Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมื่อลูกถามถึงพ่อ single mom อย่างเรา ควรตอบอย่างไรดี  

(อดีต)สามีเป็นชาวต่างชาติ แต่ก่อนเราก็อยู่ที่ต่างประเทศกับสามี จนกระทั่งเริ่มมีปัญหากันตอนช่วงที่เราท้อง พยายามจะรักษาครอบครัวเอาไว้ แต่ในที่สุดก็รู้สึกว่ามันคงเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป เราทนจนลูกอายุได้ 1 ขวบ 4 เดือน เราก็ตัดสินใจหอบลูกกลับมาอยู่เมืองไทย

จริงๆแล้ว เราก็ไม่ได้อยากกลับมาเมืองไทย มันคุ้นเคย มันเคยชินกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น แถมคิดว่าระบบการศึกษาที่นู่นก็ดีกว่าที่เมืองไทย คิดอยู่นานมากว่าจะเอาไงดี แล้วก็อยากให้ลูกได้อยู่ใกล้พ่อ เพราะถึงเค้าจะแย่ยังไง เค้าก็ยังเป็นพ่อ ลูกควรจะได้อยู่ใกล้ทั้งพ่อและแม่ ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม แต่คิดไปคิดมาหลายอย่างแล้ว ณ ตอนนั้น พาลูกกลับมาอยู่เมืองไทยดีที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของลูก (อยู่ที่ต่างปรเทศ ต่างคนต่างทำงาน ต้องเอาลูกไปฝากไว้ที่ daycare ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆที่สูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้ ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายลูก ค่ากินอยู่ แต่ละเดือนไม่มีเงินเหลือเก็บ ไหนจะเราไม่มีญาติอยู่ใกล้ๆ จะมีก็แต่ญาติทางสามี ซึ่งถ้าเราแยกกันอยู่จริงๆ เราก็คงจะไม่สนิทใจมากนักที่จะต้องไปขอความช่วยเหลือจากทางเค้า) เพราะตั้งแต่ลูกอายุได้ประมาณ 4 เดือน ค่าใช้จ่ายต่างๆของลูก เค้าไม่เคยเอ่ยถึง ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือ เนื่องจากว่า ณ ตอนนั้น เค้ามีปัญหาทางการเงินด้วย เราก็รู้ แล้วก็เลยไม่อยากไปถามถึงอะไร เราก็ทำงาน คิดว่าเราทำได้ เราก็ทำ ทำเพื่อลูก แต่ก็อย่างที่บอก มันไม่มีเหลือเก็บเลย มันไม่เห็นอนาคตของลูก  มันรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตของลูกมันวางอยู่บนเส้นด้าย เส้นด้ายที่ไม่รู้จะขาดเมื่อไหร่ จิตใจเราก็อ่อนล้าด้วย ไหนจะปัญหากับทางสามี เครียดอยู่ตลอด ไหนจะมาเครียดเรื่องปากท้อง เรื่องความเป็นอยู่ของลูก

แต่ครอบครัวของเราที่เมืองไทย ที่บ้านเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็พอให้ลูกๆทุกคนอยู่ได้อย่างสบาย ที่บ้านมีพื้นที่พอสมควร เป็นครอบครัวใหญ่ (ตา ยาย พ่อ แม่ พี่ พี่สะใภ้ หลาน และ คนงานอีกสามสิบกว่าชีวิต) มีคนอยู่เยอะ ไม่เคยเหงา นอกจากช่วงเทศกาลที่คนงาน คนทำงานบ้านจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด อีกอย่างเราแน่ใจว่าถ้าเราพาลูกกลับมาอยู่เมืองไทย ถึงแม้ว่าต้องยอมรับว่าระบบการศึกษาที่เมืองไทยจะยังไม่ดีเท่าที่ต่างประเทศ แต่อย่างน้อยครอบครัวของเราก็จะสามารถช่วยเหลือทางด้านการเงินให้กับเราได้ เป็น backup ให้กับเราได้ ถ้าถึงเวลาจำเป็นจริงๆ  คิดบวกลบคูณหารทั้งหมดแล้ว ก็เลยตัดสินใจกลับเมืองไทย

กลับมาช่วงแรกๆ สามีก็มีอีเมล์มาขู่นู่น ขู่นี่  ให้พาลูกกลับไป เขียนจดหมายลาตายฝากถึงลูกก็มี พร่ำบอกว่าเค้ารักลูกมาก อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลูก (เบอร์โทรศัพท์เราเค้าก็มี แต่ไม่เคยโทรหาลูก  บ้านของพ่อแม่เรา เค้าก็รู้ว่าอยู่ที่ไหน เค้าก็รู้ว่ามายังไง แต่ก็ไม่คิดจะมา อ้างนู่น อ้างนี่) ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเค้ารัก แต่การกระทำที่ผ่านมา เราคิดแล้ว เราดูแล้ว เรามั่นใจว่าลูกจะสบายกว่า จะมีอนาคตมากกว่า จะเป็นคนที่ดีได้มากกว่า ถ้าได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัวของเรา เราไม่อยากให้ลูกอยู่ใกล้คนที่ไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกได้ ไม่อยากให้ลูกต้องซึมซับความคิดแย่ๆ การกระทำแย่ๆ นิสัยแย่ๆ อยากให้ลูกโตอย่างมีความสุข อยู่แวดล้อมด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความรัก

ช่วงที่กลับมาเมืองไทยแรกๆ เราก็มีอีเมล์ไปบอกพัฒนาการของลูกบ้าง  บอกความเป็นไปของลูกบ้าง ส่งรูปของลูกไปให้ดู ซึ่งเค้าก็จะมีตอบกลับมาบ้าง (ในลักษณะทะเลาะกันเป็นส่วนมาก) เราก็มีโทรไปหาบ้าง โทรไปเค้าก็ไม่เคยรับสาย (ยอมรับว่าเรายังรักเค้าอยู่มาก ณ ตอนนั้น อยากคุย อยากได้ยินเสียง อยากให้เค้าได้คุยกับลูกด้วย อยากให้ลูกยังจำได้ว่านี่คือพ่อ) จะมีตอบกลับเป็น SMS บ้างในช่วงแรกๆ แต่การติดต่อก็เริ่มหยุดหลังจากที่เรากลับมาอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 8 เดือน มันหยุดเพราะเค้าตัดสินใจหยุดการติดต่อ เค้าบอกว่าเค้าจะบล็อกอีเมล์เรา จากที่เคยคุยกันทาง MSN ได้ เค้าก็บล็อก เพราะเค้าว่าไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น อะไรอีกแล้ว  เราโทรไป ส่ง SMS ไป ก็เงียบ จนเรารู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่ควรจะไปตอแยอะไรเค้าดีกว่า เค้าไม่อยากรู้ เค้าไม่อยากจำ ถ้าอย่างงั้น เราก็ไม่อยากไปกระตุ้นความทรงจำของลูกแล้ว เราไม่อยากไปกระตุ้นให้ลูกรู้ว่าเค้ามีพ่อ พ่อที่ไม่สนใจ ไม่แคร์ ไม่อยากทำตัวเหมือนที่พ่อควรจะกระทำต่อลูก เราไม่อยากให้ลูกต้องรู้สึกเศร้า รุ้สึกว่าพ่อไม่รักเค้า  

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกเรามีความสุขมาก เป็นเด็กร่าเริง ขี้เล่น ชอบหัวเราะ มีแต่คนรักเค้า เราไม่คิดว่าลูกรู้สึกขาดความรัก เพราะเค้าได้ความรักจากเรา จากครอบครัวของเรา จากญาติๆ เยอะมาก  ลูกคือเหตุผลเดียวที่เราอยู่ทุกวันนี้ เราทำทุกอย่างเพื่อลูก ทำเพื่อให้เค้ารู้ว่าเรารักเค้าที่สุดของหัวใจ  ไม่อยากให้ลูกต้องมีปมด้อย ไม่อยากให้ลูกคิดว่าเค้าได้ความรักไม่พอ ลูกไม่เคยถามถึงพ่อ อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเรากลับมาเมืองไทยลูกยังเล็ก แล้วพ่อเค้าก็ไม่พยายามติดต่อมา ความจำของลูกช่วงก่อนหน้านั้นเกี่ยวกับพ่อก็คงค่อยๆเลือนไป แต่เราก็มีเตรียมคำตอบไว้ในใจแล้ว ว่าถ้าในอนาคตลูกเริ่มโตขึ้น เริ่มอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อเค้า เราก็จะบอกลูกไปตามเป็นจริง ว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว พ่อเค้าเป็นใคร อยู่ที่ไหน

ณ วันนี้ลูก 4 ขวบแล้ว และแล้วมันก็ถึงเวลาที่ลูกอยากรู้  เราคิดว่า เนื่องจากอย่างที่บอกว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวของพี่ชายของเรา (มีพี่สะใภ้ กับ หลานชาย อายุใกล้เคียงกับลูกเรา) อาศัยอยู่ด้วย ลูกของเรากับหลานก็จะเล่นด้วยกันบ่อย เราคิดว่าลูกเริ่มสังเกตุว่าน้อง (หลานของเรา) มีพ่อและแม่  ขนาดตัวเราเอง (แม่ของลูก) ก็มีพ่อกับแม่เราอยู่  คนรอบตัวเราเค้าอยู่กันเป็นคู่ๆทั้งนั้น มีแต่เราเนี่ยแหละที่เป็นแกะดำของครอบครัว

ลูกเริ่มอยากรู้ เลยถามเราว่า พ่อเค้าอยู่ไหน ตอนได้ยินครั้งแรก เราก็อึ้งไปนิดนึงเหมือนกัน (ถึงแม้ว่าจะเตรียมคำตอบไว้นานแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันดันพูดไม่ค่อยออก) แต่ก็บอกเค้าไป ว่าพ่อเค้าอยู่ไกล อยู่ต่างประเทศ เอาไว้โตขึ้นแล้วจะพาไปหา ลูกก็บอกว่า เค้าอยากให้พ่อของเค้าอยู่ที่นี่ (เราไม่คิดว่าลูกจำพ่อได้นะ แต่คิดว่าคงจะเห็นจากน้อง ว่าพ่อของน้องก็อยู่ด้วยกับน้อง และคนรอบข้างอื่นๆ ก็มีพ่ออยู่ด้วย ก็เลยอยากมีพ่อมาอยู่ด้วยเหมือนกันบ้าง) มันเป็นคำพูดที่เราไม่ได้คิดไว้ก่อนเลยจริงๆ ว่าลูกจะพูด ก็เลยไปต่อไม่ถูก ได้แต่บอกว่าเอาไว้โตก่อนนะ จะพาไปหา ตอนแรกเรานึกว่าลูกเพิ่งเริ่มถามเรื่องพ่อกับเรา แต่เพิ่งมารู้ว่าเค้าก็เคยถามเรื่องพ่อของเค้ากับแม่ของเราเหมือนกัน แต่แม่ของเราบอกเค้าไปว่า พ่อตายไปแล้ว

มาตอนนี้กลัวลูกสับสนว่าตกลงแล้ว มันยังไงกันแน่ ทำไมเราบอกอย่าง ยายเค้าบอกอีกอย่าง  ว่าจะไปคุย ไปตกลงกับคนที่บ้าน และคุยกับลูกอีกครั้ง แต่ตอนนี้เราชักไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วจะบอกลูกว่ายังไงดี เรากลัวว่าถ้าเราบอกความจริง ว่าพ่อเค้ายังอยู่ กลัวลูกจะคิดว่า แล้วทำไมไม่ติดต่อมา ไม่รักกันแล้วเหรอ  ถ้าบอกว่าพ่อเค้าตายไปแล้ว ก็อาจไม่ต้องเป็นห่วงความรู้สึกตรงนี้ เพราะตายไปแล้ว มันก็ไม่แปลกหนิที่จะไม่มีการติดต่อมา แต่ถ้าโตขึ้น แล้วลูกรู้ความจริงล่ะ เค้าจะโกรธ จะคิดว่าเราโกหกเค้ามั๊ย เค้าจะเชื่อใจเรามั๊ย

คิดไปคิดมาจนเริ่มเครียด ยังไม่ได้คำตอบซักที ว่าจะเอาไงดี พิมพ์มาซะยาวคือว่าอยากจะถามความเห็นแม่ๆ หรือพ่อๆ ว่าคิดว่าทางออกที่ดีที่สุด คือเราควรจะบอกลูกว่าพ่อเค้าตายไปแล้วเลยดีมั๊ย เพื่อเป็นการตัดปัญหาเรื่องความรุ้สึกน้อยใจของลูกว่าพ่อไม่รัก เมื่อโตขึ้น เค้าจะเข้าใจได้มั๊ยว่าทำไมเราถึงไม่บอกความจริงกับเค้า

ขอบคุณทุกๆความเห็นล่วงหน้านะคะ

จากคุณ : I Adore Mi Amor
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 22:24:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com