เราคลอดลูกเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 49 เราเจ็บท้องไปโรงพยาบาลวันที่23ตอนสายๆ แล้วเริ่มเจ็บถี่ขึ้นตอนสามทุ่ม เรียกพยาบาลพาลงจากห้องพักมาที่ห้องรอคลอดตอนห้าทุ่มกว่าๆ เริ่มเจ็บขึ้นเรื่อยๆจนแม้นกระทั่งจะนั่งยังนั่งไม่ได้เลย คุณสามีพาเดินรอบห้องเจ็บทีเราก็บีบมือเขาที(บีบแรงมากด้วยเพราะเจ็บมาก) พยาบาลก็บอกว่าลงไปแช่น้ำก็ได้นะคะเพราะจะช่วยได้ อารมณ์นั้นอะไรก็ไม่เอารู้แต่ว่าอยากคลอด เราเลือกคลอดธรรมชาติคือไม่มีตัวช่วยอะไรเลย ไม่มีน้ำเกลือ ไม่มีการกรีดปากมดลูก หมอมาเช็คเป็นระยะปรากฏว่าปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มไปกว่าเดิม หมอล้วงเพื่อเจาะน้ำคล่ำก็ไม่มี (เรารกแก่เพราะตอนนั้น38สัปดาห์แล้ว) คุณหมอบอกว่าคุณต้องผ่าคลอดแล้วล่ะเพราะปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มจากเดิม สงสัยเนื่องจากที่เราคว้านมะเร็งปากมดลูกครั้งก่อน ตอนแรกคุณหมอบอกว่าเราคลอดธรรมชาติได้เพราะสองคนแรกก็คลอดธรรมชาติ เราเลยบอกว่าคุณหมอขอเปลี่ยนเป็นผ่าคลอดและเอาแบบวางยาไม่บล๊อกหลัง ขอแบบหลับเลยเพราะเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่เตรียมผ่าตัดฉุกเฉินเพราะเราไม่ได้เลือกไว้ เราเดินไปห้องผ่าเองเลยเพราะอยู่ด้านหลังห้องคลอดธรรมชาติ พอเราขึ้นเตียงหมอมาลมยาสลบในใจเรานับหนึ่งถึงสิบ แต่ตอนนั้นเรายังไม่หลับสนิท คุณหมอแกกรีดเลยคุณเชื่อไหมว่าเราเจ็บมากที่สุดในชีวิตที่เคยเจ็บมา แต่เราขยับตัวหรือทำอะไรไม่ได้เลย เรานึกถึงน้องเราที่ตายไปแล้ว นึกถึงพ่อกะแม่ เพราะเคยได้ยินว่าพ่อแม่คือพระที่ดีที่สุดสำหรับเรา ตอนนั้นเจ็บจนอยากตายไปเลย เรามาหลับตอนที่ได้ยินเสียงลูกร้อง แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ตอนที่มาตื่นในห้องพักพื้นเห็นไฟ เราเรียกพยาบาลแล้วถามว่าลูกอยู่ไหนเขามีปัญหาอะไรไหม พยาบาลบอกว่าลูกสบายดีอยู่ข้างบนห้องเด็กแรกเกิด เราก็ถามว่าเมื่อไรเราจะกลับขึ้นบนห้องได้เขาก็บอกอีกสักครู่ เรานอนดูเข็มนาฬิกาเลย พอขึ้นไปบนห้องเราบอกเลยว่าขอดูลูกหน่อย เขาบอกเดี๋ยวพามา เราก็รอ นานมาก เรากดเรียกพยาบาลประมาณสามสี่ครั้งมั๊งทุกครั้งก็เข้ามาบอกว่ารอสักครู่นะคะ แต่เราอยากเจอหน้าลูกพอเขาเอาลูกมาให้ดูแค่นั้นแหล่ะน้ำตาไหลไม่หยุดเลย คลอดดสองคนแรกไม่เป็น ครั้งนี้มันเป็นอารมณ์แบบว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ มันก็เลยร้องไห้เลย ส่วนแฟนเราลุกขึ้นมาคุยกับเราเดี๋ยวเดียวเขาก็ขอนอนเพราะว่าเขาไม่ได้นอนเลย พอตอนสายคุณหมอมาเยี่ยมเราเลยบอกเขาว่า ตอนคุณหมอกรีดมีดลงมาเรารู้สึกตัวตลอด ตอนนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เราเล่าให้เขาฟังว่าเราได้ยินเสียงลูกร้องถึงหลับ คุณหมอตกใจแล้วบีบมือเราบอกเราว่าเขารู้ว่าเราเจ็บแค่ไหนเพราะเขาเคยอบรมและฟังบรรยายมา แต่เราก็บอกนะว่าเราไม่ติดใจ ถือว่าเป็นเวรกรรมเราคงเคยไปทำอะไรกับใครไว้ชาติก่อน เพราะคนคลอดลูกไม่รู้เท่าไรไม่เจอแต่เราดันมาเจอ คุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวต้องเรียกหมอลมยาให้มาขอโทษ หลังจากนั้นคุณหมอลมยาก็ขึ้นมาขอโทษ ใจจริงตอนที่เจ็บนึกในใจว่าถ้ารอดจะไม่ใส่ซองให้พิเศษเลยเพราะทำเราเจ็บ (เราคลอดโรงพยาบาลเอกชลเบ็ดเสร็จค่าคลอดแสนกว่าบาทแถมต้องใส่ซองให้หมออีกต่างหากเป็นธรรมเนียม หมอคนนี้ต้องใส่ให้สองหมื่นเป็นที่รู้กัน แต่เราเลยลดเหลือครึ่งเดียว ไม่ใส่ไม่ได้เพราะเราต้องให้เขาดูแลเราเรื่องมะเร็งปากมดลูกต่อ) พอเพื่อนกับแม่มาเยี่ยมเราเล่าให้ฟังนี่น้ำตาไหลเลยนะเพราะมันเป็นอะไรที่สุดๆเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ถ้าใครที่อ่านแล้วกำลังท้องอยู่ก็ลองเอาเรื่องเราไปถามคุณหมอที่ฝากดูซิว่าต้นเหตุจริงๆความผิดพลาดเกิดจากใคร เพราะเราเองก็ไม่รู้ รอดมาได้ก็บุญแล้วล่ะ แต่ถ้าถามว่าอยากเอาเรื่องไหมก็อยากร้องเรียนคุณหมอและทีม ไม่ใช่เรียกร้องตัวเงินแต่อยากให้ทำงานรอบคอบกว่านี้คนอื่นจะได้ไม่เจออย่างเรา แต่ถ้าเราร้องเรียนเรากับคุณหมอก็มองหน้ากันไม่ติดเพราะว่าทุกปีเรายังต้องปเช็คมะเร็งปากมดลูกกับเขา..เป็นคุณจะเปลี่ยนหมอดูแลหรือจะทำอย่างไร แต่ห้องรอตรวจมันก็อยู่ติดกันเปลี่ยนหมอก็ต้องเจอเขาเรางี้เซ็งแต่ไม่อยากย้ายโรงพยาบาลเพราะทั้งครอบครัวพบหมอที่โรงพยาบาลนี้มาตลอด
จากคุณ :
dlite
- [
12 มี.ค. 51 10:03:55
]