ความคิดเห็นที่ 1 เขย่าตัวเด็กค่ะ เอามือจับที่แขนทั้งสองข้างแน่นๆ แล้วเขย่าเบา ๆ พร้อมด้วยพูดว่าหยุด ส่วนมากไม่ค่อยได้ตีลูก แค่จับเค้าไม่ให้ขยับแบบที่บอกไป เค้าก้อหยุดแล้ว เราจะเน้นคำว่าหยุด ตั้งแต่เค้ายังเล็กอยู่ คำๆ เดียว แต่พูดเสียงด้ง แค่ลูกได้ยินก้อรู้แล้วว่าห้ามทำต่อ แต่ถ้าไม่หยุด เราถึงจะเริ่มด้วยการตี ญาติบางคนชอบพูดว่าทำไมเราตะคอกลูก หรือพูดไม่ไพเราะกับลูก แต่เด็กก้อคือเด็ก เราไปพูดประโยคยาวๆ กับเค้า หรือขอร้องเค้า เค้าไม่เข้าใจหรอกคะ พูดคำเดียวพอ จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 20:51:40

ความคิดเห็นที่ 2 เราจะขู่ว่า เราจะไม่รักลูกค่ะ ไม่รู้ผิดรึปล่าว  แต่เค้าก็ยอมสยบแล้วมาขอโทษทุกทีเลยค่ะ จากคุณ : Nan_yaris264 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 21:00:29

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกๆของผมเป็นเด็กดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเองมาก และเป็นคนไม่ยอมใคร เป็นเด็กที่เถียงเก่งมาก  แต่ผมไม่เคยตีลูก  และไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีตี ไม่ว่าลูกจะดื้อรั้นสักแค่ไหน  ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าต้องตีพวกเขา ขอตอบคำถามของคุณดังน้ีครับ 1. เวลาที่มันสุดจริง ๆ หมายถึงเราอดทนไม่ไหวแล้ว โกรธลูกมาก ทำยังไง ตอบ... ถึงจะโกรธยังไง  ผมก็จะพูดด้วยเหตุผล  บอกลูกว่าสิ่งที่ลูกทำนั้น "ไม่ถูกต้อง" เพราะอะไรจึงไม่ถูกต้อง   และจะมีผลที่ตามมาอย่างไร ลูกสาววัย 14 ปีของผมกลับบ้าน 3 ทุ่ม เป็นครั้งแรก มีหนุ่มวัย 17 ปีมาส่งที่บ้าน ผมรู้สึกเดือดดาลมาก  แต่ก็ยังทักทายกับหนุ่มน้อยนั่นอย่างปกติ จนกระทั่งหนุ่มน้อยนั่นกลับไปแล้ว  ผมจึงเรียกลูกสาวมาคุย   ถามว่าทำไมกลับบ้านดึก  เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามกลับบ้านเกิน 19.00 น. ลูกสาวบอกขอโทษค่ะ  ผมก็บอกว่า  ผมจะทำโทษ  เพราะพูดไม่รู้ฟัง  ไม่เคารพกฏของบ้าน ผมก็เลยยึดโทรศัพท์มือถือเป็นเวลา 1 เดือน   งดจ่ายเงินค่าขนมและอื่นๆเป็นเวลา 1 เดือน ลูกก็ไม่มีเงินติดตัวเลย   ไปไหนไม่ได้เพราะไม่มีเงินค่ารถ  ติดต่อเพื่อนๆนอกเวลาเรียนไม่ได้เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ นับแต่นั้นมา ลูกสาวก็ไม่เคยกลับบ้านเกิน 19.00 น.เลยแม้แต่ครั้งเดียว 2. แล้วถ้าเป็นเวลาที่ลูกสุดมาก เอาไม่อยู่แล้ว เช่น แกล้งลูกคนอื่นแรงมาก ๆ ต่อยไม่ยั้ง(ต่อยแบบเด็กตีกันหนะคะ แต่ลูกเรามีแววชนะชัวร์เนื่องจากบิ๊กกว่ามาก 555) หรือ :-)...เน้นว่า:-)ไม่ใช่พ่น น้ำลายใส่คนอื่น ดุแล้วก็ยังพ่นอีก เรียกว่าถ้าไม่ใช่ลูกอาจด่า "กวนตรีนนนน" ไปแล้วก็ได้ ห้ามยังไงก็ไม่เชื่อ ยิ่งห้ามยิ่งพ่น ไม่สนใจก็ยังพ่น ยังไงก็จะพ่นว้อยยยยย อะไรเงี้ย หรือกรี๊ดไม่หยุด ทำยังไงคะ เวลาที่ลูกเป็นยังเงี้ย+++++!!!!! ตอบ..... - ลูกสาวผมเคยเกเรเพื่อน  บังเอิญผมไปรับเธอจากโรงเรียนอนุบาล และเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ครูก็ไม่กล้าทำอะไร  ได้แต่ฟังเพื่อนที่ฟ้องครู ผมก็เรียกลูกมาดุ  บอกว่าทีหน้าทีหลัง ห้ามใช้กำลังทำร้ายเพื่อน ถ้าตัวเองโดนเพื่อนที่ตัวโตกว่าทำร้ายเอา  ตัวเองจะรู้สึกอย่างไร ฉะนั้นสิ่งใดที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับเรา  เราก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับคนอื่น ปกติแล้วเด็กที่ถูกเลี้ยงมาในส่ิงแวดล้อมที่พ่อแม่ใจร้อน โมโหร้าย เด็กก็จะติดนิสัยโมโหร้ายไปด้วย เด็กที่เคยถูกเฆี่ยนตี  จะเป็นเด็กก้าวร้าว   ดื้อด้าน  หรือเรียกว่า ด้านไม้ คือเคยชินกับการถูกตี เด็กๆพวกนี้จะไม่ค่อยมีเหตุผล   หากเขาทำผิดแล้วถูกตี  เขาก็จะเจ็บเดี๋ยวเดียว  แต่จะไม่เลิกทำผิดอีก เพราะเขาไม่ได้เรียนรู้ที่จะสำนึกในความผิดที่เขาทำ นอกเสียจากว่า  ทำให้เขาสำนึกในความผิดนั้นๆเสียก่อน  แล้วจึงตีเป็นการลงโทษตามไปอีก แต่พ่อแม่ไทยส่วนใหญ่จะตีลูก  และไม่ได้บอกเหตุผลว่าตีเพราะอะไร  ลูกผิดอะไร   ผลที่ตามมาจากความผิดนั้นจะเป็นยังไง  ส่วนใหญ่จะตีเพราะโกรธลูก  ตีเพราะบันดาลโทสะ ผมรับเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งมาเป็นบุตรบุญธรรม เขามาจากครอบครัวที่โมโหร้าย และ ใช้ความรุนแรงในครอบครัว เมื่อเขาได้มามีชีวิตใหม่ มาอยู่ในครอบครัวเราที่ไม่ใช้ความรุนแรง ในช่วงแรกๆเขาเหลิงมาก  ดื้อมาก  แทบจะเอาไม่อยู่เลย เพราะเราไม่เคยตีเขา ทำให้เขาไม่กลัวเรา บางวันทุบตีลูกสาวผมเพราะเรื่องอิจฉากัน บางวันหงุดหงิด ขว้างปาข้าวของในห้องนอนของเขากระจัดกระจายเต็มห้อง บางวันตะโกนด่าหยาบคาย  และทำร้ายตัวเอง แต่เราก็ไม่ได้เฆี่ยนตีเขาแม้ว่าเราจะโกรธมากก็ตาม เราสองคนพูดกับเขาด้วยนำ้เสียงที่โกรธ   แต่ด้วยคำพูดที่มีเหตุผล บอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำนั้น "ผิด"  เพราะอะไร   ตัวเองเป็นผู้ชายแต่ใช้กำลังทุบตีน้องสาว มีการคาดโทษว่า อย่าทำอีกนะ  ถ้าทำอีก  จะจัดการกับเขาอย่างไร และสอนเขาว่า  พี่น้องกันควรจะรักกัน  จะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันต่อไปในวันข้างหน้า เขาไม่ควรอิจฉาน้อง  เพราะพ่อแม่ย่อมรักเขาไม่น้อยไปกว่าที่รักน้อง ถ้าเราไม่รัก  เราคงไม่รับเขามาเป็นบุตรอีกคนหนึ่งหรอก และเขามีสิทธิทุกอย่างเท่าๆกับน้อง  ไม่ได้แตกต่างกันเลย  ฉะนั้นเขาไม่ควรอิจฉาน้องหรือรังแกน้อง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกคบเพ่ือนไม่ดี  พากันเกเรและถูกตำรวจจับ เราต้องไปสถานีตำรวจและรับลูกกลับบ้าน เราไม่ได้ตีลูก  แต่ถามสาเหตุว่า ทำไมลูกต้องทำผิดแบบนั้น การทำผิดแบบนี้จะมีผลเช่นไร  ถ้าลูกอยู่ในวัย  14 ปีขึ้นไปแล้ว จะทำให้ประวัติด่างพร้อย  อย่าทำแบบนี้อีก  แล้วเราก็ย้ายลูกไม่ให้เรียนห้องเดียวกับเพื่อนคนนั้น และสอนลูกว่า  อย่าคบเพื่อนที่ชักจูงเราไปในทางไม่ดี นับแต่นั้นมา  ลูกก็ไม่มีโอกาสได้สนิทสนมกับเพื่อนคนนั้นอีกเลย  ปัญหาก็หมดไป เดี๋ยวนี้ลูกคบแต่เพื่อนดีๆ  ไม่มีปัญหาเรื่องการถูกชักจูงไปในทางเสียหายอีกเลย วันที่เขาหงุดหงิดไม่ได้ดังใจแล้วขว้างปาข้าวของ เราดุว่าเขา  แล้วปล่อยให้เขาสงบสติอารมณ์อยู่ตามลำพังในห้อง ทั้งสั่งว่าให้เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยด้วย เราสองคนสอนเขาให้รู้จักใช้เหตุผล  ไม่เป็นทาสอารมณ์ตัวเอง  สอนให้เขาใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตาม   ขอให้คุยกันด้วยเหตุผล   มีปัญหาอะไร สาเหตุจากอะไร  จะแก้ไขยังไง วันที่เขาตะโกนด่า  และ ทำร้ายตัวเอง เรายืนดูเฉยๆอย่างสงบ  แล้วก็ถามเขาว่า   ทำแบบนี้ฉลาดแล้วหรือ  ทำแล้วได้อะไรขึ้นมาบ้างไหม นอกจากเจ็บตัว  แล้วใครเขามาเจ็บตัวกับเราไหม  แล้วสิ่งที่เราต้องการนั้น ทำแบบนี้แล้วได้มาไหม แล้วเราก็ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตามลำพังเพื่อสงบสติอารมณ์ เวลาผ่านไป 5 ปี  เขาเร่ิมโตเป็นหนุ่มแล้ว กลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์   น่ารัก  หนักแน่น มีเหตุผล ใครๆก็รักเขา เป็นคนเก่ง มีสติปัญญา  มีพรสวรรค์ในหลายๆด้าน  มองโลกในแง่ดี  ยิ้มแย้มแจ่มใส และไม่เคยมีปัญหาใดๆกับน้องสาวหรือกับพ่อแม่อีกเลย  เขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีคนหนึ่ง 3.หากคุณมาตอบกระทู้คนหลัง ๆ ได้อ่านของคนอื่น ที่เค้าตีลูก ขอความกรุณาถ้าสามารถตอบได้ ช่วยตอบด้วยว่า ไอ้ที่เค้าเผชิญอยู่เนี่ย มันจะแก้ไขยังไงดี ถ้าไม่ตี มีวิธีอื่นที่ได้ผลและดีกว่ามั๊ย ตอบ.... ในรายละเอียดเราไม่รู้ว่าวิธีการเลี้ยงลูกของแต่ละคนเป็นยังไง เด็กแต่ละคนมีพฤติกรรมแต่ละอย่างเพราะอะไร  สิ่งแวดล้อมของเด็กเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้มีผลต่อพฤติกรรมของเด็กทั้งนั้น   รวมไปถึงธรรมชาติในตัวเด็กแต่ละคนเองด้วย การอบรมเลี้ยงดูเด็ก   ต้องไม่มีความคาดหวัง แต่ต้องมีความสนใจ ทำความเข้าใจเด็ก พร้อมทั้งอบรมสั่งสอน ให้เด็กมีพฤติกรรมที่ถูกต้องเหมาะสม รู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา เลี้ยงลูก  เพื่ออนาคตและความสุขของลูก ไม่ใช่เลี้ยงลูก เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง หรือเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ลูกอยู่กับเรา  เราย่อมรู้เห็นพฤติกรรมและการแสดงออกของเขา เราต้องทำความเข้าใจได้ ไม่ว่าลูกจะเป็นคนอย่างไร  ลูกอาจจะดื้อ  อาจจะเกเร อาจจะไม่ฝักใฝ่การเรียน แต่....กฏ ระเบียบ ของครอบครัว  ลูกต้องปฏิบัติตาม เพราะ...ลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะ  ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่  พ่อแม่ยังต้องรับผิดชอบชีวิตของลูก ตราบใดที่ลูกยังอยู่ในปกครองของพ่อแม่  ลูกก็ต้องเคารพเชื่อฟังและปฏิบัติตามกฏของครอบครัว วันใดที่ลูกพึ่งตนเองได้แล้ว  เรียนจบแล้ว  มีงานทำแล้ว  ลูกก็เป็นอิสระจากพ่อแม่ ลูกก็จะแยกครอบครัวออกไป  และ ตั้งกฏเกณฑ์ของตัวเองได้ เพราะไม่ต้องอยู่ในปกครองของพ่อแม่อีกแล้ว บ้านเรามีกฏง่ายๆ คือ ห้ามกลับบ้านหลัง 19.00 น. (สำหรับลูกสาว) ห้ามไปค้างบ้านเพื่อนก่อนได้รับอนุญาต (สำหรับลูกสาว) ห้ามพาเพื่อนมาค้างที่บ้านก่อนได้รับอนุญาต (สำหรับลูกชายและลูกสาว) นอกนั้นก็ให้อิสระแก่ลูก  ลูกทำอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฏหมาย ไม่ผิดศีลธรรม เราไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูก หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดจะเลิกตีลูกบ้างนะครับ   ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างย่ิง  กับการตีลูก  และผมแก้ปัญหาเรื่องลูกโดยไม่ใช้วิธีตีเลย ลูกผมก็เฮี้ยวไม่น้อยไปกว่าลูกใครๆ   เพราะเราเลี้ยงลูกให้เป็นเทวดา และเป็นลูกบังเกิดเกล้า แต่เราก็เลี้ยงด้วยเหตุผล  แม้ว่าจะตามใจลูกเกือบทุกอย่าง   แต่ก็รู้จักอบรม ตักเตือน ห้ามปรามถ้าลูกทำผิด จากคุณ : ออนไลน์ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 21:22:36

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกเรา 1.6 ขวบค่ะ เราเคยตีลูกนะ ก่อนจะตีเราพยายามอธิบายเเล้ว หลายรอบเเล้ว จนเราคิดว่าเขาไม่เข้าใจ 1. ตีเฉพาะเรื่องคอขาดบาดตาย เข่น เอามือเเหย่ปลั๊กไป เอานิ่วเเหย่พัดลม(ด้านหลัง เพราะด้านหน้ามีตาข่ายกั้น) โยนรีโมทหรือของที่โดนเเล้วเจ็บใส่คนอื่นหรือใส่โต๊ะกินข้าว ปลดล๊อคคาร์ซีท ประมาณนี้น่ะค่ะ 2. ตีแล้วหายไปสักพัก(10 นาที) เเล้วก็เอาใหม่ 3. ตอนนี้ห้ามโดยการใช้เสียงค่ะ เราเป็นคนเสียงดัง ก็ตะโกนหรือตะคอก เขาจะตกใจไปเเป๊ปนึง เเต่ยังไงก็ยังทำอีก ตอนนี้เลยไม่รู้จะอะไรยังไงเเล้วเนี้ยยยยยยย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 21:40:18

ความคิดเห็นที่ 5 โห ขอบคุณ ๆ ออนไลน์มากเลย อ่านแล้วจะนำไปปฏิบัติอย่างแน่นอน จากคุณ : Nederland เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 22:39:02

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนมากบอกให้หยุด ครั้งสองครั้งถ้าไม่หยุด จับขังในห้องน้ำให้สงบสติอารมณ์ค่ะ จะร้องไห้ก็ร้องไปค่ะ รับรองคุณจะไม่เห็นลูกคุณดื้ออีกเลยค่ะ จากคุณ : หนูน้อยเรนนี่ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 23:21:19

ความคิดเห็นที่ 7 อยากบอกว่าอ่านคห. 6 แล้วเรารู้สึกช็อคนิดนึงค่ะ (อย่าโกรธนะคะ) เราไม่เห็นด้วยกับการขังเด็ก ไม่ว่าจะเป็นในห้องไหนก็ตาม เพราะมีผลกระทบกับความรู้สึก และทำร้ายจิตใจของเขามาก อาจจะฝังใจไปจนโต เราเองก็ตีลูก แต่จะบอกเขาว่าตีเพราะอะไร แต่ลูกเรายังไม่มีนิสัยก้าวร้าวให้เห็น เดี๋ยวนี้ ชักรู้มาก อย่างวันนี้ เอาของที่ต้องส่งให้ลูกค้าโยนลงพื้น พอแม่บอกว่าจะตีล่ะนะ หยิบไม้ละนะ หันไปหาไม้ พอหยิบมาได้หันมาอีกที ลูกรีบโผมากอด บอกว่า รักแม่นะค๊าบ แค่นี้แม่ก็ยอมแพ้ท่าไม้ตายของเจ้าตัวแสบแล้ว (แต่ไม่ได้ผลทุกครั้งหรอกนะ จะบอกให้) จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 23:41:22

ความคิดเห็นที่ 8 1. ส่วนใหญ่ หรือ ที่เคยตี ตีตอนไหน - ตีตอนที่เมื่อบอกดี ๆ พร้อมเหตุผลสารพัด หลายหน แล้วยังทำ 2. ตีแล้วหายมั๊ย หมายถึงแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รึเปล่า หยุด หรือ เลิก หรือไม่ - หลัง ๆ ถ้าเห็นแม่คว้าไม้เรียวก็เลิกดื้อ ไม่ค่อยได้ตี เราก็ไม่ต้องสวมบทบาทเป็นแม่ใจยักษ์บ่อย 3. หากคุณมาอ่านกระทู้คนหลัง ๆ ขอความกรุณาช่วยอ่านวิธีที่คนไม่ตีลูกเค้าบอกไว้ แล้วช่วยบอกด้วยว่า คุณเคยใช้วิธีแบบนั้นบ้างหรือไม่ แล้วได้ผลอย่างไร เอาอยู่มั๊ย...... -  เผอิญว่าแฟนไม่ตีลูก แม่เข้มงวด ส่วนพ่อตามใจ  เรากับแฟนก็เหมือนถ่วงดุลกันอยู่ ไม่มากไม่น้อย  การทำโทษของคุณพ่อจะเริ่มตั้งแต่งดดูทีวี กินไอศกรีม งดขนม ส่วนเราก็จะขู่ว่าเดี๋ยวจะโดนตี ไม่ต้องถึงตีจริง ก็ได้ผลอยู่นะ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 02:10:17 จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 02:04:02

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้นอยู่ว่าเด็กอายุเท่าไร เคยตีแต่เดี๋ยวนี้ไม่ตีแล้ว เพราะคิดว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เลยเปลี่ยนมาใช้ Timeout จะดีกว่า สถานที่ที่ทำ Timeout ควรเป็นเก้าอี้หรือที่ที่ผู้ใหญ่สามารถมองเห็นได้ ไม่แนะนำให้ทำในห้องน้ำเพราะว่าอันตรายกับเด็ก ถ้าเด็กซนอาจจะปีนป่ายหรือ ตกน้ำได้ พอ Timeout แล้วก็กอดเขา อธิบายให้ฟังว่าทำไมเขาถึงโดน Timeout ให้เขาขอโทษแล้วก็บอกว่าแม่ยกโทษให้แต่อย่าทำอีกเพราะ... ควรทำ Timeout ตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้น เด็กจะได้จำได้ว่าทำไมถึงไม่ควรทำ อีกอย่างไม่ควรกล่าวว่าจะไม่รักลูก เพราะจะทำให้เด็กน้อยใจได้ค่ะ จะมีผลกระทบกับความรู้สึกของเด็กโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ จากคุณ : SF Girl เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 02:05:10

ความคิดเห็นที่ 10 ที่บ้านลูกขวบห้าเดือน สิ่งที่ทำอันตรายได้แก่ปีนบันไดคนเดียวโดยไม่มีพ่อแม่ไปด้วย วิธีทำโทษ ขังในเตียงเด็ก ก่อนจะถูกขัง ตอนที่กำลังปีน จะบอกลูกก่อนว่า ถ้าปีนบันไดเข้าคอกนะ ยังลังเลก้อจะพูดซ้ำๆ ก่อนลงท้ายด้วยแม่จะนับหนึ่งสองสามนะ ก็จะลงก่อนนับสาม ถ้าไม่ลง ปีนต่อ ก็ไปอุ้มลงมาใส่เตียงเด็กที่เราเรียกคอก ขังไว้สิบนาทีโดยที่เราก็นั่งอยู่แถวนั้นน่ะ ลูกก็โหยหวนไปดิ แต่บงทีเค้าก็เล่นในนั้นบ้าง สลับร้องไห้เพราะไม่อยากถูกขังในคอก (เด็กวัยนี้ต้องการเดินๆๆปีนป่าย) แม่ก็พร่ำบอกไปดิตอนนี้ว่า ลูกดื้อแม่บอกแล้วไม่ให้ปีนบันไดคนเดียว ไม่ทำตามก็ต้องทำโทษ ขังคอก ฯลฯ ต่อๆมาก็เข้าใจกันดีว่าถ้าทำจะโดนทำโทษอย่างไร อาจมียังรั้นทำบ้างแต่ก็น้อยค่ะ มีตีก้นมั่งดวยมือยามหมั่นเขี้ยวแบบลูกเซี้ยวๆซนๆ แต่ลูกก็ไม่เห็นร้อง ไม่เห็นหยุดทำเลย เราก็เลยไม่ตีดีกว่าท่าทางจะไม่ได้ผล เจ็บมือด้วยลูกก็เจ็บก้นด้วย จากคุณ : ดาวเหนือเมื่อฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:43:39

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบที่คุณออนไลน์ เขียน..น่าสนใจมากค่ะ ลูก 2 คน 5.5 ขวบ กับ 2.9 ขวบ แน่นอน 2 หนุ่ม ย่อมมีเรื่องแย่งของ ตีกัน เล่นต่อสู้ เล่นสักพัก ย่ามเขี้ยว..เล่นแรง.. แต่คนพี่ดี ที่ไม่ค่อยทำน้อง มีบางทีที่ตีน้องไม่แรง(แอบเห็น)  แต่น้องตีพี่บ่อย.. 1. ส่วนใหญ่ หรือ ที่เคยตี ตีตอนไหน ตอบ ตีตอนที่บอก ครั้งที่ 2 แล้วยังไม่หยุด แต่ไม่ได้ตีแรง แบบ คุยก่อนทำไมถึงโดนตี ให้เขาบอกเหตุผล เราก็บอกถึงผลเสีย คราวหน้าถ้าทำจะโดนตีอีกนะ 2. ตีแล้วหายมั๊ย หมายถึงแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รึเปล่า หยุด หรือ เลิก หรือไม่ ตอบ บางเรื่องก็หาย บางเรื่องก็ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างเรื่อง แย่งของ..ทุกวัน เห็นทุกที ว่าก็ไม่ยอม.. 3. หาคุณมาอ่านกระทู้คนหลัง ๆ ขอความกรุณาช่วยอ่านวิธีที่คนไม่ตีลูกเค้าบอกไว้ แล้วช่วยบอกด้วยว่า คุณเคยใช้วิธีแบบนั้นบ้างหรือไม่ แล้วได้ผลอย่างไร เอาอยู่มั๊ย...... ตอบ เราก็โดนตีมาตั้งแต่เด็ก ทั้งพ่อ ทั้งครู แต่ว่าบางเรื่อง โดนเอ็ด เราก็ไม่ทำ แต่ว่าลูกเนี่ย ไม่เห็นง่ายเหมือนเราเลย.. จริงๆ ตีก็แล้วคุยก็แล้ว..ไม่เห็นจะสงบเลย..เฮ้อ.. ยิ่งตอนไปข้างนอก ธนาคาร ห้าง กินข้าว 2 ลิงก็จะวิ่งเล่น ลงบันได กันยังกะเพิ่งออกมาจากป่า..เฮ้อ..เรานั่งชิวๆ ให้พ่อมันวิ่งตามไป.. จากคุณ : yamplu เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 19:40:40

ความคิดเห็นที่ 12 พยายามตีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนมากจะตีเพราะประชดคนที่บ้าน เพราะเค้าอยากให้เราตีลูก (ไม่ดีเลย)-*- แต่ส่วนมากหากไม่มีใคร จะค่อยๆพูดกับลูก อธิบายว่าที่เค้าทำอยู่มันไม่ดี ตอนช่วง 3 ขวบต้นๆ จะเฮี้ยวมาก โดนตีบ่อยสุดแล้วก็จะโดนดุเสียงดังมากๆ แต่ก็จะมาอธิบายทีหลังว่าเพราะอะไรเราถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าดิ้นอาละวาดมากๆ ก็จะเอาเค้ามากอดไว้จนกว่าจะนิ่งค่ะ แต่ช่วงนี้พยายามใจเย็นลงขึ้นอีก ไรอัน 3.10 อาดัม 1.9 บางทีจะใช้ดุแบบขำๆ ปกติลูกจะเป็นคนขี้โวยวาย ขี้แย อะไรนิดหน่อย ไม่ได้ดั่งใจจะโยนของกระจายแล้วก็ร้องไห้ พอเราดุแบบขำๆ ว่า เอ๊า ไรอันทำอะไรน่ะ ของเล่นเจ็บหมดแล้ว กระเด็นไปนู่นไปเก็บใหม่หมดเลยนะ แรกๆก็มีต่อต้านเหมือนกัน แต่ตอนหลังรู้ตัว ตัวเองก็จะขำเอง บางทีร้องไห้ไปหัวเราะไป แป๊บเดียวก็หยุด เพราะเค้าทำตัวเอง ไม่มีใครทำ ตอนนี้บางครั้งก็ใช้มุกใหม่เค้าไม่ชอบปีศาจ พอเริ่มจะอาละวาดหรือร้องไห้ ก็บอกว่า อ้าวไรอัน ปีศาจเข้าสิงหรอครับ นั่นไงปีศาจเข้าแล้ว หนีดีกว่า เค้าก็จะหยุด บอกไม่เข้าๆๆแล้ว ออกไปแล้ว แล้วก็จะขำๆ แล้วก็จะไม่ทำอีก บางทีเห็นเค้ากำลังจะออกอาการแต่ก็หยุดชะงักไปเอง เพราะคงไม่อยากให้ตัวเองเป้นปีศาจ ส่วนเจ้าตัวเล็ก คงเห็นพี่โดนดุบ่อยๆ ก็จะไม่ค่อยทำผิด อ้อนๆหน่อยแต่ก็เอาแต่ใจพอตัว ดุนิดหน่อยก็ไม่ทำแล้ว แต่ถ้ายังไม่หยุดก็ตีเบาๆที่มือก็ไม่ทำ แต่ต้องรอดูหลังจาก 2-3 ขวบไปก่อนไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ตัวเราเองเป็นคนที่ใจเย็นมากๆๆ นอกจากว่าคนอื่นมาทำให้หงุดหงิดเนี่ย มันจะปรี๊ดอย่างรวดเร็วและกระทบกับลูกที่สุด ตอนนี้เลยจะพยายามทำใจในทุกๆเรื่อง เพื่อจะได้ไม่เอาไปลงกับลูกค่ะ จากคุณ : รันโกะจัง^_^ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 22:38:02

ความคิดเห็นที่ 13 การเลี้ยงลูก  ต้องเลี้ยงด้วยความรักและความเข้าใจไปพร้อมๆกันนะครับ หลายท่านในที่นี้  ตีลูกตั้งแต่ลูกเพิ่งอายุได้ 1-2 ขวบ  ซึ่งเด็กวัยนี้ยังพูดไม่รู้เรื่องเลย ยังไม่เข้าใจภาษาเลย การตี   แค่ทำให้เด็กเจ็บเปล่าๆ   เด็กไม่สามารถเรียนรู้หรือเข้าใจเหตุผลได้ ถ้าเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปแล้ว  ยังจะพอพูดภาษารู้เรื่องบ้างแล้ว เด็กก็จะเข้าใจเหตุผลได้บ้าง แต่ถ้าเด็กซึมซับมากับการถูกตี   ต่อไปจะเป็นเด็กดื้อที่ไม่ฟังเหตุผลดีๆของใคร  เพราะเด็กจะถือว่า ถ้าไม่ถูกตีก็คือไม่ผิด เด็กก็จะกลายเป็นคนว่ายาก  ต้องมีการลงโทษรุนแรงจึงจะเรียนรู้ได้ แทนที่จะเป็นคนที่รู้จักรับฟังเหตุผล การเลี้ยงเด็กเล็กๆ  ต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เด็กปลอดภัย   ไม่ใช่ว่าเด็กเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟแล้วจะต้องไปตีเด็ก กรณีที่เห็นเด็กกำลังจะเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟ    แค่เราทำเสียงดุๆ  "อ๊ะ อ๊ะ  อย่านะ!!!" เด็กก็จะตกใจและหันมามอง พ่อแม่ก็จะสามารถสอนเด็กด้วยการสื่อสารกับเด็ก  แทนการตี ถ้าเราสื่อสารว่า  "อ๊ะ  อ๊ะ   อย่านะ  ทำแบบนี้ไม่ได้นะ!!!!"   เด็กก็จะเรียนรู้ว่า  ถ้าพ่อแม่ทำเสียงดุๆแบบนี้  ต้องหยุด เลี้ยงลูกด้วยการสื่อสารกับลูก  ให้ลูกเชื่อฟังคำสั่ง   ดีกว่าการตีลูก ในการออกคำสั่งเมื่อเด็กกำลังจะทำอะไรที่อันตราย  พ่อแม่ต้องส่งเสียงดุๆ  ทำท่าทางว่า "ห้ามนะ" หรือส่ายหน้า ทุกครั้งที่เด็กเห็นท่าทางอย่างนี้  เด็กก็จะเรียนรู้ภาษา  สื่อสารเข้าใจโดยไม่ต้องตีเลย และจะเป็นการทำให้เด็กมีวินัยเมื่อเติบโตขึ้น  รู้จักเคารพกฏ ระเบียบ  ไม่ฝ่าฝืนกฏของโรงเรียนและสังคม เด็กไทย 90%  ล้วนถูกเลี้ยงมาด้วยการเฆี่ยนตี เมื่อเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่   กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย  ก้าวร้าว  ไม่ค่อยมีวินัย  ชอบฝ่าฝืนกฏระเบียบต่างๆ หรือเป็นคนขลาด  ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงออก พ่อแม่ไทยน้อยคนนักที่จะไม่ตีลูก  ส่วนใหญ่ก็จะระบายอารมณ์กับลูก 9 ใน 10 ครอบครัว  ล้วนตีลูกทั้งนั้น  บางรายเฆี่ยนตีทารุณ  รุนแรง   เมื่อเด็กเติบโตขึ้นก็เป็นคนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้  ลุแก่โทสะ  บางรายถึงกับเป็นฆาตกร เลิกตีลูกกันเถอะครับ  ใช้วิธีสื่อสารให้เข้าใจ  ให้ลูกเข้าใจคำสั่งของพ่อแม่   และปฏิบัติตามคำสั่งด้วยตนเองโดยไม่ต้องกลัวถูกตี จากคุณ : ออนไลน์ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 01:13:53

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเขียนไว้นานแล้วครับ จาก เรื่องจริง ครับ คงเป็นประโยชน์ กับ ท่านสมาชิก และ จขกท ตามสมควร ไอเดีย คล้ายๆ คุณ ออนไลน์ครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nonlimited&month=01-2009&date=13&group=1&gblog=9 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nonlimited&month=01-2009&date=13&group=1&gblog=8 จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 01:48:13

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้กฎ TimeOut ในบ้านค่ะ ดิฉันยงไม่มีบุตรนะคะ แต่ทำงานเลี้ยงเด็กมาหลายปีที่ต่างประเทศค่ะ การตีเด็กเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายค่ะ เลยต้องใช้วิธีทำโทษด้วยวิธีอื่นแทนค่ะ เด็กจะเรียนรู้เรื่องกฎเกณฑ์ตั้งแต่เด็กๆ และตัดสินใจเองค่ะว่าจะยินดีรับโทษนั้นถ้าเขาฝ่าฝืนหรือว่าหยุดทำก่อนที่จะได้รับโทษค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 03:48:20 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 03:45:00 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 03:43:52

ความคิดเห็นที่ 16 ชิดขวาละกันนะคะ เพราะตัวเราเองยังไม่เคยตีแบบว่าตีจริงจัง เพราะว่าแค่ "No" แบบหน้าดุ ๆ เค้าก็เลิกแล้ว 55555 (ดูเป็นคนน่ากลัวเนอะ) คือถ้าเล่นกันอยู่สนุก ๆ แล้วเค้าจะเอามือแหย่ปลั๊ก เราจะ "nO" แบบหยุดความสนุกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสียงดังหรือไม่ดังแต่จะชัดเจนมากว่า ไม่พอใจ น้ำเสียงเปลี่ยน ท่าทางเปลี่ยนหมดคะ จากคุณ : mangek เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 10:10:17