ความคิดเห็นที่ 10
'ประชัย'น้ำตาคลอ หลังศาลสั่งจำคุก 3 ปีปรับ 6.9 พันล้านข้อหาปั่นหุ้น'ทีพีไอ'ไม่รอลงอาญา จำนวนคนอ่าน 557 คน | วันที่ 03 ธันวาคม 2550 - เวลา 14:41:18 น.
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ' ประชัย เลี่ยวไพรัตน์' และ 'เชียรช่วง กัลยาณมิตร' ข้อหาปั่นหุ้นทีพีไอ คนละ 3 ปี ศาลชี้การกระทำของจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตร งและทางอ้อม ไม่มีเหตุรอลงอาญา
วันที่ 3 ธันวาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) โดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และนายชัยณรงค์ แต้ไพสิฐพงษ์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ, นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.ทีพีไอฯ, บริษัท สเติร์น สจ๊วต (ประเทศไทย) จำกัด และนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บจก.สเติร์นฯ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นบริษัทเจ้าของหลักทรัพย์ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหลักทรัพย์ เผยแพร่ข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหลักทรัพย์ก่อนวันที่หนังสือชี ้ชวนจะมีผลบังคับใช้ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าหลักทรัพย์ใดจะมีราคาสูงขึ้นหรื อลดลง (ปั่นหุ้น) และร่วมกันกระทำการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้รับผิดชอบในการดำเนินกิจการของบร ิษัทที่ออกหลักทรัพย์ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ม.77 และ 239 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ศาลวิเคราะห์เห็นว่าจำเลยทั้ง 4 ร่วมกระทำความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลและร่างหนังสือเสนอชี้ชวนการเสนอขายหลักทรััพย์ก่อนวันที่หนังสือชี้ชวนจะมีผลบังคับใช้ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าหลักทรัพย์จะมีราคาสูงขึ้นหรือลดลง (ปั่นหุ้น) ให้ปรับจำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 3 แสนบาท พิพากษา และให้จำคุกจำเลยที่ 2 กับ 4 คนละ 1 ปี ส่วนในความผิดฐานร่วมกันกระทำการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือในการดำเนินกิจการขอ งบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
พิพากษาให้ป รับจำเลยที่ 1 และ 3 เป็นจำนวนเงินคนละ 6,900 ล้านบาท และจำคุกจำเลยที่ 2 และ4 คนละ 2 ปี รวมปรับจำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 6,900 ล้าน 3 แสนบาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2 และ 4 คนละ 3 ปี ศาลเห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลย ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่มีเหตุรอลงอาญา นายประชัย กล่าวภายหลังจากฟังคำพิพากษาศาลทั้งน้ำตาคลอว่า ยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และจะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป เพราะลงมาเล่นการเมืองถึงทำให้ต้องมาทนรับความกดดันและแรงเสียดทานขณะนี้ อีกทั้งกลุ่มอำนาจเก่ายังอยู่ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้นายประชัยกำลังอยู่ในขั้นตอนเพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล
กตต.ชี้ ยังไม่ขาดคุณสมบัติผู้สมัครฯหากศาลให้ประกัน
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากคดีปั่นหุ้นทีพีไอ ว่า จากรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 (4) ซึ่งระบุว่า บุคคลผู้มีลักษณะต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้อห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้แก่ บุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล ดังนั้น ถึงแม้ว่านายประชัยจะถูกศาลสั่งให้จำคุก แต่ว่ายังไม่ถูกคุมขัง จึงต้องพิจารณาว่าถูกคุมขังหรือไม่เป็นสำคัญ หากศาลให้ประกัน นายประชัยก็ถือว่ายังมีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.อยู่ แต่หากศาลไม่ให้ประกันตัวและถูกศาลสั่งไปคุมขัง เมื่อนั้นนายประชัย จึงจะขายคุณสมบัติเป็นผู้สมัครฯ
นายอภิชาต กล่าวต่อว่า ส่วนบทบาทการเป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยนั้น ไม่เกี่ยวกับกกต. เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของพรรค ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละพรรค และความยินยอมของสมาชิกพรรคนั้นๆ
http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=871
--- นายประชัย กล่าวภายหลังจากฟังคำพิพากษาศาลทั้งน้ำตาคลอว่า ยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และจะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป เพราะลงมาเล่นการเมืองถึงทำให้ต้องมาทนรับความกดดันและแรงเสียดทานขณะนี้ อีกทั้งกลุ่มอำนาจเก่ายังอยู่ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้นายประชัยกำลังอยู่ในขั้นตอนเพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล ---
มันเกี่ยวกันตรงไหนล่ะไอ้ควายเอ้ยยยย ทั้งอำนาจเก่าและการมืองน่ะ..มันเกี่ยวกันตรงไหนกะที่เอ็งทำผิดคดีนเองนี่่ีหว่า...เเหม..คุณพี่เเถไปได้....
ว่าแต่...
แบบนี้ หัวหน้าพรรคบางพรรค ก็มีเพื่อนร่วมชะตากรมเดียวกันแล้วซิ..
จากคุณ :
An.mkII
- [
3 ธ.ค. 50 15:33:24
]
|
|
|