ความคิดเห็นที่ 1 เราว่าพาไปพบหมอพัฒนาการเด็กที่รพ.อื่นก่อนดีกว่านะคะ รอนานเกินไปเสียสุขภาพจิตพ่อแม่กันพอดีค่ะ จากคุณ : nitimajeng เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:07:55

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาให้กำลังใจ ในฐานะเป็นคนแม่เหมือนกัน และแนะนำจากประสบการณ์ที่เคยเรียนครูและได้เรียนวิชาเด็กพิเศษ ทำให้ได้ไปคลุกคลีและศึกษาเด็กที่เป็นออทิสติกค่ะ ออทิสติกไม่สามารถหาสาเหตุที่เกิดแน่นอนได้ ระดับความรุนแรงมีหลายระดับ โชคยังดีที่น้องอยู่ในระดับออ่น ซึ่งน้องสามารถที่จะดำรงชีวิตเหมือนคนปกติได้ค่ะ เพื่อนที่มหาลัยก็เป็นออทิสติก เค้าก็สามารถเรียนได้ แต่การเข้ากับคนอาจจะลำบากนิดหน่อย ปัจจุบันมีวิธีการบำบัดเพื่อให้อาการดีขึ้นหลายๆอย่าง เช่นการให้อ๊อกซิเจน มีโรงเรียนรองรับ คุณแม่ลองหาข้อมูลดูนะคะ **ตอนที่เรียน เรากับเพื่อนเรียกเด็กออทิสติก ว่าพวกเค้ามาจากต่างดาว พวกเค้าน่ารัก และอัจฉริยะมากๆค่ะ** ไม่ต้องกังวลนะคะ จากคุณ : nuna (moshimokoro) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:12:54

ความคิดเห็นที่ 3 มาให้กำลังใจ คุณแม่น้องต้นหลิวคะ สู้ๆ นะคะ เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ใครๆ ก็อยากให้ลูกแข็งแรง และปกติ แต่ถ้าอะไรมันเกิดแล้ว เราก็หาทางแก้ไขแล้วกันเนอะ อย่าโมโหน้องเค้าเลยคะ เค้าไม่ผิด แต่ก็อยากให้ลองไปหาหมอที่อื่นตรวจดูอีกทีนะคะ เผื่อจริงๆ น้องเค้าอาจไม่เป็นก็ได้ เพียงแต่เด็กเค้าซน สู้ๆ นะคะ จากคุณ : แม่น้องไม้โท เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:25:26

ความคิดเห็นที่ 4 แค่พยาบาลสงสัย  แต่ทำไมต้องรอพบแพทย์ถึงปีหน้า  คุณแม่ไปพบคุณหมอเลยครับ เป็นไม่เป็นจะได้ปฏิบัติกับลูกได้ถูกต้อง ถ้าเราเข้าใจเราจะรักษาได้ เพราะหลานที่บ้านก็เป็นตอนนี้เรียบชั้น ม5 กับ ป4 อยู่ จากคุณ : electus เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:27:04

ความคิดเห็นที่ 5 มาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆนะคะ เดี๋ยวน้องก็หายค่ะ อย่าคิดมากนะคะ อย่าไปโมโหลูกเลย เวลาลูกอยู่ไม่นิ่ง ขยับไปมา น่ะค่ะ เค้าคงต้องการเรียนรู้ ใจเย็นๆนะคะ นอกจากพาไปหบแพทย์แล้ว ลองพาน้องสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน  และสอนน้องนั่งสมาธิสิคะ น้องจะได้ฝึกการนิ่งไงคะ จากคุณ : ebella01 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:42:33

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าอย่าเพิ่งกังวลมากเลยค่ะ เพราะแค่พยาบาลสงสัยเท่านั้น ไม่ใช่หมอวินิจฉัย จริงๆ น้องเขาอาจจะไม่เป็นก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องไม่ประมาท เราแนะนำว่าหาหมอที่อื่นก่อนดีไหมคะ  จะได้รู้ผลเร็วหน่อย รอถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พ่อแม่เครียดแย่เลย  ลองหาหมอที่อื่นก่อนดีกว่าค่ะ จากคุณ : แม่น้องกอหญ้า (คำข้าว) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:47:31

ความคิดเห็นที่ 7 มาให้กำลังใจค่ะ   ลองค้นหา  ...บางที .... พระเจ้าอาจจะให้สิ่งดีๆมาทดแทน  ขอให้สู้นะคะ   ..อย่าท้อแท้ ...ยังไงน้องก็เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับเรา.... จากคุณ : หญิง (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:48:44

ความคิดเห็นที่ 8 http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2010/04/N9154973/N9154973.html เอากระทู้ของแม่ก้อยและน้องนนท์มาฝากค่ะ เราได้อ่านกระทู้นี้แล้วพาลูกไปเช็คกับคุณหมอเพ็ญแขค่ะ ปรากฎว่าลูกเรามีอาการบางอย่างที่ผิดปกติ คือ ไม่สนใจคน ไม่ค่อยสบตา ไม่ถือว่าเป็นออเลยทีเดียวสามารถฝึกได้ ลูกเราขวบเจ็ดเดือนค่ะ ไปหาคุณครูที่ฝึกพัฒนาการเด็กโดยเฉพาะมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกค่ะ มีอะไรหลังไมล์มาถามได้นะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ ในเมื่อน้องสามารถเรียนโรงเรียนปกติได้ ทุกอย่างฝึกฝนได้ค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : NooTorfun เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:56:54

ความคิดเห็นที่ 9 ให้กำลังใจคุณแม่ค่ะ บางทีอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะคะ นัดตรวจปีหน้า เราว่านานไป คุณแม่ลองปรึกษาหมออื่นดูมั้ยคะ   เข้าใจอารมณ์คนรอค่ะ คงเครียดน่าดู แต่ตอนนี้คุณแม่ทำใจให้สบายก่อนนะ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป อย่าไปหงุดหงิดลูกเลย   ให้กำลังใจ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง สู้ๆค่ะ จากคุณ : มะปรางข้างรั้ว เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:59:29

ความคิดเห็นที่ 10 มาให้กำลังใจ คุณแม่น้องต้นหลิวคะ สู้ๆ นะค่ะ จากคุณ : หนักแน่น เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 13:59:30

ความคิดเห็นที่ 11 ลืมบอกไปค่ะ ว่าที่ลูกเราเป็นแบบนี้เพราะการเลี้ยงดูของเราเองค่ะ เลยอยากบอกจขกท.ว่าอย่าพึ่งไปโมโหลูกเลย เพราะบางทีคนที่ต้องรับการรักษาอาจเป็นตัวเราเองก็ได้!!! จากคุณ : NooTorfun เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 14:01:06

ความคิดเห็นที่ 12 มาให้ดำลังใจคะ  อย่าคิดมากคะ  รีบไปพบแพทย์เองดีที่สุดไม่ต้องรอปีหน้า แต่ไม่เข้าใจอย่างนึงคือ จะโมโหน้องทำไมคะ ไม่ต้องโมโหน้องคะ น้องไม่ได้มีความผิดอะไร จากคุณ : แม่หมู (chutipabha24) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 14:05:34

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่มาบอกว่า หลานชายเราเป็นเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ 7 ขวบแล้ว น้องฉลาดมาก ความจำดี เรียนเก่งค่ะโดยเฉพาะคณิต อังกฤษ วิทยาศาสตร์ แม่เค้าปรึกษาคุณหมอ แล้วดูแลดีอ่ะค่ะ ตอนนี้เหมือนเด็กธรรมดาเลยค่ะ เอาใจช่วยนะคะคุณแม่ จากคุณ : CHADA เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 14:08:45

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นวัยของเค้าด้วยรึป่าวคะ น้องต้าตอนวัยประมาณนี้ (เมื่อปีที่แล้วนี้เอง) ก็จะอยู่ไม่นิ่งเหมือนกันค่ะ แต่เป็นเราเองที่คิดว่าเค้าผิดปกตินะคะ เที่ยวไปถามคุณครูที่โรงเรียน คุณครูก็ว่า ซนมาก แต่พอถามว่าจะเข้าข่ายเด็กสมาธิสั้นรึป่าว ครูกลับบอกว่า อุ๊ย! ไม่ค่ะคุณแม่ ยังไม่แน่ใจ ไปถามคุณครูที่เนอสฯ ด้วย เพราะเค้าดูแลน้องมาตั้งแต่เบบี๋ ครูก็บอกว่า ปกตินะคะ ก็ยังไม่วางใจ คราวนี้พาไปหาคุณหมอเลยคะ คุณหมอก็บอกว่า อย่างนี้เรียกว่า เด็กซุกซน เท่านั้นเอง แต่พอพ้นวัยนั้นมาไม่นาน ก็หายเองค่ะ เพื่อความสบายใจ เราว่า พาไปให้คุณหมอดูก็ดีค่ะ คุณหมอมีวิธีตรวจ และวิธีรักษาค่ะ รู้ตั้งแต่แรก ยังดีกว่าปล่อยไว้นานนะคะ ทุกปัญหามีทางแก้ไขเสมอค่ะ จากคุณ : แม่น้องต้า (toom.com) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 15:14:54

ความคิดเห็นที่ 15 ให้กำลังใจนะคะ   เด็กบ้านตรงข้ามเป็นอาการเดียวกับน้องคุณ  จนคุณแม่เขาสงสัยเลยพาไปหาหมอ ถึงรู้ว่าเป็นออทิสติก  แต่เป็นระดับน้อย   สาเหตุที่สงสัยคือ ปกติเด็กจะอยู่กับคุณย่าและพี่เลี้ยง  คุณพ่อทำงานบริษัทน้ำมันอยู่ ตจว. คุณแม่ทำบริษัทที่ดิน ทำให้กลับบ้านดึกตลอด แล้วย่าก็จะให้เด็กอยู่แต่หน้าทีวี ไม่มีการสอนหนังสือ  หรือเล่าเรื่องอะไรตั้งแต่เด็กเล็กๆ  เลยไม่ค่อยมีการพัฒนา  (หมายถึงเขาเป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่ได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง) พอเข้าอนุบาล ก็ไม่สามารถปรับตัวเองได้  เวลาเด็กอื่นนอน เขาก็จะไม่นอน คอยแกล้งเพื่อน  เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง  จนคุณครูขอปรึกษาว่าเด้กไม่มีความพร้อม  (ก่อนหน้านั้นไปสมัครเข้าเรียนโรงเรียนหนึ่งแล้วเขาไม่รับ  บอกว่าเด็กยังไม่พัฒนาตามวัย) คุณหมอให้คุณแม่คอยพาเด็กไปทำกิจกรรม ไม่ให้อยู่บ้านดูหนังตลอดเดี๋ยวนี้เสาร์-อาทิตย์ แม่เด็กพาเด็กไปวาดรูป  ว่ายน้ำ  เรียนภาษา  เรียนเลขเพื่มเติม  ซึ่งดูเหมือนจะเหนื่อย  แต่  เด็กชอบมาก  และรู้สึกว่าจะทำได้ดีค่ะ ปัจจุบันอยู่ชั้น ป.1แล้ว  เห็นว่าการเรียนดีขึ้นมาก  จนบางวิชาคะแนนอยู่ในกลุ่มสูง  และเด็กรู้จักสงบขึ้น  เริ่มพูดโต้ตอบกับผู้ใหญ่คนอื่นๆ โดยไม่ต้องมีคุณแม่คอยอยู่ข้างๆ เราว่าคุณไม่ต้องกังวลนักค่ะ  ขอคำปรึกษาคุณหมอ ยิ่งเป็นน้อยยิ่งแก้ไขง่าย เพียงแต่ให้ไวเท่านั้นเอง    ไม่เข้าใจว่าทำไมบางคนก็กลัวนักว่ามีคนว่าลูกเป็นออทิสติก ซึ่งมันเป็นโรคชนิดที่ติดตัวมาแต่กำเนิด   เราสามารถแก้ไขได้ถ้าเป็นน้อย  คุณหมอเขาสันนิษฐานมาก็ให้เชื่อเอาไว้ก่อน พร้อมสังเกตุเด็กของเราด้วยว่ามีส่วนหรือเปล่า  ไม่ใช่อะไรอะไรก็ไม่ยอมฟัง  เพียงแต่ควรจะไปเช็คหลายๆ หมอ เท่านั้นเพื่อความชัวร์ค่ะ จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 16:17:00

ความคิดเห็นที่ 16 เรามีรุ่นพี่คนหนึ่งเป็นคุณครู พี่เขาบอกว่าอยากให้ผู้ปกครองมองอาการออทิสติกเป็นแบบอาการผิดปกติที่เป็นปกติ เขาเปรียบคล้ายๆกับเด็กสายตาสั้นนั่นแหละค่ะ คือสายตาผิดปกติ แต่เป็นอาการผิดปกติที่เป็นปกติ คือ ไม่เป็นอันตราย พบได้ทั่วไป การรักษาให้รักษาตามอาการ เช่น ใส่แว่น และระวังไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น เช่น ไม่ดูทีวีใกล้ หรือใช้สายตาแบบไม่ระวัง พ่อแม่ที่คิดว่าลูกมีอาการออทิสติด สิ่งแรกที่ควรทำคือ พบแพทย์ค่ะ เหมือนเด็กสายตาสั้นที่ต้องไปพบจักษุแพทย์ ถ้าไม่ไปพบ หรือ ไม่ใส่แว่น ก็อาจจะใช้ชีวิตลำบากขึ้นอยู่กับว่าสั้นมาน้อยแค่ไหน หรือสายตาสั้นรุนแรงมากขึ้น แต่สิ่งที่น่าห่วงของเด็กออทิสติกคือ การยอมรับในโรงเรียนค่ะ เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่มักไม่อยากให้มีเด็กออทิสติกเรียนร่วมกับเด็กปกติคนอื่นๆในห้อง เพราะจะรบกวนเด็กคนอื่นๆในห้อง จึงขึ้นอยู่กับแนวทางการปฏิบัติของโรงเรียนด้วยค่ะ บางโรงเรียนปฏิเสธเด็กกลุ่มนี้ แต่บางโรงเรียนจะมีห้องเรียนเฉพาะสำหรับเด็กออทิสติกเลยค่ะ ไม่ให้เด็กเรียนรวมกับเด็กที่ไม่ได้เป็นออทิสติก หรือบางโรงเรียนอาจให้เรียนรวมกัน แต่จะมีปัญหากับผู้ปกครองคนอื่นๆไหมก็ต้องแล้วแต่กรณีเหมือนกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 54 17:04:53 จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 16:40:25

ความคิดเห็นที่ 17 อย่ารอถึงปีหน้าเลยค่ะ เสียสุขภาพจิตกันทั้งครอบครัว พยาบาลไม่ใช่หมอ ขนาดหมอยังต้องเสียเวลาประเมินอาการ ว่าต้องดูเวลาน้องอย่างไร เด็กแตละคนก็หลายแบบ เราเลือกรพ.รามาธิบดี เพราะเดินทางสะดวก ใช้เวลารอนัดครั้งแรกประมาณ2 สัปดาห์ สามารถโทรไปนัดได้เลย นอกจากนี้ถ้าสะดวกตอนเย็น หรือส.-อา. ก็มีคลีนิคพิเศษให้บริการค่ะ นอกจากนี้ที่รพ.ยังมีการเรียนเสริมให้น้องฝึกพูด หรือถ้าโตหน่อยและมีปัญหาด้านการเขียน-อ่าน ก็มีคุณครูช่วยด้วย แต่ทั้งหลายทั้งปวงทางบ้านต้องร่วมด้วยช่วยกัน คุณหมอก็แนะนำแนวทางให้ เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องสอน ช่วยฝึก เพื่อให้น้องมีพัฒนาการที่สมวัย คุณแม่ต้องใจเย็นนะคะ คิดบวกเข้าไว้ ดีที่น้องอาการไม่มาก สามารถถึงมือคุณหมอเร็ว น้องก็จะปรับตัวเข้ากับสังคมได้เร็ว ปัญหามีไว้แก้ไข ท่องไว้ค่ะเพื่อลูก จากคุณ : simiach เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 17:07:25

ความคิดเห็นที่ 18 ... ขนาดหาหมอบางทียังต้องหาหมอหลายคนเพื่อยืนยันผลเลยค่ะ นับภาษาอะไรกับพยาบาล = = พยาบาลบางคนอย่างมัวเลยค่ะ ดังนั้นหาหมอค่ะ อย่าพึ่งเครียด ... ไม่ต้องไปโมโหน้องหรอกค่ะ เขาไม่รู้เรื่อง จากคุณ : ironeta เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 17:09:09

ความคิดเห็นที่ 19 เราแนะนำรุ่นพี่เรานะคะ เป็นหมอพัฒนาการเด็กโดยตรง จบจาก Harvard ค่ะ คือ เคยแนะนำเด็กข้างบ้านเป็น Asperger ไปหา แบบที่คนทั่วๆไป มองว่าเป็น เด็กไม่อยู่นิ่ง ฉลาด คูณ หาร ถอด แสคว์รูท ได้ตั้งแต่ 4 ขวบ ไม่สนใจเพื่อนอนุบาล และวิชาอนุบาลๆ ตอนที่เราเห็นคือเด็กไม่ทานข้าว ผอมมาก ๆ เจอเราตอนตักบาตรทุกเช้า น้องเค้าสบตาเราปกติยิ้มแย้มทักทายนะคะ แต่ไม่ค่อยพูด เล่น Ipad แม่อยู่ตลอดเวลา สลับกับวิ่งไปรอพระที่ปากซอยแล้วก็วิ่งกลับมาหาแม่ ดูเป็นเด็กขี้อายด้วยซ้ำ 4 ขวบ หนักแค่ 10 กิโลอะคะ เราเลยแนะนำไปหาเพื่อนเราที่เป็นหมอเด็กโภชนาการ เค้าก็เลย Refer ไปหาพี่คนนี้อีกที คือหมอเด็กทั่วๆไปก็ไม่ฟันธง คือบางอย่างอาการน้อยๆ อาจจะพลาดการวินิจฉัยและไปเห็นอาการตอนเริ่่มโตได้ ตอนนี้น้องเค้าเรียนโครงการพิเศษของ สาธิตม.เกษตร เจอเราทีไรต้องมีดวลว่า น้องเค้าคิดเลขกะเรากดเครื่องคิดเลข ใครเร็วกว่า พญ.เกสิณี โอวาสิทธิ์ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ นะคะ ลองดูค่ะ จากคุณ : 2istwins เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 17:38:26

ความคิดเห็นที่ 20 บ้านอยู่แถวไหนคะ ถ้าแถวรามอินทราลาดพร้าว แนะนำคลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนาเลียบทางด่วนเกษตรนวมินทร์ คุณหมอชาคริญา จากคุณ : มุกอันดา (มุกอันดา) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 18:38:04

ความคิดเห็นที่ 21 บ้านอยู่แถวไหนคะ ถ้าแถวรามอินทราลาดพร้าว แนะนำคลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนาเลียบทางด่วนเกษตรนวมินทร์ คุณหมอชาคริญา จากคุณ : มุกอันดา (มุกอันดา) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 18:38:17

ความคิดเห็นที่ 22 มันใกล้เคียงกับเด็กอัจฉริยะนะครับคุณแม่ อย่ารีบตัดสินเพียงแค่ได้ยินคำพูดจากนางพยาบาล พบแพทย์ผู้ชำนาญการดีกว่าไหมครับ เด็กเราอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น น้องเพื่อนผมก็แบบนี้ ตอนอายุ 4-5 ขวบ สามารถบอกเส้นทางไปเยาวราชได้ งงกันเลย ตอนนี้เรียน ป6 ชอบคุยกับฝรั่ง สนใจความรู้ในชั้นที่สูงกว่า เลยบอกว่าให้ไปลองสอบพวกสาธิตปทุมวันดูในปีหน้า ถ้าติดคงไม่ธรรมดา เพราะตอนแรก ใครๆ ก็คิดว่าจะเป็นเด็กพิเศษครับ ยังไงก็ลองปรึกษาคุณหมอครับ จากคุณ : ป๊ะป๋านู๋ดี เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 18:51:19

ความคิดเห็นที่ 23 คุณแม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ ...ลองถามฟฤติกรรมของน้องจากคุณครูค่ะว่าเป็นไงบ้างลูกตั้งใจเรียนไหมเล่นกับเพื่อนๆดีไหม ลองถามครูที่ใกล้ชิดก่อนนะคะ จากคุณ : จี้เพชร เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 19:07:29

ความคิดเห็นที่ 24 หัวอกเดียวกันค่ะ น้อง สามขวบแล้ว ยังไม่พูดเลย ไปหาแล้วหลายหมอ ฝึกพูกฝึกพัฒนาการ ล่าสุดเมื่อวานไปหาหมอที่สมิตติเวช ศรีนครินทร์ (หมอ เกศินี ที่คหที่ 19 แนะนำแหละค่ะ คนเดียวกัน) หมอเห็นอาการน้องก็บอกเลยว่า เป็นออทิสติก เพราะ ไม่สบตา เรียกไม่หัน เดินเล่นเองรอบห้อง อยากได้อะไรจะจูงมือแม่ไปเอา หรือหยิบเอง น้องจะพูด อือ ออ เป็นภาษาของตัวเอง พ่อแม่ฟังแล้ว ห่อเหี่ยว มากค่ะ ขณะตอนนี้ยังเหี่ยวอยู่เลย ก็กลับมาบ้านเล่าให้ที่บ้าน (มีคุณยาย ป้าๆ และ น้าๆ) ฟัง เพื่อช่วยกันปรับพฤติกรรมน้องเนื่องจาก พ่อแม่ทำงาน กลับค่ำมืด น้องส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงเรียนกับครู กับที่บ้านกับยายและ ป้า ซึ่งต้องปรับการดูแล พยายามพูดกับน้องสบตาเค้าให้มากๆ อย่าปล่อยให้เล่นคนเดียวค่ะ หมอเกศินี บอกว่า ออทิสติก ไม่หายค่ะ แต่สามารถรักษาอาการให้ดีขึ้นจนเข้าสังคมคนปกติได้ โดยที่คนอื่นที่ไม่คุ้นเคยกับผู้ป่วยออทิสติกจะดูไม่ออกเลย เราไม่ได้อยากให้ลูกเรียนเก่งอะไรมาก แค่ให้เค้าอยู่ในสังคมตามปกติได้ ก็พอใจแล้ว เศร้าเหมือนกันค่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่ลูกจะพูดได้ จากคุณ : [sarah] เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 11:16:22

ความคิดเห็นที่ 25 ลูกของดิฉันอายุ 4 ปี 5 เดือน ท่องแม่เลขได้ตอนอายุ 3 ปีครึ่ง ลูกดิฉันเข้าข่ายออติสติคไหมค่ะ (ท่องได้ ถึงแม่ 12) แล้วท่องเดือนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย วันเดือน ได้ทั้งไทยและอังกฤษ (ไม่ได้กวนน่ะค่ะ)ซนมากอยู่ไม่ค่อยนิ่งชอบเต้น จากคุณ : เด็กชายตัวเล็ก (เด็กชายตัวเล็ก) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 14:11:27

ความคิดเห็นที่ 26 จากความเห็นที่ 25 ถ้าคุณแม่สงสัยว่าลูกจะเข้าข่ายไหม ก็อาจพาลูกไปพบแพทย์ได้ค่ะ .. แต่อาจเป็นไปได้ว่านิยามของคุณแม่ที่ว่าลูกซนมาก อยู่ไม่นิ่ง ชอบเต้น ถ้าให้คนอื่นมอง หรือคุณหมอมองก็อาจบอกว่าอยู่ในระดับเด็กปกติ ก็ได้ค่ะ .. ดังนั้นการตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญหรือคนมีประสบการณ์จะบอกความแตกต่างระหว่างเด็กเป็นออทิสติกและไม่เป็นได้ค่ะ   ส่วนเรื่องการท่องสูตรคูณ ท่องวัน เดือน ได้ของเด็กเล็ก สำหรับเรามองว่าอาจไม่ได้เป็นลักษณะของเด็กออทิสติก นะคะ การท่องได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสอนของที่บ้านมากกว่า เพราะเป็นการท่องจำ เหมือนเด็กที่เขาจำธงชาติได้ทุกประเทศ หรือจำสัญลักษณ์ของรถทุกยี่ห้อ ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู ให้เห็นของเหล่านี้บ่อยๆ ให้ท่อง ให้จำบ่อยๆก็จะจำได้ .. ยกเว้นเคยเห็นแค่ครั้งเดียว แล้วจำได้เลย อย่างนี้คงเรียกได้ว่าระดับความจำจะสูงกว่าเด็กทั่วๆไป ... ลักษณะของเด็กออทิสติก มักเป็นเรื่องของการที่เด็กไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ไม่สนใจสังคมรอบข้าง สนใจแต่ตัวเองเป็นหลัก .. ส่วนเด็กอัจฉริยะ มักจะเป็นเด็กที่อยู่นิ่งได้ สนใจและปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบข้างได้ดี แต่ว่าสมองเขาอาจจะไปเร็วกว่าคนรุ่นเดียวกัน คิดเร็วกว่า ทำอะไรไวกว่า หรือทำอะไรได้เกินวัยกว่า .. เราว่าเหมือนความเห็นที่ 22 บอกค่ะว่าบางครั้งดูเหมือนใกล้กันมาก แต่มันจะมีความแตกต่างอยู่ค่ะระหว่างเด็กอัจฉริยะกับเด็กพิเศษ .. จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 15:55:34

ความคิดเห็นที่ 27 ลูกผมพัฒนาการช้า เป็น CP ด้วยแบบอ่อน หลานผมเป็นออ สามขวบยังพูดไม่ได้ เข้าใจความรู้สึกคุณแม่ครับ แต่อย่าท้อ ลองมาดูตารางฝึกฝนลูกผมดูนะ ( ต้องบอกว่าใช้ สี่คนเลี้ยง ผลัดกันเป็นกะๆ ) 1. วันจันทร์ไปเรียนที่สาธิตละอออุทิศ โครงการเด็กพิเศษ 2. อังคารไปกายภาพบำบัดที่ศิริราช 3. พุธ ช่วงเช้าไปกายภาพที่ศูนย์สิรินธร แล้วนั่งรถเมล์สาย 18 มาเรียนที่ละอออุทิศต่อช่วงบ่าย 4. วันพฤหัส เช้ากายภาพ บ่ายวารีบำบัดที่ศิริราช 5. ศุกร์ ฝึกหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน Locomat ที่ศูนย์ศิรินธร 6. เสาร์ เช้าทำกายภาพบำบัด เที่ยงทำกิจกรรมบำบัดที่คณะกายภาพบำบัด มหิดลศาลายา อย่าท้อครับคุณแม่ ในฐานะพ่อแม่ เราทำให้เขาดีที่สุด เท่าที่เงื่อนไขแต่ละครอบครัวจะทำได้ สู้ๆ จากคุณ : issaravtis (issaravtis) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:29:45

ความคิดเห็นที่ 28 แนะนำให้ไปติดต่อนัดตรวจกับหมอพัฒนาการเด็ก รพ.เอกชนค่ะ คิวนานหน่อย แต่คงไม่ถึงกับกุมภาพันธ์ปีหน้า ไม่เหมือนโรคทั่วไปที่ตรวจได้เลย ถ้าเป็นรพ.รัฐบาล ส่วนใหญ่คิวยาวประมาณสี่ถึงหกเดือนค่ะ เพราะโรคทางนี้ใช้เวลาตรวจนาน วันนึงตรวจได้ไม่กี่คนค่ะ หมอเชี่ยวชาญทางนี้ก็มีน้อย รู้เร็ว ได้เริ่มต้นรักษากันเร็ว ผลดีค่ะ อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ที่สำคัญ อาจจะไม่ใช่ออทิสติกก็ได้ค่ะ เพราะแม้แต่หมอทุกคนก็ยังไม่สามารถตรวจวินิจฉัยได้ทุกคน ยังต้องเรียนต่ออีกมาก ความเห็นจากพยาบาลก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเองนะคะ ต้องรอยืนยันจากคุณหมอค่ะ ตอนนี้อยากให้หาหนังสือเกี่ยวกับโรคนี้เบื้องต้นมาอ่าน และรีบติดต่อขอนัดตรวจโดยเร็วค่ะ จากคุณ : PDF เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 11:03:56

ความคิดเห็นที่ 29 ส่งที่อยู่มาทางอมยิ้มนะคะ แม่ก้อยจะส่งหนังสือไปให้ จากคุณ : แม่ก้อย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:30:53

ความคิดเห็นที่ 30 มาให้กำลังใจคุณแม่ อย่าไปโกรธเขาเลยครับ ตีเขา เขาก็ไม่เข้าใจเรา เมื่อโกรธแล้วต้องรีบรู้ตัวนะครับ ดึงอารมณ์ออกไปให้ได้ ไม่เป็นผลดีกับเด็กและก็สุขภาพจิตเราเอง อย่าท้อครับ ผมก็เคยท้อครับ แต่เขาอยู่กับเราแล้วก็พยายามครับ อายุยังน้อยฝึกได้ครับ อยู่ที่ครอบครัวเราเอง ใกล้ชิดลูกให้มากที่สุดครับ พูดคุยกับเขาเยอะ ทุกครั้งให้เขาสบตามองหน้าเราด้วย ให้กำลังใจอีกครั้งครับ จากคุณ : supertao13 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:57:51

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจความรู้สึกนะคะ วันนั้นแม่น้องวินก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากคุณ แต่พอเริ่มทำใจ หันมาฮึดสู้เพื่อลูก จากวันนั้น ถึง วันนี้ เด็กออทิสติกคนนั้น สร้างความสุขให้เรามากมาย ลูกชายไม่พูดเลยเมื่ออายุ 2 ขวบ ถูกวินิจฉัยเป็นออทิสติก จากนั้นเริ่มได้รับการบำบัด สัปดาห์ละ 15 ชั่วโมง น้องเริ่มพูด สื่อสาร และอ่านหนังสือได้ตั้งแต่ 2 ขวบ ครึ่ง ตอนนี้น้องเรียนในชั้นเรียนกับเด็กปกติ มีแต่ครูเท่านั้นที่รู้ว่าลูกเป็นเด็กพิเศษ ตอนนี้อยู่ ป 2 แต่น้องมีความสามารถด้านการอ่านเทียบเท่าเด็ก ป 5 คณิตศาสต์อยู่ในระดับเหนือกว่าเกณฑ์ น้องไปเรียน เทควอนโด้ จันทร์ พุธ ศุกร์ เรียนว่ายน้ำวันอังคาร วันพฤหัส เรียนโบลิ่ง วันเสาร์มีเรียนเปียโน และเข้ากลุ่มเล่นกับเพื่อนๆ อยากจะบอกว่า  อย่าสิ้นหวัง  ทุกวันนี้แม่น้องวิน มีความสุขมากๆ และไม่เคยนึกท้อแท้ พยายามอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แล้วเอามาใช้นะคะ ช่วยได้เยอะ ติดต่อแม่น้องวินได้ทุกเมื่อนะคะ จากคุณ : แม่น้องวิน เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 13:30:40