 |
ความคิดเห็นที่ 10 |
หลังจากมาติดต่อเพื่อขอจองเตียง เจ้าหน้าที่บอกว่า"ต้องรอก่อนนะคะ ถ้าได้เมื่อไหร่แล้วจะแจ้งกลับ"
เลยพาน้องออมกลับมารอที่บ้าน ระหว่างนั้นได้โทรติดต่อหาหมอxxx แจ้งว่าน้องออมเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 หมอxxxรับอาสาจะไปหาเตียงที่ รพ.ให้ด้วย ระหว่างที่รอทั้งหมอxxxและ รพ.เอกชนติดต่อกลับ ก็ทำการเก็บ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นของทั้งแม่และลูกที่จะพอใช้ 3 วัน จะได้ไม่ลำบากต้องกลับมาเอาอีก รวมถึง หนังสือนิทาน และของเล่นของน้องออม ที่จะไม่ทำให้ลูกเบื่อเวลาอยู่โรงพยาบาล
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง หมอxxxติดต่อกลับมาว่า "เตียงเต็มแน่นไปหมด ห้องพิเศษไม่มี ลองไปดู
ห้องพิเศษไอซียูก็ไม่มี จะไปขอแทรกคิวปรากฎว่าก็เตรียมรับคนไข้เข้ามาผ่าตัดอีก" สรุปคือที่ รพ.ไม่ได้ ก็เลยบอกหมอโอ๊ตว่า "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรอคำตอบจาก รพ.เอกชนอีกทีนึง"
ระหว่างนั้นน้องออมไข้เริ่มสูงอีกแล้ว คุณยายก็นั่งเช็ดตัวให้ตลอด
เวลาบ่ายกว่าๆ ทาง รพ.เอกชนติดต่อกลับมาว่าห้องว่างแล้ว ก็เลยพากันไป ก่อนหน้านั้นน้องออมกินข้าวได้น้อย
แต่กินนมได้ดี หมอเลยไม่ได้สั่งน้ำเกลือ เพียงแต่ให้เข้ามารักษาในโรงพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ของโรคในเด็กซึ่งเป็นภาวะเสี่ยง
ตอนบ่ายสอง พยาบาลเอายามาให้น้องออมกิน 3 หลอด แอบดูในตู้ยา(ในห้องพักผู้ป่วยจะมีตู้ยาสำหรับเก็บยาของผู้ป่วย เมื่อถึงเวลารับประทานยา พยาบาลจะเข้ามาจัดเตรียมให้ภายในห้อง) เป็นยา GPO-flu 30 mg. 2 capsule ,BP syrup สำหรับผสมยาผง,Tylenol ลดไข้ 5cc.,Pseudoephedrine 5 cc. ในใจเริ่มวิตก เพราะเมื่อปีที่แล้วได้ยินเสียงร่ำลือถึง ผลข้างเคียงของ oseltamivir เอาไว้ ถึงคราวที่ลูกต้องกินแล้วเหรอ......
น้องออมกินไปได้ครึ่งชั่วโมง ก็อาเจียนเป็นยาออกมาหมด ใจนึงก็ดีใจว่าอาจจะเป็นปฏิกิริยาต่อต้านยาของร่างกาย อีกใจนึงก็คิดว่าสงสัยไข้หวัดใหญ่เล่นงานที่กระเพาะซะแล้ว (เพราะตัวเองก็เคยเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา....อาเจียนทั้งวันเลย) พยาบาลเข้ามาดูว่าก็เลยจัดยาให้ใหม่บอกว่า "เอาไว้กินหลังอาหารเย็นแล้วกันนะคะ"
จากคุณ |
:
น้าลีโอ
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ย. 53 16:04:57
|
|
|
|
 |