| ชอบมาก ห้ามพลาด (1 คน) |
| ชอบ แต่ยังไม่ที่สุด (4 คน) |
| เฉยๆ (2 คน) |
| ไม่ค่อยชอบ รอแผ่นก็ได้ไม่ต้องไปโรง (2 คน) |
| ไม่ชอบ เสียดายตังค์ (1 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 10 คน |
.... เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นอื่นๆที่มีต่อหนังเรื่องนี้ และ รบกวนแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=12-2005&date=11&blog=2
...ด้วยเงินที่มีจำกัดผมจึงต้องเลือกเลือดลมกระฉูดได้จากหนังแค่เรื่องเดียว ผมจึงจำใจตัด ลองของ และเลือก The Maid ผีสาวจากสิงคโปร์ด้วยดีกรี เข้าชิงรางวัลม้าทองคำถึง 6 สาขา , กำลังได้รับการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ The Maid ไปรีเมคเป็นฉบับฮอลลีวูด และ เป็นหนังเอเชียที่ทำรายได้สูงสุด บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศของสิงคโปร์ นั่นทำให้ผมสนใจอยากรู้ว่าผีสิงคโปร์ตัวนี้มีอะไรดี และ หญิงสาวที่เป็น Maid ในเรื่องคือ
...โรซ่า เด็กสาวหน้าตาคมขำจากฟิลิปปินส์ เดินทางมาสิงคโปร์เพื่อเป็นแม่บ้านให้กับครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง ในครอบครัวนี้ประกอบไปด้วยคู่สามีภรรยาที่ทำงานในคณะอุปรากรจีน ทั้งคู่มีลูกชายปัญญาอ่อน 1 คน เธอเดินทางมาในช่วงเดือน 7 เดือนที่คนสิงคโปร์เชื่อกันว่าประตูนรกจะเปิดออก และ ผีจะก้าวมายังโลกมนุษย์ เหล่าบรรพบุรุษจะกลับมาเยี่ยมเยือน เหล่าญาติๆจะส่งข้าวของอาหารส่งไปให้วิญญาณ เดือนนี้มีข้อห้ามที่ไม่ควรล่วงล้ำ และ แน่นอนโรซ่าล่วงล้ำข้อห้ามนั้นเพื่อให้หนังพาเราไปพบกับ ความสยองขวัญกับเรื่องราวที่แปลกๆมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น คนข้างบ้านวิ่งหนีเมื่อเห็นหน้าเธอ และ
เธอเริ่มเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น (แน่นอน มันคือ ผี) เธอเห็นวิญญาณที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด เห็นวิญญาณของเด็กที่เพิ่งตายต่อหน้าต่อตา แต่ที่สร้างความขนหัวลุกให้กับคนดูและเธอ คือ วิญญาณหญิงสาวคนหนึ่งที่มาแบบน่ากลัวยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นการคว้าขาในขณะที่ยืนอยู่เพลินๆ การกระโจนเข้ามาในขณะที่หันหน้าไปอีกด้าน แถมยังมาแขวนคอให้เห็นกันจะๆตา คนดูย่อมอยากรู้ว่าผีสาวตัวนี้มีชะตากรรมที่มาเกี่ยวข้องกับเธออย่างไร แล้ว หนังก็เปิดเผยชื่อ Esther หญิงสาวคนหนึ่งที่เคยอยู่ในบ้านหลังนี้ โรซ่าเริ่มพบข้าวของที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระจก , จดหมาย ฯลฯ ยิ่งเธอค้นพบข้าวของเหล่านั้น เธอก็ทำให้คนดูได้พบกับความสยองมากขึ้นเรื่อยๆ วันสิ้นสุดเดือน 7 ก็ใกล้เข้ามาทุกที เธอต้องอยู่อย่างหวาดกลัวรอคอยวันที่จะสิ้นสุดเดือน 7 เพื่อที่ผีปีศาจจะได้ไม่มากวนเธอ เธอไม่สามารถหนีกลับก่อนได้เพราะเธอต้องการเงินเพื่อส่งไปให้น้องชายที่ป่วยหนัก แต่แน่ใจแล้วหรือ ว่า การสิ้นสุดเดือนคือการสิ้นสุดของอันตรายในชีวิตเธอ
... หนังใช้ประโยชน์ของเทศกาลเดือน 7 ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะบรรยากาศที่หนังถ่ายออกมาเช่นการไหว้บรรพบุรุษ การเผาเพื่อส่งวิญญาณ ฯลฯ ช่วยส่งเสริมความน่ากลัวในหนังได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งบวกกับภาพและเสียงจากการเล่นหรือซ้อมงิ้ว , เสื้อผ้าเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นงิ้ว สร้างความน่ากลัวให้กับหนังได้ดียิ่งนัก และมันทำให้ตัวหนังเองดูมีเอกลักษณ์ในตัว ไม่ใช่ผีที่ไปลอกเลียนเปลี่ยนสัญชาติใครมา แต่เป็นผีที่แสดงตัวตนมีเชื้อชาติชัดเจน นอกจากงานสร้างที่เกี่ยวข้องกับประเพณีเดือน 7 และ งิ้ว จะทำให้บรรยากาศของหนังสยองอย่างขลังสมจริงแล้ว ตัวฉากที่ถ่ายในห้องพักก็ดูอึมครึมและทึมทึบน่ากลัวดีคล้ายคลึงกับเรื่อง คน ผี ปีศาจ ที่ใช้ประโยชน์จากสถานที่กดดันความรู้สึกคนดู เพียงแต่ในเรื่องนี้จะใช้ประโยชน์ลูกเล่นจากตัวสถานที่น้อยกว่า และ ไปเน้นที่บรรยากาศที่น่ากลัวมากกว่า
... ทักษะการหลอกของผีสิงคโปร์ถือว่าสอบผ่าน หนังไม่ได้มัวแต่เมามันส์กับเทคนิค แต่ผู้กำกับไปเน้นกับการกำกับผีให้รู้จักเข้ามาหลอกคนดูอย่างมีจังหวะ หนังจับจังหวะคนดูได้ดีเหลือเกินเพราะส่วนใหญ่ทำให้คนดูตกใจได้ผล และ หลายจังหวะก็ทำให้คนดูต้องหวาดเสียวกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง โดยเฉพาะฉากในห้องพักทั้งหลายที่สร้างความอกสั่นขวัญแขวนได้อยู่ตลอดเวลา หนังดูเหมือนได้รับอิทธิพลมาจาก The Eye ของพี่น้องแปงมาไม่น้อย โดยเฉพาะฉากที่เป็นวิญญาณที่มีลักษณะคล้ายๆกัน และ สำหรับไฮไลท์ของงานคือตัว ผีสิงคโปร์ น่ายินดีที่ว่า เธอไม่ได้รับเชื้อผีที่น่าซ้ำซากจาก Ringu ที่ต้องคลานกระตื้บๆ เดินกระตุกๆ คอเอียงๆมาหาคนดู และด้วยความสามารถในเรื่องที่เธอสามารถหลอกกันได้แม้แต่กลางวันแสกๆกลางถนนโล่งแจ้ง มันทำให้หนังเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ให้คนดูได้ผ่อนคลายเพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน เรียกได้ว่า ช่วงที่ผีไม่โผล่ ก็ยังทำให้คนดูไม่รู้สึกปลอดภัยอยู่ดี
...การที่ให้ตัวละครหลัก โรซ่า เป็นเสมือนคนต่างด้าว เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ และ จำเป็นที่ต้องอยู่เพื่อเงิน ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ดูน่าสงสาร (แม้ว่าตัวนักแสดงจะน่ารักก็ตาม
) และ ไร้ทางสู้ ทำให้คนดูต้องคอยเอาใจช่วยเธอตลอดเวลาว่าเธอจะเอาตัวรอดไปได้อย่างไร คนรอบตัวเธอที่ดูจะไว้ใจได้มีเพียง บุรุษไปรษณีย์ใบ้ และ ลูกชายปัญญาอ่อนของนายจ้าง เราจะเห็นได้ว่า คนที่ไว้ใจได้และเป็นตัวช่วยในเรื่องสำหรับเธอ ต่างก็เป็นตัวละครที่มีข้อจำกัดนั่นคือ คนหนึ่งเป็นใบ้ คนหนึ่งปัญญาอ่อน จุดดีของการสร้างตัวละครเช่นนี้คือทำให้คนดูรู้สึกมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้มากขึ้น เพราะเราจะรู้สึกเป็นห่วงตัวละครในเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่มีทางสู้กับอันตรายที่มาคุกคามได้เลย
... แน่นอนตามขนบ ผียุคใหม่ ที่ต้องมีการเฉลยสิ่งที่ปิดบังไว้เป็นไคลแมกซ์ตอนท้าย หนังทิ้งเงื่อนงำไว้ตามรายทางตั้งแต่ต้นเช่น เธอเป็นคนที่ถูกครอบครัวนี้เลือกมา , เธอทำให้คนข้างบ้านต้องหวั่นผวาเมื่อเห็นหน้า ,นายจ้างสาวมีทีท่าไม่พอใจทุกครั้งที่เธอออกนอกบ้านคนเดียว ฯลฯ และชื่อ Esther ที่เผยออกมา เป็นปริศนาสำคัญที่รอคลี่คลายในท้ายที่สุด สำหรับคนที่ดูหนังผีมาจนเชี่ยวชาญภาษาผีหลายสัญชาติน่าจะพอเดาออกได้ว่า อะไรที่ซุกซ่อนไว้หักมุมในตอนท้าย เพราะคำใบ้ที่หนังหย่อนไว้ระหว่างทางไม่ได้ยากเกินไปนัก แต่สิ่งที่รู้ที่เดาได้ก็อาจจะยังไม่ใช่ประเด็นทั้งหมด เพราะหนังยังมีประเด็นย่อยๆแฝงอยู่ด้วย เรื่องราวทั้งหมดบอกให้ได้รับรู้ว่า ความรักไม่เคยทำร้ายใคร แต่ความรักแบบผิดๆทำลายชีวิตคนได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความรักความสัมพันธ์แบบใด
... น่าเสียดายที่ หนังสนุกกับการเอาผีมาหลอกคนดูบ่อยเกินไปหน่อย คือ การอัดฉากผีหลอกมาเป็นคอมโบเซ็ต มันก็ดีอยู่และผมก็ชอบเพราะมันทำให้ไม่ได้หายใจหายคอ แต่ในเรื่องนี้ช่วงกลางๆกลายเป็นว่า หนังเดินไปข้างหน้าไม่ได้ด้วยเนื้อหาแต่ด้วยฉากตกใจและผีหลอกอย่างเดียว เช่น เจอของที่ซ่อนไว้ , ได้ยินเสียงตึงๆๆโดยหาต้นเสียงไม่ได้ , ส่องกระจกเห็นผี , ตากผ้าเห็นผี และอะไรต่อมิอะไรที่เห็นผี ฯลฯ (เปรียบเทียบกับหนังผีที่เดินหน้าไปด้วยบรรยากาศผีหลอกต่อเนื่องและการเล่าเรื่องไปพร้อมกันด้วยดี เช่น ตู้ซ่อนผี หรือ ชัตเตอร์) จนมีอยู่บางช่วงที่ผมรู้สึกเฝือและเริ่มรู้สึกว่ามีฉากที่เป็นเหมือนส่วนเกิน เช่น ฉากที่โรซ่ามายืนงงๆอยู่ใจกลางตึกรอบตัว ที่ไม่ได้สำคัญต่อเนื้อเรื่องมากมายเท่าไหร่เลยและไม่ได้น่ากลัวด้วย เปรียบเหมือนกับหนังตลกบางเรื่องที่ชอบดำเนินเรื่องโดยเอามุขต่อมุขไปเรื่อยๆ ในเรื่องนี้ก็เช่นกันแต่เปลี่ยนเป็นเอาผีหลอกฉากต่อฉากไปเรื่อยๆ ยังดีที่ในตอนท้ายหนังวกมาเข้าเรื่องราวเพื่อเฉลยความจริงที่ซ่อนไว้ทั้งหมด
... การถูกนำไปรีเมคเป็นหนังฮอลลีวูด น่าสนใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เพราะความเห็นส่วนตัวแล้วเรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นที่พล็อตหรือบท แต่เป็นตัวบรรยากาศในเรื่องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หนังทำออกมาได้น่ากลัวจากการผสมผสานวัฒนธรรมแถบตะวันออก เช่น ประเพณีสารทจีน ไหว้บรรพบุรุษ หรือ การแสดงงิ้ว ฯลฯ หากตัดเอาส่วนนี้ทิ้งไปแล้วรีเมค หนังก็อาจเป็นหนังผีธรรมดาๆเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง
สิ่งที่ชอบ
1.ความน่ากลัว ... องค์ประกอบสำคัญที่สุดของหนังผี คือ ความน่ากลัว ส่วนที่เหลือหนังจะใส่จะแทรกอะไรก็เป็นผลพวงที่เสริมเข้าไป และ The Maid สอบผ่านในส่วนนี้ หนังไม่พยายามทะเยอทะยานใส่อะไรให้มันมากมาย แค่เดินหน้าทำผีหลอกไปเรื่อยๆ และ มันก็ทำออกมาดีเสียด้วย
2.บรรยากาศสยองเอเชีย ... หนังผีหลายเรื่องพยายามที่จะเป็นผีซาดาโกะ หนังผีหลายเรื่องพยายามจะโก อินเตอร์ ทำให้หนังผีเอเชียแท้ๆที่ไม่ซ้ำกับใครเขาหาได้น้อยลงทุกที สำหรับหนังเรื่องนี้แม้บางฉากจะเหมือนหนังผีบางเรื่อง แต่กับภาพรวมหนังสามารถสร้างเอกลักษณ์ในตัวออกมาได้ไม่ซ้ำกับคนอื่นจากบรรยากาศเดือนผีดุที่หนังเจตนานำมาเป็นธีมของเรื่อง บวกกับบรรยากาศของคณะอุปรากรจีน ยิ่งส่งเสริมให้หนังดูมีความเป็นเอเชียที่ไม่ซ้ำจำเจเมื่อเทียบกับผีที่จบรุ่นไล่เลี่ยกันในไม่กี่ปีนี้
3.ฉากท่ามกลางเสื้อผ้าที่ใช้เล่นงิ้วและฉากผีหลอกตอนกลางวัน ... ฉากแรกทำได้น่ากลัวดี ยิ่งชุดแดงแรงฤทธิ์เป็นชุดที่ดูขลังและน่ากลัวเหลือเกิน ส่วนฉากหลังที่ตู้ไปรษณีย์ รู้ทั้งรู้แต่มันก็อดตกใจไม่ได้แบบว่ามัน แบร่ กันได้กลางวันแสกๆกลางที่โล่งแจ้ง
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.เรื่องเดินหน้าด้วยฉากผีหลอก ... ผีหลอกเยอะๆมันก็สนุกดี แต่ถ้ามากไปโดยไม่ใส่เนื้อหาด้วยบางช่วงมันก็จะรู้สึกเฝือไป
สรุป หนังทำหน้าที่หนังผีได้ดี ทำให้คนดูตกใจกลัว ทำให้คนดูลุ้น ในช่วงที่หนังผีพันธุ์แท้กำลังขาดแคลนเพราะผู้สร้างพยายามสร้างความแปลกใหม่เช่น ใส่ความเป็นดราม่า ใส่เทคนิคให้สมจริง(ไม่รู้จะใส่ให้สมจริงแค่ไหนเพราะผีจริงๆยังไม่รู้เลยว่าเป็นยังไง) ฯลฯ เรื่องนี้คุ้มค่าตั๋วสำหรับคนชอบหนังผี ส่วนตัวแล้วไม่ผิดหวัง เสียดายที่ตอนจบเดาได้ง่ายเกินไปนิดนึง
Spoiler alert ข้อความ ตัวเอียง ต่อไปนี้ เป็นการเฉลยตอนจบของหนัง
ครอบครัวนี้เคยจ้างสาวรับใช้จากฟิลิปปินส์ชื่อ Esther เธอมาสนิทกับลูกชายปัญญาอ่อนของนายจ้าง ทั้งคู่สนิทกันมากจนวันหนึ่ง Esther ถูกลูกชายปัญญาอ่อนข่มขืนหลังจากกอดเล่นกันไปมา เธอจะหนีออกจากบ้านกลับประเทศ พ่อของลูกชายจึงฆ่าเธอทิ้ง เมื่อลูกชายรู้จึงฆ่าตัวตายตาม ตัวลูกชายปัญญาอ่อนที่คนดูได้เห็นมาตั้งแต่ต้นแท้จริงคือ ผีที่มาเยี่ยมครอบครัวในเดือน 7 นี้เอง และ โรซ่า คือ เด็กสาวที่พ่อแม่ของลูกชายปัญญาอ่อนนี้จ้างมาเพื่อหวังจะฆ่าทิ้งไปเป็นคู่รักของลูกชายตัวเอง เพราะ โรซ่าคล้ายกับ Esther และถ้าก่อนตาย โรซ่า ยอมตกลงจะเป็นเจ้าสาว ทั้งคู่เมื่อตายไปแล้วจะได้เคียงคู่กัน (Esther หมดสิทธิ์เพราะตายโดยไม่ยินยอม) สุดท้าย โรซ่ารอดตายและได้พาวิญญาณ Esther กลับประเทศ
เชิญชวนตามอ่านบทความเก่าๆ สนทนาภาษาหนัง และ ร่วมเป็น 1 ความเห็นในหนังที่คุณเคยดู ที่
http://aorta.bloggang.com
Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=12-2005&date=08&blog=1
Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2005&date=05&group=1&blog=1
Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=09-2005&date=17&group=1&blog=1
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 48 18:38:05
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
11 ธ.ค. 48 18:36:40
]