|
SPOILER!!! ไวเซิร์ดชำระแค้น 2 ใน Bleach 366 - The Revenger's High -
|
|
ตอนนี้ถือเป็นตอนที่อ่านจบเร็วที่สุดในบรรดาตอนที่ผ่านมาของเรื่อง Bleach เลยละครับ (จบเร็วพอๆ กับแต่ละตอนของบากิเชียว อัดๆ ซัดๆ กันแป๊บเดียว 19 หน้าผ่านไปแล้ว) คนแปลตอนนี้คงสบายไปเลยละ เหอๆๆ
ไม่เกริ่นนำเพิ่มเติมนอกจาก "เชิญชม Spoil กันได้เลยครับ"
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่ทีมไวเซิร์ดตั้งขบวนเตรียมรับมือฝูงกิลเลี่ยนที่เจ้าตัวประหลาดยักษ์ฝ่ายไอเซ็นส่งออกมา โดยหลังจากเรียกหน้ากากฮอลโลว์ออกมาใส่กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แก๊งค์มนุษย์หน้ากากก็พร้อมใจกันเก๊กเท่ชักดาบฟันวิญญาณ แล้วกระจายกำลังเข้าโจมตีฝูงกิลเลี่ยนจากตำแหน่งต่างๆ ทันที
นาทีหลั่งเลือดเริ่มต้นขึ้นในบัดนั้น...
ฮิโยริกระโจนเข้าใส่กิลเลี่ยนตนหนึ่ง หวดดาบสับลงกลางกบาลมันเหมือนผ่าบ้องไผ่ แล้วยิงซีโร่อัดเข้าปากแผลเต็มๆ จนมันหัวกระจุยไม่เหลือซาก เค็นเซย์ปล่อยหมัดรัวถี่ยิบใส่หน้ากิลเลี่ยนอีกตนจนหน้ากากแตกป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ก่อนจะลั่นไกปิดฉากด้วยหมัดระเบิดจนหัวมันระเบิดตูมเหมือนโดนยัดระเบิด เจ้ากิลเลี่ยนอีกตนฉวยโอกาสเข้าโจมตีทางด้านหลัง แต่เค็นเซย์รู้ทัน หมุนตัวตวัดดาบฟันวิญญาณ "ทะจิคาเซะ" รูปร่างคล้ายมีดสั้นคอมมานโดทหาร ปักเข้ากลางหน้าผากมันเต็มๆ จนสมองระเบิดตามเพื่อนไปอีกตน
ทางด้านมาชิโระ อดีตรองหัวหน้าของเค็นเซย์ก็กำลังบำเพ็ญตนเป็นนักเทควันโด้ กระโดดเด้งดึ๋งไปท่ามกลางฝูงกิลเลี่ยนพร้อมตวัดเท้าเตะถีบใส่ฝูงกิลเลี่ยน ร่างใหญ่โตกว่าหลายร้อยเท่าล้มครืนลงง่ายๆ ราวกับตุ๊กตาถูกตัดสายชัก ส่วนฮัตช์ผู้ไร้ซึ่งความสามารถด้านเชิงยุทธ์แต่ความสามารถด้านวิถีมารเป็นเยี่ยม เขายืนอยู่เฉยๆ ท่ามกลางฝูงกิลเลี่ยนจำนวนมากที่รายล้อม แล้วยกนิ้วขึ้นดีดเป๊าะติดต่อกัน พลันศีรษะของกิลเลี่ยนแต่ละตนก็มีอาณาเขตม่านพลังรูปทรงสี่เหลี่ยมกางครอบไว้ มนุษย์หน้ากากร่างอ้วนปรบมือสองข้างเข้าหากัน ทันใดนั้น ศีรษะของกิลเลี่ยนแต่ละตนก็หลุดจากบ่าร่วงลงกับพื้นทั้งๆ ที่ยังมีม่านพลังครอบอยู่
จังหวะนั้นเอง ริสะก็ฉวยโอกาสกระโดดไต่ขึ้นไปตามศีรษะของกิลเลี่ยนที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศเข้าหาเจ้ากิลเลี่ยนตนหนึ่ง แต่มันรู้ทันจึงชาร์จซีโร่เตรียมรอยิงรับการเผ่นโผนของริสะอยู่แล้ว
...เสียดายที่มันยังช้ากว่าดาบในมือริสะ ประกายดาบพุ่งวาบเป็นชุดๆ ตัดไปมาในอากาศดูคล้ายแสงเลเซอร์้เส้นเล็กๆ (กรุณานึกถึงท่า "ไลท์นิ่งพลัสม่า" ของไอโอเรียนะครับ) พริบตาเดียว ศีรษะของเจ้ากิลเลี่ยนตนนั้นก็ขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ เหมือนถูกยัดเข้าเครื่องบด ซีโร่ที่ชาร์จไว้ไม่มีโอกาสได้ยิงแม้แต่นัดเดียว
สำหรับโรส มนุษย์หน้ากากอดีตหัวหน้าหน่วย 3 นั้นมีวิธีต่อสู้ที่พิสดารกว่าเพื่อน เขายืนนิ่งอยู่กลางอากาศ แบฝ่ามือทั้งสองขึ้นแล้วกางออกไปข้างตัว ดาบฟันวิญญาณกับฝักลอยไขว้กันอยู่ตรงหน้าเป็นรูปไม้กางเขนตั้งแนวนอน ท่วงท่าดูไม่ต่างอะไรกับวาทยากรฝีมือเอกกำลังตั้งท่าเตรียมพร้อมก่อนสะบัดไม้บาตองให้สัญญาณเริ่มดนตรี
ทันใดนั้น มนุษย์หน้ากากหนุ่มก็เปลี่ยนท่าจากกางแขนหงายมือเป็นคว่ำมือลง ปลายนิ้วทั้งสิบรัวขยับขึ้นลงรัวๆ เป็นจังหวะราวกับนักเปียโนพรมนิ้วลงบนคีย์ แล้วเปล่งเสียงออกคำสั่งออกไป
"จงมา"
เพียงเท่านั้น ร่างของเจ้ากิลเลี่ยนตนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ชะงักกึก แล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาหาโรสอย่างช้าๆ ราวกับมีสายชักที่มองไม่เห็นมาเชิดมันให้เดินไป เจ้าปีศาจยักษ์พยายามขยับตัวดิ้นให้หลุดพ้นจากการถูกควบคุม แต่กลับขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียว ร่างกายถูกบางอย่างที่มองไม่เห็นตรึงไว้จนสลัดไม่หลุด
"นั่นละดีแล้ว" ผู้สวมหน้ากากนกว่า ยังไม่ยอมหยุดเล่นเปียโนอากาศ "เข้ามาใกล้ๆ แล้วตกเป็นทาสเสียงเพลงของข้าเสีย"
สิ้นเสียงพูดของโรส ร่างของเจ้ากิลเลี่ยนตนนั้นก็บี้เข้าหากันราวกับก้อนเนื้อถูกโยนเข้าไปในลูกกลิ้ง เสียงกระดูกแตกเส้นเอ็นขาดดังสะท้อนสะท้านไปทั่วบริเวณ
คนสุดท้ายที่เข้าประมือกับฝูงกิลเลี่ยนคือเลิฟ มนุษย์หน้ากากจอมแร็ปกระโจนเข้าหากิลเลี่ยนตัวใกล้สุด ทิ่มมือทั้งสองข้างใส่หน้าผากของมัน ปลายนิ้วอันแข็งแกร่งเจาะทะลุหน้ากากเข้าไปถึงกะโหลกศีรษะได้อย่างง่ายดายราวใช้นิ้วจิ้มเต้าหู้ พร้อมๆ กับกระชากสองมือออกด้านข้างอย่างรุนแรง
คว้าก!! ร่างยักษ์ของกิลเลี่ยนฉีกขาดออกตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงก้นกบ ดูไกลๆ ไม่ต่างอะไรกับไก่ที่ถูกเขาผ่าอก ล้มครืนลงไปซ้ายขวาข้างละซีก
เหลือแต่ฮิราโกะเพียงผู้เดียวที่ยังคงยืนอยู่เฉยๆ ไม่ยอมเข้าประมือกับกิลเลี่ยนตนไหน ด้วยในใจของมนุษย์หน้ากากหนุ่มกำหนด "คู่มือของตนเองในศึกครั้งนี้" ไว้ตั้งแต่ก่อนย่างเท้าเข้าสนามรบแล้ว
เขาเลื่อนสายตาขึ้น จ้องไปยังอดีตรองหัวหน้าของตนที่อยู่ ณ อีกฟากของสนามรบ แล้วใช้ก้าวพริบตาหายตัววูบ มาหยุดยืนจังก้าอยู่ตรงเบื้องหน้าเหนือศีรษะของอีกฝ่าย
"ไง" มนุษย์หน้ากากหนุ่มเอ่ยปากทัก ขณะก้มลงมองหน้าอดีตลูกน้องด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก "พวกข้าแปลงเป็นฮอลโลว์ได้เชี่ยวชาญแล้วเห็นมั้ย?"
ไอเซ็นไม่ตอบคำถาม เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองตอบอย่างเยือกเย็น แล้วยิ้มมุมปากเท่านั้น
อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ปาดมือผ่านหน้ากากเผยให้เห็นใบหน้า แล้วจึงแสยะยิ้มและพูด "...ไอเซ็น มาจบเรื่องของเรากันได้เลย"
ว่าจบ ดาบในมือก็ตวัดวูบ ฟาดเปรี้ยงลงกลางกบาลของอีกฝ่ายในทันที
ทีแรกนึกว่าจะเขียนสั้นที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา ทำไปทำมาดันบรรยายยาวกว่าที่คิดแฮะ...โดยเฉพาะความสามารถของโรส
ก็ยังไม่มีอะไรใหม่ๆ ในเนื้อเรื่องนะครับ นอกจากมนุษย์หน้ากากแต่ละคนออกมาโชว์เทพประจัญบานกับฝูงกิลเลี่ยน ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้ได้เห็นสไตล์การต่อสู้ รวมถึงความถนัดของไวเซิร์ดแต่ละคนออกมาค่อนข้างชัดเจน เช่น
ฮิโยริ, เค็นเซย์ - สายแอ็ทแท็กเกอร์บ้าพลัง เลิฟ - สายแท็งเกอร์บ้าพลัง ริสะ - ดาบไฮสปีด (ไปเรียนมาจากเรื่อง Claymore รึเปล่าหว่า หรือว่าไปแซงทัวรี่วิหารราศีสิงห์) ฮัตช์ - สายวิถีมารเต็มตัว มาชิโระ - สายฮะกุดะ (วิชาต่อสู้มือเปล่าแต่เน้นท่าเตะเป็นพิเศษ...ไรเดอร์คิกสินะ) โรส - เดาไม่ออกแฮะ (คล้ายๆ สายวิถีมาร แต่คงไม่เต็มตัวเหมือนฮัตช์) ฮิราโกะ - ไม่ค่อยแน่ใจเพราะตอนนี้ยังไม่ค่อยเห็นฝีมือเท่าไหร่เลย
รอดูว่าตอนหน้าไอเซ็นยิ้มเหนือชั้นแบบนั้นจะมีอะไรมาแก้ลำครับ :)
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 20:22:12
จากคุณ |
:
Drake
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ค. 52 19:50:25
|
|
|
| |