Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทเฉยจาก lost ตอนอวสาน ดูแล้วเป็นไง  

lost ชื่อไทยเพราะดี ปริศนาป่ามรณะ ที่ผมได้ดูครั้งแรกในทีวี และถือเป็นบทหนังโครงเรื่องแหวกแนวมากจนทำให้หนังเรื่องต่างๆมาเลียนแบบนวคิดนี้ไปใช้กันมากมาย ไม่ว่าจะ Hero หรือ stargate Universe และอื่นๆอีกมากมาย เมื่อโครงเรื่องแหวกแนว ผู้ชมก็สนใจอยากรู้บทสรุปทั้งหมด ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าหลังจากอวสานคงตอยทุกคำถามได้ บางคนก็พอใจกับคำตอบ บางคนก้ไม่ ส่วนผมเป็นประเภทหลัง สงสัยหวังไว้สูงเพราะโครงเรื่องลึกลับ เลยอยากได้บทเฉลยที่ไม่คลุมเครือ...

..................................................................

ผมคิดว่าตอนจบของ lost เป็นตอนจบที่ไม่ดีเลยหากเทียบกับความพยายามในการเล่าเรื่องถึงความลึกลับที่เกิดขึ้นบนเกาะ เพราะโครงเรื่อง lost เป็นการเอาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาคำตอบปรากฎการณ์ลี้ลับตอบไม่ได้บนเกาะแห่งนี้แทนที่จะให้เชื่อในเรื่องสิ่งลี้ลับตอบไม่ได้

ตัวแทนแนวคิดนี้งคือ แจ๊คหมอหนุ่มผู้เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์ ส่วนล๊อคนักเดินป่าผู้เชื่อในเรื่องสิ่งลี้ลับ สองแนวคิดที่ต่างกันสุดขั้วต้องมาหาคำตอบบนเกาะปริศนาให้ผู้ชมนั่งจ้องหน้าจอทีวี

อย่างไรก็ดี เมื่อผู้เขียนบทพยายามสร้างเหตุการณ์ประหลาดและตัวละครไว้มากมายที่มีความต้องการแตกต่างกันไปเพื่อดึงผู้ชมคอยติดตามไปเรื่อยๆทุกตอน จึงกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ผู้เขียนไม่สามารถใช้หลักวิทยาศาสตร์มาอธิบายทุกประเด็นที่ผูกเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะหากใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพื่อตอบทุกประเด็น จะพบเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ข้อนั้นไปขัดแย้งกันเองในบางประเด็น ดังนั้นในซีซันห้าจึงย้ายจากวิทยาศาสตร์มาเป็นปาฏิหารย์ และในซีซันหกเป็นเรื่องปาฏิหารย์ไปเลย ไม่ต้องสนใจแล้วเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อันนี้จึงนำไปสู่บทจบแบบง่ายๆตามประสากำปั้นทุบดิน คือกลายเป็นเรื่องมนต์ดำไปเลย ให้ทุกคนไปอยู่ในโลกหลังความตาย ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วบางทีอาจจะไม่มีใครรอดตายจากเครื่องบินตกตั้งแต่ต้น ทุกคนตายแล้วไปผจญภัยในโลกหลังความตายบนเกาะที่ทุกคนเชื่อว่าตัวเองรอดตายจากเครื่องบินตกก็ได้ โลกหลังความตายนั้นมีทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์และผู้คนเหมือนโลกปรกติ ส่วนสาเหตุทำไมต้องเป็นโลกหลังความตาย นั่นเพราะในโลกหลังความตาย บางอย่างที่ตอบไม่ได้ ผู้คนพร้อมจะเชื่อเพราะปาฏิหารย์ไม่ต้องการเหตุผล ง่ายดีสำหรับผู้เขียนแต่แย่หน่อยสำหรับผู้ชมที่อยากได้การไขความลับแบบใช้หลักวิทยาศาสตร์ได้หมด

คราวนี้มาว่ากันที่ประเด็นรายละเอียดของโครงเรื่อง lost ในแต่ละซีซัน ที่ทำเอาไว้ดีแต่สุดท้ายก็หาคำตอบบอกผู้ชมไม่ได้ เช่น

ประเด็นแรกสุด ถือเป็นหัวใจของโครงเรื่อง lost ทำให้ซีซันแรกถึงสามถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของโครงหนัง lost เพราะผู้ชมหมกมุ่นกับคำถามหลัก นั่นคือ มันมีอะไรอยู้ในป่าบนเกาะที่คอยจับตาหรือฆ่าบ้างเป็นครั้งคราวว่าเป็นคน สัตว์ หรือปีศาจ หรือสิ่งประดิษฐ์ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ คนดูเกือบจะไม่ได้เห็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดอย่างชัดเจน คือได้ยินแต่เสียงก็ขนหัวลุก แม้จะได้เห็นภาพ ก็ไม่รู้มันเป็นตัวตนที่แท้จริงหรือไม่ คือเห็นว่าเป็นควันดำแบบแวบๆบางฉาก ตกลงในควันดำมันมีอะไรกันแน่ หลอกคนได้สามซีซันแรกเลย เพราะคนอยากรู้มาก ทุกคนอยากรู้ว่าอำนาจของควันดำนี่จะเอาหลักทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้อย่างไร คำตอบคือผู้เขียนตอบไม่ได้ และตอบไม่ได้ด้วยว่าต้นกำเนิดพลังงานที่ทำให้คนตายกลับมามีชีวิตและมีพลังแปลงร่างต่างๆได้รวมทั้งเป็นควันดำ ผู้สร้างต้นกำเนิดพลังงานนี้ใช้หลัพลังวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่ เพราะเครื่องย้ายกาลเวลาบนเกาะเหมือนอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ควันดำกลับข้ามเขตอักขระเวทมนต์ไม่ได้ และยังข้ามรั้วพลังไฟฟ้าไม่ได้เหมือนกัน

ประเด็นต่อมาหน่วยงานวิทยาศาสตร์ ธรรมมะ ที่เข้ามาศึกษาปรากฏการณ์บนเกาะลึกลับ ทำไมต้องสร้างหน่วยทดลองย่อยที่มีการทดลองแตกต่างเพื่อให้คนอยากรู้ว่าไอ้แต่ละหน่วยทดลอง สุดท้ายแล้วมันเอาไปสรุปผลอะไรกันแน่ แต่ละการทดลองเกี่ยวข้องอะไรกับการหาความลับของเกาะ สุดท้ายประเด็นนี้กลับทิ้งคำตอบไปดื้อๆ ให้คนของหน่วยธรรมมะตาย จึงไม่มีคำตอบสำหรับการทดลองมาเฉลยให้ผู้ชม หัวหน้าโครงการหน่วยธรรมมะดูเหมือนจะเป็นบุรุษปริศนาที่คนอยากรู้ เพราะเจอในทีวีทุกหน่วยการทดลอง สุดท้ายในซีซันห้ากลับเผยว่าไม่ได้เป็นคนพิเศษอะไรเลยแค่เป้นนักวิทยาศาสตร์ที่ไประดมนักวิทยาศาสตร์คนอื่นมาร่วมโครงการแค่นั้นเอง เสียความรู้สึกมากนึกว่าจะมีความลึกลับอะไร

ประเด็นต่อมา เดดมอนนี่ถือเป็นคนใกล้เคียงพระเจ้ารองจากเจคอบทีเดียว ทุกคนอยากรู้ ผู้เขียนบทเองก็ไม่สามารถให้คำตอบถึงที่มาของพลังวิเศษของตัวละครนี้ไม่ได้เหมือนกัน เลยไม่ตอบชัดเจนให้คนไปนั่งคิดกันเอาเอง

ประเด็นต่อมาคือสิ่งที่เดดมอนต้องนั่งกดปุ่มทุก 180 นาที ซึ่งมีคราวหนึ่งที่กดไม่ทันทำให้เครื่องบินตกได้ คำถามที่ตามคือเมื่อปุ่มกดถูกทำลายไปแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นตามมาทุก 180 นาทีต่อโลกนี้บ้าง คำตอบคือไม่มี เพราะผู้เขียนทิ้งประเด็นนี้ไปเลย ถ้าเป็นแบบนี้แต่แรก เดดมอนทำลายปุ่มไป บางทีเครื่องบินอาจไม่ตกก็ได้

ประเด็นต่อมา คือตัวเลขนำโชคดีสู่เฮอรี่หนุ่มอ้วนอารมณ์ดีแต่โชคร้ายสู่คนรอบข้าง ตกลงว่าตัวเลขนี้มันมีพลังพิเศษอย่างไร ใครเอาตัวเลขนี้มาใช้ถึงมีเคราะห์จนอยู่ร่วมกับคนทั่วไปไม่ได้ ตัวเลขนี้สุดท้ายผู้เขียนบทคงตอบไม่ได้เหมือนกันเลยทิ้งประเด็นนี้ไปให้คนลืมไปเอง โดยบอกแต่เพียงว่าเป็นแค่ตัวเลขที่สลักบนฝาหลุมโครงการที่เดดมอนต้องกดทุก 180 นาทีเท่านั้นเอง

ประเด็นต่อมาคือพวก other ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นกลุ่มคนเผ่าป่าเถื่อน ต่อมากลับเป็นพวกเทคโนโลยีสูง เพราะใช้เครื่องมือของพวกธรรมมะได้ แถมยังมีสถานีอยู่ใต้ทะเลอีกต่างหาก สุดท้ายกลับกลายเป็นพวกบูชาเทพเจ้า เร่ร่อนไปทั่วเกาะ ผู้เขียนพยายามผูกกลุ่ม other เป็นความลึกลับที่ต้องการให้ผู้ชมอยากรู้คำตอบโดยเฉพาะในซีซันสามเรื่อยมาจนถึงซีซันสุดท้าย เพราะอาศัยควันดำอย่างเดียว ผู้ชมอาจจะเริ่มเบื่อเพราะมุขมันเริ่มเก่าไปแล้ว บทสรุปคือผู้เขียนก็ไม่สามารถให้คำจำกัดความว่า other มันต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต เพราะเดี๋ยวศิวิไลยู่ในเมืองมีเครื่องไฟฟ้าและเรือดำน้ำใช้สลับกับไปใช้ชีวิตอยู่ธรรมชาติแบบคนป่า เมื่อหาคำตอบให้คนเหล่านี้ก็เลยให้ตายหมดๆไปซะจะได้ไม่ต้องตอบ มักง่ายอีกแล้ว

ซีซันที่ห้าผมถือว่าเป็นซีซันห่วยมาก เพราะตัวละครหลักครึ่งหนึ่งกลับเข้าเมืองอีกครั้ง ทำให้การใช้งปาฏิหารย์เหนือจริงมาดึงผู้ชมกับตัวละครกลุ่มนี้ทำไม่ได้ เลยต้องเสนอแต่ชีวิตแสนห่วยในสังคมเมืองที่ตัวละครเหล่านี้ต้องเจอแทน ผุ้ชมจึงไม่ค่อยสนใจ เพราะชีวิตห่วยๆแบบนี้ ผุ้ชมเจอกันมาแทบทุกวัน เลยไม่มีอะไรให้ลุ้นมากไปกว่าเมื่อไรคนเหล่านี้จะกลับไปเกาะซะที อย่างไรเพื่อให้มันน่าเบื่อจนคนเลิกดูเลยสร้างตัวละครตัวใหม่ นั่นคือเจคอบผู้วิเศษ

เจคอบผู้มีพลังพิเศษ อย่างน้อยก็ทำให้จอห์นล๊อคไม่ตายทั้งที่ตกจากตึกสูงขนาดนั้น หรือช่วยสาวแผลยับเยินกลับมาหายเป็นปรกติพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ ปรากฎตามสถานที่ต่างๆทั่วโลกในช่วงเวลาต่างๆกันได้โดยไม่แก่เลย ยคำถามผู้ชมอยากรู้นั่นคือ เจคอบเป็นคนหรือเทวดาหรืออะไรกันแน่ อำนาจวิเศษได้มาจากไหน จะเอาหลักวิทยาศาสตร์มาเป็นคำตอบได้ไหม ซึงผมเอาเอาเองแต่แรกว่าไม่มีคำตอบแน่ๆ เพราะประเด็นก่อนหน้านี้ก็ยังตอบไม่ได้ และก้จริงคือเจคอบมันได้พลังพืเศษมาจากเกาะด้วยการบริโภคน้ำบนเกาะจากผุ้ดูแลคนก่อน แต่ไม่สามารถตอบว่าทำไมพลังวิเศษถึงได้มาง่ายๆเพียงแค่การดื่มน้ำเท่านั้น ดูไปดูมากลายเป็นเรื่องเวทมนต์หนักขึ้นเรื่อยๆสำหรับ lost ซีซันหลังๆ

ส่วนชีวิตคนบนเกาะเริ่มเข้าหาเวทมนต์มากกว่าวิทยาศาสตร์อย่างไม่ต้องอายกันแล้ว เพราะเกาะย้ายกาลเวลาได้ ควันดำโชว์ตัวชัดเจน ผีพ่อแจ๊คออกมาคุยกับคนอื่นๆบ้าง แต่เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเกินไปก็ยังเอาเรื่องสนามแม่เหล้กไฟฟ้ามาอธิบายนิดหน่อย เดี๋ยวจะนึกว่า lost เป็นหนังมนต์ดำไปแล้ว

ซีซันสุดท้าย เหตุผลทางวิทยาศาสตร์แทบจะหายไปเลย หากคนดูซีซันสุดท้ายก่อนดูซ๊ซันอื่น ต้องนึกว่ากำลังดูหนังอภินิหาร เพราะมีแต่เรื่องเวทมนต์แทบทั้งซีซัน เข้าใจว่าผู้เขียนถึงทางตันแล้วที่จะตอบผู้ชมว่าเหตุการณ์ทั้งหมดบนเกาะจะอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์อย่างไร เลยเน้นแต่มนต์ดำแบบใบ้ๆในซีซันห้าเพื่อให้ผู้ชมค่อยๆยอมรับในที่สุด ก่อนจะสุดๆในซีซันสุดท้ายคือเวทมนต์ล้วนๆ

โดยส่วนตัวแล้วผมว่า lost ซีซันหนึ่งถึงสามถือว่าเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนังเรื่องนี้ เพราะคนยังเดาไม่ค่อยออกถึงสิ่งลี้ลับหลายสิ่งหลายอย่างบนเกาะ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคนก่อนหน้าติดเกาะ ควันดำปริศนา องค์กรลึกลับ ธรรมมะ กลุ่ม the other

เข้าสู้ซีซันสี่เริ่มน่าเบื่อเพราะคนเริ่มเดาออกลางๆ และเรื่องราวเริ่มเข้ามาสู่การต่อสู้กับผู้คนด้วยกันมากขึ้น ซีซันห้านี่น่าเบื่อที่สุดเพราะชีวิตนอกเกาะเป็นชีวิตห่วยมากๆจนคนอยากกลับไปอยู่เกาะซธงั้น

ซีซันหกกลับมาสนุกอีกครั้ง เพราะผู้เขียนประกาศไว้ตั้งแต่ตอนสร้างซีซันสองว่าเรื่องนี้ต้องจบในซีซันหก จะไม่สร้างยืดเย้อ ดังนั้นจึงกลายเป็นคำผูกมัดตนเอง หนังจึงต้องสร้างซีซันหกแบบทิ้งทวน คือต้องเฉลยปริศนาทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะผูกเรื่องไว้ซับซ้อนเกินไป ก็เฉลยเท่าที่จะทำได้ ซีซันนี้คือหนังอภินิหารสมัยใหม่นั่นเอง

เมื่อดูจนจบซีซันหก ผุ้ชมจำนวนไม่น้อยคงรู้สึกเหมือนผมว่า เราโดนหลอกนี่นา เพราะ lost ดูเหมือนน่าจะเข้ากับหลักศาสนาพุทธ นั่นคือก่อนตายทุกคนมีห่วง ใครยังติดห่วงอะไรอยู่ก้จะวนเวียนอยู่ที่นั่น

คนที่รอดตายจากเครื่องบินตก บางทีอาจจะเป็นคนตายตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ก่อนตาย คนเหล่านั้นยังคิดว่าต้องรอด ทำให้จิตของคนเหล่านั้นมารวมอยู่ด้วยกันในโลกหลังความตายในสภาพที่รอดตายได้ นั่นคือ ติดเกาะ ส่วนคนที่ตายตอนเครื่องบินตก คนเหล่านั้นทำใจว่าตายแน่ จิตไปคิดถึงสิ่งอื่นที่ตนผูกพันก็เลยไปสู่โลกหลังความตายในดินแดนอื่นแทน

โลกหลังความตายเหมือนโลกฝาแฝดกับโลกเดิม เพราะมีทั้งคน มีองค์กรดีและร้าย มาเฟีย มีสังคมเมือง มีวิทยาศาสตร์และเวทมนต์ครบถ้วนจนแยกไม่ออกว่าตกลงอยู่ในโลกไหนกันแน่

ส่วนบทสุดท้ายที่ทุกคนที่ตายไปแล้วกลับมาเจอกันอีก น่าจะเป็นโลกหลังความตายในอีกดินแดนหนึ่ง นั่นคือเมื่อจิตของคนเหล่านั้นเกิดความผูกพันกันเพราะได้ใช้ชีวิตร่วมกันบนเกาะ จึงหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมาเจอกันอีกกับบางคนที่เคยเจอะกันบนเกาะ เลยทำให้จิตคนผุกพันกันกลับมาพบกันในโลกหลังความตายในอีกดินแดนหนึ่งแทนและได้มารวมกันในโบสถ์เฉพาะคนที่เขาอยากเจอเท่านั้น ส่วนคนที่รอดตายจากเครื่องบนตกอีกหลายสิบคน รวมทั้งตัวละครอื่นๆนอกเหนือจากนั้นที่ไม่ได้มาโบสถ์ เพราะคนเหล่านั้นผูกพันกับคนอีกกลุ่มหนึ่งหรือสิ่งอื่นไม่ใช่คนกลุ่มนี้ จึงไม่ได้มาร่วมชุมนุมในโบสถ์นี้

ตรงตามหลักพุทธศาสนาคือ จิตยึดมั่นกับสิ่งไหนก่อนตาย เมื่อตายแล้วก้ไปวนเวียนกับสิ่งนั้น มีแต่ผุ้หมดกิเลสจึงจะบรรลุนิพพานได้

พูดเรื่อง lost อยู่ดีๆ ลงท้ายากลายเป็นเรื่องกฎแห่งกรรมไปได้

จากคุณ : สามัญ
เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 16:19:49 A:125.27.51.206 X: TicketID:248970




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com