ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับฉากประทับใจของผม เนื่องจากโดยส่วนตัวชอบแนวดราม่าเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้นความประทับใจเลยตกอยู่กับฉากดราม่าล้วนๆ ได้แก่ 1. ฉากรันกะพบเชอริลเป็นครั้งแรก(ตอน 2) เหมือนเป็นพรหมลิขิตที่บันดาลให้เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงมาพบกับนางฟ้าแห่งทางช้างเผือก เมื่อเชอริลได้รับรู้ว่า รันกะชอบเธอมากๆ โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นเชอริล ทำให้เชอริลผู้โดดเดี่ยว ถูกชะตาเด็กคนนี้เหลือเกิน แม้เชอริลจะโด่งดังมาก แต่ผมคิดว่า เธอคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดแฟนเพลงมากขนาดนี้มาก่อน เมื่อเจอกับรันกะ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ตอนจะบอกลาเธอถึงกับบริการพิเศษ ร้องเพลงสด ให้แฟนเพลงคนนี้ฟังเพียงคนเดียว ฉากที่รันกะได้ยินเสียงเพลงของเชอริล ทำให้เธอรู้ทันทีว่า ไอดอลในดวงใจของเธอ มาอยู่ตรงหน้าแล้ว รันกะปลาบปลื้มถึงกับน้ำตาไหล ฉากนี้ผมชอบสุดๆเลย (เหมือนน้องโฟกัสใน”ปิดเทอมใหญ่ฯ”เลย) ความรู้สึกของรันกะตอนนั้น คงเป็นความรู้สึกที่เหมือนฝัน ที่ได้ใกล้ชิดเชอริลขนาดนี้ อีกทั้งยังเชอริลให้กำลังใจรันกะ ให้ไล่ตามความฝันของตัวเอง รันกะยิ่งปลื้มอีกมากมาย เพราะแสดงให้เห็นว่า ไอดอลในดวงใจของเธอนั้น เป็นคนดีจริงๆ ฉากนี้เป็นฉากแรกที่สัมผัสได้ถึงความงามในจิตใจของเชอริล หลังจากที่ปล่อยโหมดวีนมาในช่วงต้นๆ 2. เส้นทางสู่ดวงดาวของรันกะ(ตอน 10) เป็นตอนที่รันกะได้มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์เรื่องมนุษย์วิหค  ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Macross Zero นั่นเอง เรียกว่าเป็นภาพยนตร์พีเรียดสำหรับยุค 2059 จริงๆแล้วรันกะมีบทเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น โดยนางเอกคือ Miss Macross Frontier ปีล่าสุด รับบทซาร่า โนม แต่ด้วยความบังเอิญที่ผู้รับบท เหมา โนม น้องสาวของซาร่าไม่มา ผู้กำกับซึ่งบังเอิญได้ยินเสียงร้องเพลงของรันกะ จึงให้รันกะรับบทเหมาแทน ซึ่งทั้งบทบาทการแสดง(ที่ได้แรงฮึดจากฉากจูบของเชอริลกับอัลโต้) และเสียงเพลง Aimo ของรันกะมันเหมือนกับว่า เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ กลายเป็นตัวขโมยซีนของหนังเรื่องนี้ไปเลย เพราะเป็นนางเอกรึก็ไม่ใช่ ผมชอบฉากสุดท้ายที่แสงไฟส่องมาทีรันกะ เชอริลบอกให้รันกะตอบรับผู้ชมที่กำลังเรียกตนเอง แล้วผู้กำกับก็นำรันกะขึ้นสู่เวที ฉากที่รันกะค่อยๆก้าวเท้าขึ้นเวที รู้สึกขนลุก เหมือนกับว่าเวทีอันเจิดจรัสได้เปิดต้อนรับรันกะเพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาลนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 3. ฉากเชอริลและรันกะร้องเพลง What ‘bout my stars? จีบอัลโต้ในโรงพยาบาล (ตอน 15) เป็นการเฉือนคมกันอย่างน่ารักๆ ของสองสาวซึ่งผลัดกันทำคะแนนแบบช็อตต่อช็อต ชนิดต่อหน้าต่อตาไม่มีกั๊กกันเลย ซึ่งสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้อัลโต้มาก เล่นเอาทำอะไรไม่ถูกเลย ซึ่งดูเป็นภาพที่น่ารักดี เหมือนจับมือกันถล่มอัลโต้ อีกทั้งยังสร้างความตื่นเต้นให้กับคนที่พบเห็นที่โรงพยาบาลมาก เพราะคงไม่มีใครคิดว่าซูเปอร์สตาร์ทั้งสองจะมาอยู่ด้วยกันได้ 4. ตอนที่ 20 ตอนนี้ถือเป็นตอนที่สุดยอดที่สุดสำหรับผม เป็นที่สุดของฉากดราม่าและโศกนาฏกรรม เริ่มจากฉาก ตบ กอดของเชอริล ตอนที่รันกะร้องเพลงไม่ได้ เพราะมาเห็นตอนอัลโต้ประคองกอดเชอริลที่กำลังล้ม เชอริลจึงตบเรียกสติรันกะ แล้วก็กอดทันที “การร้องเพลงต้องใช้ความรู้สึก ฉันรู้ดี แต่เธอเป็นมืออาชีพนะ เสียงของเธอมีพลังที่ฉันไม่มีทางทำได้” ฉากนี้แสดงตัวตนของเชอริล ทั้งความเป็นผู้ใหญ่ ความเป็นพี่สาว และความเป็นนักร้องมืออาชีพ ได้ออกมาพร้อมๆกัน รู้สึกประทับใจและซาบซึ้งมากๆ  จริงๆ แล้วในตอนนั้น รันกะ อาจลืมไปว่า ตั้งแต่ต้น ตนเองไม่ได้ร้องเพลงเพื่ออัลโต้ หากแต่มันเป็นความฝันลึกๆของเธอมาตั้งนานแล้ว เชอริลต่างหากที่จุดประกายให้เธอไล่ตามความฝันที่จะเป็นนักร้อง 5. ยังคงอยู่ตอนที่ 20 ฉากเชอริลไปหลบในหลุมหลบภัย แล้วเห็นประชาชนมากมายหวาดกลัวและสิ้นหวัง ทำให้เชอริลซึ่งหมดกำลังใจในการร้องเพลงไปแล้ว นึกถึงคำพูดของอัลโต้ที่ว่า เสียงของเธอมีพลังส่งไปถึงผู้คนได้มากมาย เธอจึงตัดสินใจใส่ต่างหูของแม่อีกครั้ง และร้องเพลง Diamond Crevasse เพื่อปลอบขวัญผู้คนที่สิ้นหวัง ความรู้สึกเหมือนนางฟ้าแห่งทางช้างเผือกได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งอย่างเต็มภาคภูมิด้วยความเข้มแข็งมากกว่าเดิม ฉากนี้เล่นเอาซึ้งและดีใจกับเชอริลอย่างยิ่ง หลังจากบทได้บีบคั้นเธอเหลือเกินในตอนที่ผ่านๆมา ทั้งป่วยเป็นโรคร้าย ทั้งโดนรันกะดับรัศมี และที่รู้สึกว่าผู้กำกับใจร้ายกับเธอจริงๆ ก็คือ ฉาก cd ลดราคาของเธอในกระบะ และโปสเตอร์ที่ตกบนพื้นให้คนเหยียบย่ำ 6. และสุดท้ายของตอนที่ 20 ฉากที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ ก็คือฉากมิเชลตาย ต่อหน้าคุรัน ที่กำลังเข้าเครื่องคืนร่างยักษ์ โดยมีโอกาสได้เพียงบอกรักคุรันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย สร้างความสะเทือนใจสุดๆ ฉากนี้ถูกเขียนบทอย่างจงให้มันรันทดอย่างถึงที่สุด เพราะปกติฉากที่เราเห็นชาวเซ็นทราดี แปลงเป็นไมครอนหรือคืนร่างก็ดี ใช้เวลาแป๊บเดียวเท่านั้น แต่มาถึงฉากคุรัน เล่นซะนานเชียว เพียงเพื่อให้โอกาสมิเชลตายอย่างน่าเศร้า เรียกได้ว่ามิเชลเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ถึงชีวิตเพื่อ build อารมณ์ผู้ชมให้พีคจนถึงขีดสุด ยิ่งตอนที่ร่างมิเชลหลุดไปนอกอวกาศพร้อมๆกับเสียงเพลง Diamond Crevasse ของเชอริลซึ่งยังกึกก้อง ยิ่งเพิ่มความสะเทือนใจแบบสุดๆ ป.ล. ขอเบลอซับ เพื่อความปลอดภัยของแฟนซับนะครับ จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อไปเป็นประเด็นต่างๆเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของตัวละครนะครับ ทำไมเจ้าหญิงถึงมีแต่คนมารุมรัก ถ้าตอบกำปั้นทุบดิน ก้อมันเป็นพระเอกมาครอสน่ะสิ ถ้าเทียบกับภาคแรก ฮิคารุน่าจะเป็นฝ่ายชอบมินเมย์ก่อน มินเมย์นั้นอาจจะไม่ได้ถึงกับรักฮิคารุตั้งแต่ต้น แต่ก็ให้ความสนิทสนมในฐานะที่ผจญความลำบากมาด้วยกัน และเป็นธรรมดาของเด็กวัยรุ่น อายุเพียง 15 ในขณะนั้น การมีคนมาชอบก็คงทำให้เธอปลื้มอยู่ไม่น้อย จริงๆแล้วถ้ามินเมย์ไม่แอบเผลอใจไปกับรุ่นพี่ในช่วงที่เธอเริ่มดังแล้ว ฮิคารุไม่น่าจะหลุดมือเธอไปได้ ในขณะที่มิสะ อาศัยความใกล้ชิด เข้ามาเสียบช่วงฮิคารุกำลังอกหักอยู่พอดี กว่ามินเมย์จะมารู้สึกตัวทีหลังว่ารักฮิคารุ ก็สายเกินไปเสียแล้ว ส่วนเจ้าหญิง อัลโต้ ชัดเจนว่า สองสาวปลื้มตั้งแต่ช่วงแรกๆเลย รันกะนั้น น่าจะรู้สึกชอบอัลโต้เมื่อได้ช่วยเธอไว้ถึงสองครั้งในวันเดียวกัน โดยเฉพาะครั้งที่สอง ที่ช่วยชีวิตเธอจากวาจูร่า เรียกได้ว่าเสี่ยงตายช่วยชีวิตเลยทีเดียว สำหรับฉากนี้เรียกว่า เหมือนต้องการคารวะภาคแรก เพราะเหมือนตอนฮิคารุช่วยมินเมย์จริงๆ สำหรับเชอริล ปกติคงมีแต่คนมารุมเร้าป้อยอ แต่อาจหาความจริงใจไม่ได้ เมื่อเจอกับอัลโต้ที่ทำท่าไม่ใส่ใจเธอเท่าไร ทำให้คนๆนี้มันน่าสนใจสำหรับเธอมาก เพราะอัลโต้เห็นเธอเป็นผู้หญิงธรรมดา ไม่ใช่เชอริลที่เป็นนางฟ้าที่สูงส่ง เชอริลจึงสามารถเปิดใจกับอัลโต้ได้ ยิ่งนานวันยิ่งถอนตัวไม่ถึง ถ้าดูเผินๆ เหมือนรันกะจะอาการหนักกว่าถึงขนาดจะร้องเพลงไม่ได้ หากอัลโต้ไม่รัก แต่โดยความรู้สึกส่วนตัว ผมคิดว่าความรู้สึกของเชอริลนั้นรักรุนแรงและลึกกว่า สัญลักษณ์อย่างนึงคือ เธอให้ต่างหูต่างหน้าแม่ ไปกับอัลโต้ไปถึงสองครั้ง ของสิ่งเดียวที่มีไว้แทนใจแม่ที่เธอไม่เคยพบหน้า โดยเฉพาะครั้งที่สองนั้น หมายถึงกว่าเธอไม่เหลือสิ่งใดแทนใจแม่ได้อีกแล้ว แต่เธอก็ยังให้ และใส่หูอัลโต้ให้กับมือ เหมือนว่าเธอติดสินใจแล้วที่จะฝากชีวิตไว้กับคนๆนี้ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 00:19:18 จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เชอริลและรันกะ ก่อนพบเชอริล สำหรับรันกะแล้ว เชอริลเป็นไอดอลในดวงใจที่ดูสูงส่ง แต่เมื่อพบกันแล้ว รันกะก็พบว่าเชอริลไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด แต่นี่คงเป็นเพราะเชอริลได้เปิดใจให้กับรันกะด้วย เพราะเชอริลยามปกติต่อบุคคลภายนอก เธออาจเป็นสาวไฮโซขี้วีนสำหรับทีมงาน และอาจเป็นนางฟ้าสำหรับแฟนเพลง แต่สำหรับรันกะ เธอเป็นพี่สาวที่ดีต่อเธอเสมอมา ทำไมเชอริลถึงได้ชอบรันกะนักหนา ไม่แน่ใจว่าเธอจะมีความทรงจำในวัยเด็กแค่ไหน แต่จากในเรื่องที่สื่อให้เราเห็น เชอริลเป็นเด็กเร่ร่อนในสลัมของ Macross Galaxy (ในยาวอวกาศระบบปิด มันมีสลัมกันด้วยรึ ??) เมื่อเกรซเก็บเธอมาเลี้ยง ก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้ว่า หลังจากอาการป่วยของเธอไม่แสดงอาการแล้ว ชีวิตก็อาจจะมีแต่การฝึกฝน ฝึกซ้อมร้องเพลง ด้วยการหล่อหลอมอันเข้มงวด ทำให้เชอริลดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว อายุเพียง 17 ก็เป็นไอดอลโด่งดังไปทั้งกาแลคซี่ แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตส่วนตัวที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครที่สนิทด้วยใจจริงนอกจากเกรซ เมื่อเชอริลมาพบกับรันกะที่แสดงความชื่นชอบในตัวเธออย่างจริงใจ คงทำให้เชอริลเอ็นดูรันกะมาก ตอนที่รันกะบอกว่าชอบเชอริลที่เชอริลเป็นคนที่ให้สัมภาษณ์ได้เก่งมาก เชอริลถึงกับขำ เพราะมันดูน่าเอ็นดูจริงๆ บริการร้องเพลงพิเศษของเชอริลจึงมอบให้รันกะแต่เพียงผู้เดียว แม้ว่าทั้งสองจะเป็นคู่แข่งด้านความรัก แต่ก็ไม่เคยแสดงอาการอิจฉาริษยาต่อกัน เรียกว่าแข่งกันทำคะแนนบนเส้นทางของตัวเอง ฝ่ายเชอริลนั้นเหมือนจะพร้อมที่จะเสียสละ เนื่องจากคิดว่าตนเองนั้นคงจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้ว จึงหวังเพียงว่าจะได้อยู่อย่างมีความสุขกับอัลโต้ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยพร้อมที่จะจากไปทันที เมื่อตอนก่อนออกรบศึกสุดท้ายเชอริลจึงขอร้องให้อัลโต้ช่วยรันกะมาให้ได้ ซึ่งเชอริลน่าจะคิดว่าเมื่อัลโต้มีรันกะแล้ว เธอก็คงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป อย่างไรก็ดี เมื่อที่รันกะช่วยรักษาโรคของเชอริลได้ แถมรันกะยังท้าทายเชอริลอีกว่า จะไม่ยอมแพ้ทั้งเรื่องเพลง และเรื่องความรัก เมื่อคู่แข่งท้าทายเช่นนี้ เชอริลจะจากไปง่ายๆก็กะไรอยู่ เลยได้บทสรุปอยู่ที่ “ยินดีรับคำท้าจ้ะ” สองสาวก็คงได้สู้กันต่อไปในภาค movie ละนะ อยากขอเสริมในประเด็น ความดังของรันกะและเชอริลซักนิด ในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง เชอริลโดนเคราะห์กรรมกระหน่ำอย่างหนัก ที่หนักหนาสำหรับชีวิตนักร้องของเชอริล คือ การที่รันกะดังซะจนกลบรัศมีเชอริลได้เกือบมิดเลย ร้านค้าถึงกับต้องเอา cd เชอริลมาขายลดราคาในกระบะ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้เชอริลมาก ถ้าคำนึงในแง่ความเป็นจริง มันอาจจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร เพราะ จริงๆแล้ว แฟนเพลงของทั้งสองคนน่าจะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร นั่นคือ แฟนเพลงกลุ่มเป้าหมายหลักน่าจะคนละกลุ่มกัน หากพูดถึงสไตล์ ผมว่ารันกะ จะออกแนว มอร์นิ่ง มุสุเมะ ซึ่งเน้นคิกขุ สดใส น่ารัก โมเอะ ส่วนเชอริล น่าจะสไตล์ โอสุกะ ไอ ซึ่งออกแนวเน้นพลังเสียง ถ้าเทียบของไทย อาจจะประมาณแก้ม เดอะสตาร์ แต่ ไอจัง จะครบเครื่องตรงที่แต่งเพลงเองได้ด้วย ซึ่งจากในเรื่อง เชอริลก็แต่งเพลงเองเหมือนกัน ดังนั้นการที่รันกะจะกลบเชอริลซะจมดินเนี่ย ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย กับกองยาน Macross Frontier ที่มีประชากรถึง 10 ล้านคน เทียบเท่ากรุงเทพฯ เลยนะ นี่ยังไม่นับแฟนเพลงในกองยานอื่นอีกนะ จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เกรซ เชอริล และรันกะ เมื่อ 11 ปีก่อน (2048) ซึ่งเกิดเหตุกองยาน 117 โดนวาจูร่าโจมตีนั้น เกรซได้เข้าใจว่ารันกะ หรือรหัส Q1 ตายไปแล้ว ทำให้เกรซเลือกเชอริลขึ้นมาเป็นตัวดำเนินการ Operation Carnival ซึ่งเกรซย่อมรู้อยู่แล้วแน่นอนว่า เชอริลนั้นเป็นหลานของ เหมา โนม ซึ่งโดยสายเลือดลูกหลานตระกูลนี้ เสียงเพลงน่าจะต้องมีพลังต่อธรรมชาติ แต่เหตุใด เชอริลในตอนนั้นถึงต้องไปอยู่ในสลัม ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึง หากจะเดา แม่ของเชอริลน่าจะต้องตายไปแล้ว หรือไม่ก็อาจพลัดพรากกันด้วยเหตุอะไรซักอย่าง แต่กรณีแรกน่ะเป็นไปได้มากกว่า เพราะเชอริลดังขนาดนี้ ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะปรากฏตัวให้เห็นแล้ว ไม่แน่ใจว่า เชอริลได้สูญเสียความทรงจำวัยเด็กมั้ย หรือแม่ตายตั้งแต่ก่อนจำความได้ แต่อย่างน้อยเธอก็รู้ว่า ต่างหูนั้นเป็นสิ่งแทนใจอย่างเดียวของแม่ที่เหลืออยู่ นอกจากนี้การที่เธอติดเชื้อไวรัส V ได้อย่างไรก็ไม่ได้กล่าวถึง มีจุดที่ผมยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องช่วงเวลาที่เกรซไปเก็บเชอริลมาเลี้ยง ในตอนที่คุรันหาข้อมูลเรื่องไวรัส V ในตอนที่ 18 พบผลงานวิจัยในปี 2047  หนึ่งปีก่อนเกิดเหตุกองยาน 117 และค้นพบวิทยานิพนธ์ตีพิมพ์ปี 2053 รายงานสภาพคนไข้ ซึ่งก็คือ เชอริล สิ่งที่สงสัยก็คือ ณ ขณะนั้นเชอริลอายุ 12 แล้ว เกรซเก็บเชอริลมาเลี้ยงตอนอายุเท่าไร แต่ก็เป็นไปได้ว่านั่นไม่ใช่รูปเชอริล ณ ปัจจุบันตอนนั้น เพราะผลงานวิทยานิพนธ์อาจเป็นการรวบรวมมาหลายๆ ปี ขอเดาว่าเกรซน่าจะไปค้นหาเชอริล หลังวาจูร่าโจมตีไม่นานนัก นั่นคือ เชอริลน่าจะอายุ 6-7 ขวบ แสดงว่าเกรซเลี้ยงเชอริล ในฐานะเครื่องมือ สำหรับการครอบครองกาแลคซี่มาถึง 10 ปี เมื่อเกรซเดินทางมาถึง Frontier จึงได้พบว่ารันกะ หรือ Little Queen ยังมีชีวิตอยู่ แต่ช่วงแรกๆ รันกะยังไม่ได้แสดงศักยภาพอะไรมาให้เห็น เธอจึงทำเพียงการจับตามองห่างๆ แต่ต่อมาเมื่อรันกะแสดงให้เห็นถึงพลังเสียงในการควบคุมวาจูร่า ซึ่งเชอริลในขณะนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังดังกล่าว เกรซจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่รันกะแทน โดยจะทิ้งเชอริลให้ตายไปด้วยไวรัส V โดยการเลิกให้กินยาควบคุม และยังแอบเปลี่ยนเลือดที่ให้หมอตรวจเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้อาการของเชอริล อย่างไรก็ดี การที่เชอริลมีกำลังใจฟื้นฟูทั้งสภาพจิตใจและร่างกายขึ้นมาในช่วงท้ายๆ เกรซก็ยังใช้ประโยชน์ในการแก้แค้นได้อีก เห็นได้จากตอนท้ายๆ เกรซได้เปิดเผยว่าถึงความแค้นของตนที่ต้องการให้ลูกหลานของ เหมา และ รันเช่ เมย์ แม่ของรันกะ ได้มาต่อสู้กันเอง ซึ่งถือว่าเลือดเย็นมากๆ ที่ทำกับเด็กที่ตนเองเลี้ยงมากับมือ เรียกได้ว่าตำแหน่งนังร้ายตัวแม่ คงต้องยกให้เกรซอย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆแล้ว ถึงแม้บทของเชอริล จะไม่ได้เป็นหลาน ดร.เหมา เธอก็ได้คะแนนไปเยอะมากๆแล้ว เนื่องจากผู้กำกับตั้งใจมอบความรันทดให้เธอมากเหลือนเกิน โดยเฉพาะตอนที่ผู้ชมรับรู้ว่าเธอโตมาในสลัม คะแนนสงสารก็พุ่งปรี๊ดทีเดียว แต่การที่เขียนบทให้เชอริล เป็นหลานของเหมา มันเป็นแนวทางของการ์ตูนญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง หรือจะเป็นส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ ที่ตัวเอกมักจะต้องมีชาติมีตระกูล พ่อบ้าง แม่บ้าง หรือบรรพบุรุษต้องเป็น มนุษย์ที่ไม่ธรรมดาอะไรซักอย่างนึง ประมาณว่าขอเอาชื่อเสียงคุณปู่เป็นเดิมพันอะไรแบบนี้ ซึ่งในการนี้ จึงทำให้ศักดิ์ศรีของตระกูลของเชอริล มีความทัดเทียมรันกะ จริงๆ ต้องถือว่ามากกว่านะ แต่รันกะได้เปรียบตรงเป็นผู้มีอำนาจโดยการเกิด เนื่องจากติดเชื้อไวรัส V ทางสายเลือด แต่เชอริลมาติดเชื้อทีหลัง จนเกือบตาย โดยรวมๆ จึงถือว่า ต้นตระกูล + พลัง อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน จึงเป็นคู่แข่งที่สมศักดิ์ศรี จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีประเด็นร้อนชวนสงสัยให้ลองช่วยกันวิเคราะห์ ก็คือ ตกลงเชอริล กับอัลโต้ มีอะไรกันหรือยัง จากที่ดูๆ และอ่านๆกระทู้ที่ว่าๆกัน มักจะคิดกันว่า เชอริลกับอัลโต้เรียบร้อยกันไปแล้ว แต่ผมฉุกใจคิดจากความเห็นนึงในกระทู้ที่พันทิพนี่แหละ ว่าขนาดมีดบาดยังไม่ยอมให้อัลโต้มาช่วยดูเลย เพราะกลัวจะติดโรคไปด้วย แล้วถ้า ล่ะ หากพิจารณาดูลักษณะของ virus V ผมว่ามันคล้ายๆโรคเอดส์มาก คือ ติดต่อโดยการถ่ายทอดของเหลวในร่างกาย และติดต่อกันได้ทางสายเลือด จากแม่สู่ลูก เชอริลจะยอมรึ หากมาดูฉากในตอนที่ 22 อีกครั้ง มันก็ดูก้ำกึ่งๆ เหมือนๆจะใช่แต่ไม่แน่ใจ ฉากนั้นอัลโตกอดแล้วภาพก็แพนขึ้นข้างบนซ้อนด้วยภาพในอวกาศและเสียเป่าเม้าท์ออร์แกนของ เบรร่า พอตัดภาพกลับมาปุ๊บ อัลโต้ เสื้อผ้ายังเรียบร้อยครบถ้วน ดูข้อความในมือถือที่หน่วย SMS ส่งมาให้ ปกติภาษาของภาพยนตร์ มันควรจะสื่อมากกว่านี้หรือไม่ เช่น อย่างน้อยเสื้อผ้าหลุดๆนิดนึงก็ยังดี อีกอย่าง message ที่มาตอนกลางคืน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องด่วนก็ต้องพรวดพราดรีบตื่น ถ้าเรียบร้อยกันแล้ว มันจะลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าจนครบชนิดไม่กระเด็นซักชิ้นงี้รึ  ยิ่งตอนถัดไปที่ที่พักของอัลโต้ ที่เชอริลโดนมีดบาด เธอพูดเหมือนอยู่ด้วยกันแล้ว แต่วันนั้นไม่มีอะไรกันอยู่แล้วแน่ๆ ผมว่าคงเป็นความตั้งใจที่จะให้ผู้ชมได้สงสัยกันเล่นๆ ก็ได้ จึงทำให้กำกวมๆแบบนี้ สำหรับผม คิดว่ามีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่า ยังไม่มีอะไรกันครับ เนื่องจากสื่อของภาพที่ออกมาให้เห็น และประกอบกับมันจะเป็นแนวทางที่ทำให้ เรื่องของรักสามเส้า สามารถดำเนินต่อได้ดีกว่า จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งที่ผมดีใจที่สุดเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายก็คือ การที่เชอริลไม่ตายนี่แหละครับ เนื่องจากตอนที่ผ่านๆมา มามันชวนให้ผู้ชมทำใจเหลือเกินว่าเธอต้องไม่รอดแน่ๆ ทำให้เหล่าแฟนๆเชอริลต้องลุ้นกันใจจดใจจ่อจนถึงตอนสุดท้าย สำหรับฉากจบที่ดูเหมือนเหมาสองนี้ ผมว่ามันลงตัวที่สุดแล้ว เพราะสิ่งที่ได้รับก็คือ การที่รันกะ มีการเติบโตด้านจิตใจที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น นั่นหมายถึงว่าไม่ว่าในอนาคต อัลโต้จะเลือกใคร อีกคนที่เหลืออยู่ก็จะมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ หากจะวิเคราะห์กันว่า จริงๆแล้ว ตั้งแต่เขียนบท ผู้กำกับตั้งใจให้เชอริลตายหรือรอด ผมก็คิดว่าคงตั้งใจให้รอดนั่นแหละ เพียงแต่เค้าจงใจ build อารมณ์ผู้ชม เหตุผลก็คือ หากให้เชอริลตาย คะแนนนิยมเธอซึ่งมากอยู่แล้ว มันจะยิ่งเทมามากขึ้นไปอีก อาจจะกลบรันกะไปเลย ดังนั้นเค้าน่าจะพยายาม balance คะแนนนิยมให้เพิ่มน้ำหนักให้รันกะมากขึ้น อย่างการที่ให้รันกะเป็นคนรักษาอาการป่วยของเชอริล ทำให้เชอริลเป็นหนี้ชีวิตรันกะเลยทีเดียว จากตอนที่ผ่านๆมา เชอริลจะเป็นคนช่วยเหลือรันกะเสมอ แต่ฉากนี้ รันกะก็ได้ใจไปเต็มๆเหมือนกัน อีกเหตุผลนึงที่สำคัญมาก (และคิดว่ามากที่สุด) ก็คือ การรักษาชีวิตของเชอริลไว้ จะทำให้การสร้างภาค movie , OVA หรือ ภาคต่อก็ดี ทำได้ง่ายขึ้นเยอะ ลองนึกภาพว่า ถ้าเชอริลตายไป ภาค movie จะทำอย่างไร เป็น flash back หรือ ก็ไม่รู้ว่าจะหาช่องเวลาตรงไหนไปแทรกเรื่องให้มันน่าสนใจ  หรือเป็นโลกคู่ขนาน ก็ไม่น่าเวิร์ค หรือ ต้องหานางเอกใหม่อีกคน ยิ่งไม่เวิร์คใหญ่ ต้องมาโปรโมทใหม่หมด ไม่น่าจะคุ้ม ดังนี้ การที่เชอริลมีชีวิตอยู่ จึงเป็นการตอบสนองเหล่าแฟนๆของเชอริลได้ดีที่สุดอยู่แล้ว เพราะถ้าภาคต่อไม่มีเชอริล ก็คงไม่มีใครรับประกันว่าจะรักษา rating ไว้ได้ขนาดไหน ไหนจะเพลงใหม่ๆอีกล่ะ จะทำออกมาได้มั้ย ซึ่งทั้งหมดนี้มันหมายถึงรายได้อันมหาศาลที่จะได้รับเพิ่มเติมอีก สุดท้ายนี้ ลองเดาแนวทางดูกันว่า ภาค Movie จะเป็นอย่างไร โดยส่วนตัวคิดว่า เท่าที่ลองคิดๆดู อาจจะมีประมาณนี้มั้งครับ 1. น่าจะมีมีศัตรูใหม่หรือเก่าคืนชีพ เจ้าจิตใต้สำนึกที่คุยกันอยู่ในสมองของเกรซ อาจจะออกหน้ามาเป็นศัตรูใหม่ หรือไม่ก็เกรซยังไม่ตาย จิตไปสร้างร่างขึ้นมาใหม่อีกครั้งและกลับมาแก้แค้น 2. รันกะกับเชอริล น่าจะมีคอนเสิร์ตร่วมกันเป็นครั้งแรก และเมื่อเป็นคอนเสิร์ตที่เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง และนางฟ้าแห่งทางช้างเผือกมาพบกัน มันก็น่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่มีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์มาครอสเลยนะ 3. มีการเปิดเผยถึงปริศนาที่ยังไม่ได้เฉลยอยู่บ้าง เช่น อาจมี flash back ไปช่วงวัยเด็กของเชอริล ทำไมเธอถึงต้องอยู่ในสลัม แม่เธอหายไปไหน ตั้งแต่เมื่อไร เธอติดไวรัส V ได้อย่างไร เจ้าจิตใต้สำนึกที่คุยกันอยู่ในสมองของเกรซเป็นใคร มาจากไหน 4. อาจจะจบด้วยการตัดสินใจของอัลโต้หรือไม่ก็ได้ หากจะให้สร้างต่อได้อีก อาจต้องทิ้งไว้ให้ผู้ชมลุ้นต่อ แต่คงไม่ใช่ออกแนวเหมาสองเหมือนภาค series ขอบคุณแฟนๆมาครอสทุกท่านที่อดทนอ่านมาจนจบ อยากให้มาครอสเป็นตำนานที่สร้างต่อ time line กันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสร้างถี่ๆเหมือนกันดั้มหรอก เพราะถ้าถี่เกินไป อาจต่อกันไม่ติดและต้องไปสร้างโลกคู่ขนานกันใหม่เรื่อยๆ ผมว่าทุกๆ  5 ปี น่าจะกำลังดี สำหรับภาคนี้ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้รู้สึกราวกับว่าเพื่อนเก่าได้กลับเจอกันอีกครั้ง จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 00:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาคนี่ผมชอบมากๆเลยครับ แต่ยังไม่สุด ผมก็เหมือนคุณโอบ็อท เป็นแฟนมาครอสตั้งแต่ออนแต่ออก ทันดูทุกตอน ออกตัวก่อนว่าผมเลิกดูการ์ตูนไปนายแล้ว ที่กลับมาดูมาครอสฟรอนเทียร์เพราะเป็นแฟนมาครอสครับ มาครอสฟรอนเทียร์ ดีทุกด้าน แต่ในตำนานมาครอส สุดยอดหนึ่งเดียวของผมคือมาครอส 7 (ที่หลายๆคนด่าแล้วด่าอีก) ผมดูมาครอส 7 แล้วได้อะไรมากกว่า มาครอสภาคแรก และมาครอสฟรอนเทียร์ซะอีก แต่ผมชอบฟรอนเทียร์มากๆเหมือนกันนะ จากคุณ : ขิงเจอเป็นประจำ - [ 13 ต.ค. 51 00:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมงงอีตรงจุดประสงค์ของเจ๊เกรซนี่แหละ อ่านแล้วเคลียร์ขึ้นเยอะขอบคุณครับ แต่ยังสงสัยอีกนิดคือจุดประสงค์ของตาหัวเห็ดกับเจ้าของ sms ยังไม่เคลียร์น่ะครับช่วยรีวิวด้วยครับ จากคุณ : bigcy - [ 13 ต.ค. 51 01:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1. น่าจะมีมีศัตรูใหม่หรือเก่าคืนชีพ เจ้าจิตใต้สำนึกที่คุยกันอยู่ในสมองของเกรซ อาจจะออกหน้ามาเป็นศัตรูใหม่ หรือไม่ก็เกรซยังไม่ตาย จิตไปสร้างร่างขึ้นมาใหม่อีกครั้งและกลับมาแก้แค้น  <<ประเด็นนี้เป็นไปได้มากเลยครับ  เพราะเกรซแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอและเหล่าผู้สมรู้ร่วมคิดในมาครอสกาแล็คลซี่ได้เปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตข้อมูล ซึ่งไม่มีร่างจริงแน่นอน ข้อเพียงมีเครื่องรับสัญญาณที่ไหนและร่างสำรองเหลืออยู่ก็สามารถคืนชีพได้อีก  อาจจับเอาประเด็นนี้มาใช้ในภาคMovieก็ได้นะครับ  อาจบุกมาจู่โจมตอนเชอริลกับรันกะกำลังจัดคอนเสิร์ตร่วมกันก็ได้ ป.ล. อัลโต้เป็นพระเอกที่แน่ที่สุดในเรื่องความรักของประวัติศาสตร์มาครอสทุกภาคแล้วสินะครับ เพราะกล้าประกาศเหมาสองอย่างที่ไม่เคยมีมีใครกล้าทำมาก่อน ป.ล.2 พอดีผมดูภาคFrontierจบเลยไปหาภาค7 มาดูเลยทำให้รู้สึกว่าแผนการครองจักรวาลของเกรซด้วยวาจูร่านั้นมีช่องโหว่ร้ายแรงอยู่อย่าง นั่นคือการที่ยังมีโปรโตเดวิลสุดยอดสิ่งมีชีวิตขั้นสูงสุดในจักรวาลอยู่ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีพลังทัดเทียมหรือสูงล้ำกว่าควีนวาจูร่าเสียด้วยซ้ำ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่กองทัพวาจูร่าของเกรซจะไม่ไปจ๊ะเอ๋กับพวกเขาที่ใดที่นึงในจักรวาล และไม่พ้นที่จะต้องต่อสู้กัน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นผมว่าเกรซคงไม่แคล้วโดนโปรโตเดวิลโฟลด์มากระทืบเดี้ยงแน่ๆ (^o^) จากคุณ : Ferrick - [ 13 ต.ค. 51 01:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจ้าของ sms น่าจะต้องการเครือข่ายไร้สายเรียลไทม์แบบของพวกวาจูร่าที่ไม่ว่าอยู่สุดขอบจักรวาลก็ติดต่อกันได้ไม่มีดีเลย์แถมเครือข่ายครอบคลุมทั่วทั้งจักรวาลเพื่อค้นหา SDF-2 ที่หายสาบสูญไปที่ไหนสักแห่งในจักรวาลนี้ ส่วนหัวเห็ดเห็น ๆ อยู่ว่ามันต้องการเก้าอี้ชัวร์ จากคุณ : papus - [ 13 ต.ค. 51 02:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ใช่ว่าอัลโต้ค้นพบตัวเอง เลยไปเลือกเบรร่าหรอ จากคุณ : Moccaholic - [ 13 ต.ค. 51 02:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากเป็นสาวกต้องสะสมนะคับ ขอแนะนำให้สะสมแผ่นบลูเรย์ไปเลยจะดีกว่า ปล.เตรียมหาฉบับมังกะมาอ่านกันได้แว้ว... จากคุณ : sorrowsong - [ 13 ต.ค. 51 03:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... จากคุณ : sorrowsong - [ 13 ต.ค. 51 03:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คาโดงาวะไม่ยอมน้อยหน้า ตามกระแสออกฉบับนิยายมาดูดเงินนักอ่านอีกต่างหาก... จากคุณ : sorrowsong - [ 13 ต.ค. 51 03:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...สนใจเล่มไหนก็ลองๆไปหาๆเอานะ จากคุณ : sorrowsong - [ 13 ต.ค. 51 03:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดูจบแล้วเฉยๆมากเลยแฮะ ตอนที่ผมชอบมากสุดคือตอนแรกกับตอนจบ แต่ตอนจบดูแล้วอารมณ์มันไม่พรุ่งพร่านเหมือนตอนแรกยังไงก็ไม่รู้(แต่ฉากบนโลกงดงามสุดๆ) จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ - [ 13 ต.ค. 51 07:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าเกรซตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะให้เชอริลตายด้วย V virus หรอกครับ เกรซน่ะ กะจะให้เชอริลตายไปตั้งแต่ตอนระเบิดกาว กัลเลีย 4 แล้วล่ะ แต่ตัวที่ทำให้ผิดแผนก็คือ ฮิเมะ กับรันกะ อีกสาเหตุที่จะทิ้งเชอริลอาจจะเพราะ เกรซเองก็น่าจะรู้ดีเรื่องสุขภาพของเชอริลอยู่แล้วด้วยครับ อาการคงจะหนักจนยากดอาการไว้ไม่อยู่ พักหลังจึงเริ่มมีอาการวูบเป็นพัก ๆ แถมช่วงหลังเชอริลก็งอแง เพราะยากินไปก็ไม่หายสักที เลยพาลไม่กินมันซะ แล้วพอมาถึงตอนที่มาต่อว่าที่เกรซไปเป็นผู้จัดการให้รันกะ เลยออกลายพร้อมทั้งเผยความลับเกี่ยวกับสุขภาพของเชอริลที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ให้ฟัง ฉากที่เชอริลทำครัวได้แผลแล้วไม่ให้ฮิเมะดูแผลให้เพราะกลัวจะติดเชื้อ ผมว่ามันก็แปลก ๆ อยู่ เพราะถ้าติดต่อผ่านทางของเหลวในร่างกายจริง คุณเธอคว้าฮิเมะมาดูดปากไปแล้วตั้งหลายรอบ ไหงไม่ยักกะกลัวฮิเมะติดโรคหว่า ??? ส่วนตอนจบนี่ผมออกจะเคืองไอ้ฮิเมะมันเหลือเกิน แหม่ พวกเธอทั้งคู่เป็นปีกของผม - -" จะเอาใครก็เอาสักคนสิ(ว้อย) แถมสองสาวยังจะมาทำท่าปลื้มมันอีก ช่างใจกว้างเป็นทะเลกันทั้งสองคนเลย แปลกใจมาก ที่ฮิเมะไม่โดนตื้บเพราะประโยคนี้ (ชิ) ส่วนใหญ่ที่เห็นถ้าไม่ใช่เพลย์บอยระดับเซียน ควบสองต่อหน้าแบบนี้ไม่รอดซักราย คอมมิคลายเส้นแปลก ๆ แฮะ โดยเฉพาะเชอริล ดูขัดกับอิมเมจมากเลย(ดูใสเกิน) ส่วนโนเวลน่าสนมาก จะมีใครแปลมาให้อ่านไหมเนี่ย จากคุณ : TheGreatSiva (TheGreatSiva) - [ 13 ต.ค. 51 09:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ถูกต้องครับ เกรซตั้งใจว่าจะให้เชอริลตายที่ดาว กัลเลีย4 แหละครับ แต่เมื่อผิดแผน จึงกะให้ตายเพราะไวรัส V แทน อ้อ เอดส์ ไม่ติดทางน้ำลายฉันใด ไวรัส V ก็คงไม่ติดฉันนั้น ดังนั้นแค่ดูดปากกัน คงไม่ติดเชื้อนะครับ เว้นแต่ในปากมีแผล ^_^ ป.ล. manga เชอริล แอ๊บแบ๊วเกินไปจริงๆ ผิด image มากมาย จากคุณ : โอบ๊อท - [ 13 ต.ค. 51 10:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าหานิยายมาแปล... จากคุณ : Ayumay (Ayumay) - [ 13 ต.ค. 51 12:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เวอร์ชั่น DVD หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ อ่านแล้วอยากดูมากมาย จากคุณ : ขอรบกวนทั้งชุดนอน - [ 13 ต.ค. 51 12:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องความต้องการของ เจ้าของ sms นี้ ดูเหมือนเฮียเเกอยากจะได้อะไรที่มันหนักข้อกว่าการ โพลด์ ได้ทั่วจักรวาลนะผมว่า มันคงไม่ใช่ว่าจะมีวิธีการที่สามารถ โพลด์ ข้ามกาลเวลาได้หรอกนะ จากคุณ : moe-factor - [ 13 ต.ค. 51 13:39:17 A:117.47.128.80 X: TicketID:190415 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เจ้าฮิเมะ มันได้กับท้องฟ้าครับ ... มันไม่สนใจผู้หญิงหรอก ... ฉากจบตอน 25 ก็ฟ้องอยู่ จากคุณ : pocketclan - [ 13 ต.ค. 51 14:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อืม .... จะว่าไป ฮิเมะ มันประกาศ เองเลย นี่หว่า เหมา สอง เธอทั้งสองคนคือปีกของฉัน ............. โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อิจฉา จากคุณ : vn, man - [ 13 ต.ค. 51 14:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฉากที่ผมประทับใจก็มี 1.ฉากรันกะร้อง Seikan Hikou ใน episode 11 2. ฉากที่ทั้งหนูกะและเชอริลร้องเพลง  What'bout my star? ใน episode  15 เป็นฉาก (ขอใช้ศัพท์ละครไทย) "แย่งผู้ชาย" ที่ดูเป็นผู้ดีและน่ารักมากๆ 3.ตอนที่ 20 ทั้งตอน ไม่ว่าจะเป็นตอนเชอริลตบเตือนสติรันกะแล้วกอดปลอบใจ (เท่าทีเห็นในการ์ตูนเรื่องอื่นจะเป็นแนวตบแล้วด่าเตือนสติ)ฉากเชอริลร้อง Diamond Crevasse ซึ่งรัศมีนางเอกจับอย่างแรง และฉากการตายของมิคาอิล 4.ตอนสุดท้ายทั้งตอน ไม่ว่าจะเป็นฉากเชอริลร้อง Northern Cross ซึ่งเท่มากๆ หรือฉากสองสาวร้อง Medley และฉากรบ เพิ่มเติม 1. ผมว่าเชอริลยังไม่ได้มีอะไรกับอัลโต่หรอก เพราะกลัวติดเชื้อ ส่วนที่จูบกันได้ก็คงคล้ายกับกรณีโรคเอดส์ล่ะครับ โอกาสติดเชื้อจากการจูบนี่น้อยมาก แต่ติดต่อจากเลือดหรือน้ำอสุจิได้ง่าย 2.ที่อัลโต้ว่า เธอทั้งสองเป็นปีกของฉัน เขาคงหมายความว่าทั้งเชอริลและรันกะต่างก็เป็นคนที่มีความสำคัญในชีวิตเขา คงไม่ได้หมายความว่าจะเหมาสองหรอก จุดข้องใจเล็กน้อย  (แต่ผมไม่ถือ) 1. เห็นด้วยว่าเพลงเชอริลกับเพลงรันกะเป็นคนละแนว การที่รันกะดังไม่น่าจะแย่งยอดขายเชอริลได้ (การที่แผ่นเพลงเชอริลถูกขายกระบะลดราคา มีคนนินทาเชอริล หรือโปสเตอร์ตกพื้นอาจจะไม่ได้สะท้อนถึงเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ทำให้เชอริล ซึ่งกำลังเศร้าจาการที่ทราบว่าตัวเองป่วยและเดินมาเห็น รู้สึกจิตตกก็ได้) 2. รันกะรู้ได้อย่างไรว่าเชอริลป่วย และพลังของรันกะสามารถรักษาเชอริลได้อย่างไร เพราะก่อนหน้านั้นทำได้เพียงแค่หยุดวัชระ ไม่รวมไปถึงการควบคุมไวรัสที่มาจากวัชระ 3. ความจริงรันกะ ไม่น่าจะต้องถึงขั้นตบเตือนสติเชอริล แค่พูดเฉยๆก็โอเคแล้ว เพราะเทียบกับกรณีเชอริลเตือนสติรันกะแล้ว รันกะฟูมฟายกว่า ส่วนเชอริลแค่พูดเฉยๆว่าเหนื่อยแล้ว อย่างไรก็ตาม รักเชอริลและ Macross Frontier ครับผม จากคุณ : the scholar - [ 13 ต.ค. 51 14:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ^ รันกะเอาคืนครับ (ตบกรูเหรอ!!) ล้อเล่น 555 จากคุณ : ขิงเจอเป็นประจำ - [ 13 ต.ค. 51 16:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทำไมถึงไม่วิเคราะห์อีกอย่างด้วยว่า ทำไมถึงให้ฮิเมะออกมาสวยกว่า 2 สาวอีก อิอิอิ จากคุณ : DEVIL PHOENIX - [ 13 ต.ค. 51 16:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #25 ไม่แน่นะครับ ตบซะแรง ขนาดนั้น ได้ทีต้องเอาคืน จากคุณ : vn, man - [ 13 ต.ค. 51 17:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ของภาคมังกะ ให้เชอริลแบ๊วเกินมันก็ไม่แปลกหรอกนะ อย่าลืมว่าอายุเชอริลจริงๆน่ะแค่ 17 เท่านั้น  แต่ยังไงๆก้ชอบแบบอนิเมมากกว่าแฮะ จากคุณ : Sigeon - [ 13 ต.ค. 51 17:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สรุปเป้าหมายของ บิรูร่าแท้จริงแล้วคือพบมินเมย์เหรอเนี่ย -*- fan มินเมย์นี่ฝ่า จากคุณ : Deus X Machina - [ 13 ต.ค. 51 19:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จุดที่น่าติง แต่ไม่ได้ติ คือเพลงในตอนจบครับ ผมต้องขอชื่อชมการร้องเพลงในตอนสุดท้ายของภาคนี้ครับ ผมดูแล้วขนลุกเลย มันรู้สึกมีพลังดี แต่ที่ต้องติงคือความสดใหม่ของเพลงครับ อุตส่าห์ตอนจบทั้งที ทำไมไม่แต่งเพลงใหม่ละครับเนี่ย เพลงตอนจบต้องค่อนข้างตรึงใจและคิดว่าพอพูดถึงภาคนี้เพลงนี้ต้องผุดขึ้นมาเลย อย่างภาคแรกต้องยังจบด้วย Do you remember love? ภาค 7 กับ 7dynamite ยังจบด้วย Try again กับ Angel voices แต่ผมละแอบเสียดาย ตอนจบเห็นคุณพี่ออสม่าพูดว่า totsugeki love heart ไอ้เราก็นึกว่าจะร้องเพลงกะเขาบ้าง จากคุณ : Bluedestiny - [ 13 ต.ค. 51 21:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อย่างภาคแรกต้องยังจบด้วย Do you remember love? ไม่ใช่ มั่วอย่างแรง ภาคแรกมินเมย์เลิกร้องเพลง ในตอนใกล้จบ แล้วก็เริ่มมีกำลังใจ จะกลับมาร้อง เพลงต่อ แต่ก็ไม่ได้ร้อง เพราะเรื่องมันจบเสียก่อน ที่สำคัญ ภาคแรกมันไม่มีเพลง Do you remember love? ซะหน่อย จากคุณ : .eAT - [ วันออกพรรษา 16:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ครับ เก่งครับเก่ง ผมมันมั่วเอง คุณน่าจะแย้งผมด้วยนะว่านั่นมันภาค Do you remember love? ตอบสนุกๆดันว่ากันซะเสียเลย จากคุณ : Bluedestiny - [ วันออกพรรษา 20:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห 31 do you remember love นี่มันเพลงในตำนานของภาค 1 เลยนะครับ จะไม่มีได้ยังไง ร้องตอนสู้กันในสงครามใหญ่ครั้งสุดท้ายไง ไปเปิด youtube ก็ได้ครับ จะเห็นลิน มินเมย์ ร้องแบบจะๆ จากคุณ : Cattagon - [ 19 ต.ค. 51 22:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มันภาคโรงหนังคร้าบถึงจะมีเพลง do you remember love? ภาคทีวีไม่มีชัวร์ ภาคหนังโรงเหมือนเค้าเอาบทบางอย่างมาแก้ใหม่ด้วย เนื้อเรื่องเลยแน่นขึ้น ภาคทีวีเห็นมินเมย์แล้วบางทีอยากเดินไปตบซะ จากคุณ : volt - [ 4 พ.ย. 51 23:04:30 ]