ความคิดเห็นที่ 1 ลูกสาวตัวร้ายของผมกำลังจะขึ้นอนุบาล.. ทำให้ต้องเตรียมมองหาโรงเรียนประถมหลังจากจบอนุบาลต่อไป.. โรงเรียนราชินีบน เป็นโรงเรียนหนึ่งที่อยู่ในความสนใจ เพราะอยู่ใกล้บ้านชนิดที่เดินไป-กลับได้เลย... และมีตั้งแต่อนุบาล 2 ไปจนถึง ม.6 ดังนั้นจึงตัดปัญหาเรื่องการเรียนต่อทั้งหมดได้... แต่เพื่อนๆ ที่ให้คำปรึกษาบอกว่าราชินีบนจะเน้นเรื่องจริยธรรม กริยามารยาท..เป็นเรื่องหลัก... การเรียนเป็นเรื่องรอง... ทำให้วิชาการของโรงเรียนนี้ไม่แข็งนัก.. และเด็กต้องเรียนกวดวิชากันขนานใหญ่หากต้องการเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ ตอนนี้เลยสับสนครับ..ว่าจะให้เข้าที่นี่ดีไหม จากคุณ : หมู4X - [ 2 พ.ย. 50 09:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดิฉันเป็นศิษย์เก่าราชินีค่ะ เกือบยี่สิบปีค่ะ พอจะแนะนำได้ดังนี้ ถ้าจะให้น้องเข้าโรงเรียนราชินี ต้องติดต่อโรงเรียนได้แล้วนะคะเพราะเค้ารับสมัครเร็ว เข้าตั้งแต่อนุบาลจะดีกว่านะคะ เพราะถ้าเข้า ม.1 เค้าเน้นรับศิษย์เก่า และลูกหลานของศิษย์เก่า ที่นามสกุลเดียว นอกนั้น ยาก ค่ะ เรื่องการเรียนการสอนดีค่ะ ถ้าดูจากผล entrance ทางโรงเรียนจะเน้นเรื่องมารยาท และการวางตัว ค่ะ ซึ่งจุดนี้เองทำให้เป็นจุดเด่นของโรงเรียนราชินี จากคุณ : ตามหาเธอทุกวัน - [ 2 พ.ย. 50 10:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เช่นกันนะ หลานชาย2คนทางครอบครัวส่งเข้าโรงเรียนกินนอนที่อยู่ประจำ ทางนี้เน้นกีฬา  วิชาการเป็นรองเช่นกัน พอกลับบ้านมาเจอเด็กเรียนคราวเดียวกันเทียบกันแล้ว  ว่า80%ของทางนั้นเหลวเป๋ว ยุ่งละสิทีนี้ ยิ่งมาเรียนชั้นม. ที่ต้องมีกวดวิชา ไม่ต้องคิดเลยเพราะ2อาทิตย์กลับครั้ง  ถามเด็กๆบอกว่าเรียนอ่อนมากๆถึงจะมีครูมาสอนพิเศษแต่ทั่วๆไปเรียนเฉลี่ย70%  แล้วจะสู้เด็กข้างนอกได้ไง  คงต้องอยู่ในรั้วนี้จนจบม.6 ถ้าออกมาเปลี่ยนที่เรียนใหม่ตอนม.3รับรองเดี้ยงแน่ๆ จากสเปคตอนเข้าการเรียนต้อง85%อัพแต่เรียนแล้วตกสเปคต้องแก้ไขไงไม่รู้ เวลาที่จะออกมากวดวิชาข้างนอกก็ไม่มีเลยมีแต่กลุ่มเรียนดี กับเรียนแย่2กลุ่มเอง จากคุณ : ยิบยอง - [ 2 พ.ย. 50 11:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นศิษย์เก่าร.ร.ราชินีนะคะ ที่โรงเรียนเน้นทั้งเรื่องการเรียนการสอน ควบคู่ไปกับเรื่องกิริยามารยาท โดยมีชั่วโมงที่อบรมเด็กในเรื่องนี้โดยตรงด้วย ส่วนตัวคิดว่าการที่โรงเรียนให้ความสำคัญกับการสอนมารยาทเด็ก ไม่ได้มีผลทำให้การเรียนการสอนเป็นรองใครค่ะ ลองดูสถิติการเอ็นทรานซ์จะเห็นว่าเปอร์เซ็นต์การสอบติดสูง และเป็นคณะดีๆ แต่ไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากเพราะจำนวนนักเรียนมีน้อยค่ะม.ปลายมีแค่ไม่กี่ร้อยคน ปีที่เราจบมีนักเรียนเอ็นท์ติด 97% แต่พอนับเป็นจำนวนคนแล้วน้อยกว่าบางโรงเรียนซึ่งมีเด็กม.ปลายเป็นพันคน เด็กเอ็นท์ติด 70% ก็มีจำนวนมากกว่าแล้วค่ะ จากคุณ : Beamy - [ 2 พ.ย. 50 11:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นศิษย์เก่าราชินีบนนะคะ ทั้งสองราชินีเน้นกิริยามารยาทควบคู่ไปกับการเรียน ซึ่งขอบอกอีกครั้งว่าวิชาการของสองราชินีไม่อ่อนนะคะ ผลการเอนทรานซ์ติดเปอร์เซ็นต์สูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ง่ายๆนะคะ เราเองเป็นคนเรียนไม่ดีของห้อง คะแนนจบมาน่าอาย เทียบกับเพื่อนๆไม่ได้ แต่เอนท์ติด 2 ปี ติดจบมาก็ยังใช้ภาษาอังกฤษของโรงเรียนทำงานจนทุกวันนี้ นักเรียนมีน้อยครูดูแลทั่วถึง เราเองเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงม.6ค่ะ จากคุณ : หนูนวล - [ 2 พ.ย. 50 12:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เน้นสอน มารยาท การวางตัวเป็นกุลสตรีไทย ศิลปะดนตรีไทย งานฝีมือไทย และ เทศ... ภาษาอังกฤษจ้างครูเจ้าของภาษาจริงๆ ที่จบมาจริง ไปสอนนะคะ... สมัยเราเรียน สามสิบปีมาแล้ว... ครูอังกฤษสอนภาษา  ชื่อ มิสจูน วีระไวทยะ.... คาดว่าเป็นดองกับ คุณ มีชัย วีระไวทยะ (ดองกันทางไหนนั้นไม่ทราบค่ะ) ถึงแม้ว่านิสัยของนร. หญิงส่วนมาก จะทะโมนๆกันในกลุ่มเพื่อนๆก็จริง... แต่เมื่อออกสังคมแล้ว.. วางตัวกันได้ดี จากคุณ : JidNince - [ 2 พ.ย. 50 14:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นศิษย์เก่าราชินีเหมือนกันค่ะ เป็นเด็กประจำด้วย ตอนเรียนเกลียดครู เกลียดกฏ เกลียดหลายๆอย่างค่ะ เคยพูดไว้กับตัวเองว่าถ้ามีลูกจะไม่ให้เรียนโรงเรียนโหดนี่เด็ดขาด แต่พอจบออกมา ความรู้สึกตรงกันข้ามค่ะ รู้สึกรักโรงเรียนมากๆ ต้องขอบคุณคุณครูทุกคนที่ขัดเกลาลิงทะโมนให้ออกมาเป็นผู้เป็นคนได้ เหมือนที่คุณ JidNince บอกค่ะ "ถึงแม้ว่านิสัยของนร. หญิงส่วนมาก จะทะโมนๆกันในกลุ่มเพื่อนๆก็จริง... แต่เมื่อออกสังคมแล้ว.. วางตัวกันได้ดี" แนวๆผักชีโรยหน้า ฮ่า ฮ่า อยู่โรงเรียนซนเป็นลิง แต่พอต้องถึงเวลาออกงานเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ก็ทำกันได้ค่ะ ตอนเรียนเจอครูสอนมารยาทโหดมากๆ ถ้าไหว้ไม่สวย ก็โดนไว้อยู่อย่างนั้นล่ะค่ะ จำได้ว่าตอนม.1 ช่อง Discovery จากอเมริกามาขอถ่ายทำเกี่ยวกับการไหว้ การถอนสายบัว เค้ามาขอทำที่โรงเรียนค่ะ แล้วห้องเราได้รับเลือก โหย ดีใจกันใหญ่เลยค่ะได้ออกทีวี ฮ่า ฮ่า แต่ที่สำคัญภูมิใจแทนโรงเรียนมากกว่าค่ะที่ได้รับเลือกจากบรรดาโรงเรียนทั้งหมด ไม่ทราบว่ากำลังจะเข้าชั้นไหนเหรอคะ ช่วยเชียร์อีกแรงค่ะ แต่เด็กสมัยนี้เปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ โทรคุยกับคุณครูปวดหัวกันเป็นแถว โรงเรียนสอนมารยาทควบคู่ไปกับการศึกษาที่ไม่เป็นรองใคร บังคับเรียนทั้งดนตรีไทย รำไทย เย็บปักถักร้อย เลื่อยไม้ เย็บผ้า พละศึกษา ส่วนภาษาต่างประเทศก็มีครูต่างชาติมาสอนค่ะ คุณครูเก่งๆกันทั้งนั้นเลย ขอย้อนอดีตนิดนึงค่ะ ตอนเรียนโหดมาก อยู่ประจำให้อาบน้ำได้สามนาที สระผมได้อาทิตย์ละสองครั้งคืออังคารกับพฤหัส วันไหนสระผมให้เวลาอาบน้ำสระผมได้ห้านาที ห้ามเอามือถือไปโรงเรียน ห้ามเอาขนมขึ้นตึกประจำ แต่พวกเราก็พยายามแหกกฏกันซะจริง นินทาครูกันสนุกปาก ตอนนี้จบมาแล้วคิดย้อนกลับไปเออ เรามันเด็กราชินีนอกคอกจริงๆ จากคุณ : OtteR - [ 3 พ.ย. 50 11:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นศิษย์เก่าราชินีเหมือนกันค่ะ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว  โรงเรียนสอนให้เรารู้จักการวางตัวจริง ๆ ค่ะ จริง ๆ เราไม่ใช่คนเรียบร้อย แต่คนที่เพิ่งรู้จักเราใหม่ ๆ หรือพวกผู้ใหญ่ ๆ หน่อยจะเห็นว่าทำไมเราเรียบร้อยจัง  นอกจากนี้สิ่งที่ได้จากโรงเรียนราชินีที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เมื่อโตมาเป็นผู้ใหญ่คือ วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และการเย็บปักถักร้อยค่ะ  ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยคุณครูสอนเข้มมาก ๆ เลยค่ะ ตอนเข้าปี 1 มหาวิทยาลัย เลยทำให้ Foundation English I และ II ได้ A เพราะไม่ยากเลยเมื่อเทียบกับที่เรียนจากโรงเรียน  ส่วนภาษาไทย ตอนเรียนมัธยมคุณครูจะไม่ปล่อยเกรดเลยค่ะ หาคนได้เกรด 4 วิชานี้ยาก และข้อสอบก็ยากด้วยเช่นกัน  แต่พอจบมาจะติดนิสัยที่ต้องเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง และกฎบางอย่างก็ยังจำได้อยู่จนถึงตอนนี้   วิชาเย็บปักถักร้อย ตอนเรียนเป็นวิชาที่ไม่ชอบเลยค่ะ  จำได้ว่าให้คุณแม่ช่วยประจำ แล้วคุณครูก็ดูออกด้วยสิว่าแม่เป็นคนทำ  แต่พอโตขึ้นและได้มาอยู่ต่างแดนนาน ๆ วิชานี้เป็นประโยชน์มากค่ะ เพราะเวลาเสื้อผ้าชำรุด เราก็สามารถซ่อมแซมได้  หรือถ้าอยากจะถักโครเชต์หรือปักครอสติชเป็นของขวัญให้เพื่อนหรือคนพิเศษก็ได้เลยค่ะ ส่วนด้านวิชาการ นักเรียนราชินีเอ็นท์ติดกันเกือบ 100 เปอร์เซนต์ค่ะ เพื่อนเราที่จบม.ปลายจากราชินี ตอนนี้ก็ต่างก้าวหน้าในหน้าที่การงานทั้งนั้น  เช่น เป็นหมอ หมอฟัน วิศวกร เภสัชกร หรือเป็น manager ในสายธุรกิจก็มี ทั้ง ๆ ที่อายุแค่ 29-30  ที่จบด็อกเตอร์จากเมืองนอกและเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสายวิทยาศาสตร์ก็มีค่ะ จากคุณ : รุ่น 90 (Sonnenschein) - [ 4 พ.ย. 50 13:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะ  ที่กรุณาช่วยให้พอมองภาพรร.ออกได้บ้าง  เพราะลูกสาวตัวแสบของคุณแม่เป็นเด็กที่ซนมากถึงมากที่สุดเลยล่ะค่ะ  ประมาณว่าเด็กผู้ชายยังอายแกเลย  คุณพ่อเค้าอยากให้เรียบร้อยเหมือนลูกสาวบ้านอื่นเค้าบ้าง  ค่อนข้างจะมั่นใจในเรื่องของกิริยามารยาทค่ะว่ารร.นี้ต้องอบรมเจ้าตัวแสบได้แน่  ห่วงเรื่องวิชาการอยู่บ้าง  แต่อีกเรื่องก็คือเรื่องสังคมในรร.นะค่ะ  เพราะคุณแม่ก้อไม่ได้ประมาณว่ามีฐานะอะไรมากมาย  กลัวลูกจะร้องอยากได้แต่ของแพงๆเพราะเห็นคนอื่นๆเค้าบอกว่าเป็นรร.ลูกคุณหนูทั้งนั้น  กลัวเค้าจะกดดันที่มีไม่เหมือนคนอื่นนะค่ะ จากคุณ : แม่น้องพิมพ์ (แม่น้องพิมพ์) - [ 4 พ.ย. 50 20:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขำอนุญาตขำกับคำว่ารร ลูกคุณหนูค่ะ ได้ยินมาบ่อยเหมือนกันคำๆนี้ หลายๆคนคิดว่าเด็กราชินี เรียบร้อย เป็นลูกคุณหนู จริงๆแล้วก็เหมือนเด็กทั่วๆไปค่ะ บางคนพ่อแม่มีเงินหน่อยก็ตามใจมากหน่อย แต่หลายๆคนมีเงินก็จริงๆยังนั่งรถเมล์มาเรียนเลยค่ะ จากคุณ : OtteR - [ 4 พ.ย. 50 23:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถามด้วยครับ ว่า การที่ จะเอา ลูกสาว ไปเข้า นี่ ยากไหมครับ จากคุณ : ว่างงาน - [ 5 พ.ย. 50 13:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ยากมากเกินความสามารถของเด็กๆหรอกค่ะ ให้น้องเข้าตั้งแต่อนุบาลนะคะ เตรียมความพร้อมของน้องแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็สำคัญ ตั้งแต่วันสมัคร และสัมภาษณ์เลยค่ะ ขอให้แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย โรงเรียนดูแนวคิด และการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 50 14:45:14 จากคุณ : หนูนวล - [ 5 พ.ย. 50 14:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นนักเรียนเก่าราชินีที่ให้ลูกสาวเรียนราชินีบน ทั้งๆที่ใจจริงอยากให้ลูกเรียนราชินีเหมือนแม่ ด้วยเหตุผลหลักคือ ไปรับ-ส่งสะดวกกว่า เพราะใกล้ที่ทำงานและใกล้รร.ลูกชายมากกว่า ส่วนตัว ดิฉันมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าการได้รับการ"บ่ม"กริยามารยาทตั้งแต่ยังเล็ก จะส่งผลติดตัวจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่า จะเป็นคนซนยังไง ลึกๆแล้ว เราจะรู้ด้วยตัวเองว่าทำอย่างนี้น่ารักหรือไม่  มันเหมือนมีต่อมอีกต่อมคอยเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดจากการที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบชั้นสูงสุด เรื่องวิชาการ สำหรับดิฉัน กลับคิดว่า ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ถ้าเด็กพร้อม และพ่อแม่มีแรงจูงใจที่ดีให้กับลูก ถึงเวลา มันไม่น่ายากเกินกว่าจะรับได้นะคะ (หมายถึง ส่งลูกไปเรียนพิเศษฯ) ส่วนตัว สมัยอยู่ปี 1 ต้องทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อจัดชั้นเรียน ผลออกมา คือผ่านการทดสอบโดยไม่ต้องเรียนเลยค่ะ เพื่อนที่มาจากโรงเรียนและอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เท่าที่ทราบ เรียนแค่ตัวเดียว เท่านั้นค่ะ ลป. สำหรับการเรียนที่ รร.นี้ ต้องเข้าใจว่าพ่อแม่ต้องรับระเบียบของโรงเรียนให้ได้นะคะ เช่น ระเบียบเรื่องการแต่งกายและทรงผม อย่างที่ราชินีบน ห้ามซอยผมเด็ดขาด ให้ตัดสั้นเป็นทรงนักเรียนได้เท่านั้น ทราบว่าผู้ปกครองไม่พอใจเรื่องนี้ หลายคนทีเดียวค่ะ เรื่องการเข้า ดิฉันคิดว่า ยังง่ายกว่าโรงเรียนฝรั่งมากนะคะ โดยเฉพาะ ถ้าให้เริ่มเข้าตั้งแต่อนุบาล จะง่ายกว่า เริ่มป.1 มากทีเดียวค่ะ จากคุณ : ป้าปูเป้ - [ 5 พ.ย. 50 23:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆค่ะที่กฏระเบียบของโรงเรียนเยอะมาก โดยเฉพาะการแต่งกาย เด็กมอต้นชายเสื้อห้ามยาวเกินข้อมือค่ะ ไหล่ห้ามตก กระโปรงต้องยาวเลยเข่ามากี่นิ้วๆ ผมยาวก็ต้องถักเปีย แต่ละชั้นต้องใช้โบว์สีต่างกัน แต่เดี๋ยวนี้ผมสั้นเห็นว่าซอยผมได้แล้วอ่ะค่ะ แต่ก่อนนี่ไม่ได้เลย ผมหน้าม้าต้องสั้นกว่าคิ้ว เค้าจะให้หนังสือกฏระเบียบมาอ่านเป็นเล่มเลยค่ะ ส่วนเข้ายากไม๊นี่ไม่ยากนะคะ จำได้ว่าตอนเข้าเรียนปอ1 มีสัมภาษณ์ ได้ยินเพื่อนข้างๆครูถามว่า ปลาหมึกอยู่ที่ไหน เพื่อนตอบว่า อยู่ในแกงจืด ฮ่า ฮ่า จากคุณ : OtteR - [ 6 พ.ย. 50 04:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ๋...ที่เค้าว่าห้ามซอยผมเนี่ยเฉพาะเด็กมัธยมไปแล้วใช่ไหมค่ะ  เพราะน้องสาวตัวดีของคุณแม่เพิ่งพาหลานสาวตัวแสบไปซอยผมสั้นซะเป็นเด็กผู้ชายไปแล้วอ่ะค่ะ  ประมาณว่ารองทรงเลยอ่ะ  - -"   เวรกรรม!!   ไม่รู้จะยาวทันเปิดเทอมเดือนพ.ค.51หรือเปล่าด้วยสิ  คุณแม่ไม่ค่อยกล้าคุยกับคุณครูในรร.เท่าไรเลยค่ะ  ท่าทางดุๆทุกคนเลย  ใครรู้มั้งค่ะ...ว่าเด็กเล็กซอยผมได้หรือเปล่า  ช่วยบอกที...ฮือ ฮือ จากคุณ : แม่น้องพิมพ์ - [ 6 พ.ย. 50 12:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเด็กราชินีเหมือนกันค่ะ เอาผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของปีที่แล้วมาฝากค่ะ http://www.rajini.ac.th/ent-50/ent-50.pdf นี่เว็บโรงเรียนค่ะ http://www.rajini.ac.th แล้วก็ที่คุณถามเรื่องซอยผม ยืนยันว่าซอยไม่ได้ค่ะ ห้ามซอยทั้งโรงเรียนค่ะ ปล.คุณจขกท.มีอะไรสงสัยหลังไมคคคคค์ถามได้นะคะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 50 21:01:16 จากคุณ : ดาวหางในเมืองมูมิน - [ 6 พ.ย. 50 20:53:40 ]