PANTIP.COM : A6343284 เกี่ยวกับการ์ตูน และ เกมส์ Dragon Quest [การ์ตูน]

ความคิดเห็นที่ 8

DQ4-6 ตำนานนภา ภาคนี้ไม่มีตระกูลมังกรฟ้าใดๆทั้งสิ้นนะครับ เรื่องราวในภาคนี้เป็นเรื่องในโลกอีกมิตินึง(ขอเรียกว่าโลกนภาละกัน) โดยโลกนภานี้ตอนแรกก็ยังไม่มีผู้กล้า แต่จะมีมาสเตอร์ดราก้อนผู้ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าเป็นผู้ดูแลโลกนภานี้ไว้ จากนั้นจอมราชาปีศาจเดธปิซาโร่ก็ปรากฎตัวขึ้นมา พระเจ้าจึงสั่งให้มาสเตอร์ดราก้อนทำการส่งหญิงสาวชาวนภาลงไปบนพื้นโลกเพื่อให้กำเนิดผู้กล้านภาคนแรกขึ้นมา เมื่อผู้กล้านภาเกิดมาได้ไม่นาน พ่อของผู้กล้านภาก็ตายจากไป ส่วนแม่ก็ต้องกลับไปยังปราสาทแห่งนภา จึงต้องทิ้งลูกชายไว้ให้คนในหมู่บ้านดูแลต่อไป จากนั้นเธอก็กลับปราสาทแห่งนภาและตรอมใจตายเพราะคิดถึงลูกชาย ผู้กล้า(ขอเรียกว่า โฟร์ ละกันตามที่ทางSQUARE-ENIXตั้งไว้ในเกมส์)ก็เติบโตขึ้นมาแต่ก็ต้องหลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านกลางหุบเขาจนกว่าจะอายุ17ปีซึ่งจะได้รับพรแห่งผู้กล้าจากพระเจ้า ในวันเกิดอายุครบ17ปีของเขานั่นเอง จอมราชาปีศาจเดธปิซาโร่ก็มาถล่มหมู่บ้านหวังจะกำจัดผู้กล้าให้ได้ ผู้คนในหมู่บ้านได้นำตัวโฟร์ไปซ่อนและยอมสละชีวิตต่อสู้กับกองทัพปีศาจจนตายกันหมด รวมทั้งซินเซียคนรักของโฟร์ที่ยอมแปลงร่างเป็นโฟร์ให้พวกปีศาจฆ่าเพื่อหลอกว่ากำจัดผู้กล้าได้แล้ว
โฟร์จึงต้องออกเดินทางเพื่อกำจัดจอมราชาปีศาจเดธปิซาโร่ โฟร์ได้พบสหายและรวบศาสตรานภาทั้งหมด จากนั้นได้เดินทางไปปราสาทนภาจนได้ทราบเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเอง หลังจากนั้นโฟร์ก็ได้ปราบจอมราชาปีศาจเดธปิซาโร่ผู้ใช้วิถีลับแห่งวิวัฒนาการเปลี่ยนตัวเองเป็นจอมราชาปีศาจแห่งการทำลายล้างได้สำเร็จ มาสเตอร์ดราก้อนได้เสนอให้โฟร์อยู่ที่ปราสาทแห่งนภาแต่โฟร์ต้องการที่จะกลับมาที่พื้นโลกและได้แต่งงานกับซินเซีย คนรักของเขาที่ได้รับการชุบชีวิตอีกครั้งโดยพระเจ้า หลังจากนั้นโฟร์ก็มีทายาทสืบทอดเรื่อยมา

จากนั้นมาแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เรื่องราวของผู้กล้านภาผู้จะปรากฎตัวมาช่วยเหลือโลกก็ยังคงเล่าขานกันต่อมาเรื่อยๆ บนเรือลำหนึ่ง ปาปัสนักรบผู้ออกเดินทางมาพร้อมกับลูกชายเพื่อเดินทางกลับหมู่บ้านซันดาลอส(ชื่อที่ทางทีมงานตั้งให้ยังไม่ออก จะเรียกว่าไฟว์ ก็กระไรอยู่ ขอเรียกว่าพระเอกละกัน) พระเอกได้พบกับเบียงก้าและได้ไปผจญภัยที่ปราสาทผีสิงด้วยกัน ก่อนจากกันทั้งสองได้ให้คำมั่นสัญญากันไว้ว่า "จะต้องได้พบกันและออกเดินผจญภัยด้วยกันอีก" แต่จากนั้นปาปัสได้ถูกฆ่าตายโดยปีศาจนามว่าเกม่า ส่วนพระเอกและเฮนรี่ก็ถูกพาตัวไปทำงานสร้างมหาวิหารให้กับเหล่าปีศาจ
สิบปีผ่านไปพระเอกและเฮนรี่หนีออกมาจากมหาวิหารได้และได้ช่วยเหลือราชินีแห่งไรฮาร์ทจนเฮนรี่ได้กลับไปยังปราสาทไรฮาร์ทอีกครั้ง ส่วนพระเอกก็ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือแม่ผู้ถูกจับตัวไปยังโลกปีศาจ จนกระทั่งได้พบกับเบียงก้าอีกครั้งและทั้งคู่ก็แต่งงานด้วยกันและได้ให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวฝาแฝดนามว่า เทนและโซร่า แต่แล้วเบียงก้าก็ถูกพวกปีศาจจับตัวไป พระเอกได้ตามไปช่วยเหลือเบียงก้า ระหว่างที่สู้กับปีศาจที่จับเบียงก้าไปนั้นเอง ปีศาจก็ได้รู้ว่าเบียงก้าเป็นทายาทของผู้กล้านภา เกม่าจึงได้สาปพระเอกและเบียงก้าให้เป็นหินไว้โดยหวังที่จะไม่ให้มีผู้กล้านภาเกิดขึ้น แต่เกม่าหาได้รู้ไม่ว่า ผู้กล้านภาได้กำเนิดขึ้นมาแล้วคือ เทน นั่นเอง
7ปีผ่านไป เทนและโซร่าเติบโตขึ้นและได้ออกเดินทางค้นหาพระเอกจนเจอ สามพ่อลูกได้ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเบียงก้าและรวบรวมศาสตรานภา ระหว่างนั้นทั้งสามได้พบกับปราสาทนภาที่จมอยู่ใต้น้ำ ทั้งสามได้กอบกู้ปราสาทนภาให้กลับสู่ท้องฟ้าอีกครั้งและช่วยให้มาสเตอร์ดราก้อนกลับคืนสู่ร่างเดิมได้สำเร็จ ในที่สุดทั้งสามพ่อลูกก็สามารถช่วยเบียงก้าได้ จากนั้นทั้งครอบครัวจึงเดินทางไปโลกปีศาจเพื่อช่วยเหลือมาธ่า(แม่ของพระเอก)และกำจัดจอมราชาปีศาจมิลโดราสได้สำเร็จ จากนั้นทั้งสี่ก็กลับไปยังปราสาทแกรนเวอร์เนียด้วยกัน

เวลาผ่านไป ได้ปรากฎราชาปีศาจมูโด้ขึ้นมาหมายจะครอบครองโลก บอช เจ้าชายแห่งปราสาทเรย์ด็อกได้ออกเดินทางเพื่อกำจัดราชาปีศาจมูโด้ แต่ก็พลาดท่าถูกมูโด้จัดการจนร่างแยกออกเป็น2ส่วน ส่วนที่มีความกล้าหาญกระเด็นไปอยู่ที่หมู่บ้านไลฟ์ก็อดโลกแห่งความฝัน ส่วนร่างที่มีความทรงจำและวิชาฝีมือได้กระเด็นไปที่หมู่บ้านไลฟ์ก็อดโลกแห่งความจริง บอชที่อยู่ในโลกแห่งความฝันได้ออกเดินทางเพื่อกำจัดราชาปีศาจมูโด้ และได้ทราบถึงการคงอยู่อันน่ากลัวของราชาปีศาจตัวอื่นๆ หลังจากนั้นบอชได้พบกับตัวเองที่อยู่ในโลกแห่งความจริงผู้ไม่มีจิตใจที่จะต่อสู้เพราะการตายของน้องสาว แต่แล้วกองทัพปีศาจก็มาบุกที่หมู่บ้านไลฟ์ก็อดเพื่อกำจัดบอช ในที่สุดบอชทั้งสองคนก็รวมร่างกันกลายเป็นผู้กล้านภาคนใหม่(บอชเป็นทายาทผู้กล้านภาสืบทอดจากภาค5)

พวกบอชได้ออกเดินทางรวบรวมศาสตรานภาอีกครั้ง(แต่เปลี่ยนชื่อกันหมดแล้ว รูปร่างก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย) และได้กอบกู้ปราสาทนภาจากพวกปีศาจ จากนั้นพวบอชได้ออกเดินทางไปยังโลกต่างมิติอันเป็นที่อยู่ของจอมราชาปีศาจเดสทามัวร์ หลังจากกำจัดจอมราชาปีศาจเดสทามัวร์ลงได้ โลกแห่งความฝันอันเกิดมาจากพลังของจอมราชาปีศาจเดสทามัวร์ก็ได้หายไป ปราสาทแห่งนภาที่ติดอยู่กับโลกแห่งความฝันจึงเป็นอิสระอีกครั้ง และก็เป็นอันจบตำนานนภานี้

ชอบเนื้อเรื่องDQ5 ที่สุดละ เป็นภาคที่เน้นเรื่องราวความรักจริงๆ ทั้งความรักระหว่างพ่อลูก ความรักระหว่างผองเพื่อน ความรักระหว่างชายหญิง ความรักระหว่างครอบครัว จริงๆมีรายละเอียดที่ซึ้งๆมากเลย

ในตอนที่เบียงก้าคุยโต้รุ่งกับพระเอกหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานับ10ปี เธอก็บอกว่า ตอนที่ทราบข่าวว่าทหารของไรฮาร์ทไปทำลายหมู่บ้านซันดาลอส เธอก็วิ่งไปหาพระเอกแต่ก็ได้พบกับเมืองที่ถูกทำลายไปแล้วเท่านั้น แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นว่าพระเอกยังมีชีวิตอยู่และจะต้องได้ไปผจญภัยด้วยอีกแน่นอน

ตอนที่พระเอกไปหาแม่เฒ่าหมอดูที่หมู่บ้านโอราเคิลเบรี่ แม่เฒ่าก็ทำนายไว้ว่า เนื้อคู่ของพระเอกยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่ง และยังคิดถึงพระเอกอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

ภาคPS2 ก่อนสู่กับมิลโดราส หากกดคุยเบียงก้าจะบอกว่า "จำได้ไหม? สัญญารักอันเป็นนิรันดร์ของพวกเราที่ซาราโบน่า หากอยู่ก็อยู่ด้วยกัน หากแม้นจะตายก็ขอตายด้วยกัน แต่เราจะไม่ตายหรอก พวกเราจะต้องได้กลับบ้านพร้อมกันทั้งครอบครัวแน่นอน"

นอกเรื่องไปเยอะ ต่อไปเป็นตำนานเอเดนละครับ
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 51 17:00:10

จากคุณ : Serim (Kudo Kai) - [ 18 ก.พ. 51 16:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9

DQ7-9 ตำนานเอเดน เรื่องราวในภาคนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดในโลกเอเดน โดยตำนานเอเดนนี้เริ่มแรกโลกถูกปกป้องโดยพระเจ้า แต่แล้วจอมราชาปีศาจออลโกลเดมีร่าก็ได้ปรากฎตัวขึ้นหวังจะครอบครองโลก การต่อสู้ระหว่างพระเจ้าและออลโกลเดมีร่าก็ได้เริ่มขึ้น เหล่านักสู้ผู้กล้าหาญจากทั่วโลกได้มารวมตัวกันเพื่อร่วมกับพระเจ้าต่อสู้กับออลโกลเดมีร่า ในจำนวนนี้มีนักรบผู้กล้าหาญเมลวิน และทายาทแห่งเทพวารีชาร์คอาย อยู่ด้วย ในการต่อสู้ครั้งนี้จอมราชาปีศาจออลโกลเดมีร่าได้ทำการปิดผนึกพระเจ้าไปพร้อมกับตนเองด้วย ส่วนเมลวินได้ถูกพระเจ้าเสกให้กลายเป็นหินไปเพื่อปกป้องภัยที่จะเกิดขึ้นกับเมลวิน ส่วนชาร์คอายก็ถูกคำสาปแช่แข็งพร้อมกับเรือรบมันเดอร์ดราก้อนของเขา

จากนั้นออลโกลเดมีร่าได้ให้ลูกน้องทำการตัดแบ่งโลกเป็นส่วนๆและทำการผนึกไว้เหลือไว้แต่เพียงเกาะเอสตาร์ดที่ได้รับการปกป้องโดยพระเจ้าและเทพวารีเท่านั้น กาลเวลาผ่านไป อารุสบุตรชายชาวประมง คีฟาเจ้าชายแห่งแกรนเอสตาร์ด และมารีเบล ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านฟิชเบลล์ ได้พบวิธีเปิดประตูวิหารโบราณกลางเกาะเอสตาร์ดได้ ทั้งสามได้ประกอบแผ่นศิลาปริศนาและถูกดูดเข้าไปในแท่นศิลานั้น เมื่อทั้งสามช่วยเหลือชาวบ้านได้และได้กลับมายังโลกเดิมแล้วได้พบว่ามีเกาะเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเหมือนกับที่ๆตนเคยไปช่วยในศิลาปริศนานั้น ทั้งสามจึงเริ่มออกเดินทางเพื่อคลายสะกดแผ่นดินต่างๆที่ถูกสะกดไว้กลับคืนมา

เมื่อมีพบย่อมมีพลัดพราก คีฟา ผู้เป็นทายาทแห่งโรโตะที่สืบทอดมาจากอาเรน พระเอกDQ2 จึงต้องแยกทางจากกลุ่มไปเพื่อปกป้องชนเผ่ายูบาล แต่พวกอารุสก็ได้ออกผจญภัยกันต่อไปจนกระทั่งได้พบเมลวิน และไอร่า นักดาบสาวผู้เป็นทายาทของคีฟา ทั้งหมดร่วมมือกันและปราบออลโกลเดมีร่าได้สำเร็จและทำพิธีคืนชีพให้กับพระเจ้าอีกครั้ง แต่ทว่าพีธีคืนชีพนี้กลับถูกเผ่าปีศาจทำอุบายบางอย่างไว้ สิ่งที่คืนชีพขึ้นมากลับไม่ใช้พระเจ้าแต่เป็นจอมราชาปีศาจออลโกลเดมีร่านั่นเอง พลังของออลโกลเดมีร่าได้ครอบคลุมความมืดไว้ทั่วโลก แผ่นดินต่างๆที่ได้คลายสะกดออกแล้วถูกสะกดอีกครั้ง พวกอารุสจึงต้องออกเดินทางค้นหาเทพแห่งธาตุทั้งสี่เพื่อขอยืมพลังมาช่วยสู้กับออลโกลเดมีร่า พวกอารุสได้พบกับชาร์คอาย ผู้เป็นทายาทเทพวารีระหว่างที่ตามหาเทพวารีนั่นเอง อารุสและชาร์คอายได้รวมสัญลักษณ์วารีเป็นหนึ่งและปลุกเทพวารีขึ้นมาอีกครั้ง และเทพทั้งสี่ก็ช่วยกันสะกดพลังของออลโกลเดมีร่าและคลายผนึกให้กับแผ่นดินได้อีกครั้ง พวกอารุสได้รวมพลังกันต่อสู้กับออลโกลเดมีร่าและสามารถกำจัดออลโกลเดมีร่าได้สำเร็จ

กาลเวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงยุคDQ8 ซึ่งภาคนี้จะสังเกตได้ว่า แผนที่โลกนั้นเหมือนกับDQ7เกือบเป๊ะๆ แสดงว่าเป็นโลกเดียวกัน เพียงแต่คนละเวลาแล้วเท่านั้น ค่ำคืนๆหนึ่ง ณ.ปราสาทโทรดีน ได้มีเถาวัลย์ลึกลับจำนวนมากปรากฎขึ้นมาพันธนาการปราสาทไว้ ปราสาทโทรดีนล่มสลายไปในเพียงค่ำคืนเดียว เหลือเพียงแต่สัตว์ประหลาดตัวเล็กสีเขียว ม้าสีขาวอันงดงาม และ เอท(ชื่อเอามาจากในเกมส์อีกนั่นล่ะ) ทหารราชองค์รักษ์หนุ่มเท่านั้นที่รอดมาได้ ทั้งสามออกเดินทางเพื่อตามหาตัวตลกนามโทมาเคส ผู้เป็นต้นเหตุให้ปราสาทโทรดีนถูกคำสาปพันธนาการไว้ เอทได้ช่วยเหลือยันกัส โจรหน้าโหดแต่จิตใจดีงาม(หวังจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแต่หน้าไม่ให้เลยต้องเป็นโจรอีกครั้ง)ไว้และทำให้ยันกัสสาบานตนขอติดตามเอทตลอดไป ทั้งสี่ออกเดินทางตามรอยของโทมาเคสได้ จนได้พบเจสสิก้า หญิงสาวผู้ถูกโทมาเคสพรากชีวิตพี่ชายของเธอไป และคุคูล ทหารศักดิ์สิทธิ์แห่งโบสถ์ผู้ถูกโทมาเคสแย่งชิงชีวิตชายผู้เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของเขาไป ทั้งหมดออกเดินทางด้วยกันโดยมีจุดหมายเดียวกันคือ โทมาเคส

ระหว่างออกเดินทาง ทั้งหมดได้พบว่าโทมาเคสตามฆ่าคนในที่ต่างๆซึ่งต่างก็ไม่ทราบว่าทำไมโทมาเคสจึงไล่ฆ่าคนเหล่านี้ พวกเอทได้ตามโทมาเคสไปยังวิหารแห่งความมืด แต่แล้วทั้งหมดกลับไม่สามารถตามโทมาเคสเข้าไปในวิหารได้ ทั้งหมดได้ไปยังปราสาทเซาท์เทิร์นเบิร์กและช่วยเหลือเจ้าชายจาโกสให้ผ่านการทดสอบณ.หุบเขากษัตริย์ได้และได้รับกระจกแสงอาทิตย์มา และในที่สุดทั้งสี่ก็สามารถจัดการกับโทมาเคสลงได้ในวิหารแห่งความมืด แต่ทว่าคำสาปที่พันธนาการราชาโทรเด้และเจ้าหญิงมีเดียก็ยังไม่คลายลง เจสสิก้าผู้เก็บไม้เท้าของโทมาเคสไว้ได้หายสาปสูญไป ทั้งหมดได้ตามไปและพบว่าเจสสิก้าได้ถูกพลังแห่งความชั่วร้ายในไม้เท้านั้นควบคุมไว้ พวกเอทได้ช่วยเหลือเจสสิก้าได้สำเร็จ แต่ทว่าไม้เท้าก็ได้ถูกเลโอปอล สุนัขสีดำตัวใหญ่คาบเอาไป เจสสิก้าซึ่งได้สติกลับมาได้บอกว่า ในไม้เท้านี้ได้สะกดเทพแห่งความมืดนามแรปโซนไว้ การคลายสะกดนั้นจะต้องนำเลือดของทายาทนักปราชญ์ทั้ง7ที่เคยร่วมมือกับวิหคเทพเรทิสสะกดแรปโซนมาเป็นเครื่องสังเวย และคนที่ถูกฆ่าระหว่างที่พวกเอทตามโทมาเคสมานั้นล้วนแต่เป็นทายาทของ7นักปราชญ์ ทั้งหมดได้พบเลโอปอลที่ถูกแรปโซนควบคุมไว้และฆ่าทายาทนักปราชญ์คนที่5ไป พวกเอทต้องตามหาและปกป้องทายาทนักปราชญ์คนที่6ไว้ให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จซ้ำร้ายเลโอปอลยังได้รับพลังจนสามารถบินไปในท้องฟ้าได้ ทำให้พวกเอทต้องไปขอความช่วยเหลือจากวิหคเทพเรทิสที่โลกแห่งความมืด แต่ทว่าตอนนั้นวิหคเทพเรทิสกลับถูกสมุนของแรปโซนจับไข่ของเธอไว้เป็นตัวประกัน พวกพระเอกตกลงที่จะช่วยไข่ของเรทิสให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะไข่ของเรทิสถูกเกม่อน สมุนของแรปโซนทำลายไปพร้อมกับตนเอง แต่ทว่าวิญญาณของลูกเรทิสยังคงอยู่ และได้มอบพลังให้พวกเอทสามารถรวมร่างกับวิญญาณของตนเพื่อกลายเป็นนกบินไปในท้องฟ้าได้ พวกเอทได้ตามเลโอปอลไปยังมหาวิหารอันเป็นที่อยุ่ของทายาทนักปราชญ์คนสุดท้าย แต่หมดสามารถกำจัดเลโอปอลได้สำเร็จแต่ก็ถูกมัลเจโร่ผู้เป็นพี่ชายของคุคูลใส่ร้ายและถูกนำตัวไปขัง ส่วนมัลเจโร่ก็ยึดไม้เท้าที่ผนึกวิญญาณแรปโซนไป

พวกเอทสามารถแหกคุกหนีออกมาได้ และได้ทราบว่ามัลเจโร่จะตั้งตัวเป็นมหาสังฆราชคนใหม่ พวกเอทจึงไปจัดการมัลเจโร่ แต่ทว่าการทำให้มัลเจโร่บาดเจ็บนั้นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้วิญญาณของแรปโซนสามารถครอบครองร่างของมัลเจโร่ได้(มัลเจโร่จิตใจเข้มแข็งจนแรปโซนควบคุมไม่ได้)และทำการปลดผนึกปราสาทแห่งความมืดออกมาอีกครั้ง และวิญญาณของแรปโซนก็ได้คืนชีพออกมาจากไม้เท้า

พวกเอทตามไปจัดการแรปโซนที่ปราสาทแห่งความมืด แต่แล้วแรปโซนได้รวมร่างกับปราสาทแห่งความมืดจนกลายเป็นเทพแห่งความมืดร่างสมบูรณ์ในที่สุด และได้เปิดมิติเชื่อมต่อโลกแห่งความมืดออกมา แต่นั้นก็ทำให้วิหคเทพเรทิสสามารถออกจากโลกแห่งความมืดมาได้เช่นกัน เรทิสได้ช่วยเหลือพวกเอทและทั้งหมดได้รวมพลังกันจนสามารถปราบแรปโซนได้สำเร็จ เรทิสได้พาทุกคนมาส่งที่ปราสาทโทรดีนและก่อนที่จะจากกันนั้นเอง เรทิสได้บอกว่า ชื่อเรทิสของตนนั้นเป็นชื่อที่คนในโลกนี้ตั้งให้ ชื่อที่แท้จริงของเธอที่ได้รับมาจากในโลกที่เธอเกิดนั้นคือ ราเมีย จากนั้นเรทิสและวิญญาณลูกของเรทิสก็บินจากไป

สังเกตได้ว่า DQตำนานโรโตะและตำนานเอเดนนั้นจะมีส่วนเชื่อมต่อกันอยู่คือ คีฟาที่เป็นทายาทโรโตะที่สืบทอดมาจากพระเอกDQ2 และวิหคเทพเรทิสที่จริงแล้วคือ วิหคอมตะราเมีย ที่เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลโรโตะนั่นเอง ส่วนDQตำนานนภานั้นอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับโลกทั้งสองก็ได้ ยกเว้นแต่ในDQ6 ใต้ทะเลแถวปราสามมูโด้เราจะได้พบกับเทพรูบิสอยู่ที่นั่น

ข้อสังเกตบางอย่างในตำนานเอเดนอีกอย่างนึงคือ อารุสในเกมส์นั้นสามารถใส่ดาบราชันย์ ที่พระเอกDQ2พกมาโลกเอเดนได้ด้วย และในโฆษณาของDQ Card นั้นจะเห็น เอทสะพายดาบแห่งโรโตะไว้ที่หลังด้วย อาจจะเป็นไปได้ว่า ทั้งอารุสและเอทนั้นต่างก็เป็นทายาทแห่งโรโตะด้วยเช่นกัน(และหลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่า อารุสนั้นเป็นลูกชายของชาร์คอายด้วย)

จบแค่นี้ละครับ ดูแล้วเหมือนนอกเรื่อง แต่ตั้งใจจะบอกว่าแต่ละตำนานเป็นอย่างไร มีอะไรเชื่อมกันหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับตระกูลมังกรอะไรพวกนั้นหรอกครับ
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 51 19:14:46

จากคุณ : Serim (Kudo Kai) - [ 18 ก.พ. 51 18:08:23 ]