 |
SPOILER!!! อย่าแหย่หมูหลับ ใน Bleach 331 - Don't Believe The Hide -
ก่อนอื่นต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่เมื่อวานนี้ไม่ได้บอกว่าจะงดโพส Spoil นะครับ พอดีวันพฤหัสไปร่อนงานหนังสือมาเกือบทั้งวัน กลับมาเลยเหนื่อยจัด + ไม่ได้อ่านตอนใหม่ด้วย เลยตัดสินใจไม่เขียนไม่ลงวันนี้ดีกว่า
เห็นชื่อตอนที่ผมตั้งให้นี่คงเดากันได้หมดแล้วมั้งว่าใครจะเด่นสัปดาห์นี้ (หรือใครที่ไปอ่านภาษาอังกฤษมาก่อนก็คงรู้แล้วเหมือนกัน) เอาเป็นว่าไปดูความ "เมพ" ของเจ้าตัวกันเลยดีกว่าครับ :)
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่ซุยฟงจับอารันคาร์หัวเสือเขี้ยวดาบตรึงผนังไว้ได้ และกำลังจะใช้ความสามารถ "จิ้ม 2 ทีตาย" ของดาบซึซึเมะบาจิจัดการกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว
" 'เด็ดชีพในคราที่สอง' " เสียงนายเหนือแห่งหน่วยลับพูดขึ้น "นั่นละคือความสามารถของ 'ซึซึเมะบาจิ' เล่มนี้"
"หมายความว่าไง?" เจ้าเสือเขี้ยวดาบอยากรู้ "หมายความว่าแทงแค่ 2 ครั้งก็จัดการได้งั้นรึ?"
"ลองโดนดูเดี๋ยวก็รู้" ซุยฟงตัดบท แล้วปราดเข้าหาพร้อมเงื้อปลายดาบรูปเข็มหมายจะแทงอีกฝ่ายให้ด่าวดิ้น
แต่เจ้าเสือเขี้ยวดาบก็รอดไปได้ ด้วยการยิงซีโร่อัดใส่ผนังด้านหลังจนทลายลงมา วิถีพันธนาการที่ตรึงเจ้าเสือเขี้ยวดาบไว้เลยหลุดออก แล้วเจ้าเสือเขี้ยวดาบก็ฉวยจังหวะนั้นใช้โซนิดปราดเข้าใส่ทางด้านซ้ายที่ไร้การป้องกัน พร้อมตวัดดาบฟาดเข้าใส่เต็มเหนี่ยว
แต่ซุยฟงก็ไวสมศักดิ์ศรีหัวหน้าหน่วยลับ หมุนตัวกลับมาใช้ซึซึเมะบาจิสกัดการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ได้ฉิวเฉียด
"อ่อนหัดจริงนะ" เจ้าอารันคาร์เขี้ยวยาวค่อนขอด ขณะที่ฟาดดาบเข้าใส่ซุยฟงรัวเป็นจักรผัน "ถ้าไอ้ดาบนั่นต้องแทง 2 ครั้งถึงจะปลิดชีพศัตรูได้จริง พริบตาที่เจ้าหยุดข้าได้ ก็ควรจะใช้ก้าวพริบตาเข้าประชิดข้าแล้วโจมตีทันที แค่นี้ก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว ถ้าเป็นข้าละก็จะทำแบบนั้นแน่"
ค่อนขอดจบ ส้นเท้าของเจ้าหัวเสือก็ตวัดเข้าเต็มท้องของซุยฟง ส่งร่างบางของหัวหน้าหน่วยสาวจนลอยละลิ่วไปกระแทกตึกด้านหลังเสียงดังโครม
"จากลายบนเสื้อคลุมนั่น เจ้าเป็นหัวหน้าหน่วย 2 สินะ? ที่เป็นหน่วยลับน่ะ" ทส.ของบารากันถาม "ได้ยินว่าหน่วยลับเป็นหน่วยที่มีหน้าที่ลอบสังหารนี่นา วิธีสู้แบบนี้มันจะเหยาะแหยะไปหน่อยล่ะมั้ง วิธีสู้พรรค์นี้น่ะเรอะ ที่โซล โซไซตี้เค้าเรียกกันว่า 'ลอบสังหาร' น่ะ?"
ซุยฟงไม่ตอบคำถาม เพียงแต่ยกปลายนิ้วโป้งขึ้นปาดเลือดที่มุมปากทิ้งเท่านั้น
"...แต่ก็ดี" เจ้าหัวเสือว่าพลางโยนดาบขึ้นไปหมุนติ้วๆ กลางอากาศ "ยังไงก็มีเวลาพอจะได้ถามชื่อถามแซ่กันละ" แล้วเลื่อนสายตาลงมองซุยฟงที่นั่งอยู่บนซากยอดตึก "ฟราเชี่ยนของ ฯพณฯ บารากัน จีโอ เวก้า"
พูดถึงตรงนี้ ดาบที่โยนขึ้นไปกลางอากาศก็ตกลงมาพอดี จีโอตวัดมือรับดาบไว้ได้ แล้วตั้งท่าหันปลายดาบชี้ลงพื้นเอาสองมือเกาะกุมด้ามดาบไว้ด้วยท่าทางเหมือนนักรบกำลังสวดภาวนา
"จงฉีกเป็นชิ้นๆ ทิเกรสทอล์ก" (เสือเขี้ยวดาบวายุ)
--------------------------------------------------------------------
ตัดฉากมาอีกฟากหนึ่ง โอมาเอดะกับฟราเซี่ยนหุ่นล่ำกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน... หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ โอมาเอดะกำลังแหกปากว้ากเพ้ยไปพลาง แกว่งดาบฟาดใส่อีกฝ่ายเสียงดังก๊องแก๊งๆ ไปพลาง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ายืนเฉยๆ ให้โอมาเอดะฟันเล่นเท่านั้น
เพราะคมดาบของโอมาเอดะไม่ระคายผิดเจ้าทส.เลย ไม่แม้แต่จะขีดผิวของเจ้าล่ำให้เป็นรอยได้ด้วยซ้ำ
ที่สุด เจ้าอารันคาร์หุ่นล่ำก็เริ่มรำคาญ มันตวัดมือขวาตบหน้าโอมาเอดะเข้าฉาดใหญ่ ส่งร่างอ้วนล่ำให้หมุนติ้วๆ ลงไปแปะติดกับดาดฟ้าอาคารแห่งหนึ่งเข้าเต็มรัก
"เฮ้อ~" เจ้าล่ำลากเสียงยานคางยาวๆ ทำท่าว่าเหนื่อยใจ "ข้าอ่ะนะ จริงๆ อยากเจอกะพี่สาวผมทองคนนั้น (รันงิคุ) มากกว่า ไม่ได้อยากเจอกับไอ้หมูตอนอย่างเจ้าซักหน่อย"
"เฮ้ย เจ้าน่ะอ้วนกว่าข้าอีกไม่ใช่เรอะน่ะ?" รองหัวหน้าหุ่นแหนมป้าย่นย้อน "อย่างเจ้ามีสิทธิ์มาว่าข้าด้วยเรอะ ที่สำคัญ อย่างข้าเค้าไม่เรียกอ้วนเว้ย!! เค้าเรียก 'อวบ' ต่างหาก!! อวบสมบูรณ์น่ะ!! คนละมิติกับอ้วนแบบยาจกแบบเจ้านะโว้ย!! ไอ้เบื๊อก!!"
รำคาญน่ะรำคาญอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอโหวกเหวกโวยวายขี้แพ้ชวนตีใส่เป็นเด็กๆ แบบนี้ เจ้าอารันคาร์อ้วนล่ำก็ยิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้นเป็นทวีคูณ มันชักดาบฟันวิญญาณของตนออกจากฝัก แล้วประกาศปลดปล่อยดาบในทันที
"จงกระทืบให้แหลก"
สิ้นคำประกาศปลดปล่อยดาบ ร่างของเจ้าอารันคาร์อ้วนล่ำก็เปลี่ยนแปรไป ศีรษะกลายเป็นหัวช้างขนาดใหญ่มีงวงยาวเฟื้อยและงามหึมาโค้งคมราวกับตะขอเหล็ก ลำตัวมีขนอ่อนๆ ปกคลุมทั่ว ขณะที่สองขาเปลี่ยนจากขามนุษย์ไปเป็นขาสั้นๆ แต่อวบล่ำม่อต้อเหมือนขาช้าง
ปลดปล่อยดาบเสร็จ เจ้าฮอลโลว์หน้าช้างก็โดดดึ๋งจากที่ยืนอยู่กลางอากาศ ลงมายืนทะมึนอยู่ต่อหน้าโอมาเอดะ รูปร่างมหึมาของเจ้าอารันคาร์ในสภาพปลดปล่อย ทำเอารองหัวหน้าหน่วย 2 ถึงกับเบิกตาค้างมองอย่างตะลึง
"มามุต (นักรบคชสารยักษ์)"
สิ้นคำประกาศชื่อดาบ งวงยาวเฟื้อยก็ตวัดวูบราวฟาดแส้ พื้นคอนกรีตตำแหน่งที่โอมาเอดะยืนอยู่แตกกระจายในบัดดล
โอมาเอดะถลันหลบรอดจากการฟาดของเจ้าช้างยักษ์ไปได้หวุดหวิด ดวงตามีแววเหลือกลานด้วยความตื่นตะลึงต่อการเปลี่ยนร่างของอีกฝ่าย
"เว้ย!! แปลงร่างได้แบบนี้ขี้โกงนี่หว่า!!" ยมทูตอ้วนละล่ำละลักพล่าม "แถมตัวก็ใหญ่ขึ้นอีก!! ทางเรามีแค่ดาบเล่มเดียวเท่านั้น..."
ยังไม่ทันพล่ามจบ เจ้าอารันคาร์หัวช้างก็พุ่งปราดออกมาจากละอองฝุ่นที่ฟุ้งจากแรงโจมตี รวดเร็วจนโอมาเอดะไม่มีโอกาสถลันหลบ รู้ตัวอีกที กำปั้นของเจ้าอารันคาร์หัวช้างก็ซัดเปรี้ยงเข้าใส่ ส่งยมทูตร่างอ้วนลงไปจูบพื้นยางมะตอบเต็มรัก ในสมองมีแต่ดาวพร่าวพราวเต็มไปหมด
"เฮี้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงข้าในสภาพปลดปล่อยเคลื่อนไหวช้าลงเพราะรูปร่างก็เถอะ!!" เจ้าทส.พล่ามบรรยายสรรพคุณโรคอ้วนของตัวเอง "แต่เจอกับไอ้อ้วนอย่างเจ้า แค่นี้ก็เหลือแหล่แล้วเฟ้ย...!!"
คำรามจบก็โดดทิ้งตัวจากยอดอาคารลงมาใส่โอมาเอดะที่นอนแบ็บอยู่ข้างล่าง เล่นเอาเขาถึงกับต้องกลิ้งตัวหลุนๆ เป็นยางรถสิบล้อ หลบท่าช้างล้มของเจ้าอารันคาร์ไปแบบเฉียดเส้นยาแดง เจ้าอารันคาร์ยักษ์ไม่รอช้าตามกระทืบซ้ำทันทีไม่เปิดโอกาสให้ลุก แต่โอมาเอดะก็ยังหลบรอดไปจนยันตัวลุกขึ้นได้
"เอ้าๆๆ ว่าไงล่ะ!?" เจ้าช้างแมมมอธโห่ใส่อย่างลำพอง "การเคลื่อนไหวแค่นี้ก็ตามไม่ทันเรอะหา!!"
โอมาเอดะเห็นอีกฝ่ายตามกระทืบไล่จี้มาติดๆ ก็เปลี่ยนจากวิ่งหนีทางตรงเรียบๆ มาเป็นโดดไต่กำแพงตึกขึ้นที่สูงทันที โดยไม่ลืมหันมาปล่อยก๊ากเยาะเย้ย "ไอ้หน้าโง่เอ๊ย!! สิ่งสำคัญในการรบในเมืองน่ะไม่ใช่ความเร็วแต่เป็นไหวพริบเฟ้ย!! ตัวโตปานนั้นถึงจะลงจากที่สูงง่ายแต่ปีนกลับขึ้นไปยาก!! ขึ้นมาสูงขนาดนี้อย่างเจ้าไม่มีทาง... อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!"
คำพูดท่อนท้ายหยุดชะงัก แล้วเปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องจ๊ากจนลูกกะตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า เมื่อเจ้าช้างยักษ์ที่ตัวเองเพิ่งหันมาเยาะเย้ยว่าน้ำหน้าอย่างเอ็งไม่มีทางปีนขึ้นมาถึงตึกสูงนี่ได้ ดั๊นออกแรงโดดผึงเดียวลอยปรู๊ดขึ้นมาถึงตำแหน่งสูงลิ่วที่ตัวเองยืนอยู่ในพริบตาราวกับติดจรวด
"อะ อะ อะ อะ ไอ้ขี้โก๊งงงงง!!" โอมาเอดะแหกปากกรี๊ด "ตัวโตปานนั้นแรงโดดเยอะขนาดนี้ได้ไงฟะ!!"
"ไม่รู้ไม่ชี้เว้ย" เจ้าช้างเยาะเย้ย มุมปากเผยอยิ้มอย่างผู้กำชัย แล้วเอ่ยปากด้วยสำเนียงเหมือนสั่งสอนคนใกล้ตาย "ดูคนน่ะอย่าดูแต่เปลือกนอกจำไว้"
สั่งสอนจบก็ตวัดงวงวาบ ฟาดเปรี้ยงลงไปหมายกบาลของโอมาเอดะเป็นเป้าเอาแบบโป้งเดียวหัวแหลกเหมือนแตงโมถูกช้างเตะ
พริบตานั้นเอง...
วูบ!! ร่างของโอมาเอดะที่กำลังตาเหลือกลานไปพลางแหกปากโวยวายไปพลางพลันหายวับไปต่อหน้าต่อตาเจ้าช้างยักษ์ งวงอวบใหญ่ราวกับลำตัวงูเหลือมยักษ์จึงฟาดอากาศเข้าเต็มๆ เกิดเป็นเสียงวูบแหลมเฟี้ยวบาดหู
เจ้าช้างยักษ์ชะงักวูบไปครู่หนึ่งด้วยความประหลาดใจ ขยับจะมองหาตำแหน่งที่โอมาเอดะหลบไปตั้งหลัก
ตอนนั้นเองที่มันรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างสัมผัสอยู่กับไหล่และศีรษะ โอมาเอดะนั่นเอง เขากำลังยืนอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเจ้าช้างยักษ์ มือข้างที่ว่างอยู่จับศีรษะของมันไว้มั่น
คราวนี้เจ้าช้างยักษ์จึงต้องตกเป็นฝ่ายเบิกตาค้างด้วยความตะลึงลานบ้าง "ปะ... เป็นไปได้ยังไง...?"
"...คิดว่าข้าเป็นใครกันหือ?" อันดับสองแห่งหน่วย 2 เอ่ยเสียงเข้มผิดอิเมจตัวโจ๊กคนเดิมลิบลับ "ข้า โอมาเอดะ มาเรจิโยะ รองหัวหน้าหน่วย 2 ควบตำแหน่งหัวหน้าหน่วยย่อยที่ 2 ของหน่วยลับ 'หน่วยลาดตระเวน' นะเว้ย!!" ดวงตาเปลี่ยนเป็นแววเย็นชา มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก "หน่วยลับน่ะ ฝีมือไม่มีทางขึ้นสนิมเด็ดขาด"
ไอ้ช้างยักษ์เดือดจัดเมื่อโดนดูถูกถึงเพียงนี้ มันหันตัวกลับไปสะบัดมือฟาดเข้าใส่โอมาเอดะเต็มเหนี่ยวชนิดกะจะเอาให้ตาย
โอมาเอดะพลันหายวับไปอีกครั้ง คราวนี้ไปอยู่ทางด้านหลังของเจ้าช้างยักษ์ในตำแหน่งสูงขึ้นไปในอากาศ ทิ้งให้เจ้าช้างยักษ์ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่กับที่ ก่อนที่จะประกาศปลดปล่อยดาบขั้นต้น
"จงบดขยี้!! เกะเกะซึบุริ!!"
ดาบฟันวิญญาณพลันเปลี่ยนสภาพไปเป็นลูกตุ้มเหล็กติดโซ่หนาหนักราวกับลูกโบว์ลิ่งมีหนามแหลมติดอยู่รอบลูกตุ้ม โอมาเอดะจับโซ่ไว้มั่น แล้วเหวี่ยงลูกตุ้มหวดเปรี้ยงลงไปเต็มหน้าแงของเจ้าช้างยักษ์ในทันที
"...จะบอกอะไรไว้อย่างนะ" รองหัวหน้าหน่วย 2 เก๊กหล่อพูดหลังเล่นงานเจ้าช้างยักษ์แบบเต็มๆ ได้สำเร็จ "ดูคนน่ะอย่าดูแต่เปลือกนอกจำไว้"
ตอนนี้รู้สึกเหมือนอ.คุโบจะจงใจหยิกๆ กัดๆ ตัวเอง (หรือผู้อ่าน) นิดหน่อยแฮะ ด้วยการเอาเรื่องที่คนอ่านต่างวิจารณ์ถึงการกระทำอันไม่เหมาะสมของตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้ (เช่น พล่ามเรื่องความสามารถตัวเองต่อหน้าชาวบ้าน ไม่ยอมปิดเกมโป้งเดียวจบไปเลย จนเค้าหาทางแก้ลำได้ เป็นต้น) มาพูดให้แสบเล่นผ่านทางปากของตัวละครหน้าตาเฉยเลย แบบนี้แปลว่าคอมเมนต์ทุกเม็ดของคนอ่านถึงอ.จริงๆ สินะ หรือว่าแกรู้อยู่แล้วว่ามันต้องออกมาอีหรอบนี้เลยอาจจะเตรียมบทไว้ให้พวกนี้ได้แก้ต่างสิ่งที่ตัวเองทำไม่เข้าท่าไปหรือเปล่านะ (สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านตอน)
และสุดท้าย โอมาเอดะ ขอยกนิ้วให้เอ็งเลย (ว่ะ) รั่วได้ใจจริงๆ กว่าจะโชว์ความอ้วนพลิ้วให้เห็นได้ วิ่งสู้ฟัดกันเกือบครึ่งตอนเลย ถามจริงเหอะ ฝีมือก็มีทำไมถึงต้องทำตัวแบบนั้นด้วยห๊ะ... เห็นแล้วเง็งแทน... หรือจะถือสุภาษิต "หมูที่ดีต้องรู้จักซ่อนเขี้ยวตันของตัวเอง" เลยต้องทำเก๊กโน่นเก๊กนี่ปิดบังฝีมือตัวเอง
ยังไงก็แล้วแต่ รอดูน้องผึ้งฉะกับเสือเขี้ยวดาบในตอนหน้าโลดครับ
ปล. ภาษาสเปนอาทิตย์ละคำ (2 คำ)
ทิเกร (Tigre) - แปลว่า "เสือ" (ส่วนคำหลังนั้นหายังไงก็หาไม่เจอครับ ใครรู้รบกวนช่วยบอกด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ)
มามุต (Mamut) - ชื่อดาบฟันวิญญาณของเจ้าอารันคาร์เตี้ยล่ำที่สู้กับโอมาเอดะ แปลว่า "ช้างแมมมอธ" ครับ
จากคุณ :
Drake
- [
24 ต.ค. 51 19:30:52
]
|
|
|
|
|