ความคิดเห็นที่ 1 เหตุเกิดที่ รพ.พหลฯ จ.กาญจนบุรี ไปถึงโรงบาลก็นั่งรอคิวตามปกติ พอได้พบหมอท่านที่ 3 (โอ้โห๋หมอคนนี้สวยจัง) คุณหมอดูประวัติพลิกไปมาหลายรอบ เงยหน้ามาก็ถามว่าวันนี้มาทำไร ฉันก็บอกว่ายาหมดจะมาขอรับยาให้ลูกค่ะ หมอตะคอกกลับว่า อะไรหมอเก่านัดก็ไม่มา ดูซิตั้ง 2 รอบไม่เคยมาตามนัดเลยนี่ แล้วจะมาเอาอะไร ทำไมตอนเขานัดแล้วไม่มา? ฉันก็บอกกลับไปว่า มาแล้วแต่คุณหมอลาฉุกเฉินค่ะก็เลยไม่ได้เจอค่ะ แกก็ตอบกลับมาว่า ยาเนี่ยะไม่ใช่จะกินไปตลอดชีวิตน่ะ มันมีกำหนด 3 เดือน 6 เดือนก็ต้องพาลูกมาให้หมอดูด้วย แล้วนี่อะไรกันนัดครั้งที่ 2 ก็ไม่มา(ออกลูกโวยวาย) ฉันก็บอกกลับไปว่า พอดีรอให้ยาหมดแล้วก็มาค่ะ(ยังเชื่อคำพูดหมอคนที่ 2 อยู่) คุณหมอถอนหายใจ เห๊อะ! มีใบนัดแต่กลับไม่มา รอจนยาหมดแล้วถึงมา หน้าตา....ก็ดูดี ดูมีการศึกษาสูงนะ เรื่องแค่นี้ทำไมถึงไม่รู้ อาไร... (อารมณ์ตอนนี้พรุ่งปรี๊ดดดดดดเกือบถึงขีดสุดเลยค่ะ) อิฉันดูท่าแล้วเหมือนคุณหมอแกไม่อยากจะออกยาให้(หรือไม่กล้าจ่ายยาก็ไม่รู้) เลยบอกไปว่าถ้างั้นเดี๋ยววันหลังหนูค่อยกลับมาพบหมอคนเดิมก็ได้ค่ะ วันนี้หนูลากลับก่อน คุณหมอไม่สนใจก้มหน้าดูนั่นนี่แล้วถามว่า วันนี้ 9 ธ.ค.มาได้ไม๊(เอ๊ะสงสัยจะนัดให้มาเจอหมอคนเดิม...แต่ทำไมเว้นนานจังแล้วลูกไม่ต้องกินยาต่อหรอ?) ฉันก็ตอบว่า มาได้ค่ะ จะให้หนูมารับยาวันที่ 9 ธ.ค.เลยหรอค่ะ ยานี่ไม่ต้องทานต่อเนื่องหรอค่ะ.....หมอตอบว่า นี่...ฉันพูดอะไรสับสนไปหรอเห๊อะ ก็จะจ่ายยาให้ไปก่อน 2 อาทิตย์แล้ววันที่ 9 ธ.ค. เธอมีปัญญาพาลูกมาหาหมอคนเก่าได้ไม๊หล่ะ ฉันก็อ๋อๆ ได้ค่ะๆ ก็แค่นั้นแหละ(กระแทกเสียงส่งท้าย) ได้ใบนัดกับใบสั่งยา อิฉันก็รีบลาออกจากห้องเลยค่ะ ทำไมต้องพูดกันขนาดนี้ด้วยน่ะ โรงบาลรัฐที่จังหวัดอื่นๆ เขาเป็นกันแบบนี้หรือเปล่าค่ะ กลับไปบ้านเล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกว่าสงสัยต้องพาหมอหมาไปหาหมอเด็กคนนี้บ้าง อาจจะมีสุนัขตกค้างในช่องปาก 5 5 5 ปกติฉันมักจะพาลูกไปโรงบาลเอกชน เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับระบบของโรงบาลรัฐเท่าไหร่ แต่ก็พยายามทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้วนะค่ะ แต่สุดท้ายก็ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ ท้อแท้ใจจริงๆค่ะ ถ้าหมอไม่เก่งและลูกไม่ป่วยแบบนี้ก็คงขอลาขาดไม่กลับไปอีก แชร์กันหน่อยนะค่ะ ว่าโรงบาลอื่นเขาเป็นแบบนี้กันไม๊....... จากคุณ : hut_reptile เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 15:55:08

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมไม่สวนหละ อย่าไปกลัว  ถึงจะโรงพยาบาลรัฐ แล้วไม่ต้องจ่ายเงินหรือไง ขึ้นแทนลยนะเนี่ย จากคุณ : ช่างร้ายเหลือ เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 16:19:42

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นเราจะวีนให้ รพ แตก จากคุณ : เสี่ยม เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 16:22:24

ความคิดเห็นที่ 4 อยากวีนเหมือนกันค่ะ แต่ท่องอยู่ในใจ เพื่อลูก... เพื่อลูก.... เพื่อลูก..... อยู่ ตจว.อะเน๊อะ ถ้าฉุกเฉินลูกต้องพ่นยาก็ต้องกลับไปหาเขาอยู่ดี เลยไม่อยากมีปัญหาอะค่ะ T-T จากคุณ : hut_reptile เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 16:25:31

ความคิดเห็นที่ 5 เคยอยู่กาญเหมือนกัน  เคยแต่พาไปคลีนิค ไม่เคยพาไป รพ.เลย หลังไมค์บอกชื่อหน่อยได้เปล่า อยากรู้จัง เขามีคลีนิคเปล่า แล้วหมอเวลาอยู่ รพ.กับคลีนิค พูดจาเหมือนกันเปล่า   เคยเจอแต่พยาบาลดุ ๆ ยังไม่เคยเจอหมอแบบนี้เลย  แต่ถ้าใครมาดุใส่เรา เราไม่ยอมหรอก แต่ส่วนมากเราจะพาลูกไปสนามจันทร์ เพราะไม่ค่อยสะดวกพาไปเวลาทำงาน รพ.รัฐ  แล้ว เผอิญเจอหมอเก่ง ใจดี  ก็เลยไปหาเขาคนเดียวเลย  ทั้งที่ สนามจันทร์ แล้วก็คลีนิคเขา จากคุณ : momnut เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 16:57:28

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมต้องหลังไมค์ด้วยล่ะครับ ในเมื่อเป็นความจริง ผมว่า post ชื่อจริงไปเลยก็ได้ เพราะในเมื่อเขาพูดจริงแล้วทำไมต้องเกรงใจด้วย แต่คิดไปคิดมา ถ้าจะมีแผนไปอีกไม่ต้อง post ก็ได้ครับ จากคุณ : Aek_Ja เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 17:29:19

ความคิดเห็นที่ 7 เจอขนาดนี้เลยหรือคะ สุดยอดค่ะ เป็นเราก็ปรี๊ดเหมือนกันค่ะ จากคุณ : น้องมดเล็ก -Tokyo in Dream เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 17:37:58

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าเข้าใจผิดนะคะ ว่าไม่ใช่หน้าที่ของแม่ที่จะรับรู้เรื่องยา และอะไรๆที่เกี่ยวกับลูก เรามีสิทธิเต็มที่โดยชอบธรรมที่จะถาม คุณหมอคนแรกผิดแล้วล่ะ เราเป็นแม่ควรรู้ทุกอย่างที่เคยเป็น เป็นอยู่และกำลังจะเป็นกับลูก เราว่าคุณหมอควรจะโกรธคุณถ้าหากคุณมีอะไรสงสัยแล้วไม่ถามมากกว่า เราคงไม่ให้ความเห็นว่าคุณน่าจะพูดกะหมอยังไง แต่ความเห็นเราคือ หมอควรทบทวนบทบาทหน้าที่ของเค้ามากกว่านะคะ จากคุณ : Fiftyfive55 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 19:43:35

ความคิดเห็นที่ 9 เจ้าของกระทู้เก่งจังที่ยังใจเย็นได้อีก เป็นเรานะสวนกลับมันตอนนั้นแล้ว เรื่องทุกอย่างของลูก โดยเฉพาะสุขภาพร่างกายเป็นเรื่องโดยตรงของแม่ที่ต้องรับทราบค่ะ วันหลังไปเจอแบบนี้อีก แอบสวนไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดีนะคะ จากคุณ : Killer Red เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 21:22:12

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกกำลังใจนะค่ะ อยากสวนเหมือนกันค่ะแต่ไม่กล้า เพราะไม่รู้วันหน้าจะต้องไปขอยาจากเขาอีกเมื่อไหร่ ตราบใดที่ลูกยังไม่หาย อะไรยอมได้แม่คนนี้ก็ขอยอม เคยมีครั้งนึงที่เสียงแข็งใส่พยาบาลเพราะตอนนั้นลูกไอจนหอบขึ้น เหนื่อยมาก ไอจนน้ำมูกน้ำตาไหล หายใจ 2 ทีไอแรงๆ แล้วหายใจถี่ๆสั้นมาก เราอยากให้เข้าฉุกเฉินเลย ขอยามาพ่นก่อน แต่เราไปพูดน้ำเสียงแรงใส่พยาบาลคนนึง พยาบาลคนนั้นบอกว่าต้องรอตามคิว+รอบัตร วันนั้นเหมือนโดนแกล้งค่ะ ให้นั่งรอบัตรชั่วโมงกว่า กว่าจะได้พ่นยา ทั้งๆที่พาลูกไปตอน 3 ทุ่ม แท่บจะไม่มีคนไข้เลย พอเจอหมอ หมอหันไปว่าพยาบาลคนนั้นว่าทำไมไม่ให้เขาเข้ามาก่อน เด็กมีอาการหอบมากเลยน่ะเนียะ พยาบาลคนนั้นหน้าเสียเดินออกไปเลยค่ะ หลังจากนั้นมาฉันเลยไม่กล้าเสียงแข็งกับคนในโรงบาลรัฐอีก เพราะกลัวจะโดนแกล้ง  นี่คงจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยอยากจะมีปัญหากับคนที่โรงบาล อย่าหลังไมค์มาถามเลยค่ะว่าหมอชื่ออะไร(เอาเป็นว่า เป็นหมอเด็กที่โรงบาลพหลฯอะค่ะ) ให้ประกาศคงไม่ดีกว่า เพราะถ้าคิดอีกทาง ฉันอาจจะเป็น 1 ในไม่กี่คนที่โดนด่าก็ได้ ปกติแกอาจจะไม่ได้ด่าทุกคนหรอกมั๊ง 5 5 5 แต่ยืนยันว่าทุกคำที่พิมพ์ไปออกจากปากของคนที่เป็นหมอจริงๆค่ะ ฉันยังอึ้งเลย เพราะขนาดฉันเป็นแม่ค้า ยังไม่กล้าพูดแบบนี้กับลูกค้าเลย แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 52 01:58:51 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 52 01:50:38 จากคุณ : hut_reptile เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 01:41:40

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ว อึ้งค่ะอึ้ง จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 04:11:42

ความคิดเห็นที่ 12 หมอพวกนี้สงสัยผ่าตัดไม่ต้องใช้มีดแล้ว แค่เอาปากงับแผลก็เปิดแล้ว จากคุณ : ปวยพ้ง เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 09:04:00

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นเราคงปรี๊ดแตก ตั้งแต่หมอคนแรกแล้วค่ะ เรื่องยาที่หมอจ่ายเราเป็นผู้บริโภคมีสิทธิ์รับรู้ทุกอย่าง มีออกบ่อยที่หมอจ่ายยาให้ผิด เรายังเคยเจอเลย ขนาดโรงพยาบาลเอกชนนะค่ะ แล้วนี้ขนาดถามยังไม่บอกแถมยังมาว่ากับอีก ส่วนยายหมอคนสุดท้ายสงสัยคงมีปัญหาทางจิตอะค่ะ เป็นเราจะสวนกลับตั้งแต่คำแรกเลยค่ะหน้าที่ของหมอคือรักษาไม่ใช่ปากหม....? เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะว่าเราค่ะ ต่อให้รักษาฟรี หรือเสียเงินก็เหอะ ถ้าเขารับในการบริการตรงนี้ไม่ได้ก็ออกไปรับจ้างบ่นที่อื่นไม่สมควรมาเป็นหมอรักษาคนไข้ เสียภาพพจหมอดีๆหมดค่ะ จากคุณ : น้องซัน เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 11:48:16

ความคิดเห็นที่ 14 ปรี๊ด ด้วยคนนะคะ หมอให้ยาลูกเรา เราก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่ายามีผลข้างเคียงหรือผลตามมาอย่างไรบ้าง แล้วหมอคนที่ 3อ่านประวัติคนไข้ ทำไมถึงไม่รู้ว่าเด็กได้หาหมออีกคนแทนล่ะคะ ไม่ได้ลงบันทึกไว้หรอคะ งงจังเลย แต่จริงไม่ต้องกลัวเค้าจะแกล้งนะคะ ถ้าเค้าแกล้งเรา เราก็โวยวายให้เสียงดังๆเลยค่ะ ว่าลูกเราทำไมรอคิวนานจัง อาการหนักแล้วนะ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องร้องเรียนเรื่องบริการค่ะ จากคุณ : หลานสะใภ้ เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 12:36:19

ความคิดเห็นที่ 15 พี่สาวอยู่ กรมชลฯ ท่าม่วง ก็คลอดลูกสาวที่รพ.นี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยเล่าว่าเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้เลย อยากรู้ชื่อคุณหมอจัง จะลองโทรไปถามพี่สาวว่าชื่อเดียวกันหรือเปล่า จากคุณ : โฮ่งฮับ เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 12:49:07

ความคิดเห็นที่ 16 เราก็เป็นหอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ ตอนเด็กนี่จะเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเลย เคยหอบมากถึงขนาดหน้าซีดปากเขียวเลยจะให้มานั่งรอคิวคอยหมอก็คงไม่ได้ เรามีหมอประจำตัว หมอบอกหอบเมื่อไหร่ให้มาห้องฉุกเฉินได้ตลอดเวลา บอกว่าเป็นคนไข้ของหมอ แล้วให้พยาบาลโทรตามหมอจะมาดูให้เลย เป็นโรงพยาบาลของรัฐด้วย หมอใจดีมาก ๆ ค่ะ ปีใหม่แต่ละปีแม่จะมีของขวัญไปให้คุณหมอทุกปี เพราะคุณหมอรักษาเราตั้งแต่เด็ก ๆ พยาบาลก็ใจดี แต่โรงพยาบาลรัฐเดี๋ยวนี้คนเยอะจริงๆ ค่ะ ไปส่งบัตรทีก็ต้องไปตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรอคิวยื่นบัตร แต่กรณีแบบนี้ไม่เคยโดนค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็ร้องเรียนได้เลยนะคะ เจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่ให้บริการประชาชนอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : แม่ลูกซัน เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 13:30:07

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนที่น้องไปพ่นยารอบแรก คุณหมอคนแรกที่รับเรื่องไว้ได้บอกเหมือนกันค่ะว่า ถ้าลูกมีอาการหอบอีกไม่ว่าตอนไหนให้พามาห้องฉุกเฉินเพื่อพ่นยาได้เลย หมอลงประวัติไว้ให้แล้ว บอกว่าเคยมีประวัติ เป็นคนไข้ของหมอ ผ่านไปหลายเดือนลูกชาย ก็หอบขึ้นค่ะ พอพาไปก็เจอกับสถานการณ์ตาม คห.ที่10 ที่ได้ลงไว้อะค่ะ เสียงแข็งกับพยาบาลเพราะเรื่องนี้แหละว่ามีประวัติแล้ว คุณหมอบอกให้พามาพ่นได้เลยทำไมต้องรอ ไม่เข้าใจ พยาบาลจะให้รอท่าเดียวเลยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังไมเข้าใจอยู่ดี สรุปว่าไปคราวหน้าต้องรอหรือเข้าไปได้เลย 5 5 5 จากคุณ : hut_reptile เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 14:04:55

ความคิดเห็นที่ 18 ลองเขียนจดหมายส่งให้ผอ.ดูดีไหมค่ะ แบบนี้ไม่ไหว เค้าเห็นเราเป็นคนเหมือนที่เค้าเป็นรึป่าวก็ไม่รู้ ทำไหมพวกหมอไม่ดีบางคนชอบเห็นคนไข้เป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยนะ เข้าใจว่าหมอดี ๆ ก็มีเยอะ แต่ทำไมหมอประเภทนี้ไม่หมดไปซักที จากคุณ : ตัวเล็กหัวโต เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 17:39:05

ความคิดเห็นที่ 19 คนดี คนไม่ดีก็คละกันไปในสังคมน่ะครับ ลูกผมรวมถึงญาติผมหลายคนรอดชีวิตมาก็เพราะ รพ รัฐ แต่ รพ รัฐใน กทม อาจจะมีเรื่องทำนองนี้น้อยกว่าหน่อย(ไม่ใช่ไม่มีเลย) อาจเป็นเพราะระบบประกันคูณภาพที่เข้มแข็งกว่า และเรื่องสิทธิของผู้ป่วยที่เป็นที่รับทราบมากกว่า จากคุณ : issaravtis (issaravtis) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 52 00:55:42