ผมรู้จักหมึกแดงมาตั้งแต่เขากลับจากเมืองนอกไม่ถึงสองเดือน เขามาบวชที่วัดอนาลโย โดยมีผมเป็นพระพี่เลี้ยงดูแลตลอดเวลาที่เขาบวช 3 เดือน ต่อมาผมได้พบกับเขาที่วัดอนาลโยอีกครั้งหลังจากเขาสึกออกไปแล้วประมาณเกือบปี และหมึกแดงได้ชวนผมไปร่วมงานร้านขายสลัดบาร์ที่ไนท์บาซาร์เชียงใหม่ (ตอนนั้นผมก็สึกออกมาแล้วกำลังทำงานอยู่เชียงราย) ผมเห็นว่าเราเป็นเพื่อนพระบวชมาด้วยกัน จึงไว้ใจและไปร่วมงานกับเขา ซึ่งร้านสลัดบาร์นั้นก็เจ๊งเพราะไม่มีทุน ระหว่างนั้นหมึกแดงส่งเงินให้คนที่ร้านแค่เดือนละ 2000 บาทเป็นทั้งเงินเดือนและค่าใช้จ่ายในร้าน (ตัวหมึกแดงอยู่กรุงเทพ) ผมและเพื่อนร่วมงานอีก สองคนต้องไปขอโครงไก่จากร้านข้าวมันไก่ที่พอรู้จักกัน เก็บผักบุ้งและว่านหางจรเข้กินกันแทบทุกวัน และตัวผมยังต้องเป็นหนี้คนแถวนั้นเพราะเงินเดือนละสองพันไม่พอประทังชีวิตคน 3 คน หลังจากร้านเจ๊งผมและเพื่อนทั้งสองคนก็ลงมาทำงานกับหมึกแดงที่กรุงเทพอีกด้วยความที่ผมผูกพันและให้ความจริงใจกับเพื่อน
ต่อมาหมึกแดงก็เปิดร้านอาหารชื่อ "ชาบู ชาบู" ที่ตึกพรอมมาหนาด (ตึกนายเลิศ) ร้านนี้เปิดได้ไม่ถึงปีก็เจ๊งอีก เพราะไม่มีคนกิน
ต่อมาหมึกแดงได้เปิดบริษัท ถนัดศรีแอนด์ซัน อยู่แถวสุขุมวิท ต้องขออาศัยตึกของ UFM เป็นสำนักงานโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า เพราะไม่มีเงินจะจ่าย ตอนนั้นมีพนักงานทั้งหมด 5 คนและทุกคนยังต้องออกเงินซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนกันเองด้วย เงินเดือนก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ตอนนั้นเราอยู่กันด้วยใจจริง ๆ ตอนนั้นหมึกแดงก็เริ่มแสดงออกถึงความเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วยการด่ารุนแรงหยาบคายบ่อย ๆ จนหลานตัวเองทนไม่ไหวต้องลาออกไปก่อน หลังจากบริษัทได้ทำรายการโทรทัศน์และมีรายได้ หมึกแดงก็เริ่มใช้เงินฟุ่มเฟือย ไร้เหตุผลและเจ้าอารมณ์มากยิ่งขึ้น ผมเองก็โดนจนชินตั้งแต่อยู่เชียงใหม่ ตอนนั้นผมเริ่มรู้ตัวว่าหมึกแดงมองผมเป็นขี้ข้าไปแล้ว (และความเจ้าอารมณ์ของหมึกแดงก็ยังทำร้ายผมจนถึงทุกวันนี้)
ต่อมาบริษัทได้ย้ายที่อยู่อีกหลายที่และหมึกแดงก็ใช้เงินเป็นว่าเล่น ซื้อคอนโดยูนิตละเป็นสิบล้าน บ้าน รีสอร์ท ไร่ลิ้นจี่ และรถอีก รวมแล้วหมึกแดงจะสร้างหนี้ก้อนใหญ่ปีละหลาย ๆ ครั้ง (ยังไม่รวมค่าตัว,ค่าเล่าเรียนเด็กหลาย ๆ คนที่เลี้ยงไว้) ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องอยู่เป็นประจำ เป็นที่รู้กันดีในหมู่พนักงานว่าบริษัทแทบจะไม่มีเงิน แต่ถ้าหมึกแดงต้องการเงิน....คือต้องได้.....ไม่งั้นเขาจะโวยวายอาละวาดใส่พนักงานเป็นประจำ
ผมทำงานกับหมึกแดงด้วยความรักและซื่อสัตย์ต่อหมึกแดงและบริษัท แต่วันนี้หมึกแดงได้ตอบแทนผม ด้วยการใช้สื่ออินเตอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ ประจานกล่าวหาว่าผมและอีกหลายคนในบริษัทร่วมกันโกงเขา ทำให้ผมตกเป็นจำเลยสังคม ครอบครัวและวงศ์ตระกูลต้องเสื่อมเสียเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผมจึงต้องออกมาพูดความจริง ที่สังคมไม่เคยรู้!
จดหมายข้างล่างนี้เป็นลายมือของผมเอง อย่าเพิ่งพิพากษาคนเพียงเค่ฟังดาราพูดข้างเดียว หลังจากท่านอ่านมันแล้วหวังว่าท่านจะเปิดใจและเปลี่ยนคำพิพากษาในใจท่านได้บ้าง.....
ผมยังมีเรื่องเขียนอีกที่ www.whiteink.info
จากคุณ :
ต๋อยหมึกขาว
- [
18 พ.ย. 48 23:20:08
]