ความคิดเห็นที่ 1 มีชาติกำเนิดที่ไม่ชัดเจน จึงน่าค้นหา จากคุณ : montes - [ 2 มิ.ย. 52 12:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะมองอีกมุมได้ว่าคนเขียนต้องการสื่อว่า พระเจ้าหรือสวรรค์นั้นไม่ได้ดีเด่อะไร จากคุณ : meddy hao - [ 2 มิ.ย. 52 12:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะถ้ายึดตามหลักความจริงแล้ว  ผู้ชนะย่อมเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ ก็ไม่น่าแปลกใจที่หลายๆคนอยากจะจินตนาการให้มุมมืดของตำนานเป็นเรื่องในทางตรงกันข้าม จากคุณ : sonata (ด้ายทอไหมทอง) - [ 2 มิ.ย. 52 12:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพลักษณ์แบบ Anti Hero เป็นอะไรที่ทำออกมาแล้วมักให้ความรู้สึกที่ฉีกแนวเสมอ คงเหมือนการ์ตูนของฝั่งอเมริกา ที่ยุคนึงเบื่อๆกับตัวเอกที่ดูเป็นฮีโร่จ๋า ต่อมาก็เลยสร้างตัวละครที่ออกแนว Anti Hero ขึ้นมามากมายอย่าง Lobo , Spawn ประมาณนั้น นอกจากนั้น ความเชื่อ การยึดติดในหลักคำสอน ในยุคแห่งเหตุผล เริ่มพิสูจน์ให้เห็นอะไรหลายๆอย่างที่ไม่น่าเชื่อถือในหลักคำสอน'บางอย่าง' ดังนั้น ลูซิฟอร์ ก็เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ ในการแหกคอกความเชื่อที่แล้วๆมา สิ่งที่เป็นความดี กับสิ่งที่เคยเชื่อว่าเป็นความชั่วร้าย ที่เคยคิดกันในอดีต บางที ความจริงอาจเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงก็ได้นะ อีกอย่างตัวละครแบบที่ดีสุดๆ พระเอกสุดๆ บางทีก็น่าหมั่นไส้ และคนอ่านหรือคนเขียนการ์ตูนเองอาจจะหมดความนิยมไปพอประมาณ แต่ถ้าเป็นบุคลิกแบบที่ร้ายนิดๆเนี่ย มันก็เป็นตัวละครที่น่าเร้าใจไม่เลวเลยล่ะ จากคุณ : justify black eyes - [ 2 มิ.ย. 52 12:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะถ้าเขียนแบบให้ฝ่ายพระเจ้าหรือฝ่ายเทพเป็นฝ่ายดีฝ่ายถูกเรื่องมันจะโหลเพราะเขาเขียนแบบนั้นมาหลายพันปีแล้ว พอจะแต่งเรื่องใหม่แต่งแนวใหม่มันก็ต้องมีฉีกเนื้อเรื่องจากแนวเดิมๆ ด้วยการวาดผู้ร้ายให้เป็นพระเอกหรือเป็นตัวดี แต่ถ้ามันเลวอย่างเดียวก็กลัวจะโดนแอนตี้เลยต้องยัดบทดีๆให้มัน ส่วนถามว่าทำไมมันได้รับบทบ่อยก็คงเพราะมันดังกว่าเทพองค์อื่นๆและรู้จักกันในวงกว้าง(เพราะถูกกล่าวไว้ในไบเบิ้ล) จากคุณ : bigcy - [ 2 มิ.ย. 52 12:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื่องจากผู้ชนะเป็นผู้มีสิทธิ์ปกครอง ในฐานะพระเจ้า ผู้แพ้ไม่ใช่ว่าจะเลวกว่าหรือดีกว่าพระเจ้าเสมอไป ยิ่งปัจจุบัน คนไม่น้อยจะมีคำถามว่า พระเจ้าดีจริงหรือ? แล้วผู้ที่ต่อต้านพระเจ้าต้องเป็นคนเลวเท่านั้นรึปล่าว? เหมือนนักปกครอง นักการเมือง ใครชนะก็ได้ขึ้น แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็น่าป้องกระโหลกทั้งคู่ จากคุณ : CoollyCat - [ 2 มิ.ย. 52 12:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อมีแสงย่อมมีความมืด เมื่อมีความมืดก็ย่อมต้องการแสงสว่าวครับ ดังนั้นสองอย่างนี้จึงขาดไม่ได้ ปกติสังคมก็มองเพียงแค่เลว หรือดีเพียงเท่านั้น...ถือเป็นตรรกบางอย่างที่กลายเป็น มาตรฐานเดียวกัน ยิ่งคนในสมัยก่อน เกรงสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้า พระคัมภีร์คือสิ่งที่น่าเชื่อถือมากที่สุด พระเจ้าถูก ผู้ต่อต้านหรือผู้ที่แตกต่างคือผิด... เมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้ก็ยังเป็นแบบนั้น จนเมื่อศตวรรษที่ผ่านมาเท่านั้นเองที่สังคมเริ่มเปิดกว้าง พวกที่คิดแตกต่างจากคำสอนศาสนาได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่... สำหรับผู้เคร่งศาสนาแล้ว มันก็คือพวกคนเลวเป็นมารอยู่ดี จากคุณ : เจ้าชายแห่งความฝัน - [ 2 มิ.ย. 52 13:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องง่ายๆ  มันเท่ จากคุณ : genius koch - [ 2 มิ.ย. 52 13:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "ลูซิเฟอร์" ชื่อมันดูรู้สึกเท่มั้ง แค่เอ่ยคำออกมายังรู้สึกเลยว่ามันเท่วุ้ยคำนี้ จากคุณ : BestHuafoo (Firewars) - [ 2 มิ.ย. 52 14:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 doom จากคุณ : -APEM - [ 2 มิ.ย. 52 14:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่มเติมความเห็นส่วนตัวอีกนิด... ผมว่าพระเจ้า หรือซาตาน คือสิ่งที่จิตใจของมนุษย์สร้างขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่เรากลัวเกรงนับถือ. อย่างในเรื่อง โซริวเดน มังกรและวัวเป็นศัตรูกัน แต่ไฉน ทางฝั่งตะวันตกจึงนับถือวัวเป็นพระเจ้า และ ทางตะวันออกนับถือมังกรเป็นพระเจ้า... ความแตกต่างระหว่างตำนานกรีกก็มี.. สาเหตุที่ฮาเดสเป็นคนชั่วร้าย...เพราะอะไร แล้วทำไม ซุสไม่เป็นคนปกครองนรก แล้วโพเซดอนไม่ไปปกครองโอลิมปัส และทำไม ฮาเดสถึงไม่ปกครองมหาสมุทร... ดูๆแล้ว ซุสนี่ทั้งเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และใจแคบกว่าฮาเดสเยอะมาก ซึ่งบางตำนานนี่เขียนออกมาว่า ฮาเดสนี่ออกแนวโดนซุสใส่ร้ายป้ายสี ส่งไปอยู่ในนรกเพราะอิจฉารูปโฉมก็มี - -* สิ่งเหล่านี่ เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา เสริมเติมแต่งไปกันบ้าง... สำหรับลูซิเฟอร์ หรือซาตาน ผู้ต่อต้านพระเจ้า เทวดาตกสวรรค์... คือสิ่งชั่วร้ายแน่หรือ... แล้วหากพระเจ้ามีจริง การเผาคนทั้งเป็นสมัยก่อน เพียงแค่ข่าวลือว่าเป็นแม่มด เพียงแค่นี้ ใช่หรือกับคำสั่งสอนของท่าน สำหรับพระเยซู สาวกในคริศจักร หรือในคำภีร์ไบเบิล ย่อมต้องเคยอ่าน ว่าพระองค์คือผู้ลงมารับผิดจากบาปของมนุษย์ คำสอนของท่านคือ รัก.. หาใช่การฆ่ากัน เหตุไฉน ศาสนจักรจึงเข่นฆ่าคนเพียงเพราะข่าวลือ ไร้เหตุผลมากๆ อยากตำนานอดัมกับอีฟ ทั้งคู่ไปกินผลแห่งปัญญา เพราะคำยุยงของงู หรือร่างจำแลงของซาตาน ทำให้พระเจ้าเนรเทศออกจากเอเดน... ใช่เพราะพระเจ้ากลัวมนุษย์เท่าเทียมตนหรือไม่ ??? อย่างตำนานล้างโลก ชำระล้างโลก..เพราะเมื่อมนุษย์เจริญถึงขีดสุด ความสกปรกก็ย่อมมีมากขึ้น จึงต้องล้างซะใหม่แล้วสร้างใหม่ซะ... นั่นเป็นตำนานเพื่อเตือนว่าเราอย่าทำความชั่ว หรือเพื่อต้องการให้มนุษย์ กลัวสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้ากันแน่... สองแง่มุม ซึ่ง พูดถึงหลักแล้ว ด้านดี คือพระเจ้า ศาสนา ส่วนอีกด้านคือ ซาตาน และการปฏิเสธกฏเกนฑ์ต่างๆนั่นเอง... เปรียบให้ใกล้ตัวอีกนิด เด็กไม่ฟังคำสอนพ่อแม่คือเด็ไม่ดี เด็กที่ทำตามคือเด็กดี... จากคุณ : เจ้าชายแห่งความฝัน - [ 2 มิ.ย. 52 14:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก็คงเพราะตามความเห็นของหลายๆท่านนั้นแหละครับ เพราะมหาเทพลูซิเฟอร์นั้นมีความคลุมเครือสูงมากมในด้านดีหรือร้าย ยิ่งตอนตกลงมาก็แทบจะไม่เห็นวีรกรรมอะไรร้ายๆมากเท่าไร(เพราะส่วนหนึ่งถูกเข้าใจว่าเป็นคนๆเดียวกับซาตาน เวลาจะแยกวีรกรรมที่ทำไว้เลยไม่ค่อยเห็นเพราะคิดว่ามันฝีมือของซาตานมากกว่า) มังก้าและเกมส์บางเรื่องถึงกะแบ่งลูซิเฟอร์ออกเป็น 2 ภาคเลยหลังตกลงมาจากสวรรค์(ลูซิฟาร์ คือ ภาคที่ยังมีปีกเทพ และลูซิเฟอร์คือภาคที่มีปีกมาร) ประกอบกับลักษณะของศาสนาคริสต์นั้นดำรงอยู่ภายใต้กฏอย่างเข้มงวด ผู้ที่ทำผิดจากกฏแม้จะทำเพื่อผู้อื่นก็จะถือว่าเป็นคนเลวไปแล้ว ทำให้ลูซิเฟอร์ที่ทำผิดอย่างคลุมเคลือนั้นจึงถูกมองเป็นคนดีหรือคนเลวได้ตามแต่มุมมองเพราะลัทธิลูเฟอร์นั้นเชื่อว่ามหาเทพลูซิเฟอร์นั้นต่อต้านสวรรค์ เพราะพระเจ้าคิดจะให้มนุษย์เป็นดั่งตุ๊กตาของท่านต้องทำตามสิ่งที่ท่านว่าทุกประการห้ามขัดขืน ลูซิเฟอร์จึงก่อกบฏเพื่อให้มนุษย์เป็นอิสระ เพราะอดัมกับเอวา(อีฟ)นั้นในตอนแรกเริ่มก็เป็นเหมือนเด็กที่ทำตามที่พระเจ้าสั่งโดยไม่คิดสงสัยอะไรเลยรู้แค่ว่าต้องทำตามนั้นคือความถูกต้อง จนกินผลไม้รู้ผิดถูกชั่วดีมีสติปัญญามีความคิดเป็นของตัวเอง พระเจ้าจึงรู้ว่าไม่สามารถควบคุมทั้ง 2 ได้อีกต่อไปแล้วจึงขับไล่ทั้งคู่ลงมาก่อนที่จะคิดปฏิวัติแบบลูซิเฟอร์ โดยเหล่าเทพเองก็ไม่ต่างกับอดัมและเอวาก่อนกินผลไม้เชื่อว่าสิ่งพระเจ้ากำหนดคือความถูกต้องทั้งปวง ผู้ที่ปฏิเสธคือความชั่ว ที่เหล่ามหาเทพระดับ 1 ทั้งหลายต่างพากันตกสวรรค์เพราะเริ่มคิดได้ว่ากฏที่ถูกสร้างมันไม่ถูกต้องมันควบคุมมากเกินไป จึงพากันตกสวรรค์ลงมา ในปัจจุบันมหาเทพสูงสุดจึงหยุดแค่ระดับ 2 และมีผู้นำในปัจจุบันคือ มิคาเอล มหาเทพแห่งความถูกต้องผู้ยึดถือสิ่งที่พระเจ้ากำหนดเป็นที่สุด แต่ในไบเบิ้ลจะกล่าวตรงข้ามว่า ลูซิเฟอร์นั้นอิจฉามนุษย์ที่จะได้รับทุกอย่างจึงก่อกบฏ แต่ไม่ว่าจะอันไหนก็ไม่มีใครยืนยกได้ว่าถูกต้อง 100% กลุ่มคนที่ไม่ชอบในกกที่เข้มงวดจึงเข้าไปที่ลัทธิลูซิเฟอร์และเชื่อว่าแผ่นดินนี้เป็นของพวกเค้า กับศาสนาคริตส์ที่ผุ้คนยังเชื่อว่าพวกเค้าจะได้รับการอภัยและกลับสู่สวรรค์ นั้นคงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมลูซิเฟอร์ถึงได้เป็นพระเอกในหลายเรื่อง แต่ถ้าในทางการตลาดมันคงจะเป็นเพราะ Anti-Hero มันน่าสนใจและดึงดูดมากกว่าละนะ ------------------ แถม สำหรับคนที่เล่นเกมสืซี่รี่ย์ ชินเมย์งามิเทนเซย์ 1-2 มาก็คงจะรู้ว่าลัทธิในเกมส์มันก้คือการเอาศาสนา 3 ศาสนาใหญ่มาแปลงนั้นเอง เมไซอาร์ - ก็คือศาสนาคริสต์ที่กำรงอยู่ในกฏ ผู้ที่ละเมิดคือคนผิดอย่างไม่ต้องสอบสวนหรือมองเหตุผลใด ไกอา - ก้คือศาสนาอิสลามที่อิสระเกินเหตุจนไม่รู้ว่าอะไรมันถูกมันผิดอย่างแน่ชัด สับสนไปมาจนมองไม่ออก(บางครั้งการบูชายัญมันก็คือเรื่องดีไปเลย) อันนี้จำชื่อไม่ได้ - ก็คือศาสนาที่เป็นกลางศาสนาพุทธ ไม่หาถูกหรือผิดแต่เรื่องที่จะปล่อยวาง จะถุกหรือผิดใจเราเป็นผู้กำหนดให้ และที่เอามาพูดนี้ก็ไม่ใช่อะไรเพราะเกมสืนี้ลูซิเฟอรืก้เหมือนๆจะอยู่ฝ่ายพระเอกด้วยนั้นเองแหละ จากคุณ : wingaura - [ 2 มิ.ย. 52 14:45:13 A:125.25.70.232 X: TicketID:190907 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นสิ่งที่มีทั้งด้านดีและด้านร้ายในตัว มันดูน่าสนใจกว่าตัวละครแบบดีสุดขั้วหรือชั่วสุดขีด จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 2 มิ.ย. 52 15:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ว่าจะไม่ตอบ แต่ก็ชักจะอดไม่ได้ กับ การใส่ความเห็นโดยไม่รุ้ ขอยึดตามพระคัมภี อย่างเดียวนะครับ มหาเทพลูซิเฟอร์นั้นต่อต้านสวรรค์ เพราะพระเจ้าคิดจะให้มนุษย์เป็นดั่งตุ๊กตาของท่าน บาปแรก ของคริส และร้ายแรงที่สุด คือ หยิ่งผยอง/อัตตา /pride อัตตาเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวง หมายถึงความต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญและอำนาจเหนือผู้อื่น (เช่นต้องการเป็นพระราชา) การที่รักตนเองมากจนเกินไป หลงในอำนาจและรูปลักษณ์ของตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบตนเองเทียบเท่ากับพระเจ้า) ซึ่งบาปประการนี้ทำให้ ลูซิเฟอร์  ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ เนื่องจากลูซิเฟอร์เห็นว่าตนมีอำนาจเท่ากับพระเจ้าและสามารถสร้างพรรคพวกของ ตัวเองเพื่อต่อต้านและไม่เคารพพระเจ้า คนที่มีความโอหังจะสนใจเฉพาะตนเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะเป็นเช่นไร มาถึงตรงนี้ อาจมีบางท่านสงสัยว่า ทำไมพระผู้เป็นเจ้าต้องสร้างเทวดา ก็ในเมื่อพระองค์ทรงสรรพานุภาพเหนือฟ้าดิน สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายในสกลจักรวาล พระองค์ก็น่าที่จะสามารถที่จะทำทุกสิ่งได้ด้วยพระองค์เองอยู่แล้ว ในที่นี้เหตุผลที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างเทวดาขึ้น ก็เนื่องมาจากกุศโลบายอันแยบยลของพระองค์นั่นเอง เป็นเพราะพระองค์ทรงคำนึงถึงว่า พระองค์เองนั้นมีพระลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ทรงเป็นความสว่างของความสว่าง ทรงสถิตในที่ซึ่งไม่มีผู้ใดจะเข้าไปถึง ผู้ซึ่งมนุษย์ไม่เคยเห็น และจะเห็นไม่ได้... (1 Timothy 6:16) ดังนั้น ก็หมายความว่า หากเมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาแล้ว มนุษย์จะไม่สามารถรู้จักพระองค์ในฐานะพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระเจ้าไม่พึงถ่อมพระองค์เองลงมาติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โดยตรง และโดยตัวของมนุษย์เองก็ไม่มีความสามารถที่จะเข้าถึงพระองค์ได้อยู่แล้ว ดังนั้น พระองค์จึงทรงสร้างเทวดาขึ้นมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพระผู้เป็นเจ้า กับมนุษย์ให้เข้าถึงกัน ซึ่งหน้าที่ของเทวดานี้ก็ตรงกับความหมายในคำศัพท์ Angel ซึ่งก็คือการเป็นผู้ส่งข่าวสารนั่นเอง นอกจากเทวดาแล้ว ก็ต้องมีอีกพวกหนึ่งอยู่คู่กับเทวดา ก็คือ พวกมารร้าย ( Demons ) ถ้าจะเปรียบเทียบก็คือ เมื่อมีความดีแล้ว ก็ต้องมีความชั่วร้าย เป็นของคู่กัน และขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้ ซึ่งตามตำนานของศาสนาคริสต์นั้น เหล่ามารร้ายพวกนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ก็คือพวกเทวดาส่วนหนึ่งที่เห็นผิดเป็นชอบนั่นเอง กล่าวคือ เมื่อแรกเริ่มที่พระเจ้าสร้างเทวดาขึ้นมานั้น พระองค์ได้ประทานปรีชาญาณ ฤทธิ์อำนาจและอิสระเสรีที่จะทำอะไร ๆ ก็ได้ให้แก่เทวดา เมื่อเทวดามีอิสระก็หมายความว่า พวกเขามีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อพระเจ้าก็ได้ และปรากฏว่ามีเทวดาพวกหนึ่งที่แสดงความไม่เชื่อในพระเจ้าออกมา พวกเขามั่นใจในฤทธิ์อำนาจและสติปัญญาของตัวเอง โดยลืมไปว่าผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมาคือพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งทั้งนี้ การปล่อยให้เทวดามีอิสระในความคิดความเชื่ออาจจะเป็นเพราะพระปรีชาญาณของพระ เจ้า ซึ่งต้องการทดลองน้ำใจของเหล่าเทวดาที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาก็เป็นได้ เทวดาและมารร้าย บรรดาพวกเทวดาที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ถูกชี้นำโดยเทวดาองค์หนึ่ง นามว่า ลูซิแฟร์  ( Lucifer ) ซึ่งเป็นผู้ประกาศว่า  ข้าจะไม่รับใช้พระเจ้า  และก่อกบฏต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ทว่านักบุญอัครเทวดามิคาแอล ได้นำกองทัพเทวดาที่จงรักภักดีต่อพระเจ้า มายับยั้งการก่อกบฏที่นำโดยลูซิแฟร์ การสู้รบขยายตัวใหญ่โตจนกลายเป็นสงครามสวรรค์ และในที่สุดเหล่าเทวดาที่ดีก็ขับไล่พวกเทวดานอกคอกนั้นลงไปจากสวรรค์ได้ สำเร็จ แต่พระผู้เป็นเจ้ายังทรงมีความรักความเมตตาต่อเหล่าเทวดานอกคอกนั้นอยู่ และทรงให้อภัยต่อความหลงผิดคิดชั่วของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงตัดสินใจที่จะไม่ทำลายล้างเหล่าเทวดาพวกนั้นเสีย แต่ทรงริบฤทธิ์อำนาจบางประการคืนมา เพื่อมิให้พวกเขาใช้อำนาจในทางที่ผิด พวกเทวดาตกสวรรค์เหล่านี้ไม่มีที่จะไป จึงต้องไปขออาศัยยอมตนเป็นบริวารของ ผู้ที่เป็นหัวหน้าแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง ที่เรียกว่า ซาตาน ( Satan ) ซึ่งอาศัยอยู่ในนรกภูมิ อันเต็มไปด้วยความลำบากยากแค้น มืดมิด และบรรยากาศที่หมดหวังหดหู่ ทำให้ในที่สุดความชั่วร้ายของซาตานก็เข้าเกาะกุมจิตใจของเหล่าเทวดาพวกนี้จน สิ้น และก็กลายเป็นมารร้ายไป พวกมารร้ายนี้คอยทำทุกวิถีทางเพื่อให้มนุษย์หมดสิ้นความหวังในพระผู้เป็น เจ้า ล่อลวงให้มนุษย์หลง มัวเมาในกิเลสความชั่ว และทำความผิดบาปร้ายแรง เพื่อที่ว่าเมื่อมนุษย์เหล่านั้นตายแล้วจะได้ตกนรก ให้มาได้รับทุกข์ทรมานในนรก และจะล้างสมองให้กลายเป็นพวกเดียวกับมัน เพื่อที่มันจะได้มีพวกมาก ๆ แล้วจะได้กลับไปทำสงครามกับเหล่าเทวดาบนสวรรค์เพื่อครอบครองสกลจักรวาลนี้ ให้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 15:27:24 จากคุณ : Night_Angel - [ 2 มิ.ย. 52 15:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นได้ทั้งเทพและมารในร่างเดียว เลยมีอะไรเล่นได้เยอะดี จากคุณ : เล่นทีไรแผ่นก็ค้างไม่จบซักที (ซินเดอเรล่า) - [ 2 มิ.ย. 52 15:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 *3*... สรุปหลักๆคือ แนวคิดที่เคลือบแคลงในพระเจ้า อย่างที่หลายๆคนรู้ นักเขียนหลายๆท่านแยกซาตานและลูซิเฟอร์ออกจากกัน และไม่มีเทพตกสวรรค์องค์ใหนพลิกบทมาเด่นแบบลูซิเฟอร์ได้เลย สงสัยดังสู้ไม่ได้ แต่ก็น่าแปลกใจอย่างที่กล่าวไว้ที่ต้นกระทู้ว่า ทำไม ลูซิเฟอร์ได้นำเสนอด้านที่แปลกไปจากที่เราพบเห็น แต่เทพองค์อื่นๆ กลับไม่ใช่ อย่างเทพีอาเธน่า ที่ถ้าเรามองในแง่การเมืองแล้ว อาเธน่านี่ร้ายสุดๆ แถมออกแนวขี้โมโหร้ายบ่อยๆ ด้วย (ทั้งๆที่บางเรื่องมันดูจิ้บๆ) แต่อาธน่าไม่เคยได้รับบทตัวร้ายเลย (ยกเว้นในซีรี่ส์ Xena ที่กล้านำเสนอในด้านนี้) หรืออย่าง Eris (Discord) ไม่ว่าจะไปโผล่ในเรื่องใหน ก็เป็นตัวร้ายยัน ทั้งๆที่วีรกรรมทั้งชีวิตเธอมีแต่ ไปโยนแอปเปิ้ลทองคำ ทำให้วงแตก ก็แค่นั้น (สงครามเมืองทรอย) แต่เธอกลับไปรับบททั้ง เทพีแห่งความชั่วร้าย(เซย่า) เทพีแห่งความสับสนวุ่นวาย(ซินแบด) และถึงขั้นโดนหาว่าเธอเป็นแม่มดในสโนว์ไวท์ (เพราะแอปเปิ้ลเนี้ยนะ) กับ แม่มดที่สาปเจ้าหญิงให้หลับไม่ตื่นในเจ้าหญิงนิทรา หมายความว่าเทพหลายๆ องค์ก็ดัง แต่ไม่มีใครกล้านำเสนอออกไปให้แหวกแนว นอกจากลูซิเฟอร์ จริงๆ ส่วนตัวชอบแนวคิดในเรื่องบาสตาร์ด ที่ลูซิเฟอร์ โดนเตะลงจากสวรรค์ "น่าจะ" เพราะ สงสัยในอำนาจของพระเจ้าว่า ทำไมถึงปล่อยให้ "ซาตานที่ต่อต้านพระเจ้ายังคงอยู่ในอาบิส" ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับเรื่องของ เผ่าเนฟิลิมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้รบกับ เทพตกสวรรค์  :D จากคุณ : joyka - [ 2 มิ.ย. 52 15:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นหลายๆคนตอบแล้วชักเห็นได้ว่าหลายๆคนเริ่มแยกความจริงกับนิยาย เกมส์ การ์ตูน ออกจากกันไม่ได้ไปซะแล้ว ขอให้สำเหนียกไว้อย่างว่าสิ่งเหล่านี้มาจากจินตนาการของคนเขียนซึ่งก็เป็นมนุษย์ธรรมดาๆเช่นเดียวกับท่านไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ดินฟ้าและไม่ใช่ศาสดาของศาสนาใดๆ ดีไม่ดีมันอาจเป็นแค่โอตาคุที่มานั่งทำเกมส์ วาดการ์ตูนขายก็เท่านั้นอย่าไปยึดจริงจังมาก  ตอบท่านจอยก็เพราะในไบเบิ้ล ยังมีกล่าวถึงลูซิเฟอร์จริงๆแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ตีความสับสนได้ว่าใช่เป็นคนๆเดียวกับซาตานหรือไม่ บวกกับรูปลักษณ์ที่งดงามจนเปรียบได้ว่าเป็นดาวแห่งอรุณ ทำให้สามารถครีเอทคอสตูมอลังการณ์ๆ ได้ง่ายล่ะมั้ง "จิตใจของเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้ากระทำให้สติปัญญาของเจ้าเสื่อมทรามลงเพราะเห็นแก่ความงามของเจ้า เราเหวี่ยงเจ้าลงที่ดินแล้ว เราตีแผ่เจ้าต่อหน้ากษัตริย์ทั้งหลาย เพื่อตาของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะเพลินอยู่ที่เจ้า" เอเสเคียล 28:17 ส่วนมหากาพย์โอดีสซีนั้นเขาเขียนชัดเจนไว้แล้วว่าใครทำอะไรบ้าง ใครเป็นลูกใคร ดัดแปลงมั่วเดี๋ยวอาจโดนด่า แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 15:52:00 จากคุณ : bigcy - [ 2 มิ.ย. 52 15:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พวกเทวดาตกสวรรค์เหล่านี้ไม่มีที่จะไป จึงต้องไปขออาศัยยอมตนเป็นบริวารของ ผู้ที่เป็นหัวหน้าแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง ที่เรียกว่า ซาตาน ( Satan ) ซึ่งอาศัยอยู่ในนรกภูมิ อันเต็มไปด้วยความลำบากยากแค้น มืดมิด และบรรยากาศที่หมดหวังหดหู่ ทำให้ในที่สุดความชั่วร้ายของซาตานก็เข้าเกาะกุมจิตใจของเหล่าเทวดาพวกนี้จน สิ้น และก็กลายเป็นมารร้ายไป น่าจะชัดเจนในคำตอบมากกว่า Lucifer   not  SATAN อ้อลืมตอบคุณจอย Lucifer เป็นหัวหน้า เทวดากบฏ และยังเป็น อัครเทวดา อีกด้วย (พอๆกับมิคาเอล) เลยดังไง เพราะอำนาจ รองจากพระเจ้า (แต่ก็ต่ำกว่ามนุษย์) แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 16:15:07 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 16:06:59 จากคุณ : Night_Angel - [ 2 มิ.ย. 52 15:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะลูซิเฟอร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงคราม จึงเป็นกบฏ ถูกขับไล่ไป ผู้ชนะจึงเป็นผู้เขียนบันทึกประวัติศาสตร์(ไบเบิ้ล) แน่นอนว่า ข้อความในนั้นย่อมต้องกล่าวให้ร้ายแก่ผู้แพ้อยู่แล้ว ผู้คนที่ศึกษาไบเบิ้ลนั้น ย่อมต้องเชื่อถือว่าข้อความนั้นเป็นความจริง ถ้ามองว่าไบเบิ้ลคือบันทึกประวัติศาสตร์เล่มหนึ่ง โดยตัดประเด็นทางศีลธรรมที่ยัดเยียดเข้ามา โดยไม่สนใจว่าใครดีใครเลว ว่ากันที่ประวัติศาสตร์เพียวๆ ก็พอจะตัดสินได้ว่า ลูซิเฟอร์ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพระเจ้า จึงก่อกบฏ และพ่ายแพ้ไป ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พวกเราท่านไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงต้องเลือกเชื่อเอาตามบันทึกเท่าที่มี แต่บันทึกนั้นก็เขียนโดยผู้ชนะ ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ได้ว่ามันจริงหรือเท็จอย่างไร สำหรับผมแล้ว ถ้าหากสิ่งที่ไบเบิ้ลบันทึกไว้เป็นจริง พระเจ้า(หรือใครก็ตามที่อ้างนามของพระเจ้า) ก็ฆ่าล้างสังหารผู้คนจำนวนมากไม่ต่างจากซาตาน ต่างกันแค่เพียงว่า คนที่ถูกฆ่า ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นคนเลวเท่านั้นเอง ลองย้อนดูประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักกัน คนที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้คนจำนวนมากบางคนก็ถูกยกย่องเป็นมหาราชได้ ทั้งอเล็กซานเดอร์ เจงกิสข่าน นโปเลียน ฯลฯ เพียงเพราะคนเหล่านี้เป็นผู้ชนะ แต่บางคนก็กลายเป็นอาชญากรสงคราม อย่างโนบุนากะ ฮิตเลอร์ ฯลฯ เพียงเพราะคนเหล่านี้เป็นผู้แพ้ ทั้งๆที่คนเหล่านี้ก็สังหารคนจำนวนมากมายไม่ต่างกัน พอดีกว่า วิจารณ์มากไปจะกลายเป็นกระทู้ศาสนาบวกประวัติศาสตร์ซะแล้ว จริงๆผมไม่ได้ต่อต้านหลักทางศาสนานะครับ หลักที่ดีผมก็ยอมรับนับถืออยู่แล้ว แต่บางเรื่องราวมันมีประเด็นให้คิด ไม่ใช่ให้เชื่ออย่างเดียว จากคุณ : omega. - [ 2 มิ.ย. 52 16:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มองดูคห. บนๆ ถ้าเป็นที่ห้องศาสนา คงโดนพี่น้องชาวคริสต์ถล่มเละไปแล้ว (ไม่รู้จะมีคนเอาลิ้งค์กระทุ้นี้ไปถามที่ห้องศาสนารึเปล่า) สำหรับผมที่เป็นชาวพุทธ แต่มองในแง่นักศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ ก็คงจะบอกได้ว่า  ลูซิเฟอร์นั้นอยู่ในสถานะของเทวดาระดับสูง ที่คิดการกบฏต่อพระเจ้า  จึงถูกขับไล่จากสวรรค์  เพียงแต่โดยความเป็นจริงแล้ว ความชั่วร้ายของลูซิเฟอร์อยู่ในฐานะที่ "คิดกบฏต่อพระเจ้า" แต่ความชั่วที่ชัดเจนกว่านี้ มองไม่ค่อยออก คือโดยทั่วไปถ้าเรามองความชั่ว ก็น่าจะเป็นการทำให้คนอื่นเกิดความเดือดร้อนวุ่นวาย หรือการเบียดเบียนผู้อื่น แต่ในแนวคิดทางศาสนาคริสต์นั้น ความชั่วที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งก็คือการคิดกบฏต่อพระผู้เป็นเจ้า นักเขียนการ์ตูนที่ไม่ได้เป็นชาวคริสต์ (หรืออาจจะมีบ้างแต่ไม่ได้เคร่งครัดอะไรนัก) จึงมักจะมองว่า.. ถ้าหากลูซิเฟอร์เพียงแต่กบฏต่อพระผู้เป็นเจ้าล่ะ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนเลว จะเป็นอย่างไร เรื่องก็เลยสื่อออกมาอย่างในการ์ตูนหลายๆเรื่อง ที่ยกให้ลูซิเฟอร์เป็นพระเอก และพระเจ้าในอีกความหมายหนึ่ง อาจจะเป็นฝ่ายไม่ดีไป จะว่าไปแล้วความคิดเหล่านี้ ถ้าเกิดขึ้นในยุโรปยุคกลาง ที่เขาเรียกว่า ยุคมืด ที่ศาสนจักรมีศาลไต่สวนความศรัทธา (อินกวิซิชั่น) พวกโอตาคุหรือบรรดานักเขียนการ์ตูนเหล่านี้อาจจะโดนจับประหารชีวิตไปแล้วก็ได้ เหมือนอย่างนักวิทยาศาสตร์ที่วิเคราะห์วิจัย อะไรออกมา แล้วไม่ตรงกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไม่ว่าจะเป็นโลกกลม  ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่ใช่โลก   อะไรทำนองนี้ แล้วก็เลยถูกจับขึ้นศาลไต่สวนศรัทธา ถูกบังคับดื่มยาพิษบ้าง เผาทั้งเป็นบ้าง  บางคนเป็นวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ อย่างเจนเน่ เดอลุก (อีกชื่อหนึ่งคือ โจน ออฟ อาร์ก) ยังถูกจับเผาทั้งเป็นด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นแม่มด   แต่เพราะมาอยู่ในยุคที่โลกเสรีแบบนี้ บรรดานักเขียนการ์ตูนก็เลยเขียนได้สบายไป ถ้าหากว่าไม่แสดงออกในทางกระทบทางศาสนารุนแรงเกินไป ก็พอจะอยู่ได้ ป.ล. ที่ยังสงสัยจนบัดนี้ก็คือ  ถ้าพระเจ้าทรงห้ามไม่ให้อาดัมกับอีฟไปกินผลไม้แห่งปัญญา ทำไมต้องสร้างเอาไว้? ถ้าไม่อยากให้กิน ก็ไม่ต้องสร้างเอาไว้ก็หมดเรื่อง  แล้วก็สร้างซาตานขึ้นมาเป็นศัตรูกับพระองค์ จนซาตานมาแปลงเป็นงู หลอกอาดัมกับอีฟให้กินผลไม้แห่งปัญญา แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 16:59:26 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 16:58:51 จากคุณ : chohokun - [ 2 มิ.ย. 52 16:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้แต่ปลง กับบางความเห็น 1. คิดทึกทักเอาเอง  แยกแยะไม่ออกว่า พระคัมภีไบเบิล รวบรวมมาจากอะไร และจากบันทึกกี่เล่ม กี่คนเขียน กี่ยุคสมัย และ ผู้บันทึกแตกต่างชนชาติกันแค่ไหน  แต่กลับคิดว่าเป็นหนังสือบันทึกของผู้ชนะ X 2. คิดเองเออเองว่าทุกสิ่งที่จะต้องถูกต้องตามสติปัญญาของตน หยิ่งผยอง ว่าเก่ง ต้องการมีอำนาจความสำคัญเหนือผู้อื่น  = pride X  แต่ลืมว่า มนุษย์นั้นไซ้ยังเยาว์วัยนัก ยังมีสิ่งที่รู้น้อยกว่าสิ่งที่ไม่รุ้  หลงในอัตตรา โดนล่อลวงจนหลงทางเอาง่ายๆ ขอคุณพระคุ้มครอง / พระเจ้าอวยพร / ขอสันติจงมีแก่ท่าน สำหรับท่าน chohokun คำตอบ ค่อนข้างชัดเจน ในความเห็นแรกของผมแล้วครับ ว่า เหตุใด Lucifer ต้องทำการก่อกบฏ เพราะ เหตุสั้นๆง่ายๆ อย่าบาปแรกสุดที่เกิดขึ้นคือ หยิ่งผยอง ว่าเก่ง ต้องการมีอำนาจความสำคัญเหนือผู้อื่น เพราะมีอำนาจเกือบจะเทียบเท่าพระเจ้า  แต่พระเจ้ากลับยก มนุษย์ให้อยุ่เหนือกว่า พวกตนทั้งๆที่ไม่มีฤทธิอำนาจ เทียบเท่าเลย แถมยังต้องรับใช้ เหล่ามนุษย์  เสียอีก  ในข้อเขียนผมก็อธิบายชัดเจนแล้วว่า ทั้งนี้ การปล่อยให้เทวดามีอิสระในความคิดความเชื่ออาจจะเป็นเพราะพระปรีชาญาณของพระ เจ้า ซึ่งต้องการทดลองน้ำใจของเหล่าเทวดาที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาก็เป็นได้ และก็โดนล่อลวงจนได้ และเหตุที่กินผลไม้แห่งความรุ้ เพราะอะไร รบกวนอ่านบทปฐมกาล ก็น่าจะเข้าใจ อ้ออีกเรื่อง SATAN มาจากไหน ซาตานเป็นคำสัญลักษณ์ซึ่งมีความหมายว่าปฏิปักษ์ หรือ ผู้ขัดขวาง ไม่ใช่ตัวตน หลายครั้งเราเป็นปฏิปักษ์ หรือขัดขวาง นำพระทัยของพระเจ้า เราก็คือซาตานนั่นเอง = ตัวเราเองนั่นแหละ คิดว่ามีก็มี คิดว่าเกิดก็เกิด (แบบพุทธ เลยนะครับ) สรุปง่ายๆ SATAN มิใช่ lucifer แต่เกิด จาก Lucifer   จิตใจของท่านก็จะถูกล่อลวงให้หลงไปจากความสัตย์ซื่อ และความบริสุทธิ์ต่อพระเจ้า = เกิดจากด้านมืดในตัวเรานี่แหละ เทวดายัง มีด้านมืดขึ้นมาได้เพราะ ให้เทวดามีอิสระในความคิดความเชื่อ ซึ่งต้องการทดลองน้ำใจของเหล่าเทวดาที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 17:29:12 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 17:16:01 จากคุณ : Night_Angel - [ 2 มิ.ย. 52 17:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลูซิเฟอร์นั้น พูดถึงก็ให้อิมเมจว่าชั่วร้ายแล้วครับ ไม่ต้องไปดูอะไรมากมาย การทำตัวชั่วร้ายให้เป็นดี จะให้อิมเมจของพวกAnti-hero ดึงความสนใจได้มากกว่า ส่วนที่ว่าทำไมต้องลูซิเฟอร์นั้น เพราะว่าเป็นสิ่งที่หลายคนรู้จักมักคุ้นได้ในทันที ประกอบกับเรื่องราวทำให้คนรู้สึกน่าสนใจตีความต่างๆนาๆ มันก็คล้ายๆสามก๊กแบบใหม่ที่มัก เอาเล่าปี่มาตีความว่าไม่ใช่คนดี เป็นพวกลวงโลก ขงเบ้งจริงๆไม่เก่ง อะไรแบบนั้นนั่นแหละ มันดึงให้คนสนใจมากกว่าว่าทำไมจึงคิดแบบนั้น ทำเป็นหนังสือก็สะดุดตาขายได้มากกว่า ทั้งที่จริงๆอาจจะเขียนโม้ มั่วข้อมูลอะไรไปเรื่อยก็ได้ สมัยเด็กเคยถามฝรั่งเหมือนกัน เรื่องลูซิเฟอร์ ประมาณว่าน่าจะเท่ห์นะ ชื่อแปลกดี เค้าบอกไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย เหมือนศาสนาพุทธ เราก็มีใครซักคนนี่แหละ จำไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าพระเทวทัตรึเปล่า ฝรั่งยังรู้เรื่องศาสนาพุทธดีกว่าผมเลย= ='''' ก็นะหลายความเห็นในนี้ เห็นแล้วขัดตาขัดใจมาก ถ้าเอาไปเขียนในห้องศาสนา คงโดนสวนไปหลายดอก ฐานมั่วข้อมูล จากคุณ : Robonin S.knight - [ 2 มิ.ย. 52 17:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมนับถือพุทธครับ จากคุณ : czrs - [ 2 มิ.ย. 52 17:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เกือบๆหลุดประเด็น จากหัวกระทู้สะแล้ว  ที่จขกท ถามคือทำไมบทบาทของ ลูซิเฟอร์ จึงได้เป็นตัวเอกบ่อยๆในสื่อต่างๆอย่าง อนิเม นิยาย การ์ตูน บ่อยๆ ไม่ใช่รึ?   ไหงกลายเป็นวิเคราะห์ตัวพระคัมภีร์ไปได้หว่า ^_^ . . . ว่าแต่คัมภีร์ทางศาสนาเหล่านี้จะเรียกว่าบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้รึเปล่า เนี่ย (นอกเรื่องอีกตู) ปล.  มีคอมเม้นนึงที่สะดุดใจผม ''ป.ล. ที่ยังสงสัยจนบัดนี้ก็คือ  ถ้าพระเจ้าทรง ห้ามไม่ให้อาดัมกับอีฟไปกินผลไม้แห่งปัญญา ทำไมต้องสร้างเอาไว้? ถ้าไม่ อยากให้กิน ก็ไม่ต้องสร้างเอาไว้ก็หมดเรื่อง'' ^ ^ เป็นคำถามที่ผมคาใจมานานมากแล้ว  หากมองในแง่ logic แบบการวางแผนนั่น คือการวางนัยยะแอบแฝง จากเบื้องบนทีเดียว... เคยถามเพื่อนที่โบสถ์เขาก็ตอบ คำถามนี้ไม่ได้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 18:48:14 จากคุณ : Kross_ISC - [ 2 มิ.ย. 52 18:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ู^ ^ ไม่ใช่ว่าพระเจ้าสร้าง ผลไม้แห่งปัญญาขึ้นมาก่อนแล้วสร้างมนุษย์ตามหรือครับ.. จำได้ว่า พระเจ้า สร้าง ดิน น้ำ ต้นไม้ สัตว์ แล้วสร้างมนุษย์เป็นสิ่งสุดท้าย.. ดังนั้น ไม่ใช่ว่า สร้างมนุษย์ แล้วสร้างต้นแห่งปัญญา แล้วค่อยมาสั่งห้ามกิน - -* ผมว่าเรื่องพวกนี้มันมีจุดที่ลักลั่นย้อนแย้งเยอะมาก เพราะมีหลายตำรา ทั้งคัมภีร์เก่าคัมภีร์ใหม่ อีกทั้งฉบับดัดแปลงอีกมากมาย สมัยที่คริสจักรมีอำนาจสูงสุด... การหาผลประโยชน์จากการแอบอ้างพระคัมภีร์เนี่ยเยอะมาก เพราะงั้นต่อให้เถียงกันแทบตายก็หาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ เพียงแค่อ้าบางบทของพระคัมภีร์เท่านั้นเอง อ่อ ตอบไปสองสามกระทู้ลืมตอบว่าทำไมลูซิเฟอร์ถึงได้เป็นตัวเอก... เพราะว่า  หนึ่งคือพลัง ซึ่งเป็นรองเพียงพระเจ้า สอง มีสองด้าน ทั้งดีและร้าย บางทีมีข้อสันนิฐานมาว่า ซาตาน คือร่างแบ่งของพระเจ้าซึ่งถูกพระเจ้าผนึกไว้ เพราะพระเจ้าคือตัวแทนของแสงสว่าง ซาตานคือตัวแทนของความมืด ซึ่งหากมีแสงสว่างอย่างเดียว ก็ย่อมมองไม่เห็นอะไร ซึ่งความมืดก็เช่นเดียวกัน จึงต้องมีทั้งแสงสว่าง และความมืดไงครับ จึงจะสมดุลกัน(ตามหลักเต๋า) อีกทั้งบุคคิกแบบดิบๆ เถื่อนๆ เท่ๆ งดงาม จึงเป็นที่น่าสนใจได้ง่ายกว่า... ผมว่า บางเรื่องจับโยงว่าลูซิเฟอร์กับมิคาเอลเป็นกิ๊กกันก็มี DS นั่นไง - -* ลูซิเฟอร์ มีคนรู้จักมากกว่าในฐานะผู้ต่อต้านพระเจ้า แต่ มิคาเอลก็น่าจับมาเล่นมากมิใช่น้อย เพียงแต่บทพลิกได้ยากกว่า น่าเบื่อกว่านั่นเอง... และหากว่าตัวตนจริงๆของพระเจ้าก็ยังเป็นสิ่งคลุมเครืออยู่อีกเช่นเดียวกัน - -** บางก็ว่า สรรพสิ่งและจักรวาลนั่นล่ะคือพระเจ้า บ้างก็ว่าทรงอวตารลงมาเป็นมนุษย์ ในรูปแบบศาสดา... ผมว่า จับพระเจ้า มาเล่นบ้างก็คงจะดี หุหุ อย่างเรื่อง BOY หรืออีกหนุ่มเฮี้ยวฯ ที่จับเอา ฮิบิโน่กับ...(จำชื่อไม่ได้) คนนึงเป้น,ุกพระเจ้า อีกคนเป็นร่างโคลนพระเยซู... แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่... อยากรู้จังว่าจะมีคนกล้าเล่นกับพระเจ้ารึเปล่าน้า หึหึ จากคุณ : เจ้าชายแห่งความฝัน - [ 2 มิ.ย. 52 20:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 -3-" เล่นพระเจ้าคงยาก สูงเกินไป ขนาดเหล่าเทพของฮินดู ยังไม่มีใครกล้าแหย่มเลย (นู๋เองเวลาวาดรูปแล้วไปเกี่ยวพันกับเทพทางพุทธหรือฮินดู ยังไม่กล้าใส่ชื่อตรงๆ เลย ทำไมก็ไม่รู้) จริงๆ เรื่องความเชื่อเป็นตุเป็นตะนี่ คิดว่าคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์คงฟังหูไว้หูล่ะค่ะ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าการ์ตูน หากแต่การนำเสนอแนวคิด หรือมุมมองของเหล่านักเขียนบางทีก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะบางที เราก็ต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง ที่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถหาคำตอบได้ พอพบคำตอบที่แม้จะรู้ว่ามันเก๊ๆ แต่ก็สนองความต้องการได้ในระดับหนึ่งว่า "อืม มีคนคิดแบบนี้นะ" "มีคนให้เหตุผลแบบนี้น่ะ" แต่มันก็เป็นเพียงจินตนาการ ซึ่งสุดท้ายเวลาเราเอาไปคุยกับใครในเชิงวิชาการ ก็คงต้องอ้างอิงคัมภีร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไบเบิ้ล เดดซีสกอล คัมภีร์ไคบาร่า หรือแม้กระทั่งนิทานพื้นบ้านที่จากรึกเป็นลายลักษณ์อักษร ฉะนั้น ใจเย็นเย้น ใจเย็นๆ =3='' ---------------------------------- ปล. ว่าแต่ตกลง ลูซิเฟอร์ โดนหักปีกแล้วตกจากสวรรค์.... เหลือปีกกี่ปีกกันแน่คะ =_=' จากคุณ : joyka - [ 2 มิ.ย. 52 20:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมที่อดัมกับอีพกินผลต้องห้ามมันอาจเป็น ลิขิตแห่งพระองค์ พระองค์ทรงประทาน บททดสอบเพื่อให้มนุษย์เข้าถึงพระองค์ มั่งครับ ลืมตอบเรื่องลูซิเฟอร์ องค์ประกอบมันครบให้เอามาทำนิยายได่มากไงครับ มีฐานะรองพระเจ้าไม่แน่ใจว่าเคยมีฐานะสูกว่ามิคาเอลด้วยหรือป่าว และโดนปลดมันเลยเอื่อให้เล่นได้หลายแนว แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 21:44:48 จากคุณ : Thanathoz - [ 2 มิ.ย. 52 21:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลูซี่จัง ชั้น เซราฟิม (เท่าที่จำได้นะ) ครับ เพราะอยู่สูง และมีฤทธิอำนาจมาก อย่างที่บอก เพราะมีอำนาจเกือบจะเทียบเท่าพระเจ้า  แต่พระเจ้ากลับยก มนุษย์ให้อยุ่เหนือกว่า พวกตนทั้งๆที่ไม่มีฤทธิอำนาจ เทียบเท่าเลย แถมยังต้องรับใช้ เหล่ามนุษย์  เสียอีก ความหยิ่งผยอง เลยทำให้  SATAN ครอบงำจิตใจ (ด้านมืดนั่นแหละ) ชั้น เซราฟิม สูงที่สุดแล้ว คณะเซราฟิม(Seraphim) (ไอ้กระป๋องบิน 6ปีกใน lineage II นั่นแหละ) เทวดา มี 6 ปีกเท่านั้นครับสุงสุดแล้ว ส่วนเกมทั้งหลาย ปีกที่เหลือ มาจากไหนไม่รุ้ (เอาสวยมั้ง) เท่าที่มีบันทึกไว้ การปรากฎของเทวดาที่เห็นในนิมิต (Vision) ประกาศกอิสยาห์เห็นเซราฟิมในภาพนิมิตรได้บรรยายไว้ว่า มีปีกอยู่ 6 ปีก แต่ไม่ได้บรรยายถึงร่างกาย นักบุญยอห์น อัครสาวกเขียนไว้ในหนังสือวิวรณ์ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีอิทธิฤทธิ์อีกองค์ลงมาจากสวรรค์ มีเมฆล้อมรอบตัวท่านพร้อมกับรุ้งที่อยู่เหนือศีรษะ มีหน้าเหมือนดวงอาทิตย์ และเขาเหมือนเสาไฟ” (วว. 10:1) ภาพนิมิตของประกาศกเอเสเคียล เป็นภาพนิมิตที่ยากแก่การจินตนาการมากที่สุด ท่านอธิบายถึงเครูบิมไว้ว่า “เครูบิมทุกตนมีหน้าอยู่ 4 หน้า หน้าหนึ่งเป็นเครูบ หน้าที่สองเป็นมนุษย์ หน้าที่สามเป็นสิงห์ และใบหน้าสุดท้ายเป็นใบหน้าของนกอินทรีย์ เครูบิมทุกตนมีสี่ปีกภายใต้ปีกมีสันฐานเหมือนมือมนุษย์” (อสค. 10:21-22) สรุป ไใ่จำเป็นต้องมีปีก และไม่จำเป้นต้องรุปร่างเหมือนมนุษย์ ทุกสิ่งเกิดจาก จินตนาการ ศิลปินยุคต่อๆมาทั้งนั้น รูปลักษณ์ของเทวดาในทางศิลปะ อันที่จริงแล้ว ศิลปะของคริสตชนสมัยเริ่มแรกที่ค้นพบในคาตากอม ในกรุงโรม ได้แสดงถึงรูปของเทวดาที่มีรูปร่างกายเหมือนมนุษย์และไม่มีปีก ภาพเขียนบนผนังคูหาฝังพระศพของนักบุญพริสซิลา เป็นภาพการแจ้งสารของเทวดากาเบรียลแต่แม่พระ ซึ่งวาดในศตวรรษที่ 2 และภาพวาดการแจ้งสารในสุสานฝังศพของนักบุญมาเซลินุส วาดในศตวรรษที่ 3 และในศตวรรษที่ 4 มีรูปวาดที่ชื่อว่า Good Angle ภาพทั้งสามนี้ล้วนเป็นภาพวาดในลักษณะมนุษย์ธรรมดา ศิลปะของคริสตชนเริ่มวาดเทวดามีปีกประมาณหลังการครองราชของคอนสแตนตินใน ตอนกลางของศตวรรษที่ 4 การเปลี่ยนแปลงนี้มีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 2 ประการ ประการแรก คือการขาดช่างฝีมือที่ชำนาญและเครื่องมือ ทั้งความคิดที่จะทำให้มองเห็นถึงลักษณะพิเศษของเทวาดาที่มีเหนือมนุษย์ ได้มีการลอกแบบจากเทพเจ้าของศาสนาอื่น คือเทพแห่งชัยชนะ (Victories) ซึ่งเป็นเทพของชาวโรมัน เป็นรูปของหญิงสาวที่สวมกระโปรงยาวพลิ้ว และมีปีกเหมือนเทวดาที่เห็นในปัจจุบัน รูปปั้นเทพเจ้าแห่งชัยชนะนี้มักจะสร้างขึ้นประดับเหนือสิ่งก่อสร้างที่ สำคัญๆ ซึ่งในทางที่จริงแล้วมีการก่อสร้างรูปปั้นของเทพเจ้าองค์นี้มาก จนบางครั้งก็นำไปตั้งในวิหารต่างๆ เพื่อประดับแทนเทวดาเลยก็มี องค์ประกอบในการเปลี่ยนแปลงอีกอันหนึ่งก็คือ การนำศิลปะเข้ามาของพวกมิจฉาทิฐิที่เรียกว่า Gnostics ซึ่งได้นำเอาเทพเจ้าของศาสนาอื่นๆ เข้ามาปะปนกับคริสตศาสนา เช่นการประการถึงความเกี่ยวพันระหว่างเทพเจ้าแห่งสงคราม (Mercury) กับอัครเทวดามีคาแอล ผู้ทำสงครามขับไล่เทวดาที่ทรยศ ได้มีการใช้รูปปั้นของเทพเจ้าแห่งสงครามนี้แทนอัครเทวดามีคาแอล ถึงแม้ว่าพวกเหล่านี้จะหมดอิทธิพลไปแล้ว แต่อิทธิพลทางศิลปะยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นจนทุกวันนี้ รูปเทวดาที่พบเห็นในปัจจุบันเป็นเพียงรูปสัญลักษณ์ ไม่ใช่ตามแบบของพระคัมภีร์ที่ทำสงครามให้กับพระเป็นเจ้า หรือปรากฎมาในรูปมนุษย์ แต่เป็นรูปคล้ายผู้หญิงที่อ่อนหวาน ถ้าหากเทวดาจะปรากฎตามคำอธิบายที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ เราจะมองดูท่านได้อย่างไร เราคงตกใจจนวิ่งหนีแน่ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 00:22:27 จากคุณ : Night_Angel - [ 3 มิ.ย. 52 00:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมทึ่งกะความคิดของแต่ละความเห็นจริงๆครับ เปิดมุมมองมากเลย ขอบคุณความเห็นที่14มากนะครับ ได้ความรู้มากเลย ความเห็นอื่นก็ชอบนะครับ แต่มันยังเป็นแค่ข้อคิดเห็น อย่าว่ากันนะ ผมว่าที่ลูซิเฟอร์ได้รับบทตัวเอกบ่อยๆ เพราะเค้ามีเสน่ห์นะครับ คือจะให้ร้ายก็ได้จะให้ดีก็ได้ คือเป็นบทที่กว้างมาก สามารถเขียนได้หลายแบบ เป็นตัวดีก็มีเสน่ห์ เพราะมีเบื้องหลังว่าทำไมถึงถูกไล่ลงมาจากสวรรค์ เป็นตัวร้ายก็ดี เพราะอยากรู้ว่าทำไมเป็นถึงเทพที่รับใช้พระเจ้ากลับทำการกบฎ จากคุณ : Nut-Devil - [ 3 มิ.ย. 52 00:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ออกตัวก่อนว่าผมนับถือพุทธนะครับ แล้วก็ไม่เคยได้ศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิ้ลแต่อย่างใด อ่านหลายๆ ความคิดเห็นแล้วผมว่ามันไปกันใหญ่ เพราะผมว่าพระคัมภีร์มันต่างกับสามก๊กนะครับ การตีความว่ามันเป็นดั่งบันทึกอ้างอิงทางประวัติศาสตร์เช่นสามก๊ก ผมว่ามันคงจะไม่ได้ สามก๊กเป็นพงศาวดารอ้างอิงประวัติศาสตร์ซึ่งเขียนตามที่ผู้เขียนอยากแสดงภาพให้เห็น อันนี้แน่นอนผู้เขียนจะแต่งให้เล่าปี่ โจโฉ หรือตระกูลซุน เป็นฝ่ายดีก็ย่อมได้ทั้งนั้น แต่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่แต่งขึ้นมานั้น มันมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอนกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องจะไปตีความได้อย่างบันทึกประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ถ้าถามความเชื่อของผม ผมคิดว่าจะซาตาน ลูซิเฟอร์ มิฮาเอล ก็เป็นดังเช่นเทพ หรือพระโพธิสัตว์ ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน คือ เป็นคล้ายกับรูปเคารพหรือรูปธรรมของสภาวะหนึ่งๆ ของจิตครับ ทั้งนี้ ตามคำถามของคุณ joyka ว่าทำไมลูซิเฟอร์จึงได้เป็นตัวเอกหรือมีการพลิกบทเป็นประจำ ผมว่ามันไม่ได้เป็นดังการตีความประวัติศาสตร์ (อย่างเช่นที่การ์ตูนที่อ้างอิงสามก๊กทำกันอยู่หลายเรื่อง) แต่เหตุผลมันง่ายกว่านั้น ผมว่าเพราะมัน "เท่ห์" ดีต่างหากครับ ลองนึกภาพดูสิครับ "ลูซิเฟอร์ เทวดาตกสวรรค์" แค่ฉายาก็ให้อิมเมจที่สุดแสนจะเท่ห์เกินบรรยายแล้ว ฟังดูลึกลับ มีพลัง เหมือนจะดีก็ได้จะร้ายก็เป็นที่สำคัญดูขัดแย้งในตัวเองดี ทำให้มีปมให้เล่นได้เยอะ จะให้เล่นบทเป็นพวกรักอิสระ แล้วมีพวกเทวดาตามกลับก็ได้ หรือจะมีพวกปีศาจคอยชวนต่ออยู่เนืองๆ ก็ดี เนื้อเรื่องอย่างนี้ดูดีมีสไตร์จะตายไปครับ แล้วถ้าลองสังเกตดู ถ้าไม่จำกัดแค่ลูซิเฟอร์ พวกตัวละครที่ออกแบบให้มันดูขัดแย้งกันในตัว เช่นเป็นเทวดาแต่มีปีกดำ (หรือปีกปีศาจก็ว่าไป) หรือว่าพวกลูกครึ่ง ครึ่งคนครึ่งเทพ ครึ่งคนครึ่งปีศาจ ครึ่งเทพครึ่งปีศาจ มันก็ดูเป็นเทรนด์ที่นิยมกันในสมัยนี้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 01:32:02 จากคุณ : Aynap - [ 3 มิ.ย. 52 01:28:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลูซิเฟอร์ได้เป็นพระเอก (แบบแอนติฮีโร่จัดๆ) ครั้งแรกก็ในเรื่องนี้มั้ง? บางทีงานมังงะทั้งหลายอาจได้แรงบันดาลใจมาอีกทอดก็ได้ http://en.wikipedia.org/wiki/Paradise_Lost จากคุณ : Vladimir Putan - [ 3 มิ.ย. 52 23:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สรุปว่า เพราะมีหลายมิติ คนก็เลยชอบเอามาเป็นตัวเอกสินะ จะให้ดีก็ได้ร้ายก็ได้ เขียนแล้วดูเป็นความจริงมากกว่าคนที่ดีพร้อมกับคนที่เลวทั้งชีวิต จากคุณ : รู้รึเปล่าว่าเค้าคือแมว - [ 4 มิ.ย. 52 13:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บางครั้งเขาก็มองระบบสรววค์เหมือน การเมือง ลูซิเฟอร์อาจไม่ได้ชั่วช้าจริงๆก็ได้ แต่ทำงานขัดใจผู้ปกครอง เลยโดนเตะลงมา จากคุณ : cdaz - [ 7 มิ.ย. 52 02:28:55 ]