมื่อก่อนเคยเล่น ๆ อ่านนิยาย แล้วลองท่องเล่นคนเดียวดู ย๊ากยาก จำไม่เห็นได้เลย (-_-") หุหุหุ จากคุณ : arattuna - [ 3 ต.ค. 50 09:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จำได้ว่ามีป้าคนนึงที่ชอบเล่นบทคนใช้ละครช่อง 7 แกไม่ได้ท่องบทมา ก็เลยเอาบทไปซ่อนไว้ในหม้อที่ตั้งอยู่บนเตา แล้วพอแสดงแกก็จะทำเป็นเดินมาคนหม้อแกงบ่อยๆ แล้วก็อ่านบทไปด้วย เนียนจริงๆ เลยป้า ... จากคุณ : Chat - Child - [ 3 ต.ค. 50 09:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องยกความดีความชอบให้คุณภัทราวดีที่เป็นผู้ริ่เริ่มให้นักแสดงจำบทเองโดยไม่ต้องมีการบอกบท แต่ไม่ชอบผู้ดำเนินรายการทีวีสมัยนี้แทบไม่ต้องทำอะไร  แค่อ่านป้ายแล้วพูดตามสคริป จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 10:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^^^^ ใช่เลยครับคุณ stardom   ถือว่าคุณภัทราวดี(เดี๋ยวนี้ใครๆชอบเรียกครูเล็ก) เป็น"ปูชนียบุคคล"ของวงการละครไทยเลยละ สูสีกับอจ.สดใส พันธุมโกมล ผู้เขียน สร้าง และกำกับ "คำพิพากษา"ชุดแรก ยุคนั้นช่อง 3 รุ่นคุณวิชัยรุ่นพ่อน่าภาคภูมิใจมาก  ไม่เละเทะเหมือนยุคนี้ ผมอ่านกระทู้"หุบเขากินคน"แล้ว อยากรู้จังว่าผู้จัดละครรุ่นหลัง เคยอายตัวเองหรืออาย"ครูผู้บุกเลิก"มั่งไหม? ******************************************************** เกิดในกองถ่ายทั้งหนังทั้งละครเลยรึปล่าวคะจากคุณ : Rdfaiz ^^^ ใช่ครับ เคยได้ยินมาว่าเวลาถ่ายหนัง จะใช้กล้องเดียว เวลาแสดง ก็เลยต้องแสดงหลายๆ รอบ จริงรึปล่าว อย่างไร ขอบคุณค่ะ ^^^^ ถ่ายหนังต้องกล้องเดียวครับ เพราะค่าฟิล์มมันเปลือง นี่คือสาเหตุที่นักแสดงไงๆก็ต้องฝึกพื้นฐานการแสดงมาก่อน เพราะต้องเล่นซ้ำฉากหรือซ้ำประโยคเดียวเป็น 10 ครั้ง ไม่งั้นแรงมันตกครับ เทคหลังๆพลังจะดร้อปลงเรื่อยๆ เช่น ผมต้องไปบอกว่า "เพื่อน...กูรักเมริงว่ะ"..กลางสายฝน -กล้องหนังจะต้องถ่ายเจาะผมพูด 1 เทค   -ถ่ายอีกมุมเพื่อให้มีฟุตเทจเยอะพอจะตัดสลับภาพได้ ไม่แช่กล้องจนน่าเบื่อ อีกประมาณ 2 เทค -ตั้งกล้องใหม่ถ่ายระยะไกล เห็นภาพมีเดียมช้อต 2 คน 1 เทค -ถอยกล้องไปอีกรับภาพกว้างอีก 1 เทค -แล้วทีนี้ก็ย้ายกล้องไปถ่ายเจาะคุณที่รับฟังคำที่ผมพูด 1 เทค (แต่ผมต้องยืนตากฝนร่วมกับคุณด้วยนะ และพูดประโยคเดียวกันนี้ เพื่อให้คุณรับอารมณ์ผมได้  ดาราบางคนถ่ายช้อตตัวเองเสร็จก็ไปเฉย ทิ้งให้คู่แสดงยืน"แอ๊คแห้ง"กับลมกับฟ้าและผช.ผกก.ซะงั้น  เซ็งเป็ดเลยตรู) นับดูแล้วกันครับว่าแค่ "เพื่อน..กูรักเมริงว่ะ.."กลางฝนนี่..ต้องแสดงซ้ำไปกี่เทค แต่กล้องละครจะมี 3 ตัวครับ เพราะงั้นจะไม่ต้อง"ถ่ายเจาะ"เยอะ เพราะ 3 กล้องตัดสลับได้ เพียงแต่ภาพจะไม่ประณีตเท่าที่ควร อยากได้ประณีตกว่านี้ ก็ต้องถ่ายเจาะเป็นช้อต"รับหน้าพระเอก" "รับหน้านางเอก" "ถ่ายภาพไวด์ ฯลฯ อีกหลายเหมือนกันขอรับ ********************************************************** เมื่อก่อนเคยเล่น ๆ อ่านนิยาย แล้วลองท่องเล่นคนเดียวดู ย๊ากยาก จำไม่เห็นได้เลย (-_-") หุหุหุ  จากคุณ : arattuna แล้วพอแสดงแกก็จะทำเป็นเดินมาคนหม้อแกงบ่อยๆ แล้วก็อ่านบทไปด้วย เนียนจริงๆ เลยป้า ... จากคุณ : Chat - Child   ^^^^^ อ่านแล้วฮามาก! (ปล.ของซีรีส์ฝรั่งก็มี แต่ต้องเป็นศัพท์เทคนิคยาวๆที่จำยากมาก เช่นเรื่อง CSI, House, Grey's Anatomy งี้ครับ) แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 10:58:58 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 10:57:21 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 3 ต.ค. 50 10:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอ...ความรู้ใหม่ จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย - [ 3 ต.ค. 50 12:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 “ไฟพ่าย” ละครเรื่องแรกที่ไม่มีการบอกบท ซึ่งเป็นผลิตผลของ พี เค โปรดักชั่น โดยคุณภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ เริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2519  พระเอกคือคุณสมภพ เบญจาธิกุล จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 15:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปูชนียบุคคลของวงการละครไทยอีกท่าน...อ.สดใส พันธุมโกมล จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 15:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพในวัยเรียน จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 15:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณนะคะ คุณผึ้งน้อยพเนจร หลายๆเรื่องไม่เคยรู้มาก่อนเลย อยากทราบว่า มีมั้ยคะที่นักแสดงมาท่องบทเอาในกองอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้กลับไปท่องที่บ้านมาเลย ใช้วิธีนี้จนถ่ายจบเรื่องอ่ะค่ะ น่าจะมีนะ แล้วจะมีเวลาให้พวกเค้าซักเท่าไรก่อนเริ่มถ่ายทำอ่ะคะ แค่ประมาณครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แล้วถ้านักแสดงที่เชี่ยวชาญมากๆ แม้จะมาท่องบทในกองอย่างเดียวก็เล่นได้เพอร์เฟ็คราวกับทำการบ้านมาเป็นร้อยครั้ง มีมั้ยคะ แล้วที่เค้าว่ากันว่า นักแสดงที่เกิดจากหนัง เล่นได้ลึก มีมิติและเก่งกว่านักแสดงที่เกิดจากละคร จริงหรือเปล่า เช่น ดารารุ่นใหญ่อ่ะค่ะ อย่าง พิศมัย จารุณี จินตหรา สินจัย ฉัตรชัย ฯลฯ ล้วนเกิดจากหนัง เล่นหนังก่อนแล้วมาเล่นละครทีหลังอ่ะค่ะ หรือว่า แล้วแต่คนและดวงที่จะได้เจอผู้กำกับที่เก่งๆเคี่ยวให้โดยไม่เกี่ยวกับว่าเกิดจากหนังหรือละคร จากคุณ : บัวลอยงาดำน้ำขิง - [ 3 ต.ค. 50 15:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 และที่จะลืมไม่ได้อีกท่านก็คือปูชนียบุคคลของวงการละครไทยยุคแรก ...ครูอารีย์ นักดนตรี จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 15:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ที่มาของละครไทย ละครไทย เกิดขึ้นหลังจากการเปิดสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทย ซึ่งออกอากาศอย่างเป็นทางการวันแรก คือ วันที่ 24 มิถุนายน 2498 ใช้ชื่อว่า บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด(ท.ท.ท.)ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งสถานีวิทยุ ท.ท.ท.ไว้ก่อนแล้ว เมื่อ 31 ม.ค.2497 โดยการดำริของพณฯท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น หลังจากนั้นไม่นาน คุณ จำนง รังสิกุล หัวหน้าสถานีก็ดำริให้จัดละครขึ้นเป็นครั้งแรก(ก่อนหน้านี้จะมีแต่ละครรำ,ละครพันทาง) ละคร เรื่องแรกของไทยจึงเกิดขึ้นที่ทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม(4แยกคอกวัว) คือ เรื่อง "สุริยานีไม่ยอมแต่งงาน" จัดโดย พจนีย์ โปร่งมณี (ซึ่งอยู่ในทีมงานรุ่นแรกและเป็นดาราละครจากรั้วนาฎศิลป์ กรมศิลปากร) ผู้กำกับการแสดงยังไม่มี ทุกคนจะคอยช่วยกันติชม พระเอกละครคนแรกจากเรื่องนี้มีอยู่ 2 คน คือ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ และ โชติ สโมสร(นายทหารผู้รักศิลปการแสดง) นางเอกละครคนแรกและคนเดียวคือ นวลละออ ทองเนื้อดี ละครเรื่องแรกออกอากาศไปได้อย่างน่าพอใจ ดาราละครที่เล่นให้ช่อง 4 ก็เอามาจากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสถานีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น 1.อารีย์ นักดนตรี(นางเอกละครยอดนิยมอันดับ 1 คนแรกของเมืองไทย)เหมาหมดทั้งนางเอกละครรำ,ละครพันทาง,เจ้าหน้าที่ห้องส่ง,ผู้ประกาศ,โฆษก,พิธีกร,นักโฆษณาสินค้า,ร้องเพลง, นางเอกละคร เรียกว่าไม้จิ้มฟ้นยันเรือรบ เป็นเสาหลักตั้งแต่เริ่มจนเปลียนเป็นช่อง 9 อ.ส.ม.ท.ท่านก็ยังเป็นผู้จัดละครอันดับ 1 สร้างดาราละครประดับวงการมากมายหลายสิบคน เช่น พิศาล-ภิญโญ ทองเจือ-นิรุตต์-อัศวิน-อนุสรณ์-ดิลก-กนกวรรณ-นันทวัน-ศิริพร-เดือนเต็ม-นวลปราง-ลินดา-กาญจนา-อุทุมพร ฯลฯ จนท่านขอเกษียณตัวเองในเวลาต่อมา ถือเป็นปูชนียบุคคลทางด้านละครจริงๆ ได้รับรางวัลระดับโลกคือรางวัลผู้ประกาศยอดเยี่ยมหญิง The Best Female Announcer ประจำปี 2504 จากสถาบันวิทยุและโทรทัศน์ของสถาบัน ONDAS แห่งประเทศสเปน . . . จาก: อ๊อด วันที่: 27/10/49 - 9:56 น. หัวข้อที่: B686 IP Address: ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=2527&page=5&keyword= จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 15:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้นี้เจ๋งนะเนี่ย ^^ ~ Pretending, Someone else can Come and Save Me from Myself ~ จากคุณ : Enixma - [ 3 ต.ค. 50 15:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขนาดคุณ Enixma เข้ามาชมเลย... ดีจัง! ขอบพระคุณคุณ stardom   แทนคุณจขกท.และเพื่อนๆด้วยครับที่โพสต์ภาพหายาก และข้อมูลที่พวกเราปัจจุบันเกิดไม่ทันจะได้รู้ เมื่อเพื่อนๆมีคำถาม ผมจะเข้ามาตอบไปเรื่อยๆตามกำลังสติปัญญาที่พอจะรู้นะครับ เบื่อเมื่อไหร่ก็บอกนะครับ เพราะหลังจากอ่านกระทู้หุบเขากินคนแล้ว...เหี่ยวมาก พอได้ทู้นี้  เห็นเพื่อนๆอ่านแล้วไม่เบื่อ กลับชอบใจที่ได้ความรู้... จากเหี่ยวๆก็เริ่มสู้อีกครั้งนึงครับ!! ********************************************************** จากคุณ : บัวลอยงาดำน้ำขิง   อยากทราบว่า มีมั้ยคะที่นักแสดงมาท่องบทเอาในกองอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้กลับไปท่องที่บ้านมาเลย ^^^ มีเยอะมากกกครับ (อิอิ...อาย) ตายเอาดาบหน้า/ขายผ้าเอาหน้ารอด/ด้านได้อายอดคือคติพจน์ประจำกอง 555555 ****************************************************** แล้วจะมีเวลาให้พวกเค้าซักเท่าไรก่อนเริ่มถ่ายทำอ่ะคะ แค่ประมาณครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ^^^ อูย...เวลาหาช่องเสียบอ่านบทหน้ากองมีเยอะครับคุณบัวลอยฯ เพราะการเปลี่ยนฉากแต่ละทีต้องย้ายกล้อง ย้ายไฟ เปลี่ยนคอสจูม ไอ้ยืนถือบทไป ถอดกางเกงไปแล้วท่องบทไป มีเยอะมากกก (...น่าโดดก้านคอจริงๆ) *********************************************************** แล้วถ้านักแสดงที่เชี่ยวชาญมากๆ แม้จะมาท่องบทในกองอย่างเดียว ก็เล่นได้เพอร์เฟ็คราวกับทำการบ้านมาเป็นร้อยครั้ง มีมั้ยคะ ^^^^ แน่นอนครับ..บรรดานักแสดงที่เชี่ยวชาญย่อมต้องไม่ขี้เกียจ แต่ก็มีเยอะครั้งครับที่กองถ่ายถ่ายไม่ได้เพราะรอ fax จากคนเขียนบท   แฟกซ์กันตรงสถานที่ถ่ายทำนั่นเลย มาทีละใบ ทีละซีน (ไม่ได้ย้อเย่นน้า  เรื่องจริงน้า) ผู้เชี่ยวชาญท่านก็ได้บทพร้อมกันสดๆจากเตาตรงนั้นเลย แต่ท่านจะเก่งครับ พอได้บทท่านจะรีบไปนั่งตรงเสื่อประจำตัวของท่าน (นักแสดงเกือบทุกคนจะหิ้วเสื่อ/ที่นอน/เก้าอี้นอนประจำตัวมา ไอ้พวกขี้เกียจไม่หิ้วมา ก็จะเนียนไปขอนอนเสื่อชาวบ้านเขา) แล้วท่านก็จะตีความบท ท่องบทของตัวเองอย่างมุ่งมั่น เข้าฉากปั๊บ....เล่นได้โชะ!!! เขาถึงเรียกว่า"มืออาชีพ"ไงครับ  ขอกราบเลย   ท่านๆรักงานของท่านมากครับ ********************************************************* แล้วที่เค้าว่ากันว่า นักแสดงที่เกิดจากหนัง เล่นได้ลึก มีมิติ และเก่งกว่านักแสดงที่เกิดจากละคร จริงหรือเปล่า ^^^^ มีส่วนเป็นไปได้ขอรับเนื่องจากการถ่ายหนังต้องใช้พลังเยอะกว่า (เพราะฟิล์มจะเห็นรายละเอียดของการแสดงเยอะกว่าละครหลายร้อยเท่า ดังนั้นนักแสดงต้องเล่น"เต็ม"และเล่น"จริง") และเพราะการต้องแสดงช้อตเดิมซ้ำๆหลายเทคเพื่อรับกับกล้องที่มีตัวเดียว ทำให้นักแสดงที่ผ่านหนังมาก่อนจะมีระดับความลึก พลัง และความอดทนมากกว่าคนที่เกิดจากละครทีวี ****************************************************************** หรือว่า แล้วแต่คนและดวงที่จะได้เจอผู้กำกับที่เก่งๆเคี่ยวให้โดยไม่เกี่ยวกับว่าเกิดจากหนังหรือละคร ^^^ อันนี้แหละครับที่เป็นตัวกำหนดนักแสดงคนนั้นว่าจะไปต่อได้สวยแค่ไหน คือครั้งแรกผ่านมือใคร?   ถ้าผ่านมือผกก.ที่ใส่ใจมากๆ  สอนทุกอย่างให้นักแสดง สวรรค์เลยครับ.....  โห....ไปได้ไกล (แต่ก็มีเหมือนกัน ที่ดาราผ่านมือแรกๆก็ได้ผกก.ระดับชั้นครูทั้งนั้นที่สอนทุกอย่าง ... แต่แหม...คนมันขี้เกียจอ้ะ  ไม่ยอมจำ ไม่เอาถ่าน  ก็มีนะครับ.. แหะแหะ) แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 16:33:33 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 3 ต.ค. 50 16:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยน่ะครับ ได้ความรู้ล้นสมองเลย คุณ ผึ้งน้อยพเนจร รู้เยอะดีจัง  ตัวจริงเป็นใครน่ะ? อิอิ จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 3 ต.ค. 50 17:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านสนุกและได้ความรู้จากคุณผึ้งน้อยพเนจรดีจัง  ขอบคุณจ้า จากคุณ : stardom - [ 3 ต.ค. 50 17:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ^ นั่นสิ คุณผึ้งพเนจร เป็นใครค๊า ^ ^ มาขอบคุณด้วยคนค่ะ กระจ่างมาก เป็นนักแสดงนี่ลำบากมากๆ เลยน้อ จากคุณ : Rdfaiz (Rdfaiz) - [ 3 ต.ค. 50 17:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่เข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกว่าได้ความรู้มากๆเพราะตัวเองไม่มีความรู้ด้านนี้เลยบริโภคอย่างเดียวแต่เป็นผู้บริโภคที่คิดตามเสมอ บางทีขัดตาไปบ้างก็พอทนถ้าขัดใจมากนี่สิ ต้องมีบ่นกัน แต่ก็ดูจนจบค่ะถ้าได้ดูแล้วตั้งแต่แรก หรือบางทีก็เป็นความชอบนักแสดงแบบส่วนตัว รู้แล้วล่ะว่าไม่ยากเลยสำหรับแต่ละงานที่ออกมาแล้วจะทำให้มันสมบูรณ์ ถ้าคุณนักแสดงทั้งหลายได้เข้ามาดู แล้วคุณอยู่ในประเภทไม่ทำการบ้านมาเลยเนี่ย โปรดทราบไว้เลยว่าเรา... คนดู...แอบประนามคุณอยู่(ในใจ) อิอิอิ ปล.ขอบคุณคุณผึ้งน้อยพเนจรมากๆค่ะ จากคุณ : ลิตเติ้ลพี-โลน (littleP-loan) - [ 3 ต.ค. 50 18:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่เข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกว่าได้ความรู้มากๆ  -อบคุณคุณผึ้งน้อยพเนจรมากๆค่ะ จากคุณ : ลิตเติ้ลพี-โลน (littleP-loan) ^^^ ต้องขอขอบคุณคำถามดีๆของเพื่อนๆตะหากครับ และคุณจขกท.-[M]Z@[A]_SoDaKuNg- ด้วยที่จุดประกายกระทู้ ลำพังตัวผม ไม่มีใครถามผมก็ไม่รู้จะไปให้ความรู้แมวที่ไหนเหมือนกันขอรับ (แมวข้างบ้านเบื่อหน้าผมแระ พูดกะมันทุกวัน) เพราะตัวเองไม่มีความรู้ด้านนี้เลยบริโภคอย่างเดียวแต่เป็นผู้บริโภคที่คิดตามเสมอ ^^^^ น่าน  คนทำละครต้องตระหนักไว้ให้จงหนัก คนดูไม่ได้โง่เอาแต่ดูอย่างเดียวอย่างที่ชอบคิดกันนะครับ *********************************************************** คุณ ผึ้งน้อยพเนจร รู้เยอะดีจัง  ตัวจริงเป็นใครน่ะ? อิอิ จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- นั่นสิ คุณผึ้งพเนจร เป็นใครค๊า ^ ^ จากคุณ : Rdfaiz (Rdfaiz) ^^^^ อิอิ...สงสัยผมคงเป็นใครสักคนแถวๆ.... ได้ผกก.ระดับครู แต่เจือกขี้เกียจ(เอากะมัน) ได้บทมา ไปท่องเอาหน้ากล้อง(ให้มันได้ยังงี้) เทคแรกๆเล่นดีเชียว เทค 4-5 เริ่มเบลอ(แรงตกซะงั้น) ไม่ยอมเอาเสื่อมาเอง ชอบทำเนียนนอนของชาวบ้าน...(ดูมัน) โดนผกก.เขวี้ยงด้วยบทเพราะเจือกดำน้ำบท(สมนะหน้า!) ...แหงเลยครับ! (แหะแหะ) ปล. เฉลย: ผมเป็นเด็กยกน้ำหรือ Water Boy นั่นเองครับ! (ยกไฟยังไม่ได้เลย   ไม่มีแรง) แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 19:02:54 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 18:55:02 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 3 ต.ค. 50 18:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เดาว่าคุณผึ้งน้อยพเนจรเนี่ย อย่างน้อยก็เป็นผู้ช่วยผู้กำกับล่ะ เราเดาจากสไตล์การจิกกัดดารานะ เคยทำงานกองเหมือนกัน แต่ตอนนี้เลิกแล้วจ้ะ ไม่พอกิน ไปหางานประจำทำดีกว่า จากคุณ : ดีใจได้อมยิ้ม - [ 3 ต.ค. 50 19:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ^ ^ ^ คิดเหมือนกันครับ ไม่เชื่อหรอกว่าเป็นเด็กยกน้ำ หุหุ จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 3 ต.ค. 50 19:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แหม พ่อเด็กยกน้ำคนเก่ง อยากรู้อีกอย่างค่ะ ว่า "เทค" กับ "คัท" ต่างกันยังไง ต๊อบกับเอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเลิฟซีน 3-4 เทค แต่คัทเนียะเยอะมาก ก็เลยอย่างรู้ว่าต่างกันยังไง ขอบคุณค่า จากคุณ : Rdfaiz - [ 3 ต.ค. 50 20:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบใจกระทู้นี้เลยแอบกดโหวตไปหนึ่งจึ้ก -"- ถามคุณผึ้งฯว่า ดาราคนไหนที่เป็นมืออาชีพที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานมาด้วยคะ? จากคุณ : {P}a{T}t{Y} - [ 3 ต.ค. 50 21:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ได้ความรู้ดีค่ะ คุณผึ้งน้อย อยากถามว่า หนังกะละครอะไรแสดงยากกว่ากัน ดาราหลายคนบอกว่า หนังยากกว่าเพราะการแสดงไม่ต่อเนื่อง แต่บางคนว่าละครยากกว่า เพราะต้องท่องบทยาว คุณผึ้งน้อยพเนจรนี่ใช่ คุณพจน์ อานนท์ รึป่าวคะ คริ คริ เห็นเล่าเรื่อง เพื่อน..... กรูรักมรึงว่ะ.. ซะละเอียด หุหุ จากคุณ : ไร่ปลายตะวัน - [ 3 ต.ค. 50 22:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เดาว่าคุณผึ้งน้อยพเนจรเนี่ย อย่างน้อยก็เป็นผู้ช่วยผู้กำกับล่ะ จากคุณ : ดีใจได้อมยิ้ม ^^^ โอย...ผมมิบังอาจครับคุณดีใจฯ  ผมไม่เก่งขนาดนั้น! ขืนผมเป็นผู้ช่วยผกก.นะ  รับรอง.. ผกก.กระอักเลือด  ผจก.กองผูกคอตาย  คอสจูมเป็นบ้า..แน่นอนโลด ***************************************************** จากคุณ : ไร่ปลายตะวัน อยากถามว่า หนังกะละครอะไรแสดงยากกว่ากัน ^^^ ถ้าถามหลายคนอาจมีหลายคำตอบนะครับ แต่ตัวผม ผมว่าหนังยากกว่าหลายเท่า อย่างที่บอกไว้แหละครับ มันต้องเล่นช้อตเดียวซ้ำๆหลายเทค อารมณ์ต้องคงที่  ว่อกแว่กปั๊บ แผ่นฟิล์มมันฟ้องเลยว่า"ตาแห้ง" "หน้าแข็ง" ซึ่งเทปวิดิโอสำหรับละครอาจไม่ฟ้องนักแสดงโจ่งแจ้งขนาดนั้น ฟามคมชัด+depth มันไม่เท่ากัน คุณผึ้งน้อยพเนจรนี่ใช่ คุณพจน์ อานนท์ รึป่าวคะ ^^^^ จ๊ากกก! มิกล้าครับ  ม่ายช่ายยยย!  คุณพจน์แกออกจะดัง คริ คริ เห็นเล่าเรื่อง เพื่อน..... กรูรักมรึงว่ะ.. ซะละเอียด ^^^^ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกะกองถ่ายนี้เลย แต่เขียนบอกจากเกร็ดความรู้ที่เคยถ่ายเลิฟซีนขอรับ (กว่าจะรอดตาย..โอย..เครียด เหงื่อแตก ใครว่าเลิฟซีนสบาย...ฮึ..ไหน..บอกมานะว่าใคร!?) ********************************************************* ถามคุณผึ้งฯว่า ดาราคนไหนที่เป็นมืออาชีพที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานมาด้วยคะ? จากคุณ : {P}a{T}t{Y} ^^^ ตอบแบบไม่ลำเอียง  พี่นกสินจัยครับ ไม่เคยบ่น ไม่ว่าจะร้อน จะรอ จะช้า จะต้องแต่งตัวเก้อแค่ไหน และทำการบ้านพร้อมมาตลอด อาจเพราะผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับมืออาชีพท่านอื่นยังไม่ครบก็ได้นะครับ (ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสทำงานกับรุ่นปูชนียบุคคลครับ เช่น ป๋าส. ป๋าต๊อกท่าน  เสียดายจับใจจริงๆ) ******************************************************* อยากรู้อีกอย่างค่ะ ว่า "เทค" กับ "คัท" ต่างกันยังไง ต๊อบกับเอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเลิฟซีน 3-4 เทค แต่คัทเนียะเยอะมาก ก็เลยอย่างรู้ว่าต่างกันยังไงจากคุณ : Rdfaiz ^^^ เป็นคำถามที่..คิดได้ไงเนี่ย..?? โห..standing ovation ให้เลยคร้าบ -จริงๆแล้ว1  take หมายถึงการถ่าย 1 ครั้ง ถ่าย 2 เทค ก็คือ 2 ครั้ง เช่น ถ่ายฉากพระเอกจูบนางเอกกลางสายฝน พอสั่งเดินกล้อง 2 คนก็จูบกันนัวเนียไป จนผกก.พอใจก็สั่งคัท    นั่น = 1 เทค   แต่ผกก.ไม่ชอบใจ ไม่เนียน ดูไม่รักกันจริง (อ้า..อันนี้ก็เนื่องมาแต่เมียพระเอกดันมานั่งดูอยู่หลังกล้อง   พระเอกเลยจูบไปเสียวไป "กลับบ้านแล้วตรูจะโดนมั้ยเนี่ย??" เลยไม่กล้าเล่นสมจริง) ผกก.ก็จะสั่ง "เทคใหม่" คือเล่นเทค 2-3-4-5 อาจจะถึง 25 เทคถ้าจำเป็น (จูบกันจนลิ้นห้อย เอาซี่เอาซี่) -1 cut  คือ "1 ตัด" หมายถึง ในฉากจูบนั้น ผกก.ภาพอยากถ่ายซูมภาพปากใกล้มากๆ พอเล่นจบเทค  นักแสดงก็ต้องจูบกันใหม่อีกรอบ ให้ผกก.ภาพได้ถ่าย"คัทปากจูบกัน" อย่างนี้คือ 1 คัทครับ  ทั้งนี้เพื่อให้มีฟุคเทจมากพอ เพื่อมา"ตัดสลับภาพไปมา"ให้เกิดมิติและเร้าอารมณ์คนดูได้ ภาพที่ออกมาสู่คนดูจะได้ไม่"ตาย" หรือมีมุมอยู่ได้มุมเดียว "ทื่อๆ" แต่ผกก.ท่านไหนที่ถ่ายคัทเยอะ..แสดงว่าแกพลัง K สูง..ขยัน แต่ดาราไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบ   เพราะเหนื่อยกับการแสดงครับ เสียเวลาทำมาหากินเขาน่ะเอง จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 3 ต.ค. 50 23:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ้อ เพิ่งนึกได้อีกคำถามครับ เวลานักแสดงต้องมีฉากร้องไห้ เค้าทำยังไงถึงทำให้น้ำตาไหลอ่ะครับ บางคนนี่ร้องไห้อย่างกับสั่งได้ แล้วถ้าบางคนร้องไม่ออกละครับ ต้องทำยังไง จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 3 ต.ค. 50 23:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คำถามของหนูมันทำไมหรอคะ งง? สรุปว่า ถ้าเป็นเลิฟซีน "เทค" ก็คือ เลิฟซีนทั้งตอน ส่วน "คัท" ก็คือบางส่วนของเลิฟซีน ใช่ไหมคะ "แต่ผกก.ท่านไหนที่ถ่ายคัทเยอะ..แสดงว่าแกพลัง K สูง..ขยัน" กองนี้พจน์ อานนท์กำกับ แต่กำกับภาพโดยคุณทิวา เมไธยสงค่ะ แหม นู๋รักพี่ผึ้งน้อยจัง เอาไว้มีอะไรจะมาถามอีกนะคะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 00:51:15 จากคุณ : Rdfaiz - [ 4 ต.ค. 50 00:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เวลานักแสดงต้องมีฉากร้องไห้ เค้าทำยังไงถึงทำให้น้ำตาไหลอ่ะครับ บางคนนี่ร้องไห้อย่างกับสั่งได้ แล้วถ้าบางคนร้องไม่ออกละครับ ต้องทำยังไง จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- ^^^ บางคนเก่งมากเลยครับ (เช่น น้องยุ้ยจีระนันท์เป็นต้น) ขอเวลา"ทำอารมณ์"แป๊บนึง  แล้วก็บอกผกก. "หนูพร้อมแล้วค่า" ผกก.สั่ง "ถ่ายได้"ปั๊บ...น้ำตาน้องหยดแหมะตามคิว แต่ถ้าทำไงก็ไม่ออกจริงๆ กองถ่ายทั้งกองนั่งรอจนยุงหามแล้ว มียาหยอดตาไว้ใกล้ตัวทำไมให้เปลืองเปล่า?  หยอดเลยคร้าบคุณจขกท.! *********************************************************** คำถามของหนูมันทำไมหรอคะ งง? ^^^ คือเป็นคำถามที่ดีมากน่ะครับ แต่มันต้องตอบเทคกะนิ๊กที่ลงลึกมาก ถ้าจะให้พี่ตอบเข้าใจง่ายๆ ไม่ง่วงหลับกันซะก่อน...ก็งี้.. ติ๊งต่างให้ความเห็นที่ 46 ของหนูทั้งหมด คือ ซีน 1 ซีนที่ต้องถ่าย ทีนี้ซีน #46 นี้มันยาวง่ะ กล้องถ่ายยาวไม่ได้ ต้องถ่าย"เจาะ"ทีละส่วนๆ  จะทำงานง่ายกว่า ผกก.เลยให้ถ่ายส่วนนี้ก่อน ได้แก่ "สรุปว่า ถ้าเป็นเลิฟซีน "เทค" ก็คือ เลิฟซีนทั้งตอน ส่วน "คัท" ก็คือบางส่วนของเลิฟซีน ใช่ไหมคะ" ถ่ายครั้งแรกให้นักแสดงเล่นยาวไปเลยจนจบ 3 บรรทัด 1 ครั้ง= 1 เทค ถ้าเทคแรกไม่ผ่าน ก็ให้เล่นซ้ำเจ้า 3 บรรทัดนี่อีกจนกว่าจะผ่าน ถ้า 3 ครั้งผ่าน = แสดงไปหรือถ่ายไป 3 เทค ทีนี้ผกก.ต้องมาเจาะเจ้า 3 บรรทัดนั้นทีละบรรทัด เพื่อเก็บฟุตเทจ  ดังนี้ "สรุปว่า ถ้าเป็นเลิฟซีน" = 1 คัท "เทค" ก็คือ เลิฟซีนทั้งตอน= คัทที่ 2 ส่วน "คัท" ก็คือบางส่วนของเลิฟซีน ใช่ไหมคะ=คัทที่ 3 ซึ่งได้เจ้า 3 คัทที่ว่านั้น.. คัท 1 อาจต้องแสดงซ้ำ 2 ครั้ง= 2 takes คัท 2 อาจแสดงซ้ำ 3 ครั้ง= 3 takes แต่คัท 3 เล่นครั้งเดียวผ่านโลด! ทั้งกองถ่ายปรบมือให้เกรียวกราว = 1 take พี่อธิบายบื้อๆเช่นนี้  แจ่มบ่อเจ้า? แหม นู๋รักพี่ผึ้งน้อยจัง เอาไว้มีอะไรจะมาถามอีกนะคะ จากคุณ : Rdfaiz ^^^ เวลาพี่น่ารัก พี่จะโหล่ววเหมือนคีอานู เวลาไม่น่ารักจะโฉดเหมือนป๋าพิศาล ตบจูบ!ตบจูบ!ตบจูบ! แฮ่ม (แก้คำผิดเยอะมาก) แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 01:25:32 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 01:22:36 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 01:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ ผึ้งน้อยพเนจร สุดยอดจริงๆครับ นับถือๆ จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 4 ต.ค. 50 01:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^^^ คุณ-[M]Z@[A]_SoDaKuNg-ตั้งกระทู้ที่ดี มีสาระต่างหากครับ  นับถือๆ ผมว่าตอนนี้เราตั้งกระทู้ถามว่า "ทำไม"กันเยอะเกินไป ทำไมมันเป็นยังงั้นล่ะ? ทำไมไม่ทำยังงี้ล่ะ? แทนที่เราจะตั้งกระทู้แบบคุณจขกท.ว่า "ทำอย่างไร" คำถามแบบ "ทำไม" มันไม่ได้ทำให้เราก้าวหน้า แต่คำถามที่ว่า "ทำอย่างไร" มันเอื้อให้มีการถามต่อ เรียนรู้ แตกยอด ซึ่งเป็นผลดีกว่า ช่วยให้เราก้าวหน้ามากกว่าครับ ปล.อย่าเพิ่งรำคาญผมนะที่เข้ามาตอบทู้นี้บ่อยมาก เพราะชอบตรงที่เป็นคำถามแบบ "ทำอย่างไร"นั่นเองครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 01:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กระทู้นี้ดีจังได้ความรู้ดีจัง ต้องขอบคุณพี่ผึ้งน้อยที่ให้ความรู้ คราวนี้ก็เจียมตัวเอาไว้เลยเรา ไอ้หน้าไม่ได้นี่ไปทำเอาก็ยังได้ แต่ความสามารถยังไงก็คงไม่ไหวชัวร์ จากคุณ : ขอเป็นหวานใจของนายแบดบอย - [ 4 ต.ค. 50 03:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผึ้งน้อยพเนจร << เป็นกูรูที่น่ารักมากมาย ^ ^ จากคุณ : Jedi ใจดี - [ 4 ต.ค. 50 03:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ชอบกระทู้นี้จัง //เป็นนักแสดงนี่ไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ // แต่ขอถามส่วนตัวนิดนึงได้มั้ยคะว่า อั้ม พัชราภาเนี่ย ทำการบ้านมารึป่าว และเค้าวีนมั้ยในกอง เรื่องมากมั้ย อะไรงี้  หุหุ จากคุณ : รองเท้าข้างเดียว - [ 4 ต.ค. 50 10:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #49 แหม่ ไม่มีใครรำคาญหรอกครับ ยิ่งคุณผึ้งน้อยพเนจรเข้ามาตอบเรื่อยๆทุกคำถามซะอีกยิ่งดี ^^ กระทู้นนี้ผมทั้ง BookMark ทั้งเก็บเข้าคลังฯ ทั้งโหวตเลยนะ ถึงจะรู้ว่าไม่มีทางฝ่าขึ้นไปได้ก็เถอะ... แล้วก็เห็นด้วยกับคุณมากๆเลยนะเรื่องตั้งกระทู้"ทำไม"กับ"อย่างไร" ผมเล่นพันทิปมาหลายปี เมื่อก่อนโต๊ะเฉลิมไทยจะเป็นกระทู้"อย่างไร"เยอะนะ อ่านสนุกได้ความรู้ แต่เวลายิ่งผ่านไปรู้สึกว่ากระทู้"ทำไม"มันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้คนเล่นที่นี่มีความรู้กันเยอะขึ้นหรืออย่างไร - -" แล้วก็ยังมีกระทู้ตั้งเล่นไร้สาระปัญหาอ่อน และที่ไม่เกี่ยวข้องนอกเรื่องเข้าไปอีก เฮ้อ... บ่นนอกเรื่องไปซะงั้น ^^" ถ้างั้นก็ขอสักคำถามละกันครับ คือว่ามีบางทีผมดูละครสมมติเป็นตัวละครคุยกัน 4 คน แต่ผมสังเกตได้จะจะเลยว่า 4 คนนี้ไม่ได้ยืนอยู่ด้วยกันในเวลาเดียวกันพร้อมกัน เพราะมุมกล้องทั้งหมดจะมีแค่ 2 คนเดิมที่อยู่ด้วยกัน ตัดไปตัดมาเท่านั้น พูดกันจะจะเลยก็ได้ว่าที่ผมเจอจะเป็นละครของช่อง 7 ที่น้องเชียร์เล่นบางเรื่องน่ะครับ เรื่องอื่นช่องอื่นจะมีรึเปล่าไม่รู้เพราะเดี๋ยวนี้ละครที่ผมจะดูต้องมีน้องเชียร์เล่นเท่านั้น ต่อให้ละครมันจะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม (พูดง่ายๆคือดูแต่น้องเชียร์ แฮะ แฮะ ^^") ก็เลยอยากทราบว่าทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ครับ นักแสดงเวลาว่างมาเข้าฉากไม่ตรงกันหรือ หรือมีหรือเปล่าที่ว่าถ่ายๆไปหลังๆนักแสดงไม่ถูกกันไม่ยอมมองหน้ากันเลยต้องจับแยก 55+ หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วอ่ะครับ เพียงแต่อยู่ที่ผู้กำกับว่าจะทำได้เนียนไม่เนียนแค่ไหน แบบว่าที่ผมดูนี่จับได้เห็นๆเลยอ่ะ หรือว่าเป็นแค่ผมคิดไปเอง ไม่มีใครเค้าทำกันหรอกอ่ะครับ ~ Pretending, Someone else can Come and Save Me from Myself ~ จากคุณ : Enixma - [ 4 ต.ค. 50 10:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไอ้หน้าไม่ได้นี่ไปทำเอาก็ยังได้ แต่ความสามารถยังไงก็คงไม่ไหวชัวร์  จากคุณ : ขอเป็นหวานใจของนายแบดบอย   ^^^^ อันนี้จริงอย่างแรงเลยครับคุณขอเป็นหวานใจฯ แต่น่าเศร้าที่วงการบันเทิงเดี๋ยวนี้  คลั่งหน้าตา  โดยไม่สนความสามารถ เราก็เลยมีแต่ดาราที่อายุการใช้งานบทนางเอกได้แค่ไม่เกิน 5 ปีก็ต้องเล่นเป็นนางร้ายถึงจะอยู่ได้ และอายุแค่ 30 เศษ ก็ต้องมาเล่นบทแม่นางเอกแล้ว ******************************************************** ผึ้งน้อยพเนจร << เป็นกูรูที่น่ารักมากมาย ^ ^ จากคุณ : Jedi ใจดี   ^^^ กูรูต้องคู่กับผู้ฟังที่ใฝ่รู้ด้วยครับ ไร้คนตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังอย่างพี่ๆน้องๆในทู้นี้แล้ว กูรูก็ไร้ความหมาย   2 อย่างนี้ต้องมาคู่กันขอรับ *********************************************************** อั้ม พัชราภาเนี่ย ทำการบ้านมารึป่าว และเค้าวีนมั้ยในกอง เรื่องมากมั้ย อะไรงี้  จากคุณ : รองเท้าข้างเดียว   ^^^^ ให้ตายดิ  เชื่อไหมครับ  ผมยังไม่เคยร่วมงานกับคุณอั้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะงานไหนก็ตาม  (ไม่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว..) แต่ตอบแบบไม่เข้าข้างใครนะครับ ดาราที่ขาวีนจริงๆจะอยู่ได้ไม่นานขนาดคุณอั้มนะ ไปตั้งแต่หนังหรือละคร 2-3 เรื่องแรกแล้วครับ คนที่ได้ชื่อว่าวีน แต่กลับอยู่ทนอยู่นาน แสดงว่าเขาต้องดีจริง เก่งจริง และการวีนนั้นก็ไม่ได้ล้ำเส้นความพอเหมาะพอควรครับ อย่าลืม..วงการบ้านเราดังเร็วดับเร็ว ดาราเกิดใหม่เยอะจนจำไม่ไหว แบบที่แอนดี้ วอร์ฮอลว่า "15 minutes of fame"น่ะ  ใช้ได้เลยกับบ้านเราตอนนี้ ไม่เจ๋งจริงไม่อยู่นานได้แบบคุณกบ คุณอั้มแน่ๆครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 10:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมเล่นพันทิปมาหลายปี เมื่อก่อนโต๊ะเฉลิมไทยจะเป็นกระทู้"อย่างไร"เยอะนะ อ่านสนุกได้ความรู้ แต่เวลายิ่งผ่านไปรู้สึกว่ากระทู้"ทำไม"มันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้คนเล่นที่นี่มีความรู้กันเยอะขึ้นหรืออย่างไร - -"จากคุณ : Enixma ^^^^ อูย...อ่านแล้วแสบ..แบบสุภาพสไตล์คุณ Enixma ผมเห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ  พักหลังๆนี้ผมแทบถอดใจกับกระทู้พันทิปจริงๆ มีแต่อารมณ์ ไม่ใช้เหตุผลคุยกัน  แต่..ก็เนอะครับ เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ มันเป็นกระแสหลักของสังคมไปแล้ว (เอ..ทะไมเหมือนคนคิดมาก 2 คนคุยกันเนี่ย... ว่าแต่..ผมดีใจมากที่เจอคุณ Enixma ในกระทู้ J-Rock บ่อยๆ เฮ.....มีเพื่อนร่วมเพลงแล้ว...เย...) ******************************************************* บางทีผมดูละครสมมติเป็นตัวละครคุยกัน 4 คน แต่ผมสังเกตได้จะจะเลยว่า 4 คนนี้ไม่ได้ยืนอยู่ด้วยกันในเวลาเดียวกันพร้อมกัน เพราะมุมกล้องทั้งหมดจะมีแค่ 2 คนเดิมที่อยู่ด้วยกัน ตัดไปตัดมาเท่านั้น ^^^^ โวว.....standing ovation ให้อีกที!!!!  ตาแหลม แหล่มมากคร้าบบบบ!!! ใช่แล้วคร้าบบบ ถูกต้องแล้วคร้าบ นักแสดงเวลาว่างมาเข้าฉากไม่ตรงกันหรือ หรือมีหรือเปล่าที่ว่าถ่ายๆไปหลังๆนักแสดงไม่ถูกกันไม่ยอมมองหน้ากันเลยต้องจับแยก 55+ ^^^^ เหตุผลของการต้อง"ถ่ายเจาะ"คนละทีแล้วกล้อง+แสง+อารมณ์มัน"โดด" เรียกว่า"ไม่ continue"นั้น  เกิดจากหลายเหตุผลครับ 1. แบบที่คุณ Enixma บอกประโยคแรกเลย  นักแสดงเวลาว่างไม่ตรงกัน ปัญหานี้เกิดจาก"บทเสร็จไม่ทัน" ทำให้คนคุมคิวล็อกคิวนักแสดงไม่ได้(ช่อง 7 เป็นประจำ) หรือกองถ่ายล่าช้า(ช่อง 7 ไม่มีทางช้า เร็วโคด "เทคเดียวอยู่!" มันทุกฉากสิน่า เพราะถ่ายตอนสี่โมงเย็นวันนี้ ต้องออนแอร์สองทุ่มครึ่งคืนนี้แล้ว จะช้าอยู่ไยเล่า) 2.ได้ผกก.ไม่เก่ง งมอยู่นั่น กว่าจะถ่ายเสร็จแต่ละซีนเกือบชม. คิวก็ล่าช้าไปเรื่อยจนไม่ได้ถ่ายครบซีนตามคิว ทำให้นักแสดงที่ติดงานอื่นต้องลากองถ่ายก่อนค่อยมาถ่ายเจาะเอาวันหน้า พอคนคุมคิวนัดวันหน้า..ดาราทุกตัวไม่สามารถมาได้ครบ (เช่น ซีนเจ้าปัญหาต้องไปถ่ายหัวหินงี้  หมดปัญญาจะลากดารามาครบครับ) เลยต้องแก้ผ้าเอาหน้าโผล่ก่อน คือนัดใครมาได้ก็ถ่ายเจาะกลุ่มนั้นก่อน แล้วไปตามเก็บคนอื่นทีหลัง(ทั้งๆที่มันคือซีนเดียวกัน) จึงโดดไปโดดมาแบบที่คุณ Enixma เห็นนี้แล 3.นักแสดงไม่ถูกกัน  อันนี้เกิดน้อยมากๆๆๆ เพราะนักแสดงต้องมืออาชีพพอครับ รถหาย พ่อตาย แม่ป่วย ก็ต้องทำงานให้ได้ แต่ถามว่ามีไหม มี! แต่ต้องมีเรื่องกันคอขาดบาดตายจริงๆครับ หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วอ่ะครับ เพียงแต่อยู่ที่ผู้กำกับว่าจะทำได้เนียนไม่เนียนแค่ไหน ^^^^ ไม่ปกติครับ  ของฝรั่งเองก็ไม่ยอมให้มีแบบนี้เช่นกัน เพราะ"อารมณ์ในซีนจะรับส่งมันไม่ต่อเนื่อง" แถมจัดแสงใหม่ให้เหมือนเก่าเด๊ะๆ..เหนื่อยนะ ต้องถ่ายภาพโพลารอยด์ซีนนั้นไว้เป็นไกด์เลยครับ พอเซ็ทฉากเซ็ทไฟซีนเดิมในครั้งใหม่ก็เอาภาพโพลารอยด์มาดูกันในกอง คอสจูมจำไว้นะว่ากระดุมเสื้อนางเอกต้องหลุดไป 2 เม็ดแล้ว ไฟต้องมาเช็คระดับแสงจากภาพถ่ายว่าประมาณบ่ายแก่ๆนะเฟ้ย ห้ามโดด ส่วนนักแสดงนั้น ผกก.จะเรียกให้มาดูเทปที่ถ่ายไปครั้งก่อนว่า "อารมณ์พระเอกค้างไว้แบบนี้นะ  นางเอกต้องรับให้ตรงกัน" หอบแฮ่กครับ  ไม่แนะนำ "เรื่องอื่นช่องอื่นจะมีรึเปล่าไม่รู้เพราะเดี๋ยวนี้ละครที่ผมจะดูต้องมีน้องเชียร์เล่นเท่านั้น ต่อให้ละครมันจะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม (พูดง่ายๆคือดูแต่น้องเชียร์ แฮะ แฮะ ^^") ^^^ .^^^^ตกลงเป็นทู้เผยความในใจใช่มั้ยเนี่ย??? ฮา! ไม่อยากจะบอกให้ดีใจเลย... น้องเชียร์ของคุณEnixma....................................................... ......................น่ารัก................................ ...มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เสียดาย-น้องเชียร์ยังไม่มีโอกาสเจอบทที่เหมาะกับตัวน้องเลยครับ (แบบที่น้องJuri Uno ได้เล่นโนดาเมะ คันตาบิเล่แล้วแจ้งเกิดอย่างเจิดจ้านั่นไงครับ) เข้ามาแก้ไข:เพิ่มอิโมติค่อนนนนน...คริคริ แก้ไขอีกที: เข้ามาแปะกระทู้ที่สมาชิกให้ความรู้มั่กๆครับ "ขงเบ้ง โดย ทาเคชิ คาเนชิโร จิวยี่ โดย เหลียงเฉาเหว่ย คิดว่าเป็นไงบ้าง " http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5877219/A5877219.html แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 11:28:44 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 10:56:23 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 10:54:53 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 10:49:39 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 10:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 56 รู้สึกปลื้มใจ กระทู้อบอุ่นครับ แหะๆๆ แล้วเวลาคุณผึ้งน้อยพเนจรอยู่ในกอง เห็นดาราเค้ารักกันดีมั้ยครับ แบบคุยหยอกล้อสนิทสนมกัน หรือว่าตัวใครตัวมัน เสร็จแล้วก็กลับบ้านทางใครทางมันครับ (ไหนๆก็ไหนๆขอถามอีกละกัน 555+) จากคุณ : -[M]Z@[A]_SoDaKuNg- - [ 4 ต.ค. 50 16:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ^^^ สนิทกันมากครับ  สำหรับกลุ่มที่ต้องเข้าฉากด้วยกันตลอด เพราะเห็นหน้ากันอาทิตย์ละ 3-4 วัน ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้ายันตีสองตีสาม รักกันมาก เช่นตอนที่คุณซีเล่นละครแรกๆยังไม่ดัง เรื่อง"หลังคาแดง" แล้วเติ้ลตะวันเป็นผช.ผกก. สองคนนี้สนิทกันมากแบบทะเลาะกับแฟนก็ยิงเบอร์หากันทันที แต่พวกที่ไม่เข้าฉากด้วยกัน แต่ขอมาแจมกินข้าวกะเขาด้วยคนนะ เพราะขี้เกียจกลับบ้าน  ก็สามารถหนิทหนมกลมกลืนไปกับพวกอื่นได้ สำหรับบางคนก็อาจไม่สนิทกันเลย เหม่นๆกันด้วยซ้ำ แม้ว่าจะต้องเล่นเข้าคู่พระนางกันหรือเล่นเป็นเพื่อนรักกันก็ตาม เบื้องหลังกองถ่ายกลับ"แย่งซีน"กันน่าดู คือ"เล่นบังทางกล้อง"กันเอง แบบว่าใครเจ๋งกว่าใครซะงั้น(ออกแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดน่ะเองคร้าบ  ฮ่าฮ่า) จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 18:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รู้สึกดีจังเลยครับ ตามอ่านมาตั้งแต่เมื่อวาน ได้ความรู้มาเยอะเลยว่าการเป็นดาราไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะ ว่าแต่ คุณผึ้งน้อยนี่เป็นใครกันแน่ครับ สงสัยจริงๆ ขอผมเดานะ ต้องเป็นดาราด้วยกันแน่ๆเลยครับ ป.ล. ขอให้คุณ ผึ้งน้อยได้ร่วมงานกับ อั้ม ขวัญใจผมสักทีนะครับ จะได้มีเรื่องมาเล่าว่า ขวัญใจผมเป็นยังไง จากคุณ : Nutt the Moche' - [ 4 ต.ค. 50 20:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ คุณผึ้งน้อยมาก ได้รู้เรื่องที่อยากรู้เยอะเลย ถามต่ออีกนิดนะคะ เวลาดารา นักร้อง ไปเล่นเกมโชว์ ได้รางวัลตามนั้นจริง ๆ หรือเปล่า คือเห็นบางครั้งไปเพื่อโปรโมทงานของตัวเองที่ออกมาช่วงนั้น หรือถ้าอย่างพี่เบิร์ดนี่ ทางรายการต้องขอเชิญไปร่วมรายการหรือเปล่า แล้วถ้าไปออกรายการที่สัมภาษณ์อย่างเดียว ทางรายการต้องจ่ายเงินให้ดารา นักร้องหรือเปล่า จากคุณ : อยากรู้อีก (ถ้วยกาแฟ) - [ 4 ต.ค. 50 21:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รู้สึกดีจังเลยครับ ตามอ่านมาตั้งแต่เมื่อวาน ได้ความรู้มาเยอะเลยว่าการเป็นดาราไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะ ^^^ ขอบคุณคุณ : Nutt the Moche' มากๆครับ เรื่องคุณอั้ม...อันนี้ก็แล้วแต่ฟ้าท่านจะเมตตาเจ้าผึ้งน้อยผู้นี้ (อูย....เชยซะไม่มี!). จากคุณ : อยากรู้อีก (ถ้วยกาแฟ) เวลาดารา นักร้อง ไปเล่นเกมโชว์ ได้รางวัลตามนั้นจริง ๆ หรือเปล่า คือเห็นบางครั้งไปเพื่อโปรโมทงานของตัวเองที่ออกมาช่วงนั้น ^^^ แล้วแต่ตกลงกันครับ   แต่ถ้าเป็นทอล์คโชว์ ไปโปรโมทหนังสือโปรโมทหนังนี่ ไม่ได้ตังค์แน่ๆ ถือว่าพีอาร์ฟรี แล้วถ้าไปออกรายการที่สัมภาษณ์อย่างเดียว ทางรายการต้องจ่ายเงินให้ดารา นักร้องหรือเปล่า ^^^ ต้องจ่ายครับคุณถ้วยกาแฟ  รายการใหญ่หน่อยก็ครั้งละหมื่น รายการกลางๆก็ 5-6,000 ครับ   ถ้าอย่างพี่เบิร์ดนี่ ทางรายการต้องขอเชิญไปร่วมรายการหรือเปล่า ^^^ โอย..ระดับพี่เบิร์ดนี่ต้องใช้คำว่า "กราบเรียนเชิญ"เลยครับ ใหญ่ระดับพี่เบิร์ดนี่มีไม่กี่คนทั่วฟ้าเมืองไทยที่จะเลือกได้เลยว่าจะไปหรือไม่ไป   ส่วนใหญ่ต้องแฟกซ์คำถามที่จะถามให้ทีมดูแลอนุมัติก่อนด้วยซ้ำครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 50 22:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่ได้เข้ากระทู้นี้วันสองวัน เหอๆๆ มัวแต่ไปขลุกอยู่กระทู้ เพื่อน กรูรักเมิงว่ะ ไม่รู้จะถามอะไรพี่ผึ้งน้อยแล้วอ่า จากคุณ : Rdfaiz - [ 4 ต.ค. 50 23:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 #55 เอ๋ ผมกลายเป็นคนสไตล์นั้นแล้วเหรอเนี่ย 555 ^^ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ ที่ผมเห็นนั้นจริงๆก็ไม่ค่อยได้คิดอะไร(เพราะดูแต่น้องเชียร์)แต่มันขำๆน่ะครับ แบบว่าเหมือนพยายามกันเหลือเกิน มีการแพนไปถ่ายให้เห็นด้วยว่ายืนด้วยกัน 4 คน แต่ถ้าสังเกตดีๆตอนที่แพนนั้นจะเห็นหน้าดาราแค่ 2 คน อีก 2 คนจะเป็นหันหลังให้กล้องบ้างหันข้างบ้าง แบบว่า เออ มันมีใช้สแตนด์อินด้วยแฮะ แต่ยังไงก็ไม่เนียน 55+ ว่าแต่เคยร่วมงานกับน้องเชียรืด้วยเหรอครับ อิจฉาๆๆ >< แล้วก็เห็นด้วยเลยว่าน้องเชียร์ยังไม่มีโอกาสเจอบทดีๆที่เหมาะกับตัวเค้าเลย แถมแต่ละเรื่องที่น้องเค้าเล่นส่วนใหญ่ขอพูดตรงๆเลยละกันว่ามีแต่ละครเบาสมอง บทละครไร้สาระไม่สมจริง ต๊องๆเอาฮาเกือบหมดเลย ที่ดูที่น่าจะเข้าบุคลิกน้องเค้าที่สุดคงเป็นละครที่เค้าเป็นนางเอกเรื่องแรกคือ รักได้มั้ยถ้าหัวใจไม่เพี้ยน ล่ะมั้ง (หลงเค้าก็เพราะเรื่องนี้แหล่ะ ขนาดได้ดูแค่ตอนท้ายๆไม่กี่ตอน) นอกนั้นที่พอจะดีหน่อยก็มีเรื่อง ไออุ่นรัก (หรืออุ่นไอรักหว่า) ที่เล่นคู่กับเติ้ล แล้วก็มีคู่ซีคู่กับแตงโมด้วย เรื่องนี้ถึงจะเป็นบทสาวเรียบร้อย แต่ส่วนตัวผมคิดว่าน้องเค้าเล่นดีนะ เนื้อเรื่องโดยรวมก็ใช้ได้ ไม่ค่อยมีอะไรไร้เหตุผลให้หงุดหงิดเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่กระแสโดยรวมดันดูเหมือนจะโดนแตงโมเปล่งรัศมีเด่นกว่าไปซะงั้น ก็ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไรจะได้ดูเรื่องที่น้องเชียร์เล่นบทดีๆเข้ากับตัวเค้า แล้วก็เนื้อเรื่องดีๆสักที อ้าว กลายเป็นบ่นเรื่องน้องเชียร์ซะงั้น ^^" ยังไงถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับน้องเค้าอีกช่วยฝากบอกด้วยนะครับว่ามีคนที่นี่แอบหลงรักเค้าอยู่คนนึง อิอิ ^^ ~ Pretending, Someone else can Come and Save Me from Myself ~ จากคุณ : Enixma - [ 5 ต.ค. 50 13:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จากคุณ : อยากรู้อีก (ถ้วยกาแฟ) เวลาดารา นักร้อง ไปเล่นเกมโชว์ ได้รางวัลตามนั้นจริง ๆ หรือเปล่า คือเห็นบางครั้งไปเพื่อโปรโมทงานของตัวเองที่ออกมาช่วงนั้น ^^^ แล้วแต่ตกลงกันครับ   แต่ถ้าเป็นทอล์คโชว์ ไปโปรโมทหนังสือโปรโมทหนังนี่ ไม่ได้ตังค์แน่ๆ ถือว่าพีอาร์ฟรี ********************** เอ่อ ที่บอกว่าแล้วแต่ตกลงกัน นี่เขาตกลงกันประมาณไหนอย่างไรคะ ... ได้บ้างบางส่วน  หรือไม่ได้เลย ถ้าอย่างนั้นมันก็เหมือนหลอกคนดูสิคะ แล้วถ้าไปเพื่อโปรโมทสินค้าของตัวเอง ทั้งเพลง หนัง ละคร หนังสือ เครื่องสำอาง ฯลฯ   มีบ้างไหมที่ต้องจ่ายให้ทางรายการ หมายถึงจ้างรายการให้เอาเราไปร่วมรายการ (ขายของ) นอกเรื่องนิดนึง ถ้าเป็นกรณีที่เอาประชาชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ตกเป็นข่าวในขณะนั้นไปออกรายการ อย่างเช่นคนรอดชีวิตจากเครื่องบินตก  ผู้โดยสารที่เห็นรถพุ่งเข้าชนคนเงี้ยค่ะ   นอกจากจ่ายค่าเดินทางให้แล้วยังต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้อีกหรือเปล่า จากคุณ : laair - [ 5 ต.ค. 50 17:10:08 ]