ความคิดเห็นที่ 1   Dick and Jane กับยุคแห่งความปั่นป่วน ในยุคของจอมพลป. พิบูลสงคราม (ผู้เขียนเกิดไม่ทันหรอก) คนที่สนใจประวัติศาสตร์น่าจะจำกันได้ถึงภาสาไท เพี้ยนๆ ที่ออกมาในยุคนั้น ที่มีการตัดพยัญชนะซ้ำๆกันออกไปหมด ทำให้ภาษาไทยมีรูปแบบพิลึกกึกกือ อยู่ช่วงสั้นๆ และเลิกใช้ไปเมื่อสงครามจบลง (ขอบคุณบร๊ะเจ้าโจ๊ก) อย่างไรก็ดี หลังสงครามจบ จอมพลป.ก็กลับมีอำนาจอีกระยะหนึ่ง และในยุคนั้นเองก็ได้มีการนำเข้าแนวคิดเรื่องการสอนภาษาเด็กวัยต้นแบบใหม่ ชุด Dick and Jane (คนละคนกับหนังของจิม แคร์รี่ นะครับ) ตามชื่อตัวละครเด็กชาย-หญิงในเรื่อง โดยบริษัท Scot Foresman and Company ของสหรัฐ จุดเด่นในแบบเรียนฝรั่งชุดนี้ ก็คือภาพประกอบสี่สีที่สวยงาม การสอนเด็กโดยให้เด็กเรียนและจำคำศัพท์ใหม่เป็นคำๆ และค่อยๆเพิ่มคำศัพท์ขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ซึ่งได้ผลดีมากในต่างประเทศ แนวคิดนี้ถูกรับมาใช้โดยอธิบดีกรมวิชาการยุคนั้น (ขอไม่เอ่ยชื่อเดี๋ยวโดนลูกหลานท่านฟ้อง) ซึ่งเป็นคนหนุ่มหัวนอก และได้มีการผลิตหนังสือเรียนเบื้องต้นออกมาในแนวคิดนี้ คือ แบบสอนอ่านเบื้องต้น หรือเป็นที่จดจำในชื่อ "ไก่จิกเด็ก เด็กกระโดด" นอกจากนี้ก็มีชุดหนังสืออ่านเสริมติดตามมาเป็นขบวน บ้างก็ขาวดำ บ้างก็สอดสี โดยฝีมือวาดภาพประกอบของกลุ่มนักวาดชั้นนำในยุคนั้นคือบริษัทประชาช่าง อาทิเช่น นกกางเขน ดอกรักสัตว์แสนรู้ เที่ยวรถไฟ อุดมเด็กดี ฯลฯ ทั้งยังมีแบบเรียนเลียนแบบ Dick & Jane อย่าง "เด็กชายปัญญา เด็กหญิงเรณู" หรือ "สุดากับคาวี" ล้วนเป็นแบบเรียนในดวงใจของนักเรียนรุ่นเก่าและนักสะสมแบบเรียนเก่าทั้งสิ้น แต่แนวคิดนี้ก็แฝงปัญหา มีการปะทะความคิดกันอย่างรุนแรงระหว่างครูผู้สอนที่ยึดแนวการสอนแบบเก่าและอธิบดีด็อกเตอร์หนุ่ม คุณอเนก นาวิกมูล ผู้เขียนหนังสือ "แบบเรียนแสนรัก" ได้เปรยไว้ในหนังสือของท่านว่า "น่าแปลกที่คนที่มากความสามารถอย่างท่าน หลังจากยุคจอมพลป.ก็หายจากวงการไปเลย" แต่ผมว่าไม่แปลก เพราะจากคำบอกเล่าของคนร่วมสมัยอย่างคุณแม่ผมก็คือ "พวกครูโห่ไล่กันในที่ประชุมสัมนา" ซึ่งถ้าขนาดบรรดาครูๆโห่ไล่อธิบดีกรมวิชาการในยุคหนึ่ง เรื่องมันก็คงไม่ธรรมดานัก (ท่านคงแร๊~ง!) น่าเศร้าที่แนวคิดนี้ ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งอย่างคึกคักโดยนักวิชาการหัวนอกในยุค "คิดใหม่ทำใหม่" และได้สร้างปัญหายาวนานต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ส่วนปัญหาจะเป็นเช่นไรนั้น มาดูกัน... จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:08:15 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 2   จำศัพท์ทีละนิด แนวคิดที่เป็นปัญหา ภาษาแต่ละภาษานั้น มีความแตกต่างกันมาก มีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกัน หากจะรับจุดเด่น ก็ต้องเตรียมรับมือกับจุดด้อย อาทิเช่น ภาษาจีน มีตัวอักษรภาพที่สามารถทำให้คนที่พูดภาษาถิ่นต่างกัน เช่นฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว จีนแคะ จีนกลาง หรือแม้แต่คนญี่ปุ่น หรือเกาหลี (ยุคเก่า) สามารถสื่อสารกันเข้าใจผ่านตัวหนังสือได้ แต่นั่นแหละ คนจีนหรือคนญี่ปุ่น ก็จะต้องอุทิศเวลาตั้งแต่ประถมต้นไปจนถึงมัธยมปลายเพื่อเรียนรู้ตัวอักษรนับพันนับหมื่นตัวในภาษาของตัวเอง ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยมาตรฐานนั้นมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นภาษา "ลูกผสม" ในภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งศัพท์ที่มาจากภาษาจูทส์ เคลต์ นอร์ดิก แองเกิล โรมัน ยิ่งเป็นอังกฤษอเมริกันด้วยยิ่งรวมภาษาแปลกๆทั้งพวกเยอรมัน สวีดิช ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ฯลฯ จึงก่อให้เกิดปัญหาสำคัญก็คือนอกจากคำศัพท์ที่รับมามั่วซั่วจากหลายภาษา สิ่งที่ติดมาก็คือระบบการสะกดคำ การออกเสียงที่หลายมาตรฐานจนไร้มาตรฐาน แถมมักจะเป็นกับคำศัพท์เบื้องต้นในชีวิตประจำวัน อาทิ คำว่า cow – อ่านว่า คาว, แต่ know - ดันอ่านว่าโนว์ หรือ Roe – อ่านว่า โร (ไข่ปลา) แต่ Shoe ดันอ่านว่า ชู เป็นต้น แต่คำศัพท์ระดับสูงๆ ปัญหานี้จะน้อยลง เพราะส่วนใหญ่มาจากภาษาลาตินซึ่งมีระบบสะกดคำได้มาตรฐานกว่า การให้เด็กวัยประถมท่องศัพท์เป็นคำๆไป จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์สำหรับภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ดี สำหรับภาษาไทยที่เป็นภาษาลูกผสมร้อยพ่อพันแม่เช่นกัน เรามีทั้งคำไทย-ลาว (ไทยบริสุทธิ์) คำยืมมหาศาลที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต ภาษาขอม (จมูก – จรมูก) ภาษาพม่า มอญ ภาษาจีนแต้จิ๋ว ภาษายุโรปตะวันตก ฯลฯ แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากภาษาอังกฤษก็คือ "นักปราชญ์ทางภาษารุ่นก่อนของเราได้พัฒนาระบบการถอดเสียงที่เป็นหนึ่งในระบบถอดเสียงที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลกเท่าที่เคยสัมผัสมา" (ลองเทียบกับระบบถอดเสียงภาษาจีน "โถโลโปตี= ทวาราวดี" หรือญี่ปุ่น "มา-คุ-โด-นา-ลุ-โดะ = แม็คโดนัลด์" ดู หรือให้ฝรั่งลองถอดเสียงคำว่า "ใครขายไข่ไก่ = คาย-คาย-คาย-คาย" เป็นภาษาอังกฤษเทียบกันดูก็ได้) จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:08:56 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 3   เครื่องมือสารพัดนึกที่ถูกละทิ้ง เรามี สระ 22 ตัว วรรณยุกต์อีก 5 เสียง และพยัญชนะอีก 44 ตัวที่บรรพบุรุษท่านคิดมาให้เพื่อใช้รับมือกับคำยืมภาษาต่างประเทศทั้งหลาย มีกระทั่งตัวอักษรเผื่อไว้สำหรับคำที่เราออกเสียงไม่ได้ อาทิ ส ศ ษ , ฑ ฒ ธ, ฉ, ช, ฌ เอาไว้รับมือกับเสียงแปลกๆอย่างพวก th, z, sh ฯลฯ มีตัวการันต์ไว้สำหรับเสียง r ระหว่างพยางค์และเสียงผสมอื่นๆที่เราออกเสียงไม่ได้ ...แต่ระบบการศึกษาของเรากลับโยนเครื่องมือล้ำค่าเหล่านี้ทิ้ง...เพื่อเรียนศัพท์เป็นคำๆ!? โดยคำกล่าวอ้างของนักการศึกษาในยุคโน้นว่า "กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า – มีแต่คำว่ากาที่มีความหมาย คำอื่นๆที่ไม่มีความหมายคุณจะไปสอนมันทำไม" (จากการให้ปากคำของคุณแม่ผมเอง) และคิดว่าข้ออ้างของนักการศึกษายุคใหม่คงไม่ต่างกันนัก (แล้วเด็กจะสะกดคำว่า "ผีกาก้า" ถูกเหรอ?) ในอดีต เพื่อให้ได้เครื่องมือแสนวิเศษนี้มา เราก็ต้องเจอกับระบบการผันเสียงวรรณยุกต์ที่ค่อนข้างซับซ้อน อาทิ อักษร สูง กลาง ต่ำ คำเป็น คำตาย ซึ่งมีการผันวรรณยุกต์ต่างกันออกไป ดังนั้นพึงเข้าใจว่าระบบอักษรไทยนั้น ไม่ได้เป็นแค่ระบบ Alphabet เฉยๆเท่านั้น แต่มันเป็นระบบการถอดเสียงสมบูรณ์แบบ ซึ่งนักเรียนปฐมวัยในยุคเก่าต้องใช้เวลา 2 ปีเต็มๆในการเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจและใช้ได้อย่างแคล่วคล่อง ทำให้เราสามารถรับมือกับคำศัพท์ คำยืมจำนวนมหาศาลในภาษาไทยได้ หรือแม้แต่การรับมือกับศัพท์ภาษาต่างประเทศใหม่ๆที่เข้ามาในภาษาได้อย่างไม่เคอะเขิน แถมยังเป็นพื้นฐานให้แต่งกลอนที่มีทั้งสัมผัสนอก สัมผัสใน สัมผัสสระ สัมผัสอักษรอย่างแม่นยำได้อีก ในอดีตนักเรียนจะเขียนผิดกันเฉพาะคำยากๆ มีตัวสะกดการันต์ แต่นักเรียนปฐมวัยยุคใหม่ ในการศึกษาแผนใหม่ ถ้าเจอคำที่ไม่เคยเห็นก็จะอ่านไม่ออก ให้เขียนคำที่ไม่เคยรู้ก็จะสะกดไม่ถูก!! ลองสังเกตคำผิดในบอร์ดนี้ดูก็แล้วกัน แล้วเราจะทำอย่างไร!? เมื่อถามพี่ชายของผู้เขียนซึ่งเป็นครูประถม เขาบอกว่า "ผมก็จนปัญญาเหมือนกันว่ะ ท่าน" (พี่น้องคู่นี้คุยกันค่อนข้างจะโอตาคุแบบนี้แหละครับ) จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:09:33 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 4   กรุ้มใจไม่มีร.เรือ...เสียงควบกล้ำ อันตรายที่ถูกมองข้าม คนไทยนั้นผสมผสานกันหลายชาติพันธุ์ ต่างก็ใช้ภาษาถิ่นที่แตกต่างกันออกไป ภาษาไทยมาตรฐานที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น เรียกว่าภาษาไทยสยาม ซึ่งเป็นลูกผสมปนเปสารพัดภาษาโดยมีอิทธิพลสำเนียงวรรณยุกต์จีนแต้จิ๋วเข้ามาปน ศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ และจะคลายเหน่อแต้จิ๋วกลายเป็นเหน่อไทยแท้ออกไปเรื่อยๆเมื่อห่างจากกรุงออกไป อย่างไรก็ดี เรามีคนที่ใช้ภาษาถิ่นอื่นๆที่มีลักษณะทางภาษาแตกต่างกันอยู่ร่วมสังคม อย่างเช่นไทยเชื้อสายจีน ไทยเหนือ ไทยอีสานที่ใช้ภาษาไทยลาว ซึ่งเป็นภาษาไทยบริสุทธิ์ ภาษาเหล่านี้ไม่มีหน่วยเสียงสำคัญคือ "ร-เรือ" ในการศึกษาระบบเก่าซึ่งเน้นการผสมคำ การออกเสียง เด็กที่ไม่คุ้นเคยกับหน่วยเสียงมาตรฐาน จะได้รับการฝึกออกเสียง และปัญหาเหล่านี้จะถูกขจัดไปในระดับประถมต้น ทั้งในส่วนราชการเองก็ให้ความสำคัญเรื่องการพูดที่ถูกต้องในที่สาธารณะ ผู้มีอาชีพพิธีกร โฆษก นักพากย์ นักอ่านข่าว ฯลฯ จะต้องสอบการออกเสียงให้ถูกต้อง โดยเฉพาะร-เรือ ล-ลิง และคำควบกล้ำ มิฉะนั้นจะสอบไม่ผ่าน เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างผิดๆ แต่ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ระบบสอนภาษาในโรงเรียนจะละเลยการสอนสะกดคำ ซึ่งรวมถึงการออกเสียงควบกล้ำเท่านั้น วงการสื่อสารมวลชนต่างๆก็ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ คนสื่อฯ จำนวนมากที่ออกเสียงร-เรือ ล-ลิง ไม่ถูกต้องออกวิทยุ ทีวีกันให้เกร่อ จนมองกันว่าการออกเสียงร-เรือ ล-ลิง หรือควบกล้ำไม่ได้ "ไม่ใช่ปัญหา" จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:09:58 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 5   คำพ้องเสียงขนานใหญ่ มหันตภัยใต้น้ำ นักเรียนภาษาญี่ปุ่นมือใหม่ๆคงรู้สึกขนลุก เมื่อจิ้มดิกฯ ไฟฟ้าคำศัพท์คำหนึ่ง แล้วมีศัพท์คันจิที่ออกเสียงเหมือนกันโผล่พรึ่บออกมาร่วมสามสิบสี่สิบตัว บางคนถึงกับถอดใจเลิกเรียนไปก็มี หลังจากที่ผู้เขียนเริ่มสนใจหันมาเรียนภาษาจีน ก็พบกว่าสาเหตุที่เกิดคำพ้องเสียงมากมายขนาดนี้ เพราะคนญี่ปุ่นมีหน่วยเสียงในภาษาจำกัด อีกทั้งไม่มีวรรณยุกต์ เวลาที่เรียนคำศัพท์จีนใหม่ๆ จึงต้องยุบเสียงที่ใกล้เคียงกันเข้าเป็นเสียงเดียวกัน อาทิ เจีย = บ้าน – ญี่ปุ่น = คะ, ฮว่า – ดอกไม้ – ญี่ปุ่น = คะ, หัว – ไฟ - ญี่ปุ่น = คะ ฯลฯ คำศัพท์พ้องเสียงในภาษาญี่ปุ่นจึงมหาศาลดังที่กล่าวมา ในภาษาเกาหลียุคใหม่ก็เริ่มเผชิญปัญหาเดียวกัน ตอนที่ผู้เขียนเรียนภาษาเกาหลีนั้น พบว่าคนเกาหลีรุ่นใหม่แม้แต่อาจารย์ที่สอนเองก็แยะแยะการออกเสียงสระ เ-อ กับสระ แ-อ ออกจากกันไม่ได้ สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือคำศัพท์ที่ใช้สระแ-อ ก็จะถูกยุบรวมเข้าเป็นเสียงสระ เ-อ ในภาษาพูด แต่เขียนต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าสำหรับผู้เรียนภาษาในอนาคตอย่างแน่นอน จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:10:30 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 6   ร-เรือ หายไปไหน ก็แล้วใครจะช่วยตามหา ร-เรือนั้นเป็นหน่วยเสียงหลักเสียงหนึ่งในภาษา มีคำศัพท์มากมายทั้งศัพท์ระดับสูงถึงระดับทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน หากเราออกเสียงร.เรือเป็นล.ลิง แล้วเราจะ "บอกลัก" กันได้อย่างไร ที่สำคัญไปกว่านั้น ร-เรือ เป็นองค์ประกอบสำคัญในหน่วยเสียงควบกล้ำ ซึ่งมีคำศัพท์อยู่เป็นจำนวนมากมายในภาษาไทย การออกเสียงร. – ล. ไม่ได้ ก็เท่ากับออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ไปโดยปริยาย และตามธรรมชาติของภาษา ที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงจากภาษาพูดก่อน เมื่อคนๆหนึ่งพูดคำว่า "กาย" เราจะไม่รู้เลยว่าเขาหมายถึง "กาย" "กลาย" หรือ "กราย" เท่ากับความเป็นไปได้ x 3 ต้องดูจาก Content ข้างเคียงเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่เราจะพบเจอในอนาคตก็คือ คำพ้องเสียงจำนวนมหาศาล และความเป็นไปได้ที่คำหนึ่งๆอาจจะเป็นคำพ้องเสียง ซึ่งจะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้เราในอนาคตอันใกล้นี้ และหลังจากนั้นมันก็จะลามไปสู่ภาษาเขียน ตัวอย่างคลาสสิคการเขียนผิดก็คือ 1. ไม่รู้ว่ามีคำควบกล้ำ เลยไม่ใส่ตัวควบกล้ำ 2. รู้ว่ามีคำควบกล้ำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นร.เรือหรือล.ลิง กันแน่ ก็เลยเขียนผิด 3. ไม่มีคำควบกล้ำ แต่นึกว่ามี ก็เลยมีเมตตาจิตไปเติมให้ ยกตัวอย่างเช่น... - ไกปืน ก็จะมีคนเขียนว่า "ไกลปืน" หรือ "ไกรปืน" - ช้างพลาย ก็จะถูกเขียนว่า "ช้างพราย" (ลนน้ำมันเลยดีมั้ย?) หรือ "ช้างพาย" (อนาคตอาจจะมี "ช้างแจว", "ช้างกรรเชียง" และ "ช้างบานาน่าโบ้ท" แต่ก็เป็นสปีซีส์ "ช้างน้ำ" เหมือนกัน อิๆ) - ขี้เกียจ มีคนเขียนให้เห็นบ่อยๆว่า "ขี้เกลียด" ยังดีที่ยังไม่เคยเจอ "ขี้เกรียด" - เครียด – เจอบ่อยๆที่มีคนเขียนว่า "เคลียด" แต่ไม่ค่อยเจอคำว่า "เคียด" (เพราะมีคำนี้อยู่แล้วในภาษาไทยอีสาน แปลว่าแค้น) ...ฯลฯ หรือถ้าคุณหมอสาวสวยเข้าไปในห้องคนไข้หนุ่มแล้วบอกว่า "ดิฉันมารักษาอาการไข้ให้คุณ" แต่คนไข้ดันเข้าใจว่าคุณหมอหมายความว่า "ดิฉันมารักษาอาการใคร่ให้คุณ" ...ก็คงจะงานเข้า?? (คำเตือน : แก๊กทะลึ่ง ไม่ควรเอาไปยกตัวอย่างกับเด็กประถม) ตอนนี้เราจะเห็นการผิดแบบนี้กระเส็นกระสายในบอร์ด ตามสื่อ แม้แต่ในหนังสือพิมพ์ และเริ่มเยอะขึ้นๆ และไม่ต้องห่วง ภายใน10 ปี มันมาแน่...(ถ้าโลกไม่แตกตอนปี 2012 เสียก่อน) *** นั่นก็คือโอกาสที่คนไทยจะเขียนผิด สะกดผิดคูณด้วย 3 *** จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:11:31 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 7   สแลงบ่แม่นแสลงเด๊...พี่น้อง! เวลาพูดถึงภาษาวิบัติ หรือความเสื่อมของภาษา คำสแลงมักจะเป็นจำเลยอันดับต้นๆ แต่ขอบอกว่า "ภาษาไทยคงจะเหงาใจ หากไร้สแลง" หลายๆคนคงจะไม่รู้ว่าสำนวนที่เราใช้กันเกร่ออยู่ในยุคนี้ ทั้งในสื่อ ในชีวิตประจำวัน จริงๆแล้วเป็นสแลงที่มาจากคำศัพท์เฉพาะวงการที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วง 50-60 ปีที่ผ่านมา โดยฝีมือของเหล่านักเขียนรุ่นปรมาจารย์ทั้งหลาย ยกตัวอย่างเช่น ย่างสามขุม, จนมุม – ศัพท์มวย; รุกฆาต , เข้าตาจน – หมากรุก; สู้ยิบตา (จริงๆแล้วคือสู้เย็บตา) – ชนไก่; เต็มสตีม (คนชอบเขียนผิดเป็น เต็มสตรีม) – รถจักรไอน้ำ; เข้าวิน – แข่งม้า; ของขึ้น, องค์ลง, ตรีทูต, – ไสยศาสตร์; ม่องเท่ง/เท่งทึง – เสียงตะโพนปี่พาทย์มอญงานศพ; ไม่เต็มเต็ง – ค้าขาย (เต็ง = ตาชั่งจีน), ฯลฯ ดังนั้น หากภาษาไทยไร้สแลง ก็จะจืดชืดจางสีไปทันที นักเขียน สื่อ ก็อปปี้ไรเตอร์ก็จะปวดหัวเพราะไม่มีคำกระชับๆ แต่สื่อความหมายได้แรงๆ ความรู้สึกสดๆ มาให้ใช้ นอกจากนี้ สแลง ก็คือการ Modify ภาษาให้เข้ากับความต้องการของคนเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นธรรมชาติของผู้ใช้ภาษา แต่มันหลุดออกมานอกกลุ่ม มันจึงกลายเป็นสแลง และถ้ามันได้รับการยอมรับโดยทั่วไป มันก็จะกลายเป็นศัพท์ปกติ คำอย่างเช่น เจ๋ง แจ๋ว เฉียบ เก๋า เอ๊าะ เนียนฯลฯ ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นสแลงมาแล้วทั้งสิ้น แถมสแลงก็มีมานานแล้วด้วย ถ้าใครลองไปอ่านพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน หรือจดหมายเหตุประพาสต้น ของล้นเกล้าฯ ร.5 ก็จะเจอแสลงน่ารักๆอย่าง "กรุด" หรือ "โซด" (ไปหาคำแปลกันเอาเอง ไม่อยากสปอยล์) ดังนั้น...โปรดอย่าจับสแลงเป็นแพะเลยครับ ท่าน! จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:12:12 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 8   นักการศึกษารักษารากเหง้า นักเขียนอย่างเรา ผลิดอกออกใบ ภาษามาตรฐานเป็นภาษาที่ถูกต้อง เที่ยงตรง และเป็นรากฐานให้กับภาษาย่อยอื่นๆ และตามหลักทางภาษาศาสตร์แล้ว หน่วยเสียง หน่วยไวยากรณ์นั้นมีความสำคัญที่สุด เปรียบเหมือนรากและลำต้นของต้นไม้ หากหักขาด บิดเบี้ยวไป ก็จะส่งผลกระทบถึงต้นไม้ทั้งต้น ทว่าคำศัพท์หรือลูกเล่นในการใช้ภาษานั้น เป็นเหมือนใบไม้ดอกไม้ ผลิออกมาแล้วก็ร่วงหล่นไป มีคำศัพท์ คำสแลงใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา และที่ผ่านมา นักภาษาก็จะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เหล่านักปราชญ์ราชบัณฑิต จะเป็นผู้ดูแลในเรื่องความถูกต้องของภาษา และความสมบูรณ์ของการให้การศึกษาด้านภาษา ส่วนการสร้างสรรค์ให้สวยงาม แปลกประหลาด โลดโผน เป็นสีสันนั้น เป็นการต่อยอดของนักเขียน นักแปล นักประพันธ์ นักเลงภาษา หรือตัวผู้ใช้ภาษาเอง เพราะสิ่งนี้ ไม่มีให้ในแบบเรียนทั่วไป น่าเศร้าที่ปัจจุบัน เมื่อมีกระแสอนุรักษ์ภาษาขึ้นมาครั้งใด เหล่าผู้พิทักษ์ภาษาทั้งหลายก็จะออกเริ่มยุทธการ "จับแพะ (ชนแกะ)" โดยการหักก้าน รานกิ่ง ปลิดดอก เด็ดใบ’ ไม่ให้มันแตกยอดเสียทุกคราว ทั้งๆที่ระบบศึกษาภาษาไทยมาตรฐานในความรับผิดชอบของตนนั้น "ต้นผุรากเน่า" ใกล้จะโค่นเต็มทีแล้ว แต่กลับไม่มีใครใส่ใจเรื่องใกล้ตัว (T.T) ภาษาไทยจึงเสื่อมและวิบัติไปเรื่อยๆตามวิถีของมัน หากผู้รับผิดชอบดูแล ยังมองข้ามปัญหาผิดฝาผิดตัวอยู่เช่นทุกวันนี้ ...ขอบคุณที่อดทนอ่านจนจบครับ จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:12:58 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 9   หมายเหตุเพิ่มเติม: - การใช้ภาษาพูดในบทแปลนั้นเป็นสไตล์ของนักเขียนนักแปลแต่ละคน และจากประสบการณ์ของผู้เขียน จากการอ่านการ์ตูนตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น อ่านทั้ง การ์ตูนเล่มละบาท ชัยพฤกษ์การ์ตูน, หนูจ๋า, เบบี้, ขายหัวเราะ ตลอดจนต้นฉบับภาษาอังกฤษของการ์ตูนฝรั่งเริ่มจาก บีทเทิล เบลี่, แด็กวู้ด บัมสเต็ด, พีนัทส์, ตินติน, การ์ฟิลด์ ฯลฯ ไปจนถึงการ์ตูนแอ็คชั่นสารพัดเรื่องของค่ายมาร์เวล ค่ายดีซี และการ์ตูนญี่ปุ่นต้นฉบับ ผู้เขียนไม่เคยเห็นการ์ตูนทั้งไทยและเทศเรื่องไหนเลยที่ใช้ภาษาเขียนในบทพากย์ มีแต่ใช้ภาษาธรรมชาติหรือภาษาพูดกันทั้งนั้น มีแต่การ์ตูนแปลภาษาญี่ปุ่นของเราเท่านั้นที่ดึงดันจะให้ใช้ภาษาเขียนกัน...มันก็แปลกดีนะ!? - เคยมีน้องคนหนึ่งบอกว่า "อาจารย์สอนว่าแปลบทพูด ให้ใช้ภาษาเขียน คนอ่านจะไปแปลงในหัวเอง" รบกวนแนะนำให้อาจารย์ของน้องไปอ่านบทพูดในนิยายภาษาต้นฉบับของสตีเฟน คิง เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญฝรั่งดูนะครับ รับรองว่าอาจารย์น้องจะน้ำลายฟูมปาก 5 5 5 - คำว่า "ฉัน" กับ "ชั้น" หรือ "หนวกหู" กับ "หนกขู" , "ว้าย" กับ "วั้ย" มันไม่ได้ร้ายกาจถึงกับทำให้ภาษาทั้งภาษาวิบัติอย่างที่บางคนตีโพยตีพายหรอกครับ แค่เพิ่ม variation ให้กับภาษา เรามีคำว่า ดิฉัน อิฉัน ดิชั้น อะฮั้น เดี๊ยน แก กัน อั๊วะ ลื้อ ผม กระผม กระพ้ม ฉัน จ๋าน ฯลฯ ตั้งเยอะแยะมากมายในนวนิยายไทย อย่างมากที่สุดก็คือราชบัณฑิตสภาก็จะออกมารับรองให้ใช้ทั้งสองคำ แต่ระบุ "คำที่ถูกต้อง" และ "คำที่ใช้ตามความนิยม" เช่นเดียวกับ "มุข" และ "มุก" นั่นแหละ ระบบเขามีอยู่แล้ว อย่าลืมว่าคำศัพท์หนึ่งคำ มันก็แค่ใบไม้หนึ่งใบ มีงอกใหม่ และก็มีร่วงหล่นตามธรรมชาติของมัน แต่การเปลี่ยนแปลงหน่วยเสียงหรือหน่วยไวยากรณ์นั้น "สะเทือนทั้งต้น" - การใช้ภาษาแช็ต หรือภาษาบั่นทอนไอคิว เป็นแค่สไตล์ของคนใช้ภาษากลุ่มหนึ่งซึ่งอาจจะ "ขัดหูขัดตา" คนอื่นๆ แต่ไม่ได้ส่งผลอะไรถึงภาษาไทยมาตรฐาน ถ้าจะผิดพลาด ก็จะเป็นกรณีของการ "ใช้ผิดกาละเทศะ" มากกว่า *** ตราบใดที่เรายังมีการสอนภาษาไทยมาตรฐานในโรงเรียนที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวภาษาไทยเสื่อม หรือวิบัติ - ผู้เขียนเชื่อเช่นนั้น *** ต่อจากนี้ขอเชิญถกเถียงแสดงความเห็นกันเองก็แล้วกัน เพราะผู้เขียนไม่มีล็อกอิน และไม่มีเวลาจะมาตอบได้ ขอฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมใจของทุกๆท่าน...ขอบคุณครับ ... (ถ้าน้องๆนักเรียนนักศึกษาคนไหนที่สนใจประเด็นนี้และอยากเอาไปต่อยอดทำรายงานหรือวิทยานิพนธ์ ก็ยินดีให้ข้อมูลและแชร์ Materials ติดต่อมาได้ที่กองบ.ก.ครับ) จากคุณ : darky โพสแทนพี่อุ๊เสร็จซะที เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:14:05 A:10.1.3.34 X:58.137.199.126 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านจนตาแฉะเลย [เยอะมาก อ่านทั้งหมดไม่ไหว เลยอ่านคร่าว ๆ ข้า่ม ๆ ต้องขออภัยจขกท.] ที่จริงไม่เพียงแค่การ์ตูนนะครับ นิยายที่วางขายสมัยนี้ บ้างที่เรียกว่าฟิคชั่น ที่เอามาจากคนที่เขียนลงอินเตอร์เน็ตเป็นตอน ๆ พวกนี้หลาย ๆ เรื่องเลยที่ไม่แค่ใช้ภาษาผิด แต่มีทั้งสัญลักษณ์ อีโมติค่อน กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปหมด และวันรุ่นสมัยนี้ก็ชอบกัน [ผมเคยพลาดโดนมา 1 เล่ม ทั้งที่อ่านเรื่องย่อก็แล้ว เป็นเรื่องแนวสยองขวัญ ดูปกก็แล้ว ปกก็ไม่ได้ออกแนวหวานแหวว ไม่นึกว่าจะเป็นฟิคชั่นได้ ทำเอาเสียดายเงินมาจนทุกวันนี้] จากคุณ : ton_ck เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:36:06

ความคิดเห็นที่ 11 ยาวมากๆ แต่ก็อ่านจบ จาก #3 โดยคำกล่าวอ้างของนักการศึกษาในยุคโน้นว่า "กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า – มีแต่คำว่ากาที่มีความหมาย คำอื่นๆที่ไม่มีความหมายคุณจะไปสอนมันทำไม" ติงต๊องมาก แล้วเด็กมันจะรู้จักการผันวรรณยุกต์ได้ไงล่ะ ถ้าไม่สอนให้เด็กมันน่ะ การผันเสียงวรรณยุกต์ ถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของภาษาไทยเลยนะเฟ้ย คนต่างชาติมา มันก็ต้องเรียนผันเสียงแบบนี้ทั้งนั้น จากคุณ : Fenix_Strike เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:36:07

ความคิดเห็นที่ 12 มาลงชื่อก่อน เดี๋ยวจะอ่านให้จบให้ได้ จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:40:09

ความคิดเห็นที่ 13 กอง บ.ก. ไหนนะ   โหวต  ยาวมากแต่็อ่านจนหมด จากคุณ : eightwings เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:45:26

ความคิดเห็นที่ 14 โอย ยาวเกิน หลับดีกว่า จากคุณ : HotSmile เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:48:00

ความคิดเห็นที่ 15 ...เข้ามาโหวต ส่วนตัวนู๋มองปัญหาเรื่อง ภาษาวิบัติว่า "คนยุคใหม่ เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ไม่ถูก คิดว่าทุกที่ทุกเวลาเอาโก้เก๋ เข้าว่าได้หมด" เวลาสอบข้อเขียนเด็ก นั่งอ่านที่มันเขียนมาส่งจะฮากลิ้งมากๆ จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:52:38

ความคิดเห็นที่ 16   อ่านไม่หมดหรอกนะคะ อ่านผ่านๆพอจับประเด็น เราว่า แสลง มันก็แค่คำพูดน่ะค่ะ ไม่น่าจะทำให้ภาษาวิบัติ ซึ่งภาษาเนี่ยมันมีการเปลี่ยนแปลงตามวัฒนธรรมของมนุษย์อยู่แล้ว เพราะมันมีส่วนที่เป็นศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างคำว่ารสชาด เนี่ย เดี๋ยวนี้ก็เขียนคำว่า รสชาติ ได้ ซึ่งเมื่อก่อนก็ว่าผิด แต่ที่เห็นเป็นถูกได้ก็เพราะว่าคนใช้แบบผิดๆมากเข้าเลยปล่อยให้กลายเป็นถูก ซึ่งเราว่าภาษาพูดกับภาษาเขียนมันก็ไม่ได้เหมือนกันหรอก อย่างแต่ละภาคก็มีภาษาท้องถึ่น ก็สามารถดัดแปลงให้เกิดคำแสลงขึ้นมาได้อีก สรุปว่า เราเห็นว่าการเพิ่มคำใหม่ๆให้กับภาษาหรือดัดแปลงเพื่อเอามาพูดคุยสื่อสารกัน ไม่สามารถทำให้ เกิดภาษาวิบัติหรอกค่ะ ตราบใดถ้าเรายังใช้ภาษาให้ถูก กาลเทศะ ------------------------------------------------------------------------- เรียบเรียงไม่เก่งนะคะ ออกมาจากความคิดสดๆ จากคุณ : เทสต์ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:53:50 A:58.9.198.78 X: TicketID:231484

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าให้แก้ ปัญหานี้ น่าจะมี แค่ 1 ทางออก แบ่งภาษาราชการ กะ ภาษาพูด(กันเอง) ออกไปจากกันไปเลย ไม่งั้น ก้อมานั่งเถียงกันแบบนี้ ภาษาไม่ผิด เพราะภาษา ก้อมีการเติบโตของภาษา และสุดท้าย คือ พัฒนาการของภาษา รณรงค์ ให้ใช้ภาษาราชการ ให้ถูกต้องก่อนดีกว่า ไม่ว่าในที่ประชุม บทสัมภาษณ์ ข้อสอบ-กระดาษคำตอบ แต่ไม่ต้องถึง ใช้ภาษาราชการ ตลอดเวลา เวลาอื่น ก้อปล่อยให้ ภาษา มีการเจริญเติบโต บ้าง ไม่ต้องอะไรมากมาย กฎกระทรวง-ระเบียบกระทรวง คนไทยบางคนยังอ่านไม่เข้าใจเลย ทั้งที่เป็นภาษาไทยแท้ๆ ตรงๆ ไม่มีแสลง ใดๆ ทั้งสิ้น วิวัฒนาการทางภาษา เป็นเรื่องดี แต่คงไม่ดีแน่ ถ้าเราส่งภาษาแล้ว อีกฝ่ายไม่เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:12:41 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:03:34 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 10:58:13 จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:54:05

ความคิดเห็นที่ 18 = = เจ้าของกระทู้แย่มากเลยนะครับ ทำไมไม่มีล็อกอิน แล้วผมจะแจก give ได้ยังไงล่ะทีนี้ ปล. นานๆ ทีจะอ่านตัวหนังสือเยอะๆ ในกระทู้โดยไม่กระโดดข้าม ปวดตา... จากคุณ : mad_monkey เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:55:19

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆนะครับ โดยเฉพาะ#2 เรื่องที่ว่าภาษาไทยเรามี'ระบบถอดเสียงที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลกเท่าที่เคยสัมผัสมา' เพราะที่จริงผมก็คิดมานานแล้วว่าที่จริงเราก็ออหเสียงได้ทุกคำทุกภาษาเลยนี่หว่าถ้าจะเอา อย่างแม่กก เนี่ย ที่จริง ก ค ก็ออกเสียงไม่เหมือนกัน ต่างกันเล็กน้อยแต่ถ้าฟังห็จะเข้าใน กับ#3 เรื่องที่บอกว่า 'ในอดีตนักเรียนจะเขียนผิดกันเฉพาะคำยากๆ มีตัวสะกดการันต์ แต่นักเรียนปฐมวัยยุคใหม่ ในการศึกษาแผนใหม่ ถ้าเจอคำที่ไม่เคยเห็นก็จะอ่านไม่ออก ให้เขียนคำที่ไม่เคยรู้ก็จะสะกดไม่ถูก!!' ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนผมสามารถสะกดคำที่ไม่เคยรู้ได้ก็เพราะการไล่เสียง แล้วดูว่ามันน่าจะใช้อักษรตัวไหน อย่างพวก ส ศ ษ เนี่ยมันสาด เอ๊ะหรือต้องมันแสด กรรมชักไม่แน่ใจแฮะ จากคุณ : RennasS เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:56:34

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าแค่ กาตูนย์ ยังเขียนผิด คำอื่นก็ไม่ต้องไปพูดแล้วครับ จากคุณ : trish (Trisha Foster) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 10:58:19

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนตัว คำสแลงไทย ในปัจจุบัน มีที่มาจาก สองสามกลุ่ม...(ขอเอาพวก นสพ. ไปไกลๆก่อน) ส่วนหนึ่งเกิดจาก วงการ"ตลก" (แนว โคเมดี้ ทั้งหมดอาจรวมไปถึงการ์ตูนและดนตรีบางประเภท แต่ก็นิยมไม่ยืนยาวนัก) นำมาพูดให้เกิดความขบขัน แก่ผู้ชมให้รู้สึกใน ความเขลา/ติ๊งต๊อง/ไร้เดียงสาทางปัญญา/สติไม่สมประกอบ เป็นต้น  มาสร้างความบันเทิง... ซึ่งกลุ่มเยาวชน ที่ชอบก็จะนำไปพูดต่อๆกันจนเป็นคำติดปาก... ปัญหาคือผู้ใหญ่ที่รู้ว่าเลืยนแบบมาจาก...นั้นเขาไม่ปลื้ม (สมัยก่อน พ่อแม่ใครเห็นลูกล้อเลียนเลียนแบบคนพิการมีสิทธิ์โดนฟาดเพราะเขาถือว่าเป็นลางรวมไปถึงนิสัย...) ไหนจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าโดนกวนอารมณ์ อีกต่างหาก... เช่น สมมุติ ครู : ดช.สมชาย มายัง สมชาย : มาแว้ววววกั้บ - -/ ครู : -"- (สอนมาเป็นสิบๆปี นี้guแย่ลงขนาด สอนเด็กปัญญาอ่อนลงหรือวะ...) เคสจริงๆอาจยิ่งกว่านี้นะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาพิมพ์เพิ่มย่อๆที่เหลือแล้วกัน อีกส่วนก็อินเตอร์เน็ต... คิดเอาง่ายๆก็คนแปลส่วนใหญ่ก็เล่นเน็ต จะเผลติดคำประหลาดๆก็ได้... -_-' สุดท้ายกลุ่ม กระเทย...ผู้นำการคิดค้นศัทพ์แผลงๆในประเทศไทย ถึงจะมีคนดูถูกกลุ่มพวกนี้แค่ไหน สุดท้ายพวกที่ด่าก็เผลอใช้คำพวกนี้เหมือนกัน (ติดเชื้อ?) แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:07:13 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:06:06 จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:00:50

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านจบแล้ว รู้สึกดีใจมากที่ตัวเองเป็นคนยุคเก่า(ทันมานะ มานีรุ่นสุดท้าย) และระบบการสอนภาษาไทยเรายังได้เรียนแบบโบราณอยู่ เลยไม่มีปัญหาเรื่องการอ่าน เขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง เรื่องภาษาญี่ปุ่น กำลังเรียนอยู่เลยค่ะ จะท้อใจก็ตรงคันจิ เพิ่งเรียนไปยี่สิบตัว บางตัวมีมากกว่าห้าความหมาย แล้วอาจารย์บอกว่าเวลาท่องจำ อย่าท่องว่ามันอ่านว่าอะไร ให้จำว่ามันแปลว่าอะไรจะดีกว่า ......เฮ่อ เวรกรรม แล้วจะใช้ถูกมั้ยเนี่ย จำความหมายได้ไม่ครบซะด้วยสิ =   =" โหวตค่ะ! บทความยาวมาก แต่ก็ดีมากด้วย ^ __ ^ จากคุณ : Yodel เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:09:49

ความคิดเห็นที่ 23 โหย ตาอุ๊พิมพ์ไรยาวๆ งี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย ส่วนตัวผมชอบภาษาวิบัตินะ แต่ก็รู้จักเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา จากคุณ : เหมียวเอง (6 Degrees of Inner Turbulence) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:11:06

ความคิดเห็นที่ 24   #19 ผมว่าภาษาไทยไม่ได้ออกเสียงได้ทุึกภาษานะครับ เป็นเรื่องขี้โม้ที่คนไทยบางคนคิดเองเออเองมากกว่า ลองหากระทู้ออกเสียงคำว่า dwarf ดู เจอในห้องนี้เมื่อไม่นานมานี่แหละ จากคุณ : painful_truth เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:13:13

ความคิดเห็นที่ 25 #5 " อาทิ เจีย = บ้าน – ญี่ปุ่น = คะ, ฮว่า – ดอกไม้ – ญี่ปุ่น = คะ, หัว – ไฟ - ญี่ปุ่น = คะ ฯลฯ " งี้ดอกไม้ไฟของญี่ปุ่นก็ออกเสียงว่า คะๆ สิ จากคุณ : เลิกใช้บัตรผ่านแล้ว เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:15:07

ความคิดเห็นที่ 26 ขอยกตัวอย่าง ของตัวเอง นะครับ คำว่า ก็ ทุกวันนี้ ติดใช้ว่า ก้อ บ่อยมาก บ่อยครั้งที่ พิมพ์แล้ว ต้องกลับมาแก้ไข บ่อยครั้ง เห็นด้วย กับ คุณ เหมียวเอง (6 Degrees of Inner Turbulence) ****รู้จักเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:17:47

ความคิดเห็นที่ 27 แจ่มเลย จัดไปหนึ่งโหวต! จากคุณ : นางมารน้ำแข็งใส เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:19:28

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้จริงๆ ปัญหาอยู่ที่การใช้ภาษาสื่อสารในแบบทางการมากกว่า ความสับสนของภาษาที่ใช้ทำให้บางทีในหนังสือราชการก็มีคำตลกๆ ที่ไม่น่าใช้หลุดมาบ้างเหมือนกัน เพราะเอาภาษาพูดมาใช้ในภาษาเขียน จากคุณ : ถมท่อ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:20:21

ความคิดเห็นที่ 29 ในการ์ตูน ถามว่าใช้ภาษาวิบัติได้มั้ย ส่วนตัวผมว่า "ได้" ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็คือ มันไม่ใช่ "หนังสือเรียน" อ่ะ แต่ในฐานะสื่อมวลชนประเภทหนึ่ง "การ์ตูน" ก็ถูกตั้งความหวังจากผู้ปกครองและคนอ่านส่วนนึงว่าต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาด้วย เหมือนที่คนในสังคมส่วนนึงคาดหวัีงว่า "ดารานักแสดง" ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนนั่นแหละ ถ้าเอาทฤษฎีสื่อสารมวลชนมาพูดแล้วมันจะยาว สรุปว่า "ปัญหาโลกแตก" ครับ จากคุณ : เหมียวเอง (6 Degrees of Inner Turbulence) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:26:40

ความคิดเห็นที่ 30 ร่วมด้วยช่วยโหวต ในฐานะคนทันได้เรียนดรุณศึกษา จากคุณ : P๐m PoM GiRL เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:31:00

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงว่าว่าเก็กสมัยนี้ทพำไมมันผันวรรณยุกต์กันไม่ถูกซะเลย ง่ายๆอย่าง คะ ค่ะ นี่ นี้ นี่เจอผิดกันเป็นประจำ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:31:29

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตครับ... เดี๋ยวมาอ่าน... [ฝากบอกพี่อุ๊ด้วยว่า ผมชื่นชอบผลงานพี่อุ๊ และติดตามมานานแล้วเน้อ...] จากคุณ : Sydt เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:35:44

ความคิดเห็นที่ 33 ภาษาไทยมีพื้นฐานที่ดีครับ สระ วรรณยุกต์ เสียงควบกล้ำ อักษรสูง กลาง ต่ำ   มันทำให้เราสามารถออกเสียงแตกต่างกันได้มากมาย (แต่ก็ยังไม่ทั้งหมดนะ)   เรื่องการใช้ภาษาไทย มองว่าการใช้ต้องใช้ให้ถูกต้องตามสถานการณ์ คือรู้จักใช้ภาษาที่เป็นทางการเวลาติดต่องาน หรือการใช้ภาษาพูดเวลาแชท มันก็มีความแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าการติดต่อสื่อสารนั้นเป็นในลักษณะไหน ที่สำคัญคืออย่าลืมภาษาไทยที่เราเรียนกันมาครับ นั่นเป็นสิ่งที่จะอยู่ตลอดไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน  ถือเป็นสมบัติของประเทศไทยเลย จากคุณ : MLTransform เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:44:05

ความคิดเห็นที่ 34 คร่อก จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:46:50

ความคิดเห็นที่ 35   ผมไม่คิดว่าคำวิบัติพวกนั้นจะมีผลกระทบจริงๆจังๆ เท่าไหร่นะ เดี๋ยวก็หายไปเองแหละ เหมือนประเภท "จ๊าบ" "โจ๋" ปัจจุบันมีวัยรุ่นที่ไหนเขาใช้กันล่ะ มีแต่ศิลปินเอามาใช้ขำๆ ส่วนเรื่องการใช้คำผิดจนกลายพันธุ์ผมไม่เห็นส่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ภาษามันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย คำสมัยพ่อขุนรามคิดค้นมายุคปัจจุบันก็กลายเป็นคำหยาบ สำนวน"ไม้ป่าเดียวกัน"ที่แปลว่าบ้านใกล้เรือนเคียง(จริงๆ ก็ไม่เชิงนะ แต่ก็แปลได้ประมาณนี้)ก็ กลายเป็นแปลว่ารักร่วมเพศ ผมไม่เห็นว่ามีใครจะเสียดายคำเหล่านั้นเลย ผมว่าที่คนเรากลัวภาษาล่มสลาย ผมว่าเป็นการกลัวเกินเหตุเหมือนเรื่องที่เรากลัววัฒนะธรรมไทยจะสูญสลายไป ซึ่งอันที่จริงวัฒนธรรมไทยปัจจุบันก็คือวัฒนธรรมไทย อาจต่างจากวัฒนธรรมไทยโบราณแต่มันก็คือไทย ไม่ใช่อเมริกา ไม่ใช่ญี่ปุ่น(ถึงคนไทยจะใส่เสื้อผ้าฝรั่งดูการ์ตูนญี่ปุ่น แต่เราก็ยังคือตัวเรา ไปดูคนอเมริกา คนญี่ปุ่นการใช้ชีวิตเขาก็ไม่เหมือนเรา แม้จะใส่เสื้อผ้ายี่ห้อเดียวกัน ดูการ์ตูนเรื่องเดียวกันแต่ตัวตนของแต่ละเชื้อชาติก็ไม่มีทางเหมือนกันได้เด็ดขาด) อีกร้อยปีผ่านไปต่อให้จะเปลี่ยนไปขนาดไหน ตราบใดที่ประเทศไทยไม่ล่มสลาย วัฒนธรรมของเราก็จะยังคงอยู่ แต่ทั้งนี้ก็ใช้ให้ถูกที่ถูกทางด้วยล่ะพวกคำวิบัติเนี่ย เช่นถ้าจะเขียนวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์ไรงี้ ดันมา "เรียน อาจาน ที่ คาวรบ ป๋มมีความ พูมจายที่จา ซาเน๋อ งานวิจายชิ้นร่าสุด (อุอิ้...เขินจาง)" แบบนี้ก็สมควรติด F ล่ะนะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 12:06:08 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:57:02 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 11:51:53 จากคุณ : cdaz เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:48:13

ความคิดเห็นที่ 36 บทความดีๆแบบนี้ต้องโหวดครับ เห็นด้วยว่าเด็กสมัยนี้ใช้ภาผิดๆกันเยอะมาก ติดภาษาปากมากเกินไป จากคุณ : unholy เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:49:02

ความคิดเห็นที่ 37 อินเตอร์เน็ตเลยตัวดี คอมพิวเตอร์เกี่ยวที่สุด ไม่มีระบบการแจ้งเตือนและแก้ไขเมื่อเขียนคำผิดๆ โทษหนังสือพิมพ์เลยชอบคิดคำแผลงๆพาดหัว โทษรัฐบาลเลยไม่ยอมพัฒนาโปรแกรมประเภทคอยแก้ไขเมื่อเขียนคำผิด ดูตัวอย่างบนๆได้ พิมพ์ผิดกันแบบไม่รู้ตัว แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 12:08:41 จากคุณ : Robonin S.knight เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:05:44

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตครับ จากคุณ : Morphyne เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:11:17

ความคิดเห็นที่ 39 คำสแลง  ผมว่าใช้ได้ปกติ  ไม่ได้ทำให้ภาษาวิบัติ เรียกว่าเป็นวิวัฒนาการของภาษามากกว่า  ถ้ามันไม่สื่อความหมาย  มันก็ตายไปเอง  สแลงก็เช่น จ๊าบ โจ๋ เก๋า..  จะใช้ในการ์ตูนก็ไม่แปลก แต่ภาษาวิบัติ ในที่นี้น่าจะหมายถึง คำที่เขียนสะกดผิดทั้งแบบจงใจและไม่จงใจ  ซึ่งทำให้ใช้คำกันแบบผิดๆ ทั้งตัวสะกดและความหมาย  (ภาษา chat นี่ตัวดี)  เช่น นู๋จาปัยยังงัย   ตัวนี้น่าจะเป็นตัวทำให้ภาษาวิบัติของแท้  ถ้ามาใช้กันในหนังสือ เพราะไม่ได้อ่านหรือมีความหมายต่างจากเดิม เป็นแค่การเขียนผิดทั้งๆ ที่ของถูกก็มีอยู่แล้ว  ผิดกับสแลงที่เป็นคำเฉพาะตัวที่มีความหมายของมัน จากคุณ : AccBLue เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:14:19

ความคิดเห็นที่ 40 ลองมานึกถึงปัญหาของการใช้ภาษาก็คงจะประมาณนี้ละมัง.. ปัญหาที่ตัวสะกด สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหานี้ก็คือ ระดับความตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ภาษา คนกลุ่มที่ใช้ภาษาผิดมักไม่ค่อยใส่ใจกับความถูกต้องของภาษาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ สังเกตจากในพันทิปนี่แหละ... แค่คำว่า "คะ" กับ "ค่ะ" ยังใช้กันผิดเยอะมาก ๆ ขนาดบางห้องพยายามรณรงค์กันก็แล้ว ดูจะไร้ผลซะงั้น คนที่ใช้ผิดก็คงยังใช้ผิดต่อไป อาจจะเนื่องจากความเคยชินหรืออะไรก็ตาม สุดท้ายมันก็คือความไม่ใส่ใจนั่นแหละ... ประเด็นนี้เราถือว่าเป็นภาษาที่ "ผิด" จริงๆนะ เพราะคนที่ใช้ไม่ได้ตระหนักเลยค่ะสิ่งที่ตัวเองเขียนเป็นการสะกดที่ "ผิด" ปัญหาภาษาดาวนาแมก ปัญหานี้ฟันธงว่ากว่าค่อนเกิดจากค่านิยมกลุ่มค่ะ การเขียนผิดโดยจงใจ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าภาษาอะไร...(ส่วนตัวเรียกว่าภาษาแอ๊บ 555+) "กี๊สสส ทัมมัยเทอร์เข้าจัยยากจังรุยเน้ส์~" เราว่าเด็กที่พิมพ์แบบนี้ได้ก็ไม่ได้โง่อย่างที่หลายคนคิดนะ... ถึงดูแล้วรู้สึกขัดตาชะมัด..แต่ใจนึงก็ทึ่งว่าคุณท่านคุณเธอแปลงจากภาษาธรรมดามาเป็นภาษาแบบนี้กันได้ไง เราเองจะลองเขียนภาษาแอ๊บทีนี่คิดร้อยแปดตลบ มันผันยังไงของมันแว้~ เด็กกลุ่มนี้บางส่วนก็เขียนภาษาไทยมาตรฐานได้ถูกต้องนะคะ แต่เลือกที่จะใช้ภาษาแบบนี้ตามกลุ่มและสังคมที่ตัวเองอยู่ อาจจะเพื่อการเป็นที่ยอมรับหรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ของเจ้าตัว ...แต่สุดท้ายการใช้ภาษาผิดไปนาน ๆ ก็ย่อมเกิดความเคยชิน ต่อไปอาจจะลืมภาษาที่ถูกต้องก็ได้ (เพราะไม่ได้ใช้เลย) ตราบใดที่ไม่ใช้ผิดที่ผิดทาง ภาษาดาวนาแมกก็น่าจะพอรับได้นะ ปัญหา(ตรงไหน?)ภาษาสแลง/อิทธิพลของสื่อ สแลงต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากสื่อทีวี วิทยุ ฯลฯ ...ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าเรื่องการใช้แสลงจะผิดร้ายอะไร ตราบใดที่ผู้ใช้ "รู้" ว่านี่คือ "แสลง" อย่างคำว่า "มาแว้ว" "แหล่มเลย" หรือแม้แต่วลีพวก "ไม่ไหวจะเคลียร์" เราว่ามันเพิ่มสีสันให้ภาษาดีออกจะตายไป เพราะภาษาใดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีความไดนามิกเลย = ภาษาที่ตายแล้ว สุดท้ายเรื่องพวกนี้ก็...ฝากระบบโรงเรียนช่วยใส่ใจหน่อยละกันนะคะ อย่างน้อยเรื่องของค่านิยมคงพอจะสั่งสมกันได้ตั้งแต่ยังเล็ก ปล. ส่วนเรื่องของการ์ตูนเด็กที่ใช้คำว่า "มาแว้ว"  ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับระดับอายุของเด็กและประเภทของการ์ตูนด้วย ถ้าเป็นการ์ตูนประเภทนิทานให้เด็กประถมต้นอ่าน หรือเป็นการ์ตูนสื่อการสอนของกระทรวงศึกษา ...การใช้คำว่า "มาแว้ว" นี่มันก็ไม่สมควรเท่าไหร่หรอกนะ เป็นเราก็คงจะค้านเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นการประกวดวรรณกรรมทั่วไป เราว่าเราชอบคำพวกนี้นะ มันเพิ่มอรรถรสในการอ่านน่ะค่ะ อย่างในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถ้าได้อ่านภาคภาษาอังกฤษจะพบว่าคำที่เล่นเสียงจะมีเยอะมาก ตัวสะกดไม่ต้องพูดถึง เดาได้ว่าพูดอะไรก็พอละ 555 (โดยเฉพาะคำพูดของ Hagrid) ที่บ้านเขายังกวาดรางวัลไปเยอะแยะเลยนี่นา... จากคุณ : ครูภาษาอังกฤษ 555+ (dattebayo) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:21:01

ความคิดเห็นที่ 41 ผมก็หงุดหงิดกับภาษาวิบัติเช่นกัน ไอ้พวก คับ เปน งุงิ ใค แล้วพวกใช้ศัพท์ผิดๆทั้งหลาย ถ้าเขียนผิดโดยไม่ได้เจตนา อันนี้ไม่ว่า ผมก็พิมพ์ผิดออกบ่อยไป แต่ถ้าจงใจให้ผิด อันนี้หงุดหงิด ภาษษแบบนี้ ใช้เวลาพิมพ์แช๊ทกันทาง M อันนี้ยอมรับได้ เพราะมันพิมพ์เร็วกว่า แต่ถ้าใช้ที่อื่น เช่น ตามเว็บบอร์ด อันนี้รับไม่ได้ และที่เคื่องที่สุด คือพวกที่แถว่าตัวเองไม่ผิด แถมลำเลิกบุญคุณอีกว่า "ก็ไม่ใพราะคนแบบพวกผมหรือ ที่ทำให้ภาษษพัฒนา" จากคุณ : ซามาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:22:16

ความคิดเห็นที่ 42 ดิฉันเห็นว่า ภาษาวัยรุ่น อาจใช้กันได้เฉพาะกลุ่ม ถ้าสามารถทำให้เขา แยกแยะระดับการใช้งานได้  มันก็จบ แต่ส่วนที่เป็นปัญหา  คือผู้ใหญ่สมัยนี้ต่างหาก ที่ไม่มีความแตกฉานทางภาษา แม้แต่ในสื่อ สิ่งพิมพ์  ก็ยังเห็นอยู่เรื่อยๆ ไม่นับเรื่อง พิมพ์ตก พิมพลาด ก็ยังเจอที่ใช้ผิดอยู่เรื่อย แม้แต่ตนเองที่พยายามใช้งานให้ถูกต้อง  ก็ยังต้องพยายามให้มากขึ้น เพราะมีผิดอยู่ประจำ เอาเป็นว่า ระดับบริหารที่ดิฉันต้องสื่อสารด้วยเป็นประจำ ก็ยังไม่ให้ความสำคัญของ คะ/ค่ะ ครูอาจารย์ ยังเปรียบให้ นักเรียนฟังว่า "น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือ ไปขวางน้ำ(ไว้)" ทั้งที่สมัยเรียนประถม  การขวางเรือ คือการ หันทิศลำเรือ (มันมีภาพประกอบ) เลยจำได้ ว่ามันไม่น่าจะใช่ ขอบพระคุณ จขกท. แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 12:29:44 จากคุณ : Alex Dino เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:23:42

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วย หลายประเด็นไม่เคยคิดถึงมาก่อนแต่พอฟังแล้วมันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลย โหวตครับ แล้วก็อยากให้กิฟท์จังเลยครับ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:24:28

ความคิดเห็นที่ 44 #24 คำว่า dwarf ออกเสียง ดว๊อฟ รึเปล่าครับ ลองไล่เสียง5เสียงดูครับ จะเป็นเสียงที่4(เสียงตรี) จากคุณ : RennasS เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:36:23

ความคิดเห็นที่ 45 ภาษามันมีการเปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญก็คือการใช้ภาษาให้ถูกกาลเทศะ จากคุณ : zervilz เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:39:14

ความคิดเห็นที่ 46 ภาษาวิบัติ รึไม่ ไม่รู้ แต่รู้สึกหงุดหงิดทุกที เวลาใครก็ตาม ที่พูด อ่าน เขียน คำ ว่า "เมพ"+"ขิง" ฯลฯ บลาๆๆๆๆ จากคุณ : กาเหว่าที่บางเพลง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:44:12

ความคิดเห็นที่ 47 ขอแทรกคำถามหน่อยครับ "พี่อุ๊" ในกระทู้นี้หมายถึงใครครับ (คนละคนกับที่สอนเคมีใช่ไหม) ... จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:51:30

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วได้ความรู้ ชอบๆ โหวต!! จากคุณ : น้ำลอยดอกไม้ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:54:05

ความคิดเห็นที่ 49 คห.46 เมพขิงๆ จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:55:22

ความคิดเห็นที่ 50 "พี่อุ๊" = คุณอิศเรศ ทองปัสโณว์ ผู้แปลการ์ตูนของค่ายNED จากคุณ : ใช่ไหมเนี่ย... (dattebayo) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:55:43

ความคิดเห็นที่ 51 แค่ใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาก็จะเป็นพระคุณมาก ส่วนเรื่องระบบการเรียน  น่าจะมีผลจริงๆ  เพราะได้ยินว่าเด็กสมัยนี้ อ่านตัวหนังสือกันไม่ค่อยออก  เพราะท่องจำเอา   ไม่ได้สะกดในใจ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 12:56:31

ความคิดเห็นที่ 52 เมพขิงๆ แปลว่า ไรนิ สงสัย มานานละ จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:00:49

ความคิดเห็นที่ 53 แล้ว เวปบอร์ด กระทู้ รายงานสด คุณ : ซามาโนสุเกะ   พออนุโลม ได้ป่าวนิ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 13:04:02 จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:03:49

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ เทพจริง ๆ แบบรีบพิมพ์จนผิดเพราะเลื่อนตัวอักษรครับ   ------------------------------- ผู้เห็นปัญหา มิมีอำนาจแก้ไข ผู้มีอำนาจแก้ไข เห็นแต่ผลประโยชน์ อย่างไรก็ภาษาเรา ก็ควรเริ่มที่ตัวเรา หากไม่แน่ใจ ว่าพิมพ์ถูกหรือไม่ ลองหาในกุ๊กเกิ้ล (เทคโนโลยีมีจริง บางครั้งกุ๊กเกิ้ลช่วยแก้ให้ด้วย) เคยมีเพื่อนถามว่า มืงจะพูด ร.เรือให้ชัดทำไมวะ ผมไม่ตอบเขาเพียงนึกสมเพชเวทนาในความคิด คาดว่าเด็กเกรียนไทย นอกจากไม่สนใจแล้ว ยังคิดแบบนี้ ^^' จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:04:47

ความคิดเห็นที่ 55 กระทู้นี้เยี่ยมครับ สมควร สนับสนุน จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:10:57

ความคิดเห็นที่ 56 รุ่นมานะมานีครับ เห็นด้วยหลายๆส่วนที่เขียนครับ โดยเฉพาะที่ว่าสมัยนี้ที่ให้จำเป็นคำๆ ถ้าไม่เคยเห็น ไม่รู้ ก็จะเขียนผิดได้ ผมเองก็สังเกตในจุดนี้เหมือนกันครับ มีคำหลายคำที่คนในพันทิปเขียนบ่อยมาก มีกระทู้เยอะแยะที่ท้วงมา (ก็ท้วงมาเป็นช่วงๆ) แต่หลายๆคนก็ยังพิมพ์ผิดเหมือนเดิม จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:13:08

ความคิดเห็นที่ 57 #50 ขอบคุณครับ พอดีผมเกิดไม่ทันเลยรู้จักแต่ ปู่ภรต กับ นายวาม ^_^" ... จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:20:50

ความคิดเห็นที่ 58 หลักฐาน ไม่มีมาอ้างอิง แบบนี้ ต้องรบกวน อาจารย์ที่ ตรวจข้อสอบ ข้อเขียนของเด็กๆ มาดูหน่อยละ ถ้าเด็กใช้ผิดเยอะจริง เราสมควรต้องปรับ เริ่มต้นใช้ในพันทิพย์ ก่อนเลย ถ้าผิดไม่เยอะ เด็กรู้ กาล เราก็ใช้แบบนี้ กันต่อไป จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:24:27

ความคิดเห็นที่ 59 แต่ขอยืนยัน เรื่องภาษาราชการนะครับ แบบฟอร์ม ยื่นคำร้อง ของหน่วยงาน ราชการ หรือ พวก พรบ.ต่างๆ กฏกระทรวง ต่างๆ ผมยังต้องอ่าน แบบมีสติ ไม่กล้า อ่านผ่านๆเลย จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:27:09

ความคิดเห็นที่ 60 Great job!! จากคุณ : รถขนมปังกรอบ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:28:28

ความคิดเห็นที่ 61 มีพี่คนนึงเล่าให้ฟัง แกรับสมัครเด็ก ปวส มาทำงาน มีคนนึงเขียนในใบสมัครว่า จบ สาขาเคื่องกล สรุป ใบสมัครลงไปนอนในถังขยะทันที จากคุณ : iiixe_user เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:33:14

ความคิดเห็นที่ 62 อย่างพวกภาษา msn เนี่ย ผมเคยถามเพื่อนที่ชอบพิมพ์ผิด เช่น เดี๋ยว - เด่ว เป็น - เปน มันบอกว่า ไม่อยากพิมพ์ยาวๆ อ่ะ อันนี้ผมเข้าใจ แต่ไอ้คำว่า ให้ - หั้ย เนี่ย มันพิมพ์เพื่ออะไร -_-" จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:39:32

ความคิดเห็นที่ 63 ++พันทิป++ สรุป เราต้องใช้ คำไหนนิ "พันทิป" หรือ "พันทิพย์" 5 5 5 5 5 ฟิ้ววววววววววววววว แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 13:45:13 จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:40:16

ความคิดเห็นที่ 64 โหวตๆๆๆ จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:42:07

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งจะรู้นะเนี่ย... เด็กสมัยนี้เค้าจำคำศัพท์แทนการสะกดคำกันแล้วเหรอ? ถ้าแบบนี้ที่เห็นหลายๆ คนพิมพ์กันผิด แปลว่าเค้าไ่ม่รู้่จริงๆ เหรอครับ? รู้แ่ต่แกล้งพิมพ์ผิด ผมว่ามันยังไม่ร้ายแรงเท่าพิมพ์ผิดเพราะไม่รู้นะ... อย่างน้อยๆ คนที่ตั้งใจพิมพ์ผิดๆ เวลาทำงานส่งก็ยังเลือกใช้คำที่ถูกต้องได้เหมาะสมกว่า... #20 คำว่า การ์ตูน นี่เขียนผิดเหรอครับเนี่ย... งงแฮะ... จากคุณ : จิบเดียวก็ซึ้งแมน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:50:15

ความคิดเห็นที่ 66 หงุดหงิดเวลาเห็นภาษาไทยพิมพ์ผิดแบบโง่ๆอ่ะ หลายๆคำ เช่น นะค่ะ (คำฮิตเลย) สอนไม่จำ จากคุณ : ~ Ramamax ~ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 13:51:29

ความคิดเห็นที่ 67 อยากแจกกิ๊ฟ สังเกตเหมือนกันว่าเด็กรุ่นหลังผิดวรรณยุกต์บ่อยมาก เรื่องคำควบกล้ำ และ ล กับ ร รองลงมา ที่จริง ในงานบันเทิงคดีทั้งหลายของภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอังกฤษอเมริกัน จะมีแนวทางหรือยุคหนึ่งที่เรียกว่า local color เมื่อใช้บทสนทนา จะพยายามถอดเสียงภาษาถิ่นของท้องที่นั้น หรือชนชาติอื่น เช่น คนผิวดำ หรือคนจีน ให้มีลักษณะรู้ว่าเป็นคนกลุ่มนี้ เขาก็ไม่หากันว่าเป็นภาษาวิบัติ ขึ้นชื่อว่าเป็นงานบันเทิงคดี ก็ต้องทำให้บันเทิงเป็นสำคัญ ภาษาพูดในนิยายจะบันเทิงอย่างไร การใช้คำสแลงช่วยให้บันเทิงได้รสอย่างไร คนอ่านส่วนมากน่าจะรู้ ต่อให้ใช้ถูกต้องครบถ้วน แต่งานนั้นไม่สามารถให้ความบันเทิงได้ ก็ถือว่า "ล้มเหลว" ในฐานะบันเทิงคดี มันอยู่ที่การใช้ให้ถูกต้อง และ เหมาะสมกับกาลเทศะอย่างที่หลายท่านว่ามามากกว่า ลองอ่านการ์ตูนที่เด็กพูดภาษาผู้ใหญ่ถูกต้องทุกระเบียดนิ้ว หรือตัวละครกำลังจะฆ่ากันแล้วมานั่งด่ากันว่า "อ้ายสุนัข" หมดความอินกันเรื่องโดยทันที - -a มาแว้ว ถ้านึกออกเป็นเสียงพูด ก็คิดว่าอะลุ้มอะหล่วยใช้ได้ แต่ถ้าเจออย่าง หนู เป็น นู๋ (เสียงเหมือนกันแต่ผิดหลักวรรณยุกต์) อันหลังนี่ผมว่าจะรับไม่ได้มากกว่าอีก ในเมื่อเสียงเหมือนกัน ก็อย่าเปลี่ยนเป็นคำอื่นเลย ปล. ตอบคห. 10 นิดหน่อย ที่จริงคำว่า fiction ในภาษาอังกฤษแปลว่า "งานบันเทิงคดี" ทุกประเภท ซึ่งมีจินตนาการเป็นส่วนประกอบ และไม่ใช่้เรื่องจริง 100% ครับ ที่เดี๋ยวนี้เวลาเขียนนิยาย คนนิยมเรียกย่อๆ ว่าแต่งฟิคชั่น หรือแต่งฟิก คงมาจากอินเตอร์เน็ท โดยเฉพาะการแต่ง แฟนฟิคชั่น กัน ฟิคชั่น ไม่จำเป็นต้องมีอีโมติค่อน หรือสะกดผิดเสมอไปครับ (แต่ถ้าคำว่า ฟิคชั่น ตัวนี้กลายเป็นสแลงในไทย มีความหมายใหม่ขึ้นมาก็คงเป็นอีกเรื่อง) จากคุณ : Anithin (Anithin) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:04:30

ความคิดเห็นที่ 68 -*- ผมมักจะพิมพ์คำว่า พาษ์ก เป็นภาค บ่อยๆ... จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:07:09

ความคิดเห็นที่ 69 ทุกวันนี้เจอใครใช้ภาษาผิดๆก็จะช่วยแนะนำเขาไปตลอดแต่ก็อย่างว่า เด็กสมัยใหม่ไม่สนใจความถูกต้องอีกแล้วครับ.. มาแก้ตอนโตมาหน่อยมันไม่ทันแล้ว ต้องไปแก้ตอนเล็กๆเป็นเด็กน้อยนู่นเลย ใช้จนชิน จนตัวเองไม่รู้ว่าที่ถูกควรจะเขียนอย่างไร จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:08:51

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านไม่ไหว...ยาวจัด จากคุณ : Sniperboy2002 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:09:29

ความคิดเห็นที่ 71   "พี่อุ๊" = คุณอิศเรศ ทองปัสโณว์ ผู้แปลการ์ตูนของค่ายNED จากคุณ : ใช่ไหมเนี่ย... (dattebayo) ^^ ^^ ^^ ^^ ใช่แล้วครับ จากคุณ : darky เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:11:36 A:10.1.3.34 X:58.137.199.121 TicketID:242663

ความคิดเห็นที่ 72 จริงๆนั่นแหละ เด็กหรือแม้วัยรุ่น เด็กมหาลัยฯเองตอนนี้สะกดไม่ถูกเขียนผิดจะเรียนกว่าใช้ภาษาแชตจนชินก็ได้ โดยที่เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนถูกต้อง ต่อไปเวลาสมัครงานต้องมีการสอบเขียนตามคำบอกแล้วมั้ง ใครเขียนผิดก็คัดออกเลย อย่างงี้ง่ายดี ภาษาจะดิ้นยังไงแต่คำที่ถูกต้องต้องไม่ลืมและเลือกใช้ให้เหมาะสม จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:17:35

ความคิดเห็นที่ 73 โอกาสทองที่จะได้แปะห้องนี้(เฉลิมไทย) เดี๋ยวโดนว่า ๆ โพสต์ผิดห้อง ขออนุญาตแปะคลิปนี้ในกระทู้นี้ร่วมด้วย ห้องนี้มีคนใช้คำลงท้ายผิดกันเยอะมาก คลิปการออกเสียงที่ถูกต้องค่ะ คะ ค่ะ ละ ล่ะ นะ น่ะ วะ ว่ะ ฟะ ฟ่ะ นะคะ น่ะค่ะ โหลดไม่นานดูไม่กระตุกค่ะ ไฟล์เล็กนิดเดียว เปิดลำโพงเพื่อฟังการออกเสียงที่ถูกต้องด้วยนะคะ อยากให้ดูกันค่ะ จากคุณ : ซะเงาะซะแงะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:32:52

ความคิดเห็นที่ 74 ต้องจับมาเรียนแปลครับ พอเราเรียนแปลแล้วเราจะรู้ว่าภาษาอังกฤษเด็กไทยน่ะใช้ได้ (โดยเฉพาะการรับสารนี่ แน่นกันมาก) แต่ภาษาไทยเด็กไทยน่ะแย่ อันนี้เจอมากับตัวครับ อ่านแล้วเข้าใจว่าประโยคนี้มีความหมายว่าไง แต่ไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นภาษาไทย (ที่ยังไม่สละสลวยได้) แย่ทั้งสะกดคำ พวกสัญลักษณ์ต่างๆก็ผิด เว้นวรรคผิด โดนอาจารย์วงคำผิดมาเพียบครับ จากคุณ : Dark Pigeon เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:33:06

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแบบผ่าน แต่พอสรุปใจความได้ว่า ภาาไทยห่วย นั่นเอง เข้าใจว่า จขกท ไม่ได้ตั้งใจบอกอย่างนั้น แต่ความจริงมันเป็นแบบนั้น จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:33:48

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ได้ห่วยครับ แค่ภาษาไทย ดิ้นได้ ผมรักภาษาไทย ผมภูมิใจภาษาไทย จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:35:02

ความคิดเห็นที่ 77 จ้ะ ใช้เหมือน ค่ะ และ จ๊ะ ใช้เหมือน คะ จากคุณ : ซะเงาะซะแงะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:37:12

ความคิดเห็นที่ 78 เหมือนพากระทู้เขาเบี่ยงเลยแฮะเรา แต่โอกาสทองจริง ๆ นี่นา /เผ่น แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 14:41:14 จากคุณ : ซะเงาะซะแงะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:40:28

ความคิดเห็นที่ 79 ขิงเมพๆ   จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:41:34

ความคิดเห็นที่ 80 เดี๋ยวนี้แม้แต่คำนามยังใช้กันผิดเลยครับ ไข่ไก่ใช้เป็นใบ ปากกาใช้เ็ป็นอัน เป็นเพื่อนเป็นญาติยังพอเตือนกันได้ เจอคนนอกใช้ไม่กล้าสอนเดี๋ยวหาว่าจุ้น จากคุณ : สาวกท่านมันตู เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:45:21

ความคิดเห็นที่ 81 ส่วนที่ห่วยที่สุดของภาษาไทยก็ไอ้ตรงที่มันดิ้นได้นี่แหละ ลองกลับไปอ่านของ จขกท ก็มีพูดเรื่องงนี้ไว้ แต่พูดในมองของภาษาอื่น จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:45:48

ความคิดเห็นที่ 82   เอ่อ ขออภัยอ่านไม่จบค่ะ แต่ก็พอจับใจความได้ ในฐานะที่ดิฉันจบเอกภาษาไทยมา (ศิลปศาสตร์) ที่ต้องออกตัวเพราะว่า เอกภาษาไทยมีของคณะศึกษาศาสตร์ด้วย ซึ่งรูปแบบการเรียนต่างกัน แนวคิดอาจจะต่างกัน สิ่งที่ฉันได้เรียนมา ภาษามีชีวิต มีการเปลี่ยนแปลง ภาษาที่ยังไม่ตายย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าจำไม่ผิด ภาษาที่ตายแล้วน่าจะเป็นภาษาบาลีนะคะ (ถ้าผิดต้องขออภัย) ยกตัวอย่างเช่น คำว่า วิจิตรวิตถาร ที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือได้เห็นในโคลงกลอน บางคนอาจเคยได้ยินที่นี่เป็นที่แรก คำ วิตถาร สมัยก่อนก็แปลว่าสวยงามแปลกตา แบบเดียวกับวิจิตรค่ะ แต่เวลาผ่านไป วิตถาร ถูกใช้ในความหมายในว่า แปลก แต่เป็นแง่ไม่ดีไป ปัจจุบันนิยมใช้ วิจิตรพิศดาร กับของสวยงามที่แปลกตาน่าทึ่งไป และถ้าสวยงามแบบน่าชื่นชม ก็จะใช้วิจิตรบรรจง วิจิตรงดงาม ซึ่งเป็นคำพื้นๆ ไม่ต้องแปล ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจคนใช้ภาษา เช่นในอินเตอร์เน็ตที่เด็กๆเขาแชทกัน เขารู้นะคะว่าคำว่า "เพื่อน/เดี๋ยว/กัน" เขียนยังไง แต่เขาเขียนเป็น "เพิ่ล/เด๋ว/กัล" ซึ่งมันเป็นภาษาเฉพาะกลุ่ม เขารู้กัน และยอมรับกันในกลุ่มของเขา ถ้าเราอยากคุยก็คุยเป็นภาษาเรา ไม่ต้องไปเปลี่ยนแบบเขา หรือไม่ต้องไปดุว่าเขา แต่ถ้าเขาเขียนคำว่า "วิจารณ์/พากย์หนัง/บันทึก/บรรทัด" เป็น "วิจารย์/พากษ์หนัง/บรรทึก/บันทัด" อย่างนี้คือ เขียนผิด และอาจจะจำไปใช้ผิด เราก็ต้องบอกและสอนเขาค่ะ ไม่อยากโทษใครเลย แต่ขอว่าระบบการศึกษาหน่อยนะคะ เราเรียนวรรณคดีน้อยไปหรือเปล่า คำเก่าๆ รากฐานภาษาก็น่าจะให้เด็กเรียน ถึงแม้เป็นคำที่ไม่ได้ใช้แล้ว เขาควรจะได้รู้ เพื่อสร้างความเข้าใจ และใช้ให้เป็น เด็กบางคนทราบมั้ยคะว่าชื่อตัวเองมีรากมาจากภาษาอะไร ชื่อ แดง ดำ คำไทยแท้ กฤษณะ สันสกฤต วาสนา บาลี มันก็มีกฎของมัน เรื่องที่โบ้ยให้การ์ตูนเป็นผู้รับผิดนั้น ดิฉันไม่เห็นด้วยเลยค่ะ ถ้าโรงเรียน หนังสือเรียนสามารถสอนเด็กได้ดีพอ ก็คงไม่ต้องกลัวว่าหนังสือการ์ตูนจะมาทำให้เด็กเขว คำเลียนเสียงธรรมชาติเท่าที่เราเคยเรียนก็มี โฮกป๊ก จิ๊บ (นก) ครืน โครม (พายุ/ทะเลคลั่ง) แต่ต้องเข้าใจว่าธรรมชาติ หรือสิ่งรอบตัวเราในปัจจุบันมันเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมากมาย มันจึงมีคำใหม่ๆเกิดขึ้นมา คำเก่าๆบางคำที่ไม่นิยมใช้ก็ตายไปหลายคำ เราคงห้ามไม่ได้ แต่เรายังสามารถบันทึก และศึกษาได้ ถ้าคำไม่เปลี่ยนจะเปลี่ยน Gu Mung --> เป็น ฉัน คุณ ได้ยังไง คำว่า โอ๊ซ ย๊ากส์ อจ๊าก/อะจ๊าก เป็นคำเลียนเสียงธรรมชาติ (คน) แต่ภาษาเขียนมันไม่มี เขียนแล้วมันผิดรูปแบบไวยากรณ์ อย่างนี้แล้ว ควรจะปรับหนังสือการ์ตูนทุกเล่มเลยรึเปล่าเนี่ย ส่วนการวิจารณ์เรื่องภาษาวิบัติ ดิฉันมิกล้าเข้าร่วมเสวนา เพราะยังไม่กระจ่างว่านิยามของภาษาวิบัตินี่คืออะไรยังไง เป็นการเขียนผิด หรือการนำไปใช้ในบริบทที่ผิด หรือตัด ดัดแปลง พอดีตอนเรียนไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง คงต้องขอความรู้จากผู้รู้มานิยามให้หน่อย จะได้ไปต่อได้ถูก ขออภัยนี่เป็นความคิดของคนเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์นะคะ ขอน้อมรับทุกคำวิจารณ์ จากคุณ : แวะมาแป๊บเดียว เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:01:34 A:58.8.183.172 X: TicketID:215804

ความคิดเห็นที่ 83 ใม่ฌอบแบบณี้ฆรับ ณอกณั้ณลับใด้ จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:04:27

ความคิดเห็นที่ 84 ู^ ^ จิงโหงววว จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:21:56

ความคิดเห็นที่ 85 สมเป็นคนแปลรุ่นเก๋าจริงๆ ยาวเหยียด แต่อ่านไหลรื่นแท้ (=w=)b ...หวังว่าคงไม่มีใครรำคาญอีโมคอนผมนักนะ >> (=w=)" อธิบายความเห็น 20 คำว่า"กาตูนย์" คำนี้เด็กๆสะกดผิดครับ "การ์ตูน" ถูกต้องแล้วแหละ เรื่องความเห็น 24 ภาษาไทยเราออกเสียงอาจจะไม่เหมือนเป๊ะ แต่"ใกล้เคียง" มากที่สุดนะครับ เพราะวรรณยุกต์นั้นเอง ทำให้ภาษาไทยร่ำรวยเสียงมาก (หลังจากนั้นก็ออกเสียงดัดจริตอีกนิดหน่อย ก็จะได้เสียงเหมือนภาษาต้นแบบเอง-ฮา) จากคุณ : คห.นี้มีสแลงกี่คำเอ่ย (Kul-ChaN) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:29:36

ความคิดเห็นที่ 86 อู้ย ชอบคลิปในคห. 73 มากๆ ขอบคุณที่เอามาแปะให้ดูกันนะคะ ส่วนประเด็นของกระทู้ เขียนไว้ได้น่าสนใจมากค่ะ เพิ่งทราบเรื่อง... "เรามี สระ 22 ตัว วรรณยุกต์อีก 5 เสียง และพยัญชนะอีก 44 ตัวที่บรรพบุรุษท่านคิดมาให้เพื่อใช้รับมือกับคำยืมภาษาต่างประเทศทั้งหลาย มีกระทั่งตัวอักษรเผื่อไว้สำหรับคำที่เราออกเสียงไม่ได้ อาทิ ส ศ ษ , ฑ ฒ ธ, ฉ, ช, ฌ เอาไว้รับมือกับเสียงแปลกๆอย่างพวก th, z, sh ฯลฯ มีตัวการันต์ไว้สำหรับเสียง r ระหว่างพยางค์และเสียงผสมอื่นๆที่เราออกเสียงไม่ได้" ไม่แน่ใจว่าเคยเรียนมาหรือเปล่า แต่เหมือนจะเคยรู้มานิดๆ... (อย่างเรื่องการันต์...) แต่อยากอ่านแบบขยายความมากกว่านี้ จขกท. หรือใครคนอื่นมีแหล่งความรู้จะแนะนำไหมคะ? จากคุณ : yaimooyoyo เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:32:28

ความคิดเห็นที่ 87   ผมไม่เคยอ่านสตีเฟ่น คิง แต่นิยายฝรั่งที่เขียน You เป็น U ทั้งเรื่องนี้ผมไม่เคยเห็น ผมเป็นคนหนึ่งที่บ่นเรื่องเขียน "ฉัน" เป็น "ชั้น" เพราะลักษณะการใช้เท่าที่ผมเห็นมันไม่ใช่การเพิ่มความหลากหลายอย่างที่ จขกท. ว่า แต่มันกลายเป็นว่าถูกเอามาใช้แม้ในกรณีที่ตัวละครในเรื่องพูดภาษาระดับเป็นทางการด้วย (formal) กลายเป็นว่าผลิใบ 1 ใบ แต่กระเทือนใบอื่นที่ยังสวยจนเหี่ยวตาม ในเมื่อเด็กและวัยรุ่นสัมผัสสิ่งพิมพ์คือการ์ตูนเป็นหลัก แล้วจะบอกว่าการใช้ภาษาในการ์ตูนไม่มีผลกับการใช้ภาษาไทยของคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ เพราะมันขึ้นกับความเคยชินเป็นสำคัญ ผนวกกับการสอนภาาาไทยที่ผมไม่รู้ว่าสอนกันยังไง นอกจากได้ยินเสียงบ่นว่าหนังสือไม่ค่อยดี (ไม่รู้จริงไหม) จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:41:23

ความคิดเห็นที่ 88 ยาวมากคะ จากคุณ : M-AgrO เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:48:42

ความคิดเห็นที่ 89   "ฮั้วฎ๋อ"  ภาษาดิ้นได้แบบนี้รึเปล่าครับ จากคุณ : รอมาสิบปีแล้วสินะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:49:09

ความคิดเห็นที่ 90 ชอบ # 82 ชัดเจน ตรงประเด็นๆๆ ลอคอิน มารับกิ๊ฟด่วนจ้า จากคุณ : papatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 15:57:38

ความคิดเห็นที่ 91 ที่เด็กสมัยนี้ใช้ภาษาไทยได้แย่กว่ามนุษย์จำพวก(สูงวัย)ทั้งหลายเหล่านั้น (รวมฉันมั้ยเนี่ยเพราะฉันกลางเก่ากลางใหม่ เรียนมานี มานะ และดรุณศึกษา) เห็นด้วยว่าเพราะการสอนภาษาไทยมันผิดเพี้ยนไปจริงๆ ภาษาไทยในสมัยก่อนนี้สอนแบบประสมคำ นับว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องมาก เพราะถ้าเรียนในระดับแยกย่อยแบบนี้มักเขียนคำระดับพื้นฐานไม่ผิดหรอกค่ะ ซึ่ง..วิธีนี้ก็ใช้ได้กับภาษาอังกฤษนะคะ อันนี้ทดสอบจากตัวเอง สมัยก่อนตัวเองเป็นเพราะขี้เกียจท่องคำศัพท์มากค่ะเขียนศัพท์ทีไรไม่เคยได้คะแนนเต็มสักที แต่เพราะได้เรียนภาษาอังกฤษแบบใช้หลักผสม(ประสม)คำแบบภาษาไทยแล้วก็เขียนถูกนะคะ ขอให้อ่านได้เถอะในหัวมันประสมอัตโนมัติเลยค่ะ พอตรวจดูว่าเขียนถูกต้องมั้ยดันเขียนถูกซะงั้น ก็เลยรู้สึกว่า แบบนี้นี่แหละเรียนรู้จากการประสมคำนี่แหละ ช่วยแก้ไขเรื่องเขียนผิดๆถูกๆได้ แต่หนังสือเรียนภาษาไทยสมัยนี้ดันสอนวิธีจำยากนี่สิ.... รู้สึกปลงแทนเด็กยุคใหม่จริงๆ (วิธีง่ายๆมีไม่เรียนดันเรียนวิธียากชอบแดกด่วน สุดท้ายก็นะ... OTL) ปล.อ่านแล้วก็รู้สึกคำว่า "GUว่าแล้ว" จริงๆเมื่อได้อ่านคคห.1 ตามก้นฝรั่งมากๆ จนลืมสิ่งดีๆของประเทศชาติหมด... บอกได้คำเดียว "เสื่อม" จากคุณ : citrus_tree เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:06:36

ความคิดเห็นที่ 92 เป็นกระทู้ที่ดีมาก ๆ เลย เซฟ + โหวต เรียบร้อย เรื่องการพูดคำควบกล้ำเนี่ย ถ้าไม่ออกเสียงตัวควบกล้ำด้วยล่ะก็ มันจะทำให้เวลาเขียน เขียนไม่ถูกเอานะ บางคนเขียน "กระทะ" เป็น "กะทะ" เพราะไม่ีรู้ว่าอันไหนถูก แล้ว "กะเทย" ก็ยังอุตส่าห์เติม ร.เรือ อีก บางคนก็ปล่อยอนุโลมเวลาเห็นคนในทีวีพูดไม่ชัด เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า คนทั่ว ๆ ไปเค้าก็พูดอย่างนี้แหละ อืม...นะ ก็เลยผิด ๆ ตาม ๆ กันมา แล้วเรื่องภาษาวิบัติก็จำพวก นะคร๊ะ , เพิ่ล (เพื่อน) , หั้ย , คัย ประมาณนี้ เมนท์มาใน Hi5 น่ารำคาญมาก ๆ เจอออกบ่อย - เทอ ชื่อ อา ยัย เหยอ มา เม้น เค้า บั้ง น้า น๊าว น๋าว นุ มือ เยล ชิ มิ รุย ห่ม ผ้า ดั๊วะ น้า คร้า ฝาน ดี โน๊ะ อารายของเมิงว้า ไม่มีอะไรจะเพิ่มเติม เขียนอธิบายได้ดีค่ะ จากคุณ : Matriarchal Miaw เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:18:33

ความคิดเห็นที่ 93 เนื่องจากข้อความข้างล่างนี้ เป็นสิ่งที่เห็นด้วยตัวเองนะคะ หากมีท่านใดอ่านแล้วไม่พอใจ ขออภัยด้วยค่ะ ---------------------------------------------------------------- ถ้าบอกว่าผิดที่ครู..หรือระบบการศึกษาผิดรึเปล่าคะ คุณแม่ฝนเป็นครูค่ะ เหมือนจะเป็นครูคนเดียวในโรงเรียน ที่ไม่ทำ อาจารย์ 3 เพราะเอาเวลาไปสอนพิเศษให้เด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก เคยถามแม่ว่าแล้วพวกนั้นสอบผ่านมาได้ยังไง แม่จะเรียกเด็กตามชั้นต่างๆที่อ่านไม่ออก ไล่มาตั้งแต่ ป.1 -ป.6 ซึ่งมีนะคะ อยู่ ป.6 แต่ยังอ่านหนังสือไม่ออก แม่สอนโรงเรียนวัดค่ะ  สอนกันแทบทุกเย็น ในขณะที่ ครูหลายๆท่านเอาเวลาไปทำผลงาน ส่งอาจารย์ 3 เพื่อเพิ่มเงินเดือนตัวเอง.... ไม่ทราบว่าที่โรงเรียนอื่นๆเป็นแบบนี้บ้างหรือไม่ ฉะนั้นแล้ว วอนเลยนะคะ ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ถ้าคิดจะเป็นครูแล้ว อย่าเป็นครูแต่ในนาม ช่วยถ่ายถอดวิชาความรู้และมีใจรักที่จะสอน อธิบายนักเรียนด้วย อย่าเอาเวลาราชการไปนั่งปั่นงานอาจารย์ 3 นักเลย เด็กไทยสมัยนี้ จะสะกดภาษาไทยกันแทบไม่ถูกแล้ว จากคุณ : * ซั ง ก า บ๊ ว ย * เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:21:57

ความคิดเห็นที่ 94 กะมู้นี้เมพขิงๆ โหวตให้ครับ จากคุณ : คนใดคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:23:38

ความคิดเห็นที่ 95 ผมชื่อตั๋ม เบื่อมากเวลามีคนถามว่าเขียนยังไง ตั้ม ตั่ม ตั๊ม ตกลงไม่ได้เรียนภาษาไทยตอนประถม? จากคุณ : pheebar เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:27:18

ความคิดเห็นที่ 96   เห็นด้วยมาก ๆ กับ จขกท เพราะเห็นเด็กสมัยนี้สะกดคำผิดเยอะมาก ๆ ไม่นับที่ผิดแบบตั้งใจนะ ผิดเำพราะไม่รู้ว่าที่ถูกเขียนยังงัย เลยเขียนแบบนั้นไป เพิ่งทราบว่าระบบการเีรียนภาษาไทยเปลี่ยนไปแล้ว (เคยอ่านเมล์ จากเด็กวัยรุ่น ผมแทบจะร้องไห้ T_T) เฮ้อ อันนี้ก็ำได้แต่โทษทัศนคติ มุมมอง ค่านิยมของผู้มีอำนาจล่ะครับ บ้านเรามีของดีของเก่าเยอะแยะมากมาย เป็นเอกลักษณ์ แต่ทำได้แต่อนุรักษ์ เก็บให้เก่า คนรุ่นใหม่แตะต้อง ต่อยอด สร้างสรรค์ ดัดแปลงไม่ได้ กลัวแต่จะเสีื่อมเสีย สูญหาย แทนที่จะมองว่าเป็นโอกาส ให้เราได้เน้นย้ำว่าสิ่งทีุ่ถูกเป็นอย่างไร สิ่งที่ผิดเป็นอย่างไร รึจริง ๆ อาจไม่ผิด แต่มีการเปลี่ยนแปลง เติบโต ตามเวลาและสมัย ทำให้ มีเรื่องราว ข้อถกที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ เราเข้าใจ จดจำแล้วก็ซาบซึ้ง ในคุณค่าของสิ่งนั้นมากขึ้น แต่ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างนั้น ที่ผมพูดไม่ใช่แค่ในเรื่องภาษานะครับ หมายถึงศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม แล้วก็งานฝีมือแขนงต่าง ๆ ของคนไทย ที่ขาดการต่อยอด การประยุกต์ ทำให้ คนรุ่นใหม่ไม่อยากสนใจ เพราะพอหยิบจับขยับเปลี่ยนอะัไร ก็โดนว่าผิดหมด โทษใครไม่ได้นอกจากผู้มีอำนาจที่มีมุมมองแึคบ ๆ พอเสนอความเห็นใหม่ ที่จริืง ๆ ตัวเองก็เห็นด้วย แต่กลัวว่าจะเสียหน้า ก็ยกเรื่องอาวุโส เรื่องอื่น ๆ มาอ้าง เพียงเำื่พื่อปกปิด อำำพรางความไม่รู้ (ซึ่งชอบตีความไปว่า เด็กมาว่าโง่) เฮ้อ หวังแค่ว่า คนไทยจะใช้ภาษาไทยของเราเองให้ถูก "ตามกาละและเทศะ" เท่านั้นก็ำพอแล้ว แล้วจะบอกว่า ภาษาไทยนี่แหละ ที่สามารถทำให้เราออกเสียงภาษาอื่น ๆ ได้ใกล้เคียงมากที่สุดแล้ว ไอ้คำำภาษาอื่น ที่บอกว่า สะกดในภาษาไทยเพื่อออกเสียงไม่ได้ ไปลองสะกดเพื่อออกเสียงในภาษาอื่นเถอะ ตายสนิท มีของดีอยู่กับตัว ดูแลรักษาให้ดีนะครับ คนไทย จากคุณ : Maddog เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:35:36 A:78.101.207.136 X: TicketID:163930

ความคิดเห็นที่ 97 ภาษามันมีการวิวัฒน์ของมันครับ ผมยอมรับในการวิวัฒน์ของภาษา เพียงแต่ กาละ เทศะ อย่างที่ว่าครับ รู้ว่าอะไรใช้ในไหน จะมาใช้ "เพิ่ลๆ ของนู๋" ในขณะที่พิมพ์ คุยกับผู้ใหญ่ คงไม่เหมาะใช่ไหมครับ จะมาใช้ "นะค่ะ น่ะคะ น่ะค่ะ นะคะ" ในบริบทที่ไม่ถูกก็คงไม่ใช่อีก ชอบบทความนี้ครับ นักการศึกษารักษารากเหง้า นักเขียนอย่างเรา ผลิดอกออกใบ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:40:18

ความคิดเห็นที่ 98 ชอบจริงๆกระทู้นี้ จากคุณ : ฟุมิ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:41:51

ความคิดเห็นที่ 99 ช่วยตอบ #86 ครับ ถ้าจะกล่าวถึงการใช้ตัว "การันต์" คงต้องกล่าวควบคู่ไปกับการใช้ "ไม้ทัณฑฆาต" ด้วยครับ "ไม้ทัณฑฆาต" อยู่ตรงไหนก็จะฆ่าเสียงอักษรตัวนั้นนั่นเอง เช่น คำว่า "การ์ตูน" (cartoon) ร์ --> ตัวการันต์ ตัวที่อยู่บน "ร เรือ" --> ไม้ทัณฑฆาต ลิงค์เพิ่มเติมครับ http://www.praphansarn.com/new/c_lift/detail.asp?ID=110 ... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 16:45:00 จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:43:59

ความคิดเห็นที่ 100 แต่ระบบการศึกษาของเรากลับโยนเครื่องมือล้ำค่าเหล่านี้ทิ้ง...เพื่อเรียนศัพท์เป็นคำๆ!? โดยคำกล่าวอ้างของนักการศึกษาในยุคโน้นว่า "กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า – มีแต่คำว่ากาที่มีความหมาย คำอื่นๆที่ไม่มีความหมายคุณจะไปสอนมันทำไม" (จากการให้ปากคำของคุณแม่ผมเอง) และคิดว่าข้ออ้างของนักการศึกษายุคใหม่คงไม่ต่างกันนัก (แล้วเด็กจะสะกดคำว่า "ผีกาก้า" ถูกเหรอ?) ---------------------- ผลพวงที่เห็นได้ชัดคือหลายคนใช้คำที่ผันเสียงผิด ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ "นะคะ น่ะคะ น่ะค่ะ นะค่ะ" ใช้ผิดรูปแบบประโยค - -* จากคุณ : ไม่จริงนา เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:44:06

ความคิดเห็นที่ 101 คห.93 เข้าใจเลยค่ะ แม่เราก็เหมือนกัน แม่เป็นครูสอนภาษาไทยในโรงเรียนวัด สังกัด กทม. นี่แหละค่ะ เด็กๆ ในโรงเรียนอ่อนสะกดคำมากๆๆๆๆๆ จำได้ว่า ตอนเราเด็กๆ แม่จะพาไปที่โรงเรียนด้วย เราก็นั่งดูแม่สอน ตรวจการบ้านเด็กๆ ให้แม่บ้าง แล้วก็เข้าใจเลยว่า เด็กๆ สะกดคำกันไม่ได้จริงๆ เคยเห็นแม่ออกแนวดุ เสียงดัง จับเด็กมานั่งแล้วให้คัดๆๆ เขียนๆๆ ทำๆๆ เขียนเข้าไปจนกว่าจะสะกดได้ สะกดเป็น วันนั้นเห็นแล้วกลัวมาก แต่ก็เข้าใจเลยว่า ที่แม่ดุ ก็เพราะอยากให้เด็กๆ ทำให้ได้ ถ้าคนใหญ่คนโตเค้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไรค่ะ มาแก้ปัญหากันในบ้าน แบบเล็กๆ ของเรากันเองก็ได้ ^^ จากคุณ : ยิ่งยง นั่งยองยอง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:52:52

ความคิดเห็นที่ 102 ขอให้กิฟ คห. 82 หน่อยนะ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:54:52

ความคิดเห็นที่ 103 สวัสดีค่ะ   .... อ่านจนจบค่ะ ไม่รู้จะว่ายังไงดี แต่รู้สึกอยากเลี้ยงข้าวคุณ อุ๊และคุณ darky ซักมื้อจังเลยค่ะ คุณเชื่อกันมั้ยคะว่า พวกเด็กที่อ่านการ์ตูนน่ะ สะกดไม่ค่อยผิดหรอกค่ะ แต่พวกที่เล่นเกม เล่นเน็ต แต่ไม่อ่านหนังสือ+ไม่อ่านการ์ตูน จะเป็นพวกที่สะกดผิดมากกว่าพวกแรก  แม้แต่คนปัจจุบันก็เถอะค่ะ  30+ ก็ยัง "สวัสดีคะ  ช่วยหน่อยนะค่ะ" อยู่เลย มานีมานะก็เรียนกันมา  แล้วมันเป็นเพราะอะไรคะ  ----- เป็นเพราะไม่อ่านหนังสือค่ะ ไม่อ่านนิยาย ไม่อ่านพ็อกเก็ตบุค  อ่านแต่กระทู้ในเน็ต ซึ่งก็สะกดผิดกันเป็นเยี่ยงอย่างผิด ๆ  ระบาดกันไปเรื่อย ๆ จริง ๆ นะเราสังเกตมานานานแล้วค่ะ ของเบี่ยงประเด็นต่ออีกเล็กน้อย  --  มาช่วยเตือนกันจะดีมั้ยคะ ในบอร์ดพันทิปเนี่ย เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น  ช่วยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ  ถ้าไม่เห็นแก่คนที่สะกดผิด ก็เห็นแก่เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เรียนผันวรรณยุกต์มาเถอะค่ะ อย่างน้อย ก็จะได้รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก พี่สะเงาะสะแงะ ลงคลิปตัดหน้าอ้ะ 55  แต่ก็ขอบคุณมากค่ะ อีกทีเพื่อความสะใจ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 52 16:56:55 จากคุณ : JingXi เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 16:55:42

ความคิดเห็นที่ 104 อ่าว เดี๋ยวนี้เค้าไม่เรียนผัน วรรณยุกต์กันหรอครับ ??~ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 17:48:25

ความคิดเห็นที่ 105 มาขอโทษ #85 กะคุณจิบซึ้งฯ พอดีรีบพิมพ์ไปหน่อย ผมหมายถึง การ์ตูน ยังใช้ผิดเป็น กาตูนย์ น่ะครับ จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 17:52:33

ความคิดเห็นที่ 106 ยาวเกิน - -" จากคุณ : iCannabiz เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 17:57:02

ความคิดเห็นที่ 107   ภาษาไทย ภาษาของชาติไทย ควรอนุรักษ์ไว้ให้ดีที่สุดค่ะ เมื่อก่อนคุณครูชอบให้เขียนตามคำบอกบ่อยๆ คะแนนเต็ม 10 ไม่เคยต่ำกว่า 7 เลย แรกๆ อาจได้ 7 แต่พอเขียนบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ ก็ไม่เคยได้ 7 อีกเลย ไม่เต็ม 10 ก็ 9 หรือ 8 ยอมรับภาษาไทยยากมาก ในความรู้สึก แต่ก็รักในภาษาไทยค่ะ แม้บางครั้งอาจจะใช้ภาษาไทยดิ้นได้ บ้าง แต่ก็ไม่เคยลืมภาษาไทยที่เคยเรียนมาเลยค่ะ ปล. ฝากบอกคุณครูภาษาไทยสมัยนี้ด้วยนะคะ ว่าให้นักเรียน เขียนตามคำบอกบ่อยๆ รับรองได้ผลดีทีเดียวค่ะ  ^___^ จากคุณ : เด็กหญิงเปรี้ยวใจ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:18:05

ความคิดเห็นที่ 108 ออกตัวก่อนว่า อ่านจบแค่ที่ จขกท เขียน ส่วนคอมเมนต์นั้นได้อ่านแค่บางคคห ต้นๆ กับ ที่ยาวๆหน่อย ไม่เห็นรู้เลยค่ะว่าระบบประถมเค้าสอนภาษาไทยกันแบบนี้แล้ว มิน่าล่ะ...  = =" เข้าใจแล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีข่าว (กรอบเล็กๆ!!) ในหนังสือพิมพ์หน้าการศึกษาว่า เด็ก ป.5-ป.6 จำนวนมากอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ว่าจากการอ่านบาง คคห แล้ว คิดว่าสิ่งหนึ่งที่ระบบการศึกษาไทยยังคงล้มเหลวอยู่เหมือนกันก็คือ การให้ความสำคัญเกี่ยวกับการจับใจความและการถอดความหมายของเนื้อความ...ให้ถูกต้องตามที่ผู้สื่อสารต้องการสื่อ อืม...ค่ะ = =.. ขออภัยถ้ารู้สึกเหมือนไปพาดพิงบุคคลใด เพราะเราหมายถึงระบบการศึกษาไทยจริงๆ จากคุณ : lumin เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:32:28

ความคิดเห็นที่ 109 สงสัยต้องกลับไปเรียนภาษาไทยใหม่ละ ไม่่งั้นจะคุยกับเขา  ม่ายรู้เรื่องงงงงง จากคุณ : TomYamKoong เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:35:48

ความคิดเห็นที่ 110 อ่านข้ามเช่นกันครับ เยอะ+ยาวมาก อ่านตรงส่วนสำคัญๆ เท่านั้น ไม่ว่ากันนะครับ ผมว่า ภาษาที่มีแสลง ก็คือภาษาที่ยังไม่ตายนั่นแหละครับ หลายๆ คำที่ถูกสร้างขึ้นมา -อย่างที่ว่านั่นแหละครับ มันทำให้สื่อได้ชัดเจนมากขึ้น และหลายๆ ครั้งที่ลืมไปแล้วว่า คำจริงๆ นั้นคืออะไร ไม่ใช่แต่ภาษาใหม่ๆ นะครับ อย่างคำว่า ฟรี ถ้าใช้เป็นภาษาไทยบางทีก็นึกกันไม่ออก และหลายๆ คำ เช่นกัน ถูกยืมมาจากภาษาอื่น และใช้กันจนไม่รู้แล้วว่านั่นคือคำยืม อย่าง การันตี เป็นต้น จากการที่ผ่านตามาทั้ง MSN และหลายๆ อย่าง ผมว่า ภาษา ดีๆ เปงงั้ยบ้างว้า อะไรแบบนี้ก็มีแต่ในห้องแชตนะครับ น้อยครั้งที่จะเอามาใช้จริง (เคยมีคนเอามาใช้จริงครับ พูด ชิส์ๆ อะนะๆ ฟังแล้วน่าบ้องหูมากครับ) แต่ถ้ายังใช้ภาษาเช่นนี้ในเอกสารสำคัญก็ถือว่า ภาษาไทยแย่เต็มทน อย่างไรก็ตาม ภาษาในการ์ตูนหลายๆ ครั้งก็ขัดใจผมนะ ถ้ายกตัวอย่างก็ บางคำในเรื่อง Soul Eater ช่วงแรก ที่เหมือนจะพยายามแปลให้ "เข้าถึง" วัยรุ่นได้ง่ายที่สุด เช่น ยิงม่างเลย เมิงเองเรอะ แต่ก็ซาๆ ลงไปในเล่มหลังๆ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะครับ ช่วงหลังๆ การ์ตูนเกิดคำแปลกๆ หลายคำมาก เช่น เยสแมม(ใช้ตอบรับเมื่อโดนสั่งการ) ค่อดๆ ผมว่ามันยังฟังแปลกๆ อยู่บ้างนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว ถ้าแปลดีๆ เล่นคำมากๆ ก็ Nodame Cantabile (วุ่นรักนักดนตรี) Eyeshield 21 กับ Negima ครับ (ของเนกิมะต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าแปลดีมากๆ) แต่ผมว่า ภาษาเสื่อมที่สุดคือพวกนิตยสารซุบซิบดารา ไม่ไหวครับ เห็นพาดหัวข่าวก็ไม่ไหวแล้ว จากคุณ : นาฬิกาพกสีเงิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:45:39

ความคิดเห็นที่ 111 ทนอ่านจนจบ แล้วก็ได้บรรลุอย่างว่า ถ้าพื้นฐานภาษาไทยของเด็กเราแข็งแรงดีแล้ว จะไปกลัวอะไรกับเรื่องภาษาวิบัติ จากคุณ : ลูซี่ โมโนสโตน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 18:55:05

ความคิดเห็นที่ 112 เดี๋ยวกลับมาอ่านต่้อนะ จากคุณ : Karine (PaBo) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 19:01:31

ความคิดเห็นที่ 113 เด็กหลายๆคนที่ว่ามา อ่านการ์ตูนมากกว่าหนังสือเรียน - -* และแถมเกรียนบ้างเป็นบางคน พวกเรียนดีๆ อ่านหนังสือเยอะๆเค้าไม่อ่านการ์ตูน ไม่เล่นเน็ต ผมว่าเขาใช้ถูกนะ พวกที่เขียน เธอ เป็น เทอร์ ส่วนใหญ่ เด็กที่เรียนๆเล่นๆมากกว่า ยังไงเวลาผมอ่านเจอการ์ตูนเขียนผิดๆก็ไม่ชอบเเฮะ - -* จากคุณ : ผืนแผ่นดิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 19:10:09