เก็บตก... เด็กเส้น เด็กฝาก เข้าสาธิต ข้อเท็จจริง จากประสบการณ์จริง
|
 |
Copy มาให้จาก blog nation น่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
เก็บตก... เด็กเส้น เด็กฝาก เข้าสาธิต ข้อเท็จจริง จากประสบการณ์จริง
ใกล้เทศกาลสอบสาธิต ซึ่งทุกปีก็จะมีข่าวเด็กเส้น มาทำให้พ่อแม่หวั่นไหว แถมยังทำคนที่ลูกไม่พร้อมเท่าไร (อายุน้อย หรือสมาธิสั้น) ถอดใจ ไม่กล้าสอบไปเลย ซึ่งเสียดายโอกาสแทนเด็กมากๆ
เด็กเส้น มีให้เห็นกันในทุกโรงเรียน ซึ่งต้องยอมรับว่าสาธิตเกษตรฯ จะมีข่าวมากสุดเมื่อเทียบกับสาธิตจุฬาฯ หรือสาธิตปสม. อาจเป็นเพราะสาธิตเกษตรฯ ไม่มีการแบ่งแยกรายชื่อเด็กที่สอบได้ ว่าเข้ามาได้เพราะบัญชีไหน สอบเข้าได้เอง หรือผ่านโควต้า "ผู้มีอุปการคุณ" (สมาคมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า ฯลฯ ) ในขณะท่ีสาธิตจุฬาฯ จะแยกรายชื่อกันอย่างชัดเจนมากกว่า
ที่สำคัญ นโยบายของกระทรวงศึกษา ที่ประกาศห้าม "เด็กฝาก" อย่างจริงจัง มีผลบังคับใช้กับเฉพาะโรงเรียนในสังกัดสพฐ. เป็นหลัก ไม่ได้นับรวมโรงเรียนสาธิตฯ แต่อย่างใด
เป็นสาเหตุให้ "ข่าวลือ" เรื่องเส้นสาย และการใช้เงิน ของโรงเรียนสาธิต (ทุกแห่ง) มีมากขึ้นๆ แต่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยก็ยัง "เสี่ยงดวง" เข้าสนามประลองวิทยายุทธมากขึ้นๆ เช่นกัน โดยสถิติล่าสุดในปี 53 มีจำนวนเด็กสมัครเข้าสาธิตเกษตรฯ และสาธิตจุฬาฯ ถึงกว่า 3,000 คน โดยสาธิตปสม. จะต่างจากที่อื่นเพราะรับเด็กเล็ก เข้าเรียนต่ออนุบาล 3 จะมีจำนวนเด็กสมัครสอบราวๆ 2,600 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนแล้วนับว่าสูงถึงกว่า 30 ต่อ 1 เลยทีเดียว
แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าลูกเราที่จะไปสอบ จะไม่โดนเบียดบังโควต้าไปให้ "เด็กฝาก" จริงๆ? ฉะนั้น ก่อนจะหาคำตอบนี้ ลองมารวบรวมดูว่า เด็กเส้น เด็กฝาก มีจริงไหม และมีช่องทางใดบ้าง
1. เด็กเส้นจากนักการเมืองและผู้มีบารมี ซึ่งเป็นปกติธรรมดาของสังคมไทยไปแล้ว แต่เท่าที่สังเกตระยะหลังมานี้ นักการเมืองมักจะมีวิธีที่แยบยลกว่า นั่นคือการใช้วิธี "แทรกเข้าระหว่างชั้น" คือมาฝากเข้าตอน ป. 2 แทน ซึ่งถูกเพ่งเล็งจากสังคมน้อยกว่า และเป็นผลดีกับผปค. มากกว่าเพราะไม่กระเทือนโควต้าสอบ แต่หากเป็นผู้มีบารมี มักจะฝากเข้ามาตรงๆ ผ่านทางอธิการบดี ของแต่ละมหาวิทยาลัย
2. โควค้า สมาคมผู้ปกครองและครู วิธีนี้ มักจะสงวนไว้ให้กับลูกของผปค. ที่มีลูกเข้ามาก่อนแล้ว กับลูกของบุคลากรในมหาวิทยาลัยนั้นๆ โอกาสที่คนนอกจะแทรกเข้ามาผ่านทางโควต้านี้มี แต่ไม่มากนักเพราะลำพังผปค. ที่ต้องการให้ลูกคนเล็กเข้ามาโรงเรียนเดียวกับพี่ ก็มีจำนวนมากทุกปีอยู่แล้ว และที่สำคัญ การจะได้มาซึ่งโควต้านี้มักจะอาศัยการทำกิจกรรมอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ใช้ทั้งแรงการแรงเงิน ไม่ได้จ่ายอย่างเดียวหรือจ่ายครั้งเดียวแล้วได้ 100%
3. โควต้า สมาคมศิษย์เก่า เช่นเดียวกับข้อ 2 ซึ่งสมาคมฯ จะมีการจัดกิจกรรมหารายได้เป็นประจำทุกปี แต่ยอดรายได้และจำนวนโควต้าจะน้อยกว่าสมาคมผู้ปกครองฯ และโควต้านี้แทบจะไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเลย
4. ให้การสนับสนุนโดยตรงกับทางมหาวิทยาลัย และทางโรงเรียนในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวเงิน มักจะเป็นกิจกรรมต่างๆ ที่เสริมความแข็งแกร่งทางด้านวิชาการให้กับโรงเรียน เช่นกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ เทคโนโลยีการศึกษา การพิมพ์ หรือกิจกรรมร่วมกับสถาบันในต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ทั้งความเชี่ยวชาญ บุคลากร เน็ตเวิร์ค ฯลฯ ไม่ใช่ตัวเงินอย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่ารร. จะได้เงินจากทางสมาคมฯ ทั้งสอง ปีละหลายสิบล้านอยู่แล้ว บางครั้งเราจึงได้ยินว่าองค์กรนี้ๆ มีสายสัมพันธ์กับสาธิตฯแห่งนี้ จึงมีโอกาสที่จะฝากเด็กได้ ฯลฯ
ทั้ง 4 โควต้านี้ จะกินโควต้าเด็กสอบเข้าเองไหม?
จากที่ศึกษาข้อมูลมาหลายปี ผมเชื่อมั่นว่า "ไม่" เพราะรร. สาธิตทุกแห่งต่างก็แข่งขันทางวิชาการกันอย่างเข้มข้น ดูได้จากการสนามสอบต่างๆ ที่ทำคะแนนได้ดีทั้งหมด รวมถึงคะแนนสอบ PISA ที่สำรวจมาหลายปีพบว่ากลุ่มรร. สาธิตฯ ทุกแห่ง (รวมถึงสาธิตราชภัฎฯ) ล้วนมีคะแนนสูงกว่ามาตรฐานประเทศอยู่มาก การใช้เงินฟาดหัวเพื่อเข้ามาโดยกินโควต้าเด็กสอบ จึงไม่น่าจะได้ผล เพราะการใช้เงินผ่านทางสมาคมต่างๆ มีมากมายอยู่แล้วในแต่ละปี รร. สาธิตฯ จึงต้องการ "คัดสรร" เด็กเก่งเข้ามาพัฒนาต่อเพื่อป้อนเข้าสู่สมรภูมิวิชาการเหล่านี้
แล้วทำไม่เราจึงได้ยินข่าวเรื่องนี้ทุกปี? โดยเฉพาะข่าวลือประเภท "เขาเล่ามาว่า...." เช่นบริจาครถตู้ไป 5 คันก็ฝากได้แล้ว หรือ ทุ่มไปเลยล้านนึง ได้แน่นอน! ฯลฯ โดยไม่ต้องแคร์ว่าเป็นโควต้าอะไร ไปแย่งส่วนที่เด็กสอบเข้าได้เลย
จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับรร. สาธิตฯ บอกได้เลยว่า "เป็นไปไม่ได้" และข้อมูลที่ได้รับมักจะตรงกันข้ามมากกว่า คือทำอย่างที่อ้างแล้ว ไม่ได้อะไรเลย คือเสียเงินไปแล้ว ลูกก็เข้าไม่ได้
ในขณะที่คนที่ใช้วิธีเจ้าบุญทุ่มแบบนั้นจริงๆ มักจะมีช่องทางอื่นสำรอง เช่นรู้จักนักการเมืองด้วย ช่วยโรงเรียนด้วย บริจาคให้สมาคมด้วย ชื่อของตัวเองจึงติดอยู่ทั้ง 3 โผ ที่สำคัญ บางคนที่ทำทุกทางแล้วยังไม่แน่ใจ จึงเอาลูกไปติวอีกทางหนึ่ง ที่สอบเข้ามาได้จึงอาจได้เพราะเด็กเก่งเองก็ไม่มีใครรู้
อยากเขียนให้ผปค. ทุกคนสบายใจ และตั้งใจสอนลูกไปทีละน้อย จะติวเอง หรือให้คนอื่นติวก็ตามอัธยาศัย แต่จงมั่นใจว่าถ้าลูกเราเก่งจริง ไม่ต้องจ่ายสักบาทก็ผ่านรั้วเข้าสาธิตได้ แต่หากจะงอมืองอเท้า รอจ่ายเงินก้อนเดียวแล้วจบ คิดว่าเส้นตัวเองนั้นได้แน่ๆ... ผมเห็นพลาดหวังมาแล้วนับไม่ถ้วน
ที่สำคัญ รร. สาธิตฯ ไม่ใช่สูตรสำเร็จใดๆเลย ไม่ได้เป็นปลายทางสุดท้าย เพราะผปค. อีกหลายคนที่มีความพร้อมจะสอนลูก ก็ไม่ให้ลูกสอบเข้าเพราะกลัวเรื่องการแข่งขันที่กดดันเด็ก ซึ่งมีส่วนจริงอยู่ และรร. ชั้นนำอีกหลายแห่งก็เป็นคำตอบที่ดีกว่า เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าลูกของเราจะเหมาะกับแนวทางไหน แต่สาธิตฯ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายแน่ๆ ------------------------------------- เครดิต คุณ Sawatr แห่งมัมมี่ปีเดียค่ะ
จากคุณ |
:
แม่น้องปีใหม่
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ม.ค. 54 10:20:00
|
|
|
|