กระทู้นี้สืบเนื่องมาจากกระทู้
http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N6211355/N6211355.html
กลับมาจากทำแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้คำแนะนำนะคะ คคห.หลัง ๆ ไม่ได้อ่านก่อนไปทำเพราะว่าเมื่อวานเพลีย ๆ เลยหลับไปกับลูก แถมเมื่อเช้าต้องออกไป รพ.แต่เช้า แต่มาอ่านตอนนี้ก็อุ่นใจว่ามีคนทำหลายคน ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
วันนี้ได้พูดคุยกับอาจารย์หมอ ( ไม่แน่ใจว่าอาจารย์หมอมงคลหรือเปล่า ลืมถาม แต่น่าจะใช่ ) อาจารย์หมอบอกว่าต้นกล้าเค้าเป็นพังผืดระดับกลางค่อนมาก เห็นชัด ถ้าในความเห็นของอาจารย์หมอแนะนำว่าควรทำ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ตัดสินใจ ส่วนเรื่องอนาคตจะพูดชัดหรือไม่ ตอบไม่ได้ ถ้าฝึกพูดดี ๆ ใช้ความพยายามก็จะไม่มีปัญหา
... พอได้ยินอาจารย์หมอว่าเป็นระดับกลางค่อนมาก เห็นชัด ควรทำ เลยไม่คิดอะไรแล้ว ตัดสินใจว่าทำ ส่วนพ่อของลูกเค้าตัดสินใจให้ทำตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ
เล่าขั้นตอนคร่าว ๆ นะคะ เผื่อใครมีปัญหาการให้นมแม่ค่ะ
ขั้นแรก โทรเข้าไปปรึกษาเบื้องต้นกับคลีนิคนมแม่ รพ.ศิริราช โทร 02 419 7000 ต่อ 5994 หรือ 5995
เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 8.00-15.00 น.
คลีนิคนมแม่นัดเข้าไปตรวจ เค้าจะช่วยดูปัญหาว่าเกิดจากอะไร สอบถามประวัติ ชั่งน้ำหนักแม่และเด็ก สอนท่าให้นม ให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่ ฯลฯ กรณีของเราเค้าบอกว่าลูกมีพังผืดใต้ลิ้น ควรตัด ก็จะทำการนัดคิวเพื่อตัดพังผืด
คลีนิคนมแม่ทำเรื่องส่งตัวไปตัดพังผืด ประมาณ 9.45 น.จะมีนักศึกษาแพทย์มาตรวจ ประมาณ 10.00 น. อาจารย์หมอจะลงตรวจและพูดคุยกับแม่ก่อนว่า การให้นมดีหรือไม่ เจ็บหัวนมขณะให้นมหรือไม่ ควรตัดพังผืดหรือไม่ อย่างไร
วันนึงจะมีเคสตัดพังผืดประมาณ 12 เคส หลังจากตรวจเสร็จแล้วจะให้แม่เซ็นต์ยินยอมให้ทำการผ่าตัด ทำการห่อตัวเด็กเตรียมเข้าห้องผ่าตัด เด็กจะถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดโดยห่อผ้าใส่กระบะเข็นไปพร้อมกัน ประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย พยาบาลจะเข็นเด็กออกมาพร้อมกัน แล้วให้ทดลองดูดนมแม่ทันที อาจารย์หมอตามมาสัมภาษณ์ว่าความรู้สึกหลังจากที่ได้ตัดพังผืดแล้วดีขึ้นหรือไม่ เจ็บน้อยลงมั๊ย ลิ้นลูกสัมผัสส่วนใด และนัดกลับมาดูแผลในสัปดาห์หน้า
วันนี้เด็กอายุมากที่สุดที่มาตัดพังผืดคือ 3 เดือนครึ่ง สามารถทำได้ โดยการป้ายยาชาแล้วตัดเช่นกัน
ส่วนต้นกล้านึกว่าจะร้องแน่ ๆ กลับหลับปุ๋ยมาในกระบะเฉยเลย อาจารย์หมอบอกขำ ๆ ว่าไม่ได้ใส่ยานอนหลับให้นะ
ปล. ไป รพ.ศิริราช ติดกัน 2 วัน เห็นแม่และเด็กหลายคน หลากฐานะ บางคนแม่อุ้มลูกมาคนเดียว มือนึงอุ้มลูก มือนึงหิ้วถุงใส่สัมภาระ ฟัง ๆ จากที่เค้าสัมภาษณ์เก็บข้อมูล ก็มีรายได้ไม่มาก แต่สิ่งที่เรารู้สึกได้เลยว่าเค้ารักลูก เป็นห่วงลูก และหวังจะให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด เห็นแล้วเรามีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ เหมือนอย่างที่เคยอ่านกระทู้คุณหมูเหมียวที่บอกว่าเวลาที่ท้อให้มองคนที่ทุกข์ยากกว่า
จากคุณ :
ระแนงไม้
- [
9 ม.ค. 51 20:29:26
]