 |
ความคิดเห็นที่ 55 |
****สปอล์ย****
เหนื่อยแฮะ..ok.เรามาว่ากันเรื่องRomantic Comedy ก็คือการเล่าเรื่องรักด้วยลีลาชวนหัว สนุกสนานใช่ไหมครับ ดังนั้นไม่ว่าหนังไทยหรือเทศที่สร้างด้วยแนวทางนี้มักจะมีโทนหนังคล้ายๆกัน (ขออนุญาตไปหาความรู้เพิ่มถึงความแตกต่างของคำว่า Tone ,Theme, Concept ว่ามันต่างกันยังไง เพราะจะได้ใช้ศัพท์ให้ถูกนะครับ แต่ในที่นี้ขอเหมารวมว่าเป็นแนวทางบางอย่างที่ครอบคลุมหนังไว้นะครับ)
1.ทำไมผมคิดว่าวัตถุประสงค์ หลักของเรื่องพูดถึงคนที่มีเวลาไม่ตรงกัน มีโลกคนละแบบสามารถรักกันได้รึเปล่า นั่นเพราะตรงนี้เป็นประเด็นที่ทำให้พระเอกเลิกกับแฟนคนก่อน เป็นประเด็นที่ทำให้พระเอกกับนางเอกต้องเลิกกัน<<<Climax และเป็นประเด็นที่สุดท้ายหนังก็ตอบโจทย์ว่า พวกเอ็งก็หัดปรับตัวซะซิ(นางเอกมาทำงานกลางคืน พระเอกกลับมาทำงานกลางวัน) คนโสดที่อยู่กับตัวเองมามากๆ เคยชินกับกิจวัตรเดิมๆ หากต้องการมีใครมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็ต้องปรับตัวสำหรับการอยู่มีชีวิตคู่
และส่วนสำคัญส่วนที่2คือ การที่หนังพาเราไปดูการเดินทางไปมีความรักของสาวโสดคนหนึ่งซึ่งประเด็นนี้โดดเด่นโดนใจของหลายคน (ที่น่าชมคือคนตัดต่อหนังตัวอย่าง)ด้วยลีลาคอมิดี้
2.เรื่องปมของตัวละคร ที่บอกว่าหนังไม่ให้รายละเอียดของพระเอกมากพอ ก็เพราะถ้าเราเข้าใจตัวละครมากพอ เราก็จะสามารถเข้าใจได้ไงครับว่าทำไม 2 คนนี้ถึงได้รักกัน แต่ละคนขาดตรงไหน และแต่ละคนเป็นส่วนเติมเต็มให้กันตรงไหน การที่บอกว่าพระเอกเป็นคนลึกลับน่าสนใจ แต่คุณผู้หญิงครับ คุณจะไปรักคนที่คุณไม่รู้จักเค๊าดีได้อย่างไรหรือแค่ว่าหล่อก็พอแล้ว ไม่ตื้นเขินไปหน่อยหรือครับ และการที่จะบอกว่าที่จริงแล้วลุงก็แอบรักเหมยลี่ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว (ในฉากดูของในกล่อง)อันนี้ยิ่งตื้นนะครับ ถ้าจะสรุปว่าทั้ง2คนต่างต่างก็เจอรักแรกพบ แล้วหนังจะเล่าเรื่องการต่อสู้เพื่อจะพิชิตใจพระเอกทำไม ทำลายหนังทั้งเรื่องเลยนะครับ เพราะหนังแนวทางนี้จะสนุกกต่อเมื่อคนทั้ง 2 แตกต่างกันมากๆ แล้วฝั่งหนึ่งจะพิชิตใจอีกฝ่ายได้ยังไง โดยมีปัญหาที่ต้องฝ่าฟัน แก้ปมไปทีละเปาะ จนสามารถพิชิตใจอีกฝั่งได้ ความสนุกมักอยู่ที่กลวิธีที่ทำให้คนดูลุ้น หรือมีการผิดแผนเกิดขึ้น
ส่วนที่เล่าเรื่องเหมยลี่ที่ว่าสงสารเหมยลี่ ที่ไม่มีแฟนเพราะ อยู่กับเพื่อน จนเพื่อนๆหนีไปมีผัวหมด ถึงรู้สึกตัวว่า ซวยแล้วเรา เล่าพอที่จะทำให้คนดูส่วนใหญ่เอาใจช่วยให้เหมยลี่ อันนี้ที่บอกว่าเด่นที่บทผมขอแย้งว่าส่วนนี้อ่อนเพราะอะไร 2.1ถ้าเพื่อนๆไม่ไปมีแฟน หมายความว่าเหมยลี่จะไม่เหงา จะไม่มีวันนึกถึงการมีชีวิตคู่? 2.2การที่เหมยลี่ไม่เคยมีแฟนก็เพราะว่ายึดคติไม่ไปจีบ ไม่ไปอ่อยผู้ชายก่อนตามที่แม่เคยสอนต่างหาก 2.3คนจะมีแฟน มันคนละเรื่องกับเพื่อนนะครับ ถึงเรามีเพื่อนเราก็อยากมีแฟนได้ การที่เหมยลี่ปิดใจจากการยึดติดคำสอน แล้วมาเปิดใจหลังจากที่รู้ว่าที่แม่พูดคือพูดไปอย่างนั้นเอง เราจึงเอาใจช่วยไงครับ แต่เอาล่ะการset up เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับ เหมยลี่เป็นคนยังไง อะไรที่ทำให้เราเอาใจช่วยเหมยลี่ให้สมหวัง ซึ่งบางส่วนหนังก็บอกว่าเหมยลี่ไม่ใช่คนดีอะไรนัก(จากฉากที่แกล้งน้องแพตตี้)หรือเป็นคนไม่รู้จักกาละเทศะ อาทิ เมาปลิ้นในงานแต่งของเพื่อนสนิท,โทรไปหาเพื่อนตอนดึก,ไปเคาะประตูห้องหาเพื่อนตอนดึก (เป็ด+แฟนเสียอีกที่หนังแสดงให้เห็นว่าเป็นคู่ที่มีนิสัยน่ารัก)ไหนจะไม่รับผิดชอบการงาน(นัดลูกค้าแล้วเดี้ยง,เบี้ยวนัด) แล้วทำไมเราต้องเอาใจช่วยคนแบบนี้ อันนี้เป็นประเด็นที่บอกว่าบทในส่วนเหมยลี่อ่อน
[นอกเรื่อง ทราบมาว่าผกก.ชอบโจวซิงฉือ ที่มีคาแรกเตอรฺ์ส่วนใหญ่ถึงแม้จะทำเลว เจ้าเล่ห์ แต่จริงๆเป็นคนที่มีสำนึกดี และมักเล่นเป็นพวก Under Dog ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เรามักเอาใจช่วยตัวละครแบบโจวซิงฉือ รวมถึงอดัม แซนด์เลอร์]
3.ส่วนเรื่องบังเอิญ เช่นเรื่องร้านเช่าvcd ที่ขนาดน้องแพตตี้บอกว่ามีหลายสาขา แต่ไหงช่างบังเอิญที่คุณลุงมาเช่าที่สาขานั้นพอดี เป็นต้น
การที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่อยากฝากไว้ว่ากรุณาอย่าโต้แย้งในเชิงสั่งสอน (คุณลองทบทวนดูอีกทีนะว่าหนังมันมีTheme อะไร,มันก็ยากที่คุณจะรู้ว่าอะไรที่ควรเล่าอะไรที่ควรละไว้ฯ,และขอแนะนำให้คุณดูวิธีการเล่าตัวละครเหมยลี่ )เพราะจริงๆในความหมายแฝงคุณกำลังดูถูกอีกฝั่งอยู่ ซึ่งทำให้ผมไม่อยากมาถกต่อครับ
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 14:34:53
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 14:30:45
จากคุณ |
:
-zzz-
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 52 14:29:28
|
|
|
|
 |